ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

ลำดับตอนที่ #259 : สมดุลฮาเร็มในฮาเร็มเทพมังกร

“ตอนจบฮาเร็มน่ะไม่มีฟินหรอก มันมีแต่รับได้หรือไม่ได้เท่านั้น

มีคำถามหนึ่งที่เรามักพบเห็นบ่อยๆ (จนโครตเบื่อ) ที่หลายคนที่ดูแนวอนิเมะหรือมังงะแนวฮาเร็ม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง To Love Ru, Infinite Stratos, Boku wa Tomodachi ga Suku nai ko, sora no otoshimono และมักเกิดความสงสัยว่า “ตกลงแล้วเรื่องนี้ใครเป็นนางเอกเหรอ?” ซึ่งคำตอบก็มีหลายหลาย เดี๋ยวคนนี้เป็นนางเอก คนนั้นเป็นนางเอก ขึ้นอยู่กับแรงอวยของแต่ละคนว่าจะอวยใคร

                นางเอก หรือตัวเอก หากแปลความหมายจริงๆ ก็คือตัวละครหลักของเรื่อง (หากเป็นชายก็พระเอก) ซึ่งการดำเนินเรื่องมักจะเน้นมุ่งความสนใจไปที่ตัวเอก ตัวเอกมักจะเป็นตัวละครที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือพัฒนาการ แม้ว่านิยายจะมีศูนย์กลางอยู่ที่เหตุการณ์หรือตัวละครอื่นๆ แต่ตัวเอกจะเป็นตัวละครที่มีพลวัตร และมักจะทำให้นิยายคลี่คลายไปทิศทางบทสรุปของชิ้นงานนั้น และมักทำให้ผู้ดูเกิดความชื่นชมหรือความสนใจในเรื่องได้ (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย)

                ส่วนใหญ่ที่เราเข้าใจคือไม่ว่าจะเป็นนิยาย, ละคร, เกม จะมีพระเอกหนึ่งคน และนางเอกหนึ่งคน ซึ่งเป็นสองตัวละครที่โดดเด่นที่สุด (มีบทมากที่สุด) ส่วนตัวละครหลักคนอื่นๆ จะเป็นหน้าที่เพิ่มสีสันให้กับเรื่อง หรือมีเหตุการณ์ให้ตัวเอกไปแก้ไขเท่านั้น และตอนท้ายพระเอกและนางเอกก็รักกัน จบอย่างมีความสุขในที่สุด

                แต่สำหรับ แนวฮาเร็มบางเรื่อง (ที่ยกตัวอย่างมา) ไม่ได้เป็นเช่นนั้น เมื่อบางเรื่อง ดันมีตัวละครหญิงที่เป็นตัวเอกที่สำคัญเหมือนกันหมด โอเคเรื่องนี้มีนางเอกหลัก แต่บทบาทของเธอนั้นเทียบเท่ากับตัวละครหญิงตัวรองของเรื่อง จนเลือกไม่ถูก เชียร์ไม่ถูกเลย ว่าใครเป็นนางเอก ใครจะสมหวังได้พระเอกไปครอง

                สิ่งเหล่านี้เรียกว่า สมดุลแห่งฮาเร็ม (Balanced Harem) คือการดำเนินเรื่องแนวฮาเร็ม ที่พระเอกชายและผู้หญิงหลายคนที่มีความรู้สึกชอบพระเอกอย่างใกล้ชิดกับพระเอก  ซึ่งเนื้อหาจงใจให้บทบาทของพวกเธอนั้นเท่าเทียมกัน  พระเอกมีความรู้สึกชอบผู้หญิงทุกคน ไม่ได้โอนเอียงไปคนใดคนหนึ่ง  (หรือพูดง่ายๆ กินกันไม่ลง)

                อย่างไรก็ตาม สมดุลฮาเร็มที่ว่าไม่จำเป็นต้องเป็นผู้หญิงในฮาเร็มทั้งหมดในเรื่อง หากมีตัวเอกสองคนหรือสามคน  เช่นเรื่อง Infinite Stratos มีตัวละครหญิงในฮาเร็มห้าคน (สมมุติ) แต่นางเอก (สมดุลแห่งฮาเร็ม) มีสามคนเท่านั้น (หางม้า, ฝรั่งเศส และทวินเทล) ที่มีบทบาทมากกว่าใครเพื่อน จนทำให้เรื่องนี้เหมือนมีนางเอกสามคนเป็นต้น

ในเมื่อในเรื่องตัวละครผู้หญิงในฮาเร็มต่างชอบเขาทั้งหมด และที่น่าสนใจคือสมดุลแห่งฮาเร็มเหล่านี้ไปสู่ตอนจบแต่งงานกับพวกเขาทั้งหมด (Marry Them All) หรือง่ายๆคือ “ทุกคนเป็นผู้ชนะนั้นเอง”

                ปัจจุบันนั้นแนวฮาเร็มส่วนมาก ใช้ดำเนินเรื่องแบบสมดุลแห่งฮาเร็ม มากกว่าที่จะล็อกหรือแบเบอร์นางเอกเหมือนในอดีต การทำสมดุลแห่งฮาเร็มทำให้เกิดความหลากหลาย มีตัวละครอวยนอกเหนือนางเอก (จนเกิดสงครามอวยในปัจจุบัน) อีกทั้งยังน่าติดตามว่าบทสรุปจะออกเป็นอย่างไร

 

Umi no Misaki

Umi no Misaki หรือ “ฮาเร็มเทพมังกร” ก็ถือว่าเป็นการ์ตูนฮาเร็มแสดงให้เห็นถึงสมดุลแห่งฮาเร็มอย่างแท้จริง ที่วางบทตัวละครหญิงในฮาเร็ม (ซึ่งในเรื่องนี้มีสามคน ไม่นับพวกตัวประกอบหลัก) ชนิดว่าไม่มีใครด้อยไปกว่าใคร ทุกคนเป็นนางเอกหมด

 Umi no Misaki เป็นการ์ตูนแนวฮาเร็ม โรแมนติก คอมมาดี้  (เอจจิ และการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่) ผลงานของ Kou Fumizuki ซึ่งได้รับความนิยมพอสมควร  ส่วนลิขสิทธิ์ในไทยเป็นของวิบูลย์กิจในชื่อ “รักวุ่นวายคุณชายมังกร”

Umi no Misaki  ได้กล่าวถึงเด็กหนุ่มเมืองกรุง (โตเกียว) นาม “โกะโต นากิ” ที่ได้ย้ายมาอาศัยอยู่บนเกาะโอคิทสึ เกาะบ้านนอกทางตอนใต้ที่ห่างไกลจากโตเกียวที่มีธรรมชาติสวยงามที่เป็นบ้านเกิดของแม่ที่เสียไปแล้วของเขา

ครั้งแรกที่นากิมายังเกาะเขาก็ได้พบเด็กสาวชาวเกาะ ชื่อ “นารุมิ ชิซึกุ” ซึ่งเขาก็ขอร้องให้เธอพาเขาไปจุดชมวิว “อุมิโนะมิซากิ” และที่นั่นเขาก็ลื่นตกลงทะเล  หากแต่นากิก็ได้ถูกชิซึกุช่วยเอาไว้จากการจมน้ำ  จนเป็นเหตุทำให้นากิรู้สึกประจำใจเธอแม้พึ่งรู้จักกันไม่กี่ชั่วโมงก็ตาม

 หลังจากที่นากิแยกจากซิซึกุ เขาก็เดินทางไปบ้านของเขา และที่นั้นเขาก็ได้รู้จักเพื่อนบ้านของเขา “นากุโมะ คาริน” สาวน้อยที่ไม่ชอบหน้าเขาครั้งแรก (เพราะนากิดันไปเห็นเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าพอดี) อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของคาริน (ที่บอกไปด้วยคาริน, คุณยายของคาริน และน้องสาววัยประถมของคาริน) ก็ต้อนรับนากิเป็นอย่างเป็นกันเอง และเชื้อเชิญให้เขามารับประทานอาหารร่วมกัน

วันรุ่งขึ้น นากิก็ได้เดินทางไปโรงเรียนใหม่ของเขา หากแต่วันแรกของเขานั้นค่อนข้างเลวร้าย แม้ว่าในชั้นเรียนนั้นจะมีนักเรียนไม่กี่คน และเขาก็ได้พบชิซึกุอีกครั้ง หากแต่เธอกลับทำเย็นชาใส่เขาผิดจากตอนแรกที่เป็นมิตรโดนสิ้นเชิง  ซ้ำยังถูกสาวแว่น “มิสึรุกิ  โซโยกิ” เพื่อนร่วมห้องทำหน้าไม่พอใจและมีท่าทางรังเกียจเขาอีก

นากิทั้ง งง และสับสนว่าทำไมการเข้าเรียนวันแรกถึงเลวร้ายขนาดนี้ หากแต่ในเย็นวันนั้น นากิก็เข้าใจเรื่องทั้งหมดว่าทำไมชิซึกุนั้นถึงเย็นชากับเขา เพราะชิซึกุนั้นได้รับความยำเกรงจากผู้คนบนเกาะแบบเข้มข้นในฐานะมิกะผู้รับใช้เทพเจ้ามังกรซึ่งเป็นเทพผู้พิทักษ์เกาะในอดีตกาล ดังนั้นเธอต้องวางตัวของเธอให้เหมาะสมต่อหน้าคนอื่น

อย่างไรก็ตาม ไม่ทันทีนากิจะเข้าใจเรื่องทั้งหมด เขาก็พบความจริงที่น่าตกใจกว่า เมื่อเขารู้ว่าเขาเองก็เป็นร่างอีกภพของเทพมังกรที่ร้อยปีจะมาเกิดเป็นมนุษย์สักครั้ง

หน้าที่ของนากิก็คือเขาจะต้องเลือกหนึ่งในสามมิโกะบนเกาะมาเป็นคู่ครอง โดยสามมิโกะนี้มี ชิซึกุ, โซโยกิ, คาริน ทั้งหมดเป็นสาวสวยที่นากิพึ่งพบพวกเธอบนเกาะแห่งนี้ และก่อนที่จะถึงวันที่นากิจะเลือกเธอคนใดคนหนึ่ง เขาจะต้องถูกมิโกะทั้งสามรับใช้เพื่อให้ได้รับความเอ็ดดูจากเขา

ทุกคนคือปีกของฉัน 

Umi no Misaki ลงต่อเนื่องในนิตยสาร Young Animal (Hakusensha) ในปี 2007 ซึ่งตอนที่เขียนบทความ การ์ตูนใกล้จะถึงบทสรุปที่จะจบลงในไม่กี่วันข้างหน้า 

โค ฟุมิสึกิ (Kou Fumizuki) ถือว่าเป็นนักเขียนการ์ตูนที่หลายคนรู้จักพอสมควร จากการ์ตูนดราม่าเรื่อง “Ai yori Aoshi” (1998)  ที่ถูกนำไปสร้างเป็นอนิเมะ อย่างไรก็ตาม ผลงานก่อนๆ ของคนเขียนนั้นส่วนใหญ่เป็นแนวการ์ตูนผู้ใหญ่สายมือ (เฮ็นไต) และยูริ ไม่แปลกแต่อย่างใดที่มีฉากล่อแหลมในเรื่อง Ai yori Aosh และ Umi no Misaki บ้าง (??)  และผลงานล่าสุดคนเขียนฉีกแนวเดิมอีกครั้ง ด้วยเรื่อง Itadaki! (2011) ซึ่งเป็นแนวตลกชีวิตประจำวันที่ไม่ได้มีเรื่องความรักชายหญิงเข้ามาเกี่ยวข้องเหมือนที่ผ่านมา (แต่ยังเน้นธรรมชาติแบบฮาเร็มเทพมังกรอยู่ และตัวเอกของเรื่องคล้ายอาจารย์คิซารากินิดหน่อย)  

แน่นอนว่ามีหลายคนมักตั้งคำถามว่า Umi no Misaki ใครคือนางเอกกันแน่ แน่นอนว่าใครที่อ่านการ์ตูนเรื่องแรกคงต้องตอบว่า “ชิซึกุ” เพราะเธอมีรัศมีเป็นนางเอกมากที่สุด เพราะชิซึกุเป็นคนแรกที่พระเอกเจอ และทำให้พระเอกมีความทรงจำดีๆ เป็นครั้งแรก ซิซึกุน่าจะเป็นนางเอกล็อกแบเบอร์ที่น่าจะสมหวังในตอนท้ายเรื่อง

แต่ปรากฏว่าผิดถนัดเลย ฮาเร็มก็คือฮาเร็ม นางเอกไม่มีเพียงคนเดียว เมื่อเนื้อหาของการ์ตูนไม่ได้ดำเนินเรื่องไปที่ซิซึกุเป็นหลัก หากแต่วางบทคารินและโซโยกิเทียบเท่ากับซิซึกุด้วย ชนิดว่าว่าคนที่อ่านไม่รู้เลยว่าใครคือนางเอก ใครที่นากิรักมากที่สุด เพราะดูเหมือนว่านากิรู้สึกชอบพวกเธอในฐานะคู่รักเท่าเทียมกันเลยด้วยซ้ำ

ที่น่าแปลกคือ ผลงานที่ผ่านมาของคนเขียน “คู่แท้แต่มาป่วน” คนเขียนก็ได้ล็อกนางเอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ แต่กลายเป็นว่าในผลงาน “ฮาเร็มเทพมังกร” คนเขียนไม่ได้วางให้ชิซึกุเหมือนนางเอกที่ผ่านมา แน่นอนชิซึกุคือนางเอก แต่เธอไม่ใช่นางเอกล็อกหรือแบเบอร์ แต่ก็เป็นนางเอกที่จะมีความสำคัญที่สุดในเรื่อง เป็นตัวตัดสินชี้ขาดในเรื่องว่านากิจะต้องดำเนินทางไปในทิศทางไหน

 

เกาะโอคิทสึ เวทีของเรื่องนี้

ตลอดทั้งเรื่องการ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องไม่กี่ฉาก ไม่กี่สถานที่ คือในเกาะโอคิสึ ที่ปรากฏฉากไม่กี่ฉากหลังๆ คือ หาดทราย บ้านนากิ นอกนั้นก็มีโรงและศาลเจ้าที่มีอีเวนท์แตกต่างกันไป และไกลหน่อยก็เป็นเกาะข้างเคียงเท่านั้น  แต่ทั้งหมดเก็บรายละเอียดดีมาก ภาพบนเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเลที่ผู้คนบนเกาะเป็นมิตร ความสงบสุข วิถีพออยู่พอเพียง (ปลูกผัก ทำไร่) ชาวบ้านอาศัยอยู่กับธรรมชาติ โดยภาพท้องทะเลที่เต็มไปด้วยปะการังและปลาสวยงามวาดสวยงามมากๆ ทำให้เรารู้สึกอยากไปเที่ยวเกาะที่พวกพระเอกอยู่ไม่มากก็ไม่น้อย

                ทางด้านการออกแบบตัวละคร ลายเส้นของการ์ตูนนั้นอาจไม่สวยนักในตอนแรก (รู้สึกว่าลายเส้นของคนเขียนเปลี่ยนอยู่สามช่วง) แต่ในช่วงหลังตัวละครวาดน่ารักขึ้น ขนาดนากิเองยังมีการเปลี่ยนแปลงมีชีวิชีวามากขึ้นจากผิดจากเล่มแรกๆ (เล่มแรกดูจะแข็งๆ หน่อย พอมาหลังๆ นี้เหมือนจะน่ารักขึ้น) 

การออกตัวละครสาวๆ ทั้งสาม หากพูดตามตรงคือสูตรสำเร็จมากๆ ชนิดว่าไม่ได้ฉีกแนวอะไรจากการ์ตูนแนวฮาเร็ม (หรือพวกแนวจีบสาวเรื่องใดเลย) ไม่ว่าจะเป็นชิซึกุที่ออกแบบเหมือนนางเอกผมยาวเรื่องอื่นๆ, คารินออกแบบเหมือนเพื่อนสมัยเด็กร่าเริง (แม้ในเรื่องไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็ก แต่ก็อุตส่าห์อยู่ข้างบ้านพระเอกซะและเป็นคนแรกๆ สนิทกับพระเอกก่อนใครเพื่อน) และโซโยกิสาวแว่น แม้ตัวละครเหล่านี้ไม่ได้ฉีกแนวอะไรมากนัก หากแต่เพราะการดำเนินเรื่องทำให้เรารู้สึกอวย รู้สึกอินกับตัวเอกทั้งสามเลยทีเดียว

                จุดเด่นการดำเนินของเรื่องนี้ตอนแรกผมก็นึกว่าเนื้อหาจะเน้นเรื่องชิซึกุ รักใสๆ ทิวทัศน์ธรรมชาติ โดยมีประเพณี พิธีกรรมและเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง (แถมมีแววปวดตับในช่วงกลาง เพราะมิโกะที่ถูกเทพมังกรเลือกจะต้องถูกบูชายัน ตามตำนานที่อ้างในเล่มแรก) แต่เนื้อหาจริงๆ กับเป็นเรื่องความสัมพันธ์ ความรักของนากิและสามสาว (ฮาเร็ม) โดยมีความเชื่อและหน้าที่มาเกี่ยวข้องมากกว่า

 

พระเอกนากิ (และรินเนะกิ๊กลับๆ ของพระเอก)

                เรื่องราวมันเริ่มต้นนากิ เด็กหนุ่มจากโตเกียวที่ไม่มีอะไรพิเศษนัก เขาก็เหมือนคนธรรมดาทั่วไป และพึ่งเป็นสมาชิกใหม่บนเกาะโดดเดี่ยวไม่กี่วัน แต่กลับได้อำนาจทางสังคมของเกาะแห่งนี้ในทางอ้อมที่เขาจะต้องเลือกหนึ่งในสามมิโกะ ทั้งๆ ที่เขาพึ่งพบพวกเธอไม่ถึงวันด้วยซ้ำ และเขาไม่รู้จักพวกเธอมาก่อน แต่เพราะอำนาจหน้าที่ (ที่เกิดจากความเชื่อของชาวบ้าน) ทำให้เขาได้รู้จักพวกเธอ นากิก็ตอบรับอย่างง่ายดาย (อาจเป็นเพราะเขายัง งง สับสน หรือไม่ก็คิดว่าเป็นเพียงแค่ความเชื่อ อำนาจเทพมังกรเขายังคลุมเครือ ทำให้เขาไม่ตะหนักหน้าที่ของตนมากนัก)

                หลังจากนั้นนากิก็คบกับสาวสาวพร้อมกัน (จับปลาสามมือเลยทีเดียว) แม้ช่วงแรกอาจจะสูตรสำเร็จ น่าเบื่อ เหมือนรักใสๆ ที่ไม่มีอะไรให้น่าติดตามนัก เพราะเป็นช่วงที่นากิเริ่มคบและทำกิจกรรมกับสามสาวแบบช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป

ที่น่าสนใจอีกอย่างการดำเนินเรื่องของการ์ตูนมังงะฮาเร็มเทพมังกรนั้นคล้ายกับเราเล่นเกมจีบสาวไม่มีผิด  กล่าวคือตอนแรกดำเนินเรื่องเหมือนการ์ตูนๆ ทั่วไปให้พระเอกทำความรู้จักตัวละครสำคัญในเรื่องก่อน (ความจริงก็คล้ายกับเกมจีบสาวด้วยซ้ำเพราะต้องให้แนะนำสาวในฮาเร็มก่อนในตอนแรก) จากนั้นเมื่อมาถึงเล่ม 3 (มังงะ) ก็จะเริ่มแยกเป็นเรื่องรูท 3 รูท รูทของชิซึกุ, รูทคาริน และรูทโซโยกิ (เล่ม 2 จะเน้นชิซึกุและคาริน) ที่พระเอกต้องมีความสัมพันธ์และทำกิจกรรมกับเธอนั้นๆ ชนิดว่ารูทหนึ่งจัดไปคนนั้นเต็มๆ (ซึ่งมีเหตุการณ์และเรื่องประทับใจแตกต่างกันแล้วแต่ล่ะคน)  และเมื่อจบตอนก็สลับไปหาคนอื่น สลับไปมา เท่ากัน ก่อนที่เส้นทางรูทสามสายจะรวมเป็นรูทเดียวอีกครั้ง ในช่วงสำคัญ 

                เนื่องด้วยสาวตัวเอกทั้งสามนั้นไม่ได้เป็นเพื่อนสมัยเด็กพระเอก หรือมีความผูกพันอะไรกับพระเอกตั้งแต่วัยเด็ก พระเอกพึ่งได้พบพวกเธอเป็นครั้งแรก ดังนั้นความสัมพันธ์ในตอนแรกระหว่างพระเอกกับสาวสาวเป็น 0 ความประทับใจของเขากับพวกเธอทั้งสามอยู่ที่เหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องราวของการ์ตูนที่เราติดตามตั้งแต่ต้นจนถึงบทสรุปท้ายเรื่อง ว่านากิทำให้สามสาวประทับใจอะไรในตัวเขาบ้าง และเขาเองประทับใจอะไรในสามสาวบ้าง

จะเห็นว่าในช่วงเล่ม 1-10 นากิจะมีความสัมพันธ์กับสามสาวอย่างช้าๆ เนิ่บๆ เดี๋ยวคบกับคนโน้น เดี๋ยวก็คบกับคนนี้ ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกัน ได้เรียนรู้ชีวิตประจำวัน รวมไปถึงงานอดิเรกของพวกเธอ ทำให้เขารู้ว่าภายใต้หน้าฉากมิโกะที่คนเคารพนับถือกันทั่วเกาะ (และใกล้เคียง)  จนดูเหมือนเป็นรักสี่เศร้า ใสๆ แต่ในขณะเดียวกัน นากิก็เริ่มรู้อีกตัวตนหนึ่งของสามมิโกะที่น่านับถือจากชาวบ้านนั้น ทั้งสามไม่ต่างไปจากเด็กสาวทั่วไปนัก

ปกติคนเขียนฮาเร็มเทพมังกรที่ผ่านมาจะเน้นเรื่องความรักดราม่าปวดตับ แต่มาผลงานฮาเร็มเทพมังกรช่วงแรกอ่านไม่ได้เน้นดราม่าหนักมากนัก (แม้ช่วงกลางจะมี แต่ไม่หนักอย่างที่ผมคิดเอาไว้) ซึ่งนอกเหนือความรักของหนุ่มสาวที่ต้องการนำเสนอแล้ว ยังมีเนื้อหาก็ยังสอดแทรกปมจิตใจของสาวมิโกะ รวมไปถึงการตะหนักหน้าที่ของแต่ละคนได้รับแม้ไม่ได้เต็มใจก็ตาม

ภายใต้การใช้ชีวิตร่วมกันนั้น นากิปักธงสามสาว พร้อมกับพัฒนาจิตใจพวกเธอ (ทั้งปลอบ ทั้งชมเธอ การวางตัวเหมือนแฟนเลยก็ว่าได้) รวมไปถึงการแก้ปมจิตใจที่สามมิโกะที่นากิเห็นแตกต่างกัน โดยมีเรื่องหน้าที่เป็นตัวต้นเหตุ  ส่วนสามสาวตอนแรกก็คบนากิเพราะมันคือหน้าที่ อุทิศตนเพราะความเชื่อ  แต่ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มรู้สึกตัวแล้วว่าพวกเธอรักชายคนเดียวกันในฐานะหญิงสาวคนหนึ่ง ไม่ใช่ในฐานะมิโกะแต่อย่างใด

 

นารุมิ ชิซึกุ

                นารุมิ ชิซึกุ (คาแร็คเตอร์แบบนางเอกแนวรักๆ ทั่วไป) สาวชาวเกาะคนแรกที่พระเอกเห็นหลังจากเหยียบบนเกาะ ภายนอกเหมือนเด็กสาวทั่วๆ ไปหากแต่เพราะความเชื่อของเกาะทำให้เธอถูกกำหนดเป็นหนึ่งในสามมิโกะประจำเกาะโอคิสึ (เป็นมิโกะแห่งท้องทะเล) มาตั้งแต่เกิด ผู้ใกล้ชิดกับเทพมังกร ด้วยฐานะของเธอทำให้เธอเป็นที่นับถือจากประชาชนบนเกาะ (และใกล้เคียง) เป็นอย่างมาก  และเพราะการวางตัวนี้เองทำให้เธอต้องทำตัวน่าเคารพและไม่สนิทกับเพื่อนวัยเดียวกัน (ยกเว้นคารินและโซโยกิ) อุทิศทุกอย่างตามกฎของมิโกะทุกอย่าง ทำให้เธอใช้ชีวิตส่วนใหญ่แยกตัวออกจากสังคม

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นากิมายังเกาะ และเมื่อชิซึกุรู้ว่านากิเป็นเทพมังกร เริ่มผ่อนคลาย ตัวเป็นสาวใส ขี้อ้อน และนากิยังรู้อีกว่าเธอยังนิสัยแบบผู้หญิงทั่วไปที่ชอบเล่นตุ๊กตาและชอบการ์ตูนสาวน้อย

 

นากุโมะ คาริน

ถ้าหากถามว่าผมชอบรูทใคร ผมน่าจะตอบได้ว่าชอบของรูทของคาริน สาวเพื่อนบ้านของนากิ  ภายนอกเหมือนเด็กสาวทั่วๆ ไปหากแต่เพราะความเชื่อของเกาะทำให้เธอถูกกำหนดเป็นหนึ่งในสามมิโกะประจำเกาะโอคิสึ (เป็นมิโกะแห่งไฟที่นำไปความเจริญรุ่งเรือง) มาตั้งแต่เกิด อย่างไรก็ตามหากเทียบกับคนอื่นแล้วคารินจะวางตัวเป็นกันเองกับทุกคนมากกว่า (แม้จะเลือกเป็นมิโกะ แต่เธอก็ใช้ชีวิตแบบเด็กสาวทั่วๆ ไป ไม่ได้เข้มงาดเหมือนชิซึกุหรือโซโยกิ) อีกทั้งนิสัยเปิดเผย ทำให้นากิคบกับคารินแบบไม่ประหม่ามากนัก ตอนแรกเธอก็ไม่ค่อยรู้สึกกับนากิเท่าไหร่ หากแต่ตอนหลังเธอก็เริ่มสับสัน ก่อนที่จะชอบนากิขึ้นมาจริงๆ  ชนิดว่าไม่สามารถแยกจากเขาได้  ความสัมพันธ์ระหว่างนากิกับคารินนั้นคล้ายแบบเพื่อนสมัยเด็ก (แต่คารินไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็ก) คือมีความสนิทสนมมากกว่าคนอื่น จนดูไม่เหมือนแฟนสักเท่าไหร่

 

มิสึรุกิ  โซโยกิ

                ทั้งชิซึกุและคารินนั้นชอบนากิตั้งแต่แรกเห็น (ชิซึกุชอบนากิตั้งแต่แรก ส่วนคารินชอบนากิในเล่ม 2 ) แต่สำหรับโซโยกิ กินั้นตอนแรกไม่ได้ชอบนากิเลยแม้แต่น้อย แถมตอนที่นากิพบเธอครั้งแรกก็ไม่ค่อยประทับใจมากนัก ตอนหลังถึงได้รู้ว่าโซโยกิถูกกำหนดเป็นหนึ่งในสามมิโกะประจำเกาะโอคิสึ (เป็นมิโกะแห่งลม) ค่อนข้างจริงจังต่อหน้าที่ได้รับ เป็นเหตุทำให้เป็นคนมาดขรึมต่อหน้าคนอื่น หากแต่เมื่อเธอคบกับนากิ ก็พบว่าเธอเป็นเพียงเด็กสาวที่ไม่รู้จักการคบหาเพศตรงข้าม ไม่เก่งงานบ้านอย่างแรง แม้เทียบกับสองคนความสัมพันธ์ความรักระหว่างนากิและโซโยกิถือว่าช้ามาก เพราะตอนแรกเธอคบนากิเพราะเป็นหน้าที่  อุทิศตนตามความเชื่อทุกอย่าง กว่าที่โซโยกิจะชอบพระเอกนั้นก็ตามหลังคนอื่นไปแล้ว อย่างไรก็ตามความรู้สึกของเธอที่มีแต่นากินั้นมากไม่แพ้ใคร จนเรียกได้ว่าชีวิตเธอขาดเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ

แน่นอนว่านากิไม่ได้ปักธงพวกเธออย่างเดียว แต่พวกเธอเองก็ปักธงหัวใจแก่เขาด้วย และนากินั้นไม่ใช่พระเอกฮาเร็มหลายเรื่อง ที่สามารถอดทนต่อสิ่งเย้ายวนตรงหน้าได้ ในเมื่อเขาเห็นสาวสวย และนั้นทำให้เขาได้จูบ และไม่ได้จูบคนใดคนหนึ่งด้วย เขาจูบพวกเธอทุกคน !! และนั้นเองทำให้นากิสับสนว่าตนเองกำลังทำอะไรอยู่กันแน่??

สมดุลฮาเร็มได้ทำให้พระเอกหลงรักสาวที่อยู่ในฮาเร็ม โดยที่เขาไม่สามารถเลือกคนใดคนหนึ่งได้เลย การคบพร้อมกันสามคน การพัฒนาจิตใจ การรู้ชีวิตส่วนตัวของทั้งสามแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่กลับกลายเป็นว่าบทบาทของพวกเธอกลับเท่ากัน ไม่ได้เอนเอียงไปคนใดคนหนึ่ง  สาวในฮาเร็ม ไม่มีใครที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเกลียด

 

บทสรุปของเรื่องนี้??

                อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เนื้อหารักใสๆ ระหว่างนากิและสามสาวมิโกะมานาน จนกระทั่งมาถึงการเรื่อง เนื้อหาของการ์ตูนเรื่องนี้ก็มาถึงสิ่งที่คนเขียนถนัดก็คือ “ดราม่า” รวมไปถึงฉาก “เอากัน” (หลังจากที่เอจจิมานาน) แบบให้คนอ่านตะลึง ไม่แคร์สื่อเลยทีเดียว จนไม่เชื่อเลยว่านี้คือการ์ตูนรักใสๆ ในตอนแรก แต่จะว่าไปฉากเหล่านี้ก็ฉากหากินของคนเขียน  หากใครอ่านผลงานก่อนหน้าของคนเขียนมาก่อนก็รู้ทันที แต่ไม่นึกเลยว่าเรื่องนี้คนเขียนจะเอามาใช้ในเรื่องนี้เท่านั้น

 (เนื้อหาที่ว่าอยู่ในรวมเล่ม 11-12 ซึ่งปัจจุบันมีหลายคนลุ้นอยู่ว่าวิบูลย์กิจจะตีพิมพ์ต่อหรือเปล่า เพราะภาพส่อเหลือเกิน)

ที่น่าสนใจคือ แม้จะมีฉากเรตเข้ามา แต่สมดุลฮาเร็มมักมีเรื่องเซอร์ไพร์เสมอ เพราะบางครั้งก็ปรากฏตัวละครฮาเร็มแบบมาที่หลังแล้วดังกว่า  ท่ามกลางกฎหมายต่อต้านโลลิ (หรือจัดระเบียบโลลิ) ตัวละครอย่าง “รินเนะ” น้องสาววัยประถมของคารินก็ได้เข้ามารูทพระเอกด้วย ทั้งๆ ที่ผ่านมาตัวตนของตัวละครนี้ช่างเบาบางเหมือนเป็นตัวประกอบ แต่กลายเป็นว่ามาช่วงกลางเรื่องเธอได้กลายเป็นตัวละครสำคัญและอยู่ฮาเร็มของนากิอย่างไม่น่าเชื่อ (เธอถูกนากิจูบ) โดยเธอเป็นตัวละครตอบย้ำว่านากิเป็นเทพมังกรกลับชาติจริงๆ ไม่ใช่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา  และนั้นเองทำให้นากิตะหนักถึงหน้าที่ของตนมากยิ่งขึ้น นำไปสู่บทสรุปตอนท้ายที่น่าตกใจ

หลังจากผ่านเรื่องดราม่า น้ำตา ความตื่นเต้น ลุ้น (ในหลายๆ ความหมาย) ชนิดตอนต่อตอน  และแล้วก็มาถึง วันที่นากิต้องตัดสินใจเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ครอง (อยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายใกล้จะจบแล้ว) และเมื่อถึงบทสรุปที่ออกมา ผมถึงกับพอใจเป็นอย่างมาก เพราะนี้แหละคือบทสรุปที่ไม่เสียแรงที่ติดตามมาอย่างนาน

บทสรุปที่ว่านั้นคือ “นากิเลือกสามมิโกะ เป็นคู่ครอง” (บางทีอาจเป็นสี่ในอนาคต หากนับน้องสาวของคารินด้วย หรืออาจเป็นคนอื่นๆ นอกเหนือมิโกะด้วยในเรื่อง)

คำถามที่ตามมา คือทำไมเป็นบทสรุปที่คุ้มค่าสมที่รอคอย สาเหตุเพราะเนื้อหาของการ์ตูนนั้นไปในเส้นทางของบทสรุปนี้อยู่แล้ว เพราะมีปัจจัยมากมายที่นากิเลือกรูทฮาเร็มมากกว่าจะเลือกวิน (เลือกคนเดียว)ซึ่งเหตุผล มันไปในทิศทางนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำลายสิ่งที่คนอ่านกังวล ไม่ว่าสุดท้ายแล้วนากิต้องออกจากเกาะหรือเปล่า? (คำตอบของนากิก็คือเขาไม่มีทางออกจากเกาะนี้แน่นอน เพราะที่นี้คือบ้านของเขา) แล้วนากิเป็นเทพมังกรหรือเปล่า?  (คำตอบคือนากิเป็นเทพมังกรตัวจริง)  รวมไปถึงสุดท้ายนากิจูบพวกเธอทั้งสาม (การจูบในการ์ตูนหมายถึงพันธะสัญญา ความเป็นเจ้าของ)  การ “แสดงความรับผิดชอบ” ของนากิที่มีต่อพวกเธอทั้งสาม และรวมถึงการแสดงความเป็นลูกผู้ชายของนากิ สิ่งเหล่านี้ทำให้ทำให้นากิตัดสินใจเลือกสามมิโกะเป็นคู่ครอง

คำตอบ “ฉันเลือกเธอทั้งหมดนี้” ไม่จำเป็นต้องนึกถึงกฎหมาย หรือหลักความจริง แต่เป็นการตอบสนองของเนื้อหาของเรื่องที่ควรจะจบอย่างไรมากกว่า

และนี่แหละคือสมดุลของฮาเร็มที่นำไปสู่บทสรุปของฮาเร็ม

Umi no Misaki อาจเป็นการ์ตูนฮาเร็มที่เนื้อหาธรรมดา  การดำเนินเรื่องเชยๆ ตัวละครก็สูตรสำเร็จ แต่กระนั้นคนเขียนได้ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็นการวางบทที่ทำให้ทุกคนเป็นนางเอก การใส่รูทตัวประกอบที่โดดเด่น (ดาราสาว, ทวินเทล ไปจนถึงรินเนะ) รวมไปถึงฉากที่ทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมต่อนากิ พระเอกของเรื่อง ที่ไม่ได้เป็นพระเอกฮาเร็มกากๆ ธรรมดา รวมไปถึงฉากมากมายที่กระตุ้นให้เราลุ้นตลอดทั้งเรื่อง หยองจริงๆ

สุดท้ายแล้วนากิก็มีความสุขกับฮาเร็มของเขา แม้ว่าบนเกาะแห่งนี้ความเชื่อและประเพณีจะให้ตัวตนของพวกเขาสูงสุดเพียงใด แต่พวกเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตประจำวันที่แสนสงบสุขเหมือนที่ผ่านมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และทั้งหมดนี้เป็นจุดเริ่มต้นหลังวันปิดเทอมเท่านั้น

สำหรับเนื้อหารายละเอียดอื่นๆ ของเรื่องนั้น ผมก็ไม่ขอพูดถึง  เอาเป็นว่าตอนนี้ขอลุ้นว่าการ์ตูนเรื่องนี้วิบูลย์กิจจะออก 11 หรือเปล่า ยิ่งกว่าฉากนากิลากสังขารช่วยชิซึกุเสียอีก!?