ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #338 : รีวิวแมวๆ Spring Anime 2015 นี้ไม่ใช่นางาโตะของผม และกางเกงในงามมากๆ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.56K
      0
      28 เม.ย. 58

    สวัสดีครับ กลับมาอีกครั้งกับ Spring Anime 2015 อาจจะช้าหน่อย เพราะปกติผมคงจะรีวิวอนิเมะช่วงวันสงกรานต์แล้ว แต่พอดีมันมีปัญหาคือ ซีซั่นนี้แทบไม่มีอนิเมะที่ผมอยากตามเลยครับ คืิอแทบไม่ได้ดูอนิเมะซีซั่นนี้เลย แนวฮาเร็มก็ไปลงกับซีซั่นต่อที่หลายคนอวย (แต่ผมไม่อวย) อย่างเรื่อง High School DxD BorN และ Nisekoi: และอนิเมะแนวอื่นๆ ก็เป็นแนวแอ็คชั่นแฟนตาซี ไม่ถูกใจผมสักเท่าไหร่

    เมื่ออนิเมะไม่มา ดังนั้นสิ่งที่ผมทำแก้เหงาก็คือหันไปดูทีวีซีรีย์อเมริกาแทน (ผมชอบซีรีย์แนวสืบสวน สอบสวนนะ)

    เข้าเรื่องสำหรับซีซั่นนี้ ความจริงก็เป็นอนิเมะที่หลายคนชอบอยู่หรอก  ตอนนี้ก็มีกระแสเโลลินมโตอย่างเทพเฮสเตีย ไปจนถึงอนิเมะอวยตามเรื่องตามราว

     

     

     

    สำหรับเรื่องที่ผมดูตอนแรกก็มี

    Arslan Senki (TV)

    Re-Kan!

    Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru no Darou ka?

    Nagato Yuki-chan no Shoushitsu

    Punch Line

    Etotama

    สาวโรบอต Z (ยังไม่มา)

    ก็วิจารณ์เท่านี้แหละ

     

     

     

     

    Punch Line


                ประเดิมด้วยอนิเมะที่ผมติดตามซีซั่นนี้ก่อน ซึ่งซีซั่นนี้ผมเกือบเหงาแล้ว แต่โชคดีไปเจออนิเมะเรื่องนี้เข้า มันช่างเป็นอนิเมะที่ทำให้หัวใจผมกระชุ่มกระชวยเหลือเกิน

    Punch Line เป็นอนิเมะออริจินอลของ Mappa (สตูดิโอ) โดยเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่จู่ๆ วิญญาณหลุดจากร่างจากเหตุการณ์กลุ่มโจรจี้รถบัส และพบว่ามีใครคนหนึ่งขโมยสิงร่างเขาแทนอยู่ ซึ่งวิธีที่จะกลับคืนร่างคือเขาต้องหาหนังสือชื่อแปลกๆ อะไรสักอย่างในหอพักพระเอก แต่ปัญหาคือหอพักที่ว่าเต็มไปด้วยสาวๆ 4 คน และแต่ละคนก็ชอบโชว์กางเกงใน ซึ่งหากเมื่อใดที่เขาได้เห็นชุดชั้นในของผู้หญิง เขาก็จะมีพลังในการทำลายล้างโลกทันทีแล้ว เรื่องวุ่นๆ นี้จะจบลงอย่างไ

    Punch Line  เป็นอนิเมะที่เนื้อหาบัดซบมาก เพราะมีคนทุกอารมณ์ ไม่ว่า เป็น งง และปริศนามากมาย คือเนื้อเรื่องแทบไม่บอกอะไรเลย จู่ๆ พระเอกโดนโจรจี้ องค์กรลับปริศนา ทำไมวิญญาณพระเอกออกจากร่าง ปริศนาโลลิสองคน  ฯลฯ ไปจนถึง อะไรกันว่ะ!! เห็นกางเกงในแล้วอุกาบาตตกใส่โลก เชื่อเถอะมันอนิเมะแนวบ้าบอชัดๆ

    มาตอนที่ 2 เนื้อหายิ่งสุดทีนเข้าไปใหญ่ เมื่อเนื้อเรื่องเน้นไปการเล่นบทตัวละครหญิงในหอพักที่พระเอกพักอาศัยอยู่ (เป็นหอพักที่น่าอิจฉาดีนะ มีพระเอกคนเดียวที่เป็นผู้ชาย) ไม่ว่าจะเป็นยัยผมชมพูร่าเริง(แบบนางเอกทั่วไป), มิโกะเก๊, หัวหน้าหอพักโลลิ และน้องหมีแว่นไม่ไปโรงเรียน พร้อมกับมุกตลอดบ้าบอเต้นนกพิราบ!! 

    พูดง่ายๆ อนิเมะดำเนินเรื่องมาสองตอน สรุปแล้วเป็นอนิเมะแนวไหนกันเนี้ย!?  

    อย่างไรก็ตาม ผมก็เชื่อว่าน่าจะเป็นอนิเมะแนวฮาเร็มปักธงกระจาย เพราะเนื้อหาจะเน้นปมพวกผุ้หญิงในหอพักพระเอก โดยเฉพาะแว่นหมีดูเหมือนจะหนักกว่าใครเพื่อ (และก็ลุ้นด้วยว่าแว่นหมีอย่ามีแฟนนอกเหนือจากพระเอกนะ พระเอกก็ปักธงแว่นหมีด้วยละ) และเรื่องนี้ก็มีจุดแข็ง จุดหนึ่ง เพราะอนิเมะเรื่องนี้มีเรื่องกางเกงในเป็นตัวนำเรื่อง ดังนั้นฉากโชว์กางเกงในของผู้หญิงนั้นอลังการมาก  เออ....หมายถึง กางเกงในใส่ใจมาก ไม่ว่าจะเป็น กางเกงในลายทาง กางเกงในลูกไม้ กางเกงในผู้ใหญ่ ล้วนใส่ใจรายละเอียด กว่ากางเกงในอนิเมะเรื่องอื่นๆ หากเป็นอนิเมะเรื่องอื่นๆ จะเห็นแต่กางเกงในสีขาว ไม่ก็กางเกงไม่เข้าเนื้อ ใสเหมือนจะฉีกขาดง่าย (ไม่เชื่อดูอนิเมะสายมืดกางเกงในบางเฉียบ ฉีกขาดง่ายมากๆ) พูดตามตรงว่าไม่ได้เห็นการใส่ใจรายละเอียดของกางเกงในอนิเมะแบบนี้มานานแล้วครับ

    แม้อนิเมะเรื่องนี้เนื้อเรื่องไร้แก่นสาร เนื้อหาสุดทีน แต่กลายเป็นว่ามันเป็นอนิเมะที่ถูกใจผมโครตๆ ยอมรับเลยผมดูอนิเมะเรื่องนี้ไม่สนเนื้อเรื่อง สนแต่กางเกงใน และน้องแว่นหมี น่ารักชิบ การดำเนินเรื่องทนได้ครับ และใครทนอนิเมะเรื่องนี้ได้ยกย่องครับ

    และคุณเชื่อหรือไม่ว่า บางเว็บจัดอันดับอนิเมะเรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 3 เอาชนะพบรักในดันเจี้ยนอย่างเหลือเชื่อ!!


     

    Etotama


                 Etotama เป็นอนิเมะสร้างจากมังงะลงอยู่ในนิตยสาร
    Dengeki Daioh มาตั้งแต่ฉบับเดือนมกราคม 2014 โดย Hino Hiroma เป็นผู้วาดภาพ ส่วนอนิเมะทำโดย Shirogumi และ Tablier Communications

    Etotama เป็นเรื่องของ เนียนตัน แมวสาวที่ต้องการจะเข้าร่วมเป็น 1 ใน 12 นักษัตร ถึงไม่สำเร็จก็ไม่ละความพยายาม จนได้มาพบ เท็นโท คาเครุ นักเรียนมัธยมปลายที่อยู่คนเดียวในย่านอากิฮาบาระ ซึ่งพระเอกคาเครุนั้นมีพลังหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อเขารู้สึกขอบคุณใครสักคน พลังนี้สามารถนำไปใช้พลังงานกับน้องเหมียวได้เป็นอย่างดี ดังนั้นน้องแมวจึงเอาใจคาเครุสารพัด โดยหารู้ไม่ว่าเหล่าสาวๆ 12 นักษัตรก็ตามมาอยู่บ้านของคาเครุด้วย

    คือ.....เป็นอนิเมะที่มีจุดตำหนิค่อนข้างเยอะ พูดไม่เต็มปากว่าเป็นอนิเมะที่ดี ในบอร์ดแห่งหนึ่ง มีคนตั้งกระทู้ว่า Etotama เป็นอนิเมะที่ดูไม่รู้ คือขำก็ไม่ขำ ซีเรียสก็ไม่รู้ซีเรียสอะไร แถมในอนิเมะมีประโยคว่า “เร่งเนื้อเรื่อง”, “จบพาส A”, “อธิบายตอนหน้า” ซึ่งพวกตัวละครพูดอะไรซะ งง เลย (ขอบอกว่าในเรื่องเต็มไปด้วยประโยคปริศนาที่ไม่รู้ตัวละครพูดเรื่องอะไรกันเยอะมาก)

    ความจริงแล้วอนิเมะเรื่องนี้มันเนื้อหาง่ายๆ มาก แถมดำเนินเรื่องเส้นตรงสุดๆ คือ พระเอกย้ายบ้าน ไปเจอน้องแมว และพวกสิบสองนักษัตรเข้ามาในชีวิตพระเอก (มาอยู่อาศัยในบ้านพระเอกเรียบร้อย)

    คือง่ายๆ เป็นแนวน้องแมวต่อสู้เพื่อให้ตนเองติดอยู่ในหนึ่งในสิบสองนักษัตร แต่พอดีการดำเนินเรื่องโครตอินดี้ ไปเร็ว พระเอกในเรื่องก็น่าสงสาร ไปเช่าบ้านที่เป็นทางผ่านโลกเทพ แล้วดันอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ของเหล่าสิบสองนักษัตรที่ตนเองไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย ตัวเองมานั่งดูอย่างเดียว (คล้ายๆ กับแนวสาวปืนนั้นแหละ พระเอกหัวหลักหัวตอ แต่เรื่องนี้ดีหน่อยที่พระเอกมีความสำคัญบ้าง และมีสิทธิฮาเร็มด้วยมั้ง...)

    อนึ่งเรื่องนี้ตัวละครหญิงเยอะมากๆ หลายคนก็น่ารักนะ (น้องกระต่าย, น้องไก่) แต่กลัวว่าบทจะหายนะ เห็นว่ารวมสุดยอดคนพากย์ที่ถนัดเล่นมุกในอนิเมะด้วย โดยเฉพาะน้องแมวตัวเอกของเรื่องพูดรัวอย่างกับต่อยหอย จนบางครั้งก็แอบรำคาญ (แต่พระเอกไม่รำคาญ)    พระเอกเรื่องนี้ก็ซิวๆ มาก ไม่ตกใจ หรือลำบากใจแม้แต่น้อยที่พวกสาวๆ ยึดบ้านพระเอกเป็นรังเรียบร้อย (ฮาเร็มเหมือนจะฮาเร็ม แต่ในขณะเดียวกันเหมือนพระเอกหัวหลักหัวตออย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่เป็นบ้านของตัวเองแท้ๆ )

    ส่วนฉากต่อสู้ หลายคน ก็ งง ว่ามันจะกลายาง จิบิ (ร่างตัวเล็ก) เพื่อ? เพราะร่างปกติน่ารักกว่า ซึ่งฉากต่อสู้นั้นดูเหมือนจะเป็นไฮไลท์หลักของการ์ตูนเรื่องนี้ โดยใช้ 3D แต่ก็เนียนพอสมควร ก็สนุกระดับหนึ่ง คือมันเหมือนดูต่อสู้วีดีโอเกมแนวตัวละครน่ารัก 3D ต่อสู้กันประมาณนั้น

    พูดง่ายๆ คือ งง พอๆ Punch Line แต่เรื่องนี้น้อยกว่า เพราะอย่างน้อยไม่ต้องตั้งคำถามมากว่า “เชี่ย อะไรเนี้ย?” เพราะเข้าใจเนื้อเรื่องหลักมากกว่า และผมก็บ้าอยากดูต่อซะงั้น สงสัยผมโดนล้างสมอง



                  Nagato Yuki-chan no Shoushitsu

     


               จากอนิเมะที่ติดตามที่สุดของซีซั่น ก็มาถึงอนิเมะที่ตามแบบข้ามๆ กันบ้าง
    Nagato Yuki-chan no Shoushitsu หรือ การหายตัวไปของยูกิจัง เป็นอนิเมะที่สร้างจากมังงะภาค Spinoff ของเรื่อง Suzumiya Haruhi no Yuutsu ตามเนื้อหานิยายเล่ม 4 (ภาค Movie) วาดโดย Puyo คนเดียวกับที่วาดเรื่อง Suzumiya Haruhi-chan no Yuuutsu (ภาค SD) ที่เคยได้ทำเป็นอนิเมะมาก่อนในปี 2007  และในปี 2012 ยังวาดซีรีส์สปรินออฟของอิตสึมิในชื่อ Koizumi Itsuki-kun no Inbou ด้วย

    สำหรับเนื้อหาย่อของภาค Nagato Yuki-chan no Shoushitsu จะกล่าวถึง นางาโตะ ยูกิ สาวน้อยนักเรียนม.ปลายธรรมดาที่อยู่ชมรมวรรณกรรมของโรงเรียนเขตเหนือ เธอแตกต่างจากยูกิในภาคหลักเป็นอย่างมาก เธอไม่ใช่สาวคูลเดเระหน้าตาย ดันเดเระ” (Dandere)  เธอเป็นสาวน้อยขี้อายที่แอบชอบเคียวน์ที่เป็นสมาชิกชมรมวรรณกรรมเช่นเดียว และเธอพยายามที่จะบอกความรู้สึกนี้กับเคียวน์โดยได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากอาซากุระ เรียวโกะที่เป็นเพื่อนสนิท และแล้วเรื่องราวแนวคอมเมดี้ในรั้วโรงเรียนที่ไม่ได้ปนเรื่องเหนือธรรมชาติแบบภาคหลักจึงได้เริ่มต้นขึ้น

    สำหรับซีรีส์ต้นฉบับ Suzumiya Haruhi no Yuuutsu สร้างไลท์โนเวล เคยทำเป็นอนิเมะทางโทรทัศน์โดยบริษัท Kyoto Animation (Free!, Kyoukai no Kanata) ในปี 2006 และมีภาคใหม่ในชื่อเดิมเพิ่มจำนวนตอน ในปี 2009 จนมีภาค Movie ตามมาในปี 2010 ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าของภาคหลักในขณะนี้ (และดูเหมือนว่าคงเกิดยากเพราะกระแสฮารุฮิเริ่มชาแล้ว)

    โดยส่วนตัวช่วงหลังๆ ผมไม่ได้ตาม Nagato Yuki-chan no Shoushitsu เพราะเนื้อหาช่วงหลังๆ รักกันหวานเลี่ยงมากๆ ระหว่างเคียวน์กับยูกินี้แหละ อยากให้เคียวน์มีรูทกับสาวอื่นด้วย (แต่ก็ช่วยไม่ได้เพราะภาคนี้ยูกิเป็นนางเอกนี้เนอะ)

    สำหรับผมนั้นผมชอบนางาโตะเวอร์ชั่นคูลเดเระมากกว่าครับ แม้จะเป็นสาวคูลเดเระไร้อารมณ์ความรู้สึก แต่ด้วยบทบาทปิดทองหลังพระ และช่วงหลังๆ เวลามีปัญหาอะไรพระเอกจะปรึกษายูกิก่อนเลย และท่าทา การเดินแบบสาวเงียบนั้นโมเอะมากๆ พอมาเป็นเวอร์ชั่นดันเระแล้วรู้สึกเฉยๆ มันรู้สึกบ้านๆ ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แถมยังรู้สึกว่าไม่นะนี้ไม่ใช่นางาโตะของผม นางาโตะของผมต้องเป็นสาวคูลสิ บทน้อย นั่งนิ่งๆ สิ ไม่ใช่เป็นสาวที่เด่นขนาดนั้น (อีกทั้งเจ้าเคียวน์ก็บ่นน้อยลงอีก)

    พูดง่ายๆ ผมติดภาพลักษณ์กับของนางาโตะ ยูกิมากกว่าเวอร์ชั่นสาวขี้อายนะ เพราะนิ่งนี้แหละเธอถึงน่ารัก ไม่งั้นเธอคงไม่ติดอยู่ในสาวที่ผมชอบที่สุดหรอก

    ดังนั้นผมก็ดูอนิเมะแบบข้ามๆ ก็ดูเฉพาะช่วงที่น่าสนใจ (ก็รอฉากไปเที่ยวทะเล กับฉากนางาโตะเวอร์ชันคูลเดเระปรากฏตัว) สำหรับอนิเมะชั่นแล้วขอบอกว่าแตกต่างจากเวอร์ชั่นภาคหลักอย่างฟ้ากับเหวนรก เพราะลายเส้นตัวละครเปลี่ยนไป ตัวละครแป๋วขึ้น (ที่ผมรับไม่ได้คือฮารุฮิไม่น่ารักเท่าภาคหลักเลยครับ) ทั้งนี้เพราะสตูดิโอที่ทำคนละค่ายจากภาคหลัก โดยภาคนางาโตะทำโดย สตูดิโอ Satelight  กำกับโดย Junichi Wada ทำให้ได้อารมณ์ที่แตกต่างจากภาคหลัก

    สำหรับอนิเมะเนื้อหาออกไปโทนคอเมดี้โรแมนติกที่อาจให้อารมณ์เลี่ยนๆ บ้าง ใครที่ไม่ชอบแนวภาคโลกคู่ขนาน ลายเส้นเปลี่ยน เนื้อเรื่องเนิ่บๆ ก็ข้ามไปเถอะ ส่วนตัวผมก็ดูเพราะอยากให้นางาโตะภาคคูลปรากฏตัวเท่านั้นเอง

     

    Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru Darou ka

    Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru no Darou ka หรือ มันผิดรึไงถ้าใจอยากจะพบรักในดันเจี้ยน น่าจะเป็นอนิเมะที่เป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ เป็นอนิเมะจากนิยายของ Oomori Fujinoภาพประกอบนิยายโดย Yasuda Suzuhitoสำนักนักพิมพ์ Bunko imprint (ในไทย LC โดย Zenshu)

    อนิเมะได้กล่าวถึงเมืองวงกตโอราริโอ คือเมืองขนาดใหญ่ซึ่งมีทางวงกตใต้ดินขนาดมหึมาที่เรียกว่า ดันเจี้ยนที่นั้นได้เป็นศศูนย์รวมของนักผจญภัยจากทั่วทุกมุมที่เข้ามาเพื่อสำรวจ ยิ่งสำรวจลึกเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นคนมีชื่อเสียง และผู้คนต่างนับถือ

    แน่นอนว่าหนุ่มน้อย “เบล” ก็เป็นหนึ่งในนักผจญภัยเหล่านั้น หากแต่เขาเป็นเพียงนักผจญภัยมือใหม่ที่ไม่ได้เก่งอะไรมากมาย จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาถูกมอนสเตอร์ที่ระดับสูงกว่าไล่ล่า แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือโดย “ไอซ์ วาเลนไตน์” สาวนักผจญภัยระดับเลเวลสูง การมาของเธอนั้น ทำให้เขาตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น และทำให้เขาตั้งใจที่จะเป็นนักผจญภัยที่มีระดับเทียบเคียงกับเธอให้ได้ และได้สกิลใหม่ “เทพทรู” อัฟเลเวลกระจุย หากเขายังรู้สึกรักไอซ์อยู่

    Dungeon ni Deai wo Motomeru no wa Machigatteiru no Darou ka นั้นถือได้รับความนิยมพอสมควร นิยายมียอดขายมากกว่า 500,000 เล่ม จนถูกนำไปเขียนในเวอร์ชั่นมังงะถึง 3 ชุดด้วยกัน (ภาคหลัก ภาคไอซ์ และท่านเทพ)  สำหรับตัวนิยายนั้นถือว่าคุณภาพดีมากๆ คือภาพสวย การเคลื่อนไหว อีกทั้งเนื้อหาอนิเมะก็ถือว่าเก็บรายละเอียดดี (ความยาวสามตอนอนิเมะเท่ากับจบนิยายหนึ่งเล่ม)

    อย่างไรก็ตาม กระแสอนิเมะเรื่องนี้แปลกนิดหน่อย ตรงที่สิ่งที่หลายคนกล่าวถึง ไม่ใช่เรื่องของพระเอก แต่กลับเป็นการแต่งกายของเทพแฮสเตีย เทพแห่งเตาไฟของกรีก ทั้งชุดชั้น และเด่นสุดริบบิ้นดันหน้าอกให้เข้ารูปสวยงาม ทั้งๆ ที่ตัวเตี้ยแท้ๆ ซึ่งต่อมีทั้งคนฝรั่ง คนญี่ปุ่น คอสเพลย์ท่านเทพ (ทั้งแบบจริงจัง และแบบเสื่อม) เรียกได้ว่าท่านเทพขโมยซีนไอซ์จนเรียบวุธ

    ยอมรับว่าผมชอบท่านเทพเหมือนกันนะเออ

    สำหรับไทยเรา ก็ได้รับความนิยมพอสมควร เพราะสนุกใช้ได้ แต่โดยส่วนตัวผมแล้ว ในด้านเนื้อหานั้นก็ไม่ได้แปลกใหม่อะไร จนบางช่วงผมรู้สึกเบื่อด้วยซ้ำ เพราะยังคงวนเวียนอยู่กับ แนวดันเจี้ยน เก็บเลเวล พระเอกกาก ฝึกวิชาเก่งขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่งสูตรเหล่านี้พบเห็นทั่วไป เพียงเอากลับมาใหม่ใส่อะไรน่าตื่นตาตื่นใจนิดหน่อยก็เข้าได้แล้ว

    สรุป ท่านเทพจะน่ารัก โลลินมโต ส่วนที่เหลือก็ดูได้เรื่อยๆ แต่ส่วนตัวผมแล้ว คิดว่าจะไม่ตามต่อครับ (เพราะดูมังงะแล้ว ขี้เกียจดูนิยาย แนวฮาเร็มไม่เชิงนี้ผมไม่ค่อยติดตามสักเท่าไหร่)

     

    Arslan Senki

    The Heroic Legend Of Arslan  หรือ "ผู้กล้าแห่งอัสลัน" มีต้นฉบับมาจากนิยายเรื่อง อัสลันเซนกิ นิยายแนวแฟนตาซีอิงประวัติศาสตร์ของ โยชิกิ ทานากะ ซึ่งเริ่มเขียนขึ้นในปี 1986 คุณโยชิกิเขียนเรื่องนี้ออกมาต่อเนื่องจนปัจจุบันถึง 14 เล่ม และประสบความสำเร็จพอสมควร นิยายถูกแปลงเป็นมังกะครั้งแรกในปี1991-1996 โดยสำนักพิมพ์ kadokawa จำนวน13เล่ม (ลายเส้นออกไปทางการ์ตูนผู้หญิงหน่อย)  และถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเม2ภาคในปี1991และ1992 มีOVAอีก 4ตอนในปี 1993-1996 ล่าสุดได้กลับมาทำใหม่ โดยผู้วาดอาราคาวะ ฮิโรมิ (Full Metal Alchemist, Silver Spoon) ปัจจุบันผู้กล้าแห่งอัสลันของอาจารย์วัวได้ลิขสิทธิ์โดยวิบุลย์กิจ

    เนื้อเรื่องของ ผู้กล้าแห่งอัสลันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าชายที่มากอบกู้อาณาจักรของพระองค์ที่ถูกแย่งชิงไป โดยเนื้อเรื่องกล่าวถึงเจ้าชาย อัสลัม” (ความจริงแล้วอัสลัมเป็นชื่อคน ส่วนชื่อประเทศที่เจ้าชายอยู่เรียก พารุส”) ที่อ่อนแอในประเทศที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง หากแต่ประเทศของตนกลับพ่ายแพ้สงครามอย่างไม่คาดคิด จนเมืองถูกยึดจากศัตรู สุดท้ายเจ้าชายที่อ่อนแอได้เติบโตขึ้นและกอบกู้ประเทศของตนเอง

                ถือว่าเป็นอนิเมะที่ฮิตอย่างเงียบๆ แต่สำหรับผมก็ดูมังงะมาแล้ว เลยไม่ได้ตื่นเต้นสักเท่าไหร่ ก็ถือว่าภาพใช้ได้ เห็นว่าสมัยก่อนถือว่าเรื่องดังพอสมควร (แถมเป็นแนวจิ้นวาย พระเอกกับองค์รักษ์ ผมว่าราชวงศ์พระเอกมันไม่ได้ล่มสลายเพราะศัตรูหรอก มันจะไม่มีทายาทนี้สิ)

                ก็เป็นการ์ตูนเก่า พล็อตการ์ตูนเก่าๆ ก็ตามสูตร ตอนแรกๆ พระเอกอ่อนแอ เป็นเจ้าชาย โดยศัตรูยึดอำนาจ พระเอกกับพรรคพวกกลับมากอบกู้ประเทศของตน สูตรนี้สมัยก่อนเขาเลิกฮิตครับ  แต่พอมาทำใหม่นี้ก็ถือว่าน่าติดตามระดับหนึ่ง ตัวละครต่างจากอนิเมะเก่าๆ ด้วย ทำให้ได้อีกรสชาติหนึ่ง แถมพระเอกหน้าเหมือนหนูเอ็ด (แขนกลฯ) อีกต่างหาก ถามจริง อาจารย์วัวนี้หากวาดการ์ตูนเรื่องไหน พระเอกต้องเป็นเอ็ดเสมอใช่เปล่าหว่า

                สำหรับใครหวังว่าจะมีสาวสวยปรากฏในเรื่องก็ทำใจสักนิดครับ หายากจริงๆ เจอแต่หนุ่มๆ จิ้นวายกระจาย หากใครไม่สน ก็ถือว่าสนุกดีนะครับ แม้จะเป็นสูตรสำเร็จ แต่มันก็ทำให้สนุกได้ โดยเฉพาะฉากการต่อสู้สงครามที่รุนแรง นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องศาสนา ชาติพันธุ์เข้าไปเกี่ยงข้อง และพระเอกจะกู้อาณาจักร สิ่งเหล่านี้ทำให้เนื้อหาน่าติดตามมากขึ้น

                แต่ส่วนตัวแล้วผมไม่ตามต่อนะครับ อ่านมังงะมาแล้ว และไม่ค่อยถูกสเป็กแนวกอบกู้อาณาจักรสไตล์การ์ตูนเก่าอารมณ์เจ้าชายทะเลทรายโมโสโปเตเนียสักเท่าไหร่

     

    ก็จบลงไปแบบซิวๆ  (ที่ออกจะน่าเบื่อ) สำหรับการติดตามอนิเมะซีซั่นนี้ของผม ที่ปัจจุบันกำลังใช้สมาธิอย่างมากกับการดูอนิเมะ กางเกงในงามมาก กับ ศึก 10 12 นักษัตรอยู่

    แม้ว่าการรีวิวในครั้งนี้จะน่าเบื่อไปหน่อย แต่ซีซั่นหน้า ขอบอกว่ามีอนิเมะหลายเรื่องที่ผมอยากติดตาม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×