เกียรติยศหัวใจ (สนพ.บางรัก)
ตอนที่ 16 : อานุภาพจากจูบแรก
“อย่าเก่งแต่ปากสิ แน่จริงหันหน้าหนีทำไม”
เขาทดสอบความเก่งกล้าของคนเบือนหน้าหนีด้วยการโน้มใบหน้าคมคายของตัวเองเข้าหา ยิ่งเธอแสดงท่าทางรังเกียจรังงอนเขามากเท่าไหร่ เธอยิ่งเป็นผู้หญิงชวนดึงดูดและเร่งอัตราความท้าทายการอยากเอาชนะให้ถีบตัวสูงขึ้น
“อืม...ม”
ในที่สุดอิศรานนท์ก็ส่งริมฝีปากกระด้างหยักลึกยึดครองริมฝีปากอิ่มแนบแน่น ความไม่ประสีประสาทำให้ร่างแข็งขืนเมื่อสักครู่ต้านสัมผัสอุ่นร้อนจากปลายลิ้นเรียวของเขาไม่ได้
ฝ่ามือแกร่งโอบประคองแผ่นหลังบอบบางให้ลำตัวส่วนหน้าแนบสนิทไปกับเขา ยามที่สองร่างเบียดชิดติดกัน กลิ่นหอมยั่วยวนของกายสาวปลุกเร้าความต้องการจนอิศรานนท์อยากได้มากกว่าจูบ ความรู้สึกรุนแรงที่ก่อตัวขึ้นฉับพลันทำเอาเขาจวนเจียนคลั่ง
“นั่นคุณบัวรึเปล่าคะ!”
ในขณะที่ปัทมนกำลังอกสั่นขวัญแขวนกับการถูกประชิดตัวจากผู้ชายเป็นครั้งแรก อยู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาเป็นระฆังคั่นเวลาให้เขาต้องผละห่างออกจากร่างของเธอ
“ปล่อย!”
เมื่อเห็นว่าเขาแค่ถอนจูบแต่ไม่ยอมคลายอ้อมกอดปัทมนก็ยิ่งดิ้นขัดขืน เสียงเรียกที่ได้ยินเมื่อสักครู่ เธอจำได้แม่นยำว่าเป็นใครไปไม่ได้นอกจากป้าสมพิศคนสนิทของนพดารา
“ทำไมผมต้องเชื่อตามที่คุณสั่ง”
ทีแรกอิศรานนท์ก็ตั้งใจจะปล่อยร่างกลมกลึงออกห่างตามที่เธอร้องขอ แต่อยู่ๆ แผนเล่นไม่ซื่อก็ผ่านแวบเข้ามาในหัวกะทันหัน จากที่หงุดหงิดเสียงเรียกของความอยากรู้อยากเห็นเมื่อสักครู่ ตอนนี้เขานึกอยากขอบคุณเจ้าของเสียงนั้นเสียด้วยซ้ำที่เข้ามาได้จังหวะพอเหมาะ
“ถ้าคุณไม่ปล่อย ฉันกับคุณเราไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก... กรุณาออกไปจากที่นี่ได้แล้ว” เธอเอ่ยปากไล่อย่างไม่นึกเกรงใจใคร
“อย่าขู่กันนักสิครับ ผมกลัวจะแย่แล้วเนี่ย”
อิศรานนท์ส่งเสียงหัวเราะครึกครื้นในลำคอ ก่อนจะใช้ทีเผลอโน้มหน้ากลับเข้าหาใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่อีกรอบ ทาบทับริมฝีปากบดจูบเธออีกครั้งอย่างไม่สนสายตากระหายใคร่รู้ของหญิงสูงวัย
ยิ่งเรื่องนี้ถูกแพร่กระจายออกไปมากเท่าไหร่เขาก็จะยิ่งพอใจมากเท่านั้น
“ว๊าย! ตายแล้ว! พุธโธ ธัมโม สังโฆ ขวัญเอยขวัญมา ตาเถรยายชีตกน้ำป๋อมแป๋ม”
คำอุทานพรั่งพรูออกมาเป็นสาย หญิงโสดวัยห้าสิบเศษเบิกตากว้างพร้อมยกสองมือขึ้นทาบอก แกไม่คิดว่าการเดินย่างกรายผ่านมาแถวนี้เพื่อสอดแนมสองแม่ลูก จะทำให้เห็นหนังสดก่อนตะวันตกดินเป็นของแถม
“ปะ...ปล่อย” เสียงสั่นพร่าของปัทมนขาดหาย เมื่อริมฝีปากและลิ้นร้อนล่วงล้ำเข้าดูดกลืนรสชาติภายในโพรงปากเธออย่างล้ำลึก
ปากนุ่มอวบอิ่มถูกบดขยี้ครั้งแล้วครั้งเล่า จากเนิบช้าอ่อนหวานเริ่มทะยานกลายเป็นกระหายหิว
คนที่ไม่เคยรู้จักอานุภาพของการถูกจูบมาก่อนร่างอ่อนปวกเปียก แทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ ใจที่เคยเด็ดเดี่ยว จิตที่ว่าเข้มแข็งค่อยๆ ถูกอิศรานนท์ดูดกลืนไปจนแทบจะหมดสิ้น
เผลอตัวปล่อยสติสัมปชัญญะให้หลงพรึงเพริศไปกับความตื่นเต้นระคนเสียวซ่าน จนกระทั่งยอมตกเป็นผู้พ่ายแพ้ยินยอมให้เขาทำอะไรกับตัวเองก็ได้ทั้งนั้น
การจูบอย่างดูดดื่มคงจะดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด หากศุภลักษณ์ไม่โผล่หน้ามองหาต้นตอเสียงอุทานที่ได้ยินแว่วเข้าหู และภาพที่เห็นคาตาว่าลูกชายกำลังทำไวไฟกับลูกสาวคนอื่นคาบ้าน พาลจะทำให้เธอเป็นลมหน้ามืด
“ตานนท์! นั่นลูกกำลังทำอะไรหนูบัว”
เสียงประกาศิตทำให้อิศรานนท์ยอมผละห่างอย่างจำใจ ทันทีที่เขาคลายอ้อมแขนออก ปัทมนก็ผลุนผลันตั้งหน้าตั้งตาวิ่งขึ้นบันไดโดยไม่สนใจที่จะทักทายใครแม้แต่แม่ของเขา
“ขึ้นมาพูดกันให้รู้เรื่องเดี๋ยวนี้ตานนท์ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
นานทีปีหนที่ศุภลักษณ์จะเสียงเขียวเอ็ดลูกชายสักที ถ้าทำรุ่มร่ามกับผู้หญิงประเภทเต็มอกเต็มใจเธอจะไม่ว่าเลย แต่เดาจากท่าวิ่งเร็วจี๋ของปัทมนเมื่อสักครู่ทำให้รู้ว่าเธอถูกหักหาญน้ำใจ
“ได้ครับ”
คนทำผิดไม่มีทีท่าหวั่นไหว เขายังมีกะจิตกะใจยกนิ้วหัวแม่มือคลึงรสหวานที่ยังคงติดค้างริมฝีปากตัวเองอย่างแสนเสียดาย ก่อนจะค่อยๆ ก้าวย่างขึ้นบนเรือนพร้อมรับโทษทัณฑ์อย่างไร้ความกังวล
“เฮ้อ นี่หรือเมืองพุทธ” สมพิศยืนตาค้างจ้องดูเหตุการณ์มาตลอดเผลออุทานออกมาเสียงแผ่ว ทุกอย่างที่เห็นผ่านตาและได้ยินผ่านหู จะต้องถูกถ่ายทอดถึงอดีตเจ้านายแน่นอน
‘ถ้าไม่เจอกับตาคงไม่เชื่อ เห็นเงียบๆ หงิมๆ ก็แอบหยิบชิ้นปลามันเหมือนกันนะคะคุณบัว หรือจะเป็นเหมือนคุณนพดาราเปรยว่า ผู้หญิงจะแรดหรือจะร่านมันไม่เกี่ยวกับความสั้นยาวของเสื้อผ้าที่สวมใส่ ส่วนมากมักจะมาจากสันดานและกำพืดล้วนๆ’
@@@@@@@@@@@@
สมพิศ!! เสียมารยาทแอบดูแอบฟังคนอื่นเค้าคุยกัน แล้วอย่าปากร้ายให้มันมากนักได้มั้ยย่ะหล่อน
คุณนนท์รุกหนัก นู๋บัวตั้งตัวไม่ทันเลย