คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5 : คำถามของสฟิงซ์ [ Update 100% ]
บทที่ 5 : คำถามของสฟิงซ์
หลังจากที่คารารันทำพันธสัญญากับเฮเลฟ เธอก็ได้ผนึกเฮเลฟไว้ที่ดาบขอเธอเนื่องจากเจ้าตัวขอร้องเพราะอยากอยู่ใกล้ๆกันเอเลซัสนั่นเอง ตอนนี้เธอกำลังเดินทางไปที่เขตพื้นที่ผู้ทำพันธสัญญาโดยมีเฮเลฟเป็นเข็มทิศคอยชี้ทาง
‘นี่คารัน หลังจากนี้ไปเจ้าจะเริ่มเจอผู้คนแล้วนะ ทางตรงหน้าจะมีสฟิงซ์คอยดักถามคำถามอยู่ ถ้าตอบได้ก็จะให้ผ่าน ถ้าตอบไม่ได้จะถูกกิน’ เฮเลฟร้องเตื่อนคารารินขึ้นมา
“หือ...ถามคำถามหรอ สฟิงซ์จะเหมือนกันหมดทุกตัวรึเปล่านะ...?” คารารันพูดพลางยิ้มเยาะ ตอนเด็กๆเธอเคยสนใจเรื่องของสฟิงซ์ในตำนานกรีกมากพอตัวเลยล่ะ ดังนั้นถ้าสฟิงซ์ที่อยู่ด้านหน้าเหมือนกับสฟิงซ์ในตำนานมันคงไม่ยากเท่าไรถ้าหากมันถาม....คิดว่านะ...
“นี่ท่านพี่ ภารกิจที่เราจะต้องทำมีอะไรบ้างหรือ?” หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มผมสีม่วงกำลังเกาะแขนพี่ชายพลางใช้ลูกอ้อนสุดฤทธิ์ จนทำใหผู้เป็นพี่ต้องถอนหายใจออกมา
“เอเดียส ข้ารู้นะว่าเจ้าจะหาทางโยนงานให้คนอื่นอีกล่ะสิ” ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปรง หน้าตานับว่าดูดีมาก ตอบคำถามของน้องสาวตนเองอย่างขำขัน
เอเดียสทำหน้ามุ่ย “ท่านพี่อาเดล ข้าแค่ไม่ชอบออกแรงก็เท่านั้นเอง! แล้วนี่ข้าก็รอสหายของท่านพี่นานแล้ว ข้าขอไปเดินเล่นก่อนล่ะ!” ว่าแล้วเอเดียสก็ปล่อยแขนของอาเดลแล้วเดินหน้าเชิดออกไปทันที
“เฮ้ย! ทางนั้นมันมีสฟิงซ์ไม่ใช่หรือ เจ้ารอไปด้วยกันจะดีกว่านะ...” หากแต่ไม่ทันเสียแล้ว น้องสาวของตนได้หายไปเสียแล้ว....
“ไหนนายบอกว่ามีคนเยอะไง ทำไมตอนนี้ไม่มีสักคนเลยอ่ะ?” คารารันพูดพลางมองซ้ายมองขวาหาคน แต่ก็พบเพียงรอยเลือด “ไม่ใช่ว่าถูกกินไปหมดแล้วหรอกนะ”
‘สฟิงซ์ตนนี้ เริ่มออกมาถามคำถามและจับกินชาวบ้านมาหนึ่งสัปดาห์แล้วล่ะ คาดว่าคงมีชาวบ้านถูกกินไปหลายคนเหมือนกัน อาจจะรวมกับนักเวทย์และผู้ทำพันธสัญญาอีกนิดหน่อยล่ะมั้ง’ เฮเลฟตอบ ส่วนคารารัน ตอนนี้กลืนน้ำลายอย่างหวาดๆเรียบร้อยแล้ว
“กรี้ดดดดดดดดดด!!!”
เสียงกรี้ดสิบแปดหลอดทำให้คารารันที่กำลังคุยกับเฮเลฟถึงกับสะดุ้ง เธอหันไปมองทางต้นเสียงก็พบหญิงสาวผมสีม่วงแต่งตัวคล้ายผู้ดี กำลังกรีดร้องโวยวาย โดยเบื้องหน้าของเธอมีสิ่งชีวิตที่เรียกว่า ‘สฟิงซ์’ ที่กำลังนั่งน้ำลายไหลมองเหยื่อตรงหน้า
“มนุษย์น้อย...เจ้ายังไม่ตอบคำถามของข้าเลยนะ เอาล่ะ ข้าจะถามเจ้าอีกครั้ง...อะไรเอ่ย เดินสี่เท้าในยามเช้า เดินสองเท้าในยามบ่ายและเดินสามเท้าในยามเย็น..?” สฟิงซ์ตัวนั้นก้มมองหญิงสาวตรงหน้าพลางถามคำถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือก จนหญิงสาวเริ่มตัวสั่นด้วยความกลัว
“ให้ตายสิ ไม่ว่าสฟิงซ์ที่โลกมนุษย์ ที่โลกเวทย์มนต์ หรือที่โลกไหนๆมันก็เหมือนกันหมดรึไง ไม่ใช่ว่ามาจากถิ่นกำเนิดเดียวกันหรอกนะ...คำถามง่ายแค่นี้ก็ตอบไม่ได้ หรือว่าคนบนโลกนี้มันโง่กันแน่ว่ะ..?” คารารันบ่นอุบอิบ ก็คำถามที่เธอได้ยิน มันเป็นคำถามแสนคลาสสิคเหลือเกิน...ก่อนจะเดินไปทางที่หญิงสาวคนนั้นยืนอยู่
สฟิงซ์ก้มลงมองหญิงสาวตรงหน้า “มนุษย์น้อย...ถ้าเจ้าไม่ตอบเสียที ข้าจะกินเจ้าล่ะนะ” พลางเลียริมฝีปาก...
“คำตอบคือ ‘คน’ ใช่รึเปล่า” คารารันเดินเข้าไปอย่างไม่กลัวตายพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ “ฉันขอตอบคำถามแทนผู้หญิงคนนี้ แกปล่อยเธอไปได้แล้ว”
สฟิงซ์อึ้ง พลางมองมนุษย์ที่สามารถตอบคำถามของคนอย่างไม่เชื่อสายตา ส่วนหญิงสาวคนนี้ก็มองคารารันด้วยสายตาหลงไหล “ก็ได้ ในเมื่อเจ้าตอบถูกข้าก็จะให้หญิงสาวคนนี้ผ่าน หากแต่ข้าจะถามคำถามใหม่แก่เจ้าอีกครั้ง” มันพูดด้วยความเกรี้ยวกราด
“อะไรกัน ฉันบอกว่าจะผ่านทางนี้หรอ ยังไม่ได้พูดสักหน่อย” คารารันพูดพลางยิ้มเยาะ ก่อนจะกระชากแขนของหญิงสาวที่ทรุดอยู่กับพื้นให้ลุกขึ้นแล้วหิ้วปีกเดินออกไป ท่ามกลางสายตาอึ้ง ตะลึง ของสฟิงซ์อย่างรวดเร็ว...
หลังจากที่คารารันหิ้วปีกของหญิงสาวออกมาห่างจากสฟิงซ์พอสมควรแล้ว เธอก็สำรวจหญิงสาวที่สลบตรงหน้า (สลบตอนที่ถูกลาก) เธอมีผสสีม่วงถ้าหากสังเกตดีๆมันมีสีม่วงอ่อน ผิวขาว และสวมชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงิน เหอ...แต่งตัวเหมือนนักบวชจังเลย?
‘นายท่าน...คนผู้นี้เป็นนักเวทย์ขอรับ’ เอเลซัสที่เงียบมานานเพิ่งเปิดปากพูด ‘เป็นนักเวทย์ที่ไม่ใช่ผู้ทำพันธสัญญาด้วยขอรับ’
“หา!!!”
ความคิดเห็น