ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Masters of Death

    ลำดับตอนที่ #5 : องครักษ์จำเป็น

    • อัปเดตล่าสุด 23 มี.ค. 55



     บทที่ 4 องครักษ์จำเป็น

    “เจ้าทำอะไรน่ะ!” คนที่ถูกดึงเอาหมวกลงโกรธมาก แล้วหันมามองคนที่ดึงหมวกลงมาอย่างเอาเรื่อง ส่วนคนที่ดึงหมวกลงมามองหน้าเฟลอย่างอึ้งๆ เพราะเฟลมีผมสีเงินเงายาวระบ่า ดวงตาสีฟ้าทะเล ใบหน้าจิ้มลิ้ม มีความสวยงามแบบผู้หญิงและมีความหล่อแบบผู้ชายเช่นกัน เขาไม่รู้เลยว่าควรสรุปเพศของบุคคลตรงหน้าอย่างไรดี

    “เจ้ามีสัตว์เลี้ยงไหม?” เจ้าชายชานอลถาม ไม่รู้เพราะอะไรดลใจ เขาจึงถามออกไปแบบนั้น

    “แล้วเจ้ารู้หรือปล่าวว่าข้าชื่ออะไร?” เฟลถามกลับทันที จนคนที่อยู่เบื้องหน้าคิ้วกระตุกอีกรอบด้วยความโมโห แต่ก็อดกลั้นสงบอารมณ์เอาไว้ก่อนที่จะส่ายหน้าเบาๆ เมื่อเฟลเห็นเช่นนั้นก็เตะหน้าแข้งของชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแรงทันทีจนคนตรงหน้าร้องออกมา

    “เจ้า!!...”เจ้าชายกัดฟันข่มความเจ็บมองคนตรงหน้าด้วยแววตาเคียดแค้น ส่วนเฟลก็แลบลิ้นใส่แล้วพูดว่า “ไม่รู้จักข้าก็อย่ามายุ่งกับผ้าคลุ่มของข้า!” ก่อนจะวิ่งหนีไปถามคนอื่นต่อ

     

    ตอนนี้เจ้าชายชานอลกำลังโกรธ โกรธคนๆนั้นที่บังอาจมาเตะหน้าแข็งของเขาจนมันบวม  เขาคิดว่าถ้ามีโอกาสจะฆ่าทิ้งจนไม่เหลือเค้าความสวยความหล่อไปเลย...

    เจ้าชายเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงเข้าวัง จนทำให้คนอื่นไม่กล้าเข้าใกล้เพราะรู้ๆกันว่าเวลาจ้าชายทั้งสองคนโกรธไม่ควรเข้าใกล้ เจ้าชายชานอลเดินอย่างรวดเร็วตามทางเดินที่ทอดยาวของปราสาทโดยเป้าหมายของเจ้าชายชานอลคือห้องของท่านพี่ของตนนั่นเอง เพื่อจะบอกว่าวันนี้ตนไปแค้นใครมา...

     

    “เจ้าตกลงจะรับภารกิจนี้หรือเปล่า?” ชายวัยกลางคนหันมาถามเฟลอีกรอบเพื่อความแน่ใจ

    “ตกลง ข้ารับภารกิจนี้” เฟลตอบแบบไม่ต้องคิด เพราะนี้แทบจะไม่ต้องเรียกว่าภารกิจเลย แค่แต่งตัวเป็นทหารองครักษ์ที่ยืนอยู่ตรงทางเดิน เพียงแค่ทางเดินที่ว่ามันใกล้ราชาจึงต้องคัดเลือกคนหน้าตาดีๆประดับเอาไว้แถมยังได้รางวัลของภารกิจตั้ง 7000 เหรียญทอง และวันนี้เป็นวันที่เจ้นหญิงแฟร์รี่ จากดินแดนยมทูต จะมาดูตัวเจ้าชายชิออนและเจ้าชายชานอล ทำให้เธอต้องแต่งตัวเป็นทหารองครักษ์คอยยืนสัปหงกอยู่ข้างๆพรมสีแดงซึ่งเป็นทางเดินอย่างช่วยไม่ได้


    เฟลรับเครื่องแบบมาเซ็งๆก่อนจะเดินไปเปลี่ยนที่ห้องน้ำ ชุดขององครักษ์เป็นเสื้อคอปกแข็งๆสีน้ำเงินเข้มๆ กางเกงก็สีน้ำเงินเข้มเหมือนกัน มีรองเท้าบูธสีดำที่ใส่ทับกางเกงด้านนอก ส่วนเครื่องประดับก็ไม่รุงรัง พอมองโดยรวมแล้วดูดีมาก ยิ่งเฟลใส่ไปอีกก็ยิ่งดูดีขึ้นอีกเป็นกอง และเนื่องจากทางปราสาทอนุญาต ให้พกอาวุธได้ เฟลเลยร่ายเวทย์เรียกเอาดาบชำระล้างสีขาวบริสุทธิ์ของตนออกมา พร้อมกับเดินไปทางตัวปราสาทอย่างรีบเร่ง

     

    “ทำไมข้าต้องมาทำเรื่องแบบนี้ด้วยนะ” เจ้าหญิงแฟร์รี่กล่าวอย่างเบื่อหน่ายทั้งที่นั่งอยู่ภายในรถม้ากับพี่ชายทั้งสองของตนที่อาสาจะตามน้องคนเล็กมาด้วย ซึ่งก็คือเจ้าชายเรย์ไฮท์และเจ้าชายคลาวว์ ที่ขึ้นชื่อว่าห่วงน้องสาวสุดๆ

    “โถ่ น้องของพี่ ถึงเจ้าชายทั้งสองจะไม่ถูกใจล่ะก็ อย่างน้อยก็ป่วนปราสาทหลังนี้นิดหน่อยสิ”เจ้าชายเรย์ไฮท์พูดอย่างอารมณ์ดีกับน้องสาวของตน โดยไม่ลืมหันไปถามความเห็นจากเจ้าชายคลาวว์ที่นั่งข้างๆตน “เจ้าว่าไหม?คลาวว์”

    “อืม ข้าก็ว่างั้น ถึงไม่ชอบก็น่าจะป่วนหน่อย” คลาวว์กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์

    “อ๊ะ ถึงแล้ว เป็นปราสาทที่สง่างามอย่างที่ท่านพ่อพูดไม่มีผิดเลย” เจ้าหญิงแฟร์รี่พูด

    “นั่นสินะ” เจ้าชายเรย์ไฮท์พูดพร้อมกับคลาวว์ที่ผงกหัว พอทั้งสามคนลงจากรถม้าแล้วก็รีบเดินเข้าไปในตัวปราสาทอย่างตื่นเต้นไม่ได้

     

    ภายในปราสาทนั่นสวยงาม มีแต่สีขาวที่แสดงความบริสุทธิ์ ทำให้ทั้งสามคนนั้นนึกถึงพี่สาวคนแรกอย่างช่วยไม่ได้ ใช่! พี่สาวผู้มีสายเลือดยมทูตบริสุทธิ์ ยมทูตแห่งการชำระล้าง ที่หายตัวไปอย่างปริศนานั่นเอง

     

    ทันทีที่ทั้งสามคนมายืนตรงหน้าของราชา ก็รีบทำความเคารพกับพระราชา ก่อนที่เจ้าชายทั้งสองจะเดินเข้ามา คนแรกคือเจ้าชายชิออนผู้มีผมเป็นสีทองประกาย ดวงตาสีครามที่สง่างาม และเจ้าชายชานอลที่มีผมสีน้ำเงินเข้ม ดวงตาสีฟ้าทะเล มีท่าทีที่สุขุมและเย็นยะเยือก พร้อมกับองครักษ์ที่ตามหลังมาสิบกว่าคนทั้งสามคนไล่มององครักษ์ทีละคนๆ  แต่ว่าทั้งสามคนกับต้องชะงักเพราะเห็นองครักษ์คนหนึ่ง องครักษ์คนนั้น ผู้ที่มีดาบสีขาวบริสุทธิ์ แบบเดียวกับดาบชำละล้างของท่านพี่ของทั้งสามคนไม่มีผิด!!!


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×