ข้อมูลเบื้องต้น
เมื่อเธอเริ่มต้นบอกกล่าวข้อคับข้องใจ บางความรู้สึก อยากขอให้เธอยับยั้งชั่งใจ บางสิ่งล่วงเลยมานานมาก จนไม่อาจย้อนวันเวลาไปจัดการให้เป็นไปได้อย่างที่ต้องการอีกแล้ว
การให้คำปรึกษาเป็นปัญหาหนัก ต้องให้ทางเลือกหลากมุมมอง ชี้ทางให้ไตร่ตรองด้วยตนเอง ไม่ส่งเสริม ไม่จูงใจ และ ไม่ให้คำตอบ
ฟัง และ คุย จนกว่าอีกฝ่ายจะสบายใจขึ้น บางที ศิราณี อาจต้องทำแค่นั้น
ให้พัก จนหัวใจดีขึ้นเสียหน่อย ค่อยก้าวต่อไป จะขึ้นรถ ลงเรือ หรือนั่งเครื่องบิน ด้วยย่างก้าวอันมีสติกว่าเดิม แม้ไม่มาก แต่ก็ช่วยให้ปลอดภัยขึ้น ที่สำคัญ ต้องลากออกมาจาก มีด ปืน ยาพิษและน้ำกรด
ในยามหัวใจย่ำแย่ ทั้งตัวเองและผู้อื่น ล้วนมีโอกาสเป็นเหยื่อจากการถูกทำร้าย
กิ้ก ชู้ บ้านเล็ก และอีกมากมาย แล้วแต่เลือกใช้กับใครสักคนที่สวมบทบาทตัวสำรองในกติการักเดียวใจเดียว ผมตาลุกเมื่อเธอเอ่ยว่า เอาน้ำกรดสาดเสียทีน่าจะดี กระพริบตาหนึ่งหน เธอขำ แล้วบอกว่าล้อเล่น ถ้าจะทำจริงๆจรังๆ คงทำไปนานแล้ว เพื่อนของเธอมีปืน พร้อมจะให้ยืมอยู่เสมอ
เธอรู้จักเขาก่อนภรรยาที่อยู่กินด้วย อดีตช่วงนั้น ต่างคนต่างอายุยังน้อย วุฒิภาวะทางสังคมค่อนข้างต่ำ เอาเป็นว่า ครอบครัวของเธอมีภาระหนี้สินพอสมควร ในคำว่าพอสมควรแฝงไว้ด้วยลมหายใจเหนื่อยอ่อน ผมตีความว่า อยู่ในเกณฑ์ที่หนักหนา หากไม่่ได้มีผืนดินไว้ทำกินเองหรือเหลือพอให้เจ้าหนี้ยึดไถ่ถอน หากจะครองคู่กันยาวยืด ก็เป็นเรื่องที่ต้องนำมาคุยกันเสียแต่เนิ่นๆ เปิดใจให้กว้าง เล่าความจำเป็นบางอย่างของกันและกันไว้ก่อน เหลือเวลาไว้คิด ตัดสินใจ อย่าเอากลีบกุหลาบมามองกันโดยปกปิดหนามแหลมคมเอาไว้
เอาความรักมาใช้ในชีวิต ไม่ใช่เรื่องอ่อนหัดแค่พูดกันว่า แค่ัรักกันก็พอ
วันหนึ่งในชีวิต ปัญหาสังคมที่ต้องเผชิญโดยไม่หยุดหย่อน อาจกลบฝังความรักจนมองไม่เห็นอีกต่อไป ในที่สุด อาจมีทางเลือกไม่มากนัก แค่ อยู่ ไป หรือ คบกันไปอย่างนี้เรื่อยๆ
เมื่อไพ่ของทั้งคู่ไม่พอเรียกแต้มที่ดีกว่าเดิม เอาชีวิตที่ต่างคนต่างแบกมาช่วยกันแบก ไม่ใช่หนักเป็นสองเท่าแต่เป็นทวีคูณ จะกี่เท่าก็แล้วแต่ความเข้มแข็งของหัวใจ ...เธอคิดว่าส่วนของเธอหนัก ด้วยความรัก เธอเลือกเป็นฝ่ายตัดใจ
ไม่เล่า ความโศกเศร้ายามนั้น เชื่อว่ามาก ราวครึ่งปี เขาพบผู้หญิงอีกคนแล้วแต่งงานในเวลาไม่นาน เท่าที่ทราบ เป็นครอบครัวที่มีความสุขตามอัตภาพ
ความรักเป็นสิ่งที่เข้มแข็ง แต่หัวใจเป็นส่วนที่เปราะบางและถูกสมองกลั่นแกล้งด้วยความคิดอยู่เสมอ ความคิดไม่เคยหยุดทำงาน มีบางเพลงบอกว่า ไม่เอาน่าอย่า คิดมาก ไม่เอาน่าอย่าคิดไปกันใหญ่ ...ที่สำคัญ ความคิด ไม่เคยลืมส่วนที่เจ็บปวดรวดร้าว เมื่อเป็นเสียอย่างนั้น หัวใจจึงต้องรับกรรมอยู่ตลอดกาล ตราบเท่าที่ความคิดยังทำงานอยู่
ยังรัก และ อยากเจออีกครั้ง - ความรู้สึกของเธอรวบรัดชัดเจน สองวันก่อนลองโทรไปหา หมายเลขโทรศัพท์เดิมยังมีสัญญาณตอบรับ เสียงตอบกลับยังเป็นคนเก่า วินาทีนั้น ผมไม่อยากเดาว่า หัวใจของเธอเต้นแรงขนาดไหน เลิกเพราะจำเป็น แรงรักไม่เคยหายไป
ครั้งเดียวพอไหม แล้วถ้าเจอแล้ว อยากเจออีกจะทำอย่างไร ? ผมถามอย่างโหดร้าย คำตอบมันชัดเจนอยู่แล้วว่า โปรดตัดใจ ถ้าเขายังไม่มีใคร ผมไม่ห้าม แต่ในชีวิตของเขามีผู้หญิงไม่รู้อิโหน่อิเหน่แต่ประการใดอีกคนหนึ่ง
เธอเงียบกับคำถาม สีหน้าค่อนข้างสลด มีรอยเบิกบานแต่ดูรู้ว่าฝืนความรู้สึกอย่างหนัก ความคิดกับความรู้สึกคงโรมรันกันในเรือนร่างอันบอบบางหลายครั้งหลายหนมาแล้ว ในสนามรบที่ย่อยยับ ไม่ใช่แค่เพียงกองทัพ แต่เป็น บริเวณอันเกิดสมรภูมิ คิดมากจนเครียด ร่างกายก็อ่อนแอลงด้วย ไม่ใช่แค่ริ้วรอย แต่หมายถึงบาดแผลบางแห่งบนร่างกาย
เลิกเถอะ
ด้วยทางเลือกที่ให้เธอ ผมรู้สึกว่า สอบตกการเป็นที่ปรึกษาเสียแล้ว
หมายเลขโทรศัพท์ของผมก็เหมือนเดิม ถ้าคิดถึงเขา โทรมาหาผม ยินดีรับฟังเสมอ
เป็นบริการหลังการขาย
จากวันนั้น ราวปีครึ่ง เธอไม่เคยติดต่อมาหาผมอีกเลย หมายเลขโทรศัพท์ของผมไม่เคยเปลี่ยน แต่ของเธอเปลี่ยน รวมทั้งที่ิอยู่อาศัย พยายามอ่านหนังสือพิมพ์ ข่าวพาดหัว ช่องข่าวย่อย ได้แต่หวังว่าจะไม่มีเรื่องเศร้าอันเกิดจากความรักที่ไม่สมหวัง
แม้ว่าข่าวแบบนั้นจะมีให้อ่านทุกวัน ในความจริงอาจมีมากกว่าจำนวนตัวอักษรที่ตีพิมพ์ มีโอกาสทำอะไรไม่ยั้งคิดกันทุกคน แต่ ผมไม่ต้องการให้เกิดกับผู้หญิงคนหนึ่ง
ไม่มีข่าวของเธอ
ผมโล่งใจ โดยกลไกของความคิดที่ถูกหล่อหลอมตามกระบวนการทางสังคม เรื่องที่เป็นส่วนของความสุข ก็พร้อมจะลืมเลือนไปได้ง่ายๆ ทังจากความคิดและความรู้สึก
วันหนึ่ง ขณะเข้าอินเตอร์เน็ตตามปรกติ มีีอีเมล์ส่งลิ้งค์ไปหา บล็อก ที่ไม่รู้จักมาให้ ตามประสาผู้ไม่เคยหวาดหวั่นสปายแวร์และไวรัสคอมพิวเตอร์ รวมทั้งต้องฟอร์แมทฮาร์ดดิสบ่อยๆ จนไม่รู้สึกเดือดร้อนกับการรอคอยติดตั้งวินโดวส์ ผมเปิดหน้าต่างใหม่ดูบล็อกนั้นทันที
บล็อกเรียบๆ ไม่ใช่ระดับมืออาชีพ ตกแต่งด้วยเทมเพล็ตมาตรฐาน เป็นบล็อกแบบไดอารี่ทั่วไป เล่าเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งกับชายอันเป็นที่รัก ทั้งก่อนที่จะคบกัน ระหว่างประคับประคองกัน จนกระทั่งรักกัน และหลังจากเลิกรากันแล้ว
ผมสนใจช่วงหลังจากเลิกรา เจ้าของบล็อกเล่าว่าไม่เคยติดต่อกับเขาอีัก
จนกระทั่งโมงยามนี้ ก็ยังรักเขา ไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งหนไหน ความรู้สึกรักก็ยังคงอยู่
ในร้านกาแฟเก่าๆ โรงหนัง ร้านอาหาร ทั้งหมดที่เคยไปด้วยกัน และ ที่ไม่เคยไปด้วยกัน ต่างก็มีความทรงจำที่เกี่ยวกับเขาบันทึกเอาไว้ทั้งหมด
เคยไหมที่อยากให้ใครบางคนในอดีตมาอยู่กับเราในเวลาปัจจุบัน
บางคน บอกว่า อย่าคิดเลย มันเป็นไปไม่ได้
แต่บางคนเลือกที่จะคิด
เพราะเลิกรากันเป็นความผิดหวังครั้งเดียว วันเวลาของความสุขที่เคยใช้สอยร่วมกันมามีมากกว่านั้น คิดถึงเฉพาะส่วนที่มากกว่า แม้ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ก็เป็นสุข
สำหรับเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แค่มีความรู้สึกหรือคิดถึง ไม่มีอะไรผิดหรอก หากไม่ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่น
ในบล็อกมีภาพถ่ายหญิงสาวคนหนึ่งที่ผมคุ้นเคย หนึ่งภาพต่อหนึ่งเรื่องราว
ผมอ่านไปขำไป ยิ้มตามไป
เธอจะรู้ไหมว่า ในวันที่เธอเข้มแข็ง ใช้ชีวิตที่มีความรักอย่างร่าเริงเบิกบาน
มีใครคนหนึ่งกำลังคอยรับฟังเรื่องราวของเธออย่างเงียบๆและมีความสุข
ความคิดเห็น