เกียรติยศหัวใจ (สนพ.บางรัก)
ตอนที่ 15 : ผู้ชนะ
“เป็นถึงอาจารย์ไม่รู้หรือไงว่าการแอบฟังคนคุยกันเป็นเรื่องผิดมารยาท” อิศรานนท์ส่งแขนล่ำสันพาดขวางราวบันได ส่งผลให้เจ้าของบ้านที่เตรียมตัวหลบไม่สามารถขยับไปไหนได้
“อุ๊ย!” ปัทมนอุทานด้วยความคาดไม่ถึง เกิดอาการไม่พอใจที่ถูกต่อว่าเป็นคนไร้มารยาท
“แล้วคนที่เที่ยวเดินเพ่นพล่านรอบบ้านคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ก็น่าจะถูกจัดว่าเป็นคนไม่มีมารยาทเหมือนกันนะคะ” เมื่ออดใจไม่ไหวจึงสวนกลับเขาไปบ้าง
“คุณคงลืมไปแล้วว่าผมเป็นใคร และเกี่ยวข้องอะไรกับที่ผืนนี้ทั้งหมด”
เจ้าของบ้านตัวจริงกระตุกยิ้มเยาะมุมปาก ยิ่งเห็นหน้าเหวอเถียงไม่ออกของปัทมน ยิ่งทำให้ลำพองใจที่เป็นฝ่ายเอาชนะศึกยกแรกได้
“หลีกทางด้วยค่ะ ฉันจะขึ้นบ้าน” อยากจะยื่นมือผลักร่างกำยำที่ยืนบังเธอจนแทบมิด เขายืนขวางไม่เหลือแม้กระทั่งที่ว่างให้เธอได้เดินหลบ เจตนาคือต้องการกลั่นแกล้งกันชัดๆ
“ผมก็กำลังจะขึ้นบนบ้านอยู่พอดี ทำไมเราไม่เดินขึ้นไปพร้อมกันละ”
“...” ปัทมนหยุดต่อปากต่อคำ ถ้าเขาจะแกล้งเธอเพราะเห็นแก่ความสนุกสนานล่ะก็ เธอคงไม่เสียเวลาบ้าจี้เล่นตามเกมไปกับเขา เธอมีประสบการณ์คลุกคลีกับนักศึกษาผู้ชายมาพอสมควร รู้ว่าคนนิสัยเจ้าเล่ห์แบบนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะใส่ใจหรือให้ค่าความสำคัญ
“แล้วนั่นจะไปไหน! ผมยังพูดไม่จบ คุณควรอยู่ฟังจนกว่าผมจะสั่งให้ไปได้”
เมื่อเห็นว่าปัทมนกำลังก้าวเดินถอยหลัง เขาจึงถือวิสาสะคว้าแขนเล็กเรียวนั้นไว้ ก่อนที่ปัทมนจะมาถึง เขาได้เดินสำรวจรอบบริเวณจนทั่ว จึงรู้ว่าบ้านหลังนี้มีทางขึ้นสองทาง ทั้งสองจุดยังมีระเบียงยื่นออกมารับลมเหมือนกันอีกด้วย
“ปล่อยค่ะ! รักษามารยาทบ้างก็ดีนะคะ อย่ามือไวทำนิสัยไม่ดีเรี่ยราดใส่คนอื่น” สายตากับน้ำเสียงเอาเรื่องไม่แพ้กัน แต่ปัทมนคงไม่รู้ว่ายิ่งเธอแสดงอาการสู้ยิบตาอิศรานนท์ก็ยิ่งอยากเอาชนะ
“เป็นอาจารย์ไม่จำเป็นต้องทำตัวโบราณคร่ำครึก็ได้มั้ง หรือพอมีผู้ชายถูกเนื้อต้องตัวจะถือว่าผิดผี ต้องรีบหาผู้ใหญ่มาทำพิธีสู่ขอ”
อาการหวงเนื้อหวงตัวของเธอมากกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก น้อยคนนักที่จะผลักไสมืออบอุ่นทรงพลังของเขาด้วยท่าทีรังเกียจเดียดฉันท์
“คุณอิศรานนท์! ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่นคุณนะคะ จะพูดจาอะไรกรุณาให้เกียรติกันด้วย”
เขายั่วจนปัทมนเริ่มเกิดอาการทนไม่ไหว โชคดีแค่ไหนที่เธอไม่ได้ตกปากรับคำยอมไปเป็นผู้หญิงของเขาตอนที่บิดามาขอให้ช่วย ขืนได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้ชายเห็นแก่ตัวตลอดชีวิต เธอคงกลั้นใจตายวันละหลายสิบหน
“ผมไม่เคยมองว่าคุณจะเป็นเพื่อนที่ดีได้ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะผมกำลังคิดว่าเราพอจะมีสัมพันธภาพด้านไหนกันได้บ้าง” เขาแกล้งเอนตัวเข้าหาเธอ ทำทีเป็นทรงตัวไม่อยู่
ร่างสูงที่เหมือนจะล้มลงมาทาบทับ ทำให้ปัทมนต้องบีบตัวลีบลงแนบกับราวบันได
“คุณทำอย่างนี้กับฉันทำไม ปากก็บอกว่าจะช่วย แต่ลับหลังคุณก็มุ่งกอบโกยผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง ฉันเคยเชื่อมั่นว่าการเสียชีวิตของคุณพ่อ จะช่วยยกระดับจิตใจของคุณให้สูงขึ้นมาบ้าง... แต่ฉันคงหวังอะไรที่ยากเกินไป เพราะเท่าที่เห็นจิตใจคุณไม่ได้ขยับสูงขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว”
เธอยังไม่เคยลืมความเลือดเย็นว่าเขาเคยทำอะไรไว้บ้าง ต่อให้ผู้ชายคนนี้ร่างกายภายนอกจะหล่อเหลาราวกับเทพบุตร แต่เธอรู้ดีว่าจิตใจเขาต่ำเรี้ยเรี่ยดินแค่ไหน
“ฉลาดหลักแหลม ฝีปากเฉียบคม สมแล้วที่เป็นแม่พิมพ์ของชาติ ตอนนี้เรายังไม่รู้จักกันดีพอ ผมจะไม่โกรธแม้คุณจะวิเคราะห์ผมว่ามีนิสัยย่ำแย่ก็ตาม”
“ที่คุณไม่โกรธเพราะคุณเป็นจริงตามนั้น” เธอสวนเขากลับทันควัน
“บังเอิญผมเป็นคนไม่ชอบพูดแก้ต่างเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่การกระทำต่างหากจะเป็นบทพิสูจน์ว่าแท้จริงผมเป็นคนแบบไหน” อิศรานนท์กล่าวประชดอาจารย์ฝีปากกล้า นับว่าเธออาจหาญมากที่ต่อว่าเขาฉอดๆ ทั้งที่ยังไม่เคยคบหาหรือรู้จักกันลึกซึ้งมาก่อน
“คุณจะเป็นคนแบบไหนฉันไม่สน คนไม่ดีฉันไม่อยากเสียเวลาทำความรู้จัก” เธอแสดงความจริงใจด้วยการเปิดเผยความรู้สึกแท้จริงให้เขารู้ เมื่อไม่ชอบกันก็ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากทำสีหน้ายิ้มแย้มแล้วยื่นมีดแทงด้านหลัง
“อย่าเพิ่งปิดกั้นโอกาสตัวเองสิครับอาจารย์ ถึงยังไงเราสองคนก็ต้องเป็นมากกว่านั้น ผมคงไม่มักน้อยอยากเป็นแค่คนรู้จักหรือเพื่อนสนิท พอได้เดินสำรวจรอบบริเวณวังวรทัศน์จนทั่ว ทำให้ผมนึกเสียดายไม่อยากยกให้ใครฟรีๆ แล้วล่ะ”
อยากรู้เหมือนกันว่าผู้หญิงหยิ่งจองหองคนนี้จะหนีเขาไปได้ไกลสุดแค่ไหน อุตส่าห์ทำตัวญาติดีด้วยก็แล้ว ยังจะทำท่ามากเล่นตัวอยู่ได้ การที่เขาให้ความสำคัญด้วยการพาแม่มาเจรจาทาบทาม เข้าตามตรอกออกตามประตู ก็น่าจะเป็นบทพิสูจน์ว่าเขาจริงจัง ไม่ได้คิดล้อเล่น
“ฉันไม่เคยเรียกร้องอยากได้ตั้งแต่ต้น พ่อกับแม่คุณต่างหากเป็นคนยื่นข้อเสนอให้ แต่ฉันก็เผื่อใจไว้บ้างแล้ว รู้ว่าคนละโมบอย่างคุณไม่เคยช่วยใครด้วยความบริสุทธิ์ใจ เรื่องจะยกทรัพย์สินให้ใครฟรีคงเป็นไปไม่ได้แน่”
หากเป็นคนอื่นพูดอิศรานนท์คงทนกับวาจากล่าวหาร้ายแรงนี้ไม่ได้ แต่เพราะทำใจมาบ้างแล้วว่าจะต้องเจอการต่อต้านจากผู้หญิงหยิ่งจองหอง ทำให้ระงับใจเย็นลงได้อย่างเหลือเชื่อ
“ไม่มีวัน!” ปัทมนปฏิเสธทันควัน รู้เจตนาของการเป็นเจ้าของร่วมกันดีว่าเขาหมายถึงอะไร
“ใช่ ไม่มีวันที่ผมจะปล่อยคุณให้หลุดมือ” เขาจะไม่สนเสียงทัดทาน ถ้าคิดจะเดินหน้าก็ต้องไปให้สุด
“ฝันไปเถอะว่าฉันจะยอม” อิศรานนท์ยังคงไม่ละความพยายามอยากได้เธอไปเป็นผู้หญิงของเขา ผู้ชายเปี่ยมพลังทุกด้านคนนี้มีบุคลิกท่าทางฉลาดเป็นกรด เห็นแวบแรกเธอก็รู้ทันทีว่ามีนิสัยเอาแต่ใจและคาดเดาได้ยาก
“แล้วเรามาดูกันว่าใครจะเป็นผู้ชนะ” เขาเริ่มใช้ขนาดของร่างกายแสนจะได้เปรียบรุกเข้าหาเธอ
“อื้อ คนเห็นแก่ตัว” มือบางผลักอกเขาจนสุดแรงแต่ก็ทำอะไรเขาไม่ได้ อิศรานนท์ยังคงดื้อดึงในจุดยืนของตัวเองไม่ขยับหนี
“อย่าเก่งแต่ปากสิ แน่จริงหันหน้าหนีทำไม”
เขาทดสอบความเก่งกล้าของคนเบือนหน้าหนีด้วยการโน้มใบหน้าคมคายของตัวเองเข้าหา ยิ่งเธอแสดงท่าทางรังเกียจรังงอนเขามากเท่าไหร่ เธอยิ่งเป็นผู้หญิงชวนดึงดูดและเร่งอัตราความท้าทายการอยากเอาชนะให้ถีบตัวสูงขึ้น
@@@@@@@@@@@@@@@@@@2
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
![]() |
|
3 ความคิดเห็น