คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : บทที่13 : หน้าที่ต่างๆของผู้เล่น
ผู้เล่น 1ST Base จะเป็นผู้เล่นที่ได้รับลูกมากที่สุดในการแข่งขัน ผู้เล่นที่มีความสามารถรับลูกได้ทุกรูปแบบจะทำให้เพื่อนร่วมทีมมีความมั่นใจมาก เพราะบางสถานการณ์บีบให้รีบขว้าง ลูกอาจจะวิ่งไปไม่ดี แต่ 1st Base ก็สามารถรับได้
ในการเล่น ผู้เล่น 1st Base ต้องยืนรอพร้อมจะรับลูกอยู่หน้าเบสก่อนแล้ววิ่งใช้ฟุตเวอร์ค , สเต็ป ไปรับลูกพร้อมกับใช้เท้า ( เท้าใดเท้าหนึ่ง) แตะเบสตามแต่ทิศทางของลูกที่ขว้างมา
เมื่อมี Runner ผู้เล่น B1 ต้องมีงานทำเพิ่มมากขึ้น เช่น เตรียมเล่น Pick Off หรือต้องปรับการยืนให้เหมาะสมกับแผนการเล่น |
เตรียมเก็บลูก Bunt , เตรียมรับลูก Check Base จาก Pitcher บางสถานการณ์ B1 ต้องออกไปรับลูกไกลจาก Base แล้วเข้ามาไม่ทัน Pitcher จะเข้ามาช่วย cover แทนผู้เล่น B1 จะต้องโยนลูกให้ Pitcher จึงต้องฝึกบ่อยๆ ในการโยนลูกให้ดีๆ เพราะมีโอกาสบ่อยครั้งในการแข่งขัน ระหว่างรับบอล ไม่ต้องห่วงเบส ไม่ต้องรีบ พยายามรับบอลให้ได้ก่อนแล้ววิ่งตรงไปที่ B1 พร้อมกับโยนลูกให้ Pitcher พยายามใช้ขาช่วย ส่งบอลให้ลูกพุ่งไปหา Pitcher ให้รับได้ง่ายๆ
นอกจากนี้ผู้เล่น B1 ต้องทำหน้าที่เป็นตัว Cut Off ในกรณีที่ลูกถูกตีออกไป Out Field และต้องการคืนบอลมายัง Home โดยเฉพาะลูกที่ตีออกมาทาง Right Field
เบส 2
ผู้เล่น B2 มีความสำคัญมากต้องอ่านเกมการบุกของคู่ต่อสู้ได้ชัดเจนมีการตัดสินใจที่ดีและเหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อมี Runner บนเบสหลายคนซึ่งมีความยากเพิ่มขึ้นและมีหน้าที่เพิ่มขึ้น เช่น การขโมย Run&Hit , Hit& Run , Bunt , Cut off , ส่งต่อ , Double Play
เบส 3
ในเขตรับผิดชอบของ B3 จะเป็นจุดที่ลูกมาเร็วมาก และบางครั้งเมื่อมีการ Bunt ก็จะต้องวิ่งเข้าเก็บอย่างเร็วที่สุด ผู้เล่น B3 จึงต้องเป็นคนไม่กลัวบอลและมีความเร็วในการวิ่งเข้าเก็บ Bunt |
ผู้เล่นตำแหน่ง Short Stop (SS) จะมีบริเวณรับผิดชอบกว้างมากที่สุดใน Field จึงต้องมีความเร็ว แล้วมีทักษะในการวิ่งรับลูก ทั้งซ้าย/ขวา และต้องมีหัวไหล่ที่แข็งแรง เพราะต้องขว้างลูกจากระยะไกลบ่อยๆ มีลักษณะการเล่นหลายรูปแบบ เหมือนผู้เล่น B2 เช่น DP / Pick Off , Hit&Run , Run&Hit , Cut Off , ส่งต่อ Sign ฉะนั้นจึงมีการเล่นการเคลื่อนไหวคล้ายกัน แตกต่างกันเล็กน้อยเพราะยืนอยู่คนละด้านของสนาม
ถ้าลูกถูกตีออกทาง B2 หรือ B1 ตำแหน่ง Short Stop (SS) จะต้องไปรอหลัง B2 เพื่อรับลูกแล้ว แตะเบส แล้วเสต็ปออกให้ทางซ้าย ให้พ้นทาง Runner แล้วขว้างบอลถ้าลูกถูกรับได้จากด้านในสนามให้ SS รอรับบอลข้างใน เรียกลูกเมื่อรับบอลแตะเบสแล้วเสต็ปหนีเข้าด้านใน แล้วขว้างลูก |
เมื่อ SS รับลูกได้ใกล้ B2 ให้วิ่งพร้อมกับโยนลูกเบสบอลให้ B2 รับให้ง่ายๆ (เหมือนที่อธิบายการเล่นของ B2 ) |
Out Fielder
ผู้เล่น Out Field เป็นคนสุดท้ายในสนามแล้วถ้าลูกหลุดจาก out field ไป ก็ไม่มีใครผู้เล่น Out field จึงต้องวิ่งเร็ว แม่นยำในการรับลูกและมีพลังหัวไหล่ในการขว้างลูกมาก ความแข็งแรงและทักษะความสามารถในการขว้างลูกของ out field ไม่ใช่การขว้างไกล แต่ลูกสูงมาก ผู้เล่น out field ควรจะขว้างลูกให้ขนานกับพื้น มากที่สุดถึงจะตกพื้นเด้งหนึ่งครั้งก็ถือว่าดีกว่าลูกโด่งสูง ผู้เล่นตำแหน่ง Out Field ต้องฝึกขว้างลูกให้ขนานพื้นอยู่เป็นประจำ เหมือนกับ Pitcher เพราะว่ามีเขตความรับผิดชอบกว้างมากกว่าผู้เล่น infield มาก จึงต้องฉลาดคิดอ่านเกมตลอดเวลาและต้องสังเกตหรือจำผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ ว่าตีลูกอย่างไร ออกทางไหนต้องปรับตำแหน่งการยืนของตัวเองให้เหมาะสมตลอดเวลา | |||||||||||
เมื่อลูกถูกตีออกมา ลูกจะวิ่งด้วยความเร็วมาก จังหวะเวลา หรือก้าวแรกของผู้เล่น Out Field จึงมีความสำคัญที่สุด เพราะถ้าก้าวผิดพลาดลูกอาจจะตกก่อนหรือลอยผ่านไปได้ง่าย ผู้เล่น out field จึงต้องอ่านทิศทางบอลให้แม่นยำ และตัดสินใจให้ทันท่วงที เพราะก้าวแรกมีความสำคัญมาก | |||||||||||
ทักษะของ Out Field ก็คือ การรับ-ขว้าง ดังที่เคยกล่าวมาแล้ว แต่เพราะความกว้างของพื้นที่ ทำให้ out fielder ต้องรีบคืนบอลกลับมาเร็วที่สุด จึงมีคำแนะนำ เพิ่มเติมดังนี้ เช่น การรับลูก Ground Ball แล้วต้องการคืนบอลไปที่ Home เร็วที่สุด จึงต้องปฎิบัติดังนี้ | |||||||||||
|
ดังนั้นผู้เล่น OF จะต้องตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะเข้ามา Back up ทั้ง infield และ OF ด้วยกันเอง
ความคิดเห็น