คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : การเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ
7
การเริ่มต้นของเรื่องวุ่นๆ
7.00
เฮ้อ
ไม่อยากไปโรงเรียนเละอ้า...แต่จะทำไงได้ยังไงก็ต้องไปใช่มะ แล้วนี่ฉันจะต้องไปเจอเรื่องอะไรที่โรงเรียนอีกบ้างเนี้ยะ อ๊าก...ไม่อยากจะคิดเลย ขอให้ยัยขวัญอย่ามีเรื่องกับใครเลย โดยเฉพาะกับยัยชะนีทรีโอนั่น สาธู๊
ฉันเดินเข้ามาในโรงเรียนด้วยจิตใจอันห่อเหี่ยว เพราะว่าวันนี้ฉันรู้สึกว่ามันจะต้องมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นแน่ๆ
และฉันก็ค่อยๆพาตัวเองขึ้นไปที่ห้อง
“หะ! นายจะบ้าหรือไง ให้กินกล้วยประชันเนี้ยะนะ มีหวังท้องแตกก่อนชนะแน่ๆ”
มีเรื่องกันแต่เช้าเลยสองคนนี้
“ก็ฉันคิดว่าเรื่องแบบนี้เธอคงจะถนัด”
“ไอ้บ้า ฉันว่าหลับตาขายน้ำแข็งก็ได้นะ นายคงจะถนัด”
แต่ฉันว่ามันไม่ได้เรื่องเลยสักอย่างเลยต่างหาก เฮ้อ...ฉันล่ะเหนื่อยใจกับสองคนนี้จริงๆ
“อ้าวทรายมาแล้วเหรอ มาช่วยฉันตัดสินใจหน่อยสิว่าระหว่างกินกล้วยกับว่าหลับตาขายน้ำแข็งอันไหนดีกว่ากัน”
ยัยฟ้า เอ้ย! ยัยขวัญเดินเข้าถามฉัน
“ใช่ให้มันรู้กันไปเลย”
นายดัชก็เข้ามาสนับสนุน
นี่ฉันมีเพื่อนปัญญาอ่อนสองคนเลยหรือไง
“ฉันว่ามันไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง พวกเธออย่าประชดกันสิ นี่มันเรื่องของสายเราเลยนะ พวกเธอจะเธอจะเอามาล้อเล่นไม่ได้”
“O.O”
นี่คือสีหน้าของยัยขวัญกับนายดัชตอนนี้
คำพูดของฉันมันน่าตกใจขนาดนั้นเลยหรือไง
“เธอพูดอะไรมีสาระเป็นด้วยเหรอ”
นี่ฉันมันดูไร้สาระมากเลยหรือไง
“เธอจะชมหรือว่าด่าฉัน ขวะ...ฟ้า”
“ฉันชมเธอนะว่าเธอพูดมีสาระ”
มันจะดีมากถ้าไม่มีคำว่า ’เป็นด้วยเหรอ’ ตามมา
“นี่ดัชแล้วบาสยังไม่มาอีกเหรอ”
“อ๋อมาแล้ว แต่โดนอาจารย์วุฒิเรียกตัวไปน่ะ”
อาจารย์วุฒิคืออาจารย์ที่สอนพละ แล้วก็เป็นผู้ดูแลบาสชาย คงเรียกตัวนายบาสไปถามเรื่องการแข่งบาสประจำปีแน่ๆเลย
“เธอช่วยคิดหน่อยสิว่าเราจะเอาอะไรไปประชันกับสายอื่นดี ทำอาหารก็มีแล้วจากภาคอังกฤษ เทวันโดจากภาคญี่ปุ่นก็มีแล้ว มวยก็มีจากภาคไทย เล่นงิ้วจากจีน(+555+ยัยกิ๊ฟกับยัยเกรซสองในสมาชิกชะนีทรีโอ้จะเล่นงิ้ว ฮะๆๆๆ มันคงจะเป็นเรื่องถนัดของยัยพวกนั้นสินะ) แล้วภาคเยอรมันก็ฟันดาบไปแล้ว”
แล้วมันจะเหลืออะไรเนี้ยะ จะให้พูดเกาหลีแข่งกันมันก็คงจะสบายปากยัยขวัญกับนายดัช แต่มันจะลำบากหูคณะกรรมการน่ะสิ แล้วจะเอาอะไรดีเนี้ยะ
“เออ...ฟ้ามานี่”
แล้วฉันก็ลากยัยขวัญมาที่โต๊ะของเรา
“เธอพอจะมีความสามรถอะไรบ้างไหม”
ฉันถามเพื่อว่าจะเอามาใช้ในการประชัน
“อืม...ด่าคน กวน teen คน แล้วก็ปีนต้นไม้”
โอ้โห...เพื่อนฉันความสามารถเริ่ดจริงๆ
“เอาที่มันมีสาระหน่อยสิ หรือว่าเธอจะไปด่ากับนายดัชโชว์คณะกรรมการ เอ่อ...แต่ฉันว่ามันก็น่าสนนะ เธอกับนายดัชปากจัดพอๆกันเลยนี่คงจะสนุกน่าดู”
“บ้าหรือเปล่า ด่าโชว์คณะกรรมการ เธอเอาเซลล์สมองตัวไหนคิดบอกมานะ ฉันจะเอามันออก”
ฉันผิดเหรอนี่
“ฉันก็พอจะ ตีกลอง กับเล่นกีตาร์ เล่นเบสได้”
สรุปพี่เป็นเครื่องดนตรีทุกอย่าง ทั้งๆที่น้องเล่นอะไรไม่เป็นเลย แม้แต่เคาะกะลาให้เป็นจังหวะยัยฟ้ายังทำไม่ได้เลย ฝาแฝดคู่นี้ช่างแตกต่างกันจริงๆ
งั้นฉันว่าฉันคิดออกแล้วละ ว่าจะเอาอะไรไปประชัน
แล้วฉันก็ดึงยัยขวัญไปที่นายดัชนั่งอยู่อีกครั้ง
“นายดัชนายเคยแข่งร้องเพลงใช่ไหม”ฉันถาม
“หะนายดัชเนี้ยะนะเคยร้องเพลง”
“ฉันเคยร้องเพลงแล้วมันเป็นไง”
“เสียงนายคงเหมือนเป็ดออกลูกเลยสินะ แล้วคณะกรรมการก็คงจะคัดนายตั้งแต่รอบแรกเลยละ”
“ทำไม อย่างน้อยฉันก็ร้องเพลงภาษาคน ไม่ใช่ภาษาลิง”
“นายคงจะร้องว่า น้ำแข็งจ้า น้ำแข็ง จะแบบหลอด จะแบบป่น หรือแบบมือ ก็มีหมด หรือจะเอาใจแข็งๆของผมก็ได้นะครับ เอิง...เอิง...เอย...สินะ ฮะๆๆ”
ขวัญเธอคงจะเล่นดนตรีเป็นอย่างเดียวใช่ไหม ฉันสามารถรับรู้ได้จากการร้องเพลงน้ำแข็งของเธอ T-T
“งั้นเธอก็คงจะต้องร้องว่า ลิงเจี๊ยกๆ ร้องหาอาหาร ถ้าใครโปรดปราน ก็ช่วยเอาไปฆ่าหมกดงกล้วยด้วย เอิง...เอิง...เอย...ใช่มะ”
นี่นายคิดสดๆเลยใช่มะ
“นี่หยุดทั้งสองคนนั่นแหละ ฉันว่าเธอสองคนเล่นดนตรีประชันก็เหมาะนะ”
“หะให้ยัยลิงนี่ร้องเพลงเนี้ยะนะ มีหวังคณะกรรมการหูพังกันพอดี”
“นี่นายว่าฉันเหรอ ไอ้บ้าดัช”
“ฉันชมเธอต่างหากล่ะ ว่าร้องเพลงได้เพราะจนหูไม่สามารถทนฟังได้เลย ประมาณว่าเสียงของเธอมันเพราะเว่อร์น่ะ”
“หืม...ไอ้บ้าดัชนายคิดว่านายร้องเพลงเพราะนักหรือไงเสียงยังกะควายปวดท้อง”
แต่ฉันว่ามันเพราะกว่าเธอนะขวัญ TT-TT
“นี่หยุดเถียงกันสักทีได้ไหม ฉันไม่ได้ให้ยัยฟ้าร้อง แต่ฉันจะให้นายร้องต่างหากล่ะดัช ส่วนยัยฟ้าน่ะเล่นกีตาร์”
“ยัยนี่เล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ หรือว่าแต่ดีดดีดหนังยางกันแน่”
“มันจะไม่ดูถูกกันไปหน่อยหรือไง”
“ก็ดูถูกน่ะสิ ไม่ได้ดูผิด”
“นายนี่มัน...”
“โอ้ย...หยู๊ด...กันสักทีได้ไหม หยุดเถียงกันสักห้านาทีเนี้ยะจะตายไหม”
“เธอว่าฉันเหรอ ยัยเหยิน”
อึก...ฉันรีบหุบฟันตัวเองลงทันที ทำไมยัยนี่ต้องมาตั้งฉายาให้ฉันด้วย ฉันไม่ต้องการ =_=
และกิจกรรมที่ภาคเราส่งเข้าประกวดก็จบลงที่คนตรี แต่กว่าจะจบได้ยัยขวัญก็เถียงกับนายดัชไปหลายยกเหมือนกัน ยัยขวัญบอกว่าเอาเพลงไปลงนรกซะเถอะไอ้ดัช ส่วนนายดัชก็เอาเพลงยัยลิงยั่วสวาท พอยัยขวัญเอาเพลงผิดไหมที่เกิดมาหน้าชา นายดัชก็เอาเพลงผิดไหมที่เกิดมาหน้าลิง ซึ่งแต่ละเพลงที่คิดกันออกมานี่ก็ต้องแปลงเนื้อกันสดๆไปเลย แต่สุดท้ายก็ยังคิดไม่ออกว่าจะเอาเพลงอะไร
แล้วในที่สุดพวกเราก็ต้องเข้าเรียนวิชาภาษาไทยของอาจารย์รังสิมา(ซึ่งมันควรจะเป็นวิชาที่ลำบากมากสำหรับยัยขวัญ เพราะในจะไม่รู้เรื่องแล้ว ยังจะไม่ค่อยถูกชะตากับอาจารย์รังสิมาอีก) เพราะเท่าที่ฉันดูยัยขวัญไม่เคยจดทันเลยสักครั้ง และนิสัยเด่นของยัยขวัญอีกอย่างหนึ่งก็จะไม่เรียนในห้อง วันๆเอาแต่นั่งมองไปนอกหน้าต่าง หรือไม่ก็หลับไปเลย แต่ยัยขวัญก็สามารถตอบได้ทุกคำถามที่อาจารย์ถาม(ยกเว้นภาษาไทยที่ยัยขวัญไม่สามารถหลับได้) แถมวิชาฟิสิกส์ยัยนี่ยังได้เต็มอีกต่างหาก นั่นคงจะเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างหนึ่งของยัยขวัญ ฉันล่ะอิจฉาจริงๆ
“กริ๊ง..งง..ง”
เสียงนาฬิกาปลุกประจำตัวของยัยขวัญ
“กินข้าวแล้วเหรอ”
“เปล่าจ้ะ”
แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่กริ่งกินข้าวแต่ มันแค่หมดคาบ
“โห่...”
ผิดหวังมากขนาดนั้นเลยเหรอ
~ฟรึ่บ~
ฟุบตามธรรมชาติ
~พรึบ~
“เฮ้ย!อะไรของเธออยู่ๆก็ลุก”
“ฉันจะไปห้องน้ำ”
และยัยขวัญก็เดินไปเข้าห้องน้ำโดยที่ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอรู้หรือเปล่าว่าห้องน้ำอยู่ไหน ดังนั้นฉันก็ต้องรีบเดินตามไปทันที (ฉันไม่ใช่เบ้เธอนะยะ)
และฉันกับยัยขวัญก็เดินไปเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดนั่นก็คือห้องน้ำข้างๆตึกของเรา
“เดี๋ยวฉันเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“อย่าเอาฟันไปเจาะห้องน้ำเล่นล่ะ”
“แล้วเธอไม่เข้าเหรอ”
“ฉันบอกว่าจะมาห้องน้ำไม่ได้มาเข้าซะหน่อย”
กรรม! -_-
ยัยนี่กวนไม่เลิกจริงๆ
“ไปลงนนรกซะเถิดนายดัช ฉันจะลงโทษแก เอิง...เอิง...เอย”
เธอจะมาแหกปากขัดความสุขของฉันทำไมยัยหลับสะท้านโลกันย์
“มีความสุขจังเลยนะยัยตัวดี”
ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ แล้วใครมาพูดกับยัยขวัญเนี้ยะ
“ก็แน่นอนอ่ะนะ ก็คนมันมีความสุข อะไรมาขัดก็ไม่อยู่”
“ยังจะปากดีมาพูดอีกหรือไง”
ฉันรีบทำธุระให้เสร็จ แล้วก็รีบออกมา ปรากฏว่าตอนนี้ในห้องน้ำหญิงมีชะนีอยู่ด้วย
“แล้วถ้าไม่ให้ฉันใช้ปากพูดแล้วจะให้ใช้จมูกพูดหรือไง”
“นังหน้าด้าน”
เฮ้ย!นี่มันจะแรงเกินไปแล้วนะ
“โอ้วววว...พระเจ้า ทรายรีบไปแจ้งสวนสัตว์ทีว่ามีชะนีหลุดออกมา”
และตอนนี้นักเรียนที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่ก็รีบเผ่นออกไปโดยอัตโนมัติ คนที่ปวดฉี่แทบตายตอนนี้คงจะหดหายไปเลย แต่จะมีขี้ขึ้นมาอยู่บนหัวแทน
“ ปากดีนี่ แกมีบาสทั้งคนยังไม่พอ ยังจะยั่วดัชอีกหรือไง”
“อ๋อ...ที่แท้ก็เรื่องนี้เอง ทำไมเธอทำได้อย่างฉันหรือเปล่าล่ะ แต่อยากพวกเธอก็คงทำได้แค่ร้องหาผู้ชายไปวันๆ แต่ก็คงไม่มีใครมาสนใจชะนีอย่างเธอหรอก ฉันจะบอกให้เอาบุญ”
เธอก็ด่าได้แสบเหมือนกันเลยนะขวัญ
“หึ เธอเปลี่ยนไปมากเลยนะฟ้า”
ยัยนี่ใช่ยัยฟ้าที่ไหนกันเล่า
“คนอย่างเธอก็ต้องเจอคนอย่างฉันนี่แหละ มันถึงจะสมกัน”
ฉันก็ว่างั้นแหละ พวกยัยชะนีทรีโอนี่เจอกับเธอถึงจะเหมาะไม่ใช่ยัยฟ้า และตอนนี้ฉันรู้สึกว่าฉันไม่เป็นห่วงยัยฟ้าคนนี้เลยสักนิดทั้งๆที่เมื่อก่อนนี้พอยัยฟ้ามีเรื่องกับยัยพวกนี้ทีไรฉันแทบบ้าทุกที นอกจากห่วงพวกยัยชะนีทรีโอที่ดันมาหาเรื่องกับยัยขวัญเข้า เดี๋ยวยัยพวกนั้นจะต้องกลายเป็นชะนีตากแห้งแน่ๆ
“ได้งั้นเย็นนี้เจอกันที่หลังโรงยิมเก่า ที่ๆเธอไปยั่วดัชไงล่ะจำได้ไหม”
“อ๋อ...จำได้อยู่แล้วละ ก็ที่นั่นมันเป็นสวรรค์สำหรับฉันเลยนี่นา”
เธอพูดได้แจ่มมากเลยนะ ‘สวรรค์สำหรับฉัน’ แต่มันคงจะเป็นนรกมากกว่ามั้ง ฮิฮิ
“หึ สวรรค์สำหรับฉันพูดได้ไม่อายปากเลยนะ”
“ก็เหมือนเธอนั่นแหละ”
พูดจบยัยฟ้าก็เดินออกจากห้องน้ำไป
ตอนนี้ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่ายัยนี่คิดอะไรอยู่ แต่เย็นนี้ฉันก็คงจะได้รู้แน่ และฉันก็คงจะได้ดูมวยสดแน่นอน
“อ้าวฟ้าไปไหนมาเหรอ”
ทันทีที่เราขึ้นมาถึงห้องบาสก็เข้ามาหายัยขวัญทันที
ฉันไม่รู้จะเห็นใจใครดี นายบาสก็น่าสงสารที่กำลังจะเข้าใจผิด คิดว่ายัยฟ้าไม่รักตัวเอง ส่วนยัยขวัญก็น่าเห็นใจที่ต้องมาทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ เฮ้อ...ทรายท้อ
“ไปห้องน้ำมา นี่ไอ้หน้าชาตกลงนายจะเล่นเพลงอะไร”
พอพูดกับนายบาสจบยัยขวัญก็หันไปพูดกับนายดัชต่อ
ฉันเห็นใจนายนะบาส แต่ฉันก็เห็นใจยัยฟ้าเหมือนกัน สรุปฉันว่าฉันต้องทำอะไรสักอย่างแล้วละ เอาให้มันรู้กันไปเลย
“ก็บอกแล้วไงว่าเอาเพลงยัยลิงยั่วสวาท”
“ถ้าทางนายอยากจะกินยำหมัด ผันส้น teenมากเลยนะ”
ฮะๆๆยำหมัด ผัดส้น teen เมนูใหม่คิดค้นโดยกุ๊กเทียนขวัญ
“ฮะๆๆเธอทำเป็นด้วยเหรอ ฉันอยากกินจังทำให้กินหน่อยสิ”
“นี่ฉันด่าแกนะ ยังไม่รู้ตัวอีก”
“อ้าวเหรอ”
แล้วนายดัชก็ส่งยิ้มแบบ กวน teenๆ มาให้ยัยขวัญ ต่อจากนั้นก็ได้กินยำหมัดของยัยขวัญเข้าไปจริงๆ
“เธอนี่หมัดหนักชะมัดเลย อูยส์”
“ยำหมัดน่ะแค่นี้ แต่ถ้าผัดส้น teen จะหนักกว่านี้”
ฉันว่าฉันพอจะรู้อะไรบางอย่างแล้วล่ะ ว่าแต่ฉันจะจัดการยังไงกับไอ้เรื่องวุ่นๆนี่
“นี่ขวัญเธอกำลังคิดอะไร”
ฉันถามยัยขวัญทันทีที่เรากลับมานั่งที่โต๊ะ
“ฉันกำลังคิดว่าตอนนี้มันคือเวลานอนของฉัน”
อ๊าก...เพื่อนฉัน วันๆเอาแต่นอน(แต่ทำไม่ยัยนี่ถึงได้เรียนเก่งก็ไม่รู้)
“นี่เธอจะนอนไม่ได้นะ เธอต้องมาคุยกับฉันก่อน”
ฉันเขย่าแขนยัยนี่เต็มแรง แต่มันก็ไม่มีวี่แววว่ายัยขวัญจะตื่นเลย ฉันชักจะอยากฆ่ายัยนี่ขึ้นมาแล้วสิ >_<
ในที่สุดยัยขวัญก็ได้นอนไปอีกสามชั่วโมง ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่ายัยนี่ทำได้ยังไง นอนเข้าไปได้ทั้งๆที่ไมค์ก็ดังออกขนาดนี้ แต่ไม่ว่าไมค์จะดังแค่ไหนก็ไม่สามารถปลุกยัยนี่ได้เลย นอกจากเสียง...
~กริ๊ง~
“กลับบ้านแล้วใช่ไหม”
เสียงนี้เสียงเดียวจริงๆด้วย
“อืม...เธอคงไม่คิดจะนอนเฝ้าโรงเรียนหรอกนะ”
“ให้ตายเถอะ ฉันว่าเธอคงอยากมีชีวิตอยากเพื่อทดแทนคุณพ่อกับแม่นะยัยเหยิน เพราะฉะนั้นพูดในสิ่งที่มันไม่ขัดหูฉันเป็นดีที่สุด”
ฝาแฝดคู่นี้แตกต่างกันอย่างหน้าอัศจรรย์จริงๆ ฉันไม่น่ารู้ความจริงเลยบางทีถ้าฉันไม่รู้ความจริงว่ายัยฟ้าคนนี้ไม่ใช่ยัยฟ้าแต่เป็นยัยขวัญฉันอาจจะไม่เจอกับเรื่องแบบนี้กับฉันก็ได้ ฮือๆ แม่จ๋าช่วยลูกด้วย
“งั้นฉันไปล่ะนะ”
ยัยนี่เป็นคนยังไงไม่เคยคิดจะรอกันบ้างเลยหรือไง กี่ครั้งแล้วที่ฉันจะต้องเดินตามเธอยัยหลับสะท้านโลกันย์
“เฮ้ เดี๋ยวสินั่นเธอจะไปไหน เธอจะต้องไปหาอาจารย์รังสิมากับฉันก่อน”
นายดัชรีบเรียกยัยขวัญไว้ทันที สงสัยกลัวว่าจะต้องโดนลงโทษคนเดียวล่ะมั้ง
“อ๋อ...วันนี้ฉันสืบรู้มาว่าเจ๊รังนกไม่อยู่ตอนเย็นน่ะ ไปล่ะนะ”
“ขวัญ ฉันว่าฉันเห็นเธอหลับทั้งวันเลยนะ แล้วเธอเอาเวลาไหนไปสืบ”
“ในฝัน”
“พรุ่งนี้เธอโดนดีแน่ๆ”
“กลัวจัง”
หน้าตาเธอกลัวมากเลยนะ แล้วฉันจะรอดูวันพรุ่งนี้ว่าเธอจะเอาเหตุผลอะไรมาแก้ตัว
โรงยิมเก่า
ตอนนี้ฉันกับยัยขวัญเรามาอยู่ที่โรงยิมเก่ากันแล้ว ฉันรู้สึกว่ารัศมีความน่ากลัวตอนนี้มันกำลังจะแพร่กระจายไปทั่วทุกตารางนิ้ว แต่ในแววตาของยัยขวัญตอนนี้มันไม่มีความหวาดกลัวเลยสักนิด ฉันล่ะนับถือยัยนี่จริงๆ ในชีวิตนี้ไม่เคยคิดจะกลัวอะไรบ้างเลยหรือไง ส่วนน้องสาวในชีวิตนี้ก็ไม่คิดที่จะกล้าเลยหรือไง ทรายเครียด!!
เราเดินเข้ามาลึกพอสมควรแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเห็นยัยพวกนั้นเลย หรือว่ายัยพวกนั้นจะเล่นแบบหมาลอบกัด
“นี่พวกแกอยู่ไหนก็ออกมาเถอะ แล้วอย่าคิดใช้วิธีหมาๆกับฉันนะ ฉันไม่ชอบ และฉันก็คิดว่าพวกเธอคงไม่อยากเป็นหมาในสายตาใครๆหรอกนะ”
ยัยขวัญตะโกนลั่นไปทั่งโรงยิม แต่โชคดีที่แถวนี้ไม่ค่อยมีคนมา หรือบางทีอาจจะไม่มีเลยสักคน เพราะที่นี่เป็นที่ๆไกลจากตึกเรียนมาก
“ฉันรู้นะว่าพวกแกอยู่แถวนี้ ออกมา!!”
“กล้าดีนี่ยัยตัวดี ตอนแรกฉันก็กะว่าจะลอบกัดแกนั่นแหละ แต่พอฟังแกพูดแล้วใจมันฝ่อวะ”
แล้วในที่สุดยัยพวกนั้นก็ออกมาจนได้
“พวกแกมีอะไรก็ว่ามาฉันรีบ”
ยัยขวัญพูดกับยัยกิ๊ฟแบบไม่มีความกลัวอยู่ในคำพูดที่ออกไปเลยสักนิด (มีแต่ความเมื่อยที่ยัยขวัญจะต้องเขย่งพูด เพราะยัยกิ๊ฟเล่นสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบสองน่าจะได้ ส่วนยัยขวัญน่ะเหรอร้อยหกสิบแปด =_=
~เพี้ยะ~
O.O
ไม่มีการพูดจาใดๆ มีแต่มือของยัยกิ๊ฟมาประทะหน้าของยัยขวัญด้วยความแรง หรือเรียกง่ายๆว่า ‘ตบ’
ถ้าเป็นยัยฟ้าป่านนี้คงจะน้ำตาร่วงไปแล้ว แต่นี่ยัยขวัญ ฉันไม่เห็นว่ายัยนี่จะสะทกสะท้านเลยสักนิด แต่กลับยิ้มออกมาซะงั้น แต่รอยยิ้มนั้นมันก็เต็มไปด้วยความเยือกเย็นที่น่ากลัว
“เธอคงจะทำแบบนี้กับ ยอดงแซง ของฉันบ่อยๆสินะ”
ยัยขวัญพูดภาษาไทยปนเกาหลี ซึงยอดงแซงในภาษาไทยก็คือน้องสาว ซึ่งถ้ายัยขวัญพูดคำว่าน้องสาวออกมามีหวังความแตกแน่ เพราะฉะนั้นพูดภาษาเกาหลีที่ยัยชะนีพวกนั้นฟังไม่ออกเป็นดีที่สุด
“เธอพูดอะไรของเธอ”
“ฉันจะพูดอะไรมันไม่สำคัญสำคัญที่ว่าฉันจะเอาคืนให้สาสม”
“ฮะๆๆๆ เอาคืนให้สาสม อย่างเธอจะทำอะไรได้ยัยเฉิ่ม”
เธอคิดผิดถนัดเลยแระยัยชะนีเกรซ
“หึฉันจะทำอะไรได้อย่างนั้นเหรอ งั้นเธอก็ดูนี่”
~เพี้ยะ เพี้ยะ เพี้ยะ~
มือของยัยฟ้าไปปะทะกับหน้าของยัยสามตัวนั้นด้วยความเร็วสิบปีแสงและแรงกว่าที่ยัยกิ๊ฟตบยัยขวัญมาก เล่นเอาบนหน้าของยัยสามตัวนั้นมีห้านิ้วเต็มๆเลยแบบว่าไม่ขาดไม่เกิน
“ฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมาทำอะไรแล้วไม่เอาคืน แล้วฉันก็จะเอาคืนหนักกว่าที่โดนมาหลายเท่า จำเอาไว้”
เสียงของยัยขวัญดูน่ากลัวมาก และแววตาของยัยสามคนนั้นก็น่ากลัวเหมือนกัน ตอนนี้ในโรงยิมเต็มไปด้วยกลิ่นไอของความโกรธ โกรธ และก็โกรธ
“ตั้งแต่วันนี้ไปชีวิตของเธอจะสะกดคำว่าสงบสุขไปเป็นอีกเลย เทียนฟ้า”
นี่เป็นคำพูดของยัยกิ๊ฟ
“ฉันหวังว่ามันคงจะไม่ใช่วิธีการแบบหมารอบกัดนะ”
“หึ ปากล้าขึ้นมากเลยนะ”
“Thank you เธอก็ปากจัดไม่เสื่อมคลายเลยนะ”
“ยัยตัวดีเธอกับฉันยังต้องเจอกันอีกแน่”
พูดจบยัยชะนีทรีโอนั่นก็เดินออกไปจากโรงยิมทันที คงจะทั้งอึ้ง และก็ทั้งมึนไปเลยที่เห็นยัยฟ้าเป็นแบบนี้
“เธอกับยัยฟ้านี่ช่างเป็นพี่น้องที่แตกต่างกันจริงๆ เลยนะคนหนึ่งกล้าไม่กลัวใคร อีกคนหนึ่งอ่อนแอ เหอะ อยากจะบ้าตาย ปรับเซลล์สมองแทบไม่ทัน”
“เงียบเถอะน่า ฉันรำคาญหูแล้ว”
“อ้าวนี่ รอกันบ้างสิ ยัยหลับสะท้านโลกันย์”
~กึก~
ยัยบ้าจะหยุดก็ไม่บอก
“เธอมีสิทธิ์ อะไรมาตั้งฉายาให้ฉันยัยเหยิน”
“ก็ทีเธอยังตั้งให้ฉันได้เลย”
“ก็นั่นมันลิขสิทธิ์ของฉันห้ามลอกเลียนแบบ”
นี่ฉันต้องแพ้ยัยนี่ตลอดเลยใช่ไหม T-T
“นี่แล้วจะไปไหนล่ะ”
“ไปหาอะไรเข้าปาก ออกแรงเยอะไปหน่อย”
แล้วเราก็นั่งรถเมล์มาที่มาบุญครองกัน แต่กว่าจะมาถึงรากแทบงอก รถติดโคตรๆ
“นี่แล้วจะกินอะไรกันดี”
“อืม...MK ชั้นเจ็ดแล้วกัน”
แล้วเราก็ได้ขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นเจ็ด
~ติ๊ด...ด..ดด.ด~
เสียงโทรศัพท์ของยัยขวัญก็ดังขึ้นในระหว่างที่เรากำลังจะเดินไปที่ร้านสุกี้ MK
“เบอร์ใคร ไม่คุ้นเลย”
เธอไม่คุ้นแล้วฉันจะคุ้นไหมเนี้ยะ
“โหล”
“อ๋อ...มาบุญครองชั้นเจ็ดร้านสุกี้ MK”
“ไม่มีงานมีการทำหรือไงหะ หรือว่าคิดว่าพ่อแม่รวยแล้วจะทำตัวเรื่อยเปื่อยก็ได้งั้นสิ”
ยัยนี่ด่าใคนอีกล่ะ
~ติ๊ด~
“ใครโทรมาเหรอ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอยัยเหยิน”
เฮ้อ...ฉันล่ะท้อใจ
ในที่สุดเราก็มานั่งกันในร้านสุกี้ MK จนได้ วันนี้คนเยอะชะมัดเลย แทบจะไม่มีที่เหลือให้นั่งเลย
“เอา...ไก่ กุ้ง ปลาหมึก หมู ปลา อย่างละสองค่ะ”
“เธอไม่ต้องสั่งเผื่อฉันหรอก”
“ฉันไม่ได้สั่งให้เธออย่างกินอะไรก็สั่งเอาเองตามสบายวันนี้เรามีคนจ่ายแล้ว”
อึก...ทั้งหมดนี่ยัยขวัญกินคนเดียวเลยหรือไง ไม่น่าเชื่อ ตัวยังกะหนูแต่กินเหมือนหมู แถมยังดูไม่อ้วนอีกต่างหาก
“เออ ว่าแต่วันนี้เธอไม่ไปเยี่ยมฟ้าเหรอ”
“ไปทุกวันน่าเบื่อ แล้วอีกอย่างถ้าเราไปเยี่ยมทุกวันยัยฟ้าจะได้อยู่คนเดียวไหม”
มันก็อาจจริง ถ้าเราไปทุกวันยัยฟ้าอาจจะไม่ชินกับการอยู่คนเดียว
“นี่แล้วใครจะมาเหรอ”
“นายพี”
“หะ!นายพี”
“เน(คำตอบรับในภาษาเกาหลี) แล้วทำไปต้องตกใจด้วย”
“เปล่า”
ทำไมต้องเป็นนายนี่ด้วยฉันไม่เข้าใจ
เพราะนายพีถึงทำให้เมื่อคืนกว่าฉันจะหลับก็ล่อเข้าไปเกือบตีหนึ่ง เพราะแค่ไอ้คำว่า ‘ฝันดีนะ’ คำนั้นคำเดียวแท้ๆ
เรานั่งกินกันไปได้สักครึ่งชั่วโมงได้มั้งนายพีก็เดินมานั่งที่ข้างๆยัยขวัญ
“ทำไมไม่มาซะพรุ่งนี้ล่ะ”
ฉันเพิ่งรู้ว่ายัยขวัญเป็นคนขี้ประชดประชันเหมือนกัน
“ถ้ามาพรุ่งนี้แล้วใครจะจ่ายค่าอาหารที่เธอสองคนสวาปามเข้าไปล่ะ”
รู้สึกว่านายพีจะรู้จักยัยขวัญดีจังเหะ
“ฉันอิ่มแล้วจ่ายตังค์ด้วย จะไปเล่นเกมส์”
“เฮ้ย! นี่ฉันยังไปได้กินซักชิ้นเลยนะ”
“ก็อยากมาช้าเองช่วยไม่ได้ ถ้าอยากกินก็สั่งเอง ไปล่ะนะ”
ยัยนี่เป็นคนยังไงเนี้ยะเขาอุตส่าห์จ่ายตังค์ให้ ฉันล่ะมึน แต่ถึงจะมึนยังไงฉันก็ถูกลากมาร้านเกมส์จนได้ โดยฝีมือยัยขวัญ ตัวก็เล็กกว่าฉันตั้งเยอะแต่ทำไมแรงเยอะชะมัด
“เล่นเกมส์รถแข่งกัน”
“ฉันเล่นไม่เป็น”
“เธอทำอะไรเป็นมั่งนอกจากหายใจ”
“เธอว่าฉันเหรอขวัญ”
“ถ้าเธอจะคิดว่ามันเป็นคำชมก็ตามสบายนะ ฉันไม่ว่า”
ฉันจะเถียงยัยนี่ชนะสักครั้งไหมเนี้ยะ
และสุดท้ายยัยขวัญก็ได้นั่งเล่นเกมส์รถแข่งกับนายพี ซึ่งวิ่งหอบแฮ่กๆมาที่หลัง สงสัยนายนี่จะต้องรักยัยขวัญกับยัยฟ้ามากแน่ๆเลย ถึงได้ยอมวิ่งตามมาโดยที่ไม่กินอะไรเลยสักคำแต่ดันเป็นคนจ่ายตังค์ ดูๆไปนายนี่ก็เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งเลยนะ
รู้สึกว่านายพีกับยัยขวัญจะเล่นเกมส์กันอย่างเมามันส์มาเลยนะ ฝีมือยัยขวัญนี่ก็ใช่ย่อย ส่วนฝีมือนายพีก็ไม่เป็นรองใครเหมือนกัน สรุปเก่งทั้งคู่
“นี่เดี๋ยวฉันไปห้องน้ำก่อนนะ”
“ใครเขาดึงขาเธอไว้ล่ะ”
เฮ้อ...
และฉันก็ปล่อยให้ยัยขวัญกับนายพีเล่นเกมส์กันต่อไป โดยที่ฉันไปเข้าห้องน้ำ
สัญญาลูกผู้ชาย
วันนี้ไอ้บาสมันนัดผมไว้ที่ร้านเหล้าหลังโรงเรียน มันบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่มันบอกว่าต้องมาให้ได้ผมก็เลยต้องมา และนี่ผมก็รอมันมาตั้งนานแล้ว ทำไมมันซ้อมบาสนานจังวะ รู้ก็รู้ว่าเป็นนัดยังมาให้ผมรออีก ผมกะว่าอีกสิบนาทีถ้ามันไม่มาผมก็จะกลับแล้ว เพราะผมเป็นคนที่ไม่ชอบรอใครนานๆ
“ไอ้ดัช”
และในที่สุดมันก็มาถึงจนได้ นี่มันจะต้องเป็นบาสเดลิเวอรี่แน่ๆ คิดปุ๊บก็มาปั๊บ
“ว่าไงแกมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน”
ผมถามมัน แต่ดูจากสีหน้าของมันดูเครียดมากจริงๆ ประจำมันจะเป็นคนที่มีรอยยิ้มอยู่บนหน้าเสมอแต่ครั้งนี้ไม่มีเลย ผมว่ามันคงจะเป็นเรื่องใหญ่พอสมควรแน่ๆ
“แกชอบฟ้าหรือเปล่า”
อึก...ทำไมมันถึงยิงคำถามกับผม โดยไม่ให้ผมตั้งตัวเลยวะ
“แกถามบ้าอะไรของแกวะ”
“ฉันขอให้แกตอบมาตามตรง”
ผมรู้สึกว่าสีหน้าของมันดูจริงจังมาก มากจนผมงง งงว่ามันเป็นอะไรไป
“แกเป็นอะไรของแกวะ”
“ตอบมา แกชอบฟ้าหรือเปล่า”
“งั้นแกก็ฟังฉันดีๆแล้วกัน ฉัน-ไม่-ได้-ชอบ-ฟ้า”
ผมบอกมันได้เต็มปากเต็มคำเลยว่า ผมไม่ได้ชอบเทียนฟ้าแน่
“งั้นแกต้องสัญญากับฉันว่าแกจะไม่แย่งเทียนฟ้าไปจากฉัน”
ไอ้นี่มันต้องกินยาลืมเขย่าขวดแน่ๆ
"ไอ้บ้า นี่แกไม่เชื่อใจคนที่แกรักหรือไงวะ“
ผมตะโกนใส่มันเสียงดังไปทั่วร้าน แต่ดีที่ตอนนี้ไม่มีคนเข้าร้าน
“ว่าแต่...แกนั่งลงก่อนแล้วบอกมาว่าเป็นบ้าอะไรไป”
มันนั่งตามที่ผมบอก แต่ตอนนี้สีหน้าของมันจากที่ดูเครียดสุดๆตอนนี้กลับดูเศร้าสุดๆไปเลย ผมละงง
“แกเป็นอะไรไปวะ ไอ้บาส”
“ไม่รู้วะ แต่กู รู้สึกว่าฟ้าเขาแปลกๆ”
นึกว่ารู้สึกอยู่คนเดียวซะอีก
“ยังไงวะ”
“ไม่รู้สิ พูดไม่ถูก แต่เขาเปลี่ยนไปมาก มากจนบางครั้งฉันคิดว่าไม่ใช่เขาซะอีก”
หน้าของมันดูเศร้าอย่างแรง ดังนั้นถ้าผมพูดไปว่า ‘ฉันก็คิดเหมือนแกวะ’ มันจะต้องคิดมากไปแน่ๆ
“แกคิดมากไปหรือเปล่าวะ ฉันไม่เห็นว่าจะแปลกตรงไหนเลย”
“เหรอ”
“อืม เขาก็เหมือนเดิม ฉันว่าแกต้องเชื่อในคนที่แกรักนะ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงก็ตาม”
“อืม...ขอบใจวะ”
“เดี๋ยว!!”
“เกิดบ้าอะไรขึ้นมาอีกล่ะ”
“แกต้องสัญญานะ ว่าจะไม่แย่งฟ้าไปจากฉัน”
อ๊าก...ผมนึกว่ามันลืมไปแล้วซะอีก
“เออ”
ผมกับมันจับมือกันแบบลูกผู้ชาย
แน่นอนผมไม่มีวันแย่งคนรักของเพื่อนแน่ๆ คนอย่างผมมีความเป็นลูกผู้ชายพอ แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่านี่ใช่คนรักของมันหรือเปล่า ดังนั้นผมจะต้องรู้ให้ได้
สุดท้ายผมกับไอ้ดัชก็นั่งกินเหล้ากันอยู่สักพักแล้วผมกับมันก็แยกกันกลับบ้าน โดยที่ผมต้องแบกเอาร่างอันจะโคตรหนักของไอ้บาสกลับบ้าน ประมาณว่ามันเมา แล้วจะไม้ให้เมาได้ยังไง รู้ทั้งรู้ว่าตัวเองคอแป๊บ(เดียว)แต่ดันดื่มเข้าไปเป็นสิบ ไม่เมาก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วละครับ
“นี่ยังเล่นกันอยู่เหรอ”
ฉันนึกว่ายัยขวัญกับนายพีเลิกเล่นแล้วซะอีก
“ก็กะว่าอีกห้านาทีจะไปขุดเธอในห้องน้ำน่ะ”
“ฉันไม่ได้ไปตกส้วมนะ”
“นึกว่าใช่”
“ทำไมเธอชอบว่าฉันจัง”
“มันสนุก”
“เฮ้อ...”
ฉันคงจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้แล้วละ เถียงทีไรแพ้ทุกที - _ -
“ฉันจะกลับแล้วนะ อยากอยู่ต่อก็ให้นายพีไปส่งเองนะ”
เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งเลยเพื่อนฉัน
“นี่รอฉันด้วยสิ”
“ขาเธอยาวกว่าฉันตั้งเยอะ หัดเดินให้มันเร็วๆหน่อยสิ ยัยเต่าเหยิน”
หมดกัน -_- ภาพลักษณ์ฉันเสียหมด เดี๋ยวเหยิน เดี๋ยวเต่า อีกหน่อยก็กระต่ายเต่าเหยินแน่ๆ
สรุปฉันยัยขวัญเราก็อาศัยรถนายพีกลับ ท่าทางนายนี่จะรวยรถสปอร์ตซะด้วยสักวันจะต้องเอามีดมากรีดให้ได้ขอหาหมันไส้(ที่มันบังอาจรวยกว่าฉัน)
นายพีเอารถไปส่งยัยฟ้าที่บ้านก่อนเพราะว่าทางบ้านฉันมันจะต้องผ่านบ้านยัยฟ้า ดังนั้นตอนนี้ในรถเลยเหลือแค่ฉันกับนายพี
“นี่นายฉันถามอะไรหน่อยสิ”
“หึ”
นายพีตอบกลับมาในขณะที่ตาก็ยังมองรถอยู่
“เห็นยัยขวัญบอกว่านับถือนายเป็นพี่ แสดงว่านายไม่ใช่พี่แท้ๆยัยขวัญแล้วนายเป็นอะไรกับยัยขวัญล่ะ”
“อ๋อ...ฉันเพิ่งรู้จักกับขวัญเมื่อประมาณสามสี่วันที่แล้วเอง”
“หา!!! สามสี่วันที่แล้ว”
“ใช่ ฉันคงจะไม่รู้จักกันมาตั้งแต่ชาติที่แล้วหรอกนะ”
“แต่ทำไมดูสนิทกันจัง”
“ก็เคยรักกันมาก่อนนี่นา”
“หา!!! ”
=O=
แล้วนี่ฉันจะเรียบเรียงเรื่องยังไงดีล่ะเนี้ยะ รู้จักกันเมื่อสามวันที่แล้ว แต่รักกันมาก่อน มันยังไงกันแน่
“ฉันไม่ใช่อัลเบิร์ตนะ ช่วยอธิบายให้มันชัดกว่านี้ได้ไหม”
“เฮอะๆ เอาไว้ว่างๆจะเล่าให้ฟังแล้วกัน เรายังต้องเจอกันอีกยาว”
นายพีพูดพร้อมกับส่งยิ้มกวนๆมาให้ฉัน แต่ฉันกลับรู้สึกชอบยิ้มกวนๆแบบนั้นจัง
“ก็ตอนนี้นายก็ว่างอยู่นี่”
“ใช่ แต่มันถึงบ้านเธอแล้ว”
ฉันมองไปรอบๆรถ...
นั่นสิมันถึงบ้านฉันแล้ว
“ขอบใจ หวังว่าฉันคงจะได้รู้ว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่นะ”
“แน่นอน”
ฉันลงมาจากรถแล้วก็ยืนมองจนรถนายพีหายไป และฉันก็กำลังจะเปิดประตูเข้าบ้าน
“เดี๋ยว”
“อะไรอีกล่ะ”
“หลับฝันดีนะ”
“-O-“ อีกแล้วเหรอเนี้ยะ แล้ววันนี้ฉันจะได้นอนไหมเนี้ยะ
นายพีขับรถกลับมาเพื่อบอกให้ฉันฝันดีเนี้ยะนะ
“ฉันอายเป็นนะเว้ยไอ้ผี”
แน่นอน ในที่สุดกว่าจะหลับได้พลิกไปพลิกมาเป็นร้อยรอบ คิดถึงแต่หน้านายผีนั่น
‘หลับฝันดีนะ’ ‘หลับฝันดีนะ’ ‘หลับฝันดีนะ’
ฉันคิดถึงแต่คำพูดคำสุดท้ายคำนั้น...
ความคิดเห็น