ตอนที่ 3 : Chapter 2 : ภารกิจกางเกงในที่หายไป
Chapter 2 : ภารกิจกางเกงในที่หายไป
จะว่าไปนี่ก็ผ่านมาสัปดาห์กว่าๆ แล้วหลังจากที่ผมเพิ่งมาที่นี่
สัปดาห์แรกผมเน้นการทำสวน และตัดต้นไม้รวมถึงจัดการพื้นที่จากหน้าบ้านผมให้โล่งมากขึ้นจะได้ปลูกผักหรือทำอย่างอื่นได้
ใบไม้ผลิบานปลิวไสวไปตามสายลมผ่านตัวผมลงไปยังพื้นดิน ผมยื่นมือของตัวเอไปรับใบไม้สีชมพูอ่อนที่หล่นร่วงลงมา ก่อนจะปล่อยให้มันร่วงตามปกติของมันต่อ
ฤดูใบไม้ผลินี่ดีจริงๆ นะ
หลังจากชมวิวตอนเช้าผมก็ออกกำลังกายยามเช้าด้วยการเก็บผักที่ปลูกได้ที่แล้ว จะว่าอย่างไรดีละ ผมคงชินกับการอยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นการเก็บผักหรือตัดต้นไม้คงไม่ใช่ปัญหาที่ผมจะต้องกังวลว่าผมจะเหนื่อยแค่ไหนอีกต่อไป
ร่างสูงโปร่งก้มตัวลงไปเก็บผักแต่ละชนิดอย่างขะมักเขม้น ก่อนจะเดินไปยังตะกร้าที่ไว้เก็บของไว้สำหรับขาย พอเสร็จหมดผมก็ปาดเหงื่อแล้วค่อยไปขุดดินต่อสำหรับปลูกผักต่อไป และรดน้ำรอไว้ก่อน
เก้าโมงพอดี
ผมเดินเข้าไปยังตัวเมืองเพื่อจะซื้อเมล็ดเพิ่ม ตอนนี้ผมมีเงินทีได้จากการเก็บของป่าหลังจากไปสำรวจทั่วเมืองมาแล้ว ร่างบางตรงดิ่งไปยังร้านเดิมที่ไปประจำ แต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจอกับป้ายหน้าร้านที่ประกาศเอาไว้
ฉันต้องการกางเกงชั้นในสีม่วงคืน ถ้าหากใครเจอแล้วรีบนำมาให้ฉันด้วย จากลีวิส
“ฮะ? กางเกงในหาย เฮ้ยเดี๋ยว...”
ผมว่ามันต้องมีอะไรแปลกๆ
“เป็นอะไรหรอครับ”
เสียงที่ดังขึ้นจากด้านหลังทำให้ผมผละออกไปจากประกาศแปลกๆ นั่นจากลีวิส ร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดกาวน์มองหน้าผมแล้วยิ้ม นัยน์ตาที่อยู่ภายใต้เลนส์ใสของแว่นมองผมอย่างสงสัย ให้ตายสิ เวลาโดนคนตัวสูงขนาดนั้นก้มลงมองตอนรู้สึกตกใจอยู่มันยิ่งทำให้ประหม่านะ
“เปล่าครับคุณหมอ”
คุณหมอฮาร์วี่ไม่ฟังคำที่ผมพูดเท่าไหร่ ผมชะเง้อมองประกาศที่อยู่ใกล้ตัวผมก่อนจะแอบยิ้มออกมา ถึงเขาจะพยายามเม้มปากเหมือนฝืน แต่ต่อให้เด็กอนุบาลมาดูก็รู้อยู่ดีว่าเขากำลังขำ
“ถ้าอยากทำผมก็ไม่ว่านะครับ เงินดีนะ”
“เฮ้ คุณหมอ...คือว่า”
“เอาน่าครับ ผมไม่ถือหรอก ผมได้ยินลือๆ มาจากคนไข้มาบ้างว่าลีวิสสนิทกับมานีอยู่ เธอคงรู้จักสินะ”
นั่นไงหมอ ทำไมหมอต้อง...หาทางให้ผมรับข้อเสนอบ้าๆ ที่มาติดอยู่ตรงนี้ด้วยเนี่ย
ร่างสูงใหญ่ดึงแผ่นกระดาษที่ปักอยู่ตรงบอร์ดนั้นออกแล้วยื่นให้ผมทันที ก่อนจะยิ้มให้ผมด้วยใบหน้าซื่อแล้วเดินกลับเข้าไปในคลินิก ผมที่กำลังงงงันก็ไม่ทันได้ไปโต้แย้งอะไรนอกจากมองกระดาษในมือด้วยสายตาว่างเปล่า
ผมต้องทำสินะ?
น้ำตาจะไหล เควสมันช่างโหดร้ายต่อผู้ชายแสนบอบบางคนนี้เหลือเกิน
ผมได้แต่ปั้นหน้ายิ้มทั้งน้ำตาเข้าไปในร้านปิแอร์แล้วซ้อเมล็ดเพิ่ม ปิแอร์ที่เหมือนจะเห็นกระดาษในมือผมก็รู้โดยทันทีโดยที่ผมไม่ต้องพูดอะไร แต่ยังโชคดีที่เขายังไม่พูดให้ผมอาย
“อ้าว สวัสดีค่ะ นี่หาซื้ออะไรหรอ”
แคโรไลน์ภรรยาของเจ้าของบ้านแห่งนี้ทักขึ้นมาเมื่อเห็นผม เธอกำลังจะเดินไปชวนเพื่อนบ้านคนอื่นมาเต้นแอโรบิกตามปกติของเธอ ผมเองก็เพิ่งมารู้ตอนที่เธอชวนผมเมื่อวันศุกร์ เสียดายนะที่ผมไม่ชอบเท่าไหร่เลยปฏิเสธไป
“แล้วนี่อบิเกล ลูกกินข้าวเสร็จแล้วหรอ”
“เรียบร้อยแล้ว”
หญิงสาวในชุดกระโปรงสีดำที่มีเข็มขัดคาดไว้พร้อมกับแจ็กเก็ตสีน้ำเงิน และรองเท้าบู้ทสีน้ำตาล เอ... นี่ผ่านมาเป้นสัปดาห์ผมยังไม่เคยเจอกับคนๆ นี้เลย
“นี่นายคงเป็นชาวไร่คนใหม่สินะ ฉันอบิเกล”
เธอบอกผมด้วยสีหน้าเรียบเฉยก่อนจะเดินจากไปทันทีปล่อยผมไว้ตรงนี้อย่างงุนงง แต่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก เวลาเจอคนแปลกหน้าถ้าไม่มีเรื่องอะไรก็คงไม่อยากจะคุยด้วยเท่าไหร่
“อบิเกลก็แบบนี้แหละจ้ะ ขอโทษแทนเธอด้วยนะ”
“ไม่เป็นไรครับแคโรไลน์ ผมไม่ถือเท่าไหร่”
ผมยิ้มให้หญิงสาวร่างบางที่กำลังจะเดินออกไป จะว่าไปผมกับเธอออกไปพร้อมกันก็ได้นี่ ร่างสูงโปร่งเดินไปเปิดประตูให้หญิงสาววัยกลางคน แคโรไลน์ยิ้มกลับมาก่อนเธอจะเดินจากไป และผมก็เดินออกมาเช่นกัน
เป้าหมายต่อไป บ้านลีวิส!
ผมเดินตรงมาตามทางเพื่อไปบ้านลีวิส ใบหน้าเริ่มขาวซีดเล็กน้อยเพราะแอบประหม่า นี่ผมต้องไปบอกเขาจริงหรอว่าผมจะเป็นคนจัดการเรื่องนี้ให้
ก๊อกๆ
ผมเคาะประตูบ้านลีวิสแล้วเดินไปเดินมาหน้าบ้านเขาอย่างประหม่า มือก็กำแน่นจนเป็นรอยของเล็บ ส่วนปากก็เม้มจนแดงก่ำ ถ้าเป็นผมเป็นคนที่ชินกับเรื่องพวกนี้ก็ดีสินะ
“อ้าว ไหงไปเดินอยู่หน้าบ้านแบบนั้นละ ดูสิแก้มแดงก่ำเลย ตากแดดมากเกินไปหรอพ่อหนู”
นั่นมาถึงก็ทักซะแบบนี้ ผมควรจะบอกดีไหมเนี่ย
ชายชราเชิญให้ผมเข้าบ้านทันที ผมก้าวขาตามไปก่อนจะหยุดที่โต๊ะโซฟาและโต๊ะเตี้ยที่อยู่ด้านหน้าตัวผม มือบางเลื่อนไปหยิบใบประกาศออกมาก่อนจะวางบนโต๊ะดังแหมะแล้วหันหน้าไปทางอื่น ผมไม่กล้าสู้หน้าเขาเลย
“นี่เธอจะหาให้หรอ ก็ดีนะ แต่ฉันจำไม่ได้แล้วว่าไว้ที่ไหน แต่สำม่วงนะ หาให้เจอด้วย”
เขาพูดจบก็ไล่ผมออกจากบ้านทันทีและปิดประตูดังปัง ปล่อยให้ผมทำหน้าหงิกหน้างออยู่หน้าบ้านเขาเกือบ 5 นาที นี่ช่วยให้ก็ดีแค่ไหนแล้ว
ผมเดินปึงปังออกมาทันทีก่อนมุ่งหน้าตรงไปยังชายหาด ด้วยความที่นี่ก็เที่ยงกว่าแล้ว ไหนจะเรื่องที่คุณหมอฮาร์วี่ย์บอกว่ากางเกงเอ่อ ชั้นในเนี่ย มันอยู่กับป้ามานี แต่ถ้าป้ามานีไม่อยู่ร้าน ผมก็ไม่รู้จะไปทำไม นี่คงต้องรอจนกว่าจะพ้นวันนี้ไปแล้วละนะ
ร่างสูงโปร่งที่เดินมาถึงสะพานก็ต้องสะดุดนิ่งไปเมื่อเจอผู้ชายผมยาวที่กำลังนั่งดูวิวอยู่ที่สะพาน ใบหน้าสวยที่ดูดติดเศร้าดูไม่ต่างจากอะไรไปจากเซบาสเตียนมากนัก เพียงแต่ต่างกันที่การทอดสายตา เซบาสเตียนเหมือนยอมจำนนต่อบางสิ่งบางอย่าง แต่ชายหนุ่มตรงหน้าเขาเหมือนกำลังคิดถึงใครซักคนอยู่
คนรักหรือครอบครัวกันนะ?
“สวัสดีครับเอลเลียต”
“อ้ะ? อื้ม สวัสดีครับ ทำหน้าดูซีดแปลกๆละครับ”
เอลเลียตหันมายิ้มให้อย่างสุภาพ ตั้งแต่เขารู้จักคนในหมู่บ้านมา นี่คงเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนและสุภาพที่สุดแล้ว คุยด้วยก็ไม่รู้สึกอึดอัด
ต่างจากอีกคนจังเลยนะ ที่บรรยากาศที่อยุ่ด้วยชวนน่าอึดอัด
ว่าแต่จะกลับไปคิดถึงทำไมกันนะ
“คือผมสะดุดล้มตรงหน้าด้านลีวิสแล้วเขาหันมาเห็นพอดี เลยตกใจหน้าซีดไปหน่อย”
“งั้นหรอครับ”
เขาหัวเราะคิกคักกับตัวเองก่อนทอดสายตาชมวิวต่อไป ตอนนี้สายตาที่ทอดยาวนั่นดูดีกว่าเก่ามากนัก ถึงจะกำจัดความรู้สึกที่เหมือนจะถูกเก็บไว้ของเขาไม่หมดก็เถอะ
ผมเดินมายังชายหาดก่อนนำไม้ 30 แผ่นมาทำการซ่อมแซมสะพานที่ชำรุดลง โชคดีหน่อยที่ปะไว้ไม่นานก็เสร็จ ผมทดสอบไม้เหล่านั้นด้วยการเดินข้ามไป อย่างน้อยวันนี้ก็ยังมีโชคดีที่ไม้ไม่พัง
สายตาของผมสาดส่องไปยังพื้นที่ด้านหน้า มันเหมือนเกาะเล็กๆ ที่ยังมีน้ำขังอยู่บางจุดและมีปะการังที่พร้อมจะให้ผมเก็บ มือบางหยิบกระเป๋าออกมาก่อนจะหยิบปะการังเหล่านั้นลงไปทีละชิ้น แล้วก็เดินกลับจากทางที่จากมา
ร่างสูงโปร่งเดินกลับบ้านทันทีที่ได้ของแล้วนำเมล็ดพันธุ์ที่เพิ่งซื้อเมื่อตอนสายมาวางเมล็ดหลังจากที่เคลียพื้นที่เสร็จไปตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนเวลาที่ผมยังเหลืออยู่ ก็กลับไปตัดต้นไม้ต่อเพราะยังมีแรงเหลืออยู่บ้าง
จนกระทั่งสี่ทุ่ม ผมมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองก่อนมองสวนตรงหน้า แม้มันจะยังเป็นสวนขนาดเล็กที่ยังดูไม่มีอะไร แต่มันก็ดีกว่าครั้งแรกที่มาถึงมาก
“เมี้ยว”
เอ นี่ผมลืมบอกไปหรือเปล่าว่าผมเลี้ยงแมวด้วย ความจริงมันก็เป็นแค่แมวที่ถูกเก็บมาโดยมานี เธอนำมันมาให้ผมดูแลต่อ ผมที่เป็นพวกขี้สงสารอยู่แล้วก็เลยให้มันมาอยู่ด้วย
แมวน้อยเข้ามาคลอเคลียขาของเจ้านายของมันอย่างเอาใจ ผมก้มตัวลงแล้วลูบหัวมัน เสียงร้องเหมียวๆ ที่เริ่มดังมาเป็นระยะเพราะความสบายตัวของมัน ก่อนที่มันจะผละจากผมไปนอนต่อข้างนอกใกล้ๆ กับแคมป์ไฟที่ผมจุดไว้ตลอดทั้งคืนเพื่อนให้มันอบอุ่นและยังเพิ่มแสงสว่างด้วย
ร่างบางเดินเข้าไปยังตัวบ้านที่ยังเป็นบ้านขนาดเล็กอยู่ก็รีบจ้ำอ้าวไปยังเตียงและนอนทันที
พอถึงวันต่อมาผมก็ตื่นตามปกติและก็ดูสวนตัวเองในตอนเช้า เสียดายวันนี้ไม่มีใบไม้ร่วงมาตามสายลมอีกแล้ว แต่ก็ดีอย่างผมจะได้ไม่ต้องเก็บกวาดเศษพวกนั้น ร่างสูงโปร่งขะมักเขม้นรดน้ำผักและตัดต้นไม้ต่อ วันนี้วันพุธผมไม่อยากจะเน้นไปกับการปลูกผักมาก วันนี้กะว่าจะไปเอาไอ้กางเกงในบ้านั่นกับตกปลา แต่ปลาที่นี่ดื้อมาก กว่าจะตกได้ซักตัวแทบทำเอาตัวตกลงไปในน้ำด้วย
เสร็จแล้ว ผมปาดเหงื่อมองผลงานที่ทำไว้ ตอนนี้มันก็กินแรงผมเยอะเหมือนกัน แต่ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะมีสปริงเกอร์ด้วย แต่ผมคงต้องทำเอง ดังนั้นผมจะจัดสวนไว้ก่อนเพื่อรองรับสปริงเกอร์ในภายหลัง
ผมพาตัวเองมาด้านล่างของฟาร์ม ความจริงผมก็พึ่งรู้เหมือนกันว่าด้านล่างของฟาร์มเชื่อมกับทางไปบ้านมานีแล้วก็ทางเข้าป่า นี่ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่านะ อุตส่าห์เดินอ้อมตั้งไกล สุดท้ายอยู่แค่นี้เอง
ผมเดินมาจนสุดและพบกับทางโล่ง ส่วนด้านหน้าสุดก็เป็นแม่น้ำสายเล็กที่ไหลไปตามทาง น้ำสีใสสะท้อนกับแสงอาทิตย์ตอนสายทำให้ดูสว่างและน่าเก็บภาพไว้ เสียดาย ผมไม่ได้เอากล้องมา
แต่ช่างมันเถอะ ผมเลิกสนใจมันก่อนจะเดินเข้าร้านของมานี ตอนนี้มานีอยู่เคาท์เตอร์พอดีซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่พบได้ยากมากพอๆ กับโรบินอยู่ร้าน(ผมเปล่านินทาแค่เล่าสู่กันฟัง)
“Howdy”
อย่าไปนึกถึงตัวละครจากเกมอื่นนะ มันหมายความว่าเธอเป็นอย่างไรสไตล์ลูกทุ่งมากกว่า ผมได้แต่ยิ้มรับและเข้าเรื่องทักที
“ก็เหนื่อยอยู่ครับ ขอบคุณ”
“แล้วจะมาซื้ออะไรหรอ ถ้าจำไม่ผิดเธอยังไม่ได้เลี้ยงพวกสัตว์นี่”
“คือ...ว่า”
มานียิ้มให้ผมอย่างเอ็นดู เธอเป็นเหมือนคุณแม่ใจดีคนหนึ่ง แต่ไม่ทันที่ผมจะได้พูดต่อ แจส เด็กหญิงผมสีม่วงก็เดินเข้ามาหาแล้วทำหน้าไม่เป็นมิตร เหมือนจะกลัวไม่ก็ระแวงผมมากกว่า นั่นสิน้า ตอนนี้ผมยังคงเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเธอ
“สวัสดี”
แจสทักผมเพียงครั้งเดียวก่อนเธอก่อนออกไป ร่างเล็กเปิดประตูแล้ววิ่งออกไปทันที คงน่าจะไปเรียนตามปกติของพวกเด็กนั่นแหละ ผมหันกลับมาหามานีก่อนจะกำมือแน่น เอาวะบอกก็บอก
“คือผมจะขอเข้าไปหากางเกงสีม่วงของลุงลีวิสได้ไหมครับ”
มานีก้มหน้างุดลงไปอย่างเขินอายก่อนพยักหน้า เธอผายมือไปทางห้องของเธอซึ่งอยู่ด้านหน้าพอดี ส่วนผมเองก็เดินหน้าแดงเข้าไป แล้วหยิบกางเกงชั้นในสีม่วงนั่นออกมาทันที แต่ก็ไม่ลืมขอบคุณมานีเหมือนกัน
“ขอบคุณครับ”
ผมเดินออกจากร้านมานีพร้อมกางเกงชั้นในสีม่วงแปร๋นเด่นหลาออกมา ส่วนใบหน้าก็แดงก่ำพยายามหาที่ซุกกางเกงชั้นในนี้ไว้ก่อนเพื่อเอาไปให้ลีวิส แต่ทว่า...
“นั่นคุณทำอะไรน่ะ?”
***************************************************************
สวัสดีค่ะ
หลังจากวันนี้ไปเฟรอาจจะไม่ได้ลงช่วงเที่ยงหรือบ่ายแล้วนะคะ
อาจจะไปลงช่วงเย็นเลย เพราะติดเรียนพิเศษ กำลังจะเข้าม.4ค่ะต้องขยัน
ถามว่าอยากเข้ารร.ไหนก็ยังไม่รู้ค่ะ ไม่ได้หวังอะไรกับพวกรร.เด็กฉลาด สมองยังไม่ขนาดนั้น โถ
เอาละนอกเรื่องไปไกล ตอนนี้เซบบี้เรามาเห็นอะไรไม่ดีแล้วค่ะ
ทำไมเจอกันครั้งที่2ถึงเป็นแบบนี้ น่าสงสาร(กระซิกๆ)
อันนี้ได้ไอเดียจากเพื่อน นางประชดมาเมื่อคืนแต่ปรากฏว่าเก๋กู้ดค่ะ ชอบ
แอบสปอยล์นิดนึงค่ะ(ไม่เชิงเท่าไหร่)
รูทเซบบี้นี้จะไปเอี่ยวกับแอบบี้และแซมมี่เยอะเป็นพิเศษนะคะ
แต่ไม่ขอบอกนะว่าเอี่ยวเรื่องหัวใจกับใคร อุกิ้วๆ
ยังไงเราก็มีเพจแล้วนะ ไปไลค์ได้ค่ะ https://www.facebook.com/Coffee00gallery/
ถุงคาเฟอีน(แก้วกาแฟ)
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ในเกมเราก็เลือกเลี้ยงแมวค่ะ ชอบท่านอนมันมากเลย >///<
ในเกมเราก็เลือกเลี้ยงแมวค่ะ ชอบท่านอนมันมากเลย >///<
อยู่ เดี๋ยวจะพาไม่ชอบเข้าไปอีก แงๆ 555
เจอเซบบี้แน่เลย จะโดนหาว่าเป็นโรคจิตพกกางเกงในมั้ยเนี่ย 555+
จะเจอใครน้า คึคึ นายเอกเรากลายเป็นโรคจิตไปเลย ลีวิสไม่น่าสรรหาอะไรมาให้ทำแบบนี้เลย 5555
แล้วใครกันที่มาทักนายเอกเรา
ดูกันต่อไป๊
...... : อย่ามาไกล้หนูน๊าาาา กลัวผี
เซบาน : โฮ เมียจ้าาาาา มันแค่ข่าวลือ ผมไม่ได้เป้นผี กลับมาก่อนนน
...... : ม๊ายยเอ๊าาาาาาา กรื้ดดดดด /วิ่งหนี
เรา : มอง เอาละไง = =
ตอนหน้าน่าจะลงพรุ่งนี้ซักดึกๆ นะคะ :3