ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #360 : อุลตร้าแมนที่คุณยังไม่ได้เห็น

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.13K
      6
      16 ต.ค. 58

    นับตั้งแต่อุลตร้าแมน (เวอร์ชั่นที่เรารู้จักมากที่สุด  ต่อจากซีรีย์แรกอัลตร้าแมน Q) ฉายครั้งแรกเมื่อปี 1966 จนบัดนี้ซีรีย์อุลตร้าแมนก็ยังไม่จบไม่สิ้น แถมยังมีซีรีย์แยกอุลตร้าแมนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับตระกูลอุลตร้าแมนโดยตรงแยกย่อยอีกมากมาย และหลายคนไม่รู้จัก ดังนั้นบทความนี้ผมขอยกเรื่องอุลตร้าแมนเวอร์ชั่นที่หลายคนไม่เคยเห็น แม้บางอันจะดักแก่ และผมก็ดูแบบงูๆ ปลาๆ ก็ตาม

     

    Ultraman Kids


    เมื่อปี 1984 อุลตร้าแมนพยายามเอาใจเด็ก จึงได้อนิเมะ Ultraman Kids Ultraman Kids no Kotowaza Monogatari ขึ้นมา ซึ่งเนื้อหาเหมาะสำหรับกลุ่มเด็กประถมอะไรมากกว่า เพราะเนื้อหาค่อนข้างแบ๊ว น่ารัก ซึ่งจับอุลตร้าแมน และสัตว์ประหลาดในซีรีย์อุลตร้าแมนให้กลายเป็นเด็กเล็ก ตลกขบขัน แม้ว่าจะมีเพียง 26 ตอนแต่ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

    สำหรับเนื้อเรื่องเป็นเรื่องราวของเด็กชายอุลตร้าคนหนึ่งชื่อ “มาร์” ที่เขาไม่ทราบเขาเป็นใคร มาจากไหน ชาติประวัติพ่อแม่เป็นใคร รู้แต่ว่าเขาถูกส่งมายังดาวแห่งหนึ่งโดยยานลำหนึ่ง และถูกเก็บมาเลี้ยงโดยสัตว์ประหลาด “มิสเตอร์จอร์จ” ที่เป็นครูในโรงเรียนประจำ  วันหนึ่งมาร์ก็เริ่มคิดถึงพ่อแม่ และอยากรู้ว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน เขากับเพื่อนๆ เลยแอบเดินทางไปอวกาศเพื่อตามหาพ่อแม่

    Ultraman Kids ได้มีลิขสิทธิ์ไทยโดย วิดีโอสแควร์ สมัยยังเป็นม้วนวิดีโอ จำได้ว่าสมัยก่อนผมยังเด็กเช่ามาดู ติดตามพอสมควร (อย่างไรก็ตาม พอมาดูอีกทีตอนเป็นผู้ใหญ่ ก็พบว่าเสียงพากย์รู้สึกแปลกๆ) ถ้าถามว่าสนุกไหม ก็ตามประสาการ์ตูนเด็กดี สอนให้เด็กทำดี เรื่อยๆ มาเรียงๆ เนื้อหาก็ตามแบบฉบับการ์ตูนเด็กผจญภัย (เชื่อว่าสมัยนั้นแนวนี้คงฮิต) แถมตัวขโมยซีนเรื่องนี้ก็คงเป็นคุณชายบัลตัน และลูกน้องนี้แหละ เรียกเสียงฮ่าได้ดีเลยทีเดียว (ซึ่งแนวนี้จะมีตัวลักษณะแบบนี้เพื่อเรียกสีสัน)

     

     Ultraman: The Adventure Begins 


    Ultraman: The Adventure Begins  หรือ อุลตร้าแมน USA เป็นอนิเมะหุ่นยนต์ที่ร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา เพื่อหวังตลาดอุลตร้าแมนในต่างประเทศ เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี 1989 ซึ่งตัวอุลตร้าแมนถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และแปลกตรงที่ซีรีย์ที่ชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนญี่ปุ่นแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมน

    โดยหาอุลตร้าแมนเวอร์ชั่นอเมริกานั้นไม่ซับซ้อนนัก ตัวอนิเมะเป็นภาพยนตร์ยาว 80 นาที โดยเป็นเรื่องราวของนักบินอวกาศ 3 คนได้เจอลำแสงประหลาดขณะปฏิบัติภารกิจนอกโลก และแสงนั้นทำให้พวกเขาพบเหล่าอุลตร้าแมนจากดาว 78 และได้ขอให้พวกเขาเป็นที่สิงสถิตย์อุลตร้าแมนเพื่อกำจัดสัตว์ประหลาดต่างดาวเพื่อหนีมายังโลก 4 ตัว ซึ่งเนื้อหาก็สู้กำจัดทีละตัว และร่วมมือกันสู้กับสัตว์ประหลาดตัวสุดท้าย

    ในประเทศไทย อุลตร้าแมนเวอร์ชั่นอเมริกาเคยฉายช่อง 3 ในช่วงวันหยุดพิเศษ (จำไม่ได้ว่าวันหยุดพิเศษใด) ซึ่งผมเองก็มีโอกาสดูตั้งแต่ต้นจนจบ แต่อย่างที่บอก เนื่องหามันธรรมดามากสำหรับซีรีย์อุลตร้าแมน แค่โผล่มาปราบสัตว์ประหลาด ปล่อยลำแสงก็จบ ก็ไม่แปลกแต่อย่างใดที่อนิเมะนี้ไม่เป็นที่นิยม หรือน่าจดจำนัก (แถมเป็นช่วงที่อุลตร้าแมนซบเซาด้วย)


    Ultraman: Chou-Toushi Gekiden


    ในช่างการ์ตูน Shounen (การ์ตูนเด็กผู้ชาย) รุ่งเรื่องนั้น ก็มีการ์ตูนหลายเรื่องที่มักจบซีรีย์ดังๆ มาบ้าพลัง ต่อสู้กัน อย่าง เช่น ไอ้มดแดง (หน้ากากตั๊กแตน), กัมดั้ม รวมไปถึงอุลตร้าแมน คตามประสา เวลานั้น การ์ตูนประเภทต่อสู้แบบเด็กผู้ชายกำลังฮิต

    เมื่อปี 1993 มีการ์ตูนเรื่อง Urutoraman Cho-Toshi Gekiden หรือชื่ออินเตอร์แสนอลังการว่า Ultraman Super Fighter Legendถ้าถามว่าการ์ตูนเรื่องนี้สนุกไหน ก่อนอื่นคือเราจำเป็นต้องตัดตรรกะอุลตร้าแมนที่เราดูมาเสียก่อน ประเภทว่าอุลตร้าแมนโผล่มาปราบสัตว์ประหลาดจบในตอน ไม่มีแน่นอน เพราะเนื้อหาการ์ตูนจะเป็นอารมณ์แบบว่าเป็นอุลตร้าแมนภาคพิสดารมากกว่า โดยมีเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราว ซึ่งเกี่ยวกับการพี่น้องอุลตร้าแมนต่อสู้กับผู้รุกรานเพื่อพิทักษ์จักรวาล

     เพราะตัวมังงะเรื่องนี้ให้อารมณ์แบบการ์ตูนต่อสู้ของเด็กผู้ชาย (หรือง่ายๆ คือ แนวดราก้อนบอล) คือ พวกอุลตร้าแมน มนุษย์ต่างดาว และสัตว์ประหลาด ฝึกวิชาเพื่อประลองศึกชิงเจ้ายุทธภพ สู้ไปสู้มา (สู้กันให้ตายไปข้าง) แต่พอจบศึก ก็เกิดมิตรภาพ ลงเอยด้วยการยอมรับ เป็นเพื่อนกัน พวกศัตรูสำนึกผิด บลาๆ

    จุดเด่นของการ์ตูนเรื่องนี้คือ ฉากการต่อสู้ในเรื่อง ก็ขอให้ลืมพวกอุลตร้าแมนด้วย เพราะเปลี่ยนสไตล์หมด ตัวอุลตร้าแมน และสัตว์ประหลาด ต่างมีการสวมเกราะ ราวกับไปอ่านเซนต์เซย่ามา ทำให้มีพลังมากขึ้น สามารถปล่อยพลังราวกับดราก้อนบอล ราวชาวไซย่าประทับทรง ต่อยจนดาวพังทั้งดวงก็มี

    สิ่งที่น่าสนใจคือตัวละครพี่น้องอุลตร้า มีการบ่บอกนิสัยที่ชัดเจน ของอุลตร้าแมนต่างๆ เช่น อุลตร้าแมนนิสัยพระเอกจ๋า อุลตร้าแมนเซเว่นสุขุมมาดผู้นำ อุลตร้าแมนทาโร่นิสัยแบบน้องชายอ่อนแอ และอุลตร้าแมนเอซนิสัยเฮฮาชอบตลก เป็นต้น

    เรื่องนี้บงกตออกมา 6 เล่มจบ ซึ่งความจริงแล้วมันยาวกว่านั้น (ของบงกตจบแค่ครึ่งแรกด้วยซ้ำ) ในนิตยสารต้นฉบับที่ญี่ปุ่นยังมีอีกหลายตอน เพียงแค่ไม่มารวมเล่มเท่านั้น และในปี 2010 ก็มีการตีพิมพ์ใหม่อีกครั้งเนื่องเฉลิมฉลองครบรอบ 45 ปีของอุลตร้าแมน นอกจากนี้ยังถูกสร้างเป็นเกม และอนิเมะมาแล้ว ส่วนตัวผมก็ไม่ได้ปลื้มสักเท่าไหร่ (เพราะมันต่างจากอุลตร้าแมนที่ผมเคยดูมา ผมชอบต้นฉบับอุลตร้าแมนแท้ๆ มากกว่า)

     

    Ultraman Great 


    เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยอุลตร้าแมนนี้ดี เพราะเคยฉายทางช่อง 9  มาแล้ว (แถมฉากยซ้ำไปซ้ำมาอีกต่างหาก) โดยอุลตร้าแมนเก  เป็นซีรีส์อุลตร้าแมนที่ผลิตโดยบริษัทซึบูราญะโปรดักชั่นส์ร่วมกับประเทศออสเตเรีย ผลิต  ในปี 1985 ถ่ายทำที่ตอนใต้ของออสเตรเลียเป็น อุลตร้าซีรีส์ ที่ผลิตในต่างประเทศเป็นครั้งแรก

    โดยซีรีย์มีทั้งหมด 13 ตอน เป็นเรื่องของ อุลตร้าแมนเกรท ต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตชั่วร้าย จอมทรราชย์ โกเดส บนดาวอังคาร หลังจากการต่อสู้อันดุเดือด อุลตร้าแมนเกรท ก็เอาชนะ โกเดส ได้แต่ เซลล์ของโกเดสได้ปลิวไปบนโลก อุลตร้าแมนเกรท จึงต้องรวมร่างกับ แจ็ค ชินโดะ ชาวโลกที่พบบนดาวอังคาร เนื้อเรื่องนั้นเป็นดราม่าและแอ็คชั่นการต่อสู้ ระหว่างฮีโร่กับสัตว์ประหลาด 

    แม้จะเป็นอุลตร้าแมนเวอร์ชั่นต่างประเทศ แต่เทคนิคการถ่ายทำนั้นไม่ได้จับฉ่ายเผากินแต่อย่างใด เพราะยังคงตามแบบฉบับอุลตร้าแมน บางทีอาจดูดีกว่าด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้ที่สมัยก่อนตามความรู้สึกของเด็กที่ดูแล้ว มันค่อนข้างอลังการมาก แถมพวกสัตว์ประหลาดออกแบบใหม่หมด ไม่ได้มาจากของเก่าแต่อย่างใด

    อุลตร้าแมนเกรซนั้นค่อนข้างดังพอสมควร แม้ไม่ได้เป็นครอบครัวอุลตร้าแมน แต่ก็มีเกมเวอร์ชั่นของตนเอง และปรากฏในฐานะดารารับเชิญการ์ตูนอุลตร้าแมนเป็นบางครั้งด้วย

     

    หนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์

    เชื่อว่าหลายคนคงลืมหนังไทยเรื่องนี้ไปแล้ว กับอมตะหนังไทย หนุมานพบเจ็ดยอดมนุษย์ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างโดยไทยกับญี่ปุ่นนำแสดงโดย : ยอดชาย เมฆสุวรรณ, ภาวนา ชนะจิต, สีเผือก, ศรีสุริยา. กำกับโดย : สมโพธิ แสงเดือนฉาย, โชเฮอิ โทโจ. ฉายเมื่อ : 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2517 ซึ่งถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่เก่ามากสำหรับไทย

    เนื้อหาของภาพยนตร์นั้นมีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทยทั้งเรื่อง โดยเป็นเรื่องราวของเด็กชายโก๊ะ (คนละคนกับโก๊ะตี๋) เด็กที่พยายามห้ามโจรลับลอบตัดเศียรพระพุทธรูป หากแต่ก็ถูกโจรยิงตาย หากแต่เจ้าแม่อุลตร้าจากดาว M78 ได้เห็นความดีของโก๊ะจึงได้ชุปร่างใหม่ให้เป็นหนุมานปกป้องโลก และในเวลาเดียวกันประเทศไทยนั้นกำลังอยู่ในฤดูแล้งมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ด๊อกเตอร์วิสุทธิ์จึงได้ปล่อยจรวดขึ้นสู่อวกาศเพื่อสร้างฝน แต่มันเกิดผิดพลาดขึ้นเมื่อฐานยิงจรวดเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ และมันได้ปลุกสัตว์ประหลาดขึ้นมาจากใต้พิภพถึง 5 ตัว แม้ว่าหนุมานจะมาต่อสู้ก็สู้ไม่ไหว ในขณะที่สถานการณ์คับขัน ยอดมนุษย์ทั้ง 6 พี่น้องได้แก่ อุลตร้าแมนโซฟี่, อุลตร้าแมน, อุลตร้าเซเว่น, อุลตร้าแมนแจ๊ค, อุลตร้าแมนเอ และอุลตร้าแมนทาโร่ ก็เดินทางจากดาวเอ็ม 78 มาช่วยหนุมานปราบสัตว์ประหลาดทั้ง 5

    ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่เก่ามากๆ เอฟเฟ็คอาจไม่สมจริงเหมือนปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ก็ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่สนุก มีคุณค่า ได้อารมณ์ของยอดมนุษย์อุลตร้าแมน แถมเอาตัวละครจากวรรณคดีผสมกับยอดมนุษย์ของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว ไม่แปลกเลยที่สมัยนั้นภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าดังมาก สร้างยอดขายอย่างถล่มทลายทั้งไทยและญี่ปุ่น ซึ่งก็หวังว่าในอนาคตน่าจะมีการรีเม็กซ์ภาพยนตร์เรื่องนี้ใหม่ ให้ดูยิ่งใหญ่และอลังการขึ้น ซึ่งผมว่ามันน่าสนใจแน่นอน

    ปล. ท่านสามารถชมภาพยนตร์เรื่องนี้จากทางยูทูป


    อุลตร้าแมนจุ๊ย

    เรื่องนี้ขออภัย ที่ผมหาชื่ออังกฤษ และคนวาดไม่ได้ เพราะมันเก่ามากๆ (ใครทราบบอกผมที จะขอบพระคุณมาก) ผมเคยดูสมัยเด็ก สมัยนั้นเป็นการ์ตูนไพเรท (ไม่มีลิขสิทธิ์) ทำให้ไม่มีการลงชื่อคนวาด หรือข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น แต่กระนั้นมันก็ได้สร้างความบันเทิงแก่เด็กๆ เป็นอย่างมากสมัยนั้น

    เรื่องของอุลตร้าแมนจุ้ย เป็นเรื่องราวของครอบครัวอุลตร้าแมน ที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่ และบรรดาลูกๆ (อุลตร้าแมน, อุลตร้าแมนทาโร่, อุลตร้าแมนเอส) ซึ่งครอบครัวนี้อยู่บนดาวร่วมกับสัตว์ประหลาด พ่อของอุลตร้าแมน (เจ้าพ่ออุลตร้า) เป็นอาจารย์ชั้นประถมที่สอนบรรดาลูกๆ และสัตว์ประหลาด หากแต่เหล่าลูกชายโดยเฉพาะอุลตร้าแมนเกรียนขั้นเทพ แม้ว่าตนจะตั้งใจจะเป็นผู้พิทักษ์ความสงบและสันติภาพ แต่กลับทำให้มันวุ่นวาย (วอดวาย) ยิ่งขึ้นซะงั้น โดยเนื้อหาของการ์ตูนจะเป็นแนวตลกขบขัน จบในตอน

    สมัยก่อนผมสับสน นึกว่าอุลตร้าแมนจุ้ยเป็นผลงานเดียวกับมาริโอ้-คิดส์ เพราะเป็นแนวตลก ลายเส้นก็คล้ายๆ กัน ความจริงแล้วคนวาดคนละคนกันของมาริโอ้วาดโดย Sawada Yukio (ซึ่งเป็นตำนานไปแล้ว) ส่วนอุลตร้าแมนจุ้ยไม่ทราบ แต่พอทราบว่าคนวาดยังวาดคาเมนไรเดอร์ตลกแนวเดียวกันอีกด้วย

    อุลตร้าแมนจุ้ยนั้นเป็นการ์ตูนเตลกเหมาะสำหรับเด็กประถม (ความจริงเด็กโตที่ผ่านอุลตร้าแมนมาก็สนุกได้เหมือนกัน) ที่สัดส่วนใช้แบบ SD (หัวโต ตัวเล็ก) มุกตลกก็เป็นมุกล้อเลียนอุลตร้าแมนสัตว์ประหลาดในเรื่อง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และฮ่ามาก สมัยนี้ไม่ค่อยมีการ์ตูนประเภทนี้แล้วละ ( อยากให้สำนักพิมพ์ซื้อลิขสิทธิ์มาแบบจริงๆ จังๆ สักที  (ซึ่งผมว่าการ์ตูนมันยังไม่ล้าสมัยแต่อย่างใด) แต่คงยาก เพราะการ์ตูนเก่ามากแล้ว

     

    Ultraman Sisters

    สำหรับอุลตร้าแมนเวอร์ชั่นนี้ ผมไม่ได้ดู (เพราะมันไม่มีลิขสิทธิ์) แต่ดูข่าวมา เรื่องมีอยู่ว่าแม้ว่าจะถึงยุคปัจจุบัน อุลตร้าแมนก็ยังคงอยู่ เพียงแต่ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย จนมาถึงยุคโมเอะครองเมือง เปลี่ยนอะรให้เป็นโมเอะ อุลตร้าแมนก็ต้องโมเอะ โดยโคบายาชิ ยูจิ มือเขียนบท Ultraseven X ,อุลตร้าแมนเซโร่มูฟวี่ ได้ เขียนไลท์โนเวลในชื่อ "Ultraman Imouto" คือจับอุลตร้าแมนมาเป็นสาวน้อยโมเอะบ้าง

    สำหรับเนื้อหาเป็นเรื่องของเด็กป.2 ที่ชื่อสึกิชิม่า อาคาริ ที่รักพี่ชายๆ มากๆ หากแต่วันหนึ่งถือก็ได้ ประสบอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิต แต่ก็ได้ฟื้นขึ้นมากลายเป็นนักรบอุลตร้าเพื่อต่อสู้กับมนุษย์ต่างดาว

    เรื่องนี้เขียนภาพประกอบโดยคุณมินาเซะ ริน คนเขียนภาพประกอบจากเกม Pia Carrot! G.O Grand Opening และพึค่งวางจำหน่ายเล่มแรกเมื่อไม่นานมานี้เอง หวังว่าสำนักพิมพ์ไทยจะเอามาตีพิมพ์ให้เห็นบ้าง


    Andro Melos

    Andro Melos หรือ อัศวินอันโดร  (1983) เป็นซีรีย์แยกจากอุลตร้าแมน (ไม่เกี่ยวข้องับอุลตจร้าแมน แต่อยู่จักรวาลเดียวกับอุลตร้าแมน และเป็นพันธมิตรกับอุลตร้าแมน)  โดยคนสร้างหวังว่ามันจะมาแทนที่อลุตร้าแมน แต่ปรากฏว่าล้มเหลว และกลายเป็นซีรีย์ที่ไม่นับญาติอุลตร้าแมน และก็ถือลืมเลือนไป

    โดยเนื้อหา Andro Melos จะค่อนข้างจริงจังกว่าซีรีย์อุลตร้าแมน โดยเป็นเรื่องราวของเหล่าพี่น้องอันโดร (หลักๆ มี 4 คน) ซึ่งมีหน้าที่พิทักษ์จักรวาล และต่อสู้กับจักรวรรดิ์อันชั่วร้าย

    ความจริงผมไม่ได้ดูแบบคนแสดงนะความจริงผมดูแบบมังงะ สมัยก่อนวิบูลย์กิจเคยเอามาตีพิมพ์ (จำได้ว่า 4 เล่มจบ แต่ผมดูแค่เล่ม 1 และ 3) แต่เท่าที่ดูค่อนข้างแตกต่างจากอุลตร้าแมนที่เรารู้จักพอสมควร เพราะคราวนี้เวทีของเรื่องไม่ได้เป็นที่โลกอย่างเดียว แต่เปลี่ยนมาเป็นพิทักษ์จักรวาลด้วย ส่วนภาพลักษณ์ของอัศวินอันโดรนั้นไม่เหมือนอุลตร้าแมนตรงที่ใส่เกราะนี้แหละ สมัยก่อนคงดูแปลกๆ เลยไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกัน

     

    Ultraman

    ปัจจุบัน มังงะอุลตร้าแมนก็ยังคงอยู่ เพียงแต่มีเนื้อหาเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้น รวมไปถึงอุลตร้าแมนภาคเด็กมัธยมปลาย (ไม่รู้ชื่อภาค) ซึ่งปรับให้เข้ากับยุคสมัยด้วย

    มังงะอุลตร้าแมนนี้เป็นผลงานของ Shimizu Eiichi , Shimoguchi Tomohiro คนเดียวกับควาด “หุ่นเหล็กไหล Kurogane no Linebarrel ที่พระเอกเกรียนเหลือเกิน (แต่พระเอกอุลตร้าแมนไม่ค่อยเกรียนสักเท่าไหร่)

    สำหรับอุลตร้าแมนภาคไอรอนแมน เป็นเรื่องราวหลายปีที่เกิดตำนาน ยักษ์แห่งแสง” อุลตร้าแมน ซึ่งชิน อายาตะอดีตอุลตร้าแมนได้ออกจากหน่วยพิทักษ์โลก แล้วหันไปมีคครอบครัวแบบธรรมดา เป็นพนักงานบริษัทธรรมดา หากแต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้โลกที่สงบสุขนั้น เบื้องหลังยังคงมีเรื่องร้ายๆ เมื่อมนุษย์ต่างดาวได้ปะปนอยู่กับมนุษย์ และจ้องจะเล่นงานมนุษย์ หากแต่คราวนี้ พวกมันไม่ได้ตัวโตอาละวาดโวยวายเหมือนในอดีต พวกมันตัวโตเท่ามนุษย์ สร้างองค์กร และพัฒนาความสามารถมากขึ้น แน่นอนว่าอุลตร้าแมนยังคงจำเป็นต่อโลก หากแต่ตอนนี้อายาตะนั้นแก่ชรามากแล้ว พลังก็ลดน้อยลงไปด้วย ดังนั้นชินจิโร่ อายาตะ ซึ่งเป็นลูกชายของอุลตร้าแมน จำเป็นต้องสืบทอดชื่ออุลตร้าแมนแทน เพราะเขาเองก็ได้พลังสืบทอดจากพ่อของเขา

    ถ้าถามว่าประทับใจไหม ผมก็ตอบว่า “ไม่” จริงอยู่ว่าการ์ตูนสนุกดี แต่ปัญหาคือภาพลักษณ์ของอุลตร้าแมนที่ดูยังไงก็เหมือนไอรอนแมนมากกว่าจะเป็นอุลตร้าแมนที่เรารู้จัก แถมเนื้อหาของเรื่องไม่ได้เป็นอุลตร้าแมนจ๋า มันมีส่วนผสมของการ์ตูนสไตล์ของคนเขียน Kurogane no Linebarrel เข้าไปด้วย ส่วนภาพลักษณ์สัตว์ประหลาด มนุษย์ต่างดาวในเรื่องก็ไม่ใช่แบบที่เรารู้จัก (ปวดตับ เรดคิง)   แถมแต่ละตอนหน้ากระดาษน้อย ทำให้ความรู้สึกน่าติดตามแอบหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเนื้อเรื่องไม่ไปถึงไหนสักที

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ชอบคือเนื้อหาของเรื่อง มีการปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย จากรุ่นพ่อสู่รุ่นลูก เก่าไป ใหม่มา การสืบทอดเจตนารมณ์ แม้ว่าผุ้สืบทอดจะไม่ได้รักความยุติธรรมเต็มร้อย หรือไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพิทักษ์โลกมากนัก รวมไปถึงการอยากเป็นคนธรรมดา มากกว่ามีพลังอุลตร้า สิ่งเหล่านี้ก็เข้ากับ ปรัชญา “พลังยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบใหญ่ยิ่ง” ซึ่งก็ถูกนำมาใช้กับเรื่องนี้ด้วย

    แม้ว่าการกลับมาของเพื่อนเก่าครั้งนี้ อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่และประทับใจมากนัก แต่มันก็ทำให้หายคิดถึงบ้างไม่มากก็ไม่น้อย



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×