คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ประกาศศึก
4
ประกาศศึก
“แฮ่กๆๆ...ถึงสักที”
แล้วฉันก็หอบสังขารอันอยากจะเป็นลมของฉันคลานขึ้นบันไดไปถึงจนได้
~พลั่ก~
ฉันผลักประตูเข้าไป
~พรึบ~
สายตาทุกคู่มาจับจ้องอยู่ที่ฉัน(รู้สึกว่าวันนี้ฉันจะดังนะ โดนมองบ่อยจัง)
“ไม่มาซะพรุ่งนี้เลยล่ะ”
อาจารย์ที่ยืนพูดอยู่ข้างหน้าหันมาพูดกับฉัน
“ถ้ามาพรุ่งนี้ก็ ไม่ได้มาวันนี้สิคะ ทำไมอาจารย์ถามแปลกจัง”
“ฮะๆๆๆก๊ากๆๆๆ”
เสียงนักเรียนกว่าสิบคนซึ่งเป็นตัวแทนสายแต่ละสาย ช่วยประสานเสียงกันหัวเราะ
“ไปนั่งที่ได้แล้ว ภาคเกาหลีใช่ไหมเรา เหลืออยู่ที่เดียวพอดี โน่นน่ะ”
อ๊าก...!!ข้างไอ้บ้าดัชอีกแล้ว ฮือๆๆ
“จะยืนเป็นหุ่นไล่กาหรือไง”
“ค่า...”
และฉันก็ต้องจำใจเดินเข้าไปนั่งข้างๆนายดัช ด้วยแววตาอันแสนจะหวาดกลัว ว่าเมื่อไหร่ผีดิบมันจะออกทำงาน
“เอาละ ที่ครูนัดพวกเธอมา ก็จะนัดมาพูดเรื่องงานประจำปีของโรงเรียน ซึ่งพวกเธอก็คงจะรู้กันแล้วว่าพวกเราในฐานะตัวแทนของนักเรียนทั้งโรงเรียนจะต้องหากิจกรรมมาประชันกันว่าภาคไหนจะชนะ แต่สำหรับภาคที่ชนะปีนี้จะไม่ได้แค่เงินรางวัลเป็นของขวัญแต่จะได้ไปเที่ยวกันห้าวันเต็มๆ เอาให้มันโง่กันไปข้างหนึ่งเลย”
“เย้ๆๆยู้...ฮู”
นี่คือเสียงของพวกลิงทโมนทั้งหลายในห้องค่ะซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะไม่พลาดที่จะมีฉันร่วมด้วย
“และที่สำคัญปีนี้ครูไม่ได้ให้พวกเธอจัดเป็นห้อง และเพื่อเป็นการพิสูจน์ความสามารถของพวกเธอครูจึงขอให้จัดกันเป็นคู่ๆตามนี้”
อึก! งั้นก็แปลว่าฉันจะต้องคู่กับนายดัชน่ะสิ ไม่เอานะ
“เดี๋ยวค่ะ เราจะเปลี่ยนคู่ไม่ได้เหรอค่ะ คือหนูไม่อยากจะคู่กับไอ้หน้าชานี่อ่ะ ค่ะ”
จู่ๆฉันก็ลุกพรวดขึ้นมากลางหอประชุม(ไม่ได้มียางอายเลยเรา)
“นี่เธอหาว่าฉันเป็นไอ้หน้าชาหรือไงหะ!”
“อ้าว...ก็ใช่น่ะสิ ไอ้หน้าชามะนาวสามหาว”
“นี่ยัยหน้าลิง ฉันก็ไม่อยากคู่กับเธอเหมือนกัน”
“ฉันก็ไม่อยากคู่กับไอ้หน้าชาอย่างนายเหมือนกัน เห็นหน้านายแล้วมันแล้วอยากตุนกระเทียมไว้เยอะ เพื่อกันผีดิบอย่างนายออกอาละวาด”
“เห็นหน้าเธอแล้วมันอยากไปสวนสัตว์ ยัยตัวกินกล้วย”
“นี่นายหาว่าฉันชอบกินกล้วยหรือไง”
“ใช่ ยัยตัวกินกล้วยเอ๊ย!”
“หือ...ไอ้ปีศาจผีดิบหน้าชาเอ๊ย!”
“ยัยลิงอุรังอุตัง ฉันจะฆ่าเธอหมกดงกล้วย”
“ไอ้หน้าชา ฉันจะฆ่านายหมกน้ำแข็งยูนิก”
“นายตาย.../เธอตาย...”
แล้วก็ไม่มีใครสามารถหยุดฉันกับนายดัชได้ เพราะฉันคือพายุช้างสาร ฮะๆๆ ส่วนนายดัชคือพายุทุเรียนฮะๆๆๆ
ฉันพร้อมจะเอางวงฝาด หูตบ งาจ้วง นายดัชได้เสมอ ส่วนนายดัชก็พร้อมที่จะเอาหนามแหลมๆมาทิ่มฉันได้ตลอดเวลาเหมือนกัน
“หยุดนะ!!!”
ในที่สุดก็มีคนมาหยุดศึกยุธการช้างสารตบทุเรียนทองได้สำเร็จ และเพราะเสียงนี้จึงทำให้ฉันกับนายดัชปล่อยมือออกจากคอเสื้อของกันและกันได้
“พวกเธอเป็นบ้ากันไปแล้วหรือไงหะ! อยู่สายเดียวกัยแท้ๆ ยังจะมาฆ่ากันอีก”
“ก็.../ก็...”
“หยุด! ทุกคนจะต้องจับคู่ตามนี้ห้ามมีใครขัดคำสั่งฉันเด็ดขาด และในฐานะที่เธอสองคนก่อความวุ่นวายในหอประชุม ดังนั้นครูจะต้องลงโทษเธอโดยพวกเธอจะต้องไปหาครูที่ห้องทุกวันตอนเย็นเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์โดยที่ครูก็จะมีงานให้เธอทำ โดยวันนี้เธอจะต้องไปขัดโรงยิมเก่า เพราะครูจะใช้ในเดือนหน้านี้”
“แต่ที่โรงยิมเก่ามันไม่เคยมีคนใช้มาเป็นปีนะครับ ฝุ่นก็คงเกาะจนหนาเป็นนิ้วแล้วมั้งครับ”
“หนาเหมือนหน้านายน่ะสิ”
ฉันไปกระซิบข้างหูนายดัช (ขอโทษนะฉันไม่ได้ตั้งใจกระซิบ แต่ปากมันพาไปจริงๆ)
“แต่หน้าฉันก็คงคงจะหนาน้อยกว่าหน้าเธอนั่นแหละ”
“โหะๆขอโทษๆ หน้าฉันมันจะต้องหนาน้อยกว่าหน้านายสิ ก็เพราะว่าหน้าฉันเนี้ยะแค่โดนเปลือกกล้วยก็เจ็บแล้วละ แต่หน้านายเนี้ยะโดนเปลือกทุเรียนแล้วยังไม่รู้เลยว่าจะรู้สึกหรือเปล่า”
“นี่...ยัยลิงอุรังอุตังหน้าบูด”
“ไอ้หน้าชาเบี้ยว”
“นี่พวกเธอจะยังเถียงกันอีกหรือไง สงสัย หนึ่งอาทิตย์จะยังไม่พอ ฉันขอเพิ่มให้เป็น สองอาทิตย์”
“หะ! สองอาทิตย์ / หะ! สองอาทิตย์”
“ใช่ จบข่าวช่องไอค๊อกๆแค๊กๆ”
แล้วพี่แกก็เดินจากไป
โดยไม่หันกลับมาอีกเลย...แต่เดี๋ยวนะ ช่องไอค๊อกๆแค๊กๆ พี่น้องกับช่องไอทีวีหรือไง
“เพราะนายคนเดียว”
“เพราะเธอนั่นแหละ เธอมาหาว่าฉันหน้าหนาก่อน”
“ก็มันจริงไหมล่ะ แล้วถ้าฉันว่านายแล้วนายไม่ว่ากลับเรื่องจะเกิดไหม”
“แล้วถ้าเธอไม่ว่าฉันเรื่องจะเกิดไหม”
“ฉันเกลียดนาย”
“คิดว่าตัวเองน่ารักนักหรือไง อ้วนยังกะตุ่มใส่น้ำ เตี้ยยังกะตอไม้ หน้าก็ไม่ต่างอะไรไปจากลิงในสวนสัตว์ดุสิต แถมปากนี่ก็ไม่ต่างอะไรไปจากบางแก้วบ้านฉันเลย”
“นาย...แล้วนายคิดว่านายหล่อนักหรือไง หุ่นก็ยังกับแร้งเดินดิน สูงยังกะเสาไฟฟ้า หน้าก็ไม่ต่างอะไรไปจากกิ้งก่าตากแห้งบ้านฉัน ไม่...ไม่ใช่ บ้านฉันไม่มีกิ้งก่าตากแห้ง บ้านนายนั่นแหละมี แถมปากเนี้ยะนะ ก็ไม่ต่างอะไรไปกับสุนัขวัดแถวบ้านฉันเหมือนกัน แถมบางที่สุนัขวัดยังดีกว่านายซะอีก”
“เธอ...”
“เธอ...เธอ...เทอร์โบเรนเจอร์ ฮะๆๆ ฉันชอบมากเลยนะ ย่า....แปลงร่างๆๆ”
ฉันกับนายดัชจ้องหน้ากันอย่างนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย ประมาณว่าถ้าเป็นปลาทองก็คงมีลูกจนตั้งทีมฟุตบอลได้ไปแล้ว
ฉันยังคงจ้องหน้านายดัชอย่างไม่ลดละ นายนั่นก็ยังจ้องหน้าฉันอย่างไม่ลดละเหมือนกัน(แต่ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าจะเริ่มปวดคอแล้วนะ นายดัชเล่นสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบแปด- ฉันนี่แค่ร้อยหกสิบแปดเอง (ท่าของฉันตอนนี้เหมือนสุนัขมองหาเครื่องบินอยู่เลย)
“อ้าว ยังอยู่นี่กันอีกเหรอ”
และมีเสียงมาขัดจังหวะของฉันกับนายดัช (ขอบคุณมากที่ช่วยให้ฉันไม่ต้องใส่เฝือกที่คอ)
“นี่ฉันตามหาตัวตั้งนาน”
ฉันละสายตาจากนายดัช แล้วก็มองไปที่เจ้าของเสียง
ที่แท้ก็ทรายนี่เอง (มันก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ ก็ทั้งโรงเรียนน้องฉันมีเพื่อนอยู่คนเดียว จริงๆTT_TT ช่างมีมนุษยสัมพันธ์ดีเลิศประเสริฐสุดๆไปเลย)
“แล้วเป็นอะไรกัน ทำหน้ายังกะจะกินเลือดกัน”
ทรายถามด้วยสีหน้าบ้องแบ้ว เหมือนกิ่งก่างงก็ไม่ปาน แต่มันกลับแฝงไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น หรือเรียกง่ายๆว่าสอด
“ใช่ /ใช่”ฉันกับนายดัชตอบออกมาพร้อมกัน
“หะ!”
“เออ...เปล่าไม่มีไร รีบไปเรียนเถอะเดี๋ยวสาย”
แล้วฉันก็ดึงแขนทรายออกไป แต่ไม่ลืมที่จะหันไปทำหน้าลิงใส่นายดัช แล้วนายดัชก็ไม่ลืมที่จะทำหน้าชาใส่ฉัน
ทรายพาฉันมาที่ล๊อกเกอร์แล้วก็บอกว่าให้รีบเปลี่ยนจากชุดนักเรียนชุดเป็นชุดพละ คาบนี้เรียนพละเหรอไม่เห็นๆในตารางเลย...อ๋อ!หรือว่าพละก็คือกิจกรรม คงงั้นมั้ง แล้วเราก็รีบวิ่งขึ้นโรงยิมกันอย่างรวดเร็วปานพายุขนุนน้องทุเรียน
“เอาละวันนี้ อย่างที่ครูบอกไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วว่าจะมีสอบบาสกันเป็นคู่ๆ”
โอ้...สอบบาสด้วยหรือนี่ กีฬาสุดโปรดของฉันเลยแหละ อยู่ที่เกาหลีนะฉันเล่นบาสกับมินซุงเกือบทุกวัน (ส่วนไอ้เพื่อนตัวอื่นๆมันไปทำหน้ากระทะทอดไข่ดาวใส่สาว)
“ฟ้าแล้วเธอจะรอดเหรอ เธอสอบบาสตกมาทุกครั้งเลยนะ”
อึก!น้องฉันสอบบาสตกทุกครั้งหรือนี่ อยากจะบ้าตาย นี่ฉันใช่พี่ยัยฟ้าหรือเปล่าเนี้ยะ ไม่มีอะไรเหมือนกันสักอย่าง เซ็งเป็ดชะมัด!!
“คนเราย่อมมีการพัฒนา เคยได้ยินไหม เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พาตัวเองเจริญ”
“ไม่”
“=_=”
คราวนี้ยัยฟ้าจะต้องสอบบาสได้เต็มแน่ๆฉันมั่นใจ^_^
“เอาละเตรียมตัวกันให้ดีนะ คู่แรกหนึ่งกับสิบหก”
แล้วแต่ล่ะคู่ก็สอบกันไปตามที่อาจารย์เรียก ซึ่งแต่ละคู่ที่ฉันดูเนี้ยก๊ากๆทั้งนั้นเลย บางคู่นะเลี้ยงบาสกันไปแย่งบาสกันมาจนหัวโขกกันเองไปเลย บางคู่ก็ชู๊ตลงหัวคู่ที่สอบด้วยกันจนเห็นดาวกลางวันยันดาวซินโดมไปเลย และบางคู่ก็ถูกฝ่ายหญิงเอาอาวุธลับที่หนักกว่าปืนใหญ่กระแทกของรักของหวงกันไปจนหน้าเขียวกันไปเป็นแทบๆ ฮะๆๆ แต่เท่าที่ดูนายบาสก็เล่นบาสเก่งเหมือนกันนะ หลบได้หลบดี ยังกะผีเก็งกอย (ก็นายบาสเป็นนักบาสนี่นา)
“คู่สุดท้ายสิบห้า กับ สามสิบ”
เอ๊ะ สามสิบ นี่ฉันใช่ไหม (เพราะว่าเหลือฉันคนเดียวที่ยังไม่ได้สอบ) แต่ไอ้ “สิบห้า” เนี้ยะใคร
“ออกมารายงานตัวได้”
ฉันเดินออกไปหาอาจารย์ด้วยสีหน้าที่มั่นใจสุดๆว่าจะต้องได้เต็ม
“สิบห้า นี่นายหรือไง O_O”
แล้วก็ต้องตกใจเมื่อคู่ของฉันก็คือไอ้หน้าชา ตกลงฉันคู่กับไอ้สิบห้า หรือว่าไอ้สิบห่ากันแน่ TT_TT
“ใช่ ทำไมยัยหน้าลิง คราวนี้ฉันจะทำให้หน้าลิงๆอย่างเธอกลายเป็นหน้าบลูด็อกเลยคอยดู”
“ฉันก็จะทำให้ไอ้หน้าชาอย่างนายเนี้ยะ กลายเป็นหน้าหมาหงอยเลยคอยดู”
“แล้วเจอกัน / แล้วเจอกัน(หน้าปากซอย)”
ฉันกับนายดัชเราลงไปเตรียมตัวกันที่สนาม
ตอนนี้ในสนามบาสเหมือนกับสนามรบระหว่างฉันกับนายดัชมากกว่า เพราะตอนนี้สายตาของเราจ้องกันอยู่อย่างไม่ลดละไม่ใช่เพราะความพิศวาสหรอกนะแต่เพราะความแค้นฝังในต่างหาก เหมือนฉันเตรียมตัวเพื่อจะเอากรุงศรีอยุธยากลับมาจากหงสาวดีอีกครั้ง ยังไงยังงั้น
“ปรี๊ด
ด
ดดด
”
เมื่อเสียงนกหวีดบอกสัญญาณเริ่มขึ้น การเอาชนะของฉันกับนายดัชก็เริ่มขึ้น โดยที่ฉันเป็นฝ่ายได้ลูกก่อน
“ฮะ...ฮ่า แน่จริงก็ตามมาเอาลูกให้ได้สิไอ้หน้าชาบูด”
ฉันเลี้ยงลูกหลบนายดัชได้อย่างรวดเร็ว(ดีแล้วละที่ฉันตัวเล็ก แล้วนายนั่นตัวสูง)เล่นทำเอาทุกคนอึ้งกันไปหมดในตอนแรกๆ แต่พอดูไปสักพักก็เริ่มเชียร์แล้วครับ โดยที่ผู้ชายเชียร์นายดัช ส่วนผู้หญิงเชียร์ฉัน
“ฟ้าไปเลยไปเร็วเลยระวังดัชให้ดีๆนะ”
“เฮ้ย! ไอ้ดัชเร็วสิวะ แกอย่าแพ้ผู้หญิงนะเว้ย!”
พวกนอกสนามก็เชียร์กันไป ส่วนฉันกับนายดัชที่แข่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย แบบว่าถ้าไม่มีฝ่ายที่ชนะ การแข่งขันครั้งนี้ก็จะไม่มีการจบเกมส์ (ฉันว่าชาติที่แล้วนายดัชจะต้องเป็นหงสาวดี ส่วนฉันจะต้องเป็นกรุงศรีอยุธยาแหงๆ)
แต้มตอนนี้นายบาสมันนำฉันอยู่หนึ่งลูกค่ะ ฉันจะต้องชนะมันให้ให้ได้ ฉันจะแพ้ไม่ได้ แพ้ไม่ได้เด็ดขาด (ถ้าแพ้มันฉันก็ต้องเป็นบลูด็อกสิ)
“ยัยหน้าลิง กลับไปนอนกินกล้วยที่บ้านไป”
“ไอ้หน้าชาบูด กลับไปขายน้ำแข็งที่บ้านเลยไป๊”
เฮ้ย! จะหมดเวลาแล้วอ่ะทำไงดี สงสัยจะต้องใช้ไม้เด็ดซะแล้ว
ฉันเข้าไปทางด้านข้างของนายดัชแล้ว (โดยที่ฉันอยู่ทางด้านอาจารย์) แล้วฉันก็เอามือไปจับลูกบอลนายดัช แล้วก็หมุนตัวกลับ ทำให้ศอกของฉันไปจูบกับท้องนายดัชพอดี(แต่ก็ไม่มีใครเห็น) สงสัยกลับบ้านไปฉันจะต้องเอาแอลกอร์ฮอล้างศอกแล้วมั้งเนี้ยะ
“เดี๋ยวฉันไปซื้อน้ำใบบัวบกมาให้นะ หะๆๆ”
ตั้งสติให้ดียยัยขวัญ มองแป้นให้ดีๆ แล้วชู๊ตเข้าไปเลย
~พรืบ~
“ปรี๊ด...ดด.ด.ดด..”
Yes!ทันเวลาพอดี
ฉันหันไปมองนายดัชซึ่งตอนนี้หน้าของนายดัชจุกสุดๆไปเลย หะๆๆๆ
“เยี่ยมมาก คู่เธอเล่นได้ดีมาก แล้วเธอนะเทียนฟ้า ฝีมือดีขึ้นจนครูไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอคือเทียนฟ้า” เชื่อไปเถอะค่ะ ^_^
หลังจากที่เราสอบบาสกันเสร็จแล้ว ฉันกับทราย เราก็ไปเปลี่ยนชุดกลับมาเป็นชุดนักเรียนกัน แล้วก็ลงมาหาอะไรกินกันที่โรงอาหาร
“ฟ้า วันนี้เธอแปลกไปมากเลยนะ ประจำเธอไม่เคยสอบบาสได้เลย แต่วันนี้เธอกลับทำได้ดีมากจนฉันไม่อยากจะเชื่อเลย”
ทรายพูดขึ้นระหว่างที่เรากำลังทานไอศกรีมกันอยู่
“เธอเปลี่ยนไปมาก...แบบว่า...หลังเท้าเป็นหน้ามือเลย”
ท่าจะให้ดีช่วยเปรียบเทียบให้มันดีกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือไง
“ก็บอกแล้วไง ว่าคนเรามันพัฒนากันได้”
“เออนี่ แล้วเรื่องกิจกรรมที่เธอจะเอาไปประชันกับสายอื่นน่ะอะไรเหรอ”
อึก! แล้วจะพูดมาทำไมเนี้ยะเสียบรรยากาศหมดเลย
“ไม่รู้เหมือนกันยังไม่ได้คิ...”
“นี่ยัยหน้าลิง มานั้งเจ๋อเร๋ออะไรอยู่ที่นี่ ไปช่วยกันทำโรงยิมเดี๋ยวนี้”
มีคนเดียวในโลกแน่ๆที่เรียกฉันแบบนี้...พอฉันหันไป...(ทำไมแทงหวยมันไม่ถูกวะ)
“อยากทำก็ไปทำเองสิ ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน”
“นี่มันจะไม่ง่ายกันไปหน่อยหรือไง ไม่อยากทำก็ไม่ทำ ทำยังกะตัวเองเป็นเจ้าของโรงเรียนอย่างนั้นแระ”
“แล้วนายไม่เคยได้ยินหรือไงว่า โรงเรียนก็คือบ้านหลังที่สอง”
“เคย”
“ดีมาก ดังนั้นฉันก็คือเจ้าของโรงเรียนคนหนึ่ง”
“มันจะไม่ง่ายไปหน่อยหรือไง ไม่มีเจ้าของบ้านคนไหนเขาปล่อยให้บ้านสกปรกหรอก”
“ฉันนี่ไง”
“ยัยหน้าลิงเธอจะยอมไปดีๆ หรือว่าจะให้ฉันเอากล้วยมาล่อ”
“ไอ้หน้าชานายจะหยุดพูดดีๆ หรือจะให้ฉันเอาน้ำแข็งบ้านนายมาอุดปากนาย”
“ยัยหน้าลิง”
“ไอ้หน้าชา”
“โอ้ย...สองคนนี้หยุดทั้งคู่นั้นแหละ พวกเธอเป็นอะไรกันน่ะวันนี้”
ทรายตะโกนออกมาขัดจังหวะของฉันกับนายดัช เกิดมาเพิ่งเคยเห็นพจมานโกรธ(ก็ฉันไม่เคยดูนี่นา)
“เป็นศัตรูกัน!!”
ฉันกับนายบาสพูดออกมาพร้อมกัน
“ฟ้า นี่เธอไม่เคยอยากเป็นศัตรูกับใครเลยนะ”
ทรายถามฉันด้วยความงง
“ยกเว้นไอ้ลูกเจ้าของโรงน้ำแข็งคนนี้”
“ดัช นายก็ไม่เคยเถียงกับผู้หญิงเลยนะ”
ทรายก็ถามนายดัชด้วยความงงเช่นกัน
ปานนี้ในหัวยัยทรายคงจะมีแต่ งง งง กับงง
“ยกเว้นยัยลิงอุรังอุตังปากร้ายนี่เหมือนกัน”
แล้วฉันกับนายดัชก็จ้องหน้ากันอย่างเยือกเย็น และตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างมันเหมือนหยุดการสั่นไหวไปชั่วขณะ เหลือเพียงแค่สายตาของฉันกับนายดัชที่ยังคงจ้อง จ้อง จ้อง แล้วก็จ้องกันอย่างไม่ลดละ
~คนอย่างเทียนขวัญไม่มีวันยอมอะไรง่ายๆ~
~คนอย่างไอ้ดัชไม่มีวันถอยไปง่ายๆเหมือนกัน~
“เธอสองคนจะจ้องกันให้ลูกตามันทะลักออกมาเลยหรือไง”
ทรายพูดขึ้น แต่มันก็เหมือนเป็นแค่เสียงลมเท่านั้น เพราะมันไม่สามารถทำให้ฉันกับนายดัชละสายตาออกจากกันได้
“เธอ-จะ-ยอม-ไป-ดี-ดี-ไหม”
“นาย-จะ-ยอม-หุบ-ปาก-ดี-ดี-ไหม”
“ฟ้าเธอก็ไปทำๆเถอะจะได้เสร็จ”
“เธอรู้เหรอว่าอะไร”
ฉันหันไปถามทราย
“รู้”
รู้ได้ไงวะ?
“เย็นนี้เธอจะต้องไปทำความสะอาดโรงยิมเก่า”
“รีบๆไปเถอะ” เธอเป็นเพื่อนฉันหรือเปล่า =_=
ในที่สุดฉันก็ต้องไปใช่ไหม
“แบร่...”
“ไอ้บ้า เดี๋ยวก็ตัดลิ้นมาแช่น้ำแข็งซะเลยนี่”
“โอ๊ะๆกลัวจังเลย”
“กวนเหรอ แกตายยย....ยย....ยย”
แล้วฉันก็วิ่งไล่เตะนายดัชไปเรื่อยๆ จนไปถึงโรงเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาด ฉันกับนายดัชก็หยิบไปคนละชิ้น สองชิ้น ในเมื่อฉันมีอาวุธแล้ว ก็คือ ไม้กวาดสองอัน(เป็นดาบค่ะ)ที่ตักผงหนึ่งอัน(มันคืออาวุธชนิดรุนแรง) ส่วนนายดัชก็กระตังหนึ่งใบ(เกราะป้องกันตัว)ผ้าขี้ริ้วสองผืน(ยาสลบชั้นยอด)ไม้ถูสองอัน(มีดสปาตาร์) มันจึงทำให้ฉันกับนายดัชดูดุเดือดกันมากขึ้น และทางเดินที่ฉันเดินผ่านมาฉันจะสังเกตเห็นว่ามีสายตาเป็นร้อยมองมาที่เราสองคน ในใจก็คงคิดว่า
~‘ไอ้สองคนนี้มันต้องหลุดออกมาจากโรงพยาบาลบ้าแน่ๆ’~
กว่าจะไปถึงโรงยิมเก่า เล่นเอาซะเหนื่อยเลย ไอ้โรงยิมบ้านี่ก็ไกลชะมัดเลย ทำไมไม่เอาไปไว้ดาวพลูโตเลยล่ะ ฉันกับนายดัชจะได้ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนกันสักสิบล้านปี
“นี่ แล้วจะยืนจ้องประตูให้มันเปิดออกมาเองหรือไง เข้าไปเปิดสิ”
แล้วนายดัชก็เอามือไปบิดลูกบิดประตูโรงยิมที่มันปิดอยู่ พร้อมกับทำหน้าแบบงงๆ อึนๆ และมึนๆเล็กน้อย
~กึกๆ~
“มันล็อก”
นายดัชหันมาบอกฉันด้วยสายตาบ้องแบ๊ว
“งั้นนายก็ยืนจ้องประตูมันไว้อย่างนั้นนะ แล้วก็รอให้มันเปิดมาต้อนรับนายเอง”
“ฉันไม่ใช่ผู้ทรงศีลนะ”
“งั้นก็พังมันเข้าไปสิ!”
“รู้แล้วน่า...!”
แล้วนายดัชก็เดินออกมาห่างจากประตูประมาณสามก้าวได้มั้ง
“ฉันจะพังแล้วนะ”
“แล้วจะมาบอกฉันทำด๋อยอะไร จะพังก็พังไปสิ”
นายดัชหันมามองฉันทำหน้าแบบนี้ =_= ก่อนที่จะ....
“ย่า..........”
“ย่าเป็นภรรยาปู่ แล้วจะเรียกหาทำปรมาณูหรือไง”
“ฉันเรียกเอาแรงเว้ย!”
“ฉันเพิ่งรู้”
แล้วฉันก็ยืนเท้าเอวดูการพังประตูของนายดัช
“อย่าเพิ่งทำลายสมาธิกันได้ไหม”
“โอ๋เค๋”
“ย่า........”
~ปั้ง!!~
มันไม่ออกค่ะ
ฉันยังเท้าเอวอยู่ค่ะ
~ปั้ง!!!~
มันก็ไม่ออกค่ะ... เริ่มกระดิกอวัยวะส่วนล่าง
~ปั้ง!!!!~
มันก็ไม่ออกค่ะ
ปากเริ่มทำงาน
“นี่เมือกลางวันไปช่วยแม่ขายน้ำแข็งมาหรือไง ถึงได้ไม่มีแรงอย่างงี้”
“แล้วเมื่อกลางวันเธอก็คงไปกินกล้วยมาน่ะสิ งั้นก็มาเปิดสิ”
“โธ่เอ๊ย...เรื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้”
ฉันมองหาอะไรที่มันแหลมๆแล้วก็แบนๆแถวๆนั้นดูก็พบว่ามีมีดที่ขึ้นสนิมอยู่หนึ่งอัน
ฉันไปหยิบมันมา แล้วก็เอามันยัดเข้าไปที่ช่องระหว่างประตู แล้วแงะไปมาพร้อมกับบิดลูกบิดด้วย ฉันทำอย่างงั้นอยู่สองสามทีประตูก็เปิดออกเหมือนกับว่าไอ้มีดนั่นคือกุญแจ
~แกร็ก!!~
“ก็แค่เนี้ยะ” ฉันพูดอย่างชิวๆสิวกระเด็น
“O_O”
“เป็นไร หอบของเข้ามาด้วย”
“ชำนาญจริงนะยัยลิงกินกล้วย”
“ลิงบ้านนายกินอ้อยหรือไง”
“แต่ลิงบ้านฉันมันไม่ทุเรศแบบนี้แล้วกัน”
“ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อใช่ไหม”
“ถ้าอยู่แล้วต้องเจอลิงอย่างเธอก็ไม่อยากอยู่”
“งั้นนายก็ตายซะเถอะ!!!!!.....”
ฉันวิ่งไปหยิบที่ตักผงมาวิ่งไล่นายดัชไปรอบห้อง ส่วนนายดัชก็หยิบเอากระตังน้ำมาป้องกันตัวเองเอาไว้ นี่ฉันเหมือนคนบ้าเลยอ่ะ
“นี่ยัยลิงเธอจะหยุดได้หรือยัง”
นายดัชวิ่งขึ้นไปอยู่บนโต๊ะสูงๆ
“นี่ไอ้หน้าชาแกจะหยุดได้หรือยัง”
ฉันใช้ความพยามอย่างเต็มที่ในการปีนขึ้นไป แต่ฉันก็ปีนขึ้นไปไม่ได้ ฉันเตี้ยเกินไปจริงๆ TT_TT อย่างรู้จริงๆนายดัชมันไปเกิดบนเสาไฟฟ้าหรือยังไง ถึงได้สูงไดสูงดีแบบนี้
“เธอก็หยุดเอาที่ตักผงมาฝาดฉันสักทีสิ ถ้ารองเท้าฉันเป็นรอยนะ ฉันฆ่าเธอ”
ตอนนี้นายดัชกระโดดเหยงๆเป็นจิงโจ้อยู่บนโต๊ะเพื่อหลบลูกอุกกาบาตนอกโลกจากฉัน
“นายก็หยุดเอากระตังน้ำมาครอบหัวฉันสักทีสิ ฉันไม่อยากเป็นมนุษย์ต่างดาวนะเว้ย แถมนายยังเอามือมาเท้าไว้อีกแล้วก็กระโดดเป็นกระดี่ได้น้ำแบบนี้ถ้าหัวฉันบุบฉันเอานายตายแน่”
“ได้ฉันก็เหนื่อยแล้ว ฉันนับหนึ่งถึงสามหยุดทั้งคู่”
“เออ...”
“หนึ่ง...สอง...สาม”
ทุกอย่างหยุดการสั่นไหว
“ไอ้บ้าดัช แกเอากระตังน้ำออกไปจากหัวฉันด้วยสิ”
“ก็ มันดึงไม่ออกนิ่”
“หะ!!!ไอ้บ้า แกมาดึงให้ออกเดี๋ยวนี้นะไม่งั้นฉันจะเอาที่ตังผงฝาดแกจนหัวแบะเลย เร็วๆ”
“เออ...อยู่เฉยๆล่ะ” “หนึ่ง...สอง...สาม..ฮึบ”
“โอ้ย! ฉันเจ็บนะเบาหน่อยสิ นี่ถ้าหัวฉันหลุดขึ้นมานะฉันจะมาหลอกมาหลอนแกทุกคืนเลย”
“เออๆเอาล่ะนะ อยากเกิดมาหัวเป็นลิงเองนี่ช่วยไม่ได้”
“แกบ่นอะไร”
“เปล่าๆ เอ้า หนึ่ง..สอง..สาม...”
~พรึบ!!~
“โอ้ย!!.เจ็บชะมัดยาดเลย โอ้ย!!!...”
ด้านนอก...
มีนักเรียนสามคนที่กำลังจะเข้ามาเอาของ
“เฮ้ย!นี่แกพี่ดัชกับพี่ฟ้าเขาทำอะไรกันวะ ดึงไม่ออกด้วย” นักเรียนคนที่หนึ่ง
“นั่นดิ แถมเจ็บอีกด้วย” นักเรียนที่สอง
“แกคิดเหมือนฉันเปล่า” นักเรียนคนที่สาม
“แล้วแถมมาอยู่กันสองต่อสองที่โรงยิมเก่านี่อีก” นักเรียนคนที่หนึ่ง
“อย่างงี้ต้องกระจายข่าว..” นักเรียนคนที่สอง
“ใช่” นักเรียนคนที่สาม
“นี่นายไปทำความสะอาดด้านโน้น ส่วนฉันจะทำด้านนี้”
“สั่งเป็นคุณนายเชียว”
“หัดเอามันออกจากปากบ้างก็ได้นะ ไม่ต้องอนุรักษ์หรอก หรือไม่ก็อย่าปล่อยให้มันออกมาป้วนเปี้ยนบ่อยนัก”
“เธอก็หัดเอากล้วยออกจากปากบ้างก็ได้นะ ไม่ต้องกลัวคนเขาแย่งกินหรอก โรงเรียนนี้เขาไม่นิยมสอนลิงหรอก”
“เขาก็ไม่นิยมสอนลูกคนขายน้ำแข็งเหมือนกัน”
“กินกล้วยไปเลยไป”
“ไปช่วยแม่ขายน้ำแข็งปะ”
“อ่ะแฮ่ม...ฉันได้ยินว่าอะไรกล้วยๆนะ และก็น้ำแข็งด้วย”
จู่ๆอาจรย์รังนกก็โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ (ฉายาที่ฉันเพิ่งตั้งให้สดๆร้อนๆ)
“อ๋อ ยัยนี่เขาอยากกินกล้วยครับ”
“นายนี่อยากกินน้ำแข็งค่ะ”
“งั้นเหรองั้นก่อนที่จะไปกินกันเนี้ยะช่วยทำความสะอาดให้เสร็จก่อนนะ”
“ค่ะ/ครับ”
แล้วฉันกับนายดัชก็ต้องสงบศึกกันชั่วคราวแล้วหันมาจับมือกันช่วยกันทำความสะอาดไอ้โรงยิมบ้านี่ ไม่รู้ว่าพี่รังนกเกิดเฮี้ยนอะไรขึ้นมาให้นักเรียนสองคนมาทำความสะอาดโรงยิมที่ใหญ่ยังกะสนามบอลโลก แถมยังไม่ได้ใช้มาเป็นปี ฝุ่นเกาะหนาเป็นนิ้วเลย ขัดออกก็ยากยังกะตะบันหมากเข้าปาก
“นี่ฝุ่นเกาะแน่นเหมือนเปลือกทุเรียนที่หน้านายเลยเนอะ”
“ฉันว่าเหมือนขนที่หน้าเธอมากกว่ามั้ง”
“โอ้ย! ทำไมมันขัดออกยากขนาดนี้วะ เซ็งเป็ดชะมัดเลย”
“ใช่ เซ็งไก่ชะมัดเลย”
“อย่ามาลอกเลียนแบบกันดิ”
“เธอจดลิขสิทธิ์ไว้หรือไง”
“จดในใจ”
แล้วฉันกับนายดัชก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะปริปากแม้แต่คำเดียวเพราะไม่ว่าจะพูดไปเท่าไรมันก็ไมได้ทำให้ไอ้โรงยิมนี่มันเล็กลงหรอก บ่นไปก็เหนื่อยเปล่า
ฉันกับนายดัชช่วยกัน กวาดๆ ปัดๆ ขัดๆ ถูๆ โรงยิมกันอยู่นานนับสองชั่วโมง ซึ่งพอห้านาทีปุ๊บฉันกับนายดัชจะต้องต่อล้อต่อเถียงกันทุกที กว่าจะเสร็จเล่นเอาฉันลมแทบจับ เหนื่อยชะมัดยาดเลย ดูสิเสื้อฉันจากขาวๆนี่กลายเป็นโคตรดำเลย แล้วจะซักออกไหมเนี้ยะ คอยดูนะ ฉันจะมาเก็บค่าผงซักฟอกจากอาจารย์รังนกให้ดูเลย
“เฮ้อ....เสร็จสักที”
ฉันนั่งถอนหายใจอยู่ที่หน้าประตู ดีนะที่โรงยิมนี้มันอยู่ติดกับหลังโรงเรียน แล้วหลังโรงเรียนก็มีต้นไม้เต็มไปหมดเลย พอลมพัดทีก็เย็นไปยันทรวงอก ทะลุเข้าปอด แล้วก็ออกทางรูตูดไปเลย
“นี่เธอยังไม่ชินกับการปีนต้นไม้นานอีกเหรอ”
“ฉันยังไม่มีอารมณ์วะ”
ฉันหันหน้าขึ้นไปพูดกับนายดัช
“ฮ่ะๆๆๆ/ฮ่ะๆๆๆ”
เราสองคนหัวเราะออกมาพร้อมกัน
“หน้านาย/หน้าเธอ”
~หน้าไอ้หน้าชาตอนนี้ดำพอๆกับน้ำแข็งคลุกขี้เถ้าเลย~
~ตอนนี้หน้ายัยลิงดำยังกะลิงถูกไฟไหม้เลย~
สรุปหน้าดำพอๆกัน แล้วนายดัชก็ลงมานั่งข้างฉัน...
“นี่นายฉันขอสงบศึกชั่วคราวนะ”
“ฉันก็เหมือนกัน”
“ไอ้หน้าชานายช่วยแบกฉันกลับไปหน่อยดิ/ยัยหน้าลิงช่วยแบกฉันกลับไปหน่อยดิ”
“อืม.../อืม...”
แล้วเราก็ต้องแบกสังขารของกันและกันกลับไป เพื่อไปเผาที่เมรวัดอะไรก็ไม่รู้วรวิหาร
ขากลับนี่ฉันกับนายดัชแทบจะคลานเอาของมาเก็บเลย หมดแรงจริงเลย
สภาพของฉันกับนายแทบจะขี่คอกันมาอยู่แล้ว
~เฮ้ย ทำไมตลอดทางนี่ทำไมมีแต่สายตาแปลกๆมองมาที่ฉันกับนายดัชตลอดเลยวะ~
“นี่...นายว่ามันดูแปลกๆมะ”
“อืม...แต่ตอนนี้ฉันไม่สนใจหรอกฉันอยากนั่ง”
และเราก็ต้องอดทนแบกสังขารของกันและกันต่อไปจนไปถึงม้านั่งตัวหนึ่งซึ่งมีพวกทรายกับบาสนั่งรอ อยู่แล้ว
ดูสินั่งเม้าท์กันสบายปากไปเลย ไม่คิดจะห่วงเพื่อนบ้างหรือไง
“ฟ้า ดัช”
ทำไมไม่รอให้ฉันคลานก่อนแล้วค่อยเห็นล่ะ
“นี่พวกเธอไปทำอย่างที่เขาบอกกันจริงๆเหรอเนี้ยะ”
ยัยทรายมันถามอะไรของมัน
“ทำอะไร”
ฉันถามกลับ
“ก็...ดูสภาพพวกเธอตอนนี้สิเหมือนกับ...”
“กับอะไร”
นายดัชถามกับบ้าง
และระหว่างที่ฉันกับนายดัชกำลังงงกันอยู่นั้น อยู่ๆนายบาสก็ลุกขึ้นมา เหมือนอย่างกับคนบ้ายังไงยังงั้นเลย
“เฮ้ย!บาสแกใจเย็นๆก่อนดิวะ”
ฉันรู้สึกว่า เสียงของยัยทรายมันจะไม่ทันซะแล้ว
“ไอ้ดัช!! แก”
~พลั่ง~
เฮ้ย!นายบาสมาต่อยไอ้หน้าชาทำไม
นี่ฉันงงไปหมดแล้วนะ มันเกิดอะไรขึ้นเนี้ยะ ใครก็ได้ช่วยบอกฉันที
~โอ้ยทำไมวันนี้มีแต่เรื่องเซ็งเป็ดๆกับฉันวะ อยากจะบ้าตาย~
“นี่มันอะไรของแกวะ ไอ้บาส”
ฉันได้ยินเสียงของนายดัชตะโกนออกมา อย่างอารมณ์เสีย
แน่ละ แต่ถ้าเป็นฉัน ฉันจะยังไม่ถาม แต่ฉันจะต่อยกลับก่อนค่อยถาม (ไม่งั้นถ้ามันรู้เรื่องกันแล้วฉันจะไม่ได้เอาคืน)
“แกมันไอ้เพื่อนทรยศ”
นายบาสกำลังจะต่อยนายดัชอีกครั้ง แต่ครั้งนี้นายดัชคงจะไม่ยอมเพราะนายบาสกลับโดนนายดัชสวนหมัดกลับไปก่อนต่างหาก
“นี่หยุดเดี๋ยวนี้นะ! พวกนายเป็นบ้าอะไรกันหะ!! เป็นเพื่อนกันแท้ๆแต่กลับมากัดกันเอง มีแต่หมาเท่านั้นที่มันกัดกันไม่เลือก น่าสมเพชสุดๆ”
ฉันตะโกนออกไปอย่างอารมณ์เสียสุดๆ สิ่งที่ฉันเกลียดที่สุดคือการที่เพื่อนมาทะเลาะกันเอง ฉันคิดว่าในเมื่อเป็นเพื่อนกันก็ต้องรักกัน ไว้ใจกัน และไม่มีวันทิ้งกันในทุกๆสถานการณ์ นั่นแหละคือเพื่อนของฉัน
“แล้วมีใครสามารถอธิบายกับฉันได้บ้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
แต่ฉันรู้สึกว่าตอนนี้ทุกคนกำลังกลัวฉันอยู่นะ คงไม่เคยเห็นยัยฟ้าเป็นแบบนี้น่ะสิ แต่นี่ฉันไม่ใช่ยัยฟ้า แล้วตอนฉันก็กำลังเซ็ดเป็ดอยู่ด้วย TT_TT
“จะไม่มีใครสามารถอธิบายให้กับฉันได้ใช่ไหม”
“ฟ้าคือ เรื่องมันมีอยู่ว่า
”
แล้วคนที่กล้าอธิบายให้ฉันฟังก็คือ ทราย แน่ละที่ตรงนั้นมันมีกันอยู่สามคน ฉัน นายดัช นายบาส แล้วก็ทราย ซึ่งตอนนี่นายบาสคงจะไม่พร้อมที่จะพูดอะไร ส่วนนายดัชก็คงจะงงเหมือนฉัน
“มันมีเด็กสามคน มากระจายข่าวว่าเธอกับดัชไปทำอะไรกันที่โรงยิมเก่า และที่สำคัญตอนนี้ข่าวก็คงจะกระจายไปทั่วแล้วด้วย”
มันเป็นใคร!!! ถ้าจับได้นะฉันจะบีบคอมันให้แหลกคามือไปเลย >_<
“แล้วพวกเธอก็เชื่องั้นเหรอ ทั้งๆที่พวกเธอก็รู้ว่าฉันกับดัช ไปทำอะไรกันที่โรงยิมนั่น”
“ก็เพราะว่าฉันเชื่อเธอไง ฉันถึงรอฟังคำตอบจากปากเธอ”
“แล้วบาส นายไม่เคยเชื่อใจคนที่นายรัก แล้วก็รักนายเลยใช่ไหม”
“คือ...”
ยังไม่ทันที่นายบาสจะพูดอะไรฉันก็เดินออกไปก่อนแล้ว ก่อนที่จะได้ยินคำขอโทษจากปากของทุกคน
“เออ...ไอ้ดัชฉันขอโทษวะ พอดีแบรกมันแตกวะ”
“อย่าแตกบ่อยนะเมิง เพราะฉันไม่ใช่หลักข้างถนนที่จะให้แกชน”
“แหะๆ”
นี่แหละคือนิสัยของผู้ชาย
ความคิดเห็น