คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : บทที่ 8
บทที่ 8
ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงยีน กับผมซอยแบบเซอร์ๆนั้นกำลังเดินเข้าสู่อาคาร โดยมีรปภ.เปิดประตูให้หญิงสาวเข้าไปในมือถือแผ่นซีดีที่พี่สาวฝากมาให้ชายหนุ่มที่เป็นเจ้าของบริษัท
เธอเดินเข้าไปยังโต๊ะประชาสัมพันธ์เพื่อแจ้งความประสงค์ถึงธุระที่มาติดต่อ
“สวัสดีคะ“ประชาสัมพันธ์ทักหญิงสาว
หญิงสาวยิ้มรับ
“คุณมีธุระอะไรคะ“ประชาสัมพันธ์ถามพร้อมมองรอยยิ้มนั้น เธอคิดว่าช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ารักและสดใสต่างจากบุคลิกภายนอกที่หญิงสาวพยายามแสดงออกยิ่งนัก
“คือว่าดิฉันจะมาพบคุณภณเวธคะ ที่เป็นเจ้าของบริษัทนี้“หญิงสาวบอกประชาสัมพันธ์ว่าเธอต้องการพบใคร
“คือว่าคุณมีธุระอะไรกับท่านหรือคะ“
“ขอโทษนะคะ คือว่าเรื่องนี้ฉันคงบอกคุณ
“ดิฉันต้องการพบท่านประธานคะ“เธอมองประชาสัมพันธ์สาวสายตามุ่งมั่นว่าวันนี้เธอจะต้องพบเขาให้ได้
“งั้นคอยสักครู่นะคะ ดิฉันจะติดต่อเลขาท่านประธานให้ว่าท่านว่างพบคุณไหม“
“ขอบคุณคะ“เธอบอกประชาสัมพันธ์สาวที่กำลังต่อสายไปยังเลขาของประธานบริษัท ระหว่างคอยสายนั้น ประชาสัมพันธ์สาวได้ถามว่าใครมาติดต่อ
“คือว่าจะให้บอกว่าใครต้องการพบคะ“
“บอกแค่ว่ามาด้วยธุระของคุณโมรียาก็พอคะ“เธอเลือกที่จะไม่บอกว่าเธอชื่ออะไร
“คะคะ“ประชาสัมพันธ์สาวตอบรับ
ระหว่างที่ประชาสัมพันธ์สาวกำลังสนทนาทางโทรศัพท์อยู่นั้น เธอเหลือบไปเห็นบอตรประกาศรับสมัครงาน เธอจึงเดินเข้าไปยังบอตรที่ตั้งอยู่ไม่ไกลนัก
“สวัสดีคะ“ประชาสัมพันธ์ทักปลายสาวซึ่งก็คือเลขาสาว
“สวัสดีจะ“ปลายสาวตอบกลับ
“มีอะไรหรือจ๊ะ“เลขาสาวถามประชาสัมพันธ์
“คือว่ามีแขกต้องการมาพบท่านประธานคะ เธอมาด้วยเรื่องธุระของคุณโมลียาคะ“ประชาสัมพันธ์บอกตามที่หญิงสาวบอก
“อ่อ ..เหรอจ๊ะ ตอนนี้ท่านประธานกำลังอยู่ในห้องทำงานพอดี เชิญเธอขึ้นมาเลยจะ“
“คะคะ“ประชาสัมพันธ์รับคำ
ประกาศรับสมัครงานเหรอ เธอพูดกับตนเอง
อ่านต่อซิ อืม....ต้องการนักออกแบบหนึ่งตำแหน่ง ด่วน มีความคิดสร้างสรรค์ ให้มาสอบสัมภาษณ์กับสอบปฏิบัติ จันทร์นี้ จันทร์นี้เหรอ อืม น่าสนใจแฮะ ช่วงนี้กำลังว่างงานพอดี เรื่องงานของคุณพ่อกับคุณแม่ค่อยคุยกับท่านอีกทีว่าจะขอผ่อนผันได้ไหม ผ่อนผันเหมือนของเลื่อนการเป็นทหารเลยแฮะ..... หญิงสาวยิ้มกับความคิดตนเอง ถ้ามันไม่ได้ค่อยทำมันสองอย่างนี่แหละ หญิงสาวคิด ไม่รู้มันจะดีอย่างที่คิดหรือเปล่านะ เฮ่อ....
“เอ่อ....คุณคะ“ประชาสัมพันธ์สาวเรียกเธอที่กำลังวุ่นกับความคิดตนเอง
“คือว่าเชิญไปพบท่านประธานข้างบนได้เลยคะ กดลิฟต์ชั้นบนสุดนะคะ“
“ขอบใจมากนะจ๊ะ อ่อ ดิฉันมีเรื่องจะถามคะ เกี่ยวกับประกาศรับสมัครงาน ไม่ทราบว่าตอนนี้ปิดรับสมัครหรือยังคะ“
“อ๋อยังคะ“ประชาสัมพันธ์ตอบ
“คือว่าดิฉันสนใจคะ ไม่ทราบว่ายังพอมีใบสมัครอยู่ไหมคะ“
“มีคะ เชิญหยิบด้านข้างได้เลยคะ“ประชาสัมพันธ์บอกหญิงสาว
เมื่อหญิงสาวร่างบางหยิบใบรับสมัครแล้วก็กรอกตาสำรวจใบสมัครนั้นทันที เธอตัดสินใจที่จะส่งใบสมัครเลยดีกว่าเพราะเธอขี้เกียจกลับมาส่งใบสมัครหลายรอบ ถ้าจะมาอีกทีคงมาตอนที่สอบสัมภาษณ์เลยดีกว่า
รายละเอียดใบสมัคร
ชื่อ................................... นามสกุล.............................
อายุ...................
จบการศึกษา...................................................................
ความสามารถพิเศษ........................................................
ความสนใจ.....................................................................
เบอร์โทรที่ติดต่อได้สะดวก...............................................
ฯลฯ
หญิงสาวหยิบปากกาขึ้นมาแล้วเขียนด้วยลายมือที่แสดงถึงความเป็นตัวเธอ ลายมือหวัดแต่หนักแน่น
ชื่อเหรอ หญิงสาวคิด ใช้ชื่อกับนามสกุลปลอมดีกว่า เพราะเธอเกิดพ่อแม่รู้ว่าเรามาทำงานที่นี่ต้องแย่แน่ๆ ทุกอย่างในใบสมัครปลอมเกือบหมด นอกเสียจากอายุที่เธอกรอกตามความจริง เพราะเธอไม่รู้ว่าจะปิดบังเรื่องอายุทำไม ในเมื่อมันไม่มีผลกระทบอะไรตามมาแน่นอน
รายละเอียดใบสมัคร
ชื่อ มิษรียา นามสกุล แจ่มจรัส
อายุ 23 ปี
จบการศึกษา มหาวิทยาลัย .....
ความสามารถพิเศษ ออกแบบ วาดรูป
ความสนใจ งานแฟชั่นทุกชนิด ทุกประเภท
เบอร์โทรที่ติดต่อได้สะดวก 08xx-xxxxxxx
ฯลฯ
เมื่อกรอกเสร็จหญิงสาวก็ยิ้มให้กับใบสมัครที่อยู่ในมือ พร้อมกับยื่นให้ประชาสัมพันธ์สาวที่กำลังโทรศัพท์ติดต่อธุระอยู่หลังจากวางสายแล้วเธอก็รับเอกสารนั้น
“เชิญคุณไปพบท่านเลยดีกว่าคะ“ประชาสัมพันธ์สาวบอก
“คะ“เธอตอบรับ
หลังจากกดลิฟท์ชั้นบนสุดตามที่ประชาสัมพันธ์สาวบอก นานพอสมควรกว่าลิฟท์จะจอดยังชั้นที่ต้องการ
ร่างบางเดินออกจากลิฟท์แล้วเดินผ่านพนักงานหนุ่มๆที่มองเธอตั้งแต่ขาเธอก้าวออกจากลิฟท์ด้วยสายตาที่ตะลึงในความสวยและน่ารัก
หญิงสาวหยุดยังโต๊ะที่เลขาสาวที่กำลังรัวแป้นคอมพิวเตอร์อยู่
หลังจากรับรู้ว่ามีคนมาหยุดอยู่ตรงหน้า เลขาสาวจึงหยุดจากงานที่ทำชั่วคราว แล้วเงยหน้ามองแขกผู้มาเยือน
หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เธอสังเกตดูแล้วเป็นคนที่มั่นใจตัวเองไม่น้อย และที่สำคัญดวงตากลมโตที่สดใส จมูกโด่งกับริมฝีปากที่แย้มยิ้มส่งมาให้ ชวนมองยิ่งนัก โดยเฉพาะการแต่งกายที่ดูง่ายๆ แต่ว่าเธอคิดว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรที่มากกว่าความง่ายที่ถ่ายทอดออกมาแน่นอน
“ดิฉันมาพบท่านประธานคะ“หญิงสาวร่างบางบอกความประสงค์แก่เลขาสาว
“เชิญเลยคะ ท่านรอคุณอยู่แล้ว“
เลขาสาวได้ลุกออกจากเก้าอี้ประจำ แล้วเดินนำหญิงสาวร่างบางไปยังประตูใสๆที่มีม่านกั้น พร้อมกับเคาะประตู
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ไม่ทันถึงครั้งที่สี่ เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้น
“เข้ามาได้“ชายหนุ่มบอกเลขาสาว
“คือว่าเธอมาแล้วคะ“
“เชิญเธอเข้ามาเลย“ชายหนุ่มบอก
ไม่ทันที่เลขสาวจะไปตามเธอที่ยืนคอยอยู่ไม่ห่างนัก เธอก็ได้ก้าวเข้ามาในห้องแล้ว
หญิงสาวสำรวจชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า แล้วเขาเองก็กำลังสำรวจเธอเช่นกัน
ชายหนุ่มที่เป็นแฟนพี่โมนี้จะเรียกได้ว่าหล่อธรรมดาก็ไม่ใช่ แต่จัดว่าสมบูรณ์แบบทุกอย่าง
วงหน้าที่เรียว จมูกโด่ง กับผมที่ตัดตามแบบผู้ชายทั่วไปที่เป็นสีน้ำตาล ผิวที่ขาวจัดเหมือนไม่เคยโดนแดน ดวงตาสีน้ำตาลที่ดูแล้วมีมนต์เสน่ห์ดึงดูดผู้ที่ถูกจับจ้อง เธอคิดในใจว่า สมแล้วกับพี่โมจริงๆ ชายหนุ่มตรงหน้าดูดีมากๆ แต่เธอก็ยังไม่รู้นิสัยว่าดีหรือไม่ เธอไม่อยากตัดสินคนที่ภายนอก แม้ว่าเขาหรือใครก็ตามจะดูดีหรือดูไม่ดีเพียงใด ที่สำคัญของความเป็นคนคือลักษณะนิสัยที่ต้องเรียนรู้กัน ไม่แน่ว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่ดูดีอาจจะเป็นคนที่นิสัยไม่ดี หรือนิสัยเลวร้ายก็เป็นได้ ดังนั้นที่สำคัญของการเลือกคบคนคือการระวังตัว และข้อนี้เธอก็ไม่เคยลืมและย้ำเตือนตัวเองเสมอ
“สวัสดีคะ“หญิงสาวทักชายหนุ่มที่กำลังจับจ้องเธอเช่นกัน
หญิงสาวร่างเล็กที่กำลังเอ่ยทักเขาอยู่นั้น ใส่เสื้อผ้าแบบสบายๆ เหมือนคนที่ยังไม่ทำงาน ใบหน้าที่ดูคุ้นตา คลับคล้ายคลับคลาว่าเหมือนใครแต่ก็นึกไม่ออก ที่สำคัญผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้มีความมั่นใจในตัวเองไม่ใช่น้อย เขาสังเกตจากท่าทางการยืนของเธอ กับความไม่สนใจอะไร ซึ่งเขาสังเกตจากทรงผมออกแนวเซอร์ๆของหญิงสาวและใบหน้าที่ปราศจากการตกแต่งเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ทำให้ใบหน้าของหญิงสาวเผยผิวใสสีชมพูระเรื่อ พร้อมกับดวงตาที่กำลังจับจ้องเขา ซึ่งเขาคิดว่าเธอกำลังคิดว่าเมื่อไหร่เขาจะเชิญเธอนั่งเสียที
แล้วก็จริงอย่างที่เขาคิด เพราะว่าหญิงสาวได้ถือวิสาสะนั่งตรงเก้าอี้ที่อยู่ตรงหน้าโดยที่เขาไม่ทันเชิญ เพราะมัวแต่สำรวจเธอ
เขาจึงคิดว่าสิ่งที่เขาเห็นในความเป็นเธอนั้นน่าจะถูกต้องเกือบ เก้าสิบเปอร์เซ็นต์
แต่มันจริงมากจริงน้อย อันนี้ก็ต้องศึกษาและดูกันต่อไป
หญิงสาวพูดเข้าประเด็นทันทีเมื่อได้นั่งลงบนเก้าอี้ตัวใหญ่
“ดิฉันมาด้วยธุระของคุณโมรียาคะ“หญิงสาวกล่าว
ทันทีที่ได้ยินชื่อหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึง ทำให้ชายหนุ่มจ้องหน้าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้ายิ่งขึ้น
“คุณเป็นอะไรกับคุณโมครับ“ชายหนุ่มถาม
“อันนี้คุณยังไม่ต้องรู้ดีกว่าคะ เอาเป็นว่าฉันมาธุระของคุณโมรียา ด้วยการทำหน้าที่ส่งสาสน์เท่านั้นพอคะ“
“หรอครับ“ ชายหนุ่มตอบรับ
“งั้นเชิญคุณพูดธุระของคุณเลยดีกว่าครับ“ชายหนุ่มบอกหญิงสาว
“คะ คือว่าคุณโมลียาฝากของมาให้คุณคะ“เมื่อหญิงสาวพูดจบเธอก็ยื่นกล่องที่ภายในบรรจุซีดีให้ชายหนุ่ม
ชายหนุ่มยื่นมือออกไปรับของนั้นด้วยสีหน้าสงสัย แต่ภายในใจกลับตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก
“ดิฉันคิดว่าดิฉันทำธุระเสร็จเรียบร้อย งั้นดิฉันขอตัวเลยนะคะ“หญิงสาวบอกชายหนุ่มที่กำลังมองของที่อยู่ในมือ
“ครับ ขอบคุณมากนะครับ“ชายหนุ่มกล่าวขอบคุณหญิงสาว แล้วพูดต่อว่า “โอกาสหน้าเราคงได้เจอกันนะครับ“แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มให้หญิงสาว
“คะ ดิฉันก็คิดว่างั้น“เธอพูดจบแล้วเธอก็ยิ้มตอบชายหนุ่มเช่นกัน
ที่เธอตอบไปแบบนั้นก็เพราะว่า ไม่แน่ในอนาคตเธออาจจะได้มาทำงานที่นี่ก็เป็นได้ ไม่ใช่ในฐานะของน้องสาวแฟนประธานบริษัทแต่เป็นในฐานะนักออกแบบมีฝีมือที่เธอต้องปลอมตัวอีกรอบ โดยหลีกเลี่ยงการเผยตัวในนามช่างศิลป์ เพราะเธออาจจะต้องเลิกเป็นนักออกแบบในสักวันหนึ่ง ดังนั้นขอแค่ใช้เวลาสั้นสร้างผลงานบ้างเล็กน้อยๆก็คงไม่เป็นไรนัก พ่อแม่ของเธอคงไม่รู้แน่เพราะเธอใช้ชื่อปลอมอีกตามเคย
ทีนี้ละเรื่องราวชักจะยุ่งไปกันใหญ่ กับการกระทำของหญิงสาวทั้งสองที่หาเรื่องจริงๆ ๆไม่ว่าจะเป็นโมรียาตัวจริงที่พยายามแล้วพยายามเล่ากับการทำบางสิ่งที่ไม่สำเร็จซักที ส่วนอีกหนึ่งสาวที่อยากทำตามฝันแต่ก็มีอุปสรรคมาขวางกั้น เธอจึงเลือกที่จะปิดบังตัวตนจริงๆของเธอทีนี้อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ......แล้วทีนี้ตัวตนจริงๆของเธอนั้นคือใคร ต้องติดตามกันต่อไปแล้วล่ะ แผนการของหญิงสาวทั้งสองจะเป็นไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เฮ่อ.....ปวดหัวๆจริงๆ
ความคิดเห็น