ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #375 : 10 ปีที่ผ่านไปของ Kiss X Sis

 To Love-Ru อาจเป็นแนวฮาเร็มไม่กี่เรื่องที่ยังคงอยู่กระพัน อายุเกือบ 10 ปีก็ยังไม่จบ (แม้ภาคต่อจะออกหลังภาคแรกจบปีกว่าๆ ก็เถอะ) แต่คุณรู้หรือไม่ว่านอกจาก To Love Ru แล้ว ยังมีฮาเร็มเรื่องหนึ่งที่มาก่อน To Love Ru และดำเนินเรื่องยังไม่จบจนถึงปัจจุบัน แถมยังมีเนื้อเรื่องที่เข้มข้น (?) มากขึ้น แม้ว่าช่วงก่อนหน้าๆ จะมีแต่มุกเดิมก็เถอะ

และเรื่องที่ผมพูดถึง ก็คือ  Kiss X Sis (ตั้งแต่ปี 2005 ยังไม่จบ)

แม้ว่าผมเคยเขียนถึงเรื่องนี้ไปแล้วในบทความก่อนหน้า (หลายปีก่อน) หากผมเขียนในช่วงเริ่มต้นของการ์ตูนนี้เท่านั้น และอย่างที่รู้ว่าตลอดระยะเวลาหลานปีเนื้อเรื่องของ  Kiss X Sis ก็เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย ให้ได้เขียนถึงกัน

 

 Kiss X Sis เป็นเรื่องราวของเคย์ตะ ที่ตอนยังเด็ก พ่อของเขาแต่งงานกับแม่คนใหม่ที่มีลูกสาวฝาแฝดชื่อสุมิโนเอะ อาโกะ  และ  สุมิโนเอะ ริโกะ  ติดมาด้วย ซึ่งแม่ใหม่คนนี้เป็นคนดี ครอบครัวอบอุ่น แต่ปัญหาคือสองลูกสาวแม่ใหม่นั้นติดน้องชาย (ไม่ร่วมสายเลือดมาก) ต่างประคบประหงมเต็มที่ แม้ว่าเคย์ตะจะกลายเป็นเด็กมัธยมปลายแล้วก็ตาม เหล่าพี่สาวก็ยังคงรักเคย์ตะเหมือนเดิม และยังคงมากขึ้นด้วย 

                 ความจริงแล้วในตอนแรกผมเองก็ไม่ได้สนใจ Kiss X Sis มากนัก ด้วยสาเหตุสองอย่าง อย่างแรกคือตอนนั้นผมไม่ได้สนใจแนวฮาเร็ม (ชอบดูการ์ตูนประเภทปรัชญาชีวิต เล่นเรื่องจิตใจของมนุษย์มากกว่า )  อย่างที่สองสำคัญมากคือมันเป็นผลงานของโบว ไดทามะ ผู้สร้างตอนจบเมดโรบอท (Mahoromatic) จบได้ชี้ช้ำกะหล่ำปลี ทำเอาผมฝันร้ายไม่หาย กลัวว่า  Kiss X Sis จะจบอย่างเดียวกัน

แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดผมก็ได้ดูจนได้ แต่ก็ใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะที่ติดตาม (เพราะทำใจรับตอนจบเมดโรบอทไม่ได้จริงๆ) จนกระทั่งยอมรับ ปัจจุบันก็ยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด กำลังลุ้นว่าสุดท้ายแล้วพระเอกจะฮาเร็มหรือไม่ จะได้จูบกับน้องแว่นหรือเปล่า (ย้ำว่าเรื่องนี้ต้องจบฮาเร็มเท่านั้น)

แน่นอนว่าการ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร ตอนนี้ตอนก็ปาไปร้อยตอนแล้ว แม้เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นแนวชีวิตประจำวันเนิ่บนาบ เกี่ยวกับเคย์ตะกับพวกสาวๆ ซึ่งประกอบไปด้วย พี่สาวฝาแฝด, อาจารย์ประจำชั้น (น้องสาวอาจารย์เป็นของแถม) และน้องแว่น แม้หลายคนจะบอกว่ามันน่าเบื่อ เพราะไม่มีอะไรใหม่ๆ ไม่มีดราม่าปวดตับ (แทบไม่มีดราม่าเลย หากมีปัญหาความรักบ้าง และ ที่เลวร้ายร้ายที่สุดคือตอนที่ 19-20 แต่มันก็ผ่านไปแล้ว)

หาก To Love-Ru ขายคอเมดี้ ตลก เอจจิ ยิ่งช่วงหลังๆ เซอร์วิสจบเกือบจะเรียกลามกมากขึ้นเกือบทุกตอน (แต่ก็ยังมีฉากต่อสู้อยู่บ้าง)  แต่ Kiss X Sis นั้นเป็นฮาเร็มสายเรียล (ไม่มีเรื่องแฟนตาซี เหนือธรรมชาติมาเกี่ยวข้อง) เน้นความรักที่หลากหลายที่ต้องห้าม (ที่ไม่ดราม่า) อย่าง รักพี่สาว, รักคุณครู (ส่วนรักสาวแว่นนี้อาจเป็นรักแบบโรคจิตหน่อยๆ เมื่อฝ่ายหญิงจิ้นตนเองถูกพระเอกย้ำยี้)

สำหรับผมแล้ว Kiss X Sis  มันเป็นการ์ตูนฮาเร็มที่แสดงให้เห็นอารมณ์ของการปักธงแบบช้าๆ แตกต่างจาก To Love-Ru ที่เน้นปักธงแบบง่ายๆ ปัญหาความรักที่ไม่ลงตัว  แต่ของ  Kiss X Sis  แม้พระเอกจะปักธงแบบไม่ต้องใช้แรง เน้นการเชื่อมความสัมพันธ์อะไรมากกว่า  แต่กระนั้นมันก็ได้เห็นว่ามันปักแบบช้าๆ  มันลึกๆ ขึ้น ลึกชนิดให้คนอ่านเห็นว่า มันแน่น ความรักเป็นของจริง การดำเนินช้าๆ ทำให้ความรักก่อตัวมากขึ้น

 

 

 

                ตอน 1-20 เป็นช่วงแรกที่น่าจะเรียกว่าตรงกับหัวชื่อเรื่องอย่างแท้จริง นั้นคือ “จูบนี้ของคุณพี่สาว” เพราะตลอด 1-20 เมื่อเปิดฉากมาเคย์ตะก็โดนพี่สาวสองคนจูบครบถ้วน หากเป็นคนอื่นจูบชายหญิงนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการแสดงความรักที่มีเจ้าของ แต่สำหรับเคย์ตะแล้ว การจูบนั้นกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับบ้านนี้ เพราะเขาถูกพี่สาวสองคนจูบทุกวัน

                จากนั้นเนื้อเรื่องก็เน้นชีวิตประจำวันระหว่างเคย์ตะกับพี่สาวสองคน ส่วนมากจะเปฌ็รนเซอร์วิส เห็นร่างเปลือยพี่สาว และสิ่งที่ขาดไม่ได้คือฉากจูบ ที่จูบอย่างดูดดื่ม จูบเข้มข้น จูบชนิดว่าหลายคนอิจฉาก็ว่าได้

 แม้จะเน้นชีวิตประจำวัน (สุดหื่น) แต่เนื้อหาก็บอกเป็นนัยๆ ว่าเคย์ตะก็ลังเลอยู่ว่าเขารักพี่สาวในฐานะพี่สาว หรือว่าเป็นผู้หญิงคนหนึ่งกันแน่? แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งเดียวคนเคย์ตะรู้คือเขารักพี่สาวมาก ไม่อยากให้พี่สาวเสียใจ ใครพูดให้ร้ายพี่สาวต้องมีเรื่อง ซึ่งช่วงหลังๆ เคย์ตะก็ยอมรับตนเองว่าตนรักพี่สาวสองคนฐานะผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมาจริงๆ และไม่สามารถเลือกใครคนหนึ่งได้

                ทางด้านพี่สาวสองคน ไม่ว่า อาโกะและริโกะ แม้ทั้งคู่จะรู้ตัวดีว่าอาจไม่สามารถอยู่กับน้องชายตลอดไปได้ แต่เธอก็พยายามที่จะทำมันให้ได้ เพราะเธอไม่สามารถรักผู้ชายคนอื่นอีก แม้จะมีหลายคนจะจีบทั้งคู่ แต่พวกเธอก็พบว่าไม่มีผู้ชายคนไหนดีเท่าน้องชายตนเองเลย อย่างตอนที่ 5 เป็นตอนที่บอกว่าทำไมอาโกะและริโกะถึงชอบเคย์ตะชนิดว่า “หลง” ก็ว่าได้

 

                เคย์ตะนั้นค่อนข้างแตกต่างจากริโตะ (To Love-Ru) พอสมควร เพราะเขาไม่ได้ออกลูกลังเล แต่เป็นประเภทที่ตัดสินใจได้พอสมควรได้เป็นบางอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่น่าสังเกต บางอย่างเคย์ตะก็อินโนเซนต์เรื่องความรัก อาจเป็นเพราะได้รับความรักพี่สาวมากไป การจูบเป็นเรื่องปกติ ทำให้โตมาเคย์ตะจึงมองความรักเป็นเรื่องล้อเล่น  (แต่ไม่โง่แบบมาโคโตะ) ซึ่งเรื่องมุมมองความรักของเคย์ตะได้กลายเป็นปัญหาในอนาคตข้างหน้าด้วย

 

                ในช่วง 21-51 แม้ว่าเนื้อหายังคงอยู่ระหว่างชีวิตประจำวันระหว่างเคย์ตะกับพี่สาวสองคน ที่ฉากเซอร์วิสรุนแรง จูบดูดดื่ม สามแง่สามง่าม จนเกือบติดเรตอยู่สายมืดมากขึ้น แต่กระนั้นก็มีเนื้อหาอยู่บ้าง โดย Kiss X Sis ไม่ยอมให้เนื้อหามีเพียงพระเอกกับพี่สาวสองคนแน่นอน ดังนั้นตัวการ์ตูนจึงเพิ่มฮาเร็มให้เคย์ตะสามคน คือ

-มิคุมิ มิฮารุ \ สาวแว่น ที่อยู่ห้องเดียวกับเคย์ตะ ปรากฏตัวด้วยความน่าจดจำเมื่อเอาใบผลสอบโรงเรียนใหม่มาให้เคย์ตะ เป็นสาวแว่นที่เรียบร้อย ขี้วิตกกังวล แถมมักเกิดอาการ enuresis (ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะง่าย)

-คิริว มิคาซูกิ  ทวินเทลรุ่นน้องของเคย์ตะ นิสัยร่าเริง ปรากฏตัวแบบประทับใจด้วยการบอกต่อหน้าพี่สาวของเคย์ตะว่า ชอบเคย์ตะมานานแล้ว

-คิริว ยูซูกิ  อาจารย์สาวประจำชั้นของเคย์ตะ (สอนประวัติศาสตร์) อายุ 24  เป็นโอตาคุเซงโกคุ ซึ่งตอนแรกไม่ชอบหน้าเคย์ตะที่มีความสัมพันธ์รักต้องห้ามกับพี่สาว (ไม่รู้ว่าเคย์ตะกับพี่สาวสองคนไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน) ฉากที่น่าจำจดคือ ฉากสองพี่สาวเอาน้ำรดหัวคุณครูที่บังอาจมาว่าเคย์ตะ ปัจจุบันเป็นแฟนลับๆ กับเคย์ตะ (โดยพ่อ, แม่ พี่สาวสองของเคย์ตะอนุญาตแล้ว)

Kiss X Sis  ไม่ได้เน้นจำนวนฮาเร็ม ไม่เน้นปริมาณ ไม่เน้นตัวประกอบ แต่จะเน้นตัวหลักเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ยาวจนถึงตอนล่าสุด โดยเฉพาะคุณครูและน้องแว่นภายหลังได้กลายเป็นตัวละครที่มีบทบาทเป็นอย่างมาก ชนิดว่าพี่สาวสองคนบทดร็อปไปเลย

   

 

 

ในบรรดาฮาเร็มของเคย์ตะ คิริว มิคาซูกิ  ถือว่าเป็นบทบาทน้อย และความสำคัญน้อยที่สุด หากเทียบกับผู้หญิงคนอื่นๆ ในฮาเร็มของเคย์ตะ  

ตอน 19-51 จะมีบทมิคาซูกิอยู่บ้าง แต่ส่วนมากเป็นตัวละครเซอร์วิสแบบรุ่นน้อง ตัวประกอบ ตัวสอดแทรก สร้างสีสันอะไรมากกว่า

บทสรุปของมิคาซูกิอยู่ตอนที่ 51 ซึ่งเป็นช่วงที่เคย์ตะไปเที่ยวกับสาวๆ ที่ทะเล (โครตน่าอิจฉา) ในวันสุดท้ายของการเที่ยว เคย์ตะกับมิคาซูกิรอรถไฟด้วยกันสองคน ระหว่างที่รอรถไฟ เคย์ตะได้สังเกตมิคาซูกิอารมณ์เสีย จึงได้ถาม ซึ่งมิคาซูกิก็แปลกใจที่เคย์ตะนั้นดูออก

มิคาซูกิได้สารภาพว่าเธอรู้สึกอิจฉาคนอื่น ในขณะที่ทุกคนได้สร้างความทรงจำดีๆ กับเคย์ตะ (ระหว่างนั้นเธอก็รู้ว่าพี่สาวสองคนรักเคย์ตะมากๆ ชนิดว่าการจูบ, การนอนด้วยกัน, การเล่นกับเจ้าหนูของเคย์ตะเป็นเรื่องปกติ) มีแต่เธอคนเดียวที่ไม่ได้สร้างความทรงจำนั้น

เคย์ตะได้ยินความกังวลใจของรุ่นน้อง ก็ถามต่อว่าจะให้สร้างทรงจำยังไง เมื่อรุ่นน้องได้ยินก็บอกให้เคย์ตะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ และทันใดนั้นเคย์ตะก็ถูกรุ่นน้องจูบแบบไม่ตั้งตัว

เมื่อรุ่นน้องจูบเคย์ตะเสร็จ เธอก็บอกเคย์ตะว่ามันเป็นครั้งแรกของเธอ อน่างไรก็ตามเคย์ตะก็ไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำ ยังจูบรุ่นน้องอย่างดูดดื่ม (น่าอิจฉายิ่งนัก) ทำให้เป็นที่แน่นอนว่ามิตาซูกิน่าจะอยู่ในฮาเร็มของเคย์ตะไม่ทางใดทางหนึ่ง

โดยส่วนตัวแล้ว คาแร็คเตอร์ของมิคาซูกิ (แบบรุ่นน้องพระเอก) ค่อนข้างธรรมดาไปเมื่อเทียบกับฮาเร็มคนอื่นๆ ที่เล่นกับผิดศีลธรรม (พี่สาว กับคุณครู) หรือแบบจิตๆ (น้องแว่น) ก็ไม่แปลกที่เป็นตัวละครที่ไม่ได้เล่นอะไรมากนัก แต่ยอมรับว่าตอนที่ 51 ผมอ่านแล้วซูซ่า ซาบซ่าใช้ได้เลย

ปัจุบันบทของมิคาซูกิค่อนข้างน้อย เกือบหายไปเลยก็ว่าได้ แม้จะย้ายมาโรงเรียนที่เคย์ตะเรียนอยู่ก็ยังน้อยอยู่ดี แต่ก็เชื่อว่าคงอยู่ฮาเร็มของเคย์ตะแล้ว ในฐานะตัวแถม (เพราะมีน้องสาวของคุณครู) มากกว่า

 

 

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ช่วงตอน 51 ถึง 100 กว่าๆ เป็นช่วงเวลาที่น่าเบื่อหน่ายสำหรับผม เพราะเป็นช่วงเวลาที่เคย์ตะมีรักกับคิริว ยูซูกิ (ขอเรียกว่า อาจารย์คิริวเพื่อความสะดวก) หรือพูดง่ายๆ คือถึงรูทอาจารย์

อาจารย์คิริว ปรากฏตัวครั้งแรกตั้งแต่ตอนต้นๆ ในฐานะอาจารย์ที่ไม่ชอบหน้าเคย์ตะเลย เพราะทำตัวผิดศีลธรรม เพราะความรักกับพี่สาว (นึกว่าเคย์ตะกับสองพี่สาวมีสายเลือดเดียวกัน) จนถึงฉากหนึ่งที่ว่าเคย์ตะต่อหน้าสองพี่สาว จนสองพี่สาวโกรธจึงแกล้งอาจารย์อย่างหนัก แต่อย่างไรก็ตาม มันเป็นจุดเริ่มต้นทำให้อาจารย์คิริวสนใจสองพี่สาวและเคย์ตะมากขึ้น

ต่อมา หลังจากที่เคย์ตะสอบเข้า และกลายเป็นลูกศิษย์ประจำชั้นของอาจารย์คิริว เคย์ตะกับอาจารย์ก็ยิ่งสนิทกัน ไม่ว่าจะเป็นเคย์ตะรู้ความลับว่าอาจารย์เป็นโอตาคุเซนโกคุ เข้าบ้านอาจารย์ ได้จูบกับอาจารย์ จนในที่สุดเคย์ตะก็รับอาจารย์เป็นแฟน!??

ปกติการ์ตูนแนวรักคอเมดี้ระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ประจำชั้นไม่ค่อยมีมากนัก ถ้าจะมีก็ Please Teacher (ซึ่งเป็นการ์ตูนในตำนาน แต่ไม่อยู่ในความทรงจำผมหรอก) สาเหตุส่วนหนึ่ง (ตามความเห็นส่วนตัว) อาจเป็นเพราะหลายคนไม่ชอบสาวแก่ (อายุมากกว่า 20 ถือว่ายายแล้ว) บวกกับการเล่นศีลธรรมอะไรด้วย (มันจะดราม่า) ดังนั้นสายสว่าง (ลูกศิษย์ชายXอาจารย์หญิง) ไม่นิยมมาเล่น  ตัวเอกไม่ต้องพูดถึง ตัวประกอบก็หรูแล้ว ผิดกับสายมืดเล่นจนเป็นเรื่องปกติ  

แต่ Kiss X Sis  ก็มีรูทระหว่างเคย์ตะกับอาจารย์จนได้ ที่น่าแปลกคือแม้จะเล่นกับศีลธรรมระหว่างลูกศิษย์กับอาจารน์ แต่ไม่ดราม่ามากนัก เพราะตราบใดที่ไม่มีฉากมีเพศสัมพันธ์ก็ไม่ดราม่า รวมไปถึงพ่อแม่ของเคย์ตะอนุญาตให้เคย์ตะคบกับอาจารย์ และรวมไปถึงสองพี่สาวที่โอเค (หากพวกตนอยู่ในฮาเร็มด้วย)!?

ส่วนตัวผมค่อนข้างน่าเบื่อ แน่นอนว่าผมไม่ได้เป็นสายอาจารย์ สาวอายุมากกว่าแต่อย่างใด และอีกหลายๆ คนก็คงไม่ได้ปลื้มที่บทของอาจารย์มากนัก จนกลายเป็น แม้นิสัยอาจารย์จะน่ารัก แต่ในเรื่องสเน่ห์แล้วยังห่างชั้นกับพี่สาวสองคน นี้ยังไม่รวมไปถึงน้องแว่นที่หลายคนในที่นี้อวย ที่น่ารักกว่ามาก แต่บทของน้องแว่นแทบไม่ออกเลยในช่วงเวลาดังกล่าว

หลังจากที่ Kiss X Teacher มานานหลายปี (ประมาณ 6 ปีเห็นจะได้ ที่ต้องทนดูเคย์ตะเข้ารูทเลิฟ กับอาจารย์ที่แสนหวาน  ที่ไม่มีดราม่าปวดตับ ไม่มีอะไรใหม่ๆ เห็นแต่ฉากจูบเคย์ตะกับครู บทเซอร์วิสพี่สาวก็น้อย นานๆ มาที จนในที่สุดตอนล่าสุดก็มาถึงรูทน้องแว่น (ซึ่งเชื่อว่าหลายคนติดตามเพราะอยากเห็นน้องแว่นมีบทเสียที

สาวแว่นมิคุนินั้นค่อนข้างแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ ในเรื่อง ในขณะที่การ์ตูนเรื่องนี้เน้นความรักที่ผิดศีลธรรม ไม่ว่าจะเป็นรักพี่สาว รักคุณครู แต่สำหรับสาวแว่นมิคุนินั้นออกจะเป็นความรักที่แปลกๆ

ตอนแรกๆ ที่สาวแว่นปรากฏตัวนั้นก็ไม่ได้โดดเด่นอะไรมากนัก กล่าวคือ ตอนแรกเธอก็ไม่ได้สนใจเคย์ตะ ไม่ได้มีความรักใดๆ กับเคย์ตะทั้งสิ้น ปรากฏตัวก็มาแบบจืดๆ เหมือนตัวละครประกอบที่เอาผลสอบโรงเรียนของเคย์ตะมาให้ แม้พี่สาวจะมองว่าเป็นคู่แข่งความรักของเคย์ตะ แต่สาวแวนปฏิเสธเพราะไม่มีความคิดเหล่านี้แม้แต่น้อย

คือไม่ได้ชอบเคย์ตะตั้งแต่แรกนั้นเอง

ในขณะที่ เคย์ตะมักมีบทต้ออจูบกับสาวๆ ไม่ว่าพี่สาว รุ่นน้อง คุณครู เคย์ตะจูบหมดแล้ว แต่สาวแว่นนั้นเท่าที่ทราบเคย์ตะยังไม่เคยจูบเลย แต่นั้นก็ไม่ได้สำคัญความสัมพันธ์ระหว่างเคย์ตะกับสาวแว่นๆ ค่อนข้างแปลกกว่าใครเขาเพื่อน เมื่อทั้งสองมีความลับรักว่างกัน ซึ่งเรื่องของเรื่องคือสาวแว่นนั้นมักเกิดอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (อาการนี้มีอยู่จริง) และเมื่อมีอีเวนส์ระหว่างเธอกับเคย์ตะเมื่อไหร่จะต้องปวดฉี่ และฉี่แตกเกือบทุกครั้ง

และฉากที่สาวแว่นเริ่มประทับใจตัวเคย์ตะคือ ฉากที่สาวแว่นฉี่แตกต่อหน้าเคย์ตะ เวลานั้นสาวแว่นอายสุดๆ (โครตอายเลย) แต่เคย์ตะแสดงอาการเพียงตกใจเล็กน้อย ก่อนที่จะเอาผ้ามาเช็ดฉี่ที่นองเต็มพื้นให้โดยไม่บ่น และนั้นเองทำให้สาวแว่นสนใจเคย์ตะนับจากนั้น

ในขณะที่ตัวละครอื่นๆ พัฒนาความสัมพันธ์เคย์ตะด้วยการจูบ หากแต่สาวแว่นนั้นพัฒนาความสัมพันธ์ด้วยการฉี่แตก!? และฉากที่น่าตะลึงก็คือฉากที่สาวแว่นฉี่รดตัวเคย์ตะบ่บอกถึงการแสดงเป็นเจ้าของ ชนิด คนอื่นต้องตะลึง

นอกจากนี้สาวแว่นยังเป็นตัวละครที่แอบมาเห็นฉากเคย์ตะสวิทกับสาวๆ เกือบทุกครั้ง เป็นต้นว่าแอบไปเห็นเคย์ตะจูบรุ่นน้องขณะรอรถไฟ หรือไปเห็นเคย์ตะจูบคุณครู ซึ่งสาวแว่นก็แอบตกใจ แต่ในขณะเดียวกันในใจของเธอก็เกิดความรู้สึกบางอย่างเกิดขึ้น

ปัจจุบันเรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนี้ น้องแว่นยังไม่ได้ข้อสรุป ยังไม่จบง่ายๆ และคงอีกยาว (เฉลี่ยความเร็ว อย่างเร็ว เดือนละหนึ่งตอน)  และกำลังอยู่ในรูทของน้องแว่น เมื่อความสัมพันธุ์ระหว่างเคย์ตะกับน้องแว่นกำลังก้าวหน้าขึ้น แม้อาจจะไม่ใช่ความรักได้เต็มปาก แต่มันก็เพียงพอที่ทำให้อาจารย์คิริวซึ่งเป็นแฟนของเคย์ตะ (แบบลับๆ) หึ่ง

 

ทั้งหมดนี่คือการดำเนินเรื่องค่าวๆ ในช่วง 10 ปีหลังของ Kiss X Sis  ซึ่งถือว่าเป็นมังงะฮาเร็ม (ที่ต้องจบฮาเร็มเท่านั้น) แม้หลายคนมองว่า มันดำเนินเรื่องแบบเนิ่บๆ เต็มไปด้วยเซอร์วิส (เสียดายช่วงหลังๆ เน้นเรื่องจูบของอาจารย์คิริว นานๆ จะแรงที) แต่ความจริงแล้วแต่ละเรื่องมันแฝงอะไรบางอย่าง มันเปรียบเหมือนความสัมพันธ์ความรักของคนเราที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ ทำให้ดูแล้วฮาเร็มมันแน่น กว่าเรื่องอื่นๆ ที่พวกผู้หญิงรักพระเอกง่ายๆ แค่พระเอกทำดีเข้าหน่อย

 Kiss X Sis  ใช้การปักธงแบบช้าๆ แต่แน่น พี่สาวสองคนรักเคย์ตะชนิดว่ารักมานานตั้งแต่ประถมย้อนอดีตว่าทำไมถึงรัก ทำไมไม่รักผู้ชายคนอื่น แม้ผู้ชายคนอื่นจะหล่อเลิศ ฉลาดกว่าเคย์ตะหลายเท่า พี่สาวสองคนก็ให้คำตอบว่าเคย์ตะไม่เหมือนคนอื่น เพราะเขาคือเคย์ตะ

แต่ในขณะเดียวกัน ตัวของพระเอกเคย์ตะ ผมเริ่มไปซ้อนภาพของพระเอกมาโคโตะ (School Day) ซึ่งเป็นพระเอกที่ไม่รู้เรื่องอะไรบ้างเลย มองเรื่องความรักเป็นเรื่องง่ายๆ  และเหมือนกับว่าเขาจะก่อดราม่าแบบไม่รู้ตัว ( เพียงแต่เคย์ตะจะโดนด่าน้อยไปหน่อย เพราะอย่างน้อยเคย์ตะก็แสดงให้เห็นว่าเขารักจริง (และอย่างน้อยคนในครอบครัวก็รู้เรื่องและสนับสนุนด้วย)

ปัจจุบัน Kiss X Sis  ยังไม่มีดราม่า และยังคงดำเนินเรื่องแบบไม่มีท่าที่ว่าจะจบ อีกทั้งยังอยู่ในรูทที่หลายคนลุ้น ว่าตกลงแล้วสาวแว่น (ที่หลายคนอวย) นั้นจะรักเคย์ตะจริงๆ หรือไม่ เคย์ตะจะทำยังไงเหมือนเขารักอาจารย์คิริวและเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ดีกับน้องแว่น แล้ว เรื่องนี้จะจบลงยังไง ก็ต้องติดตามต่อไป