คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : บทที่ 5
บทที่ 5
“อ่าว...มาแล้วหรอเพื่อน“ศักดิ์ชัยหรือไอ้คุณศักดิ์ที่เห็นชายหนุ่มร่างสูงเป็นคนแรกทักทายก่อน ส่วนกรกิชและอาชินั้นก็มองตามเสียงของศักดิ์ชัย
“มาแล้วสิวะ ถ้ายังไม่มาจะเห็นข้ารึ“ชายหนุ่มตอบกลับท่าทางอารมณ์ดี
“มาแล้วก็ดี“เสียงของอาชิเพื่อนในกลุ่มที่เป็นเจ้าของไนต์คลับเพิ่งเอ่ยปากพูด
“แล้วไงเอ็ง กรกิช นายไม่คิดจะทักข้าเลยหรือไงวะ ดอกพิกุลเต็มปากหรือไง“
ชายหนุ่มทักเพื่อนที่นั่งเงียบที่สุดในกลุ่ม
ประโยคสนทนาที่กำลังทักทายกันนั้น สำหรับคนในกลุ่มเดียวกันมันแสดงถึงการเป็นกันเอง ไม่ได้มีท่าทีถึงความไม่สุภาพแม้แต่น้อย
“อ่อ..โทษที ข้ากำลังมองคนๆหนึ่งอยู่ เธอหน้าตาคุ้นๆ“
ชายหนุ่มมองตามสายตาของเพื่อน เพราะเขาอยากรู้เหมือนกันว่าไอ้คนที่ว่าคุ้นหน้าคุ้นตานั้นใคร
เมื่อเขามองตามสายตากรกิชเพื่อนในกลุ่มนั้น ก็พบว่าไม่ใช่คุ้นเลยแหละแต่เป็นใช่เลย เธอที่กรกิชว่าคือคนที่ชายหนุ่มพาเธอไปส่งที่บ้าน รวมถึงทานอาหารเย็นร่วมกันและเป็นคนที่เขาคิดถึง เขาคิดถึงใบหน้านวลกับความสุภาพน่ารักและความเป็นกันเองที่หญิงสาวคนนี้มีให้เขา
ชายหนุ่มทำท่าจะลุกไปหาหญิงสาวที่กำลังนั่งฟังเพลงอย่างสบายอารมณ์ วันนี้เธอแต่งชุดค่อนข้างเปรี้ยวๆด้วยเสื้อผ้าสีแดง เนื้อผ้าบางเบา คอเสื้อคว้านลึกเห็นเนินอกเล็กน้อยชวนมองยิ่งนัก ต่างจากเมื่อวันก่อนๆที่เขาได้พบเธอที่บ้าน แต่เขาก็เห็นว่าเป็นแบบหนึ่งที่เป็นเธอ เพราะความสวยของเธอที่เด่นและสะดุดตา เขาอยากจะไปทักทายหญิงสาวยิ่งนักแต่เพื่อนเขาห้ามไว้ก่อน
“อย่าเพิ่งดิวะ“เสียงของอาชิร้องห้าม
“ห้ามข้าทำไมวะ ข้าจะไปทักคุณโมเขาหน่อย“ชายหนุ่มบอกเพื่อน
“เออๆข้ารู้ๆ“อาชิบอก “แต่ว่าที่เรานัดกันวันนี้ไม่สิไอ้เคนมันนัดน่ะ มันมีเรื่องสำคัญจะบอก“
“เรื่องสำคัญ อะไรมันจะสำคัญไปกว่าข้าไปทักคุณโมวะ แถมเจ้าตัวยังไม่มาอีก“
“น่า... “เสียงกรกิชร้องทักเพื่อนเพื่อให้รอก่อน
“ยังไงคุณโมคงยังไม่ไปไหนหรอกว่ะ รอฟังข่าวก่อน“
“ก็ได้ๆ แต่ถ้าไอ้เคนยังไม่มาข้าไปหาคุณโมนะเว่ย“
“เออๆ“ อาชิตอบรับ
ไม่ทันขาดคำชายหนุ่มร่างสูงใบหน้าลูกครึ่งก็เดินเข้ามาใกล้ ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังนายพี
“อะไรวะ รอนิดรอหน่อยก็ไม่ได้“ ชายหนุ่มใบหน้าลูกครึ่งที่ได้ยินเสียงบ่นของเพื่อนตั้งแต่เดินยังไม่ถึงประตูพูดแซวเพื่อน
“ตายยากนี่หว่า ข้าเพิ่งบ่นเอ็ง“ชายหนุ่มที่ตอนแรกจะไปหาหญิงสาวแซวเพื่อน
“ข้าไม่ตายง่ายๆหรอกจนกว่าจะได้เข้าหอ“
“เข้าหออะไรวะ แกไม่ใช่เด็กมหาลัยนะเว่ยถึงจะไป ไปเข้าหอ“
“เอ๊ะ..นายว่าไงนะไอ้เคน“พีระดลร้องถามเพื่อนอีกครั้งเมื่อตั้งสติได้ นี่กระมังธุระสำคัญของเพื่อน
“เออ...เข้าหอเว่ย ข้าบอกว่ายังไม่ตายแน่นอนจนกว่าจะได้เข้าหอ“
ตอนนี้ใบหน้าของเพื่อนทั้งสาม คือ กรกิช อาชิและศักดิ์ชัยกำลังนั่งกลั้นยิ้มหรือกลั้นหัวเราะก็ไม่แน่ใจกับท่าทางของชายหนุ่มที่ทำหน้าเหวอ
“5555....ทำไมทำหน้างั้นวะไอ้พี ก็ข้าจะแต่งงาน ก็ต้องเข้าหอดิวะ“
“เอ็งจะแต่งงาน“ชายหนุ่มเสียงห้าวทวนคำเสียงสูง
“เออดิวะ“ชายหนุ่มใบหน้าลูกครึ่งกลั้นยิ้ม
“บอกมาซะดีๆแต่งกับใคร งานแต่งเมื่อไหร่“
“แต่งกับผู้หญิงที่สวยที่สุด“ชายหนุ่มใบหน้าลูกครึ่งทำหน้าเคลิ้มฝัน
“เอ็งเล่ามาซะดีๆ“ชายหนุ่มที่ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวปลุกเพื่อนจากภวังค์
“ก็ได้ๆ ก็ข้าจะแต่งงานกับคุณเอ็ม ลูกสาวคุณหญิงมณีเพชรกับพลโททัศน์ดิเรก เกษมสุขชัย“
“โห ...ลูกสาวนายพลเลยหรือวะ ไปเจอกันได้ไงวะเนี่ย“
“ก็เธอไปซื้อของร้านข้า แล้วก็ปิ๊งกันแค่เนี๊ย“
“แค่เนี๊ยขอเอ็งเล่นแต่งกันเลยหรือวะ“
“คบกันนานยัง“ชายหนุ่มถามต่อ
“หกเดือน“ชายหนุ่มว่าที่เจ้าบ่าวตอบ
“หกเดือน“ชายหนุ่มทวนคำเสียงสูงท่าทางตกใจ
“เออดิวะ“ เคนย้อน
“แล้วแต่งเมื่อไหร่“ ชายหนุ่มถามต่อ
“วันศุกร์“ ว่าที่เจ้าบ่าวตอบ
“วันศุกร์ เหรออืมๆ“ ชายหนุ่มทำท่าคิด แต่เมื่อคิดดีๆแล้ว เขาทำท่าขมวดคิ้ว
“เฮ่ย.. ไอ้เคนศุกร์ไหนวะ“
“ศุกร์นี้“ ว่าที่เจ้าบ่าวตอบ พร้อมกับส่งยิ้มไปให้เพื่อนๆในกลุ่ม พร้อมทั้งพูดต่อว่า “พวกเอ็งทุกคนต้องเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว ใครไม่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กูกูตัดขาดเว่ย“
“ขนาดนั้นเชียว“ ชายหนุ่มแซวว่าที่เจ้าบ่าว
“เออดิวะ แต่งกันครั้งเดียว ใครไม่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้กู อย่าหวังว่างานแต่งหน้าที่กูคิดว่าต้องมีแน่ๆเนี่ย อย่าหวังว่าให้กูเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว“
“โห เล่นแรง“ชายหนุ่มย้อน
“ก็ได้ๆ กูไม่ได้กลัวไม่ได้ไม่มีเพื่อนเจ้าบ่าวนะเว่ย แต่เอ็งเพื่อนกู กูต้องทำเพื่อเพื่อนดิวะ“
“ขอบใจมากไอ้พี“
“เออ ไอกรกิช อาชิกับ ไอศักดิ์มันตัดชุดแล้วนะเว่ย เหลือแต่เอ็งคนเดียว“
“แล้วทำไมเพิ่งบอกข้าวะ จะแกล้งข้าหรือไง“
“เปล่าว่ะ ข้าลืม มัวยุ่งๆ“
“เอ็งต้องโทษไอกิช อาชิกับไอศักดิ์แล้วล่ะ ข้าฝากพวกมันบอกเอ็ง“
ทั้งสามคนที่เป็นผู้ต้องหามองหน้ากัน พร้อมทำหน้ายิ้ม
“โทษทีว่ะ พอดีตั้งใจลืมเอ็ง“
“ให้มันได้งี้ดิวะ แล้วถ้าเกิดข้ามีธุระจะทำไงดีล่ะเนี่ย“
“ก็เลื่อนธุระเอ็งดิวะ งานข้าเลื่อนไม่ได้ ถ้าจะให้เลื่อนการเข้าห้องหอเพราะเอ็ง ข้าว่าให้เอ็งไม่มายังดีกว่า“
ชายหนุ่มทั้งสี่หัวเราะพร้อมกัน แต่คนที่รู้เรื่องเป็นคนสุดท้าย หาได้หัวเราะตามไม่ พร้อมส่งสายตาดุไปให้เพื่อนๆในกลุ่ม
“เฮ่อ...ให้มันได้งี้ดิวะ“
“เอาเป็นว่ารับปากแต่แรกแล้วยังไงก็ต้องไป“
“ขอบใจมากเพื่อนๆ“ ว่าที่เจ้าบ่าวขอบใจเพื่อน
5555.....ทั้งห้าคนหัวเราะพร้อมกัน กับข่าวดีที่เพิ่งได้ยิน
เพื่อนของเขาจะแต่งงานมีครอบครัวเป็นของตัวเอง แล้วเมื่อไหร่เขาจะมีคนรักกับเขาซักทีนะชายหนุ่มคิดในใจ ทำให้นึกขึ้นได้ว่าต้องทำอะไรต่อเมื่อได้ฟังข่าวดีของเพื่อนแล้ว
“ขอตัวนะเพื่อน“นายพีบอกเพื่อนที่นั่งมองสาวๆที่กำลังเต้นอยู่
ไม่น่าเชื่อว่า ว่าที่เจ้าบ่าวก็เป็นไปกับเขาด้วย ชายหนุ่มคิด
“เอ็งจะไปไหนวะ“อาชิถาม เมื่อชายหนุ่มขอตัวแล้วทำท่าจะลุก
“เออ..พรุ่งนี้เย็นมีงานเลี้ยงสละโสดมาให้ได้นะเว่ยที่บ้านข้า“
“ได้เลย คุณว่าที่เจ้าบ่าว“
“ข้าจะไปคุยกับสาวๆสวยๆซะหน่อย“
“ตามใจเอ็ง ไปเหอะ“ กรกิชพูด
หลังจากขอตัวจากเพื่อนๆแล้วชายหนุ่มก็สั่งเหล้าหนึ่งแก้วกับบริกร เมื่อได้เหล้าแล้วเขาก็หยิบแก้วแล้วเดินไปหาหญิงสาวที่เขาหมายตาไว้ตั้งแต่เริ่มต้นการสนทนาสำคัญกับเพื่อน
“สวัสดีครับคุณโม“ชายหนุ่มทักหญิงสาวที่นั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว
เมื่อหญิงสาวได้ยินคำทักทายของชายหนุ่มที่คิดว่าแปลกหน้าแต่เธอกลับแปลกใจมากกว่าที่ชายหนุ่มรู้ชื่อเล่นเธอ ทำให้เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มร่างสูงที่แต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนและใส่ กางเกงยีนมีราคา
“อ่าว..สวัสดีคะ คุณพี“
“มานานหรือยังคะ“หญิงสาวถามชายหนุ่ม
“ก็นานแล้วครับ แต่ผมคุยกับเพื่อนอยู่ เพิ่งมีโอกาสแวบมาหาคุณนี่แหละครับ“
“เหรอคะ“หญิงสาวยิ้มให้ชายหนุ่ม
“เชิญนั่งคะ“หญิงสาวเชื้อเชิญชายหนุ่ม
“ขอบคุณครับ“เมื่อชายหนุ่มนั่งลงแล้วก็วางแก้วเหล้าไว้ที่โต๊ะ
“คุณพีดื่มเหล้าเหรอคะวันนี้“
“ครับ แต่ผมคงไม่ดื่มมากหรอกครับ เพราะผมต้องขับรถ ตามนโยบายเมาไม่ขับไงครับ“
“คุณพีนี่ตลกดีนะคะ“หญิงสาวพูดชมชายหนุ่ม
“จริงหรอกครับ ผมว่าผมจะตลกก็คงต่อหน้าคุณโมเท่านั้นแหละครับ“ชายหนุ่มกล่าว
ปกติเขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงออกทางอารมณ์มากนัก โดยเฉพาะอารมณ์ที่ดีเป็นพิเศษกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า ภาพลักษณ์ภายนอกของเขาเป็นคนที่ดูขรึมๆ แฝงไปด้วยความอารมณ์ร้อน อันนี้เขาก็รู้ตัวดีและเพื่อนๆในกลุ่มก็รู้เช่นกันไม่งั้นก็คงเลิกคบเขาไปแล้ว กับอารมณ์แปรปรวนของเขา แต่ส่วนใหญ่เขาก็ไม่ได้แสดงออกมามากนัก นอกจากคนที่เจอกับอีกด้านหนึ่งของเขาคงเป็นคนที่โชคร้ายจริงๆ
“คุณ
“ครับ ขอบคุณครับ ผมก็กำลังจะเชิญคุณโมเต้นรำพอดี แสดงว่าใจเราตรงกัน จริงไหมครับ“
“คะ ตามใจคุณคะ“หญิงสาวตอบพร้อมหัวเราะ
หลังจากหญิงสาวไม่ทันพูดจบชายหนุ่มร่างสูงก็ยืนขึ้นแล้วโค้งให้หญิงสาวที่นั่งอมยิ้มมองเขาอยู่ว่าเขาจะทำอะไร
เมื่อชายหนุ่มโค้งให้หญิงสาวก็ได้ผายมือให้เธอจับ เมื่อชายหนุ่มทำท่าผายมือ หญิงสาวก็ลุกขึ้นตามชายหนุ่มแล้วบรรจงวางมือบางบนฝ่ามือหนาของชายหนุ่ม
เพลงช้าๆค่อยๆบรรเลง เป็นเพลงที่ไพเราะเข้ากับจังหวะการก้าวเท้าของหญิงสาวและชายหนุ่มที่ยืนแนบชิดกันกลางฟอร์เต้นรำ ฝ่ามือของหญิงสาวเกาะอยู่บนบ่าหนา ส่วนอีกมือหนึ่งวางอยู่บนฝ่ามือหนาเช่นกัน ส่วนอีกมือหนึ่งของชายหนุ่มนั้นอยู่บนแผ่นหลังของหญิงสาว ค่อยๆลูบไล้สัมผัสความนุ่มเนียนบนแผ่นหลังของหญิงสาวที่เปลือยเปล่าเพราะชุดที่หญิงสาวใส่ค่อนข้างโชว์แผ่นหลังที่ขาวและเนียน
เขาอยากจะเก็บทุกสัมผัสที่เป็นของหญิงสาวไว้ ช่วงเวลาแห่งความฝันได้จบลงตามเพลงและเสียงของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมอกหนา ใบหน้าที่ห่างกันไม่ถึงคืบ หน้าผากมนของหญิงสาวอยู่ใกล้ริมฝีปากของเขา จนเขาเกือบหลงใหลที่จะมอบริมฝีปากอุ่นๆของเขาบนหน้าผากมน
ตากลมโตของหญิงสาวจ้องมาที่เขา ยามเงยหน้าแล้วริมฝีปากสีชมพูอวบอิ่มได้เอื้อนเอ่ยประโยคแห่งการลาจาก เขาแทบยากจุมพิตบนเรียวปากงามนั้นเพื่อปิดกั้นประโยคคำพูดนั้นไม่ให้เธอเอ่ยออกมา แต่เขาไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะมาถือสิทธิ์ในความเป็นตัวของเธอ นอกจากชายผู้โชคดีคนนั้น
“คือว่าโมคงต้องกลับแล้วคะ“หญิงสาวบอกชายหนุ่ม
“เหรอครับ ที่จริงผมอยากเต้นรำกับคุณโมอีกซักเพลง“ชายหนุ่มพูดตามตรง
“คะ ถ้ามีโอกาสเราคงได้เต้นรำด้วยกันอีกนะคะ“หญิงสาวพูดให้ความหวัง
“ให้ผมขับรถไปส่งไหมครับ“ชายหนุ่มอาสา
“ให้คุณพีไปส่ง คุณพีก็ต้องกลับรถแท็กซี่อีกสิคะ ไม่ดีกว่าคะ ถึงคุณพีจะเป็นผู้ชายแต่ก็อันตรายเหมือนกันนะคะ ดึกมากแล้วด้วยคะ ยิ่งดึกยิ่งอันตรายนะคะ“หญิงสาวบอกชายหนุ่ม
“งั้นหรอครับ ก็ได้ครับ“ชายหนุ่มตอบพร้อมทำท่าผิดหวัง
หลังจากแยกกับหญิงสาวแล้วชายหนุ่มก็ได้กลับไปหาเพื่อน แต่เพื่อนๆของเขาได้แยกย้ายกันกลับกันหมดแล้วเหลือแต่อาชิที่ยังคงยืนสั่งพนักงานในร้านว่าให้ดูแลลูกค้าอย่าได้ขาดตกบกพร่อง เขาจึงเลือกที่กลับบ้านดีกว่าในเมื่อไม่มีหญิงสาวแล้ว
ชายหนุ่มขับรถกินลมยามค่ำคืนไปเรื่อยๆ เนื่องจากขณะนี้ดึกมากแล้ว รถบนถนนจึงว่างหรือแทบไม่มีเลย แต่เขาเลือกที่จะขึ้นทางด่วนเพราะจะได้ชมวิวข้างบนและเห็นท้องฟ้าเบื้องหน้าได้สะดวก มันเป็นบรรยากาศที่สดชื่นยิ่งนัก ใครๆก็รู้ว่ากรุงเทพยามค่ำคืนนั้นสวยงามเพียงใด มีทั้งแสงสี และกลิ่นไอของความศิวิไล
ทั้งนี้แล้วนั้นแม้มีความงามที่ฉาบอยู่เบื้องหน้าคนบางคนก็เลือกที่จะเห็นเพียงแค่นั้น แต่ยังมีสิ่งที่อยู่ภายในนั่นคือจิตใจ จิตใจของคนที่สับสนปวนเปยากที่จะหยั่งถึง เมื่อรับรู้แล้วจะทำอย่างไร หากรสชาติที่ได้ลิ้มลอง หากสิ่งที่ได้สัมผัสไม่ได้เป็นอย่างที่ใจคิด นั่นก็คงเป็นโชคชะตาและฟ้าที่จะกำหนดให้ทุกอย่างดำเนินไป เหมือนกับความหมุนเวียนผันแปรของฤดูกาลที่วนซ้ำๆ มนุษย์นั้นไม่อาจที่ควบคุมธรรมชาติได้เยี่ยงนั้น และถึงแม้จะมีผู้ที่ทำนายได้ แต่ก็ย่อมมีความคลาดเคลื่อนอยู่ดี
ØØØØØØØØØ
ความคิดเห็น