ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The last Tudor — taten

    ลำดับตอนที่ #1 : Prologue

    • อัปเดตล่าสุด 21 ต.ค. 63


    Warning ; Sexual, Violent


     

    'They took everything from me

    They stole the ground beneath my feet'

     

     

    •~~~•

     

     

         1485 – Caernarfon, Wales

     

         ธีออนเกลียดสงคราม

         เขาเกิดมาในยุคสมัยที่เหล่าแวมไพร์ต่างตระกูลกำลังแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นเพื่อขึ้นมาปกครองชนเผ่าของพวกเขา พี่น้องร่วมตระกูลของเขาก็มักจะฝึกฝนตัวเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสงครามที่อาจจะปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา แต่ธีออนกลับสนใจอย่างอื่นที่ไม่ใช่การต่อสู้ หรือความรุนแรง สิ่งที่ทำให้เขาละสายตาไปจากมันไม่ได้คือศิลปะและเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

     

         'พวกมนุษย์กลัวเรา

         และพวกเขาก็ต่ำต้อยกว่าเรานัก'

     

         คำพูดของแม่ที่พร่ำบอกธีออนอยู่เสมอเวลาที่เขาอยากออกไปเล่นที่นอกปราสาทคาร์นาร์วอน เขากลายเป็นเด็กที่กลัวการผูกมิตรกับมนุษย์จนกระทั่งที่เขาได้พบเด็กหนุ่มคนหนึ่ง

     

         เด็กหนุ่มที่มีรอยยิ้มที่สดใสเหมือนดอกไม้ที่บานในฤดูร้อน เด็กหนุ่มที่ร่าเริงและสว่างไสวจนทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองช่างเป็นคนที่มืดมนยิ่งนัก เด็กคนนั้นที่เป็นแค่มนุษย์ธรรมดาแต่กลับแสดงท่าทางที่ยโสโอหังใส่แวมไพร์อย่างเขา

         เทีย โบลตัน

     

         ปลายพู่กันถูกกดลงบนผ้าใบที่กางตึงอยู่บนแท่นไม้ สีน้ำเงินอัลตรามารีนที่ราคาแพงแสนแพงถูกใช้อย่างสิ้นเปลือง ร่างกายกำยำของชายหนุ่มที่มองตรงไปด้านหน้าโดยที่มือข้างขวาของเขาขยับวาดตามภาพที่เขาเห็น

     

         “มันน่าอึดอัดซะจริง” ร่างบางของเทียขยับตัวลุกขึ้นนั่งในท่าที่สบายบนเก้าอี้ไม้สักก่อนจะดึงผ้าซาตินที่คลุมร่างกายอยู่ออกนิดหน่อยจนทำให้เห็นผิวกายสีขาวนวลของเจ้าตัว

     

         “เธอไม่ควรขยับตัวแบบนั้น” ธีออนเอ่ยเสียงเรียบ มือข้างขวาของเขาหยุดชะงักหลังจากภาพที่เขามองเริ่มเปลี่ยนไป คนตัวเล็กที่เป็นแบบให้เขาวาดภาพนั่งห่อไหล่ด้วยความเมื่อยล้าหลังจากที่เขานั่งแบบนั้นมานานเป็นชั่วโมง

     

         “ครั้งนี้คุณใช้เวลานานเกินไป ธีออน”

     

         “เราอยากวาดให้มันละเอียด ช่วยนั่งต่ออีกสักหน่อยเถอะนะ” ร่างสูงตอบกลับด้วยคำพูดที่คล้ายกับคำขอร้องแต่คนฟังรู้ดีว่ามันเป็นคำสั่ง 

         แต่ก็ใช่ว่าเทียจะต้องปฏิบัติตามที่เขาสั่ง

     

         “นั่งต่อก็ได้ แต่เปลี่ยนที่นั่งได้หรือเปล่า?”

     

         ร่างบางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับปล่อยให้ผ้าซาตินร่วงลงไปกองที่พื้นจนเผยให้เห็นร่างกายเปลือยเปล่า เขาย่างกายเข้ามาหาคนที่นั่งอยู่หลังผ้าใบอย่างเชื่องช้า ก่อนจะดึงพู่กันสีมุกราคาแพงออกจากมือของธีออนและโยนทิ้งไปอย่างไม่ใยดี ชายหนุ่มที่นั่งหลังตรงอยู่บนเก้าอี้เงยหน้าขึ้นสบตากับเทียก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา

     

         เทียทิ้งตัวลงนั่งบนตักของร่างหนาพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ของอีกฝ่าย เขาหลุบตาลงมองธีออนอย่างออดอ้อนจนทำให้คนตรงหน้าต้องโน้มใบหน้าเข้ามาประทับจูบลงบนริมฝีปากบาง

     

         ร่างกายของเทียอ่อนยวบยาบอยู่บนตักหนาของธีออนในตอนที่อีกฝ่ายเริ่มส่งลิ้นร้อนสอดเข้ามากวาดต้อนความหวานในโพรงปากและเริ่มหยอกล้อกับลิ้นของคนในอ้อมกอด เสี้ยววินาทีที่เทียแทบจะไม่รู้ตัว ร่างกายของเขาถูกวางลงบนเตียงพร้อมกับธีออนที่ขยับมาทาบทับเขาเอาไว้ คนตัวสูงใช้เขี้ยวขบริมฝีปากล่างของเทียจนเลือดออก ก่อนจะไล่เลียบริเวณที่มีเลือดไหล รสชาติของเลือดที่เทียรู้สึกคาวอยู่ในปาก แต่กลับทำให้ธีออนพอใจเป็นอย่างยิ่ง

     

         “ทำไมถึงชอบทำให้เสียสมาธิตลอด” ธีออนผละออกจากริมฝีปากของคนใต้ร่างก่อนจะเอ่ยถาม

     

         “คุณอยากวาดภาพให้ละเอียดไม่ใช่หรือไง? ก็ต้องสำรวจร่างกายก่อนหรือเปล่าล่ะ” เทียเชิดหน้าตอบกลับอีกฝ่ายไป ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มของเขาเชื้อเชิญให้ความต้องการของธีออนพุ่งสูงขึ้น

     

         ธีออนเคยรู้สึกเหมือนกันว่าเขาอยากจะทำตามใจตัวเอง อยากจะมีอะไรกับเด็กนั่นตามสัญชาตญาณดิบของเขา แต่เพราะเทียเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่ไม่สามารถรับมือกับพลังของแวมไพร์ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวเขาได้ เขาถึงต้องยั้งมือแทบจะทุกครั้งไป แต่ก็ดูเหมือนว่าเด็กนี่กำลังจะทำให้ความอดทนของเขาน้อยลงทุกวันๆ

     

         “เธอเก่งจริงๆ เรื่องทำให้คนอื่นคลั่งตาย”

     

         “ยกเว้นคุณ”

     

         “รู้ได้ยังไง”

     

         “คุณคลั่ง แต่คุณไม่ตาย —เพราะงั้นเราจะทำมากเท่าไหร่ก็ได้ จริงไหม?” ร่างเล็กที่ถูกอีกฝ่ายคร่อมอยู่ตอบกลับไป ในขณะเดียวกันเขาก็ขยับลุกขึ้นแล้วดันให้ธีออนลงไปนอนที่เตียง ก่อนที่ตัวของเทียจะขึ้นไปนั่งทับอยู่ที่กลางตัวของอีกคน

     

         ธีออนแค่นหัวเราะให้กับความบ้าบิ่นของคนตัวเล็กที่กำลังบดเบียดสะโพกมนของตัวเองกับส่วนกลางตัวของเขาอย่างเอาแต่ใจ หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ความต้องการของธีออนก็แข็งขืนสู้กลับไป

     

         มือหนาเอื้อมไปจับเอวบางเอาไว้หลวมๆ ในตอนที่คนตัวเล็กเอาแต่เล่นสนุกอยู่บนตัวเขา ธีออนฟาดฝ่ามือลงบนสะโพกขาวจนเกิดเสียงดังลั่นพร้อมกับเสียงร้องของเทียที่ไม่ทันได้ตั้งตัว

     

         ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนลึกซึ้งมากจนไม่มีใครเข้าใจ เทียเป็นเพียงมนุษย์ที่ถูกแวมไพร์อย่างพวกเขามองว่าต่ำต้อย ถึงเขาจะเกิดในตระกูลผู้ดีอย่างตระกูลโบลตัน แต่ก็เป็นตระกูลที่อยู่ปลายแถวในบรรดาตระกูลอื่นๆ

         ทิวดอร์ไม่มีวันยอมรับเด็กคนนี้

         แต่ธีออนไม่สนใจหรอก

     

         เขาไม่เคยหวังบัลลังก์หรือแม้แต่สมบัติของผู้เป็นพ่อ เขายินดีจะให้พี่ชายของเขารับของพวกนั้นไปทั้งหมด สิ่งที่เขาต้องการเพียงอย่างเดียวคืออิสระในการใช้ชีวิตและอิสระในการเลือกคนรักด้วยตัวเอง

     

         เทียก้มลงจูบเบาๆ ที่ซอกคอของอีกคนก่อนจะใช้มือเลิกเสื้อนอนสีขาวของธีออนขึ้นมาจนทำให้เห็นแผงอกกว้าง คนตัวเล็กยังคงขยับร่างกายไปมาเพื่อยั่วยวนคนใต้ร่างที่นอนมองเขานิ่งๆ

         เทียรู้ว่าต้องทำแบบไหน ธีออนถึงจะพอใจ

     

         คนตัวเล็กที่ร่างกายเปลือยเปล่ายกตัวขึ้นก่อนจะเลื่อนมือมาลูบกลางลำตัวของอีกคนที่กำลังแข็งสู้มือ กางเกงนอนสีขาวของธีออนถูกดึงออกโดยคนที่ยกตัวเหนือร่างของเขา

     

         “รู้ใช่ไหมว่าเธอจะป่วยไปอีกหลายวัน ถ้ายังซนอยู่แบบนี้” ธีออนเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีเทาอ่อนของเทียก่อนจะเอ่ยออกไป คำพูดของเขาทำให้ร่างบางหัวเราะออกมานิดหน่อย

     

         “ก็แค่ป่วยเองนี่นา”

     

         ดูเหมือนว่าเทียคงจะไม่ยอมให้กิจกรรมอย่างว่าเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เขาเอาแต่ลูบไล้ไปตามหน้าขาของร่างสูงจนทำให้ธีออนเริ่มหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย ความต้องการของเขามันมากซะจนเขาอยากจะลงโทษเจ้าเด็กคนนั้นแรงๆ

     

         “แน่ใจเหรอว่าจะรับอารมณ์ของเราไหว?” ธีออนเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเทียทำท่าจะกดตัวลงมาที่กลางลำตัวของเขา

     

         “ไม่รู้ว่าที่ผ่านมาคุณยั้งมือตัวเองมากแค่ไหน”

     

         “ยั้งมากๆ”

     

         “งั้นครั้งนี้อย่ายั้งเลยนะ”

     

         “…”

     

         “กัดเราแรงๆ เท่าที่คุณต้องการเลย ธีออน”

     

         สิ้นเสียงออดอ้อนและแววตาหวานหยดย้อยของเทียไม่ถึงเสี้ยววินาที คนตัวเล็กถูกดันให้นอนคว่ำลงกับเตียงก่อนที่มือหนาจะจัดการจับสะโพกมนให้ตั้งขึ้น เขาฟาดฝ่ามือลงบนก้นขาวๆ อีกข้างหลังจากที่เห็นว่ามันแดงไม่เท่ากันและเพื่อเป็นการลงโทษ

     

         ขาทั้งสองข้างของเทียถูกจับให้อ้าออกมากพอที่ธีออนจะมุดหน้าลงไปฝังเขี้ยวที่ต้นขาด้านในได้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มแปรเปลี่ยนไปเป็นสีแดงเลือดนกที่กำลังเป็นประกาย เขี้ยวแหลมคมสองซี่ที่ด้านหน้าค่อยๆ งอกออกมาเมื่อธีออนก้มลงไปจูบที่ต้นขาของเทียเบาๆ ร่างสูงลากลิ้นผ่านบริเวณที่เขาหมายตาก่อนจะฝังคมเขี้ยวลงตรงต้นขาด้านในที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายของเขา

     

         “อื้อ!” เทียที่มุดหน้าลงบนหมอนขนห่านใบใหญ่ร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อถูกความเจ็บเข้าเล่นงาน สองมือกำผ้าปูที่นอนแน่นพร้อมกับเม้มริมฝีปากเพื่อสะกดกั้นเสียงร้องเอาไว้

     

         ธีออนดื่มด่ำกับเลือดของเทียอยู่สักพักก็ขยับตัวถอนเขี้ยวออกไป หลังจากที่เห็นว่าอีกฝ่ายเริ่มอ่อนแรงลงเพราะเสียเลือดมาก ดวงตาสีแดงเลือดนกในตอนแรกได้เปลี่ยนกลับมาเป็นสีน้ำตาลดังเดิม 

     

         เทียถูกร่างสูงจับให้ขยับตัวกลับมานอนหงาย ร่างกายที่อ่อนแรงของคนตัวเล็กตรงหน้าทำให้ธีออนรู้สึกไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ เขาพยายามจะควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่มเลือดของอีกฝ่ายมากเกินไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมความหิวไม่ค่อยได้

     

         “วันนี้เราจะนอนเฉยๆ กันก็ได้นะ” ธีออนพูดพร้อมกับยื่นมือไปลูบไล้ใบหน้าของคนตัวเล็กด้วยความปรารถนา

     

         “น่าเสียดายจัง” คนใต้ร่างที่นอนลืมตามองร่างสูงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความเสียดายอย่างชัดเจน

     

         ธีออนก้มลงไปประทับจูบลงบนริมฝีปากของเทียอีกครั้ง คราวนี้เป็นจูบที่นุ่มนวลและค่อยๆ ปลอบประโลมคนตัวเล็กจากอาการเจ็บปวดเมื่อครู่ ไม่มีการรุกล้ำหรือความรุนแรงใดๆ ทั้งนั้น

     

         ปัง!

     

         ร่างของชายหนุ่มสองคนผละออกจากกันอย่างรวดเร็วเมื่อเสียงปิดประตูห้องดังขึ้น ธีออนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายให้กับตัวเองและเทียที่คลุกอยู่ในอ้อมกอดของเขา

     

         “นายควรจะเคาะประตูสักหน่อย” ธีออนพูดกับชายหนุ่มวัยเดียวกันกับเขาที่เปิดประตูพรวดพลาดเข้ามาอย่างเสียมารยาท คนถูกต่อว่าเดินตรงเข้ามายืนที่ปลายเตียงของเขาด้วยใบหน้าที่กระวนกระวาย

     

         “ราชวงศ์ทิวดอร์ —ล่มแล้ว” ดัสติน ซัมเมอร์เซต ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ผ้าคลุมไหล่ของเขาขาดวิ่นเหมือนกับว่าเขาเพิ่งผ่านการต่อสู้มา

     

         “นายพูดเรื่องอะไร” ธีออนดึงกางเกงนอนสีขาวมาสวมก่อนจะเดินลงมายืนตรงหน้าเพื่อนรัก

     

         “แลงแคสเตอร์ก่อกบฏ พวกเขาฆ่าครอบครัวของนายไปหมดแล้ว”

     

         ธีออนมองใบหน้าเพื่อนรักด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ปะดังเข้ามา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มค่อยๆ เปลี่ยนไปเป็นสีแดงเพลิงที่ดูน่ากลัว มือทั้งสองข้างของเขากำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นที่แขน

     

         เสียงโหวกเหวกโวยวายของพวกองครักษ์รักอยู่ที่หน้าห้องนอนของเขาดังเข้ามา ดูเหมือนว่ากำลังมีใครบางคนจะบุกเข้ามาทำร้ายเขา แต่จะต้องผ่านองครักษ์พวกนั้นให้ได้เสียก่อน

     

         “พวกเราควรจะรีบหนีไปตอนนี้” เทีย โบลตันที่ใส่เสื้อผ้าครบชิ้นเดินตรงเข้ามาหาทั้งสองคนพร้อมกับเสื้อคลุมไหล่ของธีออนก่อนจะจัดการสวมมันให้กับร่างสูง

     

         “เรายังไปไม่ได้ พวกมันจะต้องชดใช้” ธีออนตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกแต่กลับให้ความรู้สึกร้อนดั่งไฟ

     

         “ธีออน เราสู้พวกนั้นไม่ได้” ดัสตินพูดเตือน

     

         “แล้วจะให้เราทิ้งบ้านไปแบบนี้น่ะเหรอ?”

     

         “ไปแค่ตอนนี้ ไปตั้งหลักกันก่อน”

     

         “คุณควรจะไป ธีออน แลงแคสเตอร์ไม่มีวันปล่อยให้คุณรอดต่อให้คุณจะบอกว่าคุณจะไม่นั่งบัลลังก์ก็ตาม” คราวนี้เป็นเทียที่เอ่ยกับธีออน

     

         “ตามฉันมา ฉันจะพาไปหลบที่บ้านญาติที่อยู่นอกอาณาเขตเมืองคาร์นาร์วอน” ดัสตินพูดพร้อมกับเดินไปยังหน้าต่างห้องของธีออน เขาจัดการเปิดมันออกและหันมามองเพื่อนรักที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม

     

         “ไปกันเถอะนะ ธีออน”

     

         เทียออกแรงดึงให้ธีออนเดินตามมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอาแต่มองจ้องไปทางประตูห้อง ในเวลาแบบนี้ แต่เทียกลับมีสติมากจนเหมือนกับว่าอีกฝ่ายไม่ได้กลัวอะไรเลย ต่างจากธีออนที่แอบหวั่นใจอยู่เล็กๆ

     

         ดัสตินก้าวขาขึ้นไปยืนอยู่บนขอบหน้าต่างก่อนจะกระโดดลงไปที่พื้นอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ เสียงต่อสู้ขององครักษ์หน้าห้องเริ่มเงียบลงโดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าใครเป็นฝ่ายชนะ

     

         “เดี๋ยวเราลงไปก่อน เธอกระโดดตามลงมาเลยนะ เราจะรอรับเธออยู่ที่ด้านล่าง” ธีออนพูดกับเทียในตอนที่เขากระโดดขึ้นไปนั่งยองๆ บนขอบหน้าต่าง ก่อนที่จะกระโดดลงไปข้างล่างตามเพื่อนรักไป

     

         เทียก้มลงมองลงไปด้านล่างก็พบเพียงแต่ความมืด เขาไม่รู้ว่าธีออนจะรอรับเขาอยู่ที่ด้านล่างจริงหรือเปล่า หัวใจของเขาเต้นระรัวเมื่อเขาก้าวขึ้นไปยืนบนขอบหน้าต่าง เขาเป็นเพียงแค่มนุษย์คนหนึ่งเท่านั้นเอง มันไม่ผิดที่เขาจะกลัว

     

         ธีออนและดัสตินที่มองทะลุความมืดขึ้นไปเห็นเทียกำลังยืนขาสั่นอยู่ที่ขอบหน้าต่าง พวกเขารอจังหวะที่เทียจะกระโดดลงมาและจะช่วยกันจับเด็กนั่นเอาไว้ไม่ให้เทียต้องได้รับบาดเจ็บ

     

         “โดดสักที ขอร้อง” ดัสตินที่ดูลุกลี้ลุกลนพึมพำกับตัวเองเมื่อเห็นว่าเทียไม่ยอมกระโดดสักที เขามองไปรอบๆ ตัวเพื่อดูว่าจะมีใครจะผ่านมาแถวนี้หรือเปล่า ไม่งั้นพวกเขาอาจจะถูกจับได้

     

         “เทีย!” ธีออนตะโกนขึ้นไปเพื่อเรียกสติของเทียหลังจากที่อีกฝ่ายยืนนิ่งอยู่นาน

     

         ร่างเล็กของเทียสั่นเทาด้วยความกลัว เสียงเปิดประตูห้องดังเข้ามาและนั่นก็ทำให้คนตัวเล็กรับรู้ถึงชะตากรรมของตัวเองในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

     

         เทียก้มลงไปสบตากับธีออนผ่านความมืด กลิ่นคาวเลือดลอยมาเตะจมูกของแวมไพร์หนุ่มทั้งสองคนที่ยืนอยู่ด้านล่าง และในตอนนั้นเอง ธีออนก็รู้ได้ในทันทีว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น

     

         เทียก้มลงมองหน้าท้องของตัวเองที่มีปลายดาบแทงทะลุจนโผล่ออกมา เลือดสีแดงไหลเลอะชุดสีฟ้าอ่อนตัวโปรดของเขาจนตอนนี้ชุดนั้นแทบจะกลายเป็นสีแดง ร่างกายที่อ่อนเพลียจากการเสียเลือดมากในตอนแรกเริ่มเลื่อนลอย เขาทรุดตัวลงนั่งบนขอบหน้าต่างก่อนจะได้ยินเสียงเรียกของธีออนที่ตะโกนดังขึ้นมาจนถึงด้านบน

     

         ร่างเล็กของเทียนั่งพิงอยู่บนขอบหน้าต่างด้วยลมหายใจที่รวยรินท่ามกลางสายตาของธีออน ดวงตาสีแดงเพลิงของเขาถูกกระตุ้นด้วยกลิ่นเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วบริเวณของเทีย เขาพยายามที่จะกลับขึ้นไปที่ด้านบนนั้น แต่กลับถูกเพื่อนรักดึงแขนเอาไว้ ความรู้สึกเหมือนถูกกริชเงินปักลงตรงกลางใจเป็นยังไงก็เพิ่งได้เข้าใจวันนี้

     

         เธอบอกว่าเราไม่มีวันตาย แต่ทำไมตอนนี้เราถึงรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเลยล่ะ เทีย?

     

         ธีออนถูกดึงให้วิ่งไปทางด้านหลังของปราสาทคาร์นาร์วอนเพื่อหลบหนีออกไปจากที่นี่ แต่สายตาของเขายังเอาแต่จ้องหน้าต่างห้องของตัวเองที่ตอนนี้มีใครบางคนได้มาอุ้มร่างของเทียขึ้น

         เจย์เดน แลงแคสเตอร์

     

         เขาไม่เคยตกอยู่ในสภาวะที่โกรธจนตาเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเพลิงขนาดนี้มาก่อน พวกมันจะต้องชดใช้ให้กับเลือดทุกหยดของเทียที่เสียไป และชดใช้ให้กับทุกชีวิตของทิวดอร์ที่พวกมันพรากไปจากเขา

         

         แลงแคสเตอร์จะต้องชดใช้

     

     

    •~~~•

     

     

    tag #ทิวดอร์คนสุดท้าย

     

     

         talk พาร์ทนี้เป็นเรื่องที่เกิดในอดีตตอนปี 1485 ซึ่งจะคาบเกี่ยวกับช่วงของราชวงศ์ทิวดอร์ที่ปกครองประเทศเวลล์พอดี แต่เราไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์น้าทุกคน เปิดมาแบบนี้ก็คือ พล็อตรอรักพันปีแน่นอนค่า ฮือ 

         คอมเม้นติชมกันได้นะคะทุกคน เราจะพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นไปอีกเลยคับ! ;^;

         สุดท้ายนี้ ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×