คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 03
“โอ๊ยยย พี่ผมเจ็บ
เอามันออกไปก่อน อย่าเพิ่งนะ”
“ไม่ได้ครับถ้าทิ้งไว้นาน
เราจะเจ็บกว่าเดิมนะ”
“ซี๊ดด พ—พอแล้วๆ”
“อย่าร้องแบบนั่นสิครับ
จะเสร็จแล้ว” พูดดุผมพร้อมกับขมวดคิ้วลง
และลดระดับมือที่ทาแผลให้เบาขึ้น หลังจากที่ผมปลอบพี่คนขับเสร็จ
พี่ทามก็บังคับให้ไปโรงพยาบาล แต่ผมบอกว่าไม่ไปโรงพยาบาลเด็ดขาด
เถียงกันจนสุดท้ายคนพี่ก็ต้องยอม พี่หมอที่หายไปไหนมาไม่รู้ก่อนเดินกลับมาพร้อมถุงยา
และตอนนี้เรากำลังนั่งทำแผลอยู่บนรถของพี่หมอ
โดยผมนั่งตรงที่นั่งข้างคนขับ และพี่หมอนั่งคุกเข่าทำแผลให้อยู่ตรงประตูฝั่งผม
ผมนั่งมองพี่หมอที่กำลังทายาให้แผลที่เข่าของผมอย่างปราณีต
เหมือนกลัวว่าผมจะเจ็บแบบเมื่อกี้ หลังจากที่โดนทาแอลกอฮอล์มา
บอกตรงๆโคตรของโคตรแสบเกือบบ่อน้ำตาแตกอีกรอบ
คิดกับไปเมื่อกี้ก็ตลกตัวเองอยู่เหมือนกัน
ร้องไห้งอแงเป็นเด็กไปได้ อย่างกับไม่เคยหกล้ม ทั้งที่ตัวเองก็เป็นผู้ชายตัวโตคนนึงแท้ๆ
อายคนแถวนั้นชะมัด
มองจากตรงนี้คุณหมอที่กำลังจดจ่อกับแผลที่หัวเข่าของผม
ทำให้เป็นผู้ชายที่มีหล่อและมีเสน่ห์มากๆ ยิ่งตอนที่เรามองตากัน
เหมือนผมสามารถหลงเข้าไปดวงตานั้นได้ตลอดเวลา และน้ำเสียงทุ้มอบอุ่น
ทำให้รู้สึกว่าคนๆนี้สามารถพึ่งพาผมได้ พี่เขาบุคลิกเกิดมาเพื่อเป็นหมอจริงๆ
คนไข้ต้องรู้สึกดีมากแน่ถ้าได้พี่หมอมาดูแล เหมือนผมตอนนี้
“เสร็จแล้วครับ”
พี่หมอรวบรวมขยะใส่ในถุง
ก่อนจะลุกขึ้นปัดเศษฝุ่นที่ติดเข่าด้วยท่าทางที่ดูเท่และทะมัดทะแมง
คนเราจะสามารถดูดีทุกท่วงท่าได้ขนาดนี้เลยหรอ
“ขอบคุณนะครับ” ผมทำท่าจะลุกออกจากที่นั่งก่อน แต่ก็ถูกมือหนากดลงไปนั่งเหมือนเดิม
“เรากำลังจะไปไหน”
“กลับบ้านครับ”
“โอเคเดี๋ยวไปส่ง”
“ไม่เป็นไรครับ
พี่มาธุระต้องไปทำรึเปล่า เดี๋ยวผมกลับเองก็ได้” แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่แล้ว
ทั้งดูแลเรื่องแผล แล้วก็เคลียร์ค่าเสียหายให้อีก
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือนัยน์ตาเชิงดุพร้อมกับคิ้วที่ขมวดลงอีกรอบ
ก่อนยกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหู
“ไปรับไม่ได้แล้วนะ
เจอเด็กตกมอเตอร์ไซค์ ทำแผลให้แล้ว แต่น่าจะกลับบ้านลำบาก วันนี้กลับเองได้มั้ย”
[...] ผมไม่ได้ยินว่า อีกสายพูดว่าอะไร แต่ดูเหมือนว่าเป็นคนที่พี่หมอกำลังไปรับ
ทำให้ผมรู้สึกผิดหนักกว่าเดิม ที่นอกจากเป็นตัววุ่นวายและยังเป็นภาระอีก
“เออ
ต้องไปดูแลเด็กก่อน ดูแล้วน่าจะดื้อมากด้วย” พี่หมอหันมามองตาผม
และพูดแน่นคำมาดื้อมาก จนแก้มทั้งสองข้างของผมร้อนผ่าวขึ้นมา
นี่มันใช่อาการของคนถูดดุหรอ
[…]
“เจอกันที่บ้าน
ทีนี้พี่ก็ว่างแล้วครับ ไปส่งเราได้แล้ว” ประโยคแรกพูดให้อีกฝ่ายวางสายไปแล้ว
ส่วนประโยคหลังแน่นอนว่าต้องพูดกับผม
แต่การที่ยกยิ้มมุมปากทำให้เจ้าตัวดูเจ้าเล่ห์มากว่าเดิมเท่าตัว
บรรยากาสในรถนั้นเงียบกว่าที่คิด
มีเพลงเสียงดนตรีที่เป็นคลอเบาๆไม่ให้เงียบจนเกินไป เพราะเคยเจอกันแค่สองครั้ง
และมีแต่ผมที่ได้รับความช่วยเหลือตลอด ทำให้ไม่สนิทกับอีกฝ่ายมากเท่าไหร่
“จริงสิ
ผมยังไม่รู้จักชื่อพี่เลยนี่หน่า เอาจริงๆยังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่เลยต่างหาก
นอกจากอยู่คณะแพทย์” นั้นสิ ชื่อยังไม่รู้เลยแต่ก็กลับบ้านด้วยกันเป็นรอบที่สองแล้ว
“อยากรู้ชื่อพี่หรอ??”
พยักหน้าหงิกหงักเป็นคำตอบ ท่าทีแสนน่ารักของคนตัวเล็ก
ทำเอาน่าเอ็นดูกว่าเดิม
“บอกชื่อเราก่อนสิ”
เอ๊ะ ลูกเล่นเยอะจริง แล้วชาตินี้ผมจะได้รู้ชื่อพี่แกมั้ยเนี่ย
แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวเป็นคนแนะนำตัวก่อนก็ได้
“ผมชื่อ มัลติพาย
ที่แปลว่าคูณนั้นแหละ แต่เรียกพายเฉยๆก็ได้ อยู่วิศวะสาขาโยธา ปี2 ต้องพูดอะไรอีกเนี่ย เอ่อ ชอบกินชานมไข่มุกมาก
ว่างๆแวะซื้อเอามาให้ผมที่คณะก็ได้นะครับ” ยกยิ้มแหยให้ร่างสูง
ดีใจที่หาคนเลี้ยงชานมไข่มุกได้แล้ว
แต่แนะนำตัวเมื่อกี้เหมือนย้ายโรงเรียนใหม่แล้วต้องทำความรู้จักเพื่อนเลยแหะ
“ชื่อทาม แพทย์ปี4ครับ เวลาว่างก็ไปห้องสมุดบ้างไม่ก็รอรับน้อง
ปกติไม่ค่อยได้ไปวิศวะเท่าไหร่ แต่คิดว่าต่อจากนี้อาจจะได้ไปคณะวิศวะบ่อยๆแล้วหล่ะ” หันมายกยิ้มหล่อแบบที่ชอบทำให้ผม
อย่าทำบ่อยขอร้อง เดี๋ยวหัวใจวาย
“อย่ามาแต่ตัวนะครับ
ชานมไข่มุกด้วย คิกคิก” ทามส่ายหน้าอย่างเหลืออดกับความเห็นแก่กินของคนตัวเล็ก
ก่อนจะหันมา
“พายมีแฟนยังครับ?”
“ไม่มีหรอกครับ
ไม่เคยดูแลใครมาก่อน อย่าว่าแต่ดูแลเลย จีบนี้สักคนก็ยังไม่เคย” ไม่รู้ว่าคำตอบผมมันน่าดีใจตรงไหน
ทำไมพี่ทามถึงได้ดูเหมือนอารมณ์ดีขึ้นทั้งๆที่อารมณ์ดีอยู่แล้ว
แต่พายถึงกับต้องชะงักเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“อยากให้ว่าที่หมอช่วยดูแลมั้ยครับ?”
ไม่ไหว แอคแทคเกินไป
เล่นทำคนฟังอยู่ไม่สุข ไม่รู้จะเอามือไม้ไว้ตรงไหนดี
หน้าตัวเองที่ซะท้อนกับกระจกด้านข้างทำให้เห็นเลยว่าตอนนี้หน้าของผมมันแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศสักอีก
“ม—ไม่ต้องถึงขนาดนั้นก็ได้หรอกครับ ผมดูแลตัวเองได้
ว่าที่หมอใจดีกับทุกคนเลยนะครับ ฮ่าๆ” เพราะเป็นหมออาจจะต้องคอยพูดให้คนไข้รู้สึกสบายใจหล่ะมั้ง
คิดแบบนี้แล้วทำไมรู้สึกแปลกอย่างบอกไม่ถูก
“ไม่ใช่ทุกคนหรอกครับ
แค่คนพิเศษเท่านั้นแหละครับ” โอเค ผมยอมแพ้แล้ว
หน้าร้อนกว่าเดิมไปอีก วันนี้พี่หมอไปกินอะไรมาผิดรึเปล่า
หรือผมติดหวัดใครมาทำไมทำอะไรหน้าก็ร้อนไปหมดเลยไม่ไหวเลยนะไอพาย
“คุณพายตื่นได้แล้ว
เดี๋ยวคืนนี้นอนไม่หลับนะครับ” เสียงเล็กนุ่มคุ้นหูของคุณท้องฟ้าดังขึ้น
ปลุกคนขี้เซาที่นอนไปไม่ตื่นตั้งแต่กลับมา
“คุณท้องฟ้า ผมคิดถึงจังเลย” เมื่อเห็นร่างผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลกก็เอื้อมมือไปกอดอย่างโหยหา
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันเกือบ2เดือน
“แม่ก็คิดถึงคุณพายค่ะ
รีบลงไปได้แล้ว ทุกคนรอเราอยู่นะคะ แล้วขาเจ็บมากมั้ย” ผมส่ายหน้าปฏิเสธตอนนี้ไม่เจ็บแผลแล้ว
แต่ก็ยังรู้ขยับร่างกายยากอยู่ดี
คุณท้องฟ้าเลยช่วยพยุงผมให้ลุกขึ้นจากเตียงก่อนจะพาเดินออกมานอกห้องนอน
บ้านในกรุงเทพฯของเรามีขนาดไม่ใหญ่มาก คล้ายกับบ้านพักตากอากาศเสียมากกว่า
“ว่าแต่พายขึ้นมานอนบนห้องได้ไงครับ”
ล่าสุดคือผมจำได้ว่าแนะนำตัวกับพี่ทามอยู่บนรถ แล้วจากนั้น รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ถูกปลุกเมื่อกี้
แต่คนอะไรใจร้ายกลับไปก็ไม่บอกกันก่อน
“อ่อ ก็เราน่ะสิ
หลับอยู่ในรถพี่ทาม แม่ว่าจะปลุกให้ไปนอนในห้องดีๆ
แต่ว่าพี่เขาเราบอกว่าไม่ต้องปลุก แล้วเขาอาสาเป็นคนอุ้มเราขึ้นมาบนห้อง
ไม่รู้ตัวเลยหรอคะ” เดี๋ยว แม่รู้จักพี่ทามหรอ
แถมพี่เขาเป็นคนอุ้มขึ้นมาหรอ อะไรกันตัวผมก็ใช่จะเล็กๆ ทำไมไม่ปลุกกัน
คืนนี้พี่ทามต้องปวดแขนแน่ๆเลย
“แล้วคุณท้องฟ้ายอมให้พี่เขาอุ้มผมขึ้นมาอะนะ”
“แม่ขัดเขาแล้วค่ะ
แต่พี่เขาก็ไม่ยอมอยู่ดี ตอนอุ้มพายแม่ยังตกใจเลยว่าอุ้มไหวได้ไง อ้วนขึ้นตั้งเยอะ
มินกับมิ้วเลี้ยงดีไปใช่มั้ย หื้ม” คุณแม่คนสวยพูดพลางหยิกแก้มนุ่มที่ขยายขึ้นจากเมื่อก่อน
“ไม่จริงสักหน่อย
เจ้าพวกนั้นอะชอบแย่งพาย แถมแย่งไปแบ่งกันเองด้วย”
“ฮ่าๆ อย่างนั้นหรอคะ
แต่แม่ว่าพายอ้วนขึ้นจริงๆนะดูสิ นุ่มนิ่มไปหมดเลย” ยู่ปากให้คุณแม่ขี้แซว
พายไม่ได้อ้วนสักหน่อย ถึงน้ำหนักจะเริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆก็เถอะ
ช่วงนี้ของอร่อยมันเยอะ ของมันต้องกิน!
ระหว่างทางที่เดินลงบรรไดมาได้ยินเสียงหัวเราะชอบใจของคนในบ้านที่ดังขึ้นมาเป็นระยะๆ
บ่งบอกว่าทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ทำให้อดรีบเดินไม่ได้ อยากเจอทุกคนมากๆเลย
แต่พราะขาที่ยังเดี้ยงอยู่เลยทำให้เร่งความเร็วได้นิดหน่อยเท่านั้น
“อ่าวนั้นไง
พายมาแล้ว” เสียงพี่ลบดังขึ้น
เมื่อเห็นผมกับคุณท้องฟ้าเดินลงมา ตอนนี้ในห้องรับแขก
มีพี่พลัสนั่งตักพี่ลบอยู่บนโซฟาข้างขวา ภาพที่ทุกคนเคยเห็นจนชินตา
เพราะพี่พลัสตัวเล็กมาก ตัวเตี้ยกว่าผมเกือบห้าเซ็นต์
ตรงข้ามกันเป็นดีไวด์คนเล็กแต่ตัวนี่โตเกือบเท่าพี่ลบที่สูงที่สุดในบ้านแล้ว
ที่ตรงกลางที่เหลือเลยกลางเป็นที่ของคุณธรณี แล้วก็พี่ทาม
เมื่อมองรอยยิ้มแบบเดิมของทุกคนที่ไม่ได้เห็นมาเกือบ2เดือน
“กอดหน่อย” พูดเพียงแค่นั้นพี่พลัสกับพี่ลบก็เดินมากอดตัวผมเอาไว้
และมีดีไวด์กอดอยู่ข้างหลัง เป็นภาพที่น่ารักมากๆ ทำให้คนนอกอดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม
“พี่ทามไม่อยู่กินข้าวด้วยกันจริงๆหรอ”
หลังจากที่กอดกันเสร็จทามก็ขอตัวออกมา เขาไม่อยากขัดเวลาครอบครัว
เพราะดูแลคนตัวเล็กคงอยากจะอยู่กับครอบครัวเสียมากกว่าต้อนรับแขก
“ไม่ครับ”
“ไม่กินก็ไม่กินครับ”
โอเค ถ้าพี่ทามไม่อยากอยู่เขาก็จะไม่ตื้อแล้ว
เพราะถามไปหลายรอบอีกคนก็เอาแต่ปฏิเสธ
เดินออกมาส่งอีกฝ่ายที่หน้าประตูบ้านสักพักแล้ว
มีแต่ผมเนี่ยแหละที่ยังไม่ปล่อยเขาไปเสียที
ไม่รู้ทำไมเหมือนแค่อยากอยู่อย่างนี้อีกสักพัก
“ครอบครัวเราน่ารักดีนะ
ฝากขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ด้วยนะครับ พวกท่านใจดีมากเลย”
“ได้เลย แต่ตอนที่ผมไม่อยู่ ไม่ได้มีใครเผาผมใช่มั้ยเนี่ย” เริ่มเสียวสันหลัง
เพราะพี่น้องเขาพูดน้อยกันเสียที่ไหน ตอนที่มันนิทกับมิ้วมาที่บ้านใหม่ๆ
พวกนั้นก็ชอบเผาให้พวกมันฟังตอนที่ผมไม่อยู่ เลยทำให้โดนพวกมันล้ออยู่บ่อยๆ
“หึหึ
ไม่ครับไม่ได้เล่าอะไรเลย” ปากบอกไม่แต่หน้านี้พี่สวนทางกันมากบอกตรง
มันเล่าอะไรให้พี่ทามฟังกันเนี๊ยยยยยยย จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
แค่นี้ก็บางจะตายแล้วววว
“ไม่มีจริงๆครับ”
หรี่ตามองคนข้างหน้าอย่างจับผิด แต่ดูท่าทางแล้วอีกฝ่ายคงไม่รู้จริงๆอย่างที่พูด
“งั้นขอบคุณที่มาส่งอีกรอบ
กลับบ้านดีๆนะครับ ฝันดีล่วงหน้าด้วย” โบกมือลาให้คนตัวโต
“เดี๋ยว” เมื่อกล่าวคำลาเสร็จ ขาที่ก้าวกำลังจะหันกลับเข้าบ้านก็ต้องชะงัก
เมื่อถูกเสียงเรียกเอาไว้ พี่ทามลืมอะไรไปรึเปล่า
“ฝันดีล่วงหน้านะครับ” แค่บอกฝันดีเอ็งจะหน้าร้อนทำไมเล่าไอพาย
ไม่รู้ว่าเขินที่เขาบอกฝันดี หรือเขินรอยยิ้มนั้นกันแน่ ผมว่าต้องไปหาหมอแล้วหล่ะ
ดูเหมือนโรคภูมิแพ้พี่หมอกำเริบ และเป็นกับแค่หมอทามเท่านั้นแหละ
“งั้นพ่อกับแม่ขึ้นนอนก่อนนะ
เสร็จแล้วปิดไฟด้วยหล่ะ” คุณธรณีว่าก่อนที่เดินกอดเอวพาคุณท้องฟ้าขึ้นห้องนอนไป
เหลือแต่แก็งส์ระคนที่นั่งดูโทรทัศน์
พอทั้งสองคนขึ้นไปแล้วดีไวด์ที่นั่งใกล้รีโมทที่สุดก็คว้าไปปิดโทรทัศน์ก่อนที่ทุกคนจะเคลื่อนตัวกันมา
นั่งข้างผมเป็นวงกลม
“ด—เดี๋ยว อะไรกัน
แล้วนี้ไวด์ปิดโทรทัศน์ทำไมเราดูอยู่นะ” ไม่รู้ทุกคนจะมาไม้ไหน
เขาต้องป้องกันตัวเองไว้ก่อนโดนรุม
“คนนั้นคือใคร” >>พลัส
“คนนั้นคนไหน”
>>มัลติพาย
“ถามอะไรแบบนั้นอะพลัส
เอาใหม่สนิทกับพี่ทามหรอ” >>ดีไวด์
“ก็พี่เขาพาส่งกลับบ้านมาสองรอบแล้วอะ”
ไม่รู้ว่าแบบเขากับพี่ทามนี่เรียกว่าสนิทกันรึยัง
ถึงจะเจอกันแค่สองรอบ และเพิ่งรู้ชื่อกันวันนี้
แต่ก็ให้ความรู้สึกเหมือนสนิทกันมาสักพักแล้ว
ไหนจะความรู้สึกอบอุ่นที่ได้รับมาจากพี่ทามอีก สำหรับพี่ทามเราสนิทกันรึยังนะ
“เด็กเกเร”
“นั้นแรงแล้วใช่มั้ย ฮ่าฮ่า”
“ฮึ่ย สูงกว่าแล้วอย่ามาทำข่มนะ”
“แล้วนี่พี่ทามป๊อปขนาดนั้นเลยหรอ ทำไมเราไม่รู้จักอะ ”
“พายเคยสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยหรอ=___=”
“อันนี้เราเห็นด้วยกับไวด์ โทรศัพท์พายก็มีเอาไว้แต่ฟังเพลง
ถ้าไม่ติดว่าเอาไว้ติดต่อก็คิดว่ามีไว้พกเล่นเฉยๆแล้ว
สรุปใช้ไอพอดบ่อยกว่าโทรศัพท์อีกมั้ง เล่นโซเชี่ยลก็แค่อัพรูปในไอจีห้าเดือนทีงี้
เสียเวลาช่วงวัยรุ่นชะมัด”
“เสียดายแทนอะดิแต่ถ้าชอบก็ไม่ขัดหรอกนะ
ว่าแต่ลบรู้จักทามหรอเห็นดูเหมือนจะสนิทกัน”
“หื้ม
ลบสนิทกับพี่ทามหรอ” เพราะว่าพายตอนลงมาจากห้องนอนได้ไม่นานพี่ทามก็ขอตัวกลับ
ทำให้ไม่เห็นตอนที่ลบกับทามคุยกัน
“อ่อ
ทำไมอยู่ตั้งใกล้ตัวแต่ไม่เคยเจอกันเลยสักครั้ง ตลกดี”
“นั้นสิ
เป็นพี่ของน้องมินด้วยไม่ใช่หรอ นี่พายไม่สนใจสิ่งรอบข้างจริงๆใช่มั้ยเนี่ย”
“นี่พลัสเรียกมินว่าน้องหรอขนลุก”
“ก็เขาอายุน้อยกว่าพลัสตั้งเยอะ”
“แก่”
“ดีไวด์เด็กปากเสีย”
“เนรเทศมันเลย”
“ใช่สิ
ผมไม่ใช้น้องรักแบบพายหนิ”
“รู้ตัวแล้วก็ย้ายตูดออกไปเลย”
“ไม่ง้อกันเลย
ไม่รักกันจริงดิ เสียใจว่ะ”
“โอ๋เอ๋ๆ
งอนเป็นเด็กไปได้” พายกับพลัสกอดคอน้องชายตัวสูงเอาไว้ก่อนจะยีน้องหัวคนละทีสองที
“ว่าแต่กลับมาเรื่องทามก่อน”
“ยังไม่จบอีกหรอพลัส
เราคิดว่าจบแล้วนะเนี่ย”
“ไม่จบ
แล้ววันนี้ต้องได้คำตอบด้วย”
โอเค
ผมยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิขยับให้สบายตัว ตบตักเร่งให้พลัสถามคำถามมา
มาเลยคำถามแบบไหนพร้อมหมด! “อะ งั้นว่ามาพร้อมแล้ว”
“เอ่อ ใครจะถามอะ
ไวด์ถามหน่อย”
“หึ ไม่เอา
ผมขอเจือกแบบเงียบๆพอ”
“อ่าว ไม่ช่วยกันเลย
งั้นลบถามที!” ลบพยักหน้านิ่งๆของตัวเองก็จะหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบเหมือนเดิม
“ชอบทามหรอ??”
“บ้าหรอ เราไม่ได้ชอบเขาสักหน่อย
เพิ่งเจอกันแค่สองรอบเองนะ ฮุ้ย พูดเรื่องอะไรกันเนี่ย
ฮ้าววว พายง่วงแล้วอะขึ้นนอนแล้วนะฝันดี” ผมรีบพูดตัดจบ เรื่องอะไรจะอยู่ให้พวกนั้นซักถามต่อ
ก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องทันที ส่วนเรื่องคำถามนั้น ยังไม่คิดหาคำตอบหรอก
ถ้าอะไรมันใช่เดี๋ยวกาลเวลาก็ทำให้มันชัดเอง
“คิดเหมือนกันใช่มั้ย” >>พลัส
“เฮ้ออออออ
พายจะมีแฟนแล้วหรอเนี่ย” >>ดีไวด์
“แกก็รีบหาเมียสิ” >>ไมนัส
“ถ้าหาง่าย
พลัสก็มีไปแล้วดิ” >>ดีไวด์
“อย่าพาดพิงเรานะ
เราทำงานเลยไม่มีเวลาจีบสาวต่างหาก” >>พลัส
“พลัสเนี่ยนะจีบสาว
ลบว่าได้ผัวมากกว่า” >>ไมนัส
“เห้
พอพายไม่อยู่อย่ามาแกล้งเรานะ แล้วไวด์กับลบก็เลิกเที่ยวได้แล้ว
ตับพังกับติดเอดส์อันไหนจะมาก่อนกันเนี่ย” >>พลัส
“แบบพลัสไม่เข้าใจเราหรอก
ไปๆกินนมนอนได้แล้ว” >>ดีไวด์
“เราโตกว่าไวด์นะ!! แต่อยากกินนมว่ะ ฝากหยิบขึ้นไปให้ด้วย นอนแล้ว ฝันดีไอน้องชาย:p” >>พลัส
to be continue
อีนมาอัพแร้วนะ
เย้ๆ เมื่ออาทิตย์ที่มาอีนเพิ่งสอบ สอบเสร็จวันนี้พอดี
ทั้งต้องอ่านหนังสือแล้วก็อยากแต่งด้วย อีนเลยควบสองทำสองอย่างเลย555555 อีนยังเขียนไม่ค่อยคล่องอาจจะมาวกๆวนๆบ้าง งงเนื้อหาบ้าง
ความรู้สึกตัวละครไม่ชัดยังไง แนะนำกันได้น้าา แต่อย่ารุนแรงกับอีน อีนบอบบ๊างง
บอบบาง อิอิ
ด้วยรักส์จากอีนเอง
ไปล้าววววว บ๊ายบายยยยยยย
#คุณของคูณ
twitter : @caffeine__23
ความคิดเห็น