ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #339 : (แลการ์ตูนไทย) รายการหลุมดำ ช่วงเวลาเลวร้ายของการ์ตูนญี่ปุ่นในแผงหนังสือไทย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.9K
      1
      13 พ.ค. 58

    เวลา 5 ทุ่มของวันเสาร์ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2548 ได้เกิดปรากฏการณ์สะท้านวงการการ์ตูนญี่ปุ่นในประเทศไทยแบบไม่มีใครคาดคิดว่ามันจะกลายเป็นตำนานเล่าจนถึงทุกวันนี้ เมื่อช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ออกรายการ หลุมดำ ชื่อตอน “การ์ตูนสายพันธุ์ใหม่”

    รายการหลุมดำ เป็นรายการที่ออกอากาศในช่วงปี 2547-2549 เป็นรายการรายการโทรทัศน์ประเภทสารคดี ของทีวีบูรพา (TV Burabha) และสื่อสิ่งพิมพ์ ในประเทศไทย ที่ก้าวย่าง มุ่งสร้างสรรค์งานคุณภาพ เปนบริษัทย่อยของเจเอสแอล โกลบอล มีเดีย ก่อตั้งโดย สุทธิพงษ์ ธรรมวุฒิ ซึ่งทีวีบูรพาล้วนสร้างสรรค์รายการสารคดีมีคุณภาพอย่าง รายการ คนค้นฅน   กบนอกกะลา คิดข้ามเมฆ จุดเปลี่ยน ฯลฯ ทุกรายการล้วนมีเนื้อหาที่มีประโยชน์ คนดูได้ความรู้ และได้ข้อคิด ตระหนักถึงการร่วมสร้างสรรค์สังคมที่ดีงา

    สำหรับคอนเซ็ปต์หลุมดำนั้นเป็นรายการที่เน้นนำเสนอด้านมืดของสังคมไทย ประเทศที่เรามองตลอดว่าประเทศเราดีนักหนา มีวัฒนธรรม และศีลธรรม จิตใจที่ดีงาม หารู้ไม่ว่าในอีกด้านหนึ่งของสังคมไทยยังมีปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่านิยมที่ผิดๆ ธุรกิจที่ผิดกฎหมาย ปัญหาหลายอย่างหลายคนเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ทำเป็นมองไม่เห็น ไม่ใส่ใจ ทั้งๆ ที่เป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสังคมไทย และควรจะได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง

    นี่คือคอนเซ็ปต์คร่าวๆ ของหลุมดำ โดยรายการจะนำเสนอด้านมืดในสังคมไทยแบบเจาะลึก (?) การพูดคุยกับบุคคลที่อยู่ในด้านมืดเหล่านั้น เป็นต้นว่า “หลุมดำ นักซิ่งยามวิกาล” ก็จะเป็นตอนที่เจาะลึกในเรื่องปัญหาเด็กแว๊น ซิ่งมอเตอร์ไซต์ในตอนกลางคืน จนสร้างความเดือนร้อนตอนกลางคืน โดยทีมงานจะตามติดเด็กแว๊นว่าพวกเขาซิ่งแล้วได้อะไร และทำไมต้องซิ่ง เป็นต้น

    รายการหลุมดำถือว่าเป็นอีกรายการหนึ่งที่คนไทย (นอนดึก) ชื่นชอบดูในเวลานั้น ไม่ว่าจะเป็นคนที่ชื่นชอบการนำเสนอในแบบทีวีบูรพา ที่เจาะถึงแก่น สื่อถึงความมุ่งมั่นของทีมงานที่สรรหาเรื่องราวมานำเสนอตลอด บางเรื่องหลายคนไม่เคยรู้  รู้แล้วทึ่ง ก็ไม่แปลกแต่อย่างใดที่หลุมดำเป็นรายการที่ดังอย่างรวดเร็ว

    แม้ว่าสิ่งที่รายการหลุมดำนำเสนอนั้นเป็นเรื่องจริงในสังคมไทย และต้องการหลายคนตระหนักปัญหาเหล่านี้ อยากให้ประเทศไทยเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น แต่หลายฝ่ายที่นำเสนอด้านเดียว (ซึ่งเป็นด้านไม่ดี) และข้อมูลไม่ถูกต้องมากนัก

    หลายตอนของรายการหลุมดำเริ่มมีเสียงตำหนิมามากมายถึงข้อมูลไม่ถูกต้อง บิดเบือนข้อเท็จจริง แต่อย่างไรก็ตามตอนที่สร้างชื่อเสียงให้กับรายการหลุมดำนั้นคือ “หลุมดำ การ์ตูนสายพันธ์ใหม่” ถือเป็นตอนที่ส่งผลกระทบกับเมืองไทยที่แท้จริง หากแต่ผลกระทบที่ว่า แม้มองเผินๆ แล้วจะเป็นผลกระทบด้านดีสำหรับผู้ใหญ่, คนเกลียดโอตาคุ (ที่ไม่รู้เกลียดชาติปางใดมา) และไดโนเสาร์บางคน แต่สำหรับคนที่ชอบอ่านการ์ตูนแล้วถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากๆ  และถูกมองว่ามันเป็นแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ใช่ต้นเหตุ

     

     

    รายการของสรยุทธ์ถกเรื่องรายการหลุมดำ

     

    สำหรับเนื้อหาของรายการหลุมดำ “การ์ตูนสายพันธุ์ใหม่” เวลา 5 ทุ่มของวันเสาร์ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2548 จะเป็นการกล่าวถึงการ์ตูนญี่ปุ่นในแผงหนังสือไทย ที่แม้มีหน้าปกน่ารัก สดใส แต่ตรงกันข้ามกับเนื้อหาที่นำเสนอด้านในอย่างสิ้นเชิง เมื่อวิวัฒนาการของการ์ตูนญี่ปุ่นไปไกลกว่าผู้ใหญ่หลายคนคิดมาก เมื่อมีการ์ตูนหลายเรื่องเต็มไปด้วยเนื้อหารุนแรง (ดราก้อนบอล?), พฤติกรรมการร่วมเพศที่วิปริต (สาวดุ้น?), วิตถาร, บังคับขืนใจ เรื่องราวไม่เป็นเหตุเป็นผล, ไม่มีความเป็นไปตามกระทำของตัวละคร เนื้อหาสาระบั่นทอนศีลธรรมของสังคม จนไม่แน่ใจว่าจะพาไปข้างหน้า หรือถอยหลังลงคลอง....

    ปล. อ้างอิงจาก http://tvburabha.com/tvb/home/program_detail.asp?id=177&cate=3

     

    แม้ว่าผมจะดูรายการหลุมดำ ตอนการ์ตูนสายพันธุ์ใหม่มาแล้วก็เถอะ แต่ก็จำได้นิดๆ หน่อย เพราะมันก็นานมาแล้ว  ก็น่าเสียดายที่ไม่มีรายการย้อนหลัง (หากใครมีแหล่งช่วยบอกผมหน่อยนะครับ)

    อย่างไรก็ตามแม้จะจำรายละเอียดไม่ได้ แต่ผมยังจำความภาพรวมของรายการหลุมดำในเวลานั้นได้ จนสรุปเป็นนิยามได้ว่า “เป็นรายการทีวีไทยที่นำเสนอภาพด้านลบของการ์ตูนที่เลวร้ายที่สุดในประเทศไทย” ในเวลานั้นก็ว่าได้

    ปกติแล้วการ์ตูนญี่ปุ่นมักตกเป็นจำเลยของสังคมบ่อยครั้ง และสื่อต่างๆ มักโทษการ์ตูนและเกมมาโดยตลอด  แทบไม่เคยนำเสนอด้านดีเลย หากจะอวย ก็อวยการ์ตูนเล่มละ 1-5 บาท (ซึ่งมันก็ตกยุคไปแล้ว และการ์ตูนที่ว่ามีเนื้อหาไม่ดีงามเช่นเดียวกัน)

    ที่เลวร้ายกว่านั้น คือการนำเสนอด้านลบการ์ตูนญี่ปุ่นของสื่อไทยข้อมูลไม่เคยตรงกับความจริง บิดเบือน และนำเสนอความจริงไม่หมด

     

     

    ตรงจุดเกิดเหตุ “หนังการ์ตูนลามก”

     

    ยกตัวอย่างรายการช่อง 3 ตรงจุดเกิดเหตุ “หนังการ์ตูนลามก” ออกอากาศเมื่อปี 2010 ที่นำเสนอเกี่ยวกับซีดีการ์ตูนลามกที่หาง่ายที่วางเกลื่อนแผง ไม่ว่าจะเป็น แผงค้า, ห้างสรรพสินค้า, ตลาดนัด  ซึ่งความจริงส่วนหนึ่ง แต่ก็จริงไม่หมด โอเคเรื่องที่ว่ามีการ์ตูนโป๊ขายนั้นจริง แต่ไม่ได้เห็นทุกพื้นที่ มีเฉพาะบางพื้นที่   และไม่ได้มากอย่างที่คิด อีกทั้งลูกค้าที่เป็นเด็กเล็กไม่สามารถซื้อแผ่นเหล่านี้ได้แน่นอน ส่วนมากลูกค้ามักเป็นเด็กโต วัยรุ่นที่ซื้อ  

    (ปัจจุบันเห็นว่าทางการเข้มงวดเรื่องพวกนี้มาก ประกอบกับการ์ตูนที่ขายส่วนใหญ่ เป็นการ์ตูนเก่าแล้ว และบทบาทของอินเทอร์เน็ตมีมากขึ้น ทำให้การขายแผ่นก็อปการ์ตูนโป๊เริ่มลดลงด้วย)

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อมูลจะผิดพลาด แต่พวกผู้ปกครอง และผู้ใหญ่บางคนเลือกที่จะเชื่ออยู่ดี และจะเชื่อชนิดว่าต่อให้อธิบายเหตุผลยังไง ก็ไม่สามารถเปลี่ยนความเชื่อพวกเขาได้เลย

    พวกสื่อข่าว  สื่อบันเทิง ถือว่าอิทธิพลต่อคนดูชาวไทยสูงมิใช่น้อย    และมักเกิดประเด็นดราม่าบ่อยๆ ว่านำเสนอข่าวบิดเบือนบ่อยครั้งบ่อยๆ ครั้งจนสร้างความเข้าใจกับคนดู รับข่าวสารไม่ถูกต้อง  ยิ่งเป็นเรื่องการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วยิ่งแล้วใหญ่ เพราะตรรกะของคนไทยหลายคนมักมองว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก การ์ตูนต้องมีเนื้อหางดงาม หากมีการ์ตูนที่แหกคอกก็จะถูกด่าว่าการ์ตูนเรต บางคนไม่รู้เกลียดการ์ตูนตั้งแต่ชาติบางไหน ยิ่งเห็นการนำเสนอเรื่องการ์ตูนด้านลบยิ่งทวีความเกลียดไปใหญ่

    สื่อไทย ไม่ว่าจะเป็นสื่อไหน ไม่เคยนำเสนอการ์ตูนญี่ปุ่นถูกต้องเลย ส่วนมากมักใช้มุมมองเดียว ตรรกะแบบผู้ใหญ่ที่มองการ์ตูนด้านลบ ใช้คำไม่ถูกต้อง เนื้อหาชวนเข้าใจ เช่นเดียวกับรายการหลุมดำ

    แม้ว่าตอนแรกๆ ที่ผมดูรายการหลุมดำ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากสักเท่าไหร่ เพราะสิ่งที่รายการนำเสนอก็จริงส่วนหนึ่ง เป็นต้นว่า เบอร์เซิร์กเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรงและเรื่องเพศ, การ์ตูนโป๊ที่มีฉากร่วมเพศแบบชัดเจน, ฉากร่วมเพศในการ์ตูนตาหวานที่ดูสวยงาม รวมไปถึงการ์ตูน Elfen Lied ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็ก ฯลฯ

    อย่างไรก็ตาม ก็ยอมรับว่าแอบมีเห็นด้วยหลายประเด็น และเจ้าประเด็นที่ว่านี้แหละ ทำให้เกิดความเข้าใจผิดนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คนชื่นชอบการ์ตูนญี่ปุ่นรับไม่ได้เลยจนถึงปัจจุบันนี้ เรียกได้ว่าเป็นยุคมืดมนของการ์ตูนญี่ปุ่นในไทยก็ว่าได้

    ก่อนที่จะพูดเรื่องหลุมดำต่อไป ขอนอกเรื่องสักนิด เพราะจะอธิบายสาเหตุของปัญหาหลักๆ เกี่ยวกับการ์ตูน โดยรายการหลุมดำได้พยายามสื่อว่าการ์ตูนญี่ปุ่นมีวิวัฒนาการจากการ์ตูนที่เนื้อหาเหมาะสำหรับเด็กเล็ก กลายมาเป็นการ์ตูนที่เริ่มมีเนื้อหารุนแรง และเรื่องของเพศมากขึ้น

    ตรงจุดนี้มันผิดชนิดไม่ให้อภัย โดยเฉพาะการใช้วิวัฒนาการเรียกเนื้อหาของการ์ตูนญี่ปุ่นที่เปลี่ยนไป เพราะการ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรง และเกี่ยวกับเรื่องเพศนั้นมันมีมานานแล้ว

     หลายคนมักคิดว่า การ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก คนที่อ่านการ์ตูนนั้นคือเด็ก ทั้งที่ความจริงไม่ใช่เลย เพราะ ทุกวัยล้วนอ่านการ์ตูน การ์ตูนมีหลายแนว เนื้อหาของการ์ตูนก็แล้วแต่จะเจาะกลุ่มลูกค้าวัยใด ไม่ว่าจะเป็น เด็กชาย เด็กหญิง และผู้ใหญ่

    นอกจากนี้ ที่ญี่ปุ่นมีการจัดเรตเฉพาะ หากมีการ์ตูนที่มีเนื้อหาที่รุนแรง หรือมีเนื้อหาเกี่ยวกับทางเพศไม่ดีไม่งาม ก็จะถูกจำกัดให้ผู้ซื้อต้องบรรลุนิติภาวะ ซึ่งเด็กไม่สามารถซื้อหาได้

    ส่วนบ้านเราบ้านเราไม่ได้มีกฎหมายในการจำกัดเรตเหมือนญี่ปุ่น เพราะบ้านเราเลือกจะใช้กฎหมายแบนการ์ตูนมากกว่า โดยเฉพาะการ์ตูนโป๊ รวมไปถึงการ์ตูนที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับทางเพศ หรือมีฉากที่รุนแรง เนื้อหาไม่เหมาะกับสังคมไทย  

    ที่นี้ปัญหาคือ บ้านเรา มีการ์ตูนที่มีลิขสิทธิ์หลายเรื่อง ที่ไม่ได้เป็นการ์ตูนโป๊ แต่ก็เป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ อย่างเรื่อง เบอร์เซิร์ก ไปจนถึงการ์ตูนหลายเรื่องที่มีเนื้อหาที่ค่อนข้างรุนแรง อาชญากรรม ด้านมืดของสังคม ไปจนถึงการ์ตูนหลายเรื่องฉากมีเพศสัมพันธ์ที่น่าตกใจเหมือนกัน

    แม้แต่การ์ตูนผู้หญิงเอง (การ์ตูนตาหวาน) ก็มีฉากร่วมเพศด้วย แม้ไม่ใช่การ์ตูนโป๊ แต่สิ่งไปจนถึงฉากข่มขืนค่านิยมที่แตกต่างกับบ้านเรา โดยเฉพาะเรื่องการคบหา และการมีเซ็กต์ก่อนวัยเรียน แม้จะดูสวยงาม แต่ก็มีค่านิยมที่ผิดๆ ที่ไม่ควรเอาแบบอย่าง

    และการ์ตูนที่มีเนื้อหาดังกล่าว ก็มีมากมายในแผงหนังสือไทย ไม่มีการจัดเรต ไม่มีควบคุม  ส่วนคนอ่านเองก็ชื่นชอบกับการ์ตูนเนื้อหาเหล่านั้น เพราะดูแล้วสนุก สอดแทรกประเด็นสังคมที่แยบยล และบางเรื่องก็เป็นการ์ตูนดัง  น่าติดตามเป็นอย่างมาก

    แต่ในขณะที่บางคนไม่เข้าใจเหล่านี้ มองแต่ด้านลบตลอด พร้อมที่จะกดให้ต่ำลง และห้ามไปทุกสิ่ง และเมื่อสองฝ่ายที่ไม่เข้าใจกันและกัน ดราม่าจึงเกิดขึ้น

    นี่คือสภาพแรกๆ ก่อนที่หลุมดำจะนำไปออกรายการ

     

     

     

    การ์ตูนตาหวานขึ้นหิ้ง Fullmoon

     

                เท่าที่ผมจำได้ เนื้อหา หลุมดำ “การ์ตูนสายพันธุ์ใหม่ ใครคือเหยื่อ” ได้กล่าวโทษการ์ตูนญี่ปุ่นในแผลงหนังสือหลายเรื่อง โดยใช้คำว่า “สายพันธุ์ใหม่” เป็นต้นว่า

                -เบอร์เซิร์ก มีการเปิดตรงหน้าที่กัซใช้ดาบใหญ่ฟาดฟันกองทัพโครงกระดูก นั้นมีเนื้อหาเต็มไปด้วยลามกอนาจาร รุนแรง

    - การนำเสนอว่ามีการ์ตูนโป๊ปะปนอยู่กับการ์ตูนมากมายในแผงหนังสือ ความจริงแล้ว มันเป็นการ์ตูนไม่มีลิขสิทธิ์ถือว่าผิดกฎหมาย สมัยก่อนก็ถือว่ามีเยอะอยู่   แต่จะไม่ได้วางจำหน่ายในร้านหนังสือทั่วๆ ไปสักเท่าไหร่  ส่วนมากจะวางในร้านโชว์หวย ไม่ก็ร้านเช่า โชว์หน้าร้านตรงๆ  ส่วนร้านที่ขายการ์ตูนเรื่องนี้จะแยกโซนเพื่อแยกง่ายๆ ว่าอันไหนมีลิขสิทธิ์ และไม่มีลิขสิทธิ์ แต่สมัยนี้ไม่ค่อยมีแล้ว (มั้ง)

    -การนำเสนอการ์ตูนสีเทา (หมายถึงการ์ตูนมีลิขสิทธิ์ แต่มีฉากส่อทางเพศและความรุนแรง) ตรงจุดนี้ปัญหาคือบ้านเราไม่มีการจัดเรต

                - Elfen Lied (ตอนนี้รายการที่เอาการ์ตูนมาออก ไม่ได้เป็นการ์ตูนถูกต้องลิขสิทธิ์ แต่เป็นของค่ายไพเรทสำนักพิมพ์ “มด” หลังรายการหลุมดำเอามาออก ก็ถูกแบนนานไปพักใหญ่ ก่อนที่เนชั่นจะซื้อลิขสิทธิ์ หากแต่ตีพิมพ์ไปสองเล่ม ก็ดองยาวจนกระทั่งจนบัดนี้)

                -ฉากต่อสู้ในการ์ตูน “โรงเรียนลูกผู้ชาย” ที่ใช้ดาบฟันกันจนเลือดสาดกระจาย (นอกจากนี้ก็มี บากิ,)

                -พูดถึงการ์ตูน Y (ยาโอย)

                -การ์ตูนโดเรมอน มีการเปิดหน้าโนบิตะลวนลามซูซิกะ (ไม่แน่ใจว่ามีฉากซิซูกะอาบน้ำหรือเปล่า)

                -พูดถึงการ์ตูนโป๊ที่มีฉากร่วมเพศชัดเจน หาวง่าย (ในหลุมดำเรียก การ์ตูนเรต X) ปะปนขายรวมกับการ์ตูนในแผงหนังสือไทย

                -พูดคุยกับคนอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นคนหนึ่ง พูดถึงฉากเซ็กต์ในการ์ตูนตาหวานว่างดงาม  

                -เอาการ์ตูนที่มีเนื้อหาเรื่องเพศและรุนแรงให้ผู้ปกครองและผู้ใหญ่ (คนผ่านไปผ่านมา) อ่าน

                -การนำเสนอวงการคอสเพลย์ ออกไปทางด้านลบ (แถมยังโยงคอสเพลย์กับการ์ตูนโป๊อีกซึ่งมันไม่เกี่ยวเลย)

                -การเซ็นเซอร์ใบหน้าคนอ่านการ์ตูน และคนแต่งคอสเพลย์ ในความรู้สึกของคนไทยแล้วการที่คนถูกเซ็นเซอร์ใบหน้าหมายถึงคนกำลังทำความผิดอะไรบางอย่าง ทำให้หลายคนตีความว่าเด็กที่ถูกเซ็นเซอร์กำลังทำผิดอะไรบางอย่าง เช่น อ่านการ์ตูนโป๊ การ์ตูนเรต

                -การนำเสนอวงการโดจินมีแต่ด้านลบ การ์ตูนโป๊  (โดจินด้านสว่างก็มี)

                -พูดถึงการ์ตูนหญิงตาหวานเรื่อง Fullmoon ว่าเป็นการ์ตูนโป๊ (ต่อมา ทีมงานได้ขอโทษความผิดพลาดว่า ผิดพลาดทางเทคนิค คือภาพไม่ตรงเนื้อหา ทำให้หลายคนไม่ได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้เข้าใจผิดเป็นการ์ตูนโป๊)

                ฯลฯ

                ภายหลังรายการนี้นำเสนอก็มีเสียงวิพากษ์ วิจารณ์จำนวนมาก โดยเฉพาะคนรักการ์ตูนมองว่า รายการหลุมดำนำเสนอการ์ตูนออกมาด้านลบมากเกินไป  ใช้ภาษาที่ค่อนข้างดุเดือด สื่อให้สังคมเข้าใจผิดและเกลียดชังการ์ตูน  และรายการไม่ได้นำเสนอว่าควรแก้ไข แต่นำเสนอว่าการ์ตูนทั้งหมดแย่หมด

                ตอนแรกๆ ก็เสียงวิจารณ์ที่พอมีเหตุบ้าง เพราะเสียงส่วนใหญ่เป็นเสียงของคนรักการ์ตูนที่มีวุฒิภาวะ แต่ปัญหาคือช่วงหลังๆ ก็เริ่มมีเสียงด่าที่รุนแรงมากขึ้นในอินเทอร์เน็ต ซึ่งเสียงใหญ่ความคิดเห็นมาจากเกรียนซ่า

                แน่นอนว่าประเด็นเหล่านี้ได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทยในสมัยนั้น ไม่ว่าจะเป็นพันทิปและเว็บประมูล ไปจนถึงบอร์ดส่วนตัวล้วนพูดถึงหลุมดำในเชิงตำหนิ จนทำให้รายการ “ถึงลูกถึงคน” ที่ดำเนินรายการโดยสรยุทธ์ต้องเชิญทีมงานหลุมดำกับผู้เกี่ยวข้องกับการ์ตูนมาพูดคุย ซึ่งในรายการทีมงานหลุมดำเองก็ได้ออกมายอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้น พร้อมสื่อเจตนาว่าที่ทีมงาพยายามนำเสนอด้านมืดของการ์ตูนนั้น ก็ต้องการให้ผู้ปกครองตระหนักเกี่ยวกับการ์ตูนที่ลูกๆ อ่านว่ามันเหมาะสมกับวุฒิภาวะหรือไม่ และหวังว่าทางรัฐบาลต้องทำอะไรสักอย่างกับการ์ตูนด้านมืดเหล่านี้

                ผลคือมันเปลี่ยนไปจริงๆ !!



    เบอร์เซิร์กการ์ตูนที่มีเนื้อหารุนแรงที่ปรากฏในหลุมดำ
     

                แน่นอนว่าผลของหลุมดำ ทำให้มีการจัดระเบียบการ์ตูนติดเรทมากขึ้น  คนขายการ์ตูนเรทเริ่มมีการระมัดระวังขายของพวกนี้มากขึ้น (ดูจากคลิปที่สอง)  จากปกติขายแบบโจงแจ้งล่อตะเข้ กลายมาเป็นขายแบบลับๆ ไม่ปิดเผย  ผลคือทำให้คนซื้อน้อยลง   จนเสื่อมความนิยมไปในที่สุด

                แต่อย่างไรก็ตาม   นอกเหนือยังจัดระเบียบการ์ตูนเรทแล้ว มันยังมีผลกระทบอื่นๆ อีกมากมายตามมา แม้ว่าหลุมดำจะออกมาขอโทษ หรือทางรายการจะย้ำว่าเขาแค่นำเสนอเกี่ยวกับด้านมืดของการ์ตูนส่วนหนึ่งไม่ได้เหมารวม แต่กระนั้นพวกผู้ใหญ่ และหลายคนได้ตราหน้าเหใสการ์ตูนว่าเป็นสิ่งชั่วร้ายต่อสังคมเป็นเรียบร้อย พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่ถูกเรียกขานในเวลาต่อมาว่า “เป็นยุคมืดของการ์ตูน” เลยทีเดียว เป็นต้นว่า

                -ส่งผลทำให้การ์ตูนหลายเรื่องต้องระงับการขายหรือหายไปเลย ด้วยเหตุผลว่าการ์ตูนเหล่านั้นมีฉากล่อแหลม เปลือย ไม่ดีต่อเยาวชน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่การ์ตูนเรตโป๊ก็ตาม โดยเฉพาะการ์ตูนของเนชั่น เช่น สูตรฮิตเมนูฮอต (Addict to Curry) และเหนือฟ้า ใต้พิภพ ข้าเจ๋งสุด (Tenjho Tenge)  ฯลฯ   ในขณะที่บางเรื่องมีฉากเห็นกางเกงในนิดหน่อย ถูกตราหน้าว่าเป็นการ์ตูนเรตทันที (To Love Ru ก็เคยถูกตราหน้าว่าเป็นการ์ตูนเรตเช่นกัน)

                -ทางรายการโทรทัศน์มีการจัดเรตและเริ่มมีการเซ็นเซอร์ แต่ส่วนใหญ่แล้ว เป็นการเซ็นเซอร์ที่ไร้ซึ้งสติปัญญา เช่น ตัวละครหญิงใส่ชุดว่ายน้ำ, เซ็นภาพเบลออาวุธมีคม เชน มีด ขวาน ปืน, เซ็นหัวนมผู้ขาย จนหลายคนเซ็งเป็ดแถบๆ

                -ทางสำนักพิมพ์มีจัดเรตหนังสือการ์ตูน เช่น การ์ตูนเล่มนี้เป็นแนวโรแมนติกเหมาะสำหรับคนอายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ตอนหลังๆ พบว่ามันไม่ได้ช่วยอะไร เพราะจัดเรตแรงยังไงเด็กก็ซื้ออยู่ดี เพราะไม่ได้ห้ามอะไรไว้ ผลคือตอนหลังๆ ก็ไม่มีการจัดเรตเหมือนเดิม

    -ไม่ใช่แค่การ์ตูนญี่ปุ่น ขนาดการ์ตูนไทยบางเรื่อง ก็โดนตัดจบเพราะเหตุการณ์นี้

    -ก่อเกิดสังคมเกลียดโอตาคุมากขึ้นเพราะเกรียน กล่าวคือตอนแรกๆ โอตาคุไทยยังถูกมองว่าเป็นกลุ่มคนรักการ์ตูน แต่ปรากฏว่าพอเกิดเหตุหลุมดำขึ้น ก็มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นคนรักการ์ตูน (ซึ่งดูแล้วน่าจะเป็นเกรียนมากกว่า) ตั้งกระทู้ด่ารายการ ด่าสังคม ด่าวงการสื่อไทย แต่การกระทำนั้นออกไปทางเกรียนมากกว่าน่าชื่นชม แต่บางคนเชื่อว่าคนโพส คนโวยวายเป็นโอตาคุ และถูกมองว่าพวกโอตาคุเป็นเกรียน ทำตัวน่ารังเกียจ ทำตัวเป็นใหญ่ในสังคมออนไลน์ไปด้วย

    -เกิดความเข้าใจผิดเผยแพร่กันเยอะมาก  คือมีข่าวแปลกๆ ที่ไม่มีมูลความจริงออกมาเช่น  เมดคาเฟ่โดนปิดเพราะผลจากหลุมดำ  (ความจริงแล้วไม่ใช่) แต่

    -เกิดความเข้าใจการแบนการ์ตูน ซึ่งมีข่าวลืออกมาว่ารัฐบาลได้แบนการ์ตูนหลายเรื่องด้วยเหตุผลแปลกๆ เป็นต้นว่าอนิเมะอินุยาฉะที่ฉายช่อง 9 โดนแบนเพราะนางเอกใส่กระโปรงสั้น ซึ่งความจริงแล้วมันฉายจบซีซั่นต่างหาก ส่วนมังงะที่ถูกแบนนั้นความจริงไม่ได้แบนอย่างเป็นทางการ มีเพียงการแจ้งเตือนให้ทางสำนักงานช่วยระงับการจำหน่ายการ์ตูนบางเรื่องที่มีเนื้อล่อแหลมเท่านั้น พอเรื่องสงบ ก็ค่อยออกมาวางจำหน่ายต่อ (เป็นต้นว่า Gantz กับลูกแก้วมากะ เคยหยุดพิมพ์ต่อไปพักหนึ่ง หลายปีต่อมา ก็มีการวางขายเล่มต่อ เป็นต้น)

    ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่มืดมนของคนรักการ์ตูนอย่างแท้จริง ไม่เพียงแต่การ์ตูนญี่ปุ่น ยังรวมถึงการ์ตูนไทยด้วย

    จนถึงบัดนี้ควันหลงจากรายการหลุมดำ การเหมารวมการ์ตูนเป็นสิ่งที่เลวร้ายก็ยังคงมีอยู่ โดยเฉพาะการเซ็นเซอร์การ์ตูนทางโทรทัศน์ ส่วนการแก้ปัญหาของพวกผู้ใหญ่ในการจัดระเบียบหนังสือด้วยการระบุเรต มันเหมือนเป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกันในความรู้สึกของหลายๆ คนแล้วมันค่อนข้างเป็นความคิดที่ “งี่เง่า” มากกว่า  เพราะมันเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาเรื่องต้นเหตุ และแก้แบบชั่วคราว อีกทั้งการมาถึงยุคอินเทอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น พวกเด็กและวัยรุ่นสามารถเสพการ์ตูน การ์ตูนสายมืด และการ์ตูนผู้ใหญ่ (ที่ไม่ทางจะได้ลิขสิทธิ์ในประเทศไทย) ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่รู้ลายแทง เว็บที่มีการ์ตูนพวกนี้อยู่เท่านั้นเอง

    สรุป แล้วรายการหลุมดำไม่ได้ช่วยอะไรเลย นอกจากจะทำให้หลายคน (โดยเฉพาะคนที่ไม่รู้จักการ์ตูน) เข้าใจผิดเหมาการ์ตูนดีกลายเป็นการ์ตูนไม่ดี เป็นสิ่งเลวร้าย รวมไปถึงวงการคอสเพลย์ถูกมองด้านลบแล้ว    จุดประสงค์ของรายการที่อยากเห็นวงการ์ตูนการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีก็ไม่ได้ช่วยสักเท่าไหร่ เพราะพวกผู้ใหญ่บ้านเราเลือกในการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มากกว่าต้นเหตุ โดยเฉาพะการจัดระเบียบหนังสือด้วยการระบุเรต มันเหมือนเป็นเรื่องดี แต่ในขณะเดียวกันในความรู้สึกของหลายๆ คนแล้วมันค่อนข้างเป็นความคิดที่ งี่เง่ามากกว่า  เพราะถึงยังไง การ์ตูนแค่บอกกลุ่มอายุเท่านั้น แต่มันก็ไม่ได้ห้ามให้เด็กเข้าไปอ่านสักหน่อย

    ยิ่งกว่านั้นการมาถึงยุคอินเทอร์เน็ตที่เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น พวกเด็กและวัยรุ่นสามารถเสพการ์ตูน การ์ตูนสายมืด และการ์ตูนผู้ใหญ่ (ที่ไม่ทางจะได้ลิขสิทธิ์ในประเทศไทย) ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่รู้ลายแทง เว็บที่มีการ์ตูนพวกนี้อยู่เท่านั้นเอง

    ทุกวันนี้ผมยังเห็นการ์ตูนหลายเรื่องมีฉากร่วมเพศโจ่งแจ้ง (แม้จะมีการเซ็นเซอร์ก็ตาม) รวมไปถึงเนื้อหารุนแรงกว่าเมื่อก่อนมาก แถมส่วนมากก็เป็นการ์ตูนดังๆ หลายคนรู้จักด้วยซ้ำ


     

    เซ็นเซอร์ไทยบันลือโลก

     

     แน่นอนว่าคำถามต่อมา ทำอย่างไรกับการ์ตูนในบ้านเรา ในเมื่อมีทั้งการ์ตูนดี และไม่ดีปะปนกัน  โดยความเห็นส่วนตัวผมก็เป็นผู้ใหญ่วัย 30 ปีแล้ว สิ่งแรกที่ผมอยากให้เห็นมีการเปลี่ยนแปลงการ์ตูนคือ ต้องให้ทุกคนมีตรรกะเดียวก่อนว่า การ์ตูนไม่ใช่เรื่องของเด็กอีกแล้ว

    มีอยู่ตอนหนึ่งในรายการถึงลูกถึงคนทีมงานหลุมดำได้แจ้งเจตนารมณ์ของรายการหลุมดำตอนการ์ตูนสายพันธุ์ใหม่ไว้ว่า

    เราทุกคนก็รักการ์ตูนค่ะ เลยไม่อยากให้สื่อการ์ตูน กลายเป็นสื่อลามก เพราะการฉกฉวยผลประโยชน์ ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ช่วยกันคิดในทางสร้างสรรค์ดีกว่านะคะ ว่าจะทำอย่างไร การ์ตูนจึงจะยังเป็นสื่อที่สดใส สะอาด เป็นเพื่อนของเด็กเหมือนอย่างการ์ตูนสร้างสรรค์หลายๆ เรื่อง ที่อยู่คู่กับเรามา ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน" 

    คำชี้แจงเหล่านี้แสดงให้เห็นได้ชัดเลยว่าผู้ใหญ่คิดยังไงกับการ์ตูน ซึ่งมองว่าการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็ก การ์ตูนต้องใสสะอาด ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้ว การ์ตูนไม่ใช่เรื่องของเด็กอีกแล้ว การ์ตูนมันมีหลายเรต หลายกลุ่ม  แม้แต่การ์ตูนคอมมิคฮีโร่อเมริกันเองก็จะเห็นว่าช่วงหลังๆ เริ่มเจาะกลุ่มพวกผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยการเพิ่มฉากรุนแรง และฉากมีเพศสัมผัสต่างๆ ด้วยซ้ำไป

    แม้จะเป็นการ์ตูนโป๊ การ์ตูนสายมืด ไปจนถึงการ์ตูนผู้ใหญ่ที่มีฉากทางเพศ ความรุนแรงก็ตาม แต่มันก็มีด้านดี บันเทิงแบบเดียวกับภาพยนตร์ หรือวรรณกรรม ที่แฝงไปด้วยข้อคิดให้ได้ขบคิด เพียงแต่จะมีใครสักคนเห็นคุณค่าเรื่องเหล่านี้บ้าง

    อย่างเช่นเรื่อง Battle Royale ที่เต็มไปด้วยความรุนแรง เซ็กต์ เรตอยู่ในระดับอันตราย หากแต่หลายคนกลับบอกว่ามันเป็นการ์ตูนที่ดี สื่อถึงการดินรนมีชีวิตรอด จิตวิทยาของเด็กวัยรุ่น มิตรภาพ ความรัก ความเสียสละ การหลอกลวง สิ่งเหล่านี้ทำให้ Battle Royale เป็นหนึ่งในการ์ตูนที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง

    ทุกวันนี้ไม่ว่ายุคไหนๆ คนก็มองพวกเกม และการ์ตูนเป็นด้านลบ มากกว่าด้านดี เพราะว่าของเหล่านี้มันมาจากเมืองนอก มันไม่ใช่วัฒนธรรมของไทย เป็นของไกลตัว อีกทั้งมันมีราคาแพง เป็นของฟุ่มเฟือยทำให้ผู้ปกครองไม่ค่อยปลื้มมากนักที่จะซื้อหาของบุตรหลาน ส่วนมากผู้ปกครองมักซื้อของเหล่านี้ให้บุตรหลานเพื่อเล่นแก้เหงายามเด็ก  และหวังว่าหากโตมาก็เลิกไปเอง  หากใครโตแล้วยังเสพของพวกนี้ถือว่าเป็นพวกเด็กไม่ยอมโต และมองว่ามันเป็นสิ่งที่ชั่วร้ายหากซึมซับมากก็จะกลายเป็นคนมีปัญหา (ชั่วร้าย) ซึ่งเป็นที่มาของตรรกะการ์ตูนเป็นเรื่องของเด็กนั้นแหละครับ

    และอีกวิธีหนึ่งคือการออกกฎหมายจัดระเบียบการ์ตูนจริงๆ จังๆ ซะที ว่าการ์ตูนเรื่องไหนเด็กไม่ควร เรื่องไหนเด็กควรซื้อ ใช้กฎหมายเหมือนประเทศญี่ปุ่นที่เขามีการจัดระเบียบการ์ตูน “สำหรับผู้ใหญ่” โดยมีคำเดือนกำหนด มีการจัดวางขายเฉพาะ และห้ามให้เด็กซื้อ ซึ่งบ้านเรากลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้จริงๆ จังๆ เสียที แต่เลือกใช้การแบนกวาดล้างเป็นครั้งๆ คราว หากมีข่าวไม่ดีที่มีต้นเหตุมาจากการ์ตูน (เช่นแท็กซี่โดนบาดคอเพราะคนทำผิดเลียนแบบเกม เป็นต้น) ผลคือมันก็คือมันก็ยังคงเหมือนเดิม

    สุดท้ายคือตัวเราทุกคนเองครับ ที่เราต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน คนชอบการ์ตูนก็พยายามสรรหาสิ่งดีๆ เกี่ยวกับการ์ตูนมานำเสนอกับผู้ชมบ้าง ไม่ใช่เอาแต่สปอย หรือเอาเรื่อง +18 มาพูดให้เห็นดีเห็นงาม เหมือนเจ้าของบทความบางคน (ใครหว่า?) ส่วนคนไม่ชอบหรือไม่อ่านการ์ตูนก็พยายามเปิดใจยอมรับสิ่งดีๆ ของการ์ตูนสักนิด และร่วมกันในการแก้ไขปัญหา เข้าใจในปัญหา หาทางแก้ไข แม้จะพึ่งทำ ก็ยังดีกว่าไม่ทำเสียเลย

     

     

     

                ปัจจุบันควันหลงจากรายการหลุมดำ ก็ยังมีอยู่นิดหน่อย ตรงที่กลายเป็นมุกตลก ประมาณว่าหากบอร์ดไหนโพสภาพการ์ตูนที่มีฉากตัวละครโชว์หวิว โชว์กางเกงใน หรือฉาก +18 ก็จะมีคนคอมเมนต์ว่า “ระวังหลุมดำมาดูด” นะ อันหมายถึงระวังพวกผู้ใหญ่มาเห็นแล้วมันจะเป็นเรื่องเป็นราว มองการ์ตูนด้านลบนั้นเอง

                สรุปแล้ว ปรากฏการณ์หลุมดำสื่อให้เห็นพวกผู้ใหญ่มองการ์ตูนด้านลบ การทะเลาะกันที่ไร้ซึ้งความเคารพกันและกัน และการแก้ปัญหาเกี่ยวกับการจัดระเบียบการ์ตูนที่ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็เคยไม่จริงจังหรือตรงใจใครหลายคนได้เสียที

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×