ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Base Ball

    ลำดับตอนที่ #8 : บทที่ 8 : กติกาเบสบอล 7

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 106
      0
      12 เม.ย. 52

       อะชะแว๊บ กติกาเบสบอลก็มาถึงตอนที่ 7 แล้ว เมื่อไหร่จะหมดซักทีว้า แหะแหะ ไปถามผู้รู้กันดีกว่า

       แหะแหะ ไม่ต้องพูดเหมือน ยกย่องก็ได้ มาต่อกันเลยนะครับ


    ตอน 7.00

    Runner

    ข้อ 7.01

    Runner

    จะได้สิทธิ์ครอบครองเบสที่ไม่มีผู้ครอบครองอย่างถูกต้องเมื่อแตะเบสก่อนที่จะ

    out

    ครอบครองเบสนั้น

    ถ้า

    และได้สิทธิ์ครอบครองต่อไปจนกว่าจะ out หรือถูกบังคับตามหน้าที่ถ้ามีrunner คนอื่นได้สิทธิ์runner ได้รับสิทธิ์ครอบครองเบสอย่างถูกต้อง และ pitcher ประจำที่ตำแหน่ง runner

    ไม่อาจกลับเบสที่ได้ครอบครองมาก่อน

    ข้อ 7.02

    ในการ

    ในการบังคับให้กลับจะต้องแตะเบสทวนกลับตามลำดับเช่นกัน นอกจากลูกตายที่กำหนดไว้ในข้อ 5.09 ที่บาง

    กรณี

    advance ของ runner จะต้องแตะเบส1 เบส2 เบส3 และ home plate ตามลำดับrunner อาจจะตรงไปยังเบสเริ่มต้นได้เลย

    ข้อ 7.03

    Runner 2

    คน ไม่สามารถครอบครองเบสเดียวกันได้ แต่ถ้าขณะลูกบอลอยู่ในการเล่น

    runner

    ครอบครองเบส

    2 คนแตะอยู่ที่เบสเดียวกัน runner ที่ตามมา จะ out ถ้ามีการแตะตัว runner ที่อยู่ก่อนเป็นได้สิทธิ์

    ข้อ 7.04

    Runner

    แต่ละคนนอกจาก batter จะไม่ถูก put out และจะได้advance 1 เบส เมื่อ

    a)

    b) Batter

    เกิด balkได้advance และดันให้runner คนอื่นๆ ต้อง advance ไปด้วย หรือเมื่อ

    batter

    ตีลูก fair ball ถูก runner คนอื่นหรือผู้ตัดสินก่อนที่ลูกบอลจะถูกหรือผ่าน

    fielder

    c)

    ในฝูงคนมื่อมีคนดูลงมาในสนาม

    ถ้า runner ถูกบังคับให้ต้อง advanceหลังรับลูก fly ball fielder ล้มเข้าไป bench หรืออัฒจันทร์ หรือล้มข้ามเชือกเข้าไป

    d)

    ขณะพยายามขโมยเบส catcher กีดขวาง batter หรือ fielder คนอื่นๆ

    หมายเหตุ

    กติกาที่ลูกบอลอยู่ในการเล่น หลังจาก

    ที่ซึ่งได้สิทธิ์ก่อนพยายาม

    : เมื่อ runner ได้สิทธิ์ครอบครองเบสโดยไม่มีการ put out ขณะลูกบอลอยู่ในการเล่น หรือภายใต้runner ไปถึงเบสที่ได้สิทธิ์ครอบครอง และ runner พลาดการแตะเบสadvance ไปที่เบสข้างหน้า runner จะถูกปรับการยกเว้นจากไม่ต้องรับผิดเป็นการ

    put out

    พลาด

    และอาจจะ put out ด้วยการแตะเบส หรือโดยการแตะตัว runner ก่อนที่จะกลับมายังเบสที่แตะ

    ข้อ 7.05

    Runner

    แต่ละคนรวมทั้ง batterrunner

    จะไม่ถูก

    a) home plate

    ถูกต้อง หรือถ้า

    บอลเปลี่ยนทิศทางไปจากการขว้างถุงมือหมวก หรือสิ่งต่างๆ ของเครื่องแต่งกาย

    put out และได้advance ไป :โดยจะได้run ถ้า fair ball ลอยออกไปนอกสนาม และได้แตะเบสทุกเบสอย่างfair ball ซึ่งในความเห็นของผู้ตัดสินควรจะลอยออกนอกสนาม fielder ทำให้ลูก

    b)

    ออก ให้ถือว่าลูกบอลอยู่ในการเล่นและ

    c)

    3 เบส ถ้า fielder เจตนาแตะลูก fair ball ด้วยหมวก หน้ากากหรือส่วนของเครื่องแต่งกายที่ถอดbatter อาจจะ advance ไปที่home plate3 เบส ถ้า fielder เจตนาขว้างถุงมือไปถูกลูก fly ball ให้ถือว่าลูกอยู่ในการแล่นและ batter อาจจะ

    advance

    d)

    ให้ถือว่าลูกบอลอยู่ในการเล่น

    ไปที่home plate ด้วยการเสี่ยงที่จะถูก put out2 เบส ถ้า fielder เจตนาดักลูกที่ขว้างด้วยหมวก หน้ากาก หรือส่วนของเครื่องแต่งกายที่ถอดออก

    e)

    ในข้อ

    หน้ากากต้องถูกลูกบอล ไม่มีการลงโทษถ้าไม่ถูกลูกบอล

    2 เบส ถ้า fielder เจตนาขว้างถุงมือไปถูกลูกจากการขว้าง ให้ถือว่าลูกอยู่ในการเล่นb) c) d) e) ผู้ตัดสินจะต้องเข้าใจกติกา ว่าการขว้างถุงมือหรือถอดหมวก หรือถอด

    f)

    หรือ เบส3 หรือถ้าเข้าไปใต้รั้ว

    2 เบส ถ้าลูก fair ball กระดอนหรือเปลี่ยนทิศทางเข้าไปในอัฒจันทร์นอก foul line ด้าน เบส1

    g)

    ในสนาม หรือเข้าไปใน

    เมื่อมีการขว้างลูก

    ดูจากตำแหน่งที่

    2 เบส เมื่อไม่มีผู้ดูในสนามแข่งขัน ลูกบอลขว้างเข้าไปในอัฒจันทร์ ใน bench แล้วกระดอนเข้ามาfence backstop หรือติดอยู่ในตาข่ายที่ป้องกันด้านคนดู ให้เป็นลูกตายwild ที่เป็นการขว้างลูกแรกด้วย infielder ผู้ตัดสินจะให้ครอบครอง 2 เบส โดยrunner ครองครองขณะ pitch ลูกในกรณีอื่นๆ ผู้ตัดสินจะนับจากตำแหน่งที่runner

    ครอบครองขณะ

    pitch ลูก ในกรณีอื่นๆ ผู้ตัดสินจะนับจากตำแหน่งที่runner อยู่ขณะขว้าง wild

    ข้อตกลง

    : ถ้า runner ทั้งหมดรวมทั้ง batterrunner

    ได้

    advance อย่างน้อย 1 เบส เมื่อ

    Infielder

    ขว้าง wild ที่เบส 1 หลังจาก pitch การให้ครอบครองเบสจะต้องดูจากตำแหน่งที่runner

    ครอบครองเมื่อเกิดขว้าง

    h)

    plate

    wild1 เบส ถ้าลูกบอล pitch ไปยัง batter หรือขว้างจาก pitcher จากตำแหน่งที่อยู่บน pitcher’sไปที่เบสเพื่อเล่นกับ runner เข้าไปในอัฒจันทร์หรือ bench หรือเข้าไปใน field fence หรือ

    backstop

    ข้อตกลงกติกา

    ให้เป็นลูกตาย: เมื่อเกิด wild pitch หรือขว้างลูกไปยัง catcher ลูกบอลเปลี่ยนทิศทางเข้าไปใน

    dugout

    อยู่บน

    อย่างไรก็ตามถ้าเป็นการ

    อัฒจันทร์ หรือพื้นที่อื่นที่เป็นบริเวณลูกตาย จะให้ครอบครอง 1 เบส เช่นเดียวกับถ้า pitcher ขณะpitcher’s plate ขว้างลูกบอลไปยังเบสลูกบอลเข้าไปในอัฒจันทร์หรือพื้นที่อื่นๆ ที่เป็นบริเวณลูกตายpitch หรือขว้างเข้าไปในสนามโดย pitcher หรือ catcher หรือ fielder

    เข้าไปในสนามและยังคงอยู่ในสนามเล่น และลูกบอลถูกเตะหรือกระดอนเข้าไปที่

    บริเวณที่เป็นลูกตาย จะให้ครอบครอง 2 เบส จากตำแหน่งของ

    dugout หรืออัฒจันทร์ หรือrunner ในขณะที่pitch หรือขว้าง

    i)

    ผ่าน

    ถ้า

    1 เบส ถ้า batter กลายเป็น runner จากการ pitch เสีย 4 ball หรือ 3 strike เมื่อ pitch ลูกcatcher เข้าไปอยู่ในหน้ากากหรือเครื่องแต่งกายผู้ตัดสินbatter กลายเป็น runner จาก wild pitch ซึ่งได้ให้สิทธิ์ runner advance 1 เบส batterrunner

    จะได้สิทธิ์ไปที่เบส 1 เท่านั้น

    ข้อ 7.06

    เมื่อเกิดการกีดขวางผู้ตัดสินจะให้สัญญาณกีดขวาง

    a)

    (obstruction)ถ้ามีการกีดขวางที่runner หรือถ้ากีดขวางที่batterrunner

    ก่อนที่จะถึงเบส 1 จะเป็นลูกตาย

    runner

    ขวาง

    การกีดขวาง

    ทั้งหมดจะ advance ไปยังเบสที่ควรจะได้สิทธิ์ครอบครองตามความเห็นของผู้ตัดสินถ้าไม่มีการกีดrunner จะได้สิทธิ์ครอบครองอย่างน้อย 1 เบส จากเบสสุดท้ายที่ได้ครอบครองอยู่ก่อน

    runner

    คนอื่นๆ ที่อยู่ข้างหน้าจะได้สิทธิ์ advance จากการกีดขวางเช่นเดียวกัน

    b)

    จะขาน

    ถ้าไม่มีการกีดขวาง runner การเล่นจะดำเนินต่อไปจนกว่าจะไม่สามารถเล่นต่อไปได้ผู้ตัดสินจึงtime และลงโทษตามเหตุของการกีดขวาง

    ข้อ 7.07

    มี

    runner ที่เบส 3 และพยายามที่จะทำrun โดยการขโมยหรือ squeeze ผู้เล่น catcher หรือ

    fielder

    ไม้ตี

    คนอื่นๆ ที่ยืนอยู่บนหรือข้างหน้า home plate ที่ไม่มีลูกอยู่ในครอบครอง หรือถูก batter หรือถูกpitcher จะถูกปรับเป็น balk โดย batter จะได้สิทธิ์ครอบครองเบส 1 จากการกีดขวาง และเป็นลูกตาย

    ข้อ 7.08

    Runner

    จะ out เมื่อ

    a)

    หลบเพื่อไม่ให้เกิดการกีดขวางของ

    2) หลังจากแตะเบส 1 ออกจาก

    1) วิ่งออกนอกเส้นระหว่างเบสเกิน 3 ฟุต เพื่อหลบหลีกการแตะตัวจากฝ่ายรับนอกจากเป็นการfielder ที่รับลูกจากการตีbase line เห็นชัดว่าจะไม่พยายามไปแตะที่เบสต่อไปข้างหน้า

    ตีความกติกา

    : เมื่อ batter กลายเป็น runner จาก strike 3 ที่catcher รับลูกไม่ได้และเริ่มไปที่

    bench

    เพื่อการ put out ฝ่ายรับจะต้องนำลูกบอลแตะตัวหรือแตะเบส 1 ก่อนที่batter จะแตะเบส 1

    b)

    ตั้งใจกีดขวางการขว้างลูกบอลหรือขัดขวาง fielder ที่พยายามที่เล่นลูกจากการตี

    ข้อยกเว้น

    : batterrunner

    ไม่สามารถถูกแตะตัวให้

    ถ้ารีบกลับเข้าเบส

    การตีความกติกา

    out หลังจากวิ่งผ่านหรือ overslide เบส 1:

    1)

    เบสด้วยความปลอดภัย

    ถ้าการปะทะของ runner ทำให้เบสหลุดจากการที่ จะไม่มีการเล่นกับ runner ที่เบสนั้นถ้าถึง

    2)

    ครอบครองเบส ถ้าในความเห็นของผู้ตัดสิน

    ไป

    ถ้าเบสหลุดจากที่ขณะการแข่งขันยังดำเนินอยู่ runner อื่นๆ ที่ตามมาจะต้องพิจารณาว่าแตะหรือrunner ได้แตะหรือครอบครอง ณ ที่กำหนดไว้ก่อนที่เบสจะหลุด

    c) runner

    นั้นถูกแตะโดย

    แรก หรือการเล่นอื่นๆ ที่พยายามจะเล่นเป็นการเล่นที่ต้อง

    ไม่ได้กลับมาแตะเบสหลังจาก fielder รับลูก fair ball หรือ foul ball ได้และเบสfielder ที่ถือลูกบอล เขาจะไม่ถูกขาน out จากการไม่ได้กลับมาแตะเบส หลังจาก pitch ลูกappeal

    ไม่จำเป็นต้อง

    tag up จาก foul tip และสามารถขโมยเบสจาก foul tip ได้ถ้าลักษณะเหมือน tip

    แต่รับลูกไม่ได้ จะเป็นการ

    foul ตามปรกติ runner จะกลับสู่เบสเดิม

    d)

    ลูกแตะเบสหรือแตะตัวก่อนที่จะถึงเบส หลังจากเกิดการบังคับให้advance เนื่องจาก batter

    กลายเป็น

    จะหมดไป จะแตะตัว

    runner อย่างไรก็ตามถ้า runner ที่ตามมาถูก put out จาก force play การเล่น force ข้างหน้าrunner เท่านั้นจึงจะ out

    การเล่นที่เป็น

    ถ้าเป็น

    แตะเบสข้างหน้า

    play

    force จะหมดไปทันทีที่runner ได้แตะเบสข้างหน้าที่ถูก force ให้advance และoverslide หรือ overrun ที่เบสจะต้องแตะตัว runner เท่านั้นจึงจะ out อย่างไรก็ตามถ้าภายหลังforce runner หลบด้วยเหตุผลต่างๆ ไปข้างหน้าเบสที่ได้ครอบครองครั้งสุดท้าย forceจะกลับไปอย่างเดิม และสามารถถูก put out ถ้าฝ่ายรับแตะเบสบังคับนั้น

    e) runner

    ถูกลูกบอลใน fair territory ก่อนที่ลูกบอลจะผ่านหรือ fielder ถือว่าเป็นลูกตาย

    runner

    อื่นไม่สามารถ advance หรือทำคะแนนได้ ยกเว้นกรณีforce advance

    ข้อยกเว้น

    : ถ้า runner กำลังแตะเบสเมื่อถูกตัวจาก infield fly จะไม่out ถึงแม้ว่า batter จะ

    out

    ถ้า

    เป็นลูกตายทันที

    ถ้า

    f) runner

    runner 2 คน ถูกลูก fair ball จะ out เพียงคนแรกคนเดียว เพราะว่าเมื่อถูกคนแรกแล้วลูกนั้นจะrunner ถูกลูก infield fly เมื่อไม่ได้แตะเบส ทั้ง runner และ batter จะ outพยายามจะทำrun จากการเล่นซึ่ง batter กีดขวางการเล่นที่home plate ยังไม่ถึง 2

    out

    g)

    h)

    ความสับสน ผู้ตัดสินจะขาน

    i)

    เบส 2 และถูกแตะตัวจะ

    หรือถึง 2 out การกีดขวางนั้นจะทำให้batter ถูกขาน out และไม่นับ runผ่าน runner คนอยู่ข้างหน้าที่ยังไม่outภายหลังจากได้เข้าครอบครองเบสอย่างถูกต้อง วิ่งกลับทางโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ฝ่ายรับเกิดtime ทันทีและขาน runner outภายหลังจากวิ่งผ่านหรือ overslide ที่เบส 1 และไม่ได้กลับเข้าแตะเบสถ้าพยายามที่จะวิ่งไปยังout

    ถ้าหลังจากวิ่งผ่านหรือ

    ถูกขาน

    overslide ที่เบส 1 และเริ่มเข้าไปที่dugout หรือเข้าไปยัง bench จะout ถ้าถูกแตะตัวหรือแตะเบส

    j)

    ในการวิ่งหรือ slide ที่home plate ไม่ได้แตะเบสและไม่ได้พยายามที่จะกลับเข้าแตะเบสเมื่อ

    fielder

    กติกาข้อนี้ใช้กับเฉพาะ

    ปกติที่

    จะ

    ถือลูกไว้ในครอบครองขณะแตะเบส และ appeal กับผู้ตัดสินrunner ที่อยู่ในลักษณะกลับเข้าไปที่bench ไม่ได้ใช้ลักษณะการเล่นrunner พลาดการแตะเบส และในทันทีได้พยายามที่จะแตะเบสก่อนที่จะถูกแตะตัว ซึ่งจะต้องแตะตัวจึงout

    ข้อ 7.09

    batter หรือ runner กีดขวางเมื่อ

    a)

    ภายหลังจาก 3 strike ได้กีดขวาง catcher พยายามรับลูกบอล

    b)

    ภายหลังจากการตีหรือ bunt และเป็น fair ball ไม้ตีถูกลูกบอลเป็นครั้งที่2 ใน fair territory

    เป็นลูกตาย และ

    runner ไม่สามารถ advance ถ้า batterrunner

    ทิ้งไม้และลูกบอลกลิ้งมาถูกไม้ใน

    territory

    fairในความเห็นของผู้ตัดสินไม่ได้เจตนาที่จะกีดขวางการเคลื่อนที่ของลูก และลูกยังอยู่ในการเล่น

    c)

    เจตนาที่จะเปลี่ยนทิศลูก foul ball ในวิธีการต่างๆ

    d)

    ก่อน 2 out มีrunner อยู่ที่เบส 3 batter บังการเล่นของ fielder ที่home plate ในกรณีนี้

    runner

    e)

    จะ outสมาชิกของฝ่ายรุกยืนหรือชุมนุมกันรอบเบสที่runner ได้advance เพื่อทำให้เกิดการสับสน

    runner

    f) batter

    นั้นจะถูกขาน outหรือ runner ที่เพิ่งถูกขาน out บังหรือขัดขวางการเล่นที่กำลังเล่นต่อเนื่องกับ runner

    คนอื่นๆ

    ถ้า

    ให้เกิดการสับสน บัง หรือ กีดขวาง

    g)

    กำลังจะรับลูกบอลโดยเห็นชัดว่าเจตนาที่จะป้องกันการเล่น

    runner นั้นจะถูกขาน out เนื่องจากการกีดขวางของเพื่อนร่วมทีมbatter หรือ runner ทำการ advance ต่อไปหลังจากที่ out แล้วจะต้องมองว่าเป็นการทำfielderถ้าในความเห็นของผู้ตัดสิน runner เจตนากีดขวางลูกบอลจากการตีหรือ fielder ในอาการที่double play จะเป็นลูกตาย ผู้ตัดสินจะขาน

    runner out

    out

    ระหว่างการเกิดเช่นนี้

    จากสาเหตุการกีดขวาง และเช่นเดียวกันจะขาน batterrunnerจากสาเหตุเดียวกันในrunner อื่นจะ score run ไม่ได้

    h)

    ถ้าในความเห็นของผู้ตัดสิน batterrunner

    เจตนากีดขวางลูกบอลจากการตี

    กำลังจะรับลูกบอลจากการตีโดยเห็นชัดว่ามีเจตนาที่จะป้องกันการเล่น

    ขาน

    out

    plate

    i)

    fielder ในท่าที่double play จะเป็นลูกตาย ผู้ตัดสินจะbatterrunnerจากสาเหตุการกีดขวาง และเช่นเดียวกันจะขาน runner ที่เคลื่อนที่เข้าใกล้ homeมากที่สุด outในความเห็นของผู้ตัดสิน โคชที่อยู่ด้านเบส1 หรือ เบส3 ถูกตัวหรือจับ runner ใช้ร่างกายช่วย

    runner

    ให้กลับหรือออกจากเบส 1 หรือ เบส3

    j)

    k)

    ออกข้างนอก (ไปทางขวา) เส้น 3 ฟุต หรือเข้าไปข้างใน (ไปทางซ้าย)

    เป็นการรบกวนการรับลูกที่เบส 1 หรือรบกวนการขว้างไปที่เบส 1

    เส้น 3 ฟุต เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่3 ฟุต แต่การตีความคือ

    ฟุต หรือเส้น 3 ฟุต

    มีrunner ที่เบส3 โคชที่เบสได้ออกจาก catch’s box และได้ทำการดึงการขว้างของ fielderในการวิ่งครึ่งหลังของระยะทางจาก home plate ถึงเบส 1 ขณะที่ลูกบอลกำลังรับที่เบส 1 ได้วิ่งfoul line และในความเห็นของผู้ตัดสินrunner จะต้องให้เท้าทั้งสองอยู่ในพื้นที่3

    l)

    เป็นต้นว่า ถ้า

    จะต้องชี้ว่า

    ไม่ได้หลบหลีกการรับลูกของ fielder ที่กำลังรับลูกจากการตีหรือตั้งใจกีดขวางการขว้างลูกบอลfielder สองคนหรือมากกว่าตั้งใจเข้ารับลูกจากการตี และ runner ปะทะคนหนึ่งคนใด ผู้ตัดสินfielder คนใดที่ได้ประโยชน์กับกติกาข้อนี้ และจะยังไม่ขาน runner out จากการชน fielder

    นอกจากว่า ผู้ตัดสินเห็นว่าคนที่ถูกชนเป็นที่จะรับลูกนั้น

    m)

    ลูก fair ball ถูกตัวใน fair territory ก่อนที่จะถูก fielder ถ้าลูกผ่าน infielder และถูกตัว

    runner

    ตัดสิน ผู้ตัดสินจะต้องชี้แจงให้เข้าใจว่าเป็นลูกที่ผ่านมาจาก

    ลูกนั้น ถ้าในความเห็นของผู้ตัดสิน

    กรณีนี้

    บทลงโทษ

    ข้อ 7.10

    ทันที หรือลูกบอลเปลี่ยนทิศทางจาก fielder ไปถูก runner ผู้ตัดสินจะไม่ขาน runner out ในการfielder และไม่มีfielder คนใดมีโอกาสที่จะเล่นrunner เจตนาจะเตะลูกบอลที่มาจากการตีที่ผ่าน infielder ที่รับพลาด ในrunner จะถูกขาน out จากการรบกวนการเล่น: บทลงโทษสำหรับการกีดขวางทุกประเภท คือ runner out และเป็นลูกตาย

    runner

    a)

    กลับเข้าแตะเบสในความหมายคือ

    ถูกลูกบอล ถ้าออกไปจากเบสก่อนที่ฝ่ายรับจะรับลูก

    ออกไปจากเบสขณะที่เป็น

    b)

    ก่อนที่ฝ่ายรับจะนำลูกบอลมาแตะเบสที่ไม่ได้แตะนั้น

    การตีความกติกา

    จะถูกขาน out จากการ appeal เมื่อ :ภายหลังรับลูก fly ball ไม่ได้กลับเข้าแตะเบสก่อนฝ่ายรับนำลูกบอลมาแตะเบสrunner จะต้องอยู่บนเบสและออกวิ่งได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายรับfly ball จะต้องกลับมาแตะเบส กติกาไม่อนุญาตให้fly ballขณะลูกบอลอยู่ในการเล่น advance หรือกลับเข้าเบสและไม่ได้แตะเบสตามลำดับ:

    1)

    runner ไม่สามารถกลับมาแตะเบสที่แตะพลาด ภายหลังจาก runner ที่ตามทำrun ได้

    2)

    เมื่อเป็นลูกตาย runner ไม่ให้กลับแตะเบสที่แตะพลาดหรือเบสที่ได้ออกไปภายหลังจากได้advance

    ไปแตะเบสข้างหน้าเบสที่แตะพลาด

    c)

    บอลมาแตะตัวหรือแตะเบส

    วิ่งข้ามหรือ overslide ที่ เบส 1 และไม่ได้กลับเข้าแตะเบสโดยทันที และฝ่ายรับนำลูก

    d)

    แตะ

    ไม่ได้แตะ home plate และไม่ได้พยายามที่จะกลับมาที่เบส และฝ่ายรับนำลูกบอลมาhome plate

    การนำ

    หรือพยายามเล่นต่อไป ถ้าการละเมิดกติกานี้เกิดขึ้นระหว่างการเล่นที่จบครึ่งของ

    กระทำก่อนฝ่ายรับออกจากสนาม

    การ

    appeal ภายใต้กติกานี้จะต้องกระทำก่อนการ pitch ลูกต่อไป หรือการเล่นต่อไปinning การ appeal จะต้องappeal ต่อเนื่องกันหลายครั้งไม่สามารถทำได้กับ runner ที่เบสเดิม ถ้าทีมฝ่ายรับ

    appeal

    เบสเดิม

    ครั้งแรกแล้วทำความผิดพลาด ผู้ตัดสินจะไม่ยอมให้มีการ appeal ครั้งที่2 กับ runner คนเดิมและ

    appeal

    ลูกบอลออกไปจากสนาม ดังตัวอย่าง ถ้า

    บอลออกไปยังอัฒจันทร์ การ

    การ

    กระทำระหว่างการเล่น ซึ่งการ

    ครึ่ง

    สนามเมื่อ

    house

    ความหมายในแง่เจตนาของคำว่า “err” คือฝ่ายรับได้ทำการ appeal ด้วยการขว้างpitcher ได้ขว้างลูกบอลไปที่เบส 1 เพื่อ appeal และได้ขว้างลูกappeal ครั้งที่2 จะไม่ได้รับอนุญาตappeal จะต้องให้ผู้ตัดสินยอมรับและปรากฏ “fourth out” ถ้า out ที่3 เป็นการappeal ได้รับจาก runner คนอื่นการตัดสิน appeal ทำระหว่างการเล่นที่จบinning ฝ่ายรับอาจจะเลือกที่จะทำout ที่ได้รับถ้าได้ประโยชน์ เพื่อประโยชน์กติกานี้ทีมฝ่ายรับได้ออกจากpitcher และ infielder ทุกคนได้ออกจาก fair territory ในเส้นทางไปที่bench หรือ club

    ข้อ 7.11

    : จะขานรบกวนการเล่นและ batter หรือ runner ที่ได้กระทำจะถูกขาน out

    ข้อ 7.12

    out สถานภาพของ runner ที่ตามมาจะไม่มีผลต่อ runner ที่อยู่ข้างหน้าที่ไม่ได้แตะappeal กับ runner ที่อยู่ข้างหน้าจะเป็นการขาน out คนที่3 ส่วน runner ที่ตามมาจะไม่ได้

    run


    ถ้าการ out ที่3 เป็นผลมาจาก force play ไม่ว่า runner ที่อยู่ข้างหน้าหรือที่ตามมาจะไม่ได้run

    นอกจาก 2

    เบส ถ้ามีการ

    ผู้เล่น โคช หรือสมาชิกอื่นๆ ของทีมฝ่ายรุกจะให้พื้นที่แก่ผู้เล่นฝ่ายรับที่พยายามจะรับลูกจากการตี

    หรือจากการขว้าง

    การลงโทษ

    ถือว่า


       อ่ากติกาเบสบอล ก็ใกล้จะหมดแล้วนะครับ เด๋วมาต่ออันต่อไปกันเลย นะครับ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×