ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ดูการ์ตูนอย่างแมว ๆ

    ลำดับตอนที่ #232 : อีกครั้งกับ Boku wa Tomodachi ga Suku nai โคดากะของทุกคน!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 11.95K
      11
      4 เม.ย. 56

     

     

    (บทความนี้สปอยไลท์โนเวล 7-8 ครับ)

     

                    สำหรับบทความนี้ผมตั้งใจจะเขียนขึ้นมาเพื่อให้หลายคนมองมุมมองพระเอกแนวฮาเร็มคนหนึ่ง นามว่า อาเซกาว่า โคดากะ (Hasegawa  Kodaka )

                    ตอนที่ผมเขียนบทความนี้พอดีอนิเมะเรื่องหนึ่งในซีซั่น 2013 เรื่องหนึ่งคือ Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next (หรือบ้านเรารู้จักกันในชมรมไร้เพื่อน) ดำเนินมาถึงตอนที่ 11 พอดี (ซึ่งมีทั้งหมด 12 ตอนจบ) ซึ่งถือว่าเป็นตอนสำคํญที่สุดในอนิเมะเรื่องนี้ก็ว่าได้

    Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next เป็นอนิเมะภาคต่อของ Boku wa Tomodachi ga Sukunai  เป็นเรื่องราวต่อจากภาคแรก เป็นเรื่องราวของ ฮาเซกาว่า โคดากะ นักเรียนใหม่ที่พึ่งย้ายมาในโรงเรียนเซนต์โครนิก้า ซึ่งเป็นเรื่องโรงเรียนมัธยมแบบคริสเตียน แต่เขาก็ประสบปัญหาเหมือนโรงเรียนอื่นๆ ก่อนหน้า ตรงที่รูปลักษณ์ของเขาเหมือนนักเลง ด้วยผมสีบลอนด์ทองชา และตาดุเหมือนแยงกี้(ความจริงแล้วผมสีทองดังกล่าวถ่ายทอดพันธุกรรมจากแม่ที่เป็นคนอังกฤษ) ทำให้ไม่มีใครในห้องกล้าคบหาสมาคมด้วย

    แต่แล้ววันหนึ่ง(ผ่านไปหนึ่งเดือน) โคดากะบังเอิญผ่านมาในห้องเรียนหลังเลิกเรียน เขาก็ได้พบผู้หญิงหน้าตาดีที่อยู่ห้องเดียวกันเชื่อ มิคาซึกิ โยโซระ ในขณะที่เธอกำลังพูดคุยกับเพื่อนในจินตนาการที่ไม่มีตัวตนอย่างออกรสชาติ และเมื่อทั้งสองรู้จักกัน ก็รับรู้ว่าพวกเขามีปัญหาในการคบเพื่อนเหลือเกิน และเพื่อการแก้ปัญหาโยโซระจึงได้จัดตั้งชมรมที่เรียกว่า ชมรมเพื่อนบ้าน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาเพื่อน และฝึกทักษะต่างๆ เพื่อเข้าสังคม

    หลังจากที่ตั้งโคดากะและโยโซระตั้งชมรม ก็มีสมาชิกห้าคนเข้าชมรม เริ่มต้นด้วยไอดอลของโรงเรียน คาชิวาซากิ เซนะ ที่มีนิสัยหยิ่งที่มีปัญหาการคบเพื่อนหญิง (เพราะหลายคนอิจฉาเธอที่เก่งเกินไป) ถัดมาก็รุ่นน้อง คุสุโนกิ ยูคิมูระที่นับถือโคดากะเป็นไอดอลต่อมาก็เป็นแม่ชี ทาคายามะ มาเรีย เด็กอัจฉริยะที่ติดโคดากะมากๆ ต่อมาก็รุ่นน้อง ชิกุมะ ริกะ สาวแว่นอัจฉริยะที่โคดากะช่วยไว้ในห้องวิทยาศาสตร์ สุดท้ายน้องสาวแท้ๆ ของโคดากะ ฮาเซกาว่า โคบาดะ ที่มีนิสัยเพี้ยนๆ แต่ติดพี่ชายมากจนต้องขอมาเป็นสมาชิกชมรมแม้ว่าตัวเธอจะอยู่มัธยมต้นก็ตาม

    รายละเอียด http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=125456&chapter=154

    จุดเด่นของไลท์โนเวลคือเหมือนไม่มีอะไร อารมณ์ประมาณว่าสมาชิกชมรมไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เอาแต่เล่นไร้สาระ หรือกิจกรรมที่พบเห็นได้ทั่วไปหากได้อ่านการ์ตูนญี่ปุ่น เช่น เล่นเกมพระราชา เล่นวีดีโอเกม แสดงละคร แต่งนิยายเวียน คาราโอเกะ ฯลฯ  แต่สิ่งที่สอดแทรกในกิจกรรมเหล่านั้น คือการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างโคดากะที่มีต่อสมาชิกในชมรมอย่างช้าๆ จากคนแค่รู้จัก ก็เริ่มสนิทกันจนเป็นเพื่อน (เพียงแต่สมาชิกในชมรมไม่รู้สึกตัวเท่านั้น) และเริ่มเป็นมากกว่าเพื่อน!!

    เนื้อหาของไลท์โนเวลนั้นดำเนินเรื่องแบบช้าๆ เนิ่บ ๆ แม้จะช้าหรือเหมือนไม่มีอะไร แต่สนุกมาก เราได้เห็นสมาชิกของชมรมเพื่อนบ้านที่มีนิสัยสุดกู่ อย่างริกะสาวหื่น, เซนะสาวมั่นใจในตนเอง, โยเซระปากจัด มาทำกิจกรรมร่วมกัน กิจกรรมที่ดูไร้สาระไม่มีประโยชน์ ซึ่งมักจบด้วยความชวนหัว ตลก ขบขัน ทั้งฮ่าและประทับใจ

    อย่างไรก็ตามสำหรับอนิเมะนั้นได้ตัดรายละเอียดความรู้สึกเหล่านี้ออก  แม้ว่าจะเน้นอวยตัวละคร แต่โดยภาพรวมแล้วสองมาตรฐานหรือเปล่า ไม่เรียงตอน ตัดเนื้อหาบางส่วน ทำให้ดูเหมือนเร่งไปนิด จนดูน่าเสียดายที่หลายฉากตัด หั่นจนขาดอารมณ์ของการ์ตูนไปอย่างน่าเสียดาย พูดง่ายๆ ทำขึ้นเพื่อโปรโมทนิยายมากกว่า

    แต่นั้นไม่ใช่ประเด็นสำหรับการพูดถึงในบทความนี้แต่อย่างใด!?

    สิ่งที่พูดก็คือการกระทำของตัวละครหนึ่งที่ชื่อว่าโคดากะ ซึ่งเป็นพระเอกของการ์ตูนเรื่องนี้ต่างหาก

     

     

    อาเซกาว่า โคดากะ

    พระเอก Boku wa Tomodachi ga Sukunai

     

                    พูดตามตรงสาเหตุที่ผมเขียนบทความนี้เพราะอยากให้หลายคนมองการ์ตูนฮาเร็มเรื่องนี้ให้มากขึ้นและมองพระเอกโคดากะแบบลึกๆ เพราะผมไปอ่านกระทู้หนึ่ง ในเว็บหนึ่ง ได้มีหลายคนมองโคดากะนั้นผิดไปมาก (อย่างน้อยผมก็ไม่เห็นด้วยกับหลายคนที่มองพระเอกโคดากะอย่างนั้น)

                 อย่างที่ผมบอกเอาไว้ตอนต้น ตอนเขียนบทความนี้     Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next ได้ดำเนินเรื่องมาจนถึงตอนที่ 11 ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์โค้งสำคัญที่สุดของการ์ตูน (และไลท์โนเวล) เรื่องนี้ก็ว่าได้

                    สำหรับเรื่องย่อตอนที่ 11 (อนิเมะ) มีอยู่ว่า หลังจากที่เซนะช่วยชมรมเพื่อนไม่ให้ถูกยุบ เธอก็กลับไปเล่นวีดีโอเกมต่อ ซึ่งตอนนั้นในห้องชมรมมีสมาชิกเพื่อนบ้านอยู่ครบ จู่ๆ เซนะก็นึกอะไรไม่ทราบ เมื่อได้พูดประโยคหนึ่งกับโคดากะขึ้นมาว่า

                    “จะว่าไปโคดากะ ตอนที่คุยกับป๊ะป๋าเมื่อกี๊เค้าก็พูดถึงนายน่ะ เค้าว่านายน่ะมาแต่งงานกับฉันสิ”

                    เท่านั้นแหละครับเหมือนฟ้าผ่ากลางวงแก่สมาชิกเพื่อนบ้าน!!

                    เซนะยังพูดต่อ “ไม่ว่าสัญญาระหว่างป๊ะป๋ากับพ่อนายจะเป็นอย่างไรก็ตาม มันไม่สำคัญ เพราะความรู้สึกของฉันในตอนนี้.... อยากจะแต่งงานกับนายจริงๆ  เพราะฉันรักโคดากะ” (ขอบอกว่าเซนะพูดกับโคดากะเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ

                    เพียงประโยคนี้ ประโยคเดียว โคดากะถึงขั้นหน้าถอดสี ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

                    คำถามต่อมาคือ เหตุใดโคดากะถึงหน้าถอดสีด้วย ปกติสาวบอกรักผู้ชาย มีผู้ชายคนไหนบ้างจะไม่ดีใจ ปลื้ม ยิ่งคนที่บอกรักโคดากะเป็นถึงไอดอลของโรงเรียนเก่งไปทุกอย่าง (แถมรวยอีกต่างหาก) แต่เหตุใดโคดากะถึงไม่ดีใจ เขาไม่รักเซนะหรอกหรือ?

                    แน่นอนใครที่ดูแต่อนิเมะไม่ได้ดูไลท์โนเวล หรือว่าดูไปไม่กี่ตอน มาดูตอนนี้อาจ งง กับท่าทีของโคดากะไม่มากก็ไม่น้อย

                    ต้องขอย้อนกลับไปอดีต ก่อนที่จะถึงเหตุการณ์ตอนที่ 11 สักนิด เพราะว่ามันมีมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับชมรมไร้เพื่อน ไม่สิ น่าจะเป็นโคดากะได้เจอเหตุการณ์สำคัญอยู่หลายเหตุการณ์ ซึ่งมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเหล่าสาวๆ ของชมรมเพื่อนบ้านทั้งสิ้น

                    อย่างที่รู้คือชมรมเพื่อนบ้านนี้ หลายคนเรียกว่าชมรมฮาเร็ม เพราะในชมรมเพื่อนบ้านนั้นมีโคดากะคนเดียวที่เป็นผู้ชาย และสาวในชมรมทั้ง 7 ต่างรักโคดากะ เพียงแต่มุมมองความรักของสาวๆ มองโคดากะแตกต่างกันไป เช่น บางคนมองเป็นพี่ชาย บางคนยังสับสนว่ารักในฐานะเพื่อนหรือแฟน บางคนมองมารักฐานะลูกพี่หรือผู้ชาย ซึ่งจะมีเซนะเท่านั้นที่ทองโคดากะว่าอยากเป็นแฟนชัดเจนกว่าใครเพื่อน

                    หากใครอ่านไลท์โนเวล (ซึ่งมันชัดเจนกว่าในอนิเมะ) เราจะเห็นเรื่องราวความรักของเหล่าสาวๆ ที่มีต่อโคดากะแบบเป็นนัยๆ ไว้แล้ว

                    -เริ่มจากการเปิดเผยตัวจริงของโยโซระ เมื่อโยโซระตัดผมสั้น จนโคดากะจำได้ว่าแท้จริงแล้วโยโซระนั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่แยกจากกันเมื่อ 10 ปีก่อน โคดากะทำตัวไม่ถูก ส่วนโยโซระเองดูเหมือนว่าเธอมองจะมองโคดากะมากกว่าเพื่อนเสียแล้ว ทั้งสองเลือกที่จะปิดเรื่องเพื่อนสมัยเด็กไม่ให้สมาชิกชมรมเพื่อนบ้านรู้

                    -(ในไลท์โนเวล) ในช่วงสมาชิกเพื่อนบ้านไปสวนสนุก ระหว่างเล่นรถไฟเหาะสุดสยองอยู่นั้น ทั้งโยโซระและเซนะได้พูดพร้อมเพียงเสียงดังลั่นว่า “ช่วยด้วยโคดากะ”  โคดากะได้บรรยายว่าเขาไม่ได้ยินประโยคที่สองสาวพูดไม่ถนัด

    -ยังอยู่ช่วงไปเที่ยวสวนสนุก โคดากะกับเซนะได้พาโคบาดะไปดูแสดงโชว์ หลังเสร็จงานแสดงโชว์ เซนะบ่นมาว่าพิธีกรเข้าใจผิดว่าเธอและโคดากะเป็นสามีภรรยากัน แม้โคดากะตอบเห็นด้วย เซนะก็พูดประโยคหนึ่งว่า “สองสามีภรรยาอะไร มันต้องเริ่มจากเป็นแฟนคู่รักก่อนสิ”  แต่โคดากะได้บรรยายว่าเขาได้ยินประโยคนี้ไม่ชัดเจน (อาจเป็นเพราะเซนะพูดเบาเกินไป) เซนะได้แต่โมโหแก้เขิน

                    -ในช่วงสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านไปอาบน้ำในโรงอาบน้ำร้อน ตัวจริงของยูคิมูระนั้นได้รับการเปิดเผย แท้จริงแล้วยูคิมูระไม่ใช่ผู้ชายหน้าสวย หากแต่เป็นผู้หญิงขี้อายน่ารักธรรมดาคนหนึ่งที่หลอกตัวเองว่าเป็นผู้ชายมานานแสนนาน เพราะการเลี้ยงดูของครอบครัว (ซึ่งจนบัดนี้ครอบครัวของยูคิมูระยังไม่ได้ปรากฏตัว) และระหว่างทางกลับบ้านนั้นเองโคดากะได้มองยูคิมูระเป็นสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง

                   

    -โยโซระแสดงด้านอ่อนแอหลายครั้ง  ผิดจากภาพลักษณ์ในที่เป็นหญิงสวยมั่นใจและดูแข็งกร้าวที่เห็นประจำโดยสิ้นเชิง ซึ่งเวลาเธอทำอะไรผิดพลาดเธอมักพูดเป็นลอยๆ เกี่ยวกับตัวของโคดากะหลายครั้ง โคดากะทำเป็นไม่สนใจ  

    -จู่ๆ ริกะเปลี่ยนลุคและทรงผมตนเองปล่อยครั้ง ชนิดวันต่อวัน พอโคดากะเอยถามว่าทำไมริกะถึงชอบเปลี่ยนทรงผม เธอได้แต่ร้องกริ๊ด บ่นว่าดากะพึ่งมาทักเธอเหรอ เธอรอมาตลอดเลย ทั้งๆ ที่รูทของเธอปักธงง่ายที่สุดแท้ๆ โคดากะได้แต่ งง ว่าริกพูดเรื่องเรื่องอะไร

    -ความลับของโคโดกะกับโยโซระเป็นเพื่อนสมัยเด็กแตกต่อหน้าสมาชิกในชมรมทั้งหมด โคดากะพูดอะไรไม่ออกได้แต่นั่งเงียบ ปล่อยให้โยโซระเปิดปากพูดแทน ท่ามกลางสีหน้ารู้สึกไม่ดีต่อหน้าสมาชิกชมรม

    -เซนะได้บอกโคดากะว่าความจริงแล้วเราทั้งสองเคยรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แถมหมั้นกันตั้งแต่เด็กอีกต่างหาก (ความจริงทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน) ซึ่งตอนแรกทั้งสองเก็บความลับเอาไว้ แต่พอเข้าห้องชมรม ความลับก็แตกทันใด ซึ่งโยโซระได้แต่หน้ามืดเหมือนจะเป็นลม และใจลอยตลอด โคดากะเลือกที่จะไม่สนใจ

    ฯลฯ

     

    โคดากะของทุกคน

    (แซวชื่อตอน School Day ตอนที่ 11)

     

    จากเหตุการณ์ทั้งหมดบางส่วนที่กล่าวมา  เห็นได้ชัดเลยว่าสาวๆ ในชมรมล้วนส่งสัญญารักมาที่โคดากะทั้งสิ้น (หรือแม้แต่โคบาโตะที่อยากค้ำคอร์พี่ชาย) แต่อนิจจาโคดากะนั้นดูเหมือนจะเป็นพระเอกฮาเร็มที่มีความซื่อบื้องี่เง่าตามสูตรสำเร็จทั่วๆ ไป คือโง่เรื่องความรัก อ่อนประสบการณ์เรื่องความรัก  มองไม่ออกว่าผู้หญิงรักตน อีกทั้งหูยังชอบหนวกเวลาสาวๆ พูดประโยคสำคัญบ่อยครั้ง

     ซึ่งยอมรับว่าตอนแรก ๆ ผมก็แอบบ่นโคดากะเหมือนกันว่า โคดากะไม่รู้อะไรเลยเหรอสาวๆ ในชมรมเพื่อนบ้านนั้นส่งสัญญาณว่ารักโคดากะมากแค่ไหน (แต่ผมไม่ได้ว่าพระเอกกาก ตุ๊ด เกย์หรอก แต่แอบอมยิ้มพระเอกน่ะว่าทำไมน่อถึงไมรู้เลย ยิ่งกว่าริโตะแห่ง To Love Ru เสียอีก)

    แน่นอนว่าหลายคนคิดพระเอกเหมือนที่ผมคิด จนกระทั่งมาถึงไลท์โนเวลเล่มที่ 7 (อนิเมะก็เป็นตอนที่ 10 ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่งของการ์ตูนเรื่องนี้ เพราะเป็นการเปิดเผยความลับของโคดากะที่หลอกคนอ่านมานาน

    บทการเปิดเผยความลับของโคดากะนั้นเป็นบทช่วงงานกีฬาสี ในระหว่างที่โคดากะกำลังเบื่อกิจกรรมกีฬาอยู่นั้น เขาก็เหลือบไปเห็นริกะบนด่านฟ้าโรงเรียนเข้าพอดี เขาเลยขึ้นไปด่านฟ้าเพื่อไปหาริกะ

    ระหว่างที่โคดากะพูดคุยกับริกะเรื่องงานกีฬาสีอยู่นั้น จู่ๆ ริกะก็ได้ถามโคดากะว่าคิดยังไงกับเซนะ โคดากะตอบกลับไม่ได้ยินอีกเหมือนครั้งก่อน

    ทันใดนั้นริกะก็แสดงสีหน้าจริงจังขึ้น เธอพูดกับโคดากะเป็นเชิงไม่พอใจว่า “ทำเป็นหัวเบา ไม่รู้อะไรเลย ทั้งที่รู้ทั้งหมด

     ทำเป็นไม่ได้ยินที่พูด แต่ความจริงได้ยินทุกอย่าง

    หนีตนเอง หลอกลวงตัวเอง หลอกลวงคนอื่น

    ทั้งที่ตัวเองเป็นที่รัก แต่กลับหลอกหัวใจตนเอง”

    โคดากะได้ยินประโยคนี้ก็ตอบไปว่า “โคบาโตะน่ะเหรอ ก็เป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อก่อนแล้ว”

    ริกะเห็นว่าโคดากะยังไม่ยอมรับ จึงพูดอีกว่า “หากรุ่นพี่ต้องการแบบนี้ ริกะก็จะแกล้งทำเป็นเหมือนเดิมต่อไปก็ได้ แต่รุ่นพี่ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่ต้องเลือกสักที ก็เพราะพวกเรา.....”.

    ยังไม่ทันทีริกะจะพูดจบ โคดากะก็ตะโกนบอกให้รุ่นน้องริกะหยุดพูดเสียก่อน (เชื่อว่าประโยคที่หายไปคือ “พวกเรารักโคดากะ”)

    และนั้นเองที่ความลับของดากะทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย ที่ผ่านมาทั้งหมดเวลาที่สาวๆ ในชมรมพูดอะไรในลักษณะสื่อว่ารักเขา โคดากะจะแกล้งทำเป็นไม่ได้ ยิน หรือไม่ก็แกล้งโง่มาโดยตลอด โคดากะรู้ดีทั้งหมดว่าสาวๆ ในชมรมคิดอย่างไรกับตน รู้มาตลอดถึงความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่างเขากับสมาชิกชมรมเพื่อนบ้าน เพียงแต่เขาพยายามี่จะเป็นไม่รับรู้ และไม่ใส่ใจเท่านั้น พยายามโกหกปิดบังความรู้สึกของตนเรื่อยมา

                    ทำไมโคดากะเลือกที่จะแกล้งโง่มากกว่าที่จะพูดความรู้สึกของเขาต่อเหล่าสาวๆ ในชมรมแบบตรงๆ หากวิเคราะห์เรื่องราวของโคดากะมาตั้งแต่ไลท์โนเวลเล่มที่ 1 (จนมาถึงไลท์โนเวลล่าสุดเล่มที่ 8 ) จะพบว่าโคดากะนั้นเป็นพระเอกที่แสนดีและเสียสละมากกว่าที่หลายคนคิดมาก

                    อาเซกาว่า โคดากะเป็นพระเอกตัวชูโรงของ Boku wa Tomodachi ga Suku nai ซึ่งจะว่าไปก็แตกต่างจากพระเอกสายฮาเร็มแท้ๆ พอสมควร เพราะเป็นพระเอกมีมีหน้าตาค่อนข้างเหมือนนักเลง (แต่ต่างจากพระเอกฮาเร็มที่หน้าตาดูเป็นมิตรมากกว่า) มีทักษะต่อยดี (แต่โคดากะไม่ชอบความรุนแรงจะใช้กำลังยามจำเป็นเท่านั้น) และด้านการเรียนถือว่าดีพอสมควร ส่วนนอกเหนือจากนั้นก็เหมือนพระเอกฮาเร็มทั่วๆ ไปคือเป็นคนสุภาพ และคิดถึงจิตใจคนอื่น (ไม่เคยขัดใจคนอื่นหากไม่จำเป็น และปรารถนาคนอื่นมีความสุข) มีความเป็นพ่อบ้าน ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก

                    ชีวิตของโคดากะตั้งแต่เด็ก จนถึงอายุ 17 (เวลาปัจจุบัน) แทบไม่มีความสุขนัก แม่เสียตั่งแต่เด็ก พ่อย้ายบ้านบ่อยครั้ง ทำให้โคดากะไม่มีเพื่อน และอีกสาเหตุหนึ่งคือโคดากะนั้นหน้าตาเหมือนเด็กเกเร ผมสีทองและน้ำตาล ทำให้ภาพลักษณ์เหมือนนักเลง (ซ้ำชอบแต่งตัวแบบสบายจนเหมือนนักเลงมากขึ้นไปอีก) ทำให้คนรอบข้างไม่กล้าเข้าหาโคดากะเพราะคิดว่าเป็นนักเลงโฉด

    ดังนั้นความปรารถนาสูงสุดของโคดากะก็คือการหาเพื่อน หากแต่แม้โคดากะจะพยายามตีสนิทคนรอบข้าง สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น ซ้ำย่ำแย่ขึ้นไปอีก เพราะผมสีทองสีน้ำตาลทำให้เขาถูกคนอื่นรังแกตั้งแต่เด็ก (พอโตมากลายเป็นถูกคนอื่นถอยห่างเพราะหวาดกลัวแทน)

    ต่อมาโคดากะได้ก็ได้พบกับโยโซระ (ซึ่งโคดากะคิดว่าเป็นผู้ชาย) แม้การพบกันครั้งแรกจะไม่ค่อยหน้าดูมากนัก แต่หลังจากนั้นทั้งคู่ก็เล่นด้วยกัน จนทั้งสองพูดเต็มปากว่าเป็นนี่คือเพื่อนแท้คนแรกในชีวิต หากแต่ไม่นานโคดากะก็ต้องบ้านย้ายบ้านทำให้เขาจากโยโซระทั้งที่ยังไม่ได้ล่ำลากัน

    เวลาผ่านไปนาน จนกระทั่ง 10 ปีต่อมาโคดากะยังคงเหมือนเดิมคือไม่มีเพื่อนเพราะหน้าตาและท่าทางเหมือนนักเลง อีกทั้งต้องย้ายมาโรงเรียนใหม่ สภาพแวดล้อมใหม่ ทำให้โคดากะปรับตัวค่อนข้างลำบาก จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบโยโซระเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง แต่โคดากะดันจำไม่ได้เพราะว่าเขาคิดว่าโยโซระ (โซระ) คนที่เขารู้จักกันตั้งแต่เด็กนั้นเป็นผู้ชายมาตลอด

    ในอนิเมะภาคแรกตอนที่ 12 โยโซระนั้นจำหน้าโคดากะได้ตั้งแต่แรกเห็น แต่เธอไม่กล้าทักเพราะกลังโคดากะจะจำไม่ได้ อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่ลืมในช่วงเวลาที่เธออยู่กับโคดากะกันสองคน โยโซระต้องการปรารถนาที่จะอยู่กับโคดากะสองต่อสองเหมือนสมัยเด็กอีกครั้ง เธอเลยบังคับโคดากะเข้าชมรมเพื่อนบ้านที่เธอก่อตั้งขึ้น โดยอ้างวัตถุประสงค์ว่าต้องการหาเพื่อน

    หลังจากนั้นชมรมเพื่อนบ้านก็มีสมาชิกคนอื่นๆ ตามมา ไม่ว่าเป็นเซนะ, ยูคิมูระ, ริกะ, โคบาโตะ และมาเรีย หากรวมกับโคดากะสมาชิกมีทั้งหมด 7 คน อย่างไรก็ตามกิจกรรมชมรมของชมรมเพื่อนบ้านนั้นส่วนมากจะไร้สาระ แทบไม่เป็นชิ้นเป็นอันมากนัก ส่วนมากสมาชิกแต่ละคนจะทำกิจกรรมส่วนตัวเป็นหลัก โคดากะเองก็ไม่ได้เพื่อน (นอกจากสมาชิกในชมรม) แถมชื่อเสียงยังย่ำแย่ลงอีกต่างหาก

    แม้ว่ากิจกรรมชมรมเพื่อนบ้านจะไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แต่สำหรับชมรมนี้ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโคดาะมาก เพราะเป็นที่พักทางใจ  เนื่องจากห้องชมรมเพื่อนบ้านมีบรรยากาศดีกว่าภายในโรงเรียนที่ดูอึดอัดและสายตาด้านลบจากคนรอบข้างเสียอีก (แม้ว่าโคดากะจะชินแล้วก็ตาม)  อีกทั้งสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านส่วนใหญ่ (ยูคิมูระ ,ริกะ ,โคบาโตะ) ล้วนเข้าชมรมเพราะมีโคดากะอยู่ทั้งสิ้น

    หากเราสังเกตพฤติกรรมโคดากะดีๆ จะพบว่าโคดากะนั้นให้ความสำคัญกับคนใกล้ตัวมาก  โคดากะไม่เคยบ่นหรือไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมชมรมเลยแม้แต่น้อย แม้แต่ละอย่างไร้สาระเสียเวลาเปล่าแต่โคดากะก็เต็มใจร่วมเล่นกับทุกคน สาวคนไหนอยากได้อะไรโคดากะก็จัดให้ ทำหน้าที่เป็นพี่ชายที่ดีเลี้ยงดูน้องสาวชนิดไม่ขาดตกบกพร่อง  อีกทั้งยังเต็มใจสละเวลาว่างหากสาวๆ คนใดต้องการนัดเขาออกไปข้างนอก (ซึ่งส่วนมากเป็นเซนะ) เรียกว่าเป็นโคดากะของทุกคนก็ว่าได้

    แม้ว่าสมาชิกในชมรมจะบ่นว่าไม่มีเพื่อน แต่ความจริงแล้ว สมาชิกทั้งหมดในชมรมนั้นทั้งหมดก็คือเพื่อน (ทำกิจกรรมร่วมกัน พูดคุยกัน เล่นหัวกัน แบบนี้ไม่ใช่เพื่อนและจะให้เรียกอะไร) ทุกคนเองก็รู้ตัวเพียงแต่ไม่อยากพูดออกมาตรงเท่านั้น

    โคดากะไม่รู้เลยเหรอว่าสาวๆ ในชมรมต่างรักเขา คำตอบคือโคดากะรู้มาโดยตลอด สังเกตว่าโคดากะนั้นชอบอ่านไลท์โนเวล ก็น่าจะรู้เรื่องความรักบ้าง โคดากะเองก็มีน้องสาวก็น่าจะเข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงบ้างไม่มากก็ไม่น้อย

    นอกจากนี้การบรรยายไลท์โนเวลก็ใช้การบรรยายบุคคลที่ 1 ของโคดากะ ที่แต่ละประโยคที่ปรากฏในหนังสือทุกตัวอักษรที่โคดากะอ้างว่าไม่ได้ยินนั้น ความจริงโคดากะได้ยินทุกคำ  (หากไม่ได้ยินจริงๆ โคดากะต้องบรรยายว่า "........" สิ ไม่ใช่บรรยายเป็นรูปประโยคชัดเจนแบบนี้) และรู้มาโดยตลอดว่าสาวๆ แต่ละคนคิดกับเขาอย่างไร (ซึ่งถือว่าเป็นเทคนิคหลอกคนอ่านได้สนิทใจ)

     

     

    ฮาเร็มของโคดากะ

     

    พูดง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นไลท์โนเวลและการ์ตูนมีจุดบอกใบ้มาแล้ว เพียงแต่คนอ่าน (คนดู) ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจเท่าไหร่นักก็ว่าได้

     

    และเพราะโคดากะรู้ว่าเหล่าสาวๆ ในชมรมชอบเขานี้แหละ ถึงได้ลำบากใจ เพราะปัญหาในตอนนี้คือโคดากะนั้นยังไม่ได้รักสาวคนใดเป็นพิเศษ

    มันชัดเจนอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นไลท์โนเวลหรืออนิเมะ โคดากะไม่ได้รักสาวคนใดแบบชายหญิง หรือแบบแฟนใครใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ ไม่ใช่โคดากะไม่ได้รักใคร โคดากะยังคงเป็นของทุกคน เขารักทุกคนในชมรม หากแต่ไม่ได้รักในฐานะแฟน แต่อยู่ในฐานะเพื่อนและคนสำคัญของเขา ซึ่งสำหรับเขาในตอนนี้เพื่อนนั้นมีความสำคัญยิ่งกว่าแฟนด้วยซ้ำ

    โคดากะชอบบรรยากาศในห้องชมรม มันเป็นที่พักทางใจของเขา ข้างนอกนั้นบรรยากาศน่าอึดอัดจากคนรอบข้างที่เข้าใจผิดว่าเป็นนักเลงจนมีท่าทีรังเกียจ แต่ในทุกคนเพื่อนบ้านในชมรมไม่ได้กลัวเขาเหมือนคนภายนอก พวกเขารักโคดากะ ทุกคนรู้นิสัยของโคดากะที่เป็นคนดีผิดจากหน้าตา

    โคดากะชอบบรรยากาศในชมรม แม้ส่วนมากเกือบทุกวันทุกคนต่างคนทำกิจกรรมส่วนตัว มากกว่าทำกิจกรรมร่วมกัน แต่เขาก็ชอบมองคนอื่น ดูเซนะเล่นเกมจีบสาว ดูโยโซระอ่านหนังสือ ดูริกะอ่านหนังสือบอยเลิฟ มียูคิมูระยืนอยู่ข้างๆ คอยเติมน้ำชา ดูมาเรียเล่นกับคาบาโตะ นานๆ ครั้งมีกิจกรรมที่เหล่าสมาชิกในชมรมทำด้วยกัน ซึ่งโคดากะจะร่วมเล่นทุกครั้ง โดยไม่มีบ่น ซึ่งสำหรับเขาแล้วมันไม่เคยทำกิจกรรมร่วมกับคนหมู่มาก่อน ไปคาราโอเกะด้วยกัน ไปสวนสนุกด้วยกัน แม้มักจบลงแบบชวนหัวไปบ้าง แต่สำหรับเขาแล้วมันเป็นช่วงที่สนุก และมีความทรงจำที่ดีต่อกัน

    แม้ชมรมเพื่อนบ้านนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อหาเพื่อน แต่ความจริงแล้วทุกคนในชมรมต่างเป็นเพื่อนกันโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น รู้จักกันและกัน สามารถพูดคุยด้วยกัน เล่นด้วยกัน แม้ว่าอาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ต้องปรับปรุงบ้าง แต่ทั้งหมดคือเพื่อน เพียงแต่ทุกคนไม่ได้พูดออกมาเท่านั้น

    ทุกคนในชมรมเพื่อนบ้านคือคนที่สำคัญในชีวิตของโคดากะ

    ดังนั้นโคดากะพยายามทุกวิถีทางเพื่อที่จะไม่ให้เกิดสิ่งเลวร้ายในชมรมเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลง อะไรก็ตามที่สั่นคลอนต่อจิตใจของสมาชิกในชมรมที่ทำให้ชมรมแตก แน่นอนสิ่งที่เขารับรู้ในตอนนี้ก็คือทุกคนในชมรมเพื่อนบ้านชอบโคดากะ รักโคดากะ ไม่ใช่ฐานะเพื่อน แต่เป็นแฟน อยากได้โคดากะเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว

    แน่นอนหากโคดากะเลือกใครสักคนในชมรมเพื่อนบ้านเป็นแฟน สมาชิกทั้งหมดในชมรมแตกเป็นคนละทิ้งละทางแน่นอน เพราะเกือบทุกคนในชมรมมาอยู่สถานที่เดียวกันชมรมเดียวกันโดยมีโคดากะเป็นศูนย์กลางทั้งสิ้น

    เขาต้องการสภาพบรรยากาศแบบเดิมๆ ไม่ใช่สภาพที่อึดอัดเหมือนแบบข้างนอกห้องชมรม

    เมื่อโคดากะรู้เรื่องเหล่านี้แล้ว สิ่งที่เขาทำต่อมาคือการแกล้งเป็นพระเอกฮาเร็มโง่ๆ ทึ่มๆ ที่ไม่รู้เรื่องความรัก หลอกสมาชิกชมรม หลากคนดู หรือแม้แต่หลอกตัวเอง หลอกทุกคน เพื่อให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง ให้สมาชิกในชมรมอยู่แบบนี้ให้นานที่สุด

    แต่อย่างไรก็ตาม โคดากะไม่สามารถหลอกริกะ เธอมองออกว่าโคดากะคิดอะไรอยู่

    ดังนั้นสิ่งที่ริกะพยายามพูดกับโคดากะในงานกีฬาสี นั้นไม่ใช่บังคับให้โคดากะเลือก แต่เธอพยายามเตือนสติให้โคดากะรู้จุดยืนของตนเอง อีกทั้งวิธีแบบนั้นไม่สามารถใช้ได้ผลเสมอไปสักวันความก็แตก สิ่งที่โคดากะควรทำในตอนนี้คือการเปิดเผยความในใจของให้สมาชิกเพื่อนบ้านรับรู้มากกว่า

    แต่โคดากะยังใช้วิธีแกล้งโง่แบบเก่าต่อไป....

     

     

    โยโซระตัวสั่น

     

    กลับมาที่ช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อตอนที่ 11 เซนะได้สารภาพว่ารัก ต่อหน้าโคดากะและสมาชิกเพื่อนบ้าน เวลานั้นโคดากะตกใจ หน้าถอดสีพูดอะไรไม่ออก แม้โคดากะจะไม่ได้กวาดสายตาดูสีหน้าสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านในเวลานั้นว่าพวกเขาสีหน้ายังไง แต่ด้วยบรรยากาศที่อึดอัด (คงมีแต่เซนะแหละที่โรแมนติก) โคดากะรู้เลยว่าสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านล้วนสีหน้าไม่ดีทั้งสิ้น มาเรียหน้าหน้า งง สับสนกับบรรยากาศที่แสนอึดอัด โยโซระตัวสั่นเหมือนลูกแมวที่ถูกทอดทิ้ง ยูคิมูระสับสน โคบาโตะน้ำตาเกือบไหล ริกะสีหน้าไม่สบายใจ

                    บรรยากาศในเวลานั้นน่าอึดอัดเหมือนมีระเบิดขว้างกลางวงไม่มีผิด

                    เหตุการณ์แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในเฉพาะ Boku wa Tomodachi ga Suku nai เท่านั้นในการ์ตูนแนวฮาเร็มนั้นก็มีมากมายหลายเรื่อง ทีจะมีเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้การสั่นคลอนของสาวๆ ในฮาเร็มต้องแปรเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่พระเอกต้องเลือก ซึ่งสิ่งที่ตามมาของตัวเลือกนั้นอาจมีผลกระทบที่ใหญ่หลวงในอนาคต โดยเฉพาะเหตุการณ์สาวในกลุ่มฮาเร้มสารภาพรักพระเอก ที่มักพบเห็นบ่อยครั้ง  บางคนก็เลือกคำตอบที่ดี ในขณะที่พระเอกบางคนเลือกตัวเลือกที่เลวร้าย จนได้รับผลกระทบที่ใหญ่หลวง

    เหตุการณ์รูทสารภาพรักเกิดขึ้นเร็วมาก เวลานั้น วินาทีนั้น  มีตัวเลือกโคดากะสองตัวเลือกคือ ตอบรักคำสารภาพของเซนะ หรือปฏิเสธคำสารภาพรักของเซนะ

     เลือกตอบรับคำสารภาพเซนะและให้คนในชมรมเพื่อนบ้านเสียใจ ชมรมแตก โลกของโคดากะพังทลายไม่มีสิ้นดี กองอวยเซนะสะใจ แต่กองอวยสมาชิกเพื่อนบ้านไม่พอใจ ด่าว่าโคดากะ เลวทุกสารทิศ

    หากโคดากะปฏิเสธคำสารภาพรักเซนะ สิ่งที่ตามมาคือการทำให้หญิงสาวคนหนึ่งที่มีความมั่นใจตนเองสูงมากผิดหวังอย่างรุนแรง เหตุการณ์ตามมาอาจรุนแรงเกินที่จะคาดคิดพรรณนา เสียบรรยากาศดีๆ ที่อุตส่าห์สร้างมาทั้งหมด ชมรมแตก โคดากะโดนแฟนอวยเซนะ (ซึ่งถือว่าเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมเรื่องนี้) ด่าว่าอยู่ดี

     

    ทั้งสองตัวเลือกเหล่านี้ไม่ว่าโคดากะจะเลือกทางใด ล้วนเจ็บปวดทั้งสิ้น มีแต่ทำให้ชมรมแตก สถานการณ์ย่ำแย่ อีกทั้งคงถูกคนดู (แฟนอวย) สาปแช่งทั่วสารทิศ

    ดังนั้น สิ่งที่โคดากะคิดได้ก็คือการแกล้งหูหนวกอีกครั้ง  บอกว่าเซนะพูดอะไร ไม่ได้ยินเพราะเสียงเกมกลบคำพูดของเซนะหมด

    การโกหกของโคดากะครั้งนี้ออกมาค่อนข้างแย่ เพราะไม่เนียนเลยแม้แต่น้อย สมาชิกเพื่อนบ้านได้ยินกันทั่วห้อง ต่อให้แถยังไงก็ไม่เชื่อ

    เมื่อไม่ได้ผล โคดากะจึงงัดใช้วิธีสุดท้าย ที่พระเอกฮาเร็มมักใช้กัน นั้นคืออ้างว่าตนมีธุระและซิ่งหนีออกจากห้องชมรมอย่างรวดเร็ว!!

    อย่างที่บอกว่าพระเอกฮาเร็มส่วนใหญ่มักใช้วิธีนี้เหมือนกัน เวลาเหล่าสาวๆ บอกให้พระเอกเลือก แต่พระเอกไม่มีความคิดที่จะเลือกใคร พระเอกได้พูดแค่ว่า “ขอโทษคร้าบบบ ผมเลือกไม่ได้” ก่อนที่จะซิ่งหนีอย่างรวดเร็ว โดยมีเหล่าสาวๆ ไล่ตามหลังนางเอก ซึ่งฉากนี้ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จซาบซ่าฮาเร็มมาก

    แต่อนิจจาสำหรับโคดากะที่ใช้มุกนี้แล้วไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ ขนาดริกะยังทำท่าถอดหายใจ คอตกเลยทีเดียว

    และเป็นธรรมดาที่หลายคนที่มีอารมณ์ค้างจากตอนที่ 11 มักตั้งกระทู้และแสดงความคิดเห็นต่างๆ มากมายเกี่ยวกับเนื้อหาในตอนนี้ บ้างก็อวยตัวละคร (อวยเซนะบ้าง อวยริกะบ้าง) บางคนก็วิเคราะห์ว่าการ์ตูน (ไลท์โนเวล) เรื่องนี้จบไม่ฮาเร็ม อย่างไรก็ตามประเด็นที่สำคัญที่หลายคนมักพูดถึงกันนั้นก็คือพระเอกโคดากะของผมนิสัยแย่จริง และด่าว่าพระเอกว่า ตุ๊ด กาก เกย์

    ซึ่งขอบอกว่า หากไม่มีการ์ตูนฮาเร็มเรื่องไหนไม่มีใครด่าพระเอกว่าตุ๊ด กาก เกย์ ถือว่าการ์ตูนเรื่องนั้นไม่ใช่การ์ตูนฮาเร็ม ประมาณว่าคนดูขัดใจพฤติกรรมพระเอกไม่ได้ดั่งใจ จึงเป็นธรรมดาที่จะบ่น

    สงสัยติดใจกับละครไทยมากเกินไปเลยใส่อารมณ์กับการ์ตูนฮาเร็ม

    โคดากะเป็นตุ๊ด กาก เกย์จริงเหรอ คำตอบคือไม่ หากคุณเป็นโคดากะ (ที่ผ่านชีวิตไร้เพื่อนมาแบบโคดากะ) คุณจะพูดอย่างไรให้แอปปี้ทั้งสองฝ่าย ไม่ให้วงแตก บอกว่า “เรามาเป็นเพื่อนกันก่อนน่ะ อย่าพึ่งเป็นแฟนเลย” คิดหรือว่าคนที่สวยมั่นใจอย่างเซนะสามารถรับได้กับประโยคนี้เหรอ?

    อีกทั้งอย่าลืม ว่าโคดากะนั้นไม่ได้รักใครถึงขั้นอยากเป็นแฟน ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ ไม่มีที่ปรึกษาในด้านความรัก อีกทั้งเหตุการณ์มันกะทันหัน แบบนี้ไม่ให้โคดากะทำอะไรไม่ถูกได้อย่างไร

     อย่างที่ผมเขียนตอนต้นว่าโคดากะมีเหตุผลที่จะหนีสถานการณ์เช่นนี้ แม้ว่าภาพมันจะไม่น่าดู แต่ก็ถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีสามารถซื้อเวลาได้ไประยะเวลาหนึ่ง  โคดากะหนีไปเพื่อตั้งหลัก ตั้งสติ เพื่อหาประโยคดีๆ หรือวิธิดีๆ กลับไปพูดเซนะและเหล่าสมาชิกเพื่อนบ้าน เพื่อให้ฮาเร็มของเขาไม่แตก (ลองดูตอนอนิเมะตอนที่ 12 เอาน่ะครับว่าโคดากะจะทำอย่างไรถึงสามารถทำให้ฮาเร็มของเขาไม่แตกได้)

     

                    แต่อนิจจาหลายคนไม่ได้มองลึกมากกว่านี้ เลยด่าว่าโคดากะไปยกใหญ่  ความจริงก็ต้องโทษอนิเมะชมรมไร้เพื่อนด้วย เพราะตัดไปเยอะ ซึ่งหากใครที่ได้อ่านไลท์โนเวลและมังงะนั้นจะเห็นใจความรู้สึกของโคดากะในเวลานั้นมากกว่าเพราะเน้นการบรรยายความรู้สึกนึกคิดของโคดากะเอาไว้ชัดเจน ว่าโคดากะลำบากใจมากแค่ไหนในเวลานั้น แต่อนิเมะทำบทโคดากะห้วนๆ ไปจนขาดอารมณ์ไปอย่างสิ้นเชิง

                    หากพูดถึงอนิเมะชมรมไร้เพื่อนภาค Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next โดยภาพรวมแล้วผมไม่ค่อยประทับใจมากนัก เพราะอย่างที่บอกไปว่าเนื้อหาถูกตัดไปค่อนข้างมาก แม้เนื้อหาที่ตัดนั้นจะไม่สำคัญต่อเนื้อเรื่องโดยภาพรวม แต่ทั้งหมดสื่อความผูกพันของสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านที่ทั้งสนุกสนานชวนหัว (เช่น มุกตลกเสื่อมของริกะ, ทำการบ้านฤดูร้อนของโคบาโดะ ต่างๆ อีกมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในอนิเมะ)

                    สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next สองมาตรฐานสุดๆ เพราะเน้นบทริกะและเซนะมากเกินเหตุ สิ่งก็เข้าใจว่าภาคดังกล่าวสองตัวละครนี้มีบทสำคัญ แต่อย่างลืมว่าโยโซระก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งปกติแล้วกองอวยอนิเมะมักจะเน้นตัวละครที่มีบทบาทมากที่สุด ทำทำให้แฟนอวยตัวละคอื่นๆ นอกเหนือริกะและเซนะ (หรือแม้แต่ผมกองอวยฮาเร็ม) ไม่ชอบ เหมือนไม่ยุติธรรมตัวละครดังกล่าว

                    ปกติแล้วการ์ตูนที่สร้างจากไลท์โนเวลมักทำขึ้นโปรโมทนิยายไลท์โนเวล มากกว่าจะเป็นเน้นรายละเอียดเก็บทุกจุด (แต่ก็มีบางเรื่องเหมือนผมทำออกมาดี) ดังนั้นผมก็ไม่อยากให้ทุกท่านที่ไม่ได้อ่านนิยายไลท์โนเวลเรื่องนี้อินอนิเมะมากนัก ลองไปอ่านไลท์โนเวลหรือไม่ก็มังงะดูก่อน ท่านจะมองโคดากะเป็นด้านบวกมากกว่านี้ ว่าเขาไม่สมควรว่าเป็นพระเอกกากหรือใจตุ๊ดหรือเปล่า

     


    Boku wa Tomodachi ga Sukunai จะสามารถจบฮาเร็มได้หรือไม่?

     

                    คราวนี้มาดูความคิดเห็นของผมบ้าง สิ่งที่ผมมุกพูดถึงการ์ตูนเรื่องนี้อยู่เสมอก็คือ ผมอยากให้การ์ตูนเรื่องนี้จบแบบฮาเร็ม

                    ก่อนอื่นผมขอออกตัวว่าจบฮาเร็มที่ว่าไม่ใช่แต่งงานหมู่ในเชิงเพศ ซึ่งผมก็ไม่รู้ทำไมหลายคนถึงชอบมีความคิดว่าจบฮาเร็มเข้าวินทั้งหมดจะต้องแต่งงานหรือเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศก็ไม่รู้

    และเมื่อพูดถึงจบฮาเร็มที่ไรหลายคนมักยกตัวอย่าง (ที่ขอบอกว่าแย่มาก) คือชอบยกตัวอย่างเรื่องฮาเร็มหญิงที่มีชายหลายคน ที่นางเอกตอบรักชายทั้งหมดเข้าฮาเร็ม เป็นสามีทั้งหมดซึ่งมันเป็นภาพไม่งาม พร้อมปิดท้ายว่าคิดหรือว่าจบแบบฮาเร็มมีความสุขเหรอ (ปํญหาเรื่องลูก มรดก) ฮาเร็มชายก็เช่นกัน

    มึนติ๊บ!! ผมอยากขอออกตัวว่า เอาการ์ตูนฮาเร็มไปเปรียบเทียบกับความเป็นจริงมันไม่ไหว การ์ตูนฮาเร็มนะครับไม่ใช่ละครน้ำเน่าหลังข่าว หรือเรื่องจริงทะลุโลก คิดไปปวดหัวเปล่าๆ เอาเรื่องเพศ เรื่องกฎหมายมาพูดแบบนี้ปวดหัว

    อย่าลืมว่าการ์ตูนฮาเร็มคือความฝันของคนอ่านหลายคน ไม่ใช่การ์ตูนทำลายฝัน ส่วนทำลายฝันให้มองความเป็นจริงน่ะมีเพียง School Day ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องมีเรื่องอื่นหรอก

    เราดูความสมเหตุสมผลของการ์ตูนเรื่องนั้นๆ มากกว่า ว่ามันสมควรจบในทิศทางไหน บทบาทของตํวละคร หากดำเนินเรื่องที่พระเอกไม่ได้มีความรู้สึกรักหญิงใดเป็นพิเศษ ไม่สามารถเลือกสาวใดได้ และสาวทุกคนเองยอมตายเพื่ออะไรก็ยอมให้จบเถอะครับ

                    อีกอย่างจบแบบฮาเร็มเข้าวินหมดไม่ใช่แต่งงานหมดเสมอไปครับ มันรวมไปถึงการจบที่สุดท้ายพระเอกไม่ได้เลือกใครเป็นพิเศษ ทุกคนคือเพื่อน ทุกคนคือครอบครัว ความรู้สึกผูกพันมากกว่าความรักมากกว่าคนรัก ซึ่ง Boku wa Tomodachi ga Sukunai ก็ไม่ได้เป็นฮาเร็มที่ไม่ได้เน้นเรื่องความรักของชายหญิงสักเท่าไหร่ แต่เป็นฮาเร็มเพื่อน ซึ่งปัจจุบันก็มีฮาเร็มแนวๆ นี้มากมายหลายเรื่องที่สื่อเรื่องดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นชมรมไม่กลับบ้าน (Konobushitsu wa Kitakushinaibu ga Senkyo shimashita) ที่เน้นเรื่องเพื่อนมากกว่าจะเน้นความรักของชายหญิง

    ตอนจบของ Boku wa Tomodachi ga Sukunai แค่ปรากฏภาพสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านทั้งหมดจูงโรงเรียนร่วมกัน ทั้งหมดคือเพื่อนของโคดากะ ไม่มีใครผิดใจกันปรับใจซึ่งกันและกันหมดแล้ว (ประเด็นต่างๆ นาคลี่คลายหมดแล้ว) เพียงแค่นี้สุขใจแล้วครับ เพียงแค่สื่อว่า “เรื่องความรักยังเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้เราเป็นเพื่อนก่อนกันดีกว่า เมื่อถึงเวลานั้นค่อยเลือกกันอีกที” เห็นไหมครับ จบยอมรับกันได้ทุกฝ่าย มีความสุข สามารถจิ้นต่อ ต่อยอดอะไรต่อได้ ดีกว่าจบเข้าวินแบบไม่มีอะไรให้จิ้นต่อเสียอีก

    Boku wa Tomodachi ga Sukunai ค่อนข้างแตกต่างจากฮาเร็มเรื่องอื่น ๆ ตรงที่จะเป็นไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง และส่วนใหญ่หากแนวฮาเร็มเรื่องไหนไม่มีเรื่องเหนือธรรมชาติเข้ามาเกี่ยวข้องจะจบเข้าวินเสียส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม ชมรมไร้เพื่อนนั้นเป็นไลท์โนเวลที่มีคนติดตามมาก และแต่ละคนอวยตัวละครแตกต่างไป หากจบเข้าวินคงมีผลกระทบอะไรตามมาแน่นอน ตัวอย่างก็มีให้เห็นแล้ว

    อีกอย่าง Boku wa Tomodachi ga Sukunai ก็มีนักเขียนหลายคน (สายสว่าง) นำมาเขียนเป็นโดจินเยอะ เหมือนกรณีของฮารุฮิ ซึ่งแต่ละคนวาดเนื้อหาที่อวยตัวละครแตกต่างกันไป บางคนอวยโยโซระ บางคนอวยเซนะ บางคนอวยริกะ บางคนอวยโคบาโตะ ฯลฯ  แสดงให้เห็นว่าชมรมไร้เพื่อนนั้นสามารถนำมาต่อยอดมากมาย หากจบเข้าวินหรือจบแบบไม่สามารถจิ้นต่อ ก็เท่ากับปิดโอกาศในการสร้างสรรค์โดจินเหล่านี้ไปด้วย

    นอกจากนี้ยังมีปัจจัยและข้อสังเกตอะไรหลายๆ อย่างที่โคดากะกำลังเข้ารูทฮาเร็ม

    -โคดากะไม่ได้รักใครเป็นพิเศษ

    -การบรรยายไลท์โนเวลบรรยายชัดเจนว่าทั้งเซนะและโยโซระเป็นนางเอกทั้งคู่

    -ในไลท์โนเวลนั้นอวยตัวละครเท่ากัน ไม่ใช่อวยเซนะอย่างเดียวเหมือนในอนิเมะ

    -การทำให้มาเรียไม่ได้เป็นแม่ชีโดยให้เป็นเด็กหญิงอัจฉริยะธรรมดาเหมือนวางรากฐานรูทฮาเร็มในอนาคต

    -พ่อโคดากะสนับสนุนให้ฮาเร็ม

    ฯลฯ

    ด้วยเหตุนี้จบฮาเร็มไปเถอะจะได้เป็นภาระแก่กองอวย

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับโคดากะด้วยว่าเขาจะสามารถทำได้หรือเปล่า ในไลท์โนเวลเล่ม 8 (หรืออนิเมะตอนที่ 12 )โคดากะได้ยอมรับว่าเขาเองก็อยากเป็นพระเอกฮาเร็มเหมือนกัน เพราะพระเอกฮาเร็มนั้นทำให้ทุกคนมีความสุขและจบอย่างแฮปปี้ได้ แต่เขาไม่ใช่ เขาเป็นแค่คนธรรมดาที่เป็นผู้โชคดีเหมือนดั่งปาฏิหารย์เท่านั้น

    ดังนั้นโคดากะก็แค่คนธรรมดาที่ทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง ในตอนแรกที่หนีเนื่องจากได้ยินคำสารภาพของเซนะ ความจริงโคดากะไม่ควรปล่อยปะละเลยนานหลายวัน เพราะจะทำให้หลายฝ่ายทุกข์ใจ (แต่ก็อย่าว่าโคดากะเลยครับหากเราเป็นโคดากะนี้คงหนีแบบนี้เหมือนกัน) และเพราะปล่อยไว้นานไม่ยอมแก้ปัญหานี้เองทำสมาชิกชมรมคนอื่นๆ ก็แตกกระจาย มองหน้ากันไม่ติด 

    และบุคคลที่ทำให้โคดากะรู้ตัวและกลับลำได้ทัน นั้นดันเป็นบุคคลที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน นั้นคือ ยูคิมูระ ซึ่งทำให้โคดากะเผชิญหน้าความจริงและพยายามที่รวมสมาชิกที่กระจัดกระจายรวมตัวอีกครั้งให้ได้ซึ่งโคดากะจะทำได้หรือไม่นั้นก็ต้องติดตามต่อไป

     

    สำหรับปัจจุบันไลท์โนเวล Boku wa Tomodachi ga Suku nai ยังไม่จบ และผมไม่เชื่อด้วยว่ามันจะจบเล่มที่ 9 อย่างที่ข่าวลือที่ออกมา เพราะยังมีประเด็นเล่นอีกเยอะ ไม่ว่าตัวละครสำคัญยังไม่ปรากฏ โดยเฉพาะ แม่ของเซนะ (ซึ่งน่าจะเป็นแม่สุดแสบไม่แพ้ลูกสาวแน่นอน), ตัวจริงของยูคิมูระ (ที่ทำไมยูคิมูระถึงอยากเป็นผู้ชาย), การพัฒนาจิตใจของโยโซระที่น่าจะเป็นประเด็นสำคัญของเรื่อง ซึ่งไม่ทางจบในเล่มเดียวแน่นอน

     

     

     

     

                    อย่างที่ผมบอกเอาไว้ตอนต้น ตอนเขียนบทความนี้     Boku wa Tomodachi ga Sukunai Next ได้ดำเนินเรื่องมาจนถึงตอนที่ 11 ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์โค้งสำคัญที่สุดของการ์ตูน (และไลท์โนเวล) เรื่องนี้ก็ว่าได้

    สำหรับเรื่องย่อตอนที่ 11 (อนิเมะ) มีอยู่ว่า หลังจากที่เซนะช่วยชมรมเพื่อนไม่ให้ถูกยุบ เธอก็กลับไปเล่นวีดีโอเกมต่อ ซึ่งตอนนั้นในห้องชมรมมีสมาชิกเพื่อนบ้านอยู่ครบ จู่ๆ เซนะก็นึกอะไรไม่ทราบ เมื่อได้พูดประโยคหนึ่งกับโคดากะขึ้นมาว่า

    “จะว่าไปโคดากะ ตอนที่คุยกับป๊ะป๋าเมื่อกี๊เค้าก็พูดถึงนายน่ะ เค้าว่านายน่ะมาแต่งงานกับฉันสิ”

    เท่านั้นแหละครับเหมือนฟ้าผ่ากลางวงแก่สมาชิกเพื่อนบ้าน!!

    เซนะยังพูดต่อ “ไม่ว่าสัญญาระหว่างป๊ะป๋ากับพ่อนายจะเป็นอย่างไรก็ตาม มันไม่สำคัญ เพราะความรู้สึกของฉันในตอนนี้.... อยากจะแต่งงานกับนายจริงๆ  เพราะฉันรักโคดากะ” (ขอบอกว่าเซนะพูดกับโคดากะเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดามากๆ

    เพียงประโยคนี้ ประโยคเดียว โคดากะถึงขั้นหน้าถอดสี ทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

    คำถามต่อมาคือ เหตุใดโคดากะถึงหน้าถอดสีด้วย ปกติสาวบอกรักผู้ชาย มีผู้ชายคนไหนบ้างจะไม่ดีใจ ปลื้ม ยิ่งคนที่บอกรักโคดากะเป็นถึงไอดอลของโรงเรียนเก่งไปทุกอย่าง (แถมรวยอีกต่างหาก) แต่เหตุใดโคดากะถึงไม่ดีใจ เขาไม่รักเซนะหรอกหรือ?

    แน่นอนใครที่ดูแต่อนิเมะไม่ได้ดูไลท์โนเวล หรือว่าดูไปไม่กี่ตอน มาดูตอนนี้อาจ งง กับท่าทีของโคดากะไม่มากก็ไม่น้อย

    ต้องขอย้อนกลับไปอดีต ก่อนที่จะถึงเหตุการณ์ตอนที่ 11 สักนิด เพราะว่ามันมีมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นกับชมรมไร้เพื่อน ไม่สิ น่าจะเป็นโคดากะได้เจอเหตุการณ์สำคัญอยู่หลายเหตุการณ์ ซึ่งมีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเหล่าสาวๆ ของชมรมเพื่อนบ้านทั้งสิ้น

    อย่างที่รู้คือชมรมเพื่อนบ้านนี้ หลายคนเรียกว่าชมรมฮาเร็ม เพราะในชมรมเพื่อนบ้านนั้นมีโคดากะคนเดียวที่เป็นผู้ชาย และสาวในชมรมทั้ง 7 ต่างรักโคดากะ เพียงแต่มุมมองความรักของสาวๆ มองโคดากะแตกต่างกันไป เช่น บางคนมองเป็นพี่ชาย บางคนยังสับสนว่ารักในฐานะเพื่อนหรือแฟน บางคนมองมารักฐานะลูกพี่หรือผู้ชาย ซึ่งจะมีเซนะเท่านั้นที่ทองโคดากะว่าอยากเป็นแฟนชัดเจนกว่าใครเพื่อน

    หากใครอ่านไลท์โนเวล (ซึ่งมันชัดเจนกว่าในอนิเมะ) เราจะเห็นเรื่องราวความรักของเหล่าสาวๆ ที่มีต่อโคดากะแบบเป็นนัยๆ ไว้แล้ว

    -เริ่มจากการเปิดเผยตัวจริงของโยโซระ เมื่อโยโซระตัดผมสั้น จนโคดากะจำได้ว่าแท้จริงแล้วโยโซระนั้นเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขาที่แยกจากกันเมื่อ 10 ปีก่อน โคดากะทำตัวไม่ถูก ส่วนโยโซระเองดูเหมือนว่าเธอมองจะมองโคดากะมากกว่าเพื่อนเสียแล้ว

    -(ในไลท์โนเวล) ในช่วงสมาชิกเพื่อนบ้านไปสวนสนุก ระหว่างเล่นรถไฟเหาะสมุดสยองอยู่นั้น ทั้งโยโซระและเซนะได้พูดพร้อมเพียงว่า “ช่วยด้วยโคดากะ”  โคดากะได้บรรยายว่าเขาไม่ได้ยินประโยคที่สองสาวพูดไม่ถนัด

    -ยังอยู่ช่วงไปเที่ยวสวนสนุก โคดากะกับเซนะได้พาโคบาดะไปดูแสดงโชว์ หลังเสร็จงานแสดงโชว์ เซนะบ่นมาว่าพิธีกรเข้าใจผิดว่าเธอและโคดากะเป็นสามีภรรยากัน แม้โคดากะตอบเห็นด้วย เซนะก็พูดประโยคหนึ่งว่า “สองสามีภรรยาอะไร มันต้องเริ่มจากเป็นแฟนคู่รักก่อนสิ”  แต่โคดากะได้บรรยายว่าเขาได้ยินประโยคนี้ไม่ชัดเจน (อาจเป็นเพราะเซนะพูดเบาเกินไป) เซนะได้แต่โมโหแก้เขิน

    -ในช่วงสมาชิกชมรมเพื่อนบ้านไปอาบน้ำในโรงอาบน้ำร้อน ตัวจริงของยูคิมูระนั้นได้รับการเปิดเผย แท้จริงแล้วยูคิมูระไม่ใช่ผู้ชายหน้าสาว หากแต่เป็นผู้หญิงขี้อายน่ารักธรรมดาคนหนึ่งที่หลอกตัวเองว่าเป็นผู้ชายมานานแสนนาน เพราะการเลี้ยงดูของครอบครัว (ซึ่งจนบัดนี้ครอบครัวของยูคิมูระยังไม่ได้ปรากฏตัว) และระหว่างทางกลับบ้านนั้นเองโคดากะได้มองยูคิมูระเป็นสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×