ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #299 : Hatarakanai-Futari น้องสาวนีทกับพี่ชายไม่ได้เรื่อง!?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.07K
      1
      19 ก.ค. 60

    ปกติเรามักเห็นความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายและน้องสาวในการ์ตูนหลายเรื่องแล้ว ซึ่งก็มีหลากหลายอารมณ์ ทั้งดราม่าปวดตับ (เกินเลยพี่น้อง), แบบน่ารัก, แบบชวนหัว, แบบตลก, แบบซาบซ่า ฯลฯ  แต่อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายและน้องสาวในการ์ตูนเรื่องต่อไปนี้ ก็อธิบายยากเหมือนกันว่าอารมณ์ไหนกันแน่!?

     

     

    Hatarakanai-Futari

     

    แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่เจริญ และเติบโตด้านเศรษฐกิจ แต่กระนั้น ณ มุมหนึ่งของสังคมญี่ปุ่นยังคงมีมีสิ่งที่เรียกว่า ฮิคิโคโมริเกิดขึ้น จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นไปแล้ว

    ฮิคิโคโมริ หมายถึงเด็กที่แยกตัวออกจากสังคม พวกเขาเลือกที่จะเก็บตัวอยู่ในห้องส่วนตัว (ห้องนอน) แคบๆ ของตน โดยไม่ยอมออกไปไหน (หากออกไปข้างนอก ส่วนมากจะออกไปกลางคืนเพียงแค่ไปซื้อสิ่งที่ตนต้องการ เช่น พวกอาหาร, นิตยสารเท่านั้น) มักหมดเวลาทำกิจกรรมในห้องสอส ไม่ว่าจะอ่านหนังสือการ์ตูน เล่นเกม เล่นอินเทอร์เน็ต ดูทีวี หรืออาจจะนั่งเฉยๆในห้องส่วนตัวในบ้านของตนเองเป็นแรมเดือนหรือหลายปี   ตัดขาดการสื่อสารกับเพื่อนฝูงและพ่อแม่

    คนที่เป็นฮิคิโมริส่วนมากมักจะเป็นเด็กวัยรุ่นที่อยู่ในช่วงกำลังเล่าเรียน หากแต่ไม่สามารถทนกดดันสังคมของญี่ปุ่นได้ พวกเขาจึงไม่ไปโรงเรียน เริ่มกลัวการออกไปนอกบ้านและพบปะผู้คน และในที่สุดก็ไม่ออกจากบ้านอีกเลย  สภาพห้องนั้นไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย เต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูน และถุงขยะก้อนโตที่ไม่ยอมนำไปทิ้งเต็มห้อง

    แน่นอนว่ามีหลายปัจจัยที่ทำให้หลายคนหนีออกจากสังคม ไม่ว่าจะเป็น การกลั่นแกล้งในโรงเรียน หรือปัจจัยที่อินเทอร์เน็ตเข้ามาที่บทบาทในชีวิตประจำ และผู้ปกครองเต็มใจที่จะปกป้องลูกของเขา แทนที่จะตักเตือน สิ่งเหล่านี้ทำให้ฮิคิโคโมริมีเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะมีหลายฝ่ายพยายามที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ก็ตาม

    ในขณะที่ฮิคิโคโมริกำลังเป็นปัญหาในสังคมญี่ปุ่น นีทกับเป็นปัญหาหนักยิ่งกว่า โดยนีทมาจากอักษรย่อของ Not in Education, Employment or Training หรือ กลุ่มคนในวัยแรงงานที่ไม่อยู่ในระหว่างศึกษา ทำงาน และอบรมหรือ กลุ่มว่างงานโดยสมัครใจ โดยส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาววัย 16-24 ปี ผู้เลือกที่จะไม่ทำงานประจำทั้งๆที่มีตำแหน่งว่างอยู่ แต่หันไปทำงานชั่วคราว อย่างเช่น พนักงานขาย หรือ งานในภาคบริการที่ให้ค่าตอบแทนเป็นรายชั่วโมง หรือ รายวันมากกว่า หรือนีทอีกประเภทคือไม่ทำงานอะไรเลย อยู่แต่ในบ้าน ดูการ์ตูน เล่นเกม เท่านั้น เอาแต่พึ่งพาพ่อแม่ ไม่ยอมทนลำบากการทำงาน รักความสะดวกสบาย

    นีทแตกต่างจากฮิคิโคโมริตรงที่ นีทยังมีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัวและเพื่อนฝูงอยู่บ้าง และไม่ได้ล็อกตัวเองอยู่แต่ในห้อง สามารถเดินไปมาในบ้าน หรือออกไปข้างนอกได้ แต่ก็พูดคุยกับคนแปลกหน้าหรือคนที่พึ่งรู้จักกันนั้นทำได้ไม่ค่อยถนัดมากนัก ปัจจุบันบุคคลที่เป็นนีทกำลังมีมากขึ้นและเริ่มส่งผลต่อเศรษฐกิจของญี่ปุ่น (เพราะพวกเขาไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นเติบโต)

    ภาพลักษณ์ของญี่ปุ่นที่ขยันขันแข็ง รับผิดชอบกับงาน นั้นกำลังหมดลงไป

     

     

    ตอนแรก จบในหนึ่งหน้า

                                                                                                                   

    แน่นอนว่าพฤติกรรมฮิคิโคโมรินั้นเป็นพฤติกรรมที่เป็นปัญหา และเป็นพฤติกรรมที่น่าอับอายในสายตาคนทั่วไป จนดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำ แต่สำหรับสื่อการ์ตูนญี่ปุ่นแล้วคาแร็คเตอร์ฮิคิโคโมริและนีทกับเป็นคาแร็คเตอร์ที่น่าสนใจมาก ที่มักมานำเสนอ บ่อยครั้ง

    ปกติสื่อการ์ตูนญี่ปุ่นมักสร้างภาพฮิคิโคโมริ และนีท ในภาพลักษณ์ของชายอ้วน น่าเกลียด ที่นอกจากเป็นฮิคิโคโมริและนีทแล้ว ยังเป็นโอตาคุอีกต่างหาก นิสัยน่าขยะแขยง ไม่น่าคบอีกต่างหาก (และตัวมันเองก็ไม่อยากจะคบใคร) มักทำตัวซกม๊กในห้องเต็มไปด้วยการ์ตูน ขยะ โต๊ะคอมเต็มไปด้วยขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม บรรยากาศก็ชวนขยะแขยง เพราะมืด และไม่น่าอยู่เสียเลย  

    แต่ที่น่าแปลกใจคือ มีการ์ตูนหลายเรื่องที่พระเอกเป็นฮิคิโคโมริและนีท ซึ่งส่วนใหญ่พระเอกเหล่านี้มักมีปูมหลังที่เป็นคนขี้แพ้ ไม่กล้าสู่สังคม ไม่กล้าออกเผชิญโลกกว้าง หรือมีบาปแผลทางใจ  แต่ก็มีเหตุการณ์อะไรสักอย่าง เพื่อพัฒนาจิตใจที่ฮิคิโคโมรินี้ให้กลายเป็นคนใหม่ หางานทำ มีความรับผิดชอบมากขึ้น (ส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำให้ฮิคิโคโมริพัฒนาจิตใจก็คือความรัก)

     อย่างไรก็ตาม แม้ภาพฮิคิโคโมริและนีทที่เป็นผู้ชายน่าจะดูน่าสมเพส น่ารังเกียจ แต่สำหรับฮิคิโคโมริและนีทที่เป็นผู้หญิงกลับน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งที่ผ่านมามีตัวละครหญิงที่เป็นฮิคิโคโมริหญิงที่น่ารักเป็นที่รู้จักกันดี ก็เช่น โคโมริ (สาวน้อยฮิคิโคโมริจาก Sayonara Zetsubou Sensei), โฮว์ไรซัน คางุ (องค์หญิงนีทจาก Touhou Project ), อลิส (นักสืบนีทจาก Kamisama no Memo-chou) ฯลฯ  โดยส่วนใหญ่แล้วมักออกแบบเป็นสาวน้อย ตัวเล็กๆ ผมยาว ภาพลักษณ์ออกไปทางเจ้าหญิง แต่ไม่ดูสง่างาม  ไม่เรียบร้อย ชอบทำห้องรกๆ แต่แทนที่น่าขยะแขยงเหมือนฮิคิโคโมริชาย กลับดูน่ารัก น่าไปดูแล ความเป็นอยู่แทน (และไม่ยอมให้สาวน้อยเหล่านี้เลิกเป็นฮิคิโคโมริด้วยซ้ำ)

    มีการ์ตูนหลายเรื่องที่สร้างตัวละครหญิงที่เป็นฮิคิโคโมริ ซึ่งปัจจุบันก็เริ่มเป็นที่นิยมมากเสียด้วย ซึ่งก็มีหลายเรื่องถ่ายทอดความเป็นนีทและฮิคิโคโมริได้อย่างสมจริง เหมือนเช่นการ์ตูนเรื่อง Hatarakanai-Futari ที่ผมจะเขียนถึงในบทความนี้

    Hatarakanai-Futari เป็นผลงานของคนเขียนหน้าใหม่โยชิดะ ซาโตรุ ปี 2013 ตอนแรกเป็นการ์ตูนอ่านในเว็บ (Web) หน้าเดียวจบ และมีไม่กี่ตอน จนกระทั่งได้รับความสนใจและได้การตีพิมพ์ต่อเนื่องใน Kurage Bunch (Shinchosha) โดยเพิ่มจำนวนหน้า (เนื้อหายาวขึ้นนิดหน่อย) และลายเส้นสวยขึ้น (แลเงาละเอียดเยอะขึ้น) และเพิ่มตัวละครเข้าไป (พี่สาวข้างบ้านผู้อยากตีสนิทกับสองพี่น้อง)

    Hatarakanai-Futari แปลเป็นไทยแบบง่าวๆ ว่า “สองคนไม่มีงานทำ” เป็นการ์ตูนแนวตลก ชีวิตประจำวัน ที่แสนอบอุ่น (?) โดยเป็นเรื่องราวของสองพี่น้องบ้านอิชิอิ ที่ไม่มีงานทำทั้งคู่ และทั้งสองกลายเป็นนีทเกาะครอบครัวกิน (ทั้งคู่ไม่ได้เป็นฮิคิโคโมริเพราะว่าทั้งสองไม่ได้ขังตนเองอยู่แต่ในห้องนอน อีกทั้งทั้งสองยังมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อครอบครัว และยังออกนอกบ้านเป็นบางครั้ง)

    สองพี่น้องนีทประกอบไปด้วย น้องสาวฮารุโกะสาวน้อยที่กลายเป็นนีทเพราะมีนิสัยขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคมภายนอก  มีเพียงครอบครัวเท่านั้นที่เธอสามารถพูดด้วยปกติ และมักคิดว่าตนเป็นคนไม่ได้เรื่องอยู่ตลอด ส่วนทางด้านพี่ชายนั้นชื่อมาโตรุ พี่แว่นที่เป็นพี่ชายไม่ได้เรื่อง จบออกมาก็ไม่เรียนต่อ ขี้เกียจ  เอาแต่อยู่บ้าน ใช้เวลาอย่างไร้ค่า

     

     

    เวอร์ชั่นตีพิมพ์ในนิตยสาร (ไม่ได้จบในหนึ่งหน้า)

     

    ปกติหากพูดถึงน้องสาวกับพี่ชายและนีทกับฮิคิโคโมริในการ์ตูนญี่ปุ่นแล้ว ส่วนใหญ่ เรามักเห็นภาพน้องสาวที่เป็นเด็กมัธยมต้น (ไม่ก็ปลาย) ซึ่งเป็นเด็กธรรมดาทั่วไปต้องดูแลพี่ชายเป็นนีทไม่ก็ฮิคิโคโมริที่แสนจะไม่ได้เรื่อง  การดูแลที่ว่านั้นยิ่งกว่าเมียและแม่เสียอีก เป็นต้นว่า ปลุกพี่ชาย ทำอาหารให้ชาย เก็บข้าวของในห้อง แม้ปากจะบ่นแต่ไม่ได้นึกรังเกียจพี่ชาย (ยกตัวอย่างเช่น นิชิโจ นานามิ สุดยอดน้องสาว Chaos;Head ที่ทุกเช้า ทุกเย็นจะแวะมาดูพี่ชายที่เป็นฮิคิโมริที่เป็นโอตากุ)

    (ปล. ความจริงก็มีการ์ตูนหลายเรื่องที่น้องสาวเกลียดพี่ชายที่เป็นนีท และขยะแขยงพี่ชายด้วยซ้ำ ซึ่งพบมากในการ์ตูนสายมืด และเมื่อพี่ชายโดนน้องสาวดูถูกมากๆ เลยอดทนไม่ไหว ผลก็คือจับกดน้องสาวอย่างเมามัน)

    หากสถานะกลับกัน พี่ชายเป็นคนธรรมดา ส่วนน้องสาวเป็นนีทและฮิคิโคโมริ พี่ชายจะออกมาดูดี และเก่งกว่าคนทั่วไปนิดหน่อย (เช่นด้านการงาน ความสามารถพิเศษ ) ซึ่งเขาจะดูแลน้องสาว แบบไม่เคยบ่น เพราะน้องสาวที่เป็นนีทและฮิคิโคโมรินั้นเพราะมีแผลใจ แปลกแยกกว่าคนอื่น ไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนอื่นได้ และเป็นน้องสาวที่รักพี่จ๋ามากๆ   (พล็อตแบบนี้น้อย ส่วนใหญ่สายมืดก็มีบางเรื่อง แต่ไม่นานมานี้ก็มีเรื่อง Ero manga sensei ผลงานจากคนเขียน “น้องสาวฉันไม่น่ารักแบบนี้หรอก” ที่นำเสนอน้องสาวเป็นฮิคิโคโมริวาดการ์ตูน ส่วนพี่ชายเป็นนักเขียนนิยายไลท์โนเวล)

                    แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อทั้งน้องสาวและพี่ชายเป็นนีท!

                    ตอนผมอ่าน Hatarakanai-Futari ครั้งแรกก็ไม่รู้ว่าเป็นการ์ตูนอะไร เปิดตัวมาเห็นเด็กสาวผมยาวคนหนึ่งนั่งในห้องมืดๆ ดูโทรทัศน์ที่กำลังฉายเรื่องของ “นางสาวอุดมคติ” ที่พบเห็นในการ์ตูนทั่วๆ ไปปลุกพี่ชายบนเตียงในตอนเช้า

                    หลังจากนั้นดูโทรทัศน์เสร็จแล้ว เด็กสาวก็ทำตามบ้าง ด้วยการไปปลุกพี่ชายที่ห้อง

                    “พี่จ๋าเช้าแล้วนะ ตื่นได้แล้ว” (แสดงให้เห็นว่าน้องสาวติดพี่ชายขนาดไหน)

     หากแต่เมื่อเปิดออกมาก็พบพี่ชายแว่นของสาวน้อยคนนั้นกำลังดูทีวีอยู่ ไม่ได้นอนหลับบนเตียงแต่อย่างใด พี่ชายที่ดูหน้าก็รู้แล้วว่าไม่ได้เรื่องขนาดไหน ได้พูดกับน้องสาวว่า “อ้าวเช้าแล้วเหรอ ฉันกำลังจะไปนอนพอดี”

    น้องสาวหน้านิ่ง และจากนั้นเธอก็ดูโทรทัศน์กับพี่ชายพร้อมพูดว่า “หนูก็เคยดูหนังจนถึงเช้าเหมือนกัน...”

    “นั่นสินะ เรามันแย่ทั้งคู่เลยเนอะ...”

                    และจบเพียงหนึ่งหน้า !!(ใน Hatarakanai-Futari มีการเพิ่มหน้า และเพิ่มมุกใหม่ จบใน 3 หน้า)

                    ความรู้สึกผมในตอนนั้น คือ !?? สรุปคือทั้งพี่และน้องเป็นนีท!??

                    โอเคเราเห็นคาแร็คเตอร์พี่ชายและน้องสาวเป็นนีทกับฮิคิโคโมริทั้งคู่แล้ว จาก No Game No Life  แต่นั้นก็ไม่สามารถพูดเต็มปากได้ว่าโซระและชิโร่สามารถถ่ายทอดความเป็นนีทกับฮิคิโคโมริได้อย่างสมจริง หรือถึงใจมากนัก

                    ไม่เหมือนพี่น้องจาก Hatarakanai-Futari ที่ถ่ายทอดความเป็นนีทอย่างถึงอกถึงใจในความคิดของผม (ต่อไปนี้ขอตัดฮิคิโคโมริออก เพราะสองพี่น้องมีความเป็นนีทมากกว่าครับ)

      


    “ชั้นจะไม่ทำงานหรอก”

     

    มาตอนแรกแทบตั้งหลักไม่ทัน มาตอนสองก็หน้าเดียวจบเหมือนกัน (ในเวอร์ชั่นนิตยสาร 3 หน้าจบ) สองพี่น้องนีทนั่งอยู่บ้าน พี่ชายกำลังอ่านหนังสือ น้องสาวเห็นจึงถามพี่ชายว่า

    “พี่จ๋า กำลังอ่านอะไรอยู่!?

    “อ่านประกาศสมัครงานพาร์ทไทม์น่ะ”

    “เอ๋?

    “เธอก็รู้นี่ ว่าฉันกำลังหางานอยู่นะ”

    เมื่อน้องสาวได้ยินพี่ชายพูดแบบนี้ ก็หน้าถอดสี เหงื่อแตกซีดๆ ทำตัวไม่ถูก

    พอพี่ชายเห็นน้องสาวกังวล ก็ทำหน้ายิ้มแล้วพูดว่า “ล้อเล่นนะ ชั้นจะไปทำงานได้ไง”

    น้องสาวได้ยินพี่ชายพูดก็สบายใจ “ตกใจหมดเลย หนูคิดว่าจะถูกทิ้งอยู่คนเดียวซะแล้ว”

    คำถามครับ ดูแล้วประทับใจหรืออนาถดีสำหรับการ์ตูนหน้านี้

    ปกติแล้วตลกของการ์ตูนญี่ปุ่นนั้นจะสร้างคาแร็คเตอร์ตัวละคร ที่มีเอกลักษณ์เพื่อให้เล่นมุกได้  ซึ่งปกติแล้วคาแร็กเตอร์ตัวละครผู้หญิงในการ์ตูนตลกนั้น จะเป็นเด็กสาวที่ดูเผิ่นๆ มีพฤติกรรมผิดแปลกกว่าคนอื่น (จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไป) ซึ่งส่วนมากตลกแบบนี้คนดูจะชอบอยู่แล้ว (ยิ่งเพิ่มความน่ารักของตัวละครหญิงก็ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ เวลาทำอะไรเบิ่นๆ)

    ตลกนีท ไม่จำเป็นต้องเสริมแต่งแต่อย่างใด เพราะพฤติกรรมของนีทมีความรู้สึกผิดแปลกไปจากชาวบ้านอีกแล้ว แถมยิ่งเล่นเรื่องความอนาถ จุดตกต่ำของชีวิตเข้าไปอีก

     ปัจจุบันมีการ์ตูนหลายเรื่องที่ดำเนินเรื่องตัวเอกเป็นนีทเยอะ ส่วนใหญ่แล้วเป็นแนวตลกมากกว่าดราม่า และเนื้อหาจะเป็นเรื่อยเปื่อยชีวิตประจำวัน

    ก็น่าแปลกดีที่ญี่ปุ่นนำเสนอเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนเป็นนีทซึ่งดูเหมือนเป็นที่นิยมด้วยซ้ำ ทั้งๆ ที่ มองเผินๆ แล้วคนเป็นนีทนั้นแทบไม่มีอะไรน่าสนใจ เพราะชีวิตส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน (ซึ่งในขณะเดียวกันฉากในการ์ตูนก็มีแต่ในบ้านตัวเอกนั้นแหละ)  แถมเป็นวิถีชีวิตที่ไม่น่าชื่นชมอะไรเลย  เป็นคนว่างงาน ไม่ทำอะไรเลย ชีวิตอยู่แต่ในบ้าน เกาะพ่อแม่กิน

    และยิ่งมองลึกๆ นีทเป็นคนที่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสังคม ไม่กล้าสู้ชีวิต รักความสบาย ไม่ชอบความยากลำบากในการทำงาน  (แม้แต่งานรายวันยังไม่ทำ) ไม่อดทน ไม่ยอมเลือก ไม่มีแม้แต่ความฝัน

    ในขณะที่บางคนมองว่า พวกนีทนั้นเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ใช้ชีวิตฉาบฉวย ไม่มีความมั่นคง

    ในขณะที่บางคน มองว่าพวกเขาอาจมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ที่ยังหาทางออกไม่ได้ จึงต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปก่อน

     

     

    พ่อของพี่น้องนีท

     

    จุดเด่น  Hatarakanai-Futari คือการได้การมองอีกแง่หนึ่งของคนเป็นนีท ผสมกับการถ่ายทอดความรู้สึกดีๆ ระหว่างความสัมพันธ์ระหว่างน้องสาวกับพี่ชาย ไม่ใช่ในเชิงเพศ แต่เป็นในเชิงครอบครัวที่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ความรู้สึกดีๆ นั้นต้องละลายหายไปเมื่อทั้งสองพี่น้องเป็นนีท

    ยิ่งอ่านยิ่งดูเริ่มก็เริ่มเข้าถึงตัวตนสองพี่น้องนีทมากขึ้น ตัวน้องสาวนั้นเป็นนีทแบบในการ์ตูน คือน่ารัก เป็นนีทเพราะขี้อาย ชอบทำหน้ามืดมน (เหตุผลของสาวนีทในการ์ตูนทั่วไป)  ไม่สามารถพูดคุยกับคนอื่นหรือคนแปลกหน้าได้ ทั้งๆ ที่ตัวเธอเองก็อยากมีความกล้าที่จะคุยกับคนอื่น ซึ่งหากเป็นการ์ตูนเรื่องอื่นๆ พี่ชายจะต้องเป็นคนทำให้น้องสาวหลุดพ้นความเป็นนีท เป็นผู้เป็นคนมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าพี่ชายเป็นนีทหนักกว่าอีก

    หากน้องสาวเปรียบเหมือนนีทแบบการ์ตูน พี่ชายนั้นดูเป็นนีทของจริงมากกว่า แม้ว่าเป็นนีท แต่พี่ชายคนนี้เป็นนีทที่อยู่ในระดับเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หน้าตาบอกยี่ห้อเลยว่าเป็นคนไม่ได้เรื่อง แม้จะมีเพื่อน (แถมเพื่อนก็มาเยี่ยมถึงบ้านบ่อยครั้ง) แต่ความเป็นนีทที่มีนิสัย เหยาะแหยะ ทำอะไรไม่จริงจัง ไม่ทุ่มเท ไม่เอาการเอางาน จบออกมาก็ไม่ทำงาน หางานแต่ก็ไม่มีถูกใจ ทำให้กลายเป็นพี่ชายแสนไม่ได้เรื่อง (แต่ความจริงแล้ว หลายคร้้งพี่ชายคนนี้ก็เป็นคนที่ฉลาดมาก)

    แล้วที่นี่จะเอายังไงดีละ ในเมื่อทั้งคู่เป็นนีท ใครจะทำให้ทั้งคู่หลุดพ้นความเป็นนีทดีละ

    ดูๆ ไปมันช่างเป็นตลกร้ายๆ เมื่อทั้งคู่เป็นคนปกติ ช่วงวัยเรียน สองพี่น้องแทบไม่คุยกัน ต่างคนต่างมีสังคมของตนเอง หากแต่เมื่อเป็นนีท ทั้งสองก็พูดคุยกัน ทำกิจกรรมอย่างสนิทสนมกันมากขึ้นซะงั้น   แต่อนิจจา ด้วยความเป็นนีท  มันกลายเป็นความอนาถมากกว่าอบอุ่น

    หลายตอน น้องสาวขี้เหงาคนนี้ มักไปหาพี่จ๋าตลอด เล่นเกมกับพี่จ๋า ดูทีวีกับพี่จ๋า แต่อนิจจา เวลากิจกรรมของสองพี่น้อง ส่วนใหญ่เป็นเวลากลางคืน (ส่วนมากกลางวันจะเป็นกิจกรรมส่วนตัวของแต่ละคนมากกว่า) สิ่งเหล่านี้ผิดแปลกกว่าชาวบ้านทั้งช่อง

    ที่น่าแปลกคือทั้งสองไม่ได้เป็นโอตาคุเต็มขั้น สังเกตได้ว่าห้องของพวกเธอและเขาค่อนข้างเรียบร้อยและสะอาด ไม่ได้รกๆ อย่างน่ารังเกียจ ไม่ได้ชอบการ์ตูนแบบเข้าเส้นเลือด (อย่างมากก็ดูหนัง และเล่นเกม) และทั้งสองก็ใช้ชีิวตอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ได้ติดอินเทอร์เน็ต ไม่ได้บ้าโลกออนไลน์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนเป็นนีทไม่จำเป็นต้องเป็นโอตาคุก็ได้ มีเพียงแค่สามสิ่งที่นีทไม่ทำคือ ไปเรียน, ทำงาน และฝึกฝนตนเอง หรือพวกว่างงานนั้นเอง

     

     

    สรุปคือผมรักพี่น้องคู่นี้ครับ

     

    ทางน่าแปลกใจคือ Hatarakanai-Futari ได้นำเสนอเกี่ยวกับครอบครัวของสองพี่น้องด้วย ซึ่งปกติแล้วคนที่เป็นนีทไม่ค่อยจะสุงสิงกับพ่อแม่ของตนเองมากนัก (ไม่ก็ตัวพ่อแม่เองก็ไม่สนใจลูกที่เป็นนีท)  ไม่อยากเจอหน้าด้วยซ้ำ และห่างเหินทั้งๆ อยู่บ้านเดียวกัน  หากแต่สองพี่น้องนีทคู่นี้มีปฏิสัมพันธ์กับครอบครัว และพ่อแม่ของพี่น้องนีทก็ไม่ได้รังเกียจสองพี่น้องด้วย (อาจเป็นเพราะสองพี่น้องพึ่งเป็นนีทไม่นานก็ได้ หรือไม่ก็คิดว่าคนที่เป็นนีทไม่หนักเท่าพวกฮิคิโคโมริ สักวันก็ต้องออกไปทำงาน)

    แม่ของสองพี่น้องเป็นคนที่ค่อนข้างจริงจัง แต่ไม่ได้ดุด่าว่าลูกตนเองอะไรมากมาย และค่อนข้างเอาใจใส่ลูกสาว มากกว่าพี่ชาย (อารมณ์ประมาณว่าพี่ชายช่างมันเถอะ) และเชื่อมั่นลูกว่าจะเลิกเป็นนีทสักวัน ส่วนพ่อของสองพี่น้องไม่ได้เป็นคนเข้มงวดมากนัก เป็นพนักงานบริษัทธรรมดาที่ใส่ใจครอบครัว สีหน้าเหมือนเหนื่อยๆ หัวหงอกอีกต่างหาก

    ทั้งเรื่องจะเห็นพ่อและแม่สองพี่น้องนีทไม่ได้กังวลกับพวกลูกๆ เป็นนีททั้งคู่มากนัก บางครั้งก็มาเล่นด้วย หรือซื้อขนมมาให้ (ทั้งมื้อกลางวันและมือดึก) พ่อแม่ไม่เคยดุว่าลูกอะไรเลย อาจเป็นเพราะความเป็นพ่อแม่ที่เชื่อใจลูกๆ ว่าลูกยังไม่เจอเส้นทางของตนเอง คอยเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ

    Hatarakanai-Futari ไม่ใช่การ์ตูนตลกที่เอาเรื่องนีทมาเล่นจนเป็นด้านลบ หรือไม่ใช่เอานีทมาเล่นจนตลกเลอะเทอะ แม้ในเรื่องจะขายความอนาถของนีท อมยิ้มกับความน่ารัก (เปิ่นๆ) ของน้องสาว แต่สิ่งที่สื่อจริงๆ ก็คือเรื่องของครอบครัวมากกว่า ที่ปัจจุบันสังคมของญี่ปุ่นที่แม้แต่ครอบครัวลูกไม่ค่อยพูดคุยกับพ่อแม่มากนัก และมันตลกไม่ออกเมื่อลูกๆ กลายเป็นนีทกับมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่มากขึ้น พูดคุยกับพ่อแม่มากขึ้น น้องสาวพูดคุยกับพี่ชายมากขึ้น และตัวพี่ชายก็เล่นกับน้องสาวมากขึ้น การสื่อสารของสองพี่น้องคือการดูภาพยนตร์, การเล่นเกม การเล่นเกม พี่ชายเล่น 1P น้องสาวเล่น 2P หัวเราะ เล่นจนลืมเวลา

    กลายเป็นว่าเพราะความเป็นนีท ครอบครัวอบอุ่นขึ้น!!

     

     

    พี่สาวข้างบ้าน

     

    มีตัวละครหนึ่งที่น่าสนใจในเรื่อง “พี่สาวข้างบ้าน” ที่ค่อนข้างเหงา ไม่มีครอบครัว ทำงานไปวันๆ เสร็จแล้วก็กลับมาบ้านเพื่อนอนหลับ เป็นแบบนี้ทุกวัน ไม่มีอะไรแปลกใหม่ เวลาผ่านไปอย่างน่าเบื่อหน่าย เธอไม่มีความสุขเลย จนกระทั่งในตอนกลางคืน ขณะที่เธอกำลังนอน เธอได้มองมาที่ข้างบ้านเพี่อน้องนีท และพบว่าข้างบ้านไม่ได้นอนหลับ  สองพี่น้องได้เล่นเกม ดูทีวีด้วยกัน  อย่างยิ้มแย้ม แม้ว่าพี่สาวข้างบ้านจะไม่เคยทักคนข้างบ้านมาก่อน แต่เธอกลับรู้สึกชอบ รู้สึกอิจฉา สองพี่น้องที่มีความสุขแบบนี้

    อยากมีความสุข แล้วความสุขคืออะไร?

    ความสุขคือการมีเงินเยอะๆ เหรอ  มีรถยนต์ยี่ห้อที่เราต้องการ, มีบ้าน มีอะไรทุกอย่างเหรอ แต่ทำไมบางคนที่มีสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดถึงไม่มีความสุข

    แล้วทำไมสองพี่น้องคนนั้นถึงมีความสุข ทั้งๆ ที่ทั้งคู่แทบไม่มีเงิน ไม่มีงานทำเลย

     

    น้องนีทดีใจได้เงิน

     

    มีอยู่ตอนหนึ่งน้องสาวนีทเมื่อได้เงิน 1,000 เยน ก็รู้สึกยิ้มแย้มแจ่มใส แม้จะไม่ใช่เงินจำนวนมากแต่เธอกลับมีความสุข   

    ความสุขไม่ได้เกิดจากเราได้สิ่งที่เราต้องการ แต่มันอยู่ที่ว่าเราพอใจในสิ่งนั้นๆ และทำอย่างไรจะรู้สึกดีกับสิ่งนั้นๆ มากกว่า แม้ว่าเกิดสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นกับตัวเรา  แต่ถ้าเราปรับตัวเรียนรู้ที่จะสนุกไปกับมัน คิดเชิงบวก มีความกระตือรือร้นล้นในการดำเนินชีวิต ดำเนินชีวิตอย่างพอเพียงก็มีความสุขแล้ว

    Hatarakanai-Futari   เป็นการ์ตูนที่สนุก  อาจไม่ได้หวือหวา หรือเวอร์ๆ มันเป็นเพียงการ์ตูนสนทนาที่ส่วนใหญ่พี่น้องนีทคุยกัน แต่บทสนทนาที่ว่าชวนให้อมยิ้มผสมความอนาถพี่น้องคู่นี้ไม่มากไม่น้อย  จากการ์ตูนในบล็อกส่วนตัวกลายเป็นการ์ตูนยาวลงเป็นซีรีย์ มันไม่ใช่การ์ตูนพี่น้องอย่างเดียว มันเป็นการ์ตูนครอบครัวด้วย แต่ครอบครัวนี้อาจจะแปลกในสายตาคนอื่น แถมยังรู้วิถีชีวิตคนเป็นนีทมากยิ่งขึ้น พวกเขาแตกต่างจากที่พวกเราคิดไว้

    ปัจจุบันการ์ตูนยังไม่มีลิขสิทธิ์ ซึ่งผมก็ว่าสยามจะสนใจนะครับ

    ไม่รู้ทำไมผมอ่านแล้วอยากให้สองพี่น้องคู่นี้เป็นนีทตลอดไป ดั่งคำขวัญของชาวนีทว่า “หากนีททำงานถือว่าแพ้นะ”

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×