ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Disturb feelings ป่วนรักกวนหัวใจนายหน้าหวานสุดแสบ [ Yaoi ]

    ลำดับตอนที่ #2 : DISTURB FEELINGS: CHAPTER 1

    • อัปเดตล่าสุด 4 ส.ค. 55



    DISTURB FEELINGS: CHAPTER 1

                ผมชื่อ ชิโรคุมะ อุสะงิ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนตั้งชื่อให้ผม แต่ดูแล้วน่าจะเป็นแม่นะครับ ชื่อผมีอะไรน่ะหรอ?  ก็อุสะงิแปลว่า กระต่าย น่ะสิครับ ยิ่งผมตัวเล็กๆขาวๆด้วย เพื่อนผมก็เลยชอบเรียกผมว่า ไอ้กระต่ายขาวหรือไม่ก็ กระต่ายน้อยแต่ส่วนใหญ่ด้านหลังจะเป็นพวกผู้หญิงเรียกซะส่วนใหญ่

                ตอนนี้ผมกำลังทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง ร่างกายมันล้าไปหมด โดยเฉพาะ มือที่ผมเพิ่งเอาไปชกหน้าไอ้ยักษ์หน้าหื่นเมื่อตอนเย็น ผมไม่นึกเลยว่านอกจากมันจะหื่นจัดแล้วยังมีโครงหน้าที่หนาและทนทาน จนมือน้อยๆของผมที่ชกมันช้ำไปหมด

                ผมนอนเล่นอยู่บนเตียงแล้วมองมือขวาตัวเองด้วยความกังวล

                ...พรุ่งนี้เป็นวันเปิดเทอมของ ม.4 และผมกับเพื่อนก็ได้ย้ายไปเรียนโรงเรียนชายล้วยเซย์กะซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชน แต่ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น ผมเป็นคนถนัดขวา ดังนั้น เมื่อมือขวาของผมช้ำแล้วผมจะเอามือที่ไหนไปเขียนนังสือล่ะครับ...?

                ข้างซ้ายผมก็ไม่ถนัด...อะไรนะ....? ใช้เท้าเขียน? มันคงตลกพิลึกแฮะ...

                ครืด~ ครืด~ ครืด~

                เสียงโทรศัพท์ของผมที่วางไว้บนโต๊ะมันสั่น ผมรีบหยิบมาทันที

                “ฮัลโหล”

                ว่าไงวครับไอ้คุณอุสะงิ ได้ข่าวว่าไปต่อยคนมาจนมือช้ำ แม่.งแน่ชิบหายเลยมึงอ่ะ

                โอ้! ข่าวเร็วแฮะ ผมยังไม่ได้บอกใครเลยนอกจากแม่เลยนะเนี่ย แล้วมันรู้ได้ไงหว่า?

                “อือ พอดีกูไปซื้อของแล้วไอ้ห่.านั่นมันก็ลากกูเข้าตรอกอ่ะ กูเลยป้องกันตัว แต่ไม่นึกว่าไอ้ห่.านั้น
    จะหน้าด้านขนาดนี้
    =_=” ผมตอบอย่างเซ็งๆ

                ฮ่าๆ เขาเรียกว่ากรรมตามสนองเฟ้ย เอ่อ...ว่าแต่มึงไปซื้ออะไรอ่ะ มึงก็รู้นี่ว่าตอนเย็มันอันตราย จะออกไปทำไมวะ แถมตอนนั้นกูยังไม่ว่างอีกเสียงปลายสายพูดออกมาอย่างเป็นห่วงปนสะใจ ไอ้หมอนั่นชื่อ ฮามาซึกิ เรียวกะครับ เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่จำความได้แล้วครับ เพราะแม่มันกับแม่ผมเป็นเพื่อนสนิทกันแถมบ้านมันยังอยู่ใกล้ๆบ้านผมด้วย เวลาผมจะออกไปไหนก็มักจะลากคอมันไปด้วย เพราะมันเก่งเรื่องชกต่อยเป็นอย่างมาก แต่เก่งน้อยกว่าผมนิดหน่อย (คงรู้นะว่าทำไม) ดังนั้นผมเลยมั่นใจว่ามันจะต้องเป็นไม้กั้นหมาที่เยี่ยมเป็นแน่

                “กูไปซื้อแว่นตามาว่ะ....”

                มึงจะซื้อไปทำไมวะ ใส่คอมแทคเลนส์ก็ได้

                “มึงต้องเข้าใจนะว่ากูเกลียดพวกโฮโม และกูก็ไม่อยากโดนฉุด ยิ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนอีก มันก็ต้องป้องกันตัวกันบ้าง”

                เอ่อๆ แล้วแต่มึงแล้วกันแล้วมันก็วางสายไปทันที

                ผมเหลือบมองนาฬิกาบนหัวเตียงปรากฏว่ามันเป็นเวลาห้าทุ่มแล้ว และพรุ่งนี้ผมต้องไโรงเรียน ยิ่งผมเป็นคนที่ตื่นยากมากๆคนหนึ่งด้วย คงต้องรีบนอนแล้วล่ะ...

     

     

                “อุสะงิคุง ตื่นได้แล้วลูก” เสียงใสแจ๋วของแม่ดังอยู่ข้างๆเตียงผม

                “ฮือ~” ผมร้องอย่างงุดหงิดแล้วหยิบหมอนมาบังหน้าทันที

                “อู-ซา-งิ!

                “....”

                “วันนี้ต้องไปโรงเรียนนะ” ผมชะงักกับคำพูดของแม่และเริ่มทบทวนความทรงจำทันที(คนตื่นใหม่ๆก็ต้องเบลอเป็นธรรมดาอ่ะ)

                วันนี้เป็นวันเปิดเทอม...

                และวันเปิดเทอมก็ต้องมีเช็คชื่อ...

                ถ้าไปสาย = โดนหักคะแนน

                “ว้ากกกกก” ผมรีบเด้งตัวแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวพุ่งเข้าห้องน้ำทันทีแล้วหันไปพูดกับแม่อย่างหงุดหงิดว่า “ทำไมไม่ปลุกผมเช้าๆอ่ะแม่!” แล้วปิดประตูห้องน้ำทันที

                ก่อนจะปิดประตูผมเห็นแม่ทำหน้าตึง

                “ไอ้ลูกบ้า! แกรู้มั้ยว่าแม่ปลุกแกมากี่ชั่วโมงแล้ว คนบ้าอะไรตื่นยากชะมัด!

                แล้วเสียงปิดประตูของแม่ก็ดังตามมา

     

     

                “ผมไปแล้วนะครับ” ผมบอกแม่แล้วหยิบแว่นตาเจ้าปัญหาสาเหตุที่ทำให้มือของผมเจ็บไปด้วย
    แล้วรีบวิ่งไปโรงเรียนอย่างรวดเร็ว


                บัดซบ! ผมล่ะเกลียดตัวเองจริงๆที่เป็นคนตื่นยาก แต่โชคดีนะที่โรงเรียนมันอยู่ใกล้บ้าน แค่วิ่งไปสักสิบนาทีก็ถึงแล้ว ไม่งั้นคงแย่จริงๆ

                ตุบ!

                คงเป็นเพราะว่าผมรีบวิ่งไม่มองทาง เลยวิ่งไปชนผู้ชายคนหนึ่ง ผมเงยหน้ามองมันอย่างเซ็ง ฮือ...ผมไม่ได้เตี้ยนะครับ ส่วนสูงผมมาตรฐาน

                ผู้ชายคนนั้นจัดว่าเป็นผู้ชายหน้าดีคนหนึ่งนั่นแหละ ออกแนวตี๋ๆหน่อย คงมีเชื้อสายจีนอยู่ด้วยล่ะมั้งแต่ติดตรงว่ามันสูงเกินมนุษย์ไปหน่อย มันมองผมแล้วยักคิ้วกวนๆทีหนึ่ง
     

                “ไม่คิดจะขอโทษกันบ้างหรอ?J

                แม่.งเอ๊ย
    ! มึงจะทำตาเยิ้มตอนพูดทำหอกอะไรว่ะ กูเสียว

                “เอ่อๆ ขอโทษแล้วกัน” ผมบอกแล้วรีบวิ่งต่อทันที

                ห่าราก! นี่กูเสียเวลากับไอ้ตี๋นี่กี่นาทีแล้วว่ะเนี่ย?!

     
     

                “หึๆ เจอตัวไวจังนะ ไม่คิดเลยว่าจะได้อยู่โรงเรียนเดียวกันนะเนี่ย..พรมลิขิตจริงๆเลยน้า~” เด็กหนุ่มที่เดินชนอุสะงิพูดเบาๆก่อนจะเดินมุ่งหน้าตามทางเดินที่อุสะงิกำลังวิ่งไป...พลางหัวเราะในลำคออย่างคนอารมณ์ดี

               
     

    ****อ่า...ในที่สุดก็อัพตอนที่หนึ่งสักที เจอคำผิดบอกกันด้วยนะคะ (_ _) ตอนแรกก็ตั้งใจจะลงตั้งเมื่อวานแล้วแต่มันง่วงเลยไม่ได้ลง =w=a****


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×