ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #249 : (สปอย Danganronpa) ไมโซโนะไม่ได้ตายอย่างไร้ค่า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 14.74K
      22
      16 ต.ค. 56

    บทความนี้จะเขียนถึงแค่ไมโซโนะ ซายากะ เรื่องอื่นๆ ไม่เขียน ไม่ว่าจะเป็นวัตถุประสงค์ที่สร้างโรงเรียนขึ้น ตอนจบ หรือใครรอด ไม่รอดเรื่องนี้ติดตามในสปอยที่อื่น หรือเล่นเกม หรือดูอนิเมะเอาเองน่ะครับ


                 Danganronpa Kibou no Gakuen to Zetsubou no Koukousei The Animation มีชื่อไทย ดันกันรอนปะ โรงเรียนมัธยมแห่งความหวังและเหล่านักเรียนมัธยมปลายผู้สิ้นหวัง (ต่อไปนี้ขอย่อว่า Danganronpa)  เป็นเกมบนเครื่อง PSP ของค่าย Spike (ปกติค่ายนี้เป็นบริษัทจำหน่ายเกม ไม่มีประสบการณ์ผลิตเกม แลย ถือว่าเป็นเกมแรกๆ ที่ค่ายนี้ทำ) วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2010 แนว ADV ผสม Visual Novel (สอดแทรกมินิเกม) ซึ่งเนื้อหาเป็นแนวสืบสวนสอบสวน

    Danganronpa เป็นเกมที่ผู้ผลิตที่ไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะเนื้อหาค่อนข้างที่จะฮาร์ต และไม่ใช่แนวที่นิยม หากแต่ด้วยเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม แสนหักมุม  สอดแทรกข้อคิดอะไรมากมาย อีกทั้งตัวละครที่โดดเด่น (น่ารัก น่าอวย) อีกทั้งยังระดมทีมพากย์ที่มีชื่อเสียงมากมาย และนั้นเองทำให้ยอดขายมากกว่าที่ตั้งเป้าเอาไว้หลายช่วงตัว จนทำให้มี Danganronpa ภาค 2 ตามมา

    Danganronpa ได้รับคำชมจากแฟมิซึ (นิตยสารเกมที่วิจารณ์เกมที่ให้คะแนนเข้มงวดมากๆ ) ถึง 36/40 และอีกหลายสำนักเกม จากความสำเร็จดังกล่าวทำให้มีมังงะตามมา (เท่าที่เห็นมี 3 เวอร์ชั่น ซึ่ง 2 เวอร์ชั่นนั้นเนื้อหาตรงกับในเกม ส่วนอีกเวอร์ชั่นเป็นภาคไม่ตรงกับตัวเกมซึ่งผมไปเจอโดยบังเอิญเมื่อนานมาแล้ว) นอกจากนี้ยังมีนวนิยายอีกด้วย

    ในเดือนธันวาคม 2012 ก็ได้มีการประกาศเป็นอนิเมะ กำกับโดย  Seiji Kishi ซึ่งเริ่มฉายตั้งแต่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา

     

     

    Danganronpa Kibou no Gakuen to Zetsubou no Koukousei The Animation

     

    สำหรับเรื่องราวของเรื่อง เริ่มต้นเมื่อนาเอกิ มาโคโตะ (ซึ่งในเกมเราก็จะรับบทเป็นเขาครับ) พระเอกที่แสนธรรมดา ที่ดวงดีได้รับเลือก (จากการจับฉลาก) ให้เข้าไปโรงเรียนมัธยมปลายคิโบกามิเนะ ที่มีแต่นักเรียนมัธยมปลายที่ชำนาญและมีชื่อเสียงเท่านั้นจึงเข้าเรียนได้

    หากแต่แล้วระหว่างที่เขาอยู่หน้าโรงเรียน จู่ๆ เขาก็สลบไป และเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็พบว่าอยู่ในโรงเรียน ที่ห้องเรียนที่หน้าต่างถูกปิดตายสนิทด้วยแผ่นเหล็ก อีกทั้งยังมีกล้องวงจรปิดแทบทุกจุด  และเมื่อเขาไปโรงยิมเพื่อไปปฐมนิเทศก็พบพวกนักเรียนคนอื่นๆ ที่ล้วนเป็นคนดังในแต่ละด้านรวมตัวกัน ซึ่งหากรวมเขาด้วยก็เป็น 15 คน

    และไม่ทันทีทั้งหมดจะรู้จักกันดี จู่ๆ ก็มีหมีประหลาดสีขาวครึ่งสีดำครึ่ง ที่อ้างว่าเป็นครูใหญ่ชื่อ “โมโนคุมะ”  ที่มันบอกว่าเด็กนักเรียนทั้ง 15 คนจะไม่สามารถออกไปไหนได้ ทุกคนจะต้องอยู่ขังในโรงเรียนไปตลอดชีวิต มีทางเดียวที่ออกไปได้ก็คือต้อง “สำเร็จการศึกษา” ด้วยการ"สังหารใครสักคนซะ ใครฆ่าได้ก็จะสามารถออกไป"

    แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องยากที่จะฆ่าคนเพื่อแลกกับอิสระ ดังนั้นพวกเขาทั้ง 15 คนจึงตัดสินใจจะอยู่ร่วมกันแล้วหาทางออกโดยที่ไม่ต้องสังหารกันเองตามเกมของโมโนคุมะ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆเมื่อโมโนคุเมะได้เตรียมแรงกดดันในแต่ละครั้ง ที่ผลักดันให้พวกเขาเล่นไปตามเกม และนั้นเองทำให้คดีแรกเกิดขึ้นในที่สุด...

     

     

    ไมโซโนะ ซายากะ (Maizono Sayaka)

     

    Danganronpa เป็นอนิเมะไม่กี่เรื่องที่ผมดูซีซั่นนี้ และดูหลายรอบมาก แม้ว่าตัวอนิเมะอาจมีหลายจุดต้องปรับปรุงมากก็ตาม

    อย่างไรก็ตาม Danganronpa เป็นการ์ตูนอนิเมะที่หลายคนต้องเตรียมตัวตัวใจสักนิด เพราะว่าเนื้อหาของอนิเมะนั้นมีฉากการตายของตัวละครหลักของเรื่อง และตัวละครหลักที่ว่ามีตัวละครที่หลายคนอวยมากเกินหนึ่งคน และนั้นเองทำให้หลายคนแทบไม่รับไม่ได้ที่ตัวละครที่ตนชอบตาย ถึงขั้นเลิกดูไปเลยก็มี (แม้บางคนเล่นเกมมาก่อนแล้วก็ทำใจยอมรับมันไม่ได้พอสมควร)

    และหนึ่งในตัวละครที่หลายคนอวยและตายในเรื่อง ก็มีชื่อของ “ไมโซโนะ ซายากะ” รวมอยู่ด้วย

    ไมโซโนะ ซายากะเป็นหนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นมากๆ ของ Danganronpa โดยในเรื่องเธอถูกวางบทให้เป็นไอดอล (ไอดอลระดับสูงโรงเรียน) ซึ่งเป็นลีดเดอร์ของวงไอดอลกรุ๊ปที่กำลังโด่งดังสุดๆในประเทศ ก่อนที่จะได้รับเลือกเข้าโรงเรียนมัธยมปลายคิโบกามิเนะที่ซึ่งรวบรวมนักเรียนเฉพาะทางที่มีชื่อเสียง หากแต่เธอกกลับถูกฆ่าตายในบทที่ 1 (หรือคดีที่ 1) ทำให้บทของเธอจบลงไปเพียงเท่านั้น

    ไมโซโนะเป็นหญิงสาวที่ค่าเฉลี่ยความสูงเท่าผู้หญิงเท่าไป (165 ซม.) ไว้ผมยาวสีฟ้า ดวงตาสีฟ้า ชุดกลาสีโรงเรียน นิสัยหน้าตาน่ารักอัธยาศัยดีและมีผิวเรียบขาวสวยเหมือนกับตุ๊กตา หากพูดเต็มปากก็คือ คาแร็คเตอร์ที่ว่านั้นดูดาดๆ มาก เชื่อเลยว่าหลายคนคงมีความคิดเห็นว่าไมโซโนะนั้นเป็นตัวละครที่เห็นบ่อยๆ อยู่แล้ว  การแต่งตัวก็ธรรมดาเมื่อเทียบกับตัวอื่น

    (เรื่องที่หลายคนไม่รู้คือตอนแรกมีการออกแบบให้ไมโซโนะเป็นเจ้าหญิง แต่ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นไอดอลแทน และไมโซโนะเป็นตัวละครต้นแบบพื้นฐานที่ออกแบบหลายแบบเยอะกว่าตัวละครหญิงในเรื่อง)

    แต่ความธรรมดาดังกล่าวกลับกลายทำให้ไมโซโนะโดดเด่นในหมู่นักเรียนเฉพาะทางทั้งหมด จนเรียกว่าไมโซโนะมีความเป็นนางเอกมากๆ  เพราะนิสัยและการออกแบบนั้นมันเป็นคาแร็คเตอร์นางเอกชัดๆ

    แต่อนิจาไมโซโนะดันเป็นตัวละครคนแรกที่ตายในเรื่องซะงั้น แถมไม่ได้ตายแบบงดงามด้วย!!

    (อันนี้ผมไม่แน่ใจน่ะ คือเรื่องที่หลายคนไม่รู้สาเหตุที่เธอถูกฆ่าในช่วงต้นเกม ก็เพราะนักออกแบบตัวละครขี้เกียจออกแบบเธอ เลยทำให้ออกแบบดูธรรมดากว่าคนอื่น แต่กลายเป็นว่าเธอดังกว่าใครเพื่อนซะงั้น!! และความจริงการออกแบบตามเนื้อเรื่องครั้งแรกตั้งใจให้คิริกิถูกฆาตกรรมโดยลีออน ตามคลิป https://www.youtube.com/watch?v=N_W_3w_sfoI)

    โอเคแม้ว่าไมโซโนะจะเป็นตัวละครที่ออกแบบธรรมดา ปรากฏออกไม่มีกี่ตอน ไม่กี่บท แต่ไมโซโนะกลับเป็นตัวละครที่โดดเด่นไม่แพ้ตัวละครหญิงในเรื่องเลยทีเดียว

    ไมโซโนะนั้นน่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่ว่าจะสร้างตัวละครอย่างไรให้รู้สึกอินไม่ดูโอเวอร์มากไป แม้จะเป็นตัวละครที่ออกแบบธรรมดาที่พบเห็นโดยทั่วไป ผมยาว ใส่ชุดกลาสี เป็นไอดอล และตายไปตั้งแต่ตอนแรกๆ แต่เธอกลับมีพลังให้หลายคนอวย  หลายคนยังคิดถึงเธอ จนมีการต่อยอดอะไรมากมาย (โดจิน)

                    ที่ไมโซโนะเป็นได้แบบนี้เพราะการวางเรื่องราวของเธอนั้นเอง แสดงให้เห็นเลยว่าแม้ตัวละครธรรมดา หากแต่ถ้าวางบทให้คนดูรู้สึกอินล่ะก็ ไมไซโนะจะกลายเป็นตัวละครที่มีพลังอวยทันที

                    โอเค ตัวละครในเรื่อง ทุกตัวต่างวางบทมาดีหมด โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ  ไม่ว่าจะเป็นสาวดุ้นโปรแกรมเมอร์, นักพนันโลลิต้า, ยัยแว่นกรรไกรโรคจิต,, สาวบึก (อดีตเป็นสาวน้อย) นักต่อสู้, สาวน้อยว่ายน้ำ, สาวน้อยนักสืบ  ที่แต่ละคนมีบทดราม่า บทฆาตกร หรือบทฮ่าๆ แตกต่างกันไป จนคนดูรู้สึกอินกับบทตัวละครไม่มากไม่น้อย แต่กรณีของไมโซโนะพิเศษกว่าใครเพื่อนโดยมีเหตุผลมากมายหลายอย่าง

     

     

    ทั้งคู่ได้แต่มอง

     

    เริ่มจาก “ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพระเอกแล้ว เธอสนิทกว่าใครเพื่อน” ครับ โอเค...ไมโซโนะไม่ได้เป็นเพื่อนสมัยเด็กของพระเอก, ไม่ได้อยู่ห้องเรียนเดียวกัน, ไม่ได้เป็นเพื่อนกสนิทกับพระเอก แต่ขอโทษครับ ตอนที่เธอปรากฏตัวครั้งแรก แล้วบอกว่ารู้จักกับพระเอกนั้น อารมณ์ของเธอเหมือนดุจดั่งเป็นเพื่อนสนิทของพระเอกเลยทีเดียว (เพราะเราคุ้นเคยกับคาแร็คเตอร์แบบนี้ดีอยู่แล้ว)

     ก่อนที่เกิดเหตุการณ์โรงเรียนมัธยมปลายคิโบกามิเนะ นาเอกิกับไมไซเนะเคยอยู่โรงเรียนมัธยมต้นที่เดียวกันมาก่อน หากแต่ทั้งสองไม่เคยพูดคุยกัน เนื่องจากทั้งสองมีสภาพสังคมแตกต่างกัน อยู่ในโลกแตกต่างกัน แต่อย่างไรก็ตาม นาเอกิรู้จักไมโซโนะในฐานะไอดอลดัง ที่เป็นขวัญใจคนทั้งโรงเรียน แต่เขาไม่กล้าที่จะพูดคุยกับเธอ ส่วนไมโซโนะนั้นรู้จักนาเอกิโดยบังเอิญจากการที่เธอได้เห็นเขาพยายามจับนกกระสาที่หลงเข้ามาในโรงเรียนเพื่อไปปล่อยในที่ของมัน เป็นเหตุทำให้ไมไซโนะรู้สึกสนใจนาเอกิมาก แต่น่าเสียดายที่ทั้งสองจบการศึกษามัธยมเสียก่อน และไม่มีการติดติดต่อกันแต่อย่างใด

    จนกระทั่งทั้งสองได้เข้าโรงเรียนมัธยมปลายคิโบกามิเนะ ไมไซเนะก็พบนาเอกิอีกครั้ง คราวนี้เธอเป็นคนทักเขาก่อน ในที่สุดทั้งคู่ก็รู้จักกัน และพัฒนาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็น “เพื่อนสนิท” ที่เวลาจะสำรวจโรงเรียนทั้งคู่จะไปมาไหนด้วยกัน

    หลังจากที่เกมก็ได้เริ่มต้นขึ้น มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ออกไป เพียงแค่ฆ่าคนเพื่อไม่ให้คนในกลุ่มจับได้เท่านั้น ตอนแรกทั้งเนเอกิและไมโซโนะยังมีความหวังที่จะออกไปจากโรงเรียนที่ปิดตายนี้พร้อมกัน  จากนั้นทั้งคู่กับคนกลุ่มก็สำรวจเพื่อหาทางออกจากโรงเรียน พร้อมกับความหวังว่าจะมีความช่วยเหลือจากภายนอกมาหาพวกเขาบ้าง

    ต่อมาเมื่อเวลาผ่านสามวัน โดยที่คนในกลุ่มไม่ก่อคดีฆาตกรรมฆ่าคนอื่น หมีสองสีจึงเพิ่มแรงกดดันบีบให้สมาชิกในกลุ่มคนใดคนหนึ่งก่อคดีฆาตกรรม โดยแจก “DVD การศึกษา” ให้ทุกคนในกลุ่มดู โดยข้างในเนื้อหานั้นบ่บอกถึงความสิ้นหวังของโลกภายนอก ที่ไม่มีความช่วยเหลือจากภายนอกใดๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งหมดก็ไม่มีที่ให้กลับไปอีกแล้ว (ของนาเอกิบ้านพังครอบครัวหาย และของไมไซเโนะเป็นภาพสมาชิกในวงไอดอลตายหมด)

    ทุกคนที่ได้ดู DVD นั้นล้วนมีความคิดว่าตนต้องรีบออกไปสถานนี้ให้ได้

    ไมโซโนะได้ดู DVD ก็จิตตกและวืดแตกกว่าใครเพื่อน ทำให้นาเอกิต้องเข้าไปปลอดไมไซเนะที่กำลังจิตตกสุดๆ พร้อมพูดว่า “ฉันจะปกป้องเธอเอง”, “เราจะออกจากโรงเรียนด้วยกัน” , “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นผมจะอยู่ข้างคุณ”, “พวกเราจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน” (ขอโทษครับประโยคเหล่านี้พระเอกพูดกับนางเอกชัดๆ)

    อย่างไรก็ตาม คำปลอบใจของนาเอกิ หาได้ทำให้ใจของไมโซโนะสงบไม่ ในใจของไมโซเนะมีแต่สับสน ว้าวุ่น เอาแต่คิดว่าเกิดอะไรขึ้นกับสถานที่สำคัญของเธอ เกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนๆ ที่แสนล้ำค่าของเธอ ทำไมพวกเขาถึงตาย เธออยากออกไปจากที่นี้ ไปดูให้เห็นกับตาว่ามันเป็นยังไงกันแน่

    และนั้นเองทำให้ไมโซโนะตัดสินใจที่จะเดินตามเกมของหมีสองสี เธอตัดสินใจวางแผนฆาตกรรมใครสักคนในกลุ่ม เพื่อแลกกับอิสระได้ออกไปจากโลกภายนอก

    ตรงจุดนี้หลายคนอาจมองไมโซโนะสิ้นคิด หรือเห็นแก่ตัว แต่ความจริงแล้วหากมองจิตใจลึกๆ จะพบว่าไมโซโนะนั้นเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่สมควรสติแตกกว่าใครเพื่อน จิตใจของเธอที่ถูกกดดัน ถูกบีบ ไม่ใช่ตัวละครที่เข้มแข็งเหมือนที่หลายคนเข้าใจกัน

    ไมโซโนะอาจมีบทสั้นๆ ในเรื่องไม่ได้เจาะประวัติชีวิตอะไรมากมาย หากแต่ใน Dangan Ronpa Wiki มีข้อมูลเกี่ยวกับไมโซโนะอย่างละเอียด ที่อธิบายอีกด้านหนึ่งของไมโซโนะว่าเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับวงไอดอลของตนมากๆ เพราะว่ามันเป็นความฝันของเธอตั้งแต่เด็กๆ

    สมัยเด็กนั้นไมโซโนะอาศัยอยู่กับพ่อ และพ่อมักกลับบ้านดึกทุกวัน ทำให้ไมโซโนะต้องอยู่บ้านคนเดียวจนรู้สึกเหงา ซึ่งสิ่งเดียวที่ทำให้เธอคลายเหงาได้นั้นคือการแสดงสดของไอดอลซึ่งเธอด๔ชูในจอโทรทัศน์ สำหรับไมโซโนะแล้วรอยยิ้มของสาวๆ ไอดอลในโทรทัศน์คือสิ่งทำให้เธอเข้มแข็ง

    หลังจากนั้นไมโซโนะก็มุ่งมั่นที่จะเป็นไอดอลเพื่อทำให้ความฝันของเธอเป็นจริง ซึ่งกว่าจะอยู่ถึงจุดนี้ได้ไมโซโนะลำบากมาก จึงไม่แปลกแต่อย่างใดที่ไมโซโนะถึงวืดแตกเมื่อสถานที่เธอใฝ่ฝันของเธอพังทลายในพลิบตาเดียว

    น่าเสียดายที่อนิเมะไม่ได้ถ่ายทอดความเป็น Danganronpa มากนัก (ความสิ้นหวัง,การาสอบสวนสอบสวน, ความหวัง) เพราะมีข้อจำกัดหลายอย่าง (จำนวนตอนน้อยไป หากจะครบถ้วนทุกอารมณ์ต้อง 26 ตอน) ดังนั้นหากใครที่อยากจะได้อารมณ์ของ Danganronpa คงต้องเล่นเกม (มีภาคภาษาอังกฤษ) และมีการเล่นโชว์ในเว็บยูทูป

    อีกทางเลือกหนึ่งคือการดูมังงะ ซึ่งเท่าที่ผมเห็นในตอนนี้ Danganronpa มีมังงะอยู่ 2 เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นแรกคือ Danganronpa โดย Tsukumi Takashi ที่ดำเนินตรงกับเนื้อหาในเกม ที่มีความเป็นมังงะ (เพราะไม่ได้ยัดเยียดความเป็นเกม ตัดเนื้อหาแต่อย่างใด) อย่างคดีของไมโซโนะนั้นยาวถึง 4 ตอน ( ตอนล่ะ 45-46 หน้า ) ทำให้เต็มอิ่มกับอารมณ์ความสิ้นหวัง ความเศร้า

    อีกเวอร์ชั่นที่สองน่าแนะนำคือ Danganronpa - Kibou no Gakuen to Zetsubou no (หรือ Dangan Ronpa - Academy of Hope and High School of Despair) ของ Hajime Touya  ซึ่งเนื้อหาเป็นมุมมองของตัวละครคนอื่นที่ไม่ใช่นาเอกิ (ซึ่งไม่ว่าจะเป็นอนิเมะหรือเกมจะดำเนินเรื่องโดยมุมมองของนาเอกิทั้งสิ้น) ทำให้เรา (มีการแปลไทยในหลายเว็บ)

     

     

    การตัดสินใจ (ที่ผิดพลาดของไมโซโนะ)


                  ในDanganronpa - Kibou no Gakuen to Zetsubou no บทแรกเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับมุมมองของไมโซโนะ ว่าเหตุใดเธอคิดที่จะฆ่าคนเพื่อเอาตัวรอด เหตุใดเธอถึงได้ทำร้ายความหวังดีของพระเอก

    แม้ว่านาเอกิจะบอกว่า “ไม่ว่ายังไง ผมก็อยู่เคียงข้างเธอ” ก็ตาม แต่ไมโซโนะตีความเพียงว่านาเอกิจะช่วยเธอทุกอย่าง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม และนั้นเองทำให้ไมโซโนะใช้ความหวังดีของนาเอกิเป็นประโยชน์ในการวางแผนฆาตกรรม

    ตอนแรกไมโซโนะวางแผนจะฆ่าคนในกลุ่ม ซึ่งเธอตัดตัวเลือกนาเอกิเป็นอันดับแรก ด้วยเหตุผลว่า “นาเอกิเป็นเพื่อนกัน” หลังจากคิดไปคิดมา เธอก็ได้เหยื่อ “คุวาตะ” (หรือลีออน) สาเหตุคือเขาพยายามตีสนิทเธอ น่าจะเรียกมาฆ่าได้ง่าย (อีกเหตุผลคือ ไมโซโนะรังเกียจลีออนที่ทำตัวเหลาะแหละดูถูกวงการเพลง )

    แผนการของไมโซโนะที่จะทำการฆาตกรรมลีออนไม่ให้คนในกลุ่มจับได้ คือการทำตัวเป็นคนขี้กลัวไปขอแลกสลับห้องกับมาเอกิ จากนั้นก็เรียกเลออนเข้ามาในห้อง และทันทืที่ลีออนเข้ามาในห้อง เธอจะฆ่าด้วยมีดทำครัวทันทีทันใด หากสำเร็จเลออนจะตายในห้องของมาเอกิ และมาเอกิจะถูกคนอื่นสงสัยว่าเป็นคนฆ่าลีออนแทน

    ไมโซโนะคิดอีกว่า มาเอกิคงจะไม่พูดว่าเธอเป็นฆาตกรฆ่าลีออนแน่นอน และจะยอมเป็นแพะรับบาป เพราะมาเอกิสัญญาแล้วว่าจะปกป้องแทนเธอ

    หลังจากแลกห้องกับนาเอกิ ไมโซโนะก็เขียนจดหมายนัดเรียกลีออนมาที่ห้อง และทันทีที่ลีออนเปิดประตู ไมโซก็พุ่งเข้าจู่โมหวังจะแทงลีออนให้คายคามือ แต่กลายเป็นว่าลีออนไหวตัวทัน จึงเกิดการต่อสู้ชุนมุนเพื่อเอาชีวิตรอดขึ้น  ผลสุดท้ายไมโซโนะก็ถูกลีออนแทงมีดที่หน้าอก (แบบไม่ได้ตั้งใจ) แทน

    ไมโซโนะไม่ได้ตายในทันที ยังพอมีแรงหนีแล้วปิดประตูที่ห้องอาบน้ำปิดล็อกขังตนเอง ก่อนที่จะทรุดลงหมดแรง ระหว่างนั้นไมโซโนะรู้ตัวเองดีว่าตนเองจะตายในอีกไม่ช้า ระหว่างนั้นเธอย้อนอดีตของตนที่ผ่านมา ก่อนที่จะสำนึกผิดที่หลอกลวงนาเอกิ เธอน่าจะอดทนเพื่อรอความหวังสักนิด สุดท้ายไมโซโนะได้ใช้แรงเอือกสุดท้ายเขียนไดอิ้งเมจเสจ (Dying Message) ชื่อลีออน (กลับหัว) ที่กำแพงห้องน้ำ  ก่อนสิ้นใจตาย เป็นอันปิดฉากตัวละครสุดอาภัพอดเป็นนางเอกในที่สุด

    (ความจริงแล้วยังมีสปอยอะไรอื่นๆ อีกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของไมโซโนะกับนาเอกิซึ่งอันนี้ก็ติดตามเอาในช่วงท้ายของเกมดูนะครับ)

     

     

    ภาพบางส่วนจากโดจิน

    (HARU COMIC CITY 18) [Tamaya (Tama)] 11037 (Danganronpa)

     

    ปกติแล้ว หลายคนมักเห็นบทการตายของตัวละครมากมายหลายคน ในการ์ตูนหลายเรื่อง หลายแนวที่อ่าน ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนคงมีเหตุการณ์ตัวละครที่ชอบตายมากมายที่อยู่ในความทรงจำ

    ส่วนมากแล้วจุดประสงค์ที่ทำให้ตัวละครสำคัญในเรื่องตายนั้น มีจุดประสงค์หลักๆ อยู่ 3 อย่าง  อย่างแรกคือการตายของตัวละครหลักนำไปสู้ความหดหู่ของพวกพระเอก ,อย่างสองนั้นคือการสร้างความสะใจแก่ผู้ดู (ใช้ได้กับตัวละครที่เป็นตัวร้ายมากๆ และตัวละครที่หลายคนไม่ชอบ ไปจนถึงตัวประกอบธรรมดาออกมาฉากเดียวตาย เป็นต้น) และอย่างที่สามการสร้างแรงขับเคลื่อนให้พวกพระเอกพัฒนาด้านจิตใจ

    โดยปกติส่วนใหญ่ การตายของตัวละครหลักของเรื่อง (ตัวละครน่ารัก, ตัวละครที่หลายคนอวย) นั้น คือการสร้างอารมณ์บีบหัวใจแก่ผู้ดู นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจมาสู่กลุ่มของตัวเอก อีกทั้งยังเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ที่ทำให้เรื่องเลวร้าย เป็นต้นว่า ทำให้พระเอกสู่ด้านมืดของจิตใจ เช่น การตายของอาเระในมงกุฏบาป (Guilty Crown)

    ปกติตัวละครประเภทนี้จะตายในช่วงกลางเรื่อง นางเอกยิ่งแล้วใหญ่มักตายในช่วงท้ายเรื่อง แต่กรณีของไมซาโนะนั้นตายตอนต้นเรื่อง คดีแรกเลย โดยยังไม่ทันทีพัฒนาจิตใจว่าเธอเริ่มชอบนาเอกิ แต่อย่างไรก็ตามการตายของไมซาโนะได้กลายเป็นจุดสำคัญของเรื่อง เพราะจุดเปลี่ยนการเริ่มต้นของเกมฆาตกรรมอย่างแท้จริง เกิดความหวาดกลัวในกลุ่ม การตายของไมโซแสดงให้เห็นว่าหากคนเรากดดันอย่างหนัก ถูกบีบบังคับให้เลือก พวกเขาจะฆ่าเพื่อนของตนเองเพื่อเอาชีวิตรอด และนั้นเองทำให้เพื่อนของพระเอกตายทีละคน สองคน

     

     

    เป็นการตายที่โหดร้ายมาก


                ทางด้านพระเอกเองก็ได้รับผลกระทบต่อจิตใจการตายของไมโซโนะมากที่สุด นาเอกิที่เห็นไมโซตายในสภาพที่โหดร้ายถึงกับช็อกสุดขีด เป็นล้มทั้งยืน เพราะเขาตั้งใจจะปกป้องไมโซโนะ แต่เขาปกป้องเธอไม่ได้อย่างที่พูดเอาไว้  อีกทั้งยังจิตตกโดนเพื่อนในกลุ่มมองว่าเป็นคนร้ายอีกต่างหาก เรียกได้ว่าพระเอกแทบไม่มีเพื่อนช่วยเหลือเลย ซวยทั้งขึ้นทั้งร่อง พระเอกหัวเดียวกระเทียมลีบต้องหาหลักฐานมาแก้ต่างตัวเอง

    อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความสิ้นหวังนั้น ยังมีอีกคนที่เป็นเพื่อนพระเอกและได้กลายเป็นพันธมิตร (ไปจนถึงนางเอกแต่เพียงผู้เดียว) ในตอนหลังนั้นคือ “คิริกิริ เคียวโกะ” สาวน้อยปริศนาที่เชื่อเรื่องพระเอกไม่ได้เป็นคนฆ่าไมโซโนะ อีกทั้งยังช่วยหาหลักฐานมาแก้ต่างพระเอกว่าไม่ได้เป็นฆาตกรฆ่าไมโซโนะ

    หลังจากที่นาเอกิรู้ความจริง และเปิดโปงฆาตกรที่ฆ่าไมโซโนะแล้ว ตอนแรกมาเอกิหดหู่ สิ้นหวัง เพราะยังเชื่อไม่ลงว่าไมโซโนะหลอกใช้ตน บวกความโหดร้ายเกม ทำให้นาเอกิรู้สึกโกรธแค้นหมีสองสีไม่น้อย

    หลังจบคดีของไมโซโนะ ทุกคนในกลุ่มได้มองนาเอกิเสียใหม่ จากคนธรรมดาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญในการคลี่คลายปัญหาคดีฆาตกรรม ที่นาเอกิใช้ทักษะช่างสังเกต, ความกล้าหาญ, ความมีไหวพริบสิ่งเหล่านี้ทำให้เขาสามารถไขคดีแต่ละคดีสำเร็จทุกครั้ง 

    อย่างไรก็ตาม หลังจากคดีแรกสิ้นสุดลง คิริกิได้พูดคุยกับพระเอกแบบตัวต่อตัวครั้งแรก โดยบอกว่านาเอกิอย่าได้โกรธแค้นไมโซโนะ แม้ว่าตอนแรกไมโซโนะหลอกใช้เขาก็ตาม อต่อย่างน้อยไมโซโนะกำลังจะหมดลม ไมโซโนะก็ได้สำนึกผิดและเธอก็เป็นห่วงนาเอกิที่กำลังเดือดร้อน เห็นได้จากเธอได้เขียนข้อความระบุคนร้ายเพื่อเป็นส่งสารมาถึงเขาโดยเฉพาะ

    ทิ้งท้ายคิริกิได้พูดนาเอกิ  ว่า เธอหวังในตัวเขามากเพราะ นายต้องเป็นคนประเภทที่จะก้าวข้ามความตายของเพื่อนพ้อง จึงจะก้าวต่อไปได้"

    หากแต่นาเอกิปฏิเสธคำพูดของคิริกิพร้อมพูดว่า จะให้ก้าวข้ามการตายของเพื่อนนั้นทำไมได้หรอก เพราะงั้นผมจะไม่ก้าวข้ามไป หากแต่จะเก็บมันตลอดไป ไม่ว่าจะเป็นการตายของไมโซโนะ การตายของลีออน จะเก็บมันไปตลอดชีวิต ไม่มีวันลืมเลือนมันเด็ดขาด จะเก็บทุกการตายและความปรารถนาทุกคนเอาไว้แล้วออกไปจากที่นี้ให้ได้!!”

    และนั้นเองทำให้คิริกิสนใจนาเอกิขึ้นมา เธอยิ้มและพูดว่า นายยอมเลือกเส้นทางที่ลำบากกว่าสิน่ะ

    การตายของไมโซโนะอาจนำมาซึ่งความสิ้นหวังของนาเอกิ หากแต่ในเวลาเดียวกันก็ได้กลายเป็นแรงใจให้นาเอกิไปด้วย ยิ่งเห็นคนตายจากเกมฆาตกรรม นาเอกิก็ยิ่งอยากให้คนอื่นรอด การตายของไมโซโนะทำให้นาเอกิเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางความกดดัน สิ้นหวัง มืดมน ความไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน หากแต่เมื่อเวลาผ่านไปทั้งนาเอกิและทุกคนเริ่มมีความรู้สึกถึงพลังแห่งความมิตรภาพ ความหวัง ความเข้มแข็งของจิตใจ ความเชื่อมั่น ผ่านการตายของเพื่อนแต่ละคน และนั้นเองทำให้นาเอกิและพรรคพวกลุกขึ้นมาสู้กับความสิ้นหวังจนสำเร็จ......

     

     

    นาเอกิอดฮาเร็ม

     

    นี่คืออารมณ์โดยภาพรวมของวัตถุประสงค์การตายของตัวละครสำคัญในเรื่อง Danganronpa  (และการ์ตูนอีกหลายเรื่อง) ที่ดึงอารมณ์ของคนดูให้จิตตกสุดขีด หากเมื่อคลี่คลายปัญหา หรือพระเอกทำใจได้ ความโศกเศร้า ความจิตตกจะเปลี่ยนเป็นแรงใจและความหวังสู้ต่อไปของวันพรุ่งนี้ ซึ่งมุกเหล่านี้เหล่าเห็นในการ์ตูนจัมป์อยู่แล้ว (แต่ก็มีการ์ตูนบางเรื่องเหมือนกันที่ตัวละครสำคัญตายแล้วเนื้อหามีแต่ห่วยลง เออ....คงไม่ต้องถามน่ะ ว่าผมหมายถึงเรื่องอะไร)

     น่าเสียดายที่ตัวอนิเมะนั้นจำนวนตอนจำกัด อาจไม่สามารถถ่ายทอดความเป็น Danganronpa)ได้เต็มร้อย แต่กระนั้น ทางด้านโดจิน (ทั้งสายสว่างและสายมืด) ก็นำเสนอนาเอกิXไมโซโนะแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นไมโซโนะสมหวัง ไปจนถึงไมโซโนะรอดตายและได้เป็นคู่ครองของนาเอก (ส่วนคิริกิกลายเป็นนางรอง)

    หากสมมุติไมโซโนะไม่ถูกฆ่า ไม่ตาย บางทีเธออาจเป็นตัวละครโหลๆ ที่ไม่จดจำนัก บางทีการตายของไมโซโนะถูกกำหนดมาให้จำเป็นต้องตายแล้วก็ได้

                     

    ติดตามอ่าน Danganronpa ในบทความต่อไป ในตอน “จอมบงการเกมแห่งความตาย”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×