ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #247 : ภารโรงผ้าเหลือง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 16.22K
      3
      21 ก.ค. 60


                    เวลาคุณเข้าบอร์ดกระทู้เกี่ยวกับการ์ตูน (หรือกระทู้ไม่เกี่ยวกับการ์ตูน) คุณมักพบมุกที่หลายคนเอามาโพสเพื่อตอบสนองเนื้อหากระทู้นั้น ซึ่งหนึ่งในมุมมากมายเหล่านั้นเกี่ยวข้องกับการ์ตูน ที่ดังๆ ก็เช่น รูปหน้าอาเบะ, หมีชอบเด็ก, แฮ่กแฮ่กแฮ่ก!!!  ฯลฯ (ปล. เวลาเล่นมุกพวกนี้ควรรู้จักเวลาและสถานที่เหมาะสมด้วยวเพราะบางคนไม่รู้มุกเหล่านี้ แล้วเข้าใจผิด อาจมีดราม่าได้ เช่น แฮ่กแฮ่กแฮ่กนั้นมีดราม่ามาแล้ว)

                    อย่างไรก็ตาม ก็มีหลายมุกที่หลายคนไม่เข้าใจ (เพราะบางมุกไม่ใช่สากล) เช่น เอาทามาโอะคุงไปทำอัลบั้มจบการศึกษา  (หรือ ให้ทามาโอะคุงไปหาข้อมูลสาวๆ ) หลายคนคง งง เป็นแถบๆ ว่ามันมุกบ้าอะไร ซึ่งมุกดังกล่าวเป็นของ Pisu Hame! ซึ่งเป็นการ์ตูนโป๊ ซึ่งเป็นเรื่องของ"ทามาโอะ สุคามุ"   นักเรียนไฮสคูลปีสองและเป็นสมาชิกชมราเคนโด้ เขาชื่นชมรุ่นพี่คิริตะนิซึ่งเป็นกัปตันชมรมเคนโด้มาก อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ชวนทามาโอะมาเป็นผู้ช่วยงานรวบรวมภาพนักศึกษาหญิงทำสมุดรุ่น แต่ภาพที่ว่าเป็นภาพสาวๆ ในขณะร่วมรักกัน ซึ่งทำให้เขาเอากับสาวๆ ในชั้นปีหลายคนเพื่อรวบรวมภาพดังกล่าว ดังนั้นคนเล่นมุกกับทามาโอะคุงก็ประมาณว่าคนปล่อยมุกหื่นนี้ อยากได้สาวๆ ในเรื่องนั้นแทนพระเอกนั้นเอง ( อิ อิ อิ ) แน่นอนว่าเด็กดีหลายคนไม่เคยอ่านการ์ตูนโป๊ (ต่อไปนี้ขอเรียกว่าสายมืด) ใครจะรู้มุกพวกนี้กัน

                    แต่บทความนี้ไม่ได้พูดถึง  Pisu Hame! แต่จะพูดถึงมุกจากการ์ตูนโป๊เรื่องหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นมุกที่นิยม สื่อถึงอะไรหลายอย่าง จนหลายคนมักสงสัยอยู่เสมอว่ามุกนี้มันมีที่มาอะไร และมันสื่อถึงอะไรกันแน่ วันนี้จะเล่าที่มาของมัน รวมถึงสาระของมันด้วย

     

     

    อิซากุ (Isaku), ชูซากุ (Shusaku), คิซากุ (Kisaku

    หรือหลายคนรู้จักกันในชื่อภารโรงผ้าเหลือง

     

                    เวลาที่หลายคนดูกระทู้หื่นๆ (ไม่ใช่ลามก แต่แซว หรือพวกเซอร์วิสการ์ตูน) หรือจำพวกมุก “ลุงแก่ ใจดี ให้เงิน เงียบ สงสัยไม่ช็อต”  จะมีบางคนเอาภาพการ์ตูนหนึ่งมาแปะ โดยภาพนั้นเป็นรูปของชายวัยกลางคนคนหนึ่ง หน้าตาน่าเกลียดหาดีไม่ได้เลย อีกทั้งแสยะยิ้มน่ากลัว ผมสีม่วง ใส่ชุดสีเขียว (ไม่ก็สีฟ้า) เหมือนเป็นเสื้อวอร์ม และมีผ้าเช็ดตัวสีเหลืองห้อยคอ ซึ่งหลายคนไม่เก็ตเลยว่าตาลุงนี้เป็นใคร แต่แค่เห็นหน้าตาก็รู้แล้วว่าหื่นๆ และฮ่าชอบใจเท่านั้น  (ก็เหมือนคนสวมเสื้อเช เกบาราแล้วไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แต่ว่ามันเท่ดีเลยเอามาใส่แค่นี้แหละ)

                    แน่นอนว่าตัวละครตัวนี้ไม่ใช่ตัวละครจากการ์ตูนโมเอะ หรือแฟนตาซีเด็กดีแน่นอน แต่เป็นตัวละครที่มาจากเกมสายมืด (และอนิเมะสายมืด) เกมหนึ่งคือเกม Isaku (หรือ Shusaku) เป็นเกมพัฒนาโดย [Elf] ของเครื่อง PS ที่วางจำหน่ายในปี 1995 ,1997   และมีหลายเวอร์ชั่นตามมามากมาย (เท่าที่ดูข้อมูล มี 7 เวอร์ชั่น เพียงแต่ว่าเวอร์ชั่นหลังสุดไม่ใช่ภารโรงผ้าเหลือง)

                   

     

    เกม Isaku (อย่างกับเกมสยองขวัญ)

     

                     Isaku เป็นเกมสายมืด แนวสยองขวัญ (ตรงไหนว่ะ!!) อีโรติก โดยมีเนื้อหาวัตถุประสงค์คือให้เราผู้เล่น (ผู้ชาย) และสหายของเขา (ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง) หลบหนีจากอาคารเรียนร้างที่ปิดตาย โดยไม่ให้อิซากุจับได้ เพราะหากมันจับเพื่อนของคุณได้ เพื่อนสาวของคุณจะกลายเป็นทาสกามของอิซากุอย่างโหดร้าย (จนเป็นที่อิจฉาของคนดู)

                    ในเกมรับจะสวมบทบาทเป็น “เคนตะ” นักเรียนชั้นมัธยมปลาย ที่เป็นตัวเอกของเรื่องได้รับจดหมายรักที่ไม่ระบุที่มาฉบับหนึ่ง โดยเนื้อความในจดหมายมีการนัดแนะให้ไปพบกันที่ตึกร้างเก่าของโรงเรียน แต่เมื่อตัวเอก ไปถึงกลับที่ถูกขังโดยอิซากุบนชั้นสี่ของโรงเรียนร้าง ต่อมาเขาได้พบกับเหล่าเพื่อนๆ ของเขาหลายต่อหลายคนที่นั่น โดยแต่ละคนต่างก็ได้รับจดหมายนัดพบที่แตกต่างกันออกไ ซึ่งผู้เล่นต้องค้นหาห้องพักในแต่ละชั้นเพื่อหาเบาะแสเพื่อนำไปสู่กุญแจเพื่อเปิดทางหนีต่อไป ซึ่งระหว่างทางเพื่อนหญิงของเขา 6 คน (หรือพูดง่ายๆ ฮาเร็มก็ว่าได้) และเพื่อนชาย 2 คน จะถูกอิซากุลักพาตัวไป พวกผู้หญิงจะถูกทำให้เป็นทาสกาม (ส่วนชายไม่ทราบ)  และถ่ายวีดีโอเก็บเอาไว้ (และคนที่ถูกอิซากุลักพาตัวไปจะหายไปเลย เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกว่า เราจะดูภาพจากวีดีโอที่จะพบตอนหลัง)

                    (ตัวเกมตอบคำถาม ซึ่งบางคำถามส่งผลต่อเนื้อเรื่อง)

                    (สปอยครับ) ตอนจบดังกล่าวมี 3 แบบ คือตอนจบแบบไม่ดีคือทุกคนโดนอิซากุลักพาตัวไปข่มขืนหมด (หากถูกลักพาตัวไปหนึ่งคนก็ถือว่าเป็นตอนจบไม่ดีแล้ว) และสำหรับฉากจบแบบดีจะมีอยู่ 2 แบบคือ เป็นแฟนกับผู้หญิงในกลุ่มเป็นแฟนพระเอก (จะเป็นใครนั้นก็แล้วตอบคำถาม แต่มีเพียงสาวสองคนเท่านั้นที่เป็นตัวเลือกเรา คือนางเอกและนางรองเท่านั้น ส่วนผู้หญิงที่เหลือไม่มีฉากจบเป็นแฟนพระเอก  ทำไมมีตอนจบแค่ 2 คนฟ่ะ สู้อิซากุไม่ได้ เหมาหมด ฮ่า ฮ่า ฮ่า) โดยจะจบแบบดีได้ก็ต่อเมื่อไม่มีใครในกลุ่มคุณถูกอิซากุลักพาตัวไปเลยและคุณจะต้องแก้ปริศนาในเกมได้ออกทั้งหมด ซึ่งตอนหลังอิซากุได้รับผลกรรมตาย

     

     

    Isaku ภาคอนิเมะ

     

     Isaku ยังมีเป็นอนิเมะในชื่อ “Isaku” ในปี 1998 มี 3 ตอน ซึ่งเป็นเนื้อหาเป็นวันสุดท้ายก่อนวันหยุดฤดูร้อยเคนตะและเพื่อนถูกจับและเพื่อนของเคนตะถูกข่มขืนทีล่ะคน

    ข้อมูลที่น่าสนใจคือตอนแรกอิซากุไม่ได้เป็นภารโรง ในเกมนั้นเขาเป็นคนสวน (คงแปลกดีที่ว่าคนสวนผ้าเหลือง) แต่ในอนิเมะถูกปรับมาเป็นภารโรง ซึ่งในอนิเมะทั้งหมดอิซากุเป็นเฒ่าหัวงูที่ต้องการสาวมัธยม และจัดการผู้หญิงทั้งหมด (ไม่มีใครรอดเลย) ซึ่งเขาจะทำการแบล็กเมล์ผู้หญิงทุกคนแล่พวกเธอมาที่เปลียวไม่มีคน (เช่นโรงเรียนร้าง) ซึ่งหากใครตกเป็นเหยื่อก็จะจับคนนั้นจัดการมาเป็นทาสกามแก่เขา หากสาวคนใดดื้อรั้นขัดขืนเขาจะตบสั่งสอน ฐานไม่เชื่อฟัง และเมื่อจัดการพวกเธอสำเร็จ เขายังใช้สาวๆ ที่เขาจัดการได้เข้ามาเป็นพวก แล้วให้สาวคนนั้นล่อคนอื่นให้มาติดกลับอีก

    ที่สำคัญภารโรงไม่เคยถูกดำเนินคดีในข้อหาก่ออาชญากรรมอย่างเป็นทางการเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเขาตายก่อนได้รับโทษ ซึ่งสาเหตุการตายของเขาแตกต่างกันไป จากอนาถไปจนถึงมีความสุขที่สุดในโลก (ในภาคอนิเมะหลังจากที่เขาจัดการผู้หญิงทีเดียว 6 คนในคืนเดียว ตอนเช้าเขาก็ขาดใจตายคาอกหญิง ในสภาพใบหน้าเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม แสดงให้เห็นว่าชีวิตของเขาแม้ตายก็ไม่เสียใจอะไรอีกแล้ว ซ้ำยังทิ้งรอยแผลแห่งจิตใจแก่สาวๆ จนยากที่จะลืมลงตราบนานเท่านาน

     นอกจากนี้ยังมีอีกภาคคือ Isaku Respect” ออกในปี 2001 (ค่าย NuTech Digital) มี 3 ตอน ซึ่งเนื้อหาไม่เหมือนในเกม เพราะดำเนินเรื่องในมุมมองผู้หญิง  และเคนตะแพ้เรียบวุธและสาวในกลุ่มทั้ง 6 กลายเป็นทาสกามเรียบ ลืมไปเรื่องนี้จอมหื่นไม่ได้ชื่ออิซากุแต่ชื่อ “คาโต้” ซึ่งตอนหลังตายเพราะหัวใจวายคาอกหญิง เนื่องจากทำผู้หญิง 6 คนแบบไม่พักยก (อิจฉาน่ะนั้น)


     

     

    เกม Shusaku ในตำนาน

     


                  แม้อิซากุจะตายไปแล้วก็ตาม แต่ในปี 1997 ก็มีตัวเกมซีรีย์ออกมาอีกครั้ง ในชื่อ “Shusaku ซึ่งเป็นซีรีย์ที่บ้านเรารู้จักกันดี (ภาคก่อนไม่ค่อยมีใครรู้จักเท่าไหร่) เพียงแต่คราวนี้เราไม่ได้รับพระเอกนิสัยดีอีกต่อไป เพราะเรารับบทเป็น “คาโต้” (หรือ อิโต้ ชูซากุ)  ที่หน้าตาละม้ายอิซากุ (เพราะเป็นพี่น้องกัน) และมีนิสัยคล้ายๆ กันคือโรคจิต บ้ากาม และแบล็คเมล์เหมือนคนก่อนไม่มีผิด

    แม้จะเป็นตัวเกม Shusaku ซีรีย์เดียวกัน เพียงแต่คราวไม่ได้ดำเนินในบ้านร้าง แก้ปริศนา บรรยากาศเหมือนเกมสยองขวัญอีกต่อไป เพราะคราวนี้เนื้อหาดำเนินเรื่องในห้องพักสตรี ซึ่งคาโตนั้นได้ปลอมแปลงข้อมูลเพื่อไปทำหน้าที่เป็นภารโรงคนใหม่แทนภารโรงคนเก่าที่ลาหยุดชั่วคราว และวางแผนที่จัดการกับผุ้หญิงที่อาศัยอยู่ในหอพักทั้งหมด ด้วยการถ่ายวีดีโอแบล็คเมล์

    เนื้อหาของเกมนั้นค่อนข้างไปทางโรคจิต เพราะเราจะรับบทโรคจิตที่หวังจะจัดการสาวๆ ด้วยวิธีที่ชั่วร้าย เริ่มจากเราจะทำการซ่อนกล้องวีดีโอในห้องผู้หญิงเพื่อเก็บภาพสาวในห้องนั้นเพื่อแบล็คเมล์ เมื่อกล้องแอบบันทึกภาพสาวประจำห้องนั้นได้แล้ว ก็ทำการส่งจดหมายขู่ผู้หญิงคนนั้นไปเรียกหา จากนั้นก็ใช้มีดขู่แล้วจัดการผู้หญิงคนนั้น และถ่ายวีดีโอเพื่อไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นไม่บอกใคร (หรือแจ้งตำรวจ) นอกจากนี้ยังมีคำสั่งแปลกๆ เช่น ใช้ยาปลุกอารมณ์ใส่ในอาหารหรือเครื่องดื่ม, มัดเชือก  โดยสาวๆ ในเกมมีถึง 8 คน (นางเอกภาคนี้ ชื่อ “เอริ” สาวหางม้าที่ถือว่าเป็นลาสต์บอส เพราะเราจะต้องจัดการกับสาวๆ ทั้งหมดเสร็จแล้วถึงจะได้เธอ)

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตอนจบเรื่องนี้มีหลายแบบ แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นฉากจบที่เรารับผลกรรมทั้งสิ้น เช่น ตอนจบเราตายคาที่ และกลายเป็นผีเฝ้าหอ หรือ ภารโรงได้แบล็คเมล์ผู้หญิงคนหนึ่ง หากแต่ผู้หญิงคนนั้นไม่เล่นด้วย และจะแจ้งตำรวจ ทำให้ภารโรงผ้าเหลือต้องหนีไปหาที่อยู่ใหม่ โดยไม่กลับมาหอพักนี้อีกเลย (ปล.เกมนี้ผมไม่ได้เล่น ไม่แน่ใจฉากจบ ฟังเขาพูดมาเฉยๆ )

    และภาคนี้เองเป็นที่มาของภารโรงผ้าเหลือง ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ อาชีพ รวมไปถึงวีรกรรมของพี่แก

    สำหรับอนิเมะนั้นมี Shusaku มีหลายเวอร์ชั่น (อาจเป็นภาคที่ดังที่สุดชอบที่สุดล่ะมั้ง) ไล่ตั้งแต่ Shusaku 1999 (3 ตอนจบ), Shusaku Replay 2001 (4 ตอนจบ) และ Shusaku Liberty 2005 (2 ตอนจบ) ซึ่งทุกเวอร์ชั่นในวงการอนิเมะมืดหลายคนยกย่องว่าเป็นอนิเมะมืดแหล่มๆ มากๆ

    อย่างที่บอกเอาไว้ว่าลุงหื่นผู้นี้มีชื่อสามชื่อ คือ อิซากุ (Isaku), ชูซากุ (Shusaku), คิซากุ (Kisaku) ที่มีหลายชื่อว่าลุงหื่นคนนี้มีสามคนพี่น้อง หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ (เหมือนกันยังไม่พอ ยังแต่งตัวเหมือนกันด้วย และทำอาชีพภารโรงเหมือนกัน วิธีจะแยกได้ก็คงเป็นตัวละครหญิงที่ตาลุงคนนี้จัดการเท่านั้นแหละ ถึงรู้ว่าคนไหนคนน้อง คนพี่)

    เพื่อความสะดวกขอเรียกรวมๆ ว่าภารโรงผ้าเหลืองล่ะกัน

    สำหรับข้อมูลของภารโรงผ้าเหลืองนั้น เท่าที่เห็นจากเกมทั้งสามภาค ภารโรงทั้งสามนั้นมีแม่ที่หน้าตาเหมือนกับลูกทั้งสามอย่างกับแกะ ส่วนพ่อไม่ปรากฏ อายุ 40-45 ปี หน้าตาอัปลักษณ์ ไม่โนหนวดโกนเครา ใส่เสื้อสกปรก ที่คอห้อยผ้าขนหนูสีเหลืองจนเป็นเอกลักษณ์ว่าภารโรงผ้าเหลือง

    ด้วยหน้าตามีเอกลักษณ์นี้เองทำให้ลุง (ทั้งสาม) ไม่มีแฟน หรือผู้หญิงคนไหนมาบอกรักเลย และชีวิตที่ไร้ผู้หญิงทำให้ลุงแกหมกมุ่นอยู่แต่เรื่องเพศ จนมีงานอดิเรกแอบถ่ายลับๆ ผู้หญิง, สะสมกางเกงใน จนมีพฤติกรรมน่ากลัวในเรื่องเพศจนถึงขั้นอันตราย

    ความน่ากลัวของภารโรงดังกล่าวเมื่อมันหมายตาผู้หญิงคนไหนไม่เคยรอด ซึ่งภารโรงดังกล่าวใช้หลากหลายวิธีในการจัดการผู้หญิง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิธีชาติชั่วเดนนรกทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นแอบถ่ายหากผู้หญิงคนใดโดนเป็นนางเอกหน้ากล้อง จะถูกแบล็คเมล์ แม้ว่าตอนแรกๆ จะขัดขื่น แต่ภารโรงนั้นก็จะใช้มีด เชือก เพื่อใช้พละกำลังจัดการ

    บางครั้งไม่ต้องวางแผน เพราะมันใช้ทางเปลี่ยว และพละกำลังจัดการผู้หญิง ณ ตรงนั้นก็มี และที่น่ากลัวคือภารโรงผู้นี้สามารถปรากฏทุกทีทุกเวลาราวกับวิญญาณไม่ปาน

    และที่น่ากลัวคือผู้หญิงที่มันหมายตานั้นไม่มีเพียงคนเดียว เพราะมีมากกว่า 6-8 คน ไม่ว่าสาวมีสถานะแบบใด (คุณหนู, สาวแว่น, คุณครู) มันก็ไม่สน หากอยู่กรุทาสกามของภารโรงทุกคนฐานะเท่าเทียมกันหมด

    นอกจากนี้ภารโรงดังกล่าวยังมีความสามารถพิเศษคือ NTR กล่าวคือไม่ว่าผู้หญิงคนดังกล่าวชอบผู้ชาย หรือมีแฟนแล้ว และคนที่ชอบนั้นหน้าตาดีเท่าไหร่ก็ตาม ภารโรงคนนี้สามารถแย่งได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องดราม่า ไม่ต้องบีบน้ำตา เพียงแค่ใช้กำลังกับลีลาเท่านั้น เพียงแค่นี้ก็มีผู้หญิงเข้ามาในกรุทาสกามของมันอย่างสบายๆ


     

                    นอกเหนือจากความคิดชั่วร้ายแล้ว ภารโรงยังมีความวิปริตทางเพศด้วย กล่าวคือหากได้ผู้หญิงมาเหยื่อเมื่อไหร่ ภารโรงจะจัดหนัก BDSM  ครบสูตร ไม่ว่าจะให้ผู้หญิงคนนั้นเป็นทาส ผูกมัด พันธนาการ ตรึง แขวน ล่ามมือล่ามเท้า หรือจะให้คลานสี่เท้าสวมปลอกคอสุนัข กักขัง  หากขัดขื่นจะถูกลงโทษ ทรมานตบตี (ชอบซาดิสต์)

                    เหมือนหนึ่งต้องมนต์ หากหญิงคนใดที่โดนภารโรงจัดการ พวกเธอจะไม่ขัดขื่นจำพวกพยายามหาทางหนี พยายามต่อสู้รุนแรง (อย่างมากแค่ขัดขืนนิดหน่อยๆ) หรือแจ้งตำรวจแม้แต่น้อย กลับรอให้ภารโรงจัดการครั้งใหม่ต่อไป เหมือนสมยอมด้วยซ้ำ (เพราะหญิงโดนแบล็คเมล์??)

                    ไม่ต้องใช้ไวอากร้า ภารโรงสามารถจัดการผู้หญิง 6-8 คนรวดในคืนเดียว ราวกับความต้องการทางเพศไม่มีที่สิ้นสุด  (บางทีอาจเป็นเพราะเก็บกดมานาน มาบ่อยตอนแก่ก็เป็นไปได้)

                    ที่น่าแปลกคือภารโรงคนนี้ไม่ใช่คนชอบพูดมาก ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องคนใด พี่แกแทบไม่เคยพูดอะไร ทั้งๆ ที่หน้าตาทุเรศ วีรกรรมเลวบัดซบ แต่กลับเป็นคนเงียบๆ  แต่พูดน้อยต่อยหนัก หรือส่วนมากมักกระซิบกระซาบแทนการพูด (ขนาดในอนิเมะ ภารโรงพูดไม่กี่คำ ไม่เคยพูดหยาบโลมเหมือนพวกหื่นในอนิเมะมืดทั่วๆ ไป )

                    และที่แปลกสุดๆ คือแม้ว่าลุงภารโรงจะหน้าตาไม่หล่อ นิสัยยังเลวชาติสุดขีด แต่หลายคนกลับไม่ค่อยประณามหรือรังเกียจพี่แกมากนัก ส่วนมากเป็นการแซวว่า อิจฉา กลัวอ่ะ หรือฮ่ามากกว่า  

                    นี่คือข้อมูลคร่าวๆ ภารโรงผ้าเหลือง ด้วยเอกลักษณ์ หน้าตา และวีรกรรม จนทำให้หลายคนทำภาพพี่แกเอามาล้ออย่างสนุกสนาน

                    แล้วมุกภารโรงผ้าเหลืองหมายถึงอะไร? หมายถึงบุคคลอันตรายกับสาวๆ (โดยเฉพาะสาวน้อยโมเอะในอนิเมะเป็นส่วน) อันตรายระดับ MAX แบบมักมากในกามที่ต้องการจัดการกับสาวๆ โดยที่สาวไม่สามารถหนีอะไรได้เลย เพราะภารโรงจะทำทุกวิถีทางที่ อีกทั้งยังเก่งกาจ พละกำลังเหนือมนุษย์ สามารถติดกล้องได้ทุกที โดยไม่ยอมบ่อยสาวหลุดมือแน่นอน

    ดังนั้น ส่วนใหญ่เวลาโพสรูปภารโรงผ้าเหลืองก็มักออกมาเชิง ล้อเลียน หรือออกไปทางเสื่อม ที่บางครั้งก็ไม่ได้ล้อการ์ตูน อาจล้อคนในชีวิตจริง เช่น การเมือง (จับคนดังมาตัดต่อใส่ชุดภารโรงผ้าเหลือง) หรือโพสภาพภารโรงผ้าเหลืองในกระทู้เกี่ยวกับภาพนางแบบสาวสวย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสวยน่าเอาเป็นอย่างยิ่ง หรือแบบลุงแก่ใจดีแต่ดูหน้าแล้วไม่ให้เหมือนหวังอะไรบางอย่างที่ชั่วร้ายอยู่  ซึ่งปกติแล้วจะเอาฮ่าแบบขำๆ ไม่ได้จริงจัง ไม่ต้องตีความอะไรมาก แค่เห็นหน้าหื่นๆ ของภารโรงหลายคนก็ชอบใจแล้ว

    ความจริงแล้วหลายคนมักล้อเลียนภารโรงเป็นพวกโลลิคอน จับเด็ก (ที่ไม่บรรลุนิติภาวะ) กิน ก็ไม่ถูกนัก เพราะภารโรงคนนี้ไม่ได้เป็นโลลิคอน!!

     

                    แม้ว่าวีรกรรมของภารโรงจะชาติชั่ว เลวบัดซบ ข่มขืนผู้หญิงแบบอุอาจยังไงก็ตาม แต่ภารโรงดังกล่าวยังมีด้านดีอยู่สองอย่างคือ จะเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าสตรีและสาวน้อย ที่ไม่มองแบบมักมากในกามอะไรเลยแม้แต่น้อย

    หลักฐานที่ว่าภารโรงไม่ได้เป็นโลลิคอน รวมไปถึงภารโรงเป็นคนดีกว่าที่คุณคิด อยู่ในภาคที่ 3 คือ “คิซากุ (Kisaku) ออกในปี 2001 ซึ่งเป็นราวของภารโรงผ้าเหลืองอีกคน (ซึ่งเป็นน้องคนเล็ก) ชื่อคิซากุ ที่หลังรู้ข่าวการตายของพี่ชายทั้งสอง เขาก็เริ่มสาบานตนเองว่า “ฉันจะไม่เหมือนกับพวกพี่เด็ดขาด” และต่อมาเขาก็สมัครเป็นในบริษัทยาแห่งหนึ่งที่นั้นมีพนักงานสวยๆ เพียบ

    แน่นอนว่าภาคนี้มีตอนจบหลายตอนจบ ไม่ว่าจะเป็นภารโรงได้กลายเป็นประธานบริษัท ไปจนถึงตายอนาถ อย่างไรก็ตามยังมีฉากจบพิเศษอย่างหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องราวดีๆ ของภารโรงเหมือนกัน

    “ฉันจะไม่เหมือนกับพวกพี่เด็ดขาด” คุณจะเลือกแบบไหนระหว่างคุณจะทำความผิดเหมือนเดิมเพียงแต่คราวนี้จะทำแบบไม่ถูกจับได้ คุณจะแอบถ่าย แบล็คเมล์และจัดการสาวเหมือนเดิม หรือว่าคุณจะกลับตัวเป็นดี (ซึ่งไม่เหมือนวีรเวรเหมือนพี่ทั้งสอง) ซึ่งเกมได้เล่นจุดนี้อย่างแยบยล

    แม้ว่าภาคนี้จะเงียบๆ แต่กระนั้นเราก็เห็นด้านดีของภารโรงคนนี้ ชนิดที่หลายคนแทบไม่เชื่อสายตา ว่าคนเลวซาติชั่วสองภาคก่อนหน้าจะมีจิตใจดีงามหลงเหลืออยู่ (แม้ว่าภารโรงภาคสามคนนี้จะเป็นน้องคนเล็กก็เถอะ

    หากตัดเรื่องเลวๆ ออก จะพบว่าภารโรงคนนี้มีหัวใจที่กล้าหาญ มุ่งมั่นไม่ย่อท้อ ทำงานจริงจัง กระตือร้นแม้ว่าจะเป็นภารโรงก็ตาม อีกทั้งยังชอบเล่นเทนนิส โบว์ลิ่ง รักสัตว์โดยเฉพาะหนูแฮมสเตอร์ มีความสามารถในการถ่ายภาพ  จัดวางองค์ประกอบของภาพอย่างแม่นยำ (แต่ดันใช้ความสามารถเหล่านี้ข่มขืนผู้หญิงแทน) และสุดท้ายภารโรงคนนี้มีทัศนคติทำงานเป็นบวก ทำงานอะไรก็เจริญก้าวหน้าไปหมด (จนบางฉากจบเขาได้เป็นประธานบริษัท)

                    การที่เราจะเห็นด้านดีของภารโรงคนนี้คุณจะต้องทำเงื่อนไขลับให้สำเร็จ (ส่วนเงื่อนไขเอาเป็นว่าลองไปดูเว็บ http://blog.roodo.com/alsace/archives/9497339.html  เอาล่ะกัน แต่เป็นภาษาญี่ปุ่นอ่ะนะ)

     

     

    ภารโรงที่ใจดีต่อคนแก่เสมอ

     

                    โดยเรื่องราวดีๆ ของภารโรงคนนี้คือ เขาเป็นคนสุภาพมาก ชอบช่วยเหลือคนชรา เช่น พาคนแก่ข้ามถนน  ช่วยเหลือคนตาบอด มีเหตุการณ์หนึ่งที่ภารโรงขึ้นรถโดยสารประจำทาง  เวลานั้นคนอื่นได้ที่นั่งหมดยกเว้นภารโรงกับหญิงชราคนหนึ่ง ที่ได้แต่ยืน ไม่มีใครมีน้ำใจลุกให้หญิงชรานั่งเลย  เมื่อภารโรงเห็นภาพดังกล่าว ด้วยความมีเมตตา (??) เลยเป็นม้านั่งให้คุณยายนั่ง วีรกรรมของภารโรงทำให้คนบนรถโดยสารต้องอายไปตามๆ กัน

                    สาเหตุที่ภารโรงคนนี้ให้ความเคารพแก่คนแก่ เพราะภารโรงคนนี้รักแม่มาก สังเกตไหมว่าทำไมภารโรงคนนี้ไม่เคยทำความสะอาดร่างกายเลย สาเหตุเพราะเขาภายในเสื้อโค้ทของเขานั้นมีภาพถ่ายเขากับแม่ของเขาอยู่ซึ่งสำหรับเขาแล้วมันสำคัญมาก เขาเก็บเอาไว้ไม่เคยห่างตัวเลย

     

     

    ภารโรงกลายเป็นประธานบริษัท

     

                    แม้ว่าวีรกรรมของพี่แกจะข่มขืนผู้หญิงนับไม่ถ้วน แต่ที่แปลกคือเขาเกลียดพวกข่มขืนผู้หญิง (งง เปล่า) คือมีอีเวนท์หนึ่ง ภารโรงเห็นเด็กสาวคนหนึ่งกำลังถูกผู้ชายสองคนกำลังข่มขืน เขาจะเข้าไปช่วยแบบไม่คิดชีวิต และเมื่อไล่พวกข่มขืนไปได้ เขาได้เย็บเสื้อผ้าหญิงสาวคนนั้น ก่อนที่จะจากไปโดยไม่ทำอะไรกับสาวน้อยคนนั้นเลย (ภารโรงคนนี้คงชอบแบบทำด้วยตนเอง ไม่ใช่พวกลักไก่สิน่ะ)

                    ภารโรงคนนี้ไม่ใช่เป็นพวกโลลิคอน เฒ่าหัวงูอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน แม้ภารโรงคนนี้ใจดีต่อเด็กๆ แต่ไม่ได้หวังเรื่องเพศเลยแม้แต่น้อยในอีเวนท์หนึ่ง ภารโรงได้พบเด็กสาวน้อยคนหนึ่ง (ไม่รู้ว่าเป็นใครคาดว่าอาจเป็นเด็กที่หนีออกจากบ้าน เพราะโดนครอบครัวทำร้าย) แล้วแอบมาอาศัยอยู่กับลุง  ตอนแรกทั้งสองไม่ถูกกัน หากแต่นานวันทั้งสองก็เริ่มผูกพันกัน วันหนึ่งเด็กสาวน้อยตกลงแม่น้ำ เขาจึงกระโดดลงไปช่วยเหลือโดยไม่คิดชีวิต ทั้งๆ เขาเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายเขาก็ช่วยเหลือสาวน้อยไว้ได้ และทั้งสองก็ได้กลายเป็นเพื่อนกันในที่สุด ดังที่เห็นในภาพอีเวนท์ต่อไปนี้


     

    ให้ของเล่น.....

     

    ยัยหนูวาดอะไรเล่นที่หน้าลุง

     

    นอนด้วยกัน

     

    นอนหลับจนถึงเช้า

     

     

    ลุงแก่ใจดี ให้เด็กซบอก

     

     

    แม่ของลุงเอง

     

     

    เล่นด้วยกันน่ะ

     

    วาดให้ลุงเหรอ?

     

     

    ลุงไปช่วยเด็กตกน้ำ

     

     

    ลุงไม่ไหวแล้ว แต่ขอให้หนูรอด ลุงก็พอใจแล้วล่ะ

     

     

    ลุงตาย

     

     

    “แต่หนูไม่ให้ลุงตาย”


     

    “ลุงไม่ได้ไปอยู่กับพวกพี่ๆ เหรอนี้”

     

     

    กลับบ้านด้วยกันเถอะ

    http://bbs.766.com/thread-2023502-1-1.html

     

                    ไม่จำเป็นต้องอธิบายมากความ เพียงแค่ภาพไม่กี่ภาพ เราก็ได้เห็นสิ่งดีๆ ขอภารโรง จากที่ผ่านมาเราเห็นแต่ด้านเลวๆ ข่มขืนผู้หญิงไปทั่ว พอมาดูด้านดีๆ สักครั้งในชีวิต ก็รู้สึกประทับใจมาได้

                    ดูเรื่องราวด้านดีของภารโรง เราก็แอบคิดว่า คนเลวบางคนใช่ว่าอยากจะเลวโดยสันดานตลอดไป บางครั้งคนเลวก็อยากกลับตัวเป็นคนดีบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสังคมได้ให้โอกาสกับพวกเขาหรือเปล่า

                    แต่สังคมทุกวันนี้ไม่เคยให้โอกาสคนเหล่านี้ แค่เห็นหน้าตา เห็นว่าเคยมีประวัติชั่วๆ มาก่อน ก็ไม่ให้อภัย ทั้งๆ ที่คนนั้นได้รับโทษมาแล้ว และมความคิดกลับใจ แต่สังคม กลับประณามหยามเหยียด ยัดเยียดสิ่งเลวๆ (โดนใส่ร้ายว่าเป็นโลลิคอน) แบบนี้คนเลวจะกลับใจเป็นคนดีอย่างไร หากคุณไม่ให้โอกาสพวกเขา

                   

    บางคนภารโรงคนนี้อาจไม่ใช่คนเลวตั้งแต่เกิด เขาเองก็ไม่อยากจะข่มขืนผู้หญิง อยากจะมีความรักบริสุทธิ์เหมือนคนอื่นทั่วไป แต่สาวที่เขาเจอมาตลอด มีแต่พวกดูถูกคนอื่น และไม่มีใครรักเขาเลย การถูกดูถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความข่มขืนได้เปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนมักมากในกาม เกลียดผู้หญิง เห็นผู้หญิงเป็นเครื่องบำบัดทางเพศ  ใช้พรสวรรค์ไปในทางที่ชั่วร้าย

    อย่างไรก็ตาม แม้เขาจะกลายเป็นคนชั่วข่มขืนผู้หญิงไปทั่ว แต่เขาก็ยังหลงเหลือสิ่งดีงามอยู่ แม้จะน้อยนิดก็ตาม อีกทั้งเขาก็ยังโหยหารักบริสุทธิ์ที่สักวันจะมีผู้หญิงที่รักเขาจากใจจริง แม้เป็นไปไม่ได้ก็ตาม  

    หากภารโรงเป็นคนชั่วร้าย งั้นคนที่ร่วมมือกับภารโรงนั้นไม่ชั่วร้ายกว่าหรือ หญิงสาว (หรือผู้ชาย) บางคนที่ถูกภารโรงแบล็กเมล์และจัดการ แทนที่จะรีบไปฟ้องตำรวจ หรือขัดขืนเต็มที แต่กลับสมยอมในครั้งที่สอง (และครั้งต่อมา) ซ้ำยังยอมร่วมมือกับภารโรง เพื่อล่อคนอื่นมาให้ภารโรง ก่อให้เกิดวัฏจักรชั่วร้ายไม่มีที่สิ้นสุด

    นี่คือเรื่องราวคราวๆ ของภารโรงผู้นี้ ที่หลายคนไม่รู้เรื่องราวของเขามากนัก รู้แต่ว่ามาจากเกม H และหน้าตาหื่นๆ ที่เห็นแล้วตลก (ปนกับเสื่อมเท่านั้น)

    อย่างไรก็ตาม เรื่องของภารโรง เราได้เห็นอะไรหลายอย่างในวงการสื่อบันเทิงมืดของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นเกมหรืออนิเมะ

                    เกมภารโรงผ้าเหลือง ได้กลายเป็นเกมในตำนาน และทำให้เกมแนวโรคจิตแพร่หลายเป็นที่รู้จักกันไปทั่ว ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศที่หลายประเทศรู้จัก ในเรื่องสื่อลามกที่ไม่มีใครเหมือน

                    ส่วนอนิเมะนั้นนอกเหนือจากภารโรงโรคจิตแล้ว ยังมีอนิเมะสายมืดหลายเรื่องที่มีเนื้อหาคล้ายๆ กัน คือตัวเอกเป็นคนมักมากในกาม ที่ชั่วร้ายทั้งกายและจิตใจ หวังจะจับสาวๆ มาเป็นทาสกาม โดยใช้วิธีต่างๆ  ล่อผู้หญิงที่หมายตามาติดกับ ซึ่งหญิงเหล่านั้นล้วนเป็นคนสวยฉลาด (แต่โดนหลอกง่ายเหลือเกิน) และเมื่อตัวเอกจัดการคนนั้นเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ได้ก็คือหญิงสาวที่ตกเป็นทาสกามของตัวเอกที่ไม่มีวันทรยศหักหลัง แต่ตัวเอกไม่ได้มีความคิดที่จะหยุดเพียงคนเดียว เพราะเขาต้องการจัดการกับสาวคนอื่นๆ อีก จนกลายเป็นนักข่มขืนต่อเนื่องอันตรายในที่สุด

    แน่นอนว่าไม่มีเพียงภารโรงผ้าเหลือคนเดียว ยังมีตัวละครอีกมากมายที่นิสัยเหมือนภารโรงผ้าเหลือง ที่มีผลงานทั้งในเกมและอนิเมะซึ่งสายมือรู้จักกันดี เช่น



    มิคุซากุ โดกุโร่

     

    มิคุซากุ โดกุโร่ (Nikusuke Doguro)  จอมหื่นจากเกม Shindaisou (Kari) Rhythmic Gymnastics (หรือ Shintaisou: Kari) หรืออนิเมะหลายคนรู้จักในชื่อเจ้าหญิง 69 (Princess 69) หลายคนรู้จักในชื่อ “อาจารย์สอนท่า 69” (ท่านอาจเจอมุกนี้บางกระทู้)

    ความจริงอาจารย์คนนี้เป็นเพียงอาจารย์สอนยินนาสติกธรรมดา (หน้าแบบนี้เรอะสอนยิมนาสติก) หน้าตาขี้เหร่ หน้าเหมือนหมู กลิ่นตัวก็เหม็น หื่นจนคนอื่นเหม็นขี้หน้า

    อย่างไรก็ตามอาจารย์หน้าหมูคนนี้ มีคนหนุนหลังนั้นคือ “โทโมมิ” ประธานนักเรียน (หลานสาวประธานคณะกรรมการโรงเรียน) ซึ่งมีนิสัยขี้อิจฉาคนอื่น โดยเฉพาะ “มิคุ ฮาเนะโอกะ” สาวน้อยดาวรุ่งยิมนาสติก ซึ่งโทโมมิเกลียดมากๆ เธอเลยล่อให้เธอมาโดนอาจารย์ไดกุโร่จัดการในเที่ยงคืน  ไดกุโร่จัดหนักมิคุอย่างโหดร้าย ทุ ไม่ว่าจะเป็นการแขวนเชือก, พันธการ, เทียนไข เครื่องทรมานต่างๆ ในๆ โดยไม่สนว่าจะเป็นอย่างไรเลย และเมื่อจัดการมิคุเสร็จแล้ว คนใกล้ตัวมิคุก็ถูกจัดการด้วย ไม่ว่าจะเป็น เพื่อนทอมบอย และคนในชมรมนาสติกโดนหมด   

    ตอนแรกโทโมมิคุมไดกุโร่อยู่แต่โดนหลังกลับโดนเสียเอง พูดง่ายๆ ไดกุโร่วีรกรรมเหมือนภารโรงผ้าเหลือง (แต่ไม่ต้องแบล็คเมล์เพราะมีคนล่อมาให้)

    ในอนิเมะที่ทั้งภาคแรก ภาคสอง และ OVA

     

     

    ริวจิ ฮิราซากะ

     

    ริวจิ ฮิราซากะ (Ryuji Hirasaka) หมอสูตินารี (แต่ไม่รักดี) จากเรื่อง  Ryuji Hirasaka (Karte / Night Shift Nurses (เกมภาคแรกออกในปี 1999 และอนิเมะออกในปี 2000) ตอนแรกเป็นคนตกงาน (เพราะอดีตไปทำเรื่องไม่ดีไม่งามไว้จนโดนไล่ออก) หากแต่วันหนึ่งเขาได้รับอีเมล์จากผู้อำนายการโรงพยาบาลเอกชนเซนต์จูเลีย (ซึ่งอดีตเป็นผู้หญิงของเขามาก่อน) ซึ่งเมื่อเขาไปพบผู้อำนวยการของโรงพยาบาล ก็ได้รับการแต่งตั้งให้มาทำงาน แต่สิ่งที่ได้รับมอบหมายไม่ใช่รักษาคนไข้ หากแต่เป็นโปรเจ็คพิเศษ เป็นแผนการลับที่จะสร้างแผนกพิเศษขึ้นมาเป็นแผนกสำหรับคนไข้ที่ร่ำรวยมาใช้บริการกามจากพวกนางพยาบาลสาวสวย แต่สาวสวยที่เข้ามาโปรแจ็คนั้นไม่รู้เลยว่าเป็นโปรเจ็คชั่วร้าย และบางคนไม่มีประสบการณ์ ด้วยเหตุนี้เอง ริวจิ จึงได้รับหน้าที่ให้มาทำให้นางพยาบาลแสนซื่อทุกค

    หมอริวจินิสัยเหมือนภารโรงผ้าเหลือคือแบล็คเมล์ ไปจนถึง NTR หมอคนนี้ค่อนข้างไปทางกุโระโรคจิต (ไม่ใช่ไส้แตกอะไร แต่จัดการรุนแรงมาก จนขี้พุง ซึ่งถือว่าเป็นกุโระอีกประเภทหนึ่ง)

    (ตอนจบมี 2 แบบ ในอนิเมะตอนจบถูกฆ่าตายโดยนางพยาบาลที่คับแค้น หากแต่ในเกมเขาจะแต่งงานกับนางพยาบาลที่หนึ่งในเหยื่อเขาและไปใช้ชีวิตใหม่ (?) ในชนบท)

     

    นี่คือตัวอย่างคร่าวๆ จอมหื่นในโลกอนิเมะมืด  แม้จะต่างสถานที่ต่างเวลา  ต่างอาชีพ ต่างอายุ แต่เนื้อหาเหมือนกันกับภารโรงผ้าเหลือง แทบไม่แตกต่างกันเลย เพียงแต่ภารโภงผ้าเหลืองนั้นโดดเด่นต้องที่มีความเป็นเอกลักษณ์และเป็นอนิเมะมืดเรื่องอลกๆ ที่หลายคนรู้จักกันดีเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แม้เนื้อหาพวกเขาสามารถจัดการกับผู้หลายรายอย่างง่ายดาย  (จนหลายคนอิจฉา) ได้ผู้หญิงเข้ากรุฮาเร็ม  รอดพ้นกฎหมาย แต่สุดท้ายจุดจบของคนพวกนี้ไม่ได้สวยหรูเหมือนนิยายรักที่พระเอกครองรักกับ (พวก) ผู้หญิงอย่างมีความสุขแต่อย่างใด

    เหล่าหื่นผู้ชั่วร้ายนั้นอาจเป็นผู้ชนะตัวจริงในมืด แต่หากมองภาพรวมแล้ว สิ่งที่ได้มาจากการแย่งชิง ใช้กำลังแย่งชิง ใช้วิธีชั่วช้า ขัดหลักศีลธรรม ได้สิ่งต้องการมาก็ลุ้มหลงมัวเมา อยากได้อีกเรื่อยๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด แต่กลายเป็นว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช้สิ่งยั่งยืน ได้มาง่าย ก็สูญเสียง่าย ไม่ยั่งยืน วันใดวันหนึ่งข้างหน้าหายนะก็จะมาถึง ซึ่งส่วนใหญ่อนิเมะมืดที่เป็นแนวภารโรงผ้าเหลืองมักพบจุดจบแตกต่างกัน เช่น โดนทุบหัว, โดนตึกทับ, โดนแทงจากผู้หญิง ฯลฯ

    สุดท้ายพวกเขาก็ได้แค่กาย ไม่ได้ใจของพวกเธอแต่อย่างใด การข่มขืนไม่ใช่ความรัก  สิ่งเหล่านี้สอดแทรกอนิเมะมืดสอนเอาไว้ในตอนท้ายเรื่อง  (แต่ถึงพวกหื่นตายมันก็น่าอิจฉาอยู่ดีน่ะผมว่า)

    ส่วนผู้หญิงเองก็ควรตี้งสติให้มั่น หากเกิดโดนแบล็กเมล์ควรทำอย่างไร และอย่าเดินที่เปลี่ยว พวกบ้านร้สง หรือสถานที่อันตรายควรหลีกเลี่ยง ไม่งั้นจะตกเป็นเหยื่อพวกคนเลวเหล่านี้ และไม่ได้จบเพียงแค่ข่มขืนแน่นอน

    น่าเสียดาย อนิเมะ (และมังงะ) สายมืดในช่วงๆ หลัง ไม่ได้สอดแทรกเกี่ยวกับจุดจบพวกคนชั่วข่มขื่นผู้หญิงแต่อย่างใด หลายเรื่องคนชั่วข่มขืนผู้หญิงได้สำเร็จทุกคน (แล้วแต่เรื่องจะกำหนดตัวเอกหญิงกี่คตน) ไม่ว่าจะเป็นศาสดาเถื่อน, เฒ่าหัวงู, ทั้งมาเดี๋ยวมาเป็นพวก เช่น กลุ่มโจร, กลุ่มนักเรียนแก๊งหื่น, NTR ไม่ได้รับโทษอะไรเลย ภาพสุดท้ายที่อนิเมะจบ มีเพียงภาพผู้หญิงที่ถูกย่ำยีเหมือนขยะไม่ปาน อนาคตที่สดใสของพวกเธอต้องพังทลายเพราะพวกใจสัตว์พวกนี้ บางคนรับสภาพได้ยอมที่จะเป็นทาสกามย่ำยีต่อไป.....ก่อนที่ทุกอย่างจะมืดลง... (นับว่ามืดเป็นสื่อไม่กี่เรื่องที่แสดงให้เห็นว่าอธรรมอยู่เหนือกว่าธรรมะ)

    แน่นอนผมไม่ค่อยได้ดูอนิเมะมืดแนวแบบนี้มากนัก เพราะไม่สามารถทนเห็นสาวที่น่ารัก (แนวแบบนี้ออกแบบสาวๆ น่ารักเสียด้วยสิ) ต้องถูกพวกหื่นกามข่มขืนย่ำยีจนบอบช้ำทั้งกายและใจ จะโดดไปช่วยก็ทำไม่ได้ ต้องดูเรื่องเลวร้ายเหล่านี้จนจบเรื่องก็รับไม่ไหว

    แต่สำหรับคนบางกลุ่มแล้วกลับชอบอนิเมะแนวแบบนี้มาก (และเป็นกลุ่มมากเสียด้วย จนสมัยนี้อนิเมะและมังงะแนวมืดแบล็คเมล์และข่มขืนกลายเป็นแนวสายหลักที่ทำออกมาหลายเรื่องแล้ว) เพราะสำหรับชายบางคนก็อยากจะเป็นพวกชั่วแบบในอนิเมะ แต่เพราะกฎหมาย และศีลธรรมกดสัญชาตญาณนี้เอาไว้ ดังนั้นการดูอนิเมะแนวนี้ อาจเป็นสนองสัญชาติดิบของตนเอง (ทำในชีวิตจริงไม่ได้ ก็ขอสมมุติตนเองในโลกในฝันก็ได้)  ถือว่าเป็นการระบายอารมณ์ในอีกรูปแบบหนึ่ง (แต่อย่าเอามาใช้ชีวิตจริง เพราะเป็นไปได้ที่คุณจะรอดพ้นกฎหมายได้ง่ายดายเป็นอนิเมะ)

                    คำถามต่อมา ในเมื่อวีรกรรมของภารโรงผ้าเหลือง (และคนที่มีพฤติกรรมเหมือนกัน) จะเลวชาติชั่ว ทั้งแบล็คเมล์, ข่มขืนผู้หญิง, ทรมานผู้หญิง และทำลายชีวิตผู้หญิงยับเยิน แถมยังเอาตัวรอดไม่ได้รับผลกรรมอีกต่างหาก หากเอามาเปรียบเทียบกับมาโคโตะ จาก School Day ถือว่ามาโคโตะเป็นเด็กอมมือไปเลย แต่ทำไมไม่ค่อยมีใครประณามด่าว่าภารโรงผ้าเหลืองเลย กลับกันส่วนใหญ่เวลาที่พูดถึงภารโรงผ้าเหลือมักออกไปในเชิงตลกเสีย ขำ ขำ มากกว่า แต่หากใครพูดถึงมาโคโตะแถมไม่สาปส่งเหม็นขี้หน้าไม่เผาผีไปเลย

                    คำตอบง่ายนิดเดียว เพราะอนิเมะแนวมืดมักทำออกมาไม่ให้ดราม่า

                    อนิเมะแนวมืดข่มขืนส่วนใหญ่ มักเน้นปลุกใจเสือป่า เอามัน (??) เป็นหลัก มากกว่าจะเน้นหนักในเนื้อเรื่องที่สมจริงหรือเน้นดราม่า (ความจริงก็มีมังงะและอนิเมะแนวมืดที่เน้นดราม่าเหมือนกัน แต่มีจำนวนน้อยมาก และไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก ส่วนมากเป็นมังงะเสียมากกว่า) ดังนั้นไม่แปลกอนิเมะแนวมืดส่วนใหญ่จะออกไปทางโอเวอร์ ไม่มีทางเป็นจริง ผู้หญิงโดนจัดการง่ายเกินไป ตอนหลังมาสมยอม ไม่แจ้งตำรวจอีกต่างหาก (ของจริงคงแจ้งตำรวจไปนานแล้ว)

                    อนิเมะแนวมืดไม่ได้เน้นให้เราผูกพันตัวละคร โดยเฉพาะตัวละครเอกหญิงมากนัก ดังนั้นหลายคนจึงไม่ค่อยรู้สึกอาลัยอาวรณ์กับตัวละครหญิงที่ตกเป็นเหยื่อของภารโรงผ้าเหลือมากนัก (แต่บางคนรู้สึก หากกรณีนี้ตัวละครหญิงน่ารักโมเอะมากๆ)

                    นอกจากนี้ ตัวละครประเภทภารโรงผ้าเหลืองหน้าตาออกจะตลก (หรือแปลกๆ) ไม่ได้หน้าซื่อ หรือแสดงความโง่ ชวนโมโห เลวก็เลวไปเลย อย่างน้อยตรงไปตรงมา ซึ่งออกจะฮ่ามากกว่าซีเรียต แต่อย่างไรก็ตาม หลังๆ ก็เริ่มมีประเภทหล่อแต่นิสัยชั่ว ไม่ก็นักเลงเลวระยำ ก็พอทำให้รู้สึกเกิดอารมณ์ขึ้นบ้าง แต่เพราะพอดีตอนน้อยจึงพอเก็บอารมณ์ว้ได้

                    School Day จะเป็นอนิเมะที่เนื้อหาของเรื่องออกไปในเทาๆ (ฉายตอนกลางคืน เนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ แต่ไม่ใช่แนวการ์ตูนโป๊) ซึ่งเนื้อหาจี้จุดอะไรหลายๆ สิ่ง การใช้เรื่องเพศสัมพันธ์ การสร้างดราม่า ความลึกของตัวละคร การใช้เสียงประกอบ การนำไปสู่ฉากจบที่คะลึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้อนิเมะมืดทำค่อนข้างยาก เพราะมีข้อจำกัด (ขนาดอนิเมะพี่สาวฉันชื่ออากิ ที่ดราม่าปวดตับในมังงะ แต่พอทำเป็นอนิเมะตัดเนื้อหาอะไรจนไม่ดราม่าเลยแม้แต่น้อย)

                    ก็จบลงเพียงเท่านี้กับภารโรงผ้าเหลือง และความเข้าใจผิดกับอนิเมะสายมืดทั้งหลาย ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ (หรือรู้แล้วก็ได้) แน่นอนว่าผมก็ไม่แนะนำให้หลายคนเล่นเกมหรือดูอนิเมะภารโรงผ้าเหลือ แต่สิ่งที่ต้องการสื่อคือเวลาเราเจอมุกอะไรที่ไม่เก็ท พยายามค้นหาคำตอบเพื่อให้เก็ทให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นสอบถาม หากูเกิ้ล ซึ่งบางทีมุกดังกล่าวมีที่มาที่ไปที่น่าสนใจ ถือว่าเป็นการเปิดโลกใหม่ที่เราไม่เคยเข้าถึงมาก่อนก็เป็นได้

     

     
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×