คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บทที่ 4
บทที่ 4
หลังจากสองพี่น้องสนทนากันเรียบร้อยแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนยังห้องนอนของตน
เขาเดินไปยังมุมห้องนอนที่ตกแต่งอย่างหรูหราและเข้ากับสไตล์ที่สื่อถึงการเป็นตัวตนของเจ้าของห้อง แล้วนั่งลงยังเก้าอี้บุนวมที่มักจะนั่งประจำเวลาต้องการความผ่อนคลายและจิบของร้อนๆพร้อมกับอ่านหนังสือที่ชอบ แต่วันนี้เขาไม่ได้ผ่อนคลายอย่างที่ใจคิด เพราะใจของเขากระวนกระวายยิ่งกว่าวันก่อนๆที่ไม่ได้เจอหน้าหญิงคนรัก ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์เพื่อต่อหมายเลขเบอร์ที่คุ้นเคยและรอสาย
ตืดๆๆๆ
... หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งคะ ระบบอัตโนมัติได้ให้สัญญาณแสดงถึงการไม่รับโทรศัพท์ของปลายสาย
กี่วันแล้วนะโมที่คุณไม่รับโทรศัพท์ผม หรือว่าต้องให้ผมไปหาถึงที่บ้าน ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจ วงหน้าที่สดใสกลับหม่นและเศร้าลง สายตาทอดออกไปนอกหน้าต่าง ซึ่งบรรยากาศเบื้องหน้าหลังกระจกนั้น ท้องฟ้าเริ่มเป็นสีส้มและคงใกล้จะมืดเต็มที
คิดถึงคุณนะ ชายหนุ่มบอกกับตัวเอง แต่ใจก็อยากให้คนที่คิดถึงได้รับรู้ถึงความรู้สึกนี้
“คุณโม คุณไม่คิดถึงผมบ้างเลยเหรอ ผมคิดถึงจนแทบบ้าอยู่แล้ว“แล้วชายหนุ่มก็ถอนหายใจ...หลังจากที่พูดกับตนเอง
และแล้วงานที่รับมาชิ้นสุดท้ายของบริษัทนี้ก็ถูกบั่นเสร็จหลังจากที่บั่นมาสองวันเต็มๆ เธอต้องนั่งทำงานหน้าเคร่งเครียดมาทั้งวัน ทั้งที่พี่สาวมัวแต่ออกไปเที่ยวและเข้าใจว่าเธอลอยไปลอยมาไปวันๆหลังจากกลับมาจากต่างประเทศ
เปรมิกา คุณได้ดำเนินงานติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์กับฝ่ายบุคคลหรือยัง บอสหนุ่มกดอินเตอร์คอมถามเลขาสาวที่กำลังนั่งหน้าเคร่งจัดการงานที่อยู่ตรงหน้า
“เอ่อ...บอสคะ ดิฉันได้ติดต่อทั้งสองฝ่ายแล้วคะ คือว่าดิฉันมีเรื่องอยากจะถามบอสคะ “
“ถ้าคุณมีเรื่องจะถามก็เข้ามาพบผมที่ห้องนะ แล้วชงกาแฟมาให้ผมด้วย“บอสหนุ่มสั่งเลขาสาว
“คะบอส“เลขาสาวตอบรับ
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังสามครั้ง หน้าประตูห้อง หลังจากนั้นเสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“เชิญ“บอสหนุ่มอนุญาติให้เลขาสาวเข้ามาในห้อง
เลขาสาววางกาแฟที่โต๊ะ แล้วยืนตรงหน้าโต๊ะบอสหนุ่มที่กำลังนั่งก้มหน้ามองเอกสารที่อยู่ในมือ
“บอสคะ“เลขาสาวเรียกบอสหนุ่ม ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังก้มหน้าเงยหน้าจากเอกสารที่อยู่ในมือ
“มีอะไรคุณเปรมิกา“
“คือว่าดิฉันอยากจะเรียนถามท่านว่า น้องชายของท่านจะเข้ามาเริ่มทำงานเมื่อไหร่คะ“
“เอาเป็นว่า คุณช่วยเตรียมห้องให้เขาด้วยแล้วกันนะ“
“แล้วน้องชายบอสจะมาทำตำแหน่งอะไรคะ“
อันที่เขาก็ไม่ได้บอกผมนะ ตอนนี้ผมคงให้เขาช่วยดูแลฝ่ายออกแบบน่ะ ชายหนุ่มบอกเลขาสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า และเธอก็ไม่ได้ยืนอยู่เฉยกำลังจดยุกยิกๆบนกระดาษในมือ
“ฝ่ายออกแบบหรือคะท่าน แต่ว่าฝ่ายนี้มีคนดูแลอยู่แล้วนี่คะ“
“ผมจะเอาดูแลทุกอย่างที่เกี่ยวกับฝ่ายนั้น โดยเฉพาะการบริหารจัดการซึ่งตรงกับที่เขาได้เรียนมา ก่อนที่จะมาเป็นฝ่ายบริหารของบริษัทนี้จริงๆ“
สิ่งสำคัญของการทำงาน คือเขาต้องการให้น้องชายได้เรียนรู้เรื่องของบิรษัททีละเล็กน้อย พร้อมทั้งแก้ปัญหาต่างๆ ทีละขั้นๆ ให้ได้ฝึกประสบการณ์การทำงาน แต่งานที่เขาให้น้องชายทำนั้นก็หาได้ไม่มีความสำคัญไม่ แต่กับเป็นงานที่มีความสำคัญต่อบริษัทเป็นอย่างมาก
“คะบอส“
เธอรู้ความต้องการของบอสหนุ่มเป็นอย่างดี ว่าบอสหนุ่มทำแบบนี้เพราะอะไร ทำไมถึงไม่ให้น้องชายตนเองเข้ามาในตำแหน่งผู้บริหารเลยทั้งยังให้ดูแลงานในฝ่ายเล็กๆที่ไม่เล็กตามชื่อ แต่เป็นเพราะเพื่อเป็นการพิสูจน์และให้ได้รับการยอมรับโดยไม่ต้องมีข้อกังขาจากคณะกรรมการบริษัทที่เป็นคนเก่าคนแก่ของบริษัทที่อยู่มานานตั้งแต่บิดาของเจ้านายหนุ่มยังบริหารงานอยู่
เธอรู้เรื่องของบอสหนุ่มมาบ้าง เกี่ยวกับครอบครัวของเขา คือตั้งแต่มารดาของบอสเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ บิดาของบอสซึ่งบริหารงานอยู่ขณะนั้นก็ไม่เป็นอันทำงาน เพราะท่านรักภรรยามาก ซึ่งขณะนั้นบอสหนุ่มในปัจจุบันกำลังเตรียมตัวกลับมาประเทศไทยพอดี ท่านประธานคนเก่าจึงสละตำแหน่งให้ลูกชาย แต่ด้วยความสามารถที่มาบริหารงานไม่กี่ปีแทนบิดา ก็สามารถมีชื่อเสียงมากกว่าที่เป็นอยู่เดิม บวกกับความที่เป็นหน้าใหม่ไฟแรงในวงการธุรกิจจึงทำให้เป็นที่จับตามอง และเขาเองก็พิสูจน์ตัวเองได้โดยการการครองตำแหน่งนักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรงแห่งปี รวมถึงนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ส่วนบิดาของบอสนั้นก็ได้เดินทางไปต่างประเทศเพื่อไปท่องเที่ยวในวัยสูงอายุรวมถึงเพื่อลืมเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นกับภรรยาของเขา นานๆทีถึงจะกลับมาประเทศไทย เธอรู้มาว่าบอสกับท่านประธานคนเก่ามักโทรศัพท์หากันเสมอ
“เปรมิกาคุณช่วยหาเลขาให้น้องชายผมด้วยนะ“
“คะบอส“เลขาสาวรับคำ หลังจากหมดคำถามเธอก็ขออนุญาตบอสมาดำเนินงานที่ค้างให้เสร็จเพื่อให้ทันประชุมบ่ายนี้
เฮ่อ...บอสเรามัวแต่ทำงาน แล้วจะเอาเวลาไหนไปหาแฟนเนี่ย ป่านนี้คุณโมคงน้องใจแย่แล้วนะเนี่ย เลขาสาวที่ไม่ได้รู้เรื่องความเป็นมาของการขาดติดต่อของแฟนสาวเจ้านายตนเองได้บ่นแทนเจ้านาย
เธอมักลอบเห็นชายหนุ่มเหม่อบ่อยๆ แต่มันก็เป็นแค่ชั่วครู่เดียว บอสหนุ่มของเธอก็ก้มหน้าทำงานต่อ
ช่วงเวลาเลิกงานก็มาถึง เวลาประมาณ ห้าโมงครึ่ง พนักงานบริษัทที่มีเจ้านายสุดหล่อเป็นผู้บริหาร กำลังเก็บของแยกย้ายกันกลับบ้าน แต่บางคนก็ทำโอทีเพิ่ม บางคนก็กำลังนั่งรอแฟนมารับที่หน้าบริษัท ต่างจากชายหนุ่มที่ยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวใหญ่ที่แสนสบาย หลังจากเลขาสาวก็ขอตัวกลับบ้านเพราะแฟนโทรมาจะรับไปทานข้าวข้างนอก ก็เหลือแต่เขาที่นั่งง่วนกับเอกสารตรงหน้าต่อจนเวลาใกล้มืดเขาจึงเริ่มรู้สึกตัว และเก็บของลงกระเป๋า ชายหนุ่มหญิงเสื้อสูทที่ถอดพากเอาไว้ที่เก้าอี้ก่อนที่จะเดินออกจากห้องทำงาน
หลังจากเข้ามาประจำตำแหน่งของตนเองเพื่อขับรถกลับบ้าน แต่เขาก็เปลี่ยนใจทำบางอย่าง นั่นคือทำตามเสียงเรียกของหัวใจตนเอง เขาเปลี่ยนเป้าหมายจากกลับบ้านตนเอง เป็นบ้านของแฟนสาว คนที่เขาเฝ้าคิดถึงมาตลอด
จราจรยามนี้ช่างติดขัดไม่ทันใจความร้อนรุ่มที่อยู่ในใจ ตอนนี้ใจของเขาอยู่ที่บ้านของคนที่เข้าเฝ้าคำนึงหาแล้ว ที่ทำงานของเขาค่อนข้างไกลจากบ้านของหญิงสาวรวมทั้งรถที่ยังไม่ขยับหรือขยับทีละน้อยตามคำเล่าขานของกรุงเทพมหานคร นครแห่งการจราจรที่ติดขัด
ชายหนุ่มเอื้อมมือกดปุ่มเปิดเพลง แล้วดันแผ่นซีดีที่เสียบค้างเอาไว้เอาเข้าไปในเครื่องเล่นซีดี แล้วกดปุ่มให้เครื่องทำงาน เพลงซึ้งๆค่อยๆขับขานเพลงแล้วเพลงเล่าจนวนซ้ำหลายรอบแต่เขาก็ยังไม่สามารถฝ่าด่านการจราจรที่ติดขัดนี้ไปได้
ชายหนุ่มขยับเนคไทที่ให้คลายออก เพราะเขาเริ่มอึดอัดแล้ว หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือโทรหาน้องชาย
เสียงรอสายดังไม่นานนัก ก็มีเสียงปลายสายกรอกกลับมา
“สวัสดีครับพี่เฟร์“ น้องชายทักทายเสียงใส
“อืม....ฟาร์วันนี้พี่จะไปธุระหน่อยนะ“
“ดึกแล้วนะครับพี่ยังจะไปไหนอีก“
“แล้วเราล่ะอยู่ไหน พี่ว่านายไม่ได้อยู่บ้านแน่ๆ“
“แฮะๆ“ ชายหนุ่มหัวเราะแก้เก้อ เพราะตั้งแต่เขากลับมาจากต่างประเทศก็อยู่ไม่ติดบ้านเลยซักวัน วันนี้ก็เป็นอีกวันที่เขากำลังจะไปหาเพื่อนๆที่คลับของอาชิ จริงๆแล้วเขาก็อยากจะกลับบ้านไวๆอยู่เหมือนกัน ทั้งยังอยากจะกลับไปกินอาหารฝีมือป้านีอีกคิดถึงไม่ได้กินมาตั้งนานแต่ก็นะเพื่อนมันโทรมาชวนแถมยังมีธุระสำคัญจะบอกอีกต่างหาก ไม่รู้เรื่องอะไร ถ้าไม่สำคัญล่ะหน้าดู ชายหนุ่มคิด
“พี่เฟร์ก็อย่ากลับดึกมากนะครับ“ชายหนุ่มเป็นห่วงพี่ชายที่ทำงานมาทั้งวันแถมยังต้องไปทำโอทีอีก
“อืมๆขอบใจที่ห่วงพี่ เราก็ด้วยล่ะ อย่ากลับดึกมากนักนะ“
“เอาไว้ถ้านายกลับบ้านแล้วยังไม่นอนแล้วค่อยคุยกัน“
“ครับพี่เฟร์“น้อยชายตอบรับ
และแล้วเขาก็สามารถฝ่าจราจรที่ติดขัดนี้ไปได้ แต่ก็ใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมงที่รถค่อยๆขยับ
รถยนต์ของชายหนุ่มจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ของหญิงสาวที่เขาคิดถึง
เขาได้ลงไปกดกริ่งที่อยู่ตรงหน้าบ้าน หลังจากกดได้ไม่กี่ครั้ง น้อยหน่าสาวใช้ที่เขาได้เคยพบกันเมื่อคราวที่เคยมาบ้านหญิงสาวเมื่อนานมาแล้วนานก็ได้กล่าวทักทายเขาหลังจากที่เปิดประตูเล็กให้ชายหนุ่มเข้ามาในบ้าน
“สวัสดีคะคุณเฟร์“น้อยหน่าทักชายหนุ่ม
“สวัสดีน้อยหน่า“ชายหนุ่มทักตอบ
“คุณเฟร์มาหาคุณโมหรือคะ คือว่าคุณโมไม่อยู่บ้านคะ“
“เหรอครับ แล้วอีกนานไหมครับ“เธอถึงจะกลับ
“น้อยหน่าก็ไม่ทราบเหมือนกันคะ คือว่าคุณโมเธอไม่ได้บอกคะว่าจะกลับกี่โมง“
“แล้วน้อยหน่าทราบไหมครับว่าเธอไปไหน“ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงสุภาพจนน้อยหน่าอดชื่นชมความเป็นผู้ดีและความเป็นสุภาพบุรุษของชายหนุ่มไม่ได้
“เหรอครับ งั้นช่วยบอกคุณโมด้วยนะครับว่า เฟร์มาหา” ชายหนุ่มบอกหญิงสาวพร้อมแววตาเศร้าที่ทอดมองลงมายังสาวใช้
“คะคุณเฟร์ คุณเฟร์จะไม่เข้าไปรอเธอในบ้านหรือคะ“
“ไม่ดีกว่าครับ“ชายหนุ่มตอบ
“เข้าไปดื่มน้ำเย็นๆไหมคะ มาเหนื่อยๆ” น้อยหน่ายังคงเซ้าซี้ชายหนุ่ม เพราะเธอรู้ว่าแฟนของคุณโมเพิ่งเลิกงานแล้วตรงดิ่งมาหาคุณ
“ขอบคุณมากนะน้อยหน่า เอาไว้คราวหน้าผมจะมาใหม่“
“คะคุณเฟร์ แล้วน้อยหน่าจะบอกคุณโมให้นะคะว่าคุณเฟร์มาหา“
“ขอบใจน้อยหน่ามากนะ“แล้วชายหนุ่มก็ส่งยิ้มหวานที่ปนด้วยความเศร้าที่สาวคนไหนเห็นต้องละลายให้สาวใช้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
หลังจากชายหนุ่มขับรถยนต์คันงามออกไปน้อยหน่าที่ยืนคอยปิดประตูบ้านก็ใจเต้นไม่เป็นระส่ำเพราะแฟนคุณโมนี่หล่อน้อยซะเมื่อไหร่
เธอได้แต่คิดในใจว่าเมื่อไหร่จะมีเทพบุตรมาเคาะประตูหัวใจสาวใช้ตัวเล็กๆคนนี้ซะที คิดแล้วน้อยหน่าก็อดขำตัวเองไม่ได้ อิอิ...
หลังจากขับรถไปหาหญิงสาวที่บ้าน ชายหนุ่มก็ต้องพบกับความผิดหวัง เพราะเธอไม่อยู่บ้าน เขาอยากเจอเธอเหลือเกินแต่ก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ไหน หรือว่าคุณโมตั้งใจจะหลบหน้าเขา เขาเริ่มคิดจากสิ่งที่เห็น แต่ใจเขานี่สิไม่อยากให้เป็นตามที่คิดเลย เขาคงทนไม่ได้แน่ๆหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นจริงๆ เขาพยายามโทรหาหญิงสาวหลังครั้ง ทั้งยังฝากให้เลขาสาวติดต่อหญิงสาวแต่ก็ได้รับการตอบกลับว่าเธอไม่รับโทรศัพท์บ้าง ปิดเครื่องบ้าง ทุกครั้งที่เขาโทรไป จนตอนนี้เขาเริ่มมีความรู้สึกท้อแล้ว ท้อใจที่เธอทำกับเขาแบบนี้ แต่ก่อนตอนที่คบกันใหม่ๆ หญิงสาวมักรับโทรศัพท์ตลอด และหากไม่รับจริงๆเพราะมีธุระเธอยังอุตส่าห์ให้สาวใช้โทรติดต่อกลับมาว่าเธอไปไหน เพราะอะไรถึงไม่รับโทรศัพท์แต่นี่มันช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนนัก เขาอยากรู้เหลือเกินว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอ คุณโม เขาอยากถามจริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาถามตัวเองย้ำๆแต่คำถามเหล่านี้เขาเองที่ยังหาคำตอบไม่ได้จนกว่าจะได้พบกับหญิงสาวแล้วถามเธอให้รู้เรื่องเท่านั้น
หน้าปัดบอกความเร็วของรถยนต์ค่อยๆทวีความเร็วขึ้นตามแรงอารมณ์ เวลานี้ก็มืดค่ำเต็มที เขาอยากกลับไปพักผ่อนเหลือเกิน เพราะความเหนื่อยล้าจากการทำงานและจากการนั่งในรถเป็นชั่วโมงๆ พร้อมกับพักใจเพื่อเตรียมพร้อมรอโชคชะตาที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขาในอนาคต ขอเถอะโชคชะตาอย่าได้เล่นตลกกับความรักของเขาเลย.....
ÖÖÖÖÖÖÖÖ
ความคิดเห็น