คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #334 : เรื่องก็อปๆ ของเกาหลีใต้กับการ์ตูนญี่ปุ่น
สำหรับบทความนี้เป็นการรีเควสของ “นักรบจอมเวทย์แห่งสายฟ้า” ว่าอยากให้ผมเขียนถึงการ์ตูนเกาหลี ซึ่งความจริงผมก็ไม่ค่อยได้อ่านการ์ตูนเกาหลี หรือมีความรู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่ เอาเป็นว่าผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยมานี้นะครับ
ก่อนอื่นขอออกตัวว่าบทความนี้ไม่ได้ต้องการสร้างความเกลียดชัง เพียงแค่ต้องการให้หลายคนเข้าใจว่าที่ผ่านมาเกาหลีใต้ได้ก็อปการ์ตูนของญี่ปุ่นอะไรบ้าง ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่การใส่ร้ายหรือกล่าวอ้างแต่อย่างใด
พฤติกรรม “ก็อป” เป็นพฤติกรรมที่น่ารังเกียจมากสำหรับหลายคน ซึ่งคนก็อปถูกมองว่ามันขโมยความคิดที่น่าหน้าด้านที่สุด เพราะกว่าที่ผลงานหนึ่งๆ จะสร้างสรรค์ออกมาผู้พัฒนาต้องใช้เวลาหลายปีกว่าที่จะสร้างออกมา หากแต่มีคนบางจำพวกเพียงแค่ “ก็อป” ลอกเลียนแบบ ดัดแปลง เปลี่ยนชื่อ ก็ได้ผลงานที่ไม่แพ้ต้นฉบับ แถมยังได้กำไรมากกว่าต้นฉบับด้วยซ้ำ และน่าเจ็บใจที่สุดคืออ้างว่าตนเองเป็นผู้คิดค้นชนิดหน้าด้านหน้าทนเป็นที่สุด
และเกาหลีใต้คือตัวอย่างการก็อปที่ว่า.....
เกาหลีใต้ถือว่าประเทศนักก็อป ก็อปที่ว่านั้นไม่ได้ก็อปผลิตภัณฑ์ ของเก๊เหมือนประเทศจีน ถ้าเป็นแบบนี้คงสบายใจหลายฝ่ายมากกว่า หากแต่เกาหลีใต้เป็นนักก็อปวัฒนธรรมหลายประเทศ แล้วอ้างว่าเป็นของตัวเองมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ก็อปเยอะมาก อย่างมวยไทยของประเทศไทยเราก็ก็อปเอารูปแบบมาทั้งดุ้นแล้วเปลี่ยนชื่อใหม่แล้วอ้างว่าเป็นกีฬาของตนเอง เป็นต้น
“ญี่ปุ่นตกอยู่ในอันตราย”
เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น แนะนำให้หลายคนดูคลิป “ญี่ปุ่นตกอยู่ในอันตราย” เมื่อเกาหลีใต้ก็อปวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ซึ่งจะพบว่ามีหลายอย่างมากที่ก็อป ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อรถยนต์, ของกิน, ยี่ห้อขนม ไปจนถึงศิลปะต่อสู้ประจำตัว แน่นอนว่าในคลิปประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่โดนหนักที่สุดที่ถูกเกาหลีก็อปวัฒนธรรมแล้วอ้างว่าเป็นของตนเอง
อย่างที่รู้ๆ กัน ประเทศเกาหลีใต้ กับประเทศญี่ปุ่น ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่ สาเหตุง่ายๆ เพราะประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นบุกรุกเกาหลีเหนือบ่อยครั้ง ที่น่าจดจำคือสมัยโทโยโตมิ ฮิเดโยชิเรืองอำนาจนั้นเคยรุกรานเกาหลี แม้ว่าทหารญี่ปุ่นจะไม่ประสบความสำเร็จในการรุกรานเกาหลีก็ตาม แต่กระนั้นทหารญี่ปุ่นก็ได้ฆ่าทหารเกาหลีและพลเรือนเกาหลีเป็นจำนวนมากมาย
และนอกจากนี้สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 จักรวรรดิญี่ปุ่นก็รุกรานเกาหลีและฆ่าพลเรือนเกาหลีเป็นจำนวนมาก แม้จนบัดนี้เวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไหร่ก็ตามคนเกาหลีก็ไม่ถูกญี่ปุ่น จนมีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่บ่อยๆ อย่างล่าสุดก็เป็นเรื่องการอ้างเป็นกรรมสิทธิ์ในหมู่เกาะที่เต็มไปด้วยทรัพยากรอันล้ำค่าที่ต่างฝ่ายต่างอ้างว่าเป็นเจ้าของดินแดน
จนถึงปัจจุบันสองประเทศนี้ก็ไม่ถูกกัน แม้ว่าญี่ปุ่นจะนำวิทยาการใหม่ๆ มาสู่เกาหลี (ใต้) ทำให้พัฒนาอย่างรวดเร็ว แต่เกาหลี (ในที่นี้ผมขอพูดแค่เกาหลีใต้อย่างเดียวนะครับ) ก็ไม่ยอมรับด้านดีของญี่ปุ่นนี้แม้แต่น้อย ซ้ำยังก็อปวัฒนธรรมของญี่ปุ่น แล้วอ้างว่าเป็นของประเทศตนเอง ที่คิดค้นขึ้นมาตั้งแต่แรก และแน่นอนวัฒนธรรมของญี่ปุ่นที่ว่าก็รวมไปถึงมังงะของญี่ปุ่นด้วย
Tonchamon
หากพูดถึงการ์ตูนเกาหลีก็อปการ์ตูนญี่ปุ่นนั้นมีเรื่องน่าตกใจอยู่อย่างหนึ่ง คือทุกวันนี้มีชาวเกาหลีบางคนมีความเชื่อฝังใจว่าการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องเป็นของเกาหลี!! กล่าวคือเคยมีการสัมภาษณ์นักแสดงเกาหลียูน ซอน ฮาที่ทำงานในวงการบันเทิงของญี่ปุ่น ได้เปิดใจว่าเธอเติบโตมาโดยคิดมาโดยตลอดว่าโดเรมอนนั้นเป็นการ์ตูนของเกาหลี และญี่ปุ่นไม่ได้เป็นคนคิดค้น!!
โดเรมอนเป็นการ์ตูนขึ้นหิ้วคลาสิกของวงการการ์ตูนญี่ปุ่นที่สร้างสรรค์ผลงานโดยฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ และเผยแพร่โดยสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นโชงะกุกัง หากแต่ประเทศเกาหลีใต้ก็อปโดเรมอน โดยดัดแปลงเพียงเล็กน้อย และตั้งชื่อให้ใหม่ว่า Tonchamon และอ้างว่าเป็นของตัวเองเฉย
คุณคงคุ้นเคยกับชื่อ เจ้าหนูอะตอม (Astro Boy), รันม่า ½, มาชินก้า Z และโปเกมอน เพราะเป็นการ์ตูนขึ้นหิ้งของญี่ปุ่นที่คลาสสิกตลอดกาล แต่คุณรู้จัก เจ้าหนูสายฟ้า (Lightning Boy), เทวันโด V (Tae Kwon VX) และ รัมบ้า 1/3 (Ramba 1/3) หรือไม่ ขอบอกว่าสามชื่อหลังเป็นการ์ตูนเกาหลี
เจ้าหนูสายฟ้า
จะเขียนว่าเกาหลีก็อปการ์ตูนญี่ปุ่นดังๆ หลายเรื่อง อย่างเจ้าหนูอะตอม ผลงานอมตะของเทสึกะ โอซามุ ก็ก็อปดัดแปลงกลายเป็นเจ้าหนูสายฟ้า
รัมบ้า 1/3
แม้แต่การ์ตูนคลาสสิกอย่างรันม่า ½ ของทากาฮาซิ รูมิโอะก็ถูกก็อป โดยเกาหลีนำมาดัดแปลงในชื่อ รัมบ้า 1/3 โดยตัวละครในเรื่องยังคงเหมือนรันมา ไม่ว่าเป็นหมีแพนด้า ไปจนถึงตัวละครอื่นๆ ในซีรีย์ของรูมิโอก อย่าง ลามู (สาวน้อยบิกีนี่ลายเสือ) ปรากฏอยู่ด้วย
เทควันโด Z
มาชินก้า Z หุ่นยนต์สายบ้าพลังของญี่ปุ่นก็ถูกเกาหลีเอาไปดัดแปลงเหมือนกันในชื่อเทควันโด Z ซึ่งเป็นอนิเมะตั้งแต่ปี 1970 เพื่อหวังให้เป็นอนิเมะหุ่นยนต์ยักษ์เกาหลีเรื่องแรก โดยมีจุดเด่นคู่หุ่นยนต์จะใช้เทควันโดศิลปะประจำชาติเหาหลีเข้าต่อสู้ ซึ่งชื่อก็รู้ทันทีว่ามาจากมาชินก้า Z แถมการออกแบบเหมือนกันอีกต่างหาก นอกจากนี้ศัตรูของหุ่นยนต์ก็ก็อปจากหุ่นยนต์ในอนิเมะเรื่องอื่นๆ อย่างไรก็ตามผู้ผลิตเกาหลีจริงๆ จังๆ กับเรื่องนี้มากถึงขั้นมีการประกาศเป็นภาพยนตร์ (แต่ล้มเลิกไปเพราะไม่มีเงินทุน รวมไปถึงสร้างสวนสนุก “ดินแดนแห่งหุ่นยนต์” (คงก็อปแหลกเช่นเคย) ด้วยซ้ำ
Powermon และ Wa Peace
ส่วนโปเกมอนถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Powermon และวันพีช (One Piece) เปลี่ยนชื่อเป็น Wa Peace ทั้งสองเรื่องดัดแปลงตัวละครเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แน่นอนว่ายังมีการ์ตูนญี่ปุ่นอีกหลายเรื่องที่เกาหลีใต้ก็อปเป็นของตัวเอง และเกาหลีก็เคยมีความคิดที่จะก็อบ “โทโทโร่เพื่อนรัก” และ “กัมดั้ม” เป็นของตนเองด้วยซ้ำ (กัมดั้มเกาหลีนำมาก็อปดัดแปลงในชื่อ กัมดั้ม V แม้เนื้อหาและตัวหุ่นจะไม่เหมือนกัมดั้ม เหมือนมาครอสมากกว่า แต่ตัวละครที่เป็นตัวเอกนั้นเหมือนอามุโร่มาก) และนั้นไปแปลกแต่อย่างใดเกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาและวัฒนธรรมกับหลายประเทศทั่วโลกอยู่บ่อยๆ
คำถามที่ตามมาคือเหตุใดเกาหลีถึงก็อปการ์ตูนญี่ปุ่น แล้วอ้างว่าเป็นของตนเองแบบหน้าไม่สะท้าน
คำถามนี้พูดยาก หากตอบแบบง่ายๆ การก็อปนั้นเป็นเรื่องที่พบเห็นปกติในหลายประเทศ แม้แต่ประเทศไทยเราเองก็เคยก็อปโดเรมอนเป็นของตัวเองมาแล้ว อีกทั้งยังมีการละเมิดลิขสิทธิ์จนชาชินด้วยซ้ำ
ยิ่งของที่ก็อปดังมากเป็นที่รู้จักมาก ก็ยิ่งมีคนสนใจก็อปเมื่อนั้น
การ์ตูนของญี่ปุ่นนั้นไม่ว่าจะเป็นอนิเมะและมังงะ ถือว่าเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่ญี่ปุ่นเท่านั้น แต่เป็นทั่วโลก ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นเองก็ส่งเสริมให้อนิเมะและมังงะ เพราะสิ่งเหล่านี้แหล่งรายได้ อีกทั้งยังเป็นตัวประชาสัมพันธ์ทำให้ทั่วโลกรู้จักประเทศญี่ปุ่นด้วย
แม้แต่ประเทศเกาหลีใต้เอง การ์ตูนญี่ปุ่นก็ได้รับความนิยมอย่างสูง แม้ว่าจะมีอยู่ช่วงหนึ่งที่รัฐบาลจะพยายามปิดกั้นวัฒนธรรมของญี่ปุ่นตลอดปี 1970-1980 เพราะพวกเขากังวลว่าวัฒนธรรมญี่ปุ่นจะกลืนกินวัฒนธรรมของคนเกาหลี
อย่างที่หลายคนรู้ประเทศเกาหลีถือว่าเป็นประเทศที่ชาตินิยมสูงมาก เพราะอดีตผ่านอะไรมาเยอะ แถมส่วนมากก็เป็นเรื่องเจ็บปวดทั้งสิ้น เพราะประเทศเพื่อนบ้านของเกาหลีล้วนเป็นประเทศมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็น จีน, ญี่ปุ่น ซึ่งสมัยโบราณเกาหลีก็เคยถูกจีนรุกรานและเป็นลูกไล่อยู่บ่อยครั้ง ญี่ปุ่นเองก็รุกรานและพยายามใช้วัฒนธรรมญี่ปุ่นกลืนกินประเทศเกาหลี
ประเทศญี่ปุ่นนั้นเป็นหนึ่งประเภทที่มีความคิดที่สร้างสรรค์ และมีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่เจริญรุ่งเรืองมาก หากแต่สำหรับเกาหลีนั้นวัฒนธรรมดั้งเดิมของพวกเขาแทบจะหายสาบสูญไปเกือบหมด เพราะต้องตกเป็นเมืองขึ้นของจีน ทำให้วัฒนธรรมส่วนใหญ่ของเกาหลีมาจากการรับวัฒนธรรมจากจีน ซึ่งหลายอย่างแทบไม่มีการดัดแปลงอะไรเลย
นอกจากนี้ เกาหลีสมัยก่อนเป็นประเทศที่ล้าหลังมาก ก่อนที่ความเจริญและพัฒนาด้านต่างๆ จะเกิดขึ้นด้วยการช่วยเหลือของญี่ปุ่นและรัสเซีย ซึ่งญี่ปุ่นช่วยเหลือเกาหลีเยอะมากไม่ว่าจะเป็นยกเลิกระบบชนชั้นของเกาหลี สร้างโรงเรียน สร้างมหาวิทยาลัย เพื่อให้ชาวเกาหลีเรียนรู้วิชาการสมัยใหม่
แน่นอนว่าเกาหลีจะไม่เคยยอมรับการช่วยเหลือของญี่ปุ่นมากนัก (เพราะพวกเขาจดจำด้านร้ายของญี่ปุ่นมากกว่า) อีกทั้งยังขโมยวัฒนธรรม รวมไปถึงปัจจุบันก็ขโมยผลิตภัณฑ์ดังๆ ของญี่ปุ่น (เช่นพวกเครื่องดื่ม) เป็นของตนเองอีกต่างหาก
รวมไปถึงการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย
ในด้านการพัฒนาเรื่องการ์ตูน ช่วงแรกๆ การ์ตูนเกาหลีพัฒนาช้ามาก แทบไม่ขยับด้วยซ้ำ ซึ่งตอนแรกการ์ตูนเกาหลีมีอิทธิพลมาจากการ์ตูนของตะวันตก ซึ่งการ์ตูนเกาหลีเรียกอีกอย่างว่า มันฮวา (Manhwa) ความหมายคล้ายๆ มังงะญี่ปุ่น หมายถึงภาพวาดเล่าเรื่องราว และอ่านจากซ้ายไปขวาเหมือนของตะวันตก
หลังจากที่เกาหลีใต้ประตูให้วัฒนธรรมให้ญี่ปุ่นในยุค 90การ์ตูนเกาหลีก็เริ่มมีสไตล์เขียนแบบมังงะญี่ปุ่นคือลายเส้นเหมือน การตีช่องต่างๆ สไตล์มังงะสากล การ์ตูนเกาหลีเริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีหลายแนวมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นเด็กผู้หญิง การ์ตูนเด็กผู้ชาย และเริ่มวาดการ์ตูนสไตล์มังงะมากขึ้นด้วย แน่นอนว่าเกาหลีใต้ก็ก็อปการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องในช่วงนี้ด้วย
แม้เกาหลีจะก็อปการ์ตูนญี่ปุ่น หากแต่สังเกตแบบลึกๆ เกาหลีกำลังมองหาลักษณะเฉพาะการ์ตูนของตัวเองอยู่ การ์ตูนที่เกาหลีก็อปส่วนมากเป็นการ์ตูนดัง ส่วนมากเป็นการ์ตูนสำหรับเด็กผู้ชาย และเป็นการ์ตูนสมัยก่อน ซึ่งเกาหลีพยายามที่จะเรียนรู้เหล่านี้เพื่อนำมาต่อยอดการ์ตูนของพวกเขาในอนาคต โดยเฉพาะวงการอนิเมชั่นของเกาหลีซึ่งช่วงนั้นยังตั้งไข่อยู่
ซูเปอร์เด็ก?
เป็นต้นว่าการ์ตูนเรื่อง ในปี 1996 มีการเปิดตัวการ์ตูนที่ชื่อ Super Kid ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อหาของการ์ตูนลอกเลียนแบบการ์ตูนดราก้อนบอล (และดราก้อนบอล Z) เหมือนกันอย่างกับแกะ ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่เหมือนซุนโกคู และบลูม่า โดยเนื้อหาเกิดขึ้นในปี 2023 เด็กสาวคนหนึ่งชื่อ Eunjoo (หน้าเหมือนบลูม่า) กำลังตามจับอาชญากรและได้ไปพบเด็กชายคนหนึ่งชื่อ Gokdari (เหมือนซุนโกคู) ที่เก่งเกินมนุษย์ เธอเลยขอความร่วมมือกับเด็กคนนั้นเพื่อช่วยกันจับอาชญากร
Micro Commando Diatron 5
ไม่เพียงอนิเมะหุ่นยนตร์ยักษ์เทควันโด Z เท่านั้น เกาหลีก็พยายามทำอนิเมะหุ่นยนต์หลายเรื่อง และเกือบทุกเรื่องก็อปหุ่นยนตร์จากญี่ปุ่นอีกเช่นเคย อย่างเรื่อง Micro Commando Diatron 5 เป็นภาพยนตร์อนิเมะฉายประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อปี 1985 โดยมีเนื้อหาสูตรสำเร็จที่พวกพระเอกขับหุ่นยนต์เพื่อป้องกันจักรวาบจากเหล่าศัตรู ซึ่งก็มีปัญหาอีกเพราะหุ่นยนต์ยักษ์ที่ปรากฏในเรื่องก็เอาหุ่นในอนิเมะของญี่ปุ่นมาทำหลายเรื่อง เช่น Takara Diaclone (ทรานส์ฟอร์เมอร์สของญี่ปุ่น), Space Runaway Ideon, Round Vernier Vifam และยังมีหุ่นยนต์ชื่อดังจากอนิเมะ Trooper Votoms
Iron Man 007
ในปี 1976 เป็นช่วงที่ตึงเครียดระหว่างเกาหลีและญี่ปุ่น (ปลายปี 1970/ต้นศตวรรษที่ 1980) ส่งผลทำให้อนิเมะญี่ปุ่นไม่ถูกนำไปเข้าฉายในเกาหลี แต่กระนั้นเกาหลีก็มีภาพยนตร์อนิเมะหลายเรื่อง (ซึ่งเป็นสไตล์เด็กดี) และมีอนิเมะมากมายหลายเรื่องที่ใช้ตัวละครจากญี่ปุ่นโดยไม่ได้รับอนุญาต อย่างเรื่อง Iron Man 007 ความยาวประมาณ 61 นาที เนื้อหาก็ยังคงเป็นแนวหุ่นยนต์สไตล์เด็กดู ที่เป็นเรื่องมนุษย์ผู้รับเลือก 4 คนมาจับหุ่นยนต์ยักษ์ต่อกรกับศัตรูจากต่างหาว (ซึ่งเป็นพล็อตดังสมัยนั้น) โดยตัวอนิเมะเกาหลีเรื่องนี้ ชุดสูทตัวละครที่สวมคล้ายกับนินจาวิหค Gatchaman ตัวละครจากสตูดิโอทัตสึโนโกะโปรดักชั่น (Tatsunoko Production) และตัวหุ่นยนต์คล้ายกับ Gaiking
Space Gundam V
หลายคนที่เป็นแฟนกัมดั้ม รู้จักทุกภาค แต่เชื่อว่าหลายคนอาจไม่รู้จักกัมดั้ม V หรือ Space Gundam V เป็นภาพยนตร์ซีรีย์ ฉายในปี 1983 ซึ่งเนื้อหาไม่เกี่ยวกับซีรีย์กัมดั้มของญี่ปุ่นแต่อย่างใด หากแต่ตัวหุ่นยนตร์นั้นคล้ายกับหุ่นยนตร์ยักษ์ Macross และพระเอกเหมือนอามุโร่ เรย์ พระเอกจากกัมดั้มภาคแรก ปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้ยังคงให้บริการในรูปแบบดีวีดีในเกาหลีใต้
Johnny Destiny, Space Ninja
บางครั้งการก็อปของเกาหลีก็ทำอะไรให้เรารู้สึกตลกเหมือนกัน เป็นต้นภาพยนตร์อนิเมะเก่าๆ เรื่อง Johnny Destiny, Space Ninja ซึ่งเห็นชัดเจนว่าตัวอนิเมะก็อปตัวละครจากเรื่องกัมดั้ม พระเอกหน้าเหมือนอามูโร่ ที่ตลกคือพระเอกใส่ชุดเหมือนชาร์ อัสนาเบิล (แต่ชุดเป็นสีดำ แทนที่จะเป็นสีแดง) แถมนางเอกหน้าเหมือนอาร์ทีเซีย (น้องสาวของชาร์) ส่วนตัวร้ายก็ก็อปมาจากโดซูล ซาบี้อย่างกับแกะ เพียงแค่สีผิวมีสีเขียว
Wonder Princess!
ไม่เพียงแค่การ์ตูนญี่ปุ่นเท่านั้นที่เกาหลีเอาตัวละครไปใช้ แม้แต่การ์ตูนฮีโร่อเมริกาที่ดังๆ ก็ปรากฏในการ์ตูนเกาหลีมาแล้ว อย่างเรื่อง Wonder Princess! ภาพยนตร์อนิเมะที่ฉายในปี 1978 ซึ่งตัวเอกในเรื่องเหมือนฮีโร่หญิงวันเดอร์วูแมนอันโด่งดัง
Black Star vs. Golden Bat
แบทแมนฮีโร่รัตติกาลก็ปราฏในการ์ตูนเกาหลีเหมือนกัน เมื่อปี 1967 เกาหลีเปิดตัวอนิเมะเรื่อง Black Star vs. Golden Bat แน่นอนว่าตัวเอกอนิเมะนั้นละม้ายคล้ายกับแบทแมน ไม่ว่าจะเป็นชุด และสัญลักษณ์บนหน้าอก เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างคือแบทแมนในอนิเมะลงสีสันแสบตามากๆ เท่านั้นเอง....
UFO Alien Ride
ภาพยนตร์อมตะอย่างอีทีก็ไม่เว้น การ์ตูนเกาหลีเรื่อง UFO Alien Ride ฉายในปี 1984 ก็มีเนื้อหาคล้ายๆภาพยนตร์อีที (ET) ที่ฉายเมื่อปี 1983 ที่เหล่าเด็กๆ ต้องพามนุษย์ดาวที่หลงมายังโลกเรากลับบ้านเกิด ซึ่งมนุษย์ต่างดาวเกาหลีก็ยังเหมือนมนุษย์ต่างดาวอีที พร้อมกับฉากอมตะอย่างเด็กขับจักรวาลสุดคลาสสิกก็มีปรากฏในตัวอนิเมะด้วย
การ์ตูนอนิเมะเกาหลีเกือบทุกเรื่อง สามารถหาดูได้อินเทอร์เน็ต (บางเรื่องก็มีแปลเป็นเสียงภาษาอังกฤษได้) ซึ่งเนื้อหาของการ์ตูนเป็นการ์ตูนเด็กสมัยก่อน เห็นได้ชัดว่าเกาหลีเองพยายามวางรากฐานอนิเมะเหมือนกับคนญี่ปุ่น ซึ่งสมัยก่อนวงการอนิเมะญี่ปุ่นก็เริ่มมาจากการ์ตูนเด็กผู้ชาย ปราบธรรม กับหุ่นยนตร์ยักษ์ความใฝ่ฝันของเด็กผู้ชายแบบนี้เหมือนกัน
เนื่องจากผมไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องการ์ตูนเกาหลี แต่ก็พอเดาได้ว่าสมัยก่อนนั้นการขโมยความคิด ขโมยลิขสิทธิ์ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่เหมือนในปัจจุบัน และญี่ปุ่นเองก็ไม่อยากจะยุ่งเรื่องนี้นัก (เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นเรื่องละเอียดอ่อน)
ที่น่าสนใจคือภาพยนตร์อนิเมะที่กล่าวถึง (Robot Taekwon V (1976), Wonder Princess! (1978) พวกแนวหุ่นยนตร์ยักษ์หลายๆ เรื่อง) ส่วนใหญ่เป็นผลงานของ Kim Cheong-gi ซึ่งถือว่าเป็นผู้บุกเบิกสำคัญของของวงการอนิเมะของเกาหลีใต้ แม้ว่าอนิเมะส่วนใหญ่จะลอกหรือได้รับแรงบันดาลใจจากหุ่นยนต์ยักษ์ญี่ปุ่น เพราะส่วนตัวเขาเองก็เชื่อชอบการ์ตูนญี่ปุ่นหรือการ์ตูนญี่ปุ่นบ้าง แต่กระนั้นเราก็ยอมรับว่าเขามีส่วนทำให้อนิเมะของเกาหลีมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดด จนถึงตอนนี้อนิเมะเกาหลีมีอนาคตกว่าของไทยด้วยซ้ำ
พฤติกรรมก็อปขโมยความคิดอาจเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ เพราะมันผิดต่อต้นตำรับ ไม่ให้เเครดิตต้นตำรับ หากแต่มองอีกแง่แล้วการก็อปของเกาหลีคือการ “ต่อยอด” ทำให้ทุกวันนี้เกาหลีเจริญในหลายๆ ด้าน เอาต้นตำรับมาปรับปรุงพัฒนาให้มันดีขึ้น
ในด้านการ์ตูนนั้นช่วงแรกๆ เกาหลีอาจก็อปญี่ปุ่น แต่เกาหลีก็ไม่ได้ก็อปแล้ววางแล้วจบ หากแต่เกาหลีมีการปรับปรุงพัฒนาเรื่อยมา จนสามารถหาจุดในแบบของตัวเองได้ (ไม่ได้หมายถึงเอกลักษณ์ เพราะถึงยังไงเกาหลีก็ใช้สไตล์มังงะวาดการ์ตูนอยู่ดี หากแต่หมายถึงเส้นทางที่ควรเดิน ทำยังไงให้ออกมาน่าสนใจ ) ทำให้ปัจจุบันการ์ตูนเกาหลีมีพัฒนาการที่ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านมังงะ หรืออนิเมะ มีนักเขียนเกาหลีเกิดใหม่หลายคน และการ์ตูนก็เริ่มเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก
มองเกาหลีก็อปการ์ตูนญี่ปุ่น ก็หันมาดูบ้านเรา ซึ่งบ้านเราเองก็นักก็อปการ์ตูนไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นก็อปโดเรมอน (ดัดแปลงและเปลี่ยนชื่อเป็น ไดโรมอน) ก็อปการ์ตูนดีสนีย์ (เช่น โฉมงามกับเจ้าชายอสูร) แต่การก็อปของไทยไม่เจริญเหมือนเกาหลีเลย เพราะเราก็อปแล้ววาง ไม่เคยปรับปรุง หรือเป็นรากฐานอะไรเลย อีกทั้งการก็อปของเรายังทำให้โดนต่างชาติดูถูกว่าเป็นการก็อปชั้นเลว (คุณภาพดร็อป) จนถึงปัจจุบันเราแต่ฝันการ์ตูนไทยไปเวทีโลกเท่านั้น
ความคิดเห็น