ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #319 : Bonfire NEET ตามติดชีวิตนีทกองไฟ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.99K
      0
      23 ธ.ค. 57

    หากจะพูดถึงเกม RPG ที่มีเนื้อเรื่องที่น่าประทับใจมากที่สุด รู้จักมากที่สุด หนึ่งในนั้นคงมีชื่อของ “ดราก้อนเควส 5”  เป็นอันดับต้นๆ

    ดราก้อนเควส (Dragon Quest) เป็นเกมภาษาที่กลายเป็นตำนานไปแล้ว เพราะเป็นเกม RPG เกมแรกชของแฟมิคอม และปัจจุบันออกมาแล้ว 9 ภาคและไม่ปิดตำนาน ซึ่งแต่ละภาคก็ได้รับความนิยมเรื่อยมา

    ในขณะที่ “ไฟนอลแฟนตาซี” เป็นเกมภาษาที่เปลี่ยนแปลงระบบบ่อยครั้ง (จนคนเล่นเซ็ง) แต่ดราก้อนเควสก็ยังคงเป็นตัวของตัวเองแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม

    หากไฟนอลแฟนตาซีมีเนื้อเรื่องอลังการ ดราก้อนเควสกลับมีเนื้อหาเรียบง่าย เนื้อเรื่องคล้ายๆ นิทานเทพนิยายยุโรปกลาง ที่เป็นเรื่องราวผู้กล้าและพรรคพวกเดินทางกอบกู้โลกไปปราบจอมมารเพื่อช่วยผู้หญิง  ซึ่งในระหว่างทางจะมีปีศาจโผล่มาและต่อสู้ เมื่อชนะจะได้ทองสำหรับนำไปซื้อ อาวุธ ชุดเกราะและของใช้ต่างๆ ระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีการทำเควสช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย

    ตัวละครไฟนอลแฟนตาซีนั้นโดดเด่นมาก โดยเฉพาะเหล่ามอนสเตอร์ที่ออกแบบโดยอากิระ โทริยาม่า ผู้วาดดราก้อนบอล ได้ออกแบบสไลม์แบบง่ายๆ น่ารักจนเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก และจนบัดนี้ก็ยังไม่มีเสื่อมคลายแต่อย่างใด

    พูดได้เต็มปากว่าดราก้อนเควสนั้นมีอิทธิพลต่อวงการวีดีโอเกมญี่ปุ่นมากกว่าไฟนอลแฟนตาซีด้วย และนอกจากวงการเกมแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อสื่อบันเทิงโดยเฉพาะการ์ตูน มุกผู้กล้าปราบจอมมาร, มุกเปลี่ยนอาชีพ, คลาสต่างๆ, ระบบเกม, เนื้อเรื่องเกม, เพลง (โดยเฉพาะเพลงตอนต่อสู้) ถูกนำไปใช้แบบวนเวียนไม่มีเลิก

    อย่างที่บอกดราก้อนเควสมีหลายภาค แต่ละภาคมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะเนื้อเรื่อง ซึ่งมีเนื้อหาน่าติดตามและเข้มข้นมาก โดยเฉพาะดราก้อนเควสภาค 5 หรือชื่อภาคมือของเจ้าสาวแห่งสวงสวรรค์  (Dragon Quest V: Hand of the Heavenly Bride)

    ดราก้อนเควสภาค 5 วางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1992 ของเครื่องซูเปอร์แฟมิคอม ปัจจุบันยังคงรีเม็กซ์ลงเครื่องเล่นเกมหลายระบบ ถือว่าเป็นภาคที่ประสบความสำเร็จภาคหนึ่ง อันเนื่องจากมีเนื้อเรื่องที่ดราม่าซึ้งกินใจมาก เพราะเนื้อหากว่าถึงชีวิตตัวเอกตั้งแต่วัยเด็ก ผ่านการแต่งงาน และมีครอบครัว จนอายุ 30 ปี

     

     

    ดราก้อนเควส 5 ออกแบบโดยโทริยาม่า

     

                    หากเล่าเรื่องย่อๆ เรื่องราวของดราก้อนเควส 5 กล่าวถึงตัวเอกคนหนึ่ง “ไม่มีชื่อ ขึ้นอยู่กับการตั้งชื่อของผู้เล่น” อายุ 6 ขวบ ได้ออกเดินทางท่อนโลกกับปาปัสซึ่งเป็นทั้งพ่อและอาจารย์ที่สอนวิชาการต่อสู้ให้เขา โดยที่เขาไม่รู้ว่าจุดประสงค์ของการเดินทางพ่อคืออะไรกันแน่

                    ระหว่างการเดินทาง เขาก็ได้พบกับเด็กสาวที่อายุสองปีชื่อ “เบียนก้า” ซึ่งเป็นลูกลุงซันโจของเพื่อนสนิทของพ่อ ซึ่งต่อมาเธอก็ได้เป็นเพื่อนร่วมทางของตัวเอกด้วย  โดยเบียนก้านั้นนิสัยทอมบอย และชอบดูแลปกป้องเราจากอันตรายเสมอ  จนกลายเป็นสุดยอดเพื่อนสมัยเด็กในที่สุด

                    หลังจากนั้นเด็กสองคนก็ได้ไปสำรวจปราสาทผีสิง ได้ต่อสู้กับผีร้ายและได้ช่วยเสือน้อยโบรองโก้ที่ถูกรังแก ซึ่งต่อมาเสือน้อยนี้ก็กลายเป็นเพื่อนร่วมกลุ่มของเรา

                    อย่างไรก็ตาม เด็กทั้งสองก็มีอันต้องแยกจากลา โดยเบียนก้าได้ให้สัญญากับตัวเอกว่าสักวันหนึ่งพวกเราจะพบกันอีก และเมื่อนั้นก็จะร่วมผจญภัยกันอีกครั้ง

     

     

    ปาปัสกับเจ้าชายเฮนรี่

     

                   ตัวเอกและปาปัสยังคงผจญภัยต่อไป จนกระทั่งมาถึงเหตุการณ์ที่ต้องช่วยเหลือเจ้าชายเฮนรี่รัชทายาทของอาณาจักรที่ถูกจับโดยพวกปีศาจ แต่ระหว่างการบุกช่วยเหลือปาปัสก็ถูกฆ่าด้วยเกม่าซึ่งผู้นำปีศาจที่เก่งกาจกว่า  ส่วนเราและเจ้าชายเฮนรี่แม้จะรอดชีวิต แต่พวกเขาก็กลายเป็นทาส และต้องทำงานหนักเพื่อสร้างวิหารแห่งความมืด

                    จนกระทั่งเวลาผ่านไปสิบปี ตัวเองและเจ้าชายเฮนรี่ก็เติบโตเป็นหนุ่ม และทำการหลบหนีได้สำเร็จ พวกเขาได้กลับไปดินแดนของเจ้าชายเฮนรี่ ทำการเปิดโปงราชินีตัวปลอม นำความสงบสุขมาสู่ดินแดน และเจ้าชายเฮนรี่ก็ได้ตำแหน่งกลับมาอีกครั้ง (เจ้าชายเฮนรี่ปฏิเสธตำแหน่งบังลังก์จากน้องชาย แล้วขอเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวแทน) และได้แต่งงานกับมาเรีย หญิงสาวที่หนีมาด้วยกันขณะเป็นทาส

                    อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องราวของเจ้าชายเฮนรี่จะจบอย่างมีความสุข แต่เรื่องราวของตัวเอกยังดำเนินต่อไป โดยเราได้ออกเดินทางอีกครั้ง เพื่อทำตามคำขอของพ่อให้ไว้ก่อนตาย นั่นคือตามหา “ผู้กล้า” แล้วช่วยเหลือ “มาร์ธา” ภรรายาของปาปัส และแม่ของตัวเอกที่ถูกจอมมารมิลดราธจอมารจากโลกใต้พิภพจับตัวไป และตัวผู้กล้าต้องสวมเครื่องแต่งกายแห่งนภาเท่านั้น

                    ระหว่างเดินทาง ตัวเอกได้ไปถึงเมืองซาราโบน่า ที่แห่งนี้มหาเศรษฐีผู้หนึ่งได้ประกาศหาชายที่เหมาะสมกับเป็นเจ้าบ่าวกับลูกสาวของตนนานว่าฟลอร่าที่งดงามและเพียบพร้อม โดยมีข้อแม้คือเราต้องหาสมบัติลับในตำนาน แหวนแห่งไฟ และแหวนแห่งน้ำ มาเป็นสินสอดแต่งงานกับลูกสาวของตน และครอบครองสมบัติประจำตระกูลโล่ห์แห่งนภา

                    พระเอกตกหลุมรักฟลอร่าทันทีพบหน้ากัน และต้องการสมบัติโล่ห์แห่งนภา เขาจึงออกตามหาสมบัติในตำนานนี้ และระหว่างทางเขาก็ได้พบ เบียนก้า เพื่อนสมัยเด็กที่สัญญาเอาไว้ตอนเด็กว่าจะผจญภัยอีกครั้ง

                    การพบกันอีกครั้งของทั้งสองนำมาความซึ่งใจเหลือจะกล่าว และทั้งสองก็ออกผจญภัยด้วยกันอีกครั้ง จนสามารถหาแหวนครบสองวงได้สำเร็จ

                    และเมื่อตัวเอกและเบียนก้ากลับมาเมืองซาราโบน่าอีกครั้ง และนำแหวนสองวงให้เศรษฐี ซึ่งเศรษฐีก็ถูกใจตัวเอกมาก จึงได้มอบฟลอร่าเพื่อแต่งงานกับพระเอก หากแต่ฟลอร่าก็ได้เห็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งระหว่างตัวเอกกับเบียนก้า และขอให้เราตัดสินใจเลือกว่าจะเลือกแต่งงานกับใครระหว่างตัวเธอกับเบียนก้า (ในภาค DS จะเพิ่มมากอีกคนคือ พี่สาวนามเดโบร่า)

     

     

    ระหว่างเบียนก้ากับฟลอร่าจะเลือกใคร?  (ตอบ ผมเลือกฮาเร็มครับ)

     

                    “จะแต่งกับใครดี” มันเป็นตัดสินใจที่ยาก  พูดได้เต็มปากเลยว่ามันเป็นตัวเลือกที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ในวงการเกมก็ว่าได้  เพราะทั้งสองสาวต่างมีดีคนละแบบ เบียนก้าสาวทอมบอยเพื่อนสมัยเด็ก กับฟลอร่าสาวคุณหนูเรียบร้อย ถ้ามีตัวเลือกฮาเร็มคงเลือกไปนานแล้ว

                    อย่างไรก็ดี หากอยากโรแมนติก และเอาที่นิยมมากที่สุด (แม้แต่มังงะก็ต้องเลือกเธอ) ตัวเอกก็ได้ตัดสินใจแต่งงานกับเบียนก้า เพื่อนสมัยเด็ก พร้อมกับได้โล่แห่งนภาครอบครองด้วย

                    หลังแต่งงาน ตัวเอกกับเบียนก้าซึ่งตอนนี้เป็นคู่รักไปแล้ว ได้กลับมาบ้านเกิดของพวกเขาอีกครั้ง ซึ่งพวกเขาก็พบว่าปาปัสพ่อของเขานั้นก็คืออดีตราชาผู้ปกครองอาณาจักรโกธา และตอนนี้ผู้เป็นอาได้เป็นผู้ปกครองเมืองปัจจุบัน

                    การกลับมาของตัวเอกนำมาซึ่งความยินดีต่อผู้เป็นอามาก  ตัวเอกได้กลายเป็นผู้สืบทอดโดยชอบธรรม และต่อมาเบียนก้าก็ได้คลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย เป็นแฝดชายและหญิง หากแต่ต่อมาความปลื้มปิติก็หายไปอย่างรวดเร็ว เมื่อปีศาจจากโลกใต้พิภพได้ลักตัวตัวเบียนก้าไป และเราจึงต้องทิ้งลูกทั้งสองไว้กับผู้เป็นอา และออกตามหาเบียนก้า แต่กลายเป็นว่าเราและภรรยาถูกเกม่าสาปให้เป็นหินไป

                    แปดปีต่อมาตัวเอกที่กลายเป็นหินมาอย่างยาวนานก็ถูกคลายคำสาปกลับมาฟื้นขึ้นอีกครั้ง ด้วยฝีมือของซันโจเพื่อนเก่าของพ่อ และลูกชายและลูกสาวฝาแฝดของเรา ซึ่งได้กลายเป็นนักรบน้อยที่เดินทางเพื่อตามหาพ่อแม่ จนในที่สุดก็ได้เจอพ่อในที่สุด

                    คณะเดินทางของตัวเอกทั้งหมดจึงออกตามหาเบียนก้าที่กลายเป็นหิน และตามหาหาผู้กล้า จนได้ทราบความจริงว่าลูกชายและลูกสาวของเขาก็คือยอดนักรบผู้กล้าที่ตามหามาตลอดนั้นเอง

                    หลังจากนั้นพวกเขาก็ออกเดินทาง รวบรวมสมบัตินภา กำจัดปีศาจชั่วร้าย และช่วยเหลือภรรยาได้สำเร็จ และทั้งหมดก็อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง

                    อย่างไรก็ตาม ภารกิจของเหล่าผู้กล้าไม่จบ เพราะทั้งหมดต้องไปช่วยมาร์ธ่าแม่ของตัวเอก และย่าของผู้กล้าที่อยู่ในโลกใต้พิภพ ทั้งหมดได้บุกไปโลกใต้พิภพจนสามารถช่วยมาร์ธ่าไว้ได้ หากแต่ความสุขที่ได้เจอหน้าแม่ของตัวเอกมันแสนสั้น เมื่อมิลดราธจอมปีศาจที่พระเจ้ายังเกรงกลัว ได้ปรากฏขึ้นมาแล้วใช้เวทมนต์สังหารมาร์ธ่า นำมาซึ้งความโศกเศร้าของตัวเอกและพรรคพวก

                    ตัวเอกจึงตามไปคิดบัญชีกับมิลดราธ ด้วยการบุกไปใจกลางของหุบเขาปีศาจบ้านของจอมมาร และพวกเขาก็สามารถสังหารเกม่า และมิลดราธ เป็นอันสิ้นสุดความชั่วร้ายทั้งหมดบนโลก

                    ในที่สุดเรื่องราวก็จบลงแบบแอปปี้ พ่อแม่และลูกได้กลับมายังอาณาจักรของพวกเขา โดยมีปาปัสและมาร์ธ่าเฝ้าดูลูกหลานของเขาอยู่บนสวงสวรรค์อย่างมีความสุข  

     

     

    ดราก้อนเควสภาค อภินิหารดาบเทวดา

                   

                    นี่คือสรุปเนื้อเรื่องดราก้อนเควส 5 ตั้งแต่ต้นจนจบแบบคราวๆ แม้ว่าส่วนตัวผมเองไม่ได้เล่นเกมดราก้อนเควสมากนัก (ผมเล่นแต่ไฟนอลแฟนตาซี) แต่ก็อดที่อินกับเนื้อเรื่องไม่ได้ ไม่แปลกเลยที่ดราก้อนเควสถ้าเป็นอีกหนึ่งซีรีย์ที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่น ทั้งเรื่องการวิจารณ์และยอดขาย และกลายเป็นหนึ่งในเกมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ที่สมควรได้ยกย่อง

                    กลับมาที่เรื่องการ์ตูน...

                    ซีรีย์ดราก้อนเควส ก็เป็นอีกซีรีย์ที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นมังงะ และอนิเมะอยู่พอสมควร มีทั้งแบบเอาแต่ละภาคมาทำ หรือดัดแปลงใหม่ ที่ดังๆ ก็เช่น “ไดตะลุยแดนเวทมนต์” (Dragon Quest: Dai's Great Adventure) และ Dragon Quest - Legend of the Hero/Brave Abel  ซึ่งเนื้อหาการ์ตูนไม่เกี่ยวข้องภาคใดในเกม นอกจากมีตัวละคร (เหล่ามอนสเตอร์) หรือไม่ก็อะไรที่เกี่ยวข้องกับเกม (ชื่อบุคคล, ชื่อสถานที่, มุก) มาใส่เท่านั้น

                    ส่วนดราก้อนเควส 5 ถูกดัดแปลงเป็นมังงะ ชื่อ Dragon Quest V: Tenku Monogatari อภินิหารดาบเทวดา (ลิขสิทธิ์ไทย สำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ ทั้งชุด 11เล่มจบ) ที่เนื้อหาเป็นการขยายความบทของลุงซันโจ ฝาแฝด เทนกับโซร่า ออกเดินทางเพื่อคลายคำสาปของพ่อและแม่ที่ถูกสาปเป็นหิน

                    อย่างไรก็ตาม ไม่นานมานี้ ผมไปเจอการ์ตูนเรื่องหนึ่งในเว็บบอร์ด ซึ่งมีเนื้อหาหน้าสนใจ แม้ว่ามันจะเกี่ยวข้องกับดราก้อนเควส 5 แต่ตัวเอกของการ์ตูนเรื่องนี้กลับไม่ใช่ผู้กล้า หากแต่เป็นตัวประกอบคนหนึ่งที่เราแทบไม่เคยได้ยินชื่อเลยแม้แต่น้อย

     

     

                    การ์ตูนที่แปลกๆ ที่ว่ามีชื่อเต็มๆ คือ แอบตามสตอล์กเกอฺร์ตาลุงเปลือยหัวนมข้างหนึ่ง แล้วไหงลงเอยมาเจอกับดาบในตำนาน (How I Stalked Some Dude with an Exposed Nipple and Stumbled Upon the Zenithian Sword) แต่ถ้าจะเรียกสั้นๆ ก็คือนีทกองไฟ (Bonfire NEET) นั่นเอง เป็นผลงานสร้างสรรค์โดย YDmPhSO2 (เนื้อเรื่อง) และ Tobita Nikiichi  (ลายเส้น)

    คำถามต่อมาคือ มันแปลกยังไงเหรอ เรามักเห็นการ์ตูนแนวแฟนตาซีที่ตัวเอกมักรับบทเป็นผู้กล้าประจำ แต่การ์ตูนเรื่องนี้ตัวเอกไม่ใช่ผู้กล้าเหมือนซีรีย์มังงะดราก้อนเควสที่ผ่านมา และก็ไม่ใช่ตัวละครหลัก หรือตัวละครสำคัญต่อเนื้อเรื่องด้วย (หรือเปล่า?)  แต่เป็นตัวประกอบที่หลายคนไม่เคยจะจดจำมากนั้น ที่ถูกเรียกว่า “นีทกองไฟ”  

    ผมมักเห็นหลายคนมักบ่นๆ ว่าการ์ตูนที่ตัวเอกเป็นนีทที่ไม่สมจริงเลย.... กล่าวคือในเรื่องแม้จะมีกำหนดตัวเอกเป็นนีท แต่เอาเข้าใจจริงตัวเอกดังกล่าวก็ไม่ได้แสดงถึงความเป็นนีทหรือเข้าถึงความเป็นนีทเลย

    คำถามคือความเป็นนีทคืออะไร นีทก็คือกลุ่มว่างงานโดยสมัครใจ กล่าวคือเป็นพวกจบ(หรือไม่จบ) ไม่ทำงาน (หากทำก็ทำแต่งานรายวันที่อยู่ไปวันๆ) เอาแต่อยู่บ้าน เกาะพ่อแม่กิน ซึ่งกำลังเป็นปัญหาในหลายประเทศอยู่ในขณะนี้ (ในไทยก็มี)

    ภาพลักษณ์ของนีท ที่หลายคนมักนึกถึงก็คือ เป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ไม่ค่อยคบหาสมาคมกับคนอื่น มีทักษะการพูดคุยต่ำ ชอบอยู่หน้าคอม ขอบตาคล้ำๆ ไม่ค่อยนอน และมักคิดว่าตนเองไม่ได้เก่งดีเลิศ สู้คนอื่นไม่ได้ ทำอะไรก็ล้มเหลวไปหมด ไม่อยากพัฒนาตนเองสักเท่าไหร่

    ส่วนใหญ่การ์ตูนที่เราเห็น ตัวเอกจะเป็นประเภทที่พระเอกมีความสามารถพิเศษ มีความเก่งกาจ แต่ไม่ได้ใช้ความสามารถเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมหรือองค์กรมากนัก ตัวเอกจึงเลือกเก็บตัวในบ้านใช้ชีวิตอย่างไร้ค่าไปวันๆ จนกระทั่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่เปลี่ยนชีวิตของตัวเอกให้ใช้ความสามารถเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ ซึ่งผมเคยเขียนตัวเอกประเภทนี้ไว้ในบทความ ดู No Game No Life เกมชีวิต เกมแฟนตาซี แล้วคิด.....

    อย่างไรก็ตาม หลายคนอยากดูพระเอกที่แสดงด้านลบของความเป็นนีทให้มันเข้มข้นมากกว่านี้  ไม่ใช่พระเอกประเภท No Game No Life ที่ถูกสร้างออกมาเวอร์ๆ ถูกกำหนดว่าเป็นนีทแต่พอเอาเข้าจริงไม่แสดงความเป็นนีทอย่างที่คิดไว้เลย มันเหมือนแต่งเติมสีสัน ให้ดูเก่งเกินมนุษย์ธรรมดา สนองคนอ่านกลุ่มหนึ่งมากกว่า

    ตามความคิดเห็นของผม ผมพบว่าการ์ตูนที่นำเสนอความเป็นที่ทำได้เข้าถึงความเป็นนีทมากที่สุด ดันเป็นการ์ตูนในเว็บบอร์ด ซึ่งก่อนหน้านั้นผมก็นำเสนอบทความ Hatarakanai-Futari น้องสาวนีทกับพี่ชายไม่ได้เรื่อง!? ซึ่งเป็นเรื่องราวสองพี่น้องที่เป็นนีททั้งคู่ และเป็นนีททั้งสองแบบ คือนีทประเภทอยากเข้าสังคมแต่ไม่กล้าที่เข้า กับนีทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อมาบ้างแล้ว

    อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ผมเห็นการ์ตูนเรื่องหนึ่ง ความจริงก็ไม่ได้สนใจอะไรหรอก ประมาณว่าลายเส้นไม่โมเอะเลย ลายเส้นออกไปทางหยาบๆ พระเอกก็ดูรุงรัง แต่หลังจากที่อ่าน อ้าวลุงปาปัสนี้หว่า นั้นเบียนก้า นั้นตัวเอกดราก้อนเควสนี้ เลยอ่านไปนานๆ ก็พบว่ามันสนุกดีซะงั้น



     

    เท่าที่ค้นหาข้อมูล (แบบไม่รายละเอียดมากนัก) การ์ตูนนีทกองไฟ เป็นการ์ตูนดัดแปลงจากนิยาย (?) ในเน็ตผลงานของ ในเว็บในชื่อ "How I stalked some dude with an exposed nipple and stumbled upon the Zenithian Swordwwww" โดย YDmPhSO2 ใน 2ch ตั้งแต่ปี 2009   

                    โดยเนื้อหาเป็นมุมมองของตัวประกอบ (หรือพูดง่ายๆ คือชาวบ้าน) คนหนึ่งในเกมดราก้อนเควสที่ชื่อ “บากิ” ที่ถูกเรียกว่า “นีทกองไฟ” ในหมู่บ้านซานต้าโรส (เป็นหมู่บ้านที่ลุงซันโจอาศัยอยู่ มีความสำคัญต่อเนื่องเรื่องคือเป็นสถานที่พ่อของตัวเอก)

                    บากิเป็นชาวบ้านอายุ 30 ปี ที่มีนิสัยแบบนีทๆ นิสัยขี้แพ้เห็นอะไรยากๆ ก็ไม่ทำ คิดว่าตนเองอ่อนแอไม่เหมาะกับทำงาน จึงไม่ทำงานทำการ ไม่มีเป้าหมายอะไร  วันๆ เอาแต่อยู่แต่กองไฟ ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่สนวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ (แถมชอบขโมยของชาวบ้านอีกต่างหาก)  จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้เห็นแขกมาเยือนหมู่บ้าน เป็นตาลุงวัยกลางคนคนหนึ่งและเด็กคนหนึ่ง พวกเขามาเยี่ยมลุงซันโจ  

    บากุมารู้ชื่อที่หลังว่าแขกมาเยือนหมู่บ้านชื่อลุงปาปัสและตัวเอกลูกชายของเขา พวกเขาแต่งกายประหลาด ปาปัสนุ่งเสื้อเปิดหัวนมไว้ข้างหนึ่ง ส่วนตัวเอกเป็นเด็กชายที่สวมเสื้อสีม่วงทั้งตัวดูสะดุดตา สำหรับบากุแล้วทั้งสองเป็นแค่แขกมาเยือนหมู่บ้านที่ไม่รู้จักมักจี่ด้วย อย่างมากก็คุยกับลูกชายของเขานิดหน่อยๆ  โดนปาปัสฟาดดาบขณะเขาแอบขโมยฟืนซันโจ และโดนเสือน้อยสัตว์เลี้ยงของตัวเอกข่วนจนมือเขาเลือดสาดเท่านั้นเอง

    อย่างไรก็ตาม นานวันบากุก็เริ่มตามติดชีวิตปาปัสแบบไม่รู้ตัว และเริ่มเห็นพฤติกรรมแปลกๆ ของปาปัส โดยเฉพาะเขาชอบพายเรือเข้าไปในถ้ำด้านหลังหมู่บ้านอยู่บ่อยๆ จนเขาเริ่มสนใจว่าภายในถ้ำมีอะไรกันแน่ (ถ้ำนี้ซ่อนดาบในตำนานเอาไว้) ปาปัสจึงเริ่มฝึกฝันในการว่ายน้ำ (เพราะไม่มีเงินค่าเช่าเรือ) เพื่อที่จะเข้าไปในถ้ำว่ามีอะไรกันแน่

    จนกระทั่งวันที่ปาปัสกับเด็กน้อยเดินทางออกจากหมู่บ้าน ตอนกแรกบากุคิดว่ามันก็คงเป็นการออกผจญภัยช่วงสั้นๆ เหมือนหลายๆ ครั้ง อีกไม่นานก็คงกลับมาหมู่บ้านอีก โดยหารู้ไม่ว่าบากุคิดผิดเพราะนี่เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นปาปัสก่อนที่ ปาปัสจะถูกเกม่าฆ่า ส่วนเจ้าหนูก็ถูกใช้แรงงานเป็นทาสในใต้ดินนานถึงหลายปีตามเนื้อเรื่องของเกม

    แต่ปาปัสไม่รู้เรื่องนี้ เขายังคงรอปาปัสกลับหมู่บ้านต่อไป พร้อมกันนั้นเขาก็เริ่มมีฝีมือในการว่ายน้ำมากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็พบเรื่องน่าตกใจ เมื่อชาวบ้านได้รับข่าวลือว่าปาปัสและลูกชายของเขาหายไป ไม่มีใครพบร่องรอยของพวกเขาเลย และนั่นทำให้เป้าหมายตามติดลุงปาปัสของนีทกองไฟต้องมลายหายไปด้วย

    เมื่อบากุรู้ข่าวนี้ เขาก็กลับมาเป็นมาเป็นนีทกองไฟอีกครั้งเพราะขาดเป้าหมายในชีวิต วันๆ ก็นั่งกองไฟโดยไม่สนวันเวลา หรือฤดูกาลเหมือนเดิม

     จนกระทั่งวันหนึ่ง เกิดเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตบากุ ระหว่างที่เขากำลังเก็บฟืนก่อกองไฟหมือนเช่นวันปกติอยู่นั้น เขาก็ได้พบจอมมารเกม่าและลูกน้องได้เข้ามาทำลายหมู่บ้าน รวพร้อมฆ่าล้างคนในหมู่บ้านจนเกือบหมดสิ้น เหลือเพียงแต่บากุ เท่านั้นที่มีชีวิตรอด  

    บากุต้องเยียวยาจิตใจอยู่นานที่บ้านตาแก่ท้ายหมู่บ้านที่รอดชีวิตมาเหมือนกันจนหลายวันต่อมา บากุก็ได้ทราบว่าปาปัสนั้นคือราชา และเขาตายไปแล้ว ส่วนเจ้าหนูเสื้อม่วงนั้นหายตัวไป และนั้นทำให้บากุมีเป้าหมายใหม่คือเขาต้องตามหาเจ้าหนูเสื้อม่วง และนั่นทำให้ชายอายุ 30 ปี ไม่ทำงานทำการ ไม่มีอะไรดีเด่น ไม่มีความฝัน เริ่มมีความหวังอีกครั้ง ในการตามหาคนที่ไม่รู้จักมักจี่อะไรด้วย และเขาจะสามารถทำได้สำเร็จหรือไม่ก็ติดตามชมต่อไป

    Bonfire NEET เป็นการ์ตูนซีรีย์ดราก้อนเควสที่ค่อนข้างแปลกๆ  เพราะพระเอกการ์ตูนเรื่องนี้เป็นนีทที่ไม่ได้เรื่อง แถมเป็นตัวละครที่ไม่มีใครแทบสนใจด้วยซ้ำ (ผมไม่ได้เล่นเกมนี้ เลยไม่รู้ว่านีทกองไฟมีบทบาทอะไรบ้างในเกม) ผิดการ์ตูนซีรีย์ดราก้อนเควสที่ผ่านมา ไม่ว่าทำตามต้นฉบับ (ตัวเอกในเกม) หรือออริจินอล (ตัวเอกใหม่และเนื้อเรื่องไม่ใช่ในเกม แต่เนื้อหายังคงมีกลิ่นอายดราก้อนเควส) ตัวเอกมักถูกกำหนดเป็นผู้กล้ามีพลังเก่งกาจตลอด

    แม้ว่าลายเส้นของการ์ตูนเรื่องนี้อาจไม่สวยงาม ใครที่เป็นแฟนขของโทริยาม่าอาจรับไม่ได้เพราะมอนสเตอร์นี้วาดสมจริงจนแทบจำไม่ได้ แต่หากใครที่ชอบพระเอกที่เป็นนีท (ซึ่งน้อยมากที่แฟนตาซี จะมีตัวละครที่เป็นนีท) และเป็นนีทแท้ๆ ไม่ใช่นีทเทียม หรือผู้นีทเทพแต่อย่างใด

                    จาก 12 ตอนที่ผมอ่านมา เราอาจเห็นความน่าอึดอัดของบากุ ที่เป็นนีทไม่ได้เรื่อง คือเป็นประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ คนเหยาะแหยะ ทำอะไรไม่จริงจัง ไม่ทุ่มเท ไม่
    เอาการเอางานหรือทำอะไรไม่เป็นโล้เป็นพาย แม้จะมีการกำหนดเป้าหมายในชีวิต แต่พอเจออุปสรรค์เข้าหน่อยก็เลิกแล้ว ซึ่งในเรื่องบากุล้มเลิกบ่อยครั้งมาก ทั้งๆที่ ถ้าเป็นผู้กล้าปกติ แม้จะหนักหนาสาหัสสักเท่าไหร่ ขอให้ฝึกฝนพัฒนามันก็ก้าวข้ามได้

                    ผมเชื่อว่ามีหลายคนเป็นแบบบากุ ประมาณว่าเวลาจะทำอะไร ตอนแรกๆ ก็จะทำแบบตั้งใจจริง แต่พอเจออุปสรรค์เข้าหน่อย ก็เลิกล้ม คิดว่าตนเอไม่ได้เรื่อง ไม่ได้เก่งกาจอะไร และเวลาเลิกแล้วกลับมายากมาก เพราะทักษะที่อุตส่าห์ฝึกฝันและกำลังพัฒนามีอันต้องหยุดเลิกกลางคันด้วย ต้องเริ่มนับจาก 0 ใหม่หมด

               คนเราใช่ว่าจะเก่งตั้งแต่เกิด มันอยู่ที่การขยันหมั่นฝึกฝน ผู้กล้าเองตอนแรกๆ ก็คงเป็นแค่กากที่ตีเฉพาะสไลม์เลเวล 1 เท่านั้นเอง หากแต่เพราะความขยัน   หมั่นเก็บเลเวลอย่างต่อเนื่อง ไม่นานจากกากก็กลายเป็นเทพ

    บากุเองก็เก่งได้หากฝึกฝน แม้อาจไม่ถึงขั้นเป็นผู้กล้า มีพลังวิเศษต่อยจอมมารกระเด็น แต่อย่างน้อยก็เป็นคนที่ไม่พออวดสังคมได้บ้าง แต่ปัญหาของคนเป็นนีทก็คือการขาดเป้าหมาย ความทะเยอทะยาน


     

                 แต่นีทใม่ใช่อย่างนั้น  จะว่าไปคนธรรมดาเองก็ไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะบางครั้งเราก็หยุดขึ้นมาดื้อๆ เมื่อเจออุปสรรค์ที่คิดว่ามันไม่สามารถจะก้าวข้ามได้

                 ผมค่อนข้างชอบบทที่ 1 ตอนที่ 5  ซึ่งเป็นช่วงที่บากุเกิดความคิดว่าตนเองนั้นไม่ใช่ผู้กล้า ต่อให้พยายามยังไงก็ไม่เก่ง และนั่นทำให้เขาเลิกล้มความตั้งใจจนลืมเป้าหมายเดิมที่เขามุ่งมั้งว่าจะทำตอนแรกๆ จนหมดสิ้น

                 บากุกลับไปเป็นนีทอีกครั้ง แถมยังหาข้ออ้างตนเองไม่ฝึกฝนร่างกาย ออ้างโน่นอ้างนี้ จนเวลาผ่านไปผ่านไปอย่างไร้ประโยชน์

                 นอกจากนี้บากุยังโกหกตาแก่ ว่าตั้งใจฝึกฝนตนเอง สำรวจถ้ำ  ก้าวหน้าแล้วละบลาๆ แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่กล้าสบตากับตาแก่ตรงๆ เพราะกลัวแกจับได้ว่าโกหก และนั่นทำให้เขารู้สึกผิดมากขึ้นเรื่อยๆ

                 จนกระทั่งวันหนึ่ง ระหว่างทางอาหารบนโต๊ะตาแก่บอกว่า “พอได้แล้ว” ตาแก่จับโกหกบากุตั้งแต่ต้น แต่ยอมเชื่อคำโกหกนี้ แต่อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ปล่อยให้บากุโกหกจนตนเองตกต่ำ

                 ตาแก่เริ่มต้นพูดว่า “รู้สึกเสียใจหรอกที่เจ้าโกหก แต่ข้ารู้ดีว่าคนโกหกเองนั่นแหละที่เจ็บปวดที่สุด”

                 จากนั้นตาแก่ก็เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับลูกชายของตนเอง ที่มีพฤติกรรมคล้ายๆ บากุ ซึ่งเป็นคนที่ชอบโกหก

                 การสอนนีทให้เกิดความมั่นใจตนเอง ไม่ใช่ให้นีทไปเปรียบเทียบกับคนที่เก่งกว่า แต่ให้ยกตัวอย่างที่แย่กว่ามาแทนครับ ซึ่งการยกตัวอย่างนี้ก็เพื่อให้นีทได้รู้ตัวเองว่ายังมีคนแย่กว่าเรา และเราสามารถที่จะกลับตัว เริ่มต้นใหม่ โดยไม่สายเกินไปได้

                 ก่อนที่ปิดท้าย ตาแก่พูดกับพระเอกว่า

                 ข้าไม่ว่าอะไรหรอก ถ้าเจ้าจะใช้ชีวิตแบบเงียบๆ ในหมู่บ้านนี้... จะยอมแพ้ต่อเป้าหมายที่ตนเองตั้งไว้ ก็ไม่ว่า แต่จงทำตามใจที่เจ้าอยาก และอย่าโกหกตัวเอก!

                 หากเราเปรียบเทียบ จะพบว่าตาแก่ในเรื่องนีทกองไฟก็เหมือนพ่อแม่ของนีทแหละครับ ที่พ่อแม่ก็ยังคงเชื่อมั่น และหวังว่าจะสามารถเลิกเป็นนีทสักวัน แม้สิ่งที่ทำมันอาจจะจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ หรือตรงกับเป้าหมายที่วางเอาไว้  แต่ขอให้คนทำมีความตั้งใจ อย่าให้จมปรักอยู่กับเรื่องโกหกตัวเอง เพียงแค่นี้พ่อแม่ก็สบายใจแล้ว

     

               

                 Bonfire NEET นอกจากจะเป็นการ์ตูนที่เหมาะแฟนๆ ดราก้อนเควสแล้ว ยังเป็นการ์ตูนที่นำเสนอนีทได้ถึงพริกถึงขิงดี และเป็นนีทประเภทเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แตกต่างจากพระเอกนีทเทพจากการ์ตูนเรื่องอื่นๆ ผสมกับเนื้อเรื่องการ์ตูนที่มีทั้งดราม่า, ฮ่าแบบสิ้นหวัง ก็ช่วยให้เนื้อเรื่องน่าสนใจยิ่งขึ้นไม่มากก็ไม่น้อย

                 ปัจจุบันสามารถหาการ์ตูนเรื่องนี้ได้ตามเว็บอ่านมังงะ มีทั้งแปลอังกฤษและแปลไทยครับ

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×