ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Inazuma eleven yaoi (เรื่องสั้น)

    ลำดับตอนที่ #13 : [ Inazuma Go ] ♡ Hakuyuu x Shuu ♡ The Night ค่ำคืนที่สวรรค์กลั่นแกล้ง

    • อัปเดตล่าสุด 17 ม.ค. 59




    [ Inazuma Go ] ♡ Hakuyuu x  Shuu ♡ The Night 
    ค่ำคืนที่สวรรค์กลั่นแกล้ง






    ..........

    ~
    ห้วงเวลา
    ความตาย
    การแก้ไข
    ~

    ต่อให้ต้องย้อน
    'เวลา'
    กลับไป
    อีกมากมาย
    นับครั้งไม่ถ้วน
    ฉันก็จะช่วยนายให้ได้
    ชู!!!

    ...........





         ผมกำลังเดินทางกลับบ้าน จากโตเกียวไปฮกไกโด...ผมนั่งรถไฟความเร็วสูง [ชินคันเซน] ด้วยอาการเบื่อหน่าย โลกใบนี้น่ะ...มันโหดร้าย คนดีก็เป็นได้แค่สิ่งที่ต่ำต้อย ส่วนคนเลวๆก็ได้เป็นถึงคนที่มีอำนาจ สามารถข่มเหงใครก็ได้...หึ! โลกใบนี้...มันโหดร้าย มันพรากทุกอย่าง พรากแม้กระทั่งคนรักของผมไป...ผมไม่เข้าใจเลย ทำไมต้องเป็นคนรักของผม ทำไมไม่เป็นคนอื่น!? บ้าบอ! บ้าบอ! สิ้นดี...





         ผมมีคนแอบชอบอยู่คนหนึ่งครับเขาชื่อ 'ชู' แต่เพราะผมกับหมอนั่นเป็นเพื่อนสนิทกันแถมยังเป็นผู้ชายเหมือนกันอีก ทำให้ผมไม่กล้าที่จะบอกไป และในวันที่ 13 สิงหาคม มันเป็นวันที่ร้อนอบอ้าว อุณหภูมิประมาณ 32° 
    "นี้! ฮาคุริว เย็นนี้เราไปติวหนังสือกันนะ" ชู หนุ่มน้อยอายุราว 14-15 ปีพูดขึ้นแล้ววิ่งมากอดคนที่ตัวสูงกว่าด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
    "อาๆ ที่ไหนดีล่ะ?" ฮาคุริว หนุ่มหล่ออายุไล่เลี่ยกับชูกล่าวพลางเอามือไปลูบเรือนผมสีดำของอีกฝ่ายเบาๆ
    "ที่ร้านเค้กสิ"
    "ไม่เอา เดี๋ยวนาก็ไม่ทำงานเอาแต่กินเค้กอยู่นั้นแหละ"
    "ร้านคาเฟ่ก็ได้"
    "ไม่ได้"
    "แล้วนายจะไปไหนอ่ะ?" ชูถามฮาคุริวยิ้มๆ
    "ไปร้านหนังสือ.."
    "ร้านน่าเบื่อง่าาา ม่ายยอาววว"
    "เอาน่า" 
    "ก็ได้ ชิ! แต่อย่าลืมซื้อเค้กไปนะ"
    "คร้าบๆ"





         หลังเลิกเรียน
    ผมกำลังรอคนอยู่ครับ ใช่คนที่นัดกับผมไว้ว่าจะไปติวหนังสือกันนั้นแหละ ป่านนี้แล้วยังไม่มาอีก เฮ้อออ~ กลุ้มใจ ช้าชะมัดเลยนะ
    "ฮาคุริว!!!" ร่างบางๆเรียกผมจากฝั่งตรงข้ามของถนน
    "ไง ชู! ช้ามากเลยนะ" ผมตะโกนตอบ
    "ขอโทษนะ! นายรอฉันตรงนั้นแหละเดี๋ยวฉันไปหานะ" ชูตะโกนบอกผมแล้วเดินข้ามถนนมา
    ปัง!!!
    รถบรรทุกคันใหญ่ พุ่งตรงเข้าปะทะร่างน้อยๆนั้น ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะรีบขับหนีไปอย่างรวดเร็ว ร่างของชูล้มลงกระแทกพื้นเบาๆ เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น ดวงตาสวยเบิกกว้าง ผู้คนพากันแตกตื่น ตกใจ ผมยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างงงงวย
    "นี้มัน...อะไรกัน!? เกิดอะไรขึ้น!?" ผมสบทออกมา เหตุการณ์เมื่อครู่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว 
    ผมรีบตรงดิ่งเข้าไปหาร่างอันไร้วิญญาณของชู ก่อนจะโอบกอดร่างนั้นเอาไว้ ในตอนนี้เสื้อของผมนะ..เปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำสีแดง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง แต่ผมไม่สนใจหรอก ในตอนนี้คนตรงหน้าสำคัญที่สุด! 
    "ชู อย่านายนะ!!!" ผมพยายามเรียก แต่ก็ไม่ได้ผล...ผมรู้สึกได้ว่าคนตรงหน้าของผมในตอนนี้...ผมคงช่วยไว้ไม่ทันแล้วล่ะ...





    'ท่านที่จะลงฮกไกโด โปรดเตรียมตัวลงในสถานีต่อไปค่ะ'
    ผมสะดุ้งตื่นจากความทรงจำในอดีต นี้ก็ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้ว ทำไมยังไม่ลืมมันอีกนะ...เฮ้อออ~ จริงด้วย นี่..กี่โมงแล้วนะ ผมมองนาฬิกาบนข้อมือ มันบ่งบอกเวลา 6 โมงเย็นกว่าๆ ป่านนี้แล้วหรอเนี่ย แย่ล่ะสิ...ช้าขนาดนี้เลยหรอ อาหารเย็นก็ไม่ได้ซื้อไว้ บ้าชะมัด สะเพร่าจริงๆ 
    "หืม...ถึงแล้วหรอ เร็วจังแฮะ ไว้อาหารเย็นค่อยไปซื้อล่ะกัน" ผมบ่นกับตัวเองแล้วลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินลงรถไป ผมเดินไปร้านอาหารประจำที่ผมกับหมอนั้นชอบมากินด้วยกันเป็นประจำ แต่ตอนนี้...ผมกลับต้องมานั่งกินคนเดียว หึ! บ้าชะมัดเลยเนอะ
    "ถ้าย้อนเวลากลับได้...ก็คงดี" ผมบ่นเบาๆ





         เมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ผมก็เดินออกมาจากร้านอาหารประจำนั่น ผมมองนาฬิกาในข้อมือมันบ่งบอกเวลา 1 ทุ่ม 6 นาที ผมรีบเดินกลับบ้านอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางก็มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 18 ปีเท่าๆกับผม ผมสีดำสนิทและนัยน์ตาสีถ่านของเธอผิวสีขาวซีดใส่ชุดนักเรียนสีดำผูกเน็คไทสีแดงกระโปรงสีเลือดสั้นเลยเข่านัยน์ตาที่ดูเย็นชานั่นจ้องมองผมแล้วแสยะยิ้มออกมา
    "เธอเป็นใคร?" ผมถามเธอออกไป
    "ฉันก็แค่เด็กนักเรียนธรรมดาธรรมดาคนหนึ่ง...ที่สามารถทำให้'ความปรารถนา'ของคุณเป็นจริงได้...ก็แค่นั้น" เธอพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
    "อะไรของเธอ?" 
    "อยากย้อนเวลาหรอ..คุณน่ะ"
    "อึก...รู้ได้ยังไ..."
    "ถ้าอยากย้อนเวลา ก็เอานี้ไปสิ" เธอพูดแล้วยกนาฬิกาทรายสีดำขึ้นมา
    "จะบ้ารึไง เรื่องแบบนั้น.."
    "เป็นไปได้สิ..." 
    อึก...ผมมองนาฬิกาทรายสีดำประหลาดสลับกับเด็กผู้หญิงคนนั้นไปมา ไม่ได้บอกว่าไม่เชื่อหรอก แต่...จะเป็นไปได้ยังไงล่ะ การย้อนเวลาน่ะ ไม่มีทาง! ต...แต่ ถ้ามันเป็นเรื่องจริงล่ะ ผมก็จะพลาดโอกาสที่จะได้ช่วยหมอนั้นนะ ทำไงดี เอาไงดีนะ ผมยกมือขึ้นมากุมหัวตัวเองแล้วทรุดลงไป ผมปวดหัวมากในตอนนี้ เอาไงดี ทำไงดี 'เชื่อ' หรือ 'ไม่เชื่อ'
    "ลองหน่อยก็ไม่เสียหายหนิ..." เธอมองผมด้วยสายตาที่นิ่งงันแล้วยื่นนาฬิกาทรายสีดำมาให้ผม 
    'ลองหน่อยก็ไม่เสียหาย' ใช่! ลองดูคงไม่เป็นไร
    "อืม...ตกลง" ผมยื่นมือไปคว้านาฬิกาทรายนั่นมาจากมือของเด็กคนนั้น
    "ทำยังไง" ผมถามเธอ
    "พลิกมันกลับ"
    "อืม..." ผมทำตามที่เธอบอก
    .
    .
    .
    .
    .
    ทันใดนั้น....
    .
    .
    .
    .
    .
         "ฮาคุริว!!" เสียงหวานดังขึ้นข้างหูของผม ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมา ใช่! เสียงนี้เป็นเสียงของชู ชูจริงๆด้วย
    "ชะ...ชู"
    "เย็นนี้เราไปติวหนังสือด้วยกันนะ" ร่างบางพูดยิ้มๆแล้วกอดคอผมเบาๆ
    "อ...อืม เป็นเรื่องจริงหรอ..."
    "อะไรหรอ?"
    "ปะ...ป่าว"
    "งั้นที่ร้านเค้กนะ"
    "ที่ร้านหนังสือดีกว่า"
    "ก็ได้ อย่าลืมซื้อเค้กไปนะ"
    "อืม..."
    ทุกอย่าง....เหมือนเดิม หรือว่า....เรื่องที่ผู้หญิงคนนั้นบอก เป็นเรื่องจริง...หรือว่าเรื่องทั้งหมดมันเป็นความฝันกันแน่นะ?





    หลังเลิกเรียน
    "ฮาคุริว!! ขอโทษที่มาช้านะ นายรออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวฉันไปหา"
    พรึ่บ!
    ผมรีบวิ่งไปผลักร่างบางๆนั่นออก ทันเวลา...ฉิวเฉียดพอดี เกือบไปแล้ว
    "ก...เกิดอะไรขึ้น!?" ร่างบางพูดอย่างหวาดผวา
    "ชู...ไม่เป็นไรนะ" ผมกอดชูไว้หลวมๆ
    "อ...อืม แล้วเมื่อกี้ล่ะ เกิดอะไรขึ้น?"
    "รถจะชนนาย ฉันเลย..."
    "ขอบคุณนะ ฮาคุริว" หมอนั้นยิ้มให้ผม
    "เป็นอะไรไหมหนู"
    "เป็นไงบ้างจ้ะ?"
    ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นเข้ามถามไถ่
    "ไม่เป็นไรครับ^^"
    "งั้น...วันนี้นายกลับบ้านก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะไปส่ง"
    "อืม ขอบคุณนะ"





    ตึก ตึก ตึก
    ผมเดินมากับหมอนั้น ระหว่างทางก็เงียบมาตลอด เป็นอะไรรึเปล่านะ? กลัวหรอ หรือว่าอะไร? เป็นห่วงนะ รู้ไหม
    "ชู..."
    "หืม...?" ชูหันมามองผม
    "เป็นอะไรรึเปล่า"
    "เปล่า..." เสียงที่ตอบมาแผ่วเหลือเกินนะ
    "อืม"
    "ขอบคุณที่มาส่งนะ ฮาคุริว" ชูยิ้มให้ผมก่อนจะเดินเข้าไปในซอยบ้านของตนเอง 
    "ให้ฉันไปส่งไหม?"
    "ไม่เป็นไร ขอบคุณอีกครั้งนะ^^"
    "อะ...อือ"
    "ระวัง!
    ปัง ปัง ปัง
    เสียงปืนของกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังมีปากเสียงกันดังขึ้น ชายร่างสูงใหญ่ที่เป็นผู้ควักปืนออกมายิงทำหน้าตาตกใจและร้อนรน
    "ชู หลบเร็ว!!!" ผมตะโกนเรียกชู 
    "...."  ไร้เสียงตอบรับจากชู ผมกวาดตามองไปยังที่ที่ชูยืนอยู่ ร่างบางๆของหมอนั้นค่อยๆล้มลงกระแทกพื้น เลือดสีแดงค่อยๆไหลออกมาจากศรีษะของหมอนั้น
    "ชะ...ชู" ผมตกตะลึง ทำอะไรไม่ถูกแล้วจู่ๆน้ำสีขาวก็ค่อยๆไหลออกมาจากเบ้าตาของผม
    "เฮ้ย! มีคนโดนลูกหลงโว้ยยย!!! หนีเร็ว!"
    "อึก...ฮือๆ ชูอย่าตายนะ ชะ..ชู ฟื้นเถอะ" ผมเดินเข้าไปแล้วค่อยๆทรุดตัวลงก่อนจะเขย่าร่างของชูเบาๆ เมื่อผมมองไปยังบาดแผลที่ชูโดนยิงก็ต้องหยุดเขย่าร่างนั้นทันที ถึงเขย่าไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะแผลที่โดนยิงน่ะ...มันทะลุจากกะโหลกอีกด้านหนึ่งไปยังอีกด้านหนึ่ง ในตอนนี้ผมคิดว่าสมองคงเละไปแล้วล่ะ...เสียงหัวเราะเบาๆของคนคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆหูของผม..
    "บ้าที่สุด!!!" ผมตะโกนออกมาด้วย'ตัวคนเดียว'





         'ท่านที่จะลงฮกไกโด โปรดเตรียมตัวลงในสถานีต่อไปค่ะ'
    ผมตื่นขึ้นมาจากฝันอันโหดร้ายและยาวนาน เรื่องเมื่อกี้เป็นแค่ฝันงั้นหรอ หรือเป็นเรื่องจริง ผมคิดทบทวนไปมา แล้วถ้ามันไม่ใช่ฝันล่ะ! โอ้ยย..ปวดหัว เมื่อถึงสถานีที่ผมต้องลงผมจึงรีบวิ่งลงรถไฟด้วยฝีเท้าที่เร่งรีบ ถ้าไม่ใช่ฝันล่ะก็ เราต้องเจอกับผู้หญิงคนนั้นอีกแน่...แต่ถ้าเป็นฝันล่ะก็ เราก็จะไม่สามารถช่วยชูได้อีก ผมมองนาฬิกามันบ่งบอกเวลา 6 โมงเย็น 56 นาที ในฝันเราเจอกับผู้หญิงคนนั้น 1 ทุ่มกว่าๆ ผมคงต้องไปรอน่ะสิ ผมวิ่งไปยังทางที่เจอกับผู้หญิงคนนั้นในฝัน แล้วนั่งลงรอเธอ ผมหอบเหนื่อยเบาๆ
    "รอฉันหรอ?" เสียงปริศนาพูดขึ้น
    "อ่ะ!...นี้...เธอ?"
    "ใช่! ฉันเองคนที่เอานาฬิกาทรายสีดำนั่นให้คุณย้อนเวลากลับไปไงล่ะ" เธอพูดอย่างหยิ่งยโส
    "อึก...ไม่ใช่ฝันหรอกหรอ.." ผมบ่นกับตัวเองแต่เธอกลับได้ยิน
    "ไม่ใช่ฝันหรอก...ทุกอย่างคือเรื่องจริง" เธอพูดบอก
    "เป็นไปไม่ได้..."ผมพยายามกัดฟันพูด
    "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้นั่นแหละคือสิ่งที่สามารถเป็นไปได้...อย่างในอดีตผู้คนต่างเชื่อว่ามนุษย์ไม่สามารถบินอยู่บนท้องฟ้าเหมือนกับนกได้แต่ดูปัจจุบันนี่สิ คนเราสามารถบินเหมือนกับนกได้ สามารถมองเห็นก้อนเมฆได้อย่างใกล้ชิด ทั้งๆที่ในอดีตทุกคนต่างคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้..ขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งนะ ทุกๆอย่าน่ะสามารถ'เป็นไปได้เสมอ ตราบใดที่ความปรารถนายังไม่สิ้นสุด' จำไว้เลย"
    "งั้น...ฉัน...ขอร้องล่ะ ฉันขอย้อนเวลาอีกสักครั้ง แค่ครั้งเดียวก็ได้" ผมอ้อนวอน
    "ได้สิ ฉันมีโอกาสให้นายไม่มีที่สิ้นสุด ตราบใดที่นายยังปรารถนาที่จะทำมันต่อไปอ่ะนะ" เธอพูดแล้วยื่นนาฬิกาทรายสีดำมาให้กับผม ผมรีบคว้ามันมาอย่างรวดเร็วแล้วพลิกมันกลับในทันที คราวนี้แหละผมต้องช่วยให้ได้...





           "ฮาคุริว!!!" เสียงหวานเอ่ยทักทายจนผมต้องสะดุ้งตื่น
    "อะ...มีอะไรหรอ?"
    "เย็นนี้ไปติวหนังสือกันนะ" ชูพูดยิ้มๆ
    "อืม"
    "เอาเป็นที่ร้านเค้กนะ" เจ้าตัวเล็กทำตาเป็นประกาย
    "ขอเป็นที่ร้านหนังสือดีกว่า" ผมพูดตัดบทแล้วขยี้หัวอีกฝ่ายเบาๆ
    "ชิ! ก็ได้ แต่อย่าลืมซื้อเค้กไปนะ><"
    "อืมๆ" คราวนี้แหละ ผมต้องปกป้องรอยยิ้มนี้ไว้ให้ได้





         หลังเลิกเรียน..
    ผมยืนรอหมอนั้นอยู่ที่หน้าโรงเรียน วันนี้ผมยอมไม่ไปเรียนพิเศษเพื่อที่จะอยู่รอหมอนี้เชียวนะ! ครั้งนี้แหละหมอนี้ต้องรอด 
    "ฮาคุริว วันนี้ไม่ไปเรียนพิเศษหรอ?" ชูทักผม
    "ไม่หรอก รอนานอยู่"
    "เอ๋!? ทำไมล่ะ เดี๋ยวฉันข้ามถนนไปหานายก็ได้"
    "ไม่ได้!" ผมตะคอกใส่ชูด้วยน้ำเสียงที่โกรธจัด
    "นะ...นายเป็นอะไรของนายนะ ห่ะ!? ฮาคุริว" ชูผงะเล็กน้อยก่อนจะตะคอกกลับมา
    "ฉันขอโทษ" 
    "ชั่งมันเถอะ งั้นเราไปร้านหนังสือกัน"
    "อืม.."
    ผมพาชูเดินมายังร้านหนังสือระหว่างทางชูเองก็บ่นไปเรื่อยเปื่อยทำให้ผมแอบหัวเราะอยู่เหมือนกัน แต่ก็ดูน่ารักดีนะ เราแวะซื้อเค้กสัก 2-3 ชิ้นส่วนใหญ่เป็นรสสตอเบอรี่ สงสัยชูคงจะชอบรสนี้มากล่ะนะ มีมุมน่ารักเหมือนกันนะเนี้ย
    กึก กึก...
    เสียงอะไรน่ะ!? ขอร้องล่ะ อย่าเกิดอะไรขึ้นเลย
    "อี่หนู อันตราย!!!" เสียงคนแก่ๆเจ้าของร้านขายเครื่องยนต์ตะโกนลงมาจากข้างบนชั้นสองของตัวร้าน ก่อนจะมีป้ายอันใหญ่ขนาดเท่าแผ่นไม้แผ่นใหญ่ๆ 3 แผ่นรวมกันหล่นลงมา เดี๋ยวนะ! คนที่อยู่ตรงกันกับมันพอดีก็คือ...
    "ชู.."
    ตึง! กร็อบ!
    ร่างของชูโดนป้ายมรณะนั่นทับ เสียงกระดูกหักพร้อมกับเลือดสีแดงสดสาดกระจายเต็มตัวของผม ผมร้องไห้ออกมาโดยไม่รู้ตัวก่อนจะเอามือขึ้นมากุมหัวตัวเองไว้ แปะ แปะ เสียงหยดน้ำตาร่วงหล่นลงสู่พื้น นี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ผมมองร่างของชูที่ถูกป้ายโฆษณาทับจนเละ ร่างกายของผมอ่อนระรวยไปหมด..มันเจ็บปวด มันน่ากลัว ทำไม ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นด้วย!? เสียงหัวเราะชอบใจของใครคนหนึ่งดังขึ้นข้างๆหูของผม เสียงของใครกันนะ?
    "ฮือๆ บัดซบ!!!!" ผมตะโกนออกมาด้วย 'ตัวคนเดียว'





          'ท่านที่จะลงฮกไกโด โปรดเตรียมตัวลงในสถานีต่อไปค่ะ'
    ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาจากฝันไม่สิเรื่องจริงอันแสนโหดร้าย ยังไงผมก็ต้องช่วยชู ต่อให้จะเห็นชูตายนับร้อยครั้งก็ตามมันต้องมีวิธีสิ! ทีจะทำให้ชูรอด..มันต้องมี เมื่อถึงสถานีผมรีบลงไปและมุ่งตรงไปยังที่ที่ผมเจอเธอคนนั้นทันที เมื่อผมมาถึงผมก็เห็นเธอนั่งรอก่อนแล้ว
    "อยากได้เจ้านี้หรอ?" เธอพูดพลางยกนาฬิกาทรายสีดำในมือขึ้นมา
    "อืม ใช่"
    "เอาไปสิ" นาฬิกาทรายสีดำค่อยๆลอยออกจากมือของเธอคนนั้นมาสู่มือของผม ผมรู้แล้วเธอไม่ใช่มนุษย์ แต่ผมไม่สนต่อให้ต้องใช้วิธีปีศาจอะไรก็ช่าง ผมจะต้องช่วยชู ผมคิดแล้วพลิกนาฬิกาทรายนั่นให้กลับหัวลง





          นี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่ผมย้อนเวลากลับมา..ครั้งที่ร้อยหรือสองร้อยกันนะ? แต่ต่อให้ย้อนกลับมา ผมก็ช่วยไว้ไม่ได้สักครั้งเลย..
    "งั้นก็อย่าให้หมอนั้นตายซะ...ก็จบ" ผมคิดอะไรของผมกันนะ
    "ฮาคุริว! ขอโทษที่มาสายนะ นายรออยู่ตรงนั้นแหละเดี๋ยวฉันไปหา"
    พรึ่บ!
    ผมผลักร่างของชูออกก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้แล้วหันไปประจันหน้ากับรถบรรทุกคันใหญ่นั่น แล้วเหลือบตามองไปยังเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนมองเหตุการณ์อยู่เธอมองผมอย่างตกตะลึงผมพูดกับเธอว่า
    "ฉันไม่ต้องการที่จะย้อนเวลาอีกแล้ว..."
    ตึง!
    เลือดสีแดงของผมสาดกระจายไปทั่วบริเวณ นี้ผมจะตายแล้วหรอ ชูปลอดภัยใช่ไหม ชูรอดใช่ไหม ชูไม่เป็นไรใช่ไหม ผมมองร่างบางๆของชูที่กอดผมอยู่ เขาร้องไห้...อย่าร้องไห้เลยนะชู นายปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรแล้วนะ ฉันน่ะ ปกป้องนายไว้ได้แล้วนะ...ชู ในที่สุดก็จบแล้วสินะ...การกลั่นแกล้งอันแสนยาวนานนี้น่ะ..





    "ฉันก็เคยบอกแล้วไงว่า โอกาสของนายมีไม่สิ้นสุด ตราบใดที่'ความปรารถนา'ของนายยังคงอยู่..แต่นาย..กลับละทิ้งความปรารถนาละทิ้งโอกาสอันมีไม่สิ้นสุดนี้ โง่ซะจริง! มนุษย์น่ะ โง่เขลาเสียจริงๆเลยนะ นายเองก็เหมือนกัน...เพราะฉะนั้น..ตายไปซะเถอะ ฮาคุริว ตายแทนคนที่นายรักยังไงล่ะ!" สาวน้อยผมสีดำสนิทพูดออกมาด้วย ตัวคนเดียว ท่ามกลางฝูงชนที่กำลังมองดูโศกนาฏกรรมอันยาวนาน เมื่อเธอพูดจบเธอก็หันหลังให้กับภาพอันสยดสยองนั่นก่อนจะแสยะยิ้มเล็กน้อยและเดินจากไป





         'ท่านที่จะไปฮกไกโด กรุณาเตรียมตัวลงในสถานีถัดไปด้วยนะคะ'
    ผมสะดุ้งตื่นจากความทรงจำในอดีต นี้ก็ผ่านมาตั้ง 5 ปีแล้ว ทำไมยังไม่ลืมอีกนะ บ้าจริง! ฮาคุริวนายยังสบายดีรึเปล่านะ ถ้าฉันย้อนเวลาได้ล่ะก็ ฉันจะไม่ให้นายต้องมาตายแทนฉันหรอก.. เมื่อถึงสถานีผมก็รีบลงจากรถไฟความเร็วสูง [ชินคันเซน] และไปร้านอาหารขาประจำที่ผมกับฮาคุริวเรามากินกันประจำแต่ตอนนี้ผมต้องมานั่งกินคนเดียว บ้าชะมัดเลยเนอะ เมื่อผมรับประทานอาหารเสร็จผมก็เดินกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่เบื่อหน่าย จู่ๆก็มีเด็กผู้หญิงผมสีดำนัยน์ตาสีถ่านใส่ชุดนักเรียนสีดำกระโปรงแดงเน็คไทแดงผิวสีขาวซีดมายืนตัดหน้าผมแล้วพูดกับผมด้วยน้ำเสียงที่เย็นยะเยือกว่า..

    "เธอต้องการที่จะย้อนเวลาใช่ไหม?" พร้อมกับชูนาฬิกาทรายสีดำขึ้นมา...




    ไม่มีใครสามารถ
    'หลีกหนี'
    'โชคชะตา'
    ได้พ้นหรอกนะ!
    ...
    และไม่มีใครที่สามารถ
    'แก้ไข'
    'โชคชะตา'
    ได้
    นี้แหละ...
    สัจธรรม
    ของ
    โลกอันแสนโหดร้ายใบนี้


    By ผู้โดดเดี่ยวแห่งทุ่งหญ้าสีดำ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×