ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายมือใหม่

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 1 แผนการร้ายอันแยบยล 100 %

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 40
      0
      13 พ.ค. 54

     ตอนที่ 1 : แผนการร้ายอันแยบยล

              ชิตาภา  เศวตฉัตร  แพทย์สาวกำลังขับรถด้วยความเร่งรีบไปยังเส้นทางที่เธอสุดแสนจะคุ้นเคย  นั่นก็คือทางไปร้าน OR’Rella ร้านเค้กและกาแฟของศรันย์รส เพื่อนสาวสุดสนิทของเธอที่เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย  ชิตาภาไม่เคยคิดเลยว่าพวกเธอทั้ง 4 คนจะสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ เพราะแต่ละคนต่างมีพื้นฐานจากทางบ้านที่แตกต่างกันมาก   
              ชิตาภาเป็นเด็กผู้หญิงจากต่างจังหวัด  พ่อแม่ของเธอก็เป็นแค่ข้าราชการธรรมดาแต่บ้านของเธอก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นจนร้อน  และมีแต่เสียงหัวเราะทั้งวัน       ต่างกับพราวชมพู  พ่อของเธอเป็นนักธุรกิจใหญ่  มีทรัพย์สินมากมาย  แต่ยิ่งพ่อของเธอมีทรัพย์สินมากเท่าไหร่  อนุภรรยาของพ่อเธอก็มากขึ้นเท่านั้น  ทำให้พราวชมพูมีปัญหาขัดแย้งกับพ่อของเธออยู่บ่อยครั้ง  แต่ถึงอย่างไรแม่ของพราวชมพูก็ดูแลเธอมาอย่างดีและยังเผื่อแผ่ความรักความห่วงใยมายังเพื่อนสนิทของลูกสาวในทุกๆครั้งที่มีโอกาส  ศรันย์รส  ในสมัยเรียนเธอเป็นดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของโรงเรียนและเป็นนักกิจกรรมตัวยง  เป็นคนสวยที่ใครๆก็อิจฉา  แต่เธอกลับมาเป็นเพื่อนสนิทกับชิตาภา  พราวชมพูและช่อลดา  ทั้งทั้งที่ตอนม.4  ชิตาภาออกจะไม่ค่อยชอบหน้าศรันย์รสซักเท่าไหร่แต่สุดท้ายก็มาเป็นเพื่อนสนิทกัน  คิดแล้วก็นึกขำ  ส่วนช่อลดาบ้านของเธอเป็นบ้านคนจีนอย่างแท้จริง  ช่อลดาก็ได้รับสายเลือดจีนมาเต็มๆดังดูได้จากผิวขาวราวหยวกและตาเล็กๆของเธอ  ช่อลดาเป็นคนที่เรียนเก่ง  ถือเป็นหัวกะทิของห้องเรียนในตอนนั้น  ด้วยความที่พ่อแม่ของช่อลดามีลูกช้า  ช่อลดาจึงเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อแม่  ชนิดแบบยุงไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม              “
                 "ปรี้น  ปรี้น” 
    เสียงแตรรถดังสนั่นทำให้ชีต้าร์หรือชิตาภาหลุดออกมาจากภวังค์  พลางมองไปยังข้างกระจกรถของเธอซึ่งมีชายหนุ่มที่เธอไม่เคยเจอมาก่อนกำลัวเคาะกระจกรถของเธออยู่
              “นี่คุณผู้หญิงครับ  คุณจะจอดอยู่ตรงนี้อีกนานมั้ยครับ  หลับในอยู่หรือไง  รถติดเป็นกิโลแล้วโน่น  ผมรีบนะคุณ”  ผู้ชายคนนั้นพูดอย่างหัวเสีย
              “คือ ขอโทษค่ะที่ทำให้รถติด  แต่คุณพูดดีดีกับชั้นก็ได้น่ะค่ะ  บังเอิญว่าดิฉันก็มีการศึกษา”  ชีต้าร์พูดพลางรีบบึ่งรถไปด้วยความรวดเร็ว  พลางนึกแค้นผู้ชายคนนั้นอยู่ในใจ          “แหม หน้าตาท่าทางก็ดี  เสียดายปากปีจอไปหน่อย”  เธอคิดพลางรีบขับรถไปหาเพื่อนสาว
              “ฮัดเช้ย!! ทีฆ์จามออกมา  พลางนึกว่าต้องเป็นแม่สาวที่หลับในเมื่อกี้ต้องนินทาเขาอย่างแน่นอน  ทีฆ์เลิกคิดเรื่องผู้หญิงคนนั้นพลางบึ่งไปยังคอนโดของตะวันเพื่อนสนิทของเขา  ซึ่งแม่บ้านโทรมาบอกว่า  ตะวันเมาไม่ได้สติ  และโดนรูดทรัพย์ซะหมดตัว


    เฮ้อ !!  แต่งนิยายนี่ก็ยากเหมือนกันนะค่ะ  อยากได้กำลังใจจากคนอ่านบ้างจัง  ติชมเข้ามาได้นะค่ะ

    75 %  หลัง

              

    HI!!!  My friend  แหมนั่งกันครบองค์ประชุมเชียวนะจ้ะ”  ชิตาภากล่าวทักทายเพื่อนๆของเธอด้วยเสียงสดใส  เพื่อกลบเกลื่อนความผิดที่เธอมาช้าที่สุด

              “หยุดเลยไอ้ดำ  ไม่ต้องมากลบเกลื่อน  แม่นางสายเสมอ  นอกจากเข้าเวรแล้ว  แกเคยไม่สายไหม”  ช่อลดาพูดขึ้นพลางนึกขุ่นเคืองใจที่แม่คุณชีต้าร์ที่โทรไปตามทุกคนให้มาพร้อมกันแต่ตัวเองดันมาสายที่สุด

              “โอ๋โอ๋  ลดาอย่างอนเค้าเลยนะ  พอดีเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อย  แต่แกยังเรียนชั้นว่าดำอีกเหรอ  ตอนนี้ชั้นขาวขึ้นเป็นกองแล้วนะ”

              “โอ๊ย  หยุดได้แล้ว  ลดากับชีต้าร์จะไม่แขวะกันซักครั้งที่เจอหน้ากันได้ไหม  หันไปดูบ้าง  ชมพูกำลังจะเป่าปี่อีกรอบแล้ว  พวกแกก็มัวแต่เถียงกัน”  ศรันย์รสพูดขึ้นอย่างหัวเสีย  แม้จะรู้ว่าลดากับชีต้าร์ชอบทักทายกันอย่างนี้  และไม้ได้ตั้งใจจะแขวะกันจริงจัง  แต่เป็นเพราะน้องสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในปากพวกมันสองคนที่มีพอพอกัน  ทำให้ไม่มีใครยอมใคร  แต่ในเวลานี้ไม่ใช้เวลาที่จะมานั่งล้อเล่นกัน

             “เออ  ขอโทษ”  ชีต้าร์พูดขึ้นพร้อมกับลดา

              “ชมพู  ไหนลองเล่ามาซิว่าเรื่องราวมาแบบชัดชัดหน่อยซิ  ว่าตะวันมันทำอะไรให้แกบ้าง”  ชีต้าร์พูดขึ้นอย่างเป็นการเป็นงานสุดสุด

               ชมพูอยู่ในอาการวิตก  เธอไม่รู้จะเล่าเพื่อนๆอย่างไรจะเริ่มจากตรงไหนดี  เธอรู้แค่เพียงว่าในจิตใจมันอัดอั้นเต็มไปด้วยความโกรธผสมกับความเสียใจ  ที่ผู้ชายที่เธอรักและกำลังจะแต่งงานด้วย  มาหลอกลวงเธออย่างนี้  สาวๆทั้ง 3 คนนั่งจ้องหน้าชมพูด้วยความอยากรู้  พลางส่งสายตาให้กำลังใจเพื่อให้เพื่อนของเธอเล่าเรื่องของตะวันออกมา

              “คือ  เมื่อตอนอาทิตย์ที่แล้ว  ชมไปทานข้าวเย็นกับตะวันมา  แล้วพอดีกับที่ตะวันไปเข้าห้องน้ำ  ชมก็เลยแอบเอาโทรศัพท์ของตะวันมาดู  มันมีข้อความจากผู้หญิงคนนึงอ่ะ  แบบเยอะมาก  ผู้หญิงคนนั้นชื่อ มาเรีย  แบบนัดแนะกันด้วย  เค้านัดกันเมื่อวานตอนทุ่มนึงที่ SOTUS  PUB  เมื่อวานชมก็เลยแกล้งชวนตะวันไปหาหม่าม้าที่บ้านตอนประมาณหกโมงเย็น  ตะวันบอกว่าเค้าติดงานไม่ว่างมาไม่ได้จริงๆ  ชมก็เลยลองขับรถตามตะวันไปที่โซตัส  ตะวันไปที่นั่นจริงๆด้วย  แล้วตะวันก็เข้าไปกอดและหอมแก้มผู้หญิงคนนึงด้วย  ชมช็อคเลย  ชมเสียใจมาก  ชมไม่เข้าใจว่าทำไม”  ชมพูฟูมฟายออกมา  ช่อลดาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆจึงเข้าไปปลอบ

              “เออชม  รสว่า  บางครั้งชมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะ  เค้าอาจจะเป็นแค่เพื่อนร่วมงานกัน  แล้วอีกอย่างถ้าผู้หญิงที่ชมเห็นชื่อมาเรียจริง  เธอก็น่าจะเป็นฝรั่ง  แล้วนั่นก็เป็นวัฒนธรรมของเค้าด้วยที่ทักทายกันแบบนั้น”  ศัรนย์รสกล่าวขึ้นอย่างมีหลักการ

              “เราเห็นด้วยกับรสนะ  ชมลองใช้ความเข้าใจแล้วก็เหตุผลดูอีกทีนะ”  ชิตาภากล่าวเสริม

              “มันไม่ใช่แค่นั้น  ชมตามตะวันเข้าไปในผับด้วย”

              “หา!!  ชมตามมันเค้าไปในผับได้ยังไง  ผู้หญิงเข้าผับคนเดียวมันอันตรายมากนะ  ทำไมชมไม่ชวนใครไปเป็นเพื่อน”  ชิตาภาพูดออกมาด้วยความตกใจ

         

    “คือ ชมก็ไม่ทันคิด  แต่ชมได้ยินตะวันมันพูดกับผู้ชายคนนึงที่เป็นเพื่อนกันว่า  ชมหน่ะน่าเบื่อ  ราบเรียบ  เรื่องมาก  แถมเค้ายังต้องวุ่นวายกับการเอาใจหม่าม้าของชม  คบกันมาตั้ง 10 ปีแล้ว  ยังไม่ได้  เอิ่ม  คือ”

              “ไม่ได้แอ้ม  ใช่ไหม  ทำไมมันพูดอย่างงั้น  ชั้นว่าต่อให้เข้าใจผิดหรือเข้าใจถูก  ตะวันก็ไม่น่าจะพูดอย่างงั้นอยู่ดี  มันคิดว่าชมเป็นอะไร”  ชิตาภาวีนออกมาอย่างอารมณ์เสีย 

              “เห้ย  ต้าร์ใจเย็นๆดิ  ชมแน่ใจนะว่าชมได้ยินมาอย่างนั้น”  ช่อลดากล่าวขึ้น  พลางหันไปถามพราวชมพู

              “จริงๆค่ะ  แล้วช่วงนี้ตะวันก็ชอบอารมณ์เสียใส่ชม  แล้วยังบ่ายเบี่ยงเรื่องแต่งงานด้วย  ทั้งๆที่ตะวันเป็นคนขอชมแต่งงานเอง  แล้วตะวันก็ยังเคยพูดว่าเค้าอยากเลิกกับชม”  ชมพูพูดพลางร้องไห้ออกมาอีกครั้ง

              “ชั้นว่าพวกเราต้องจัดการอะไรซักอย่างแล้ว  ตะวันมันชักจะมากไปแล้ว”  ศรันย์รสพูดขึ้นมา

              “ชั้นว่าก็ดีเหมือนกันนะ  หาทางพิสูจน์ไปเลยว่าตะวันมันยังรักชมไหม  แล้วก็จัดการที่มันมาทำให้ชมต้องเสียน้ำตาด้วย”  ชิตาภาพูดอย่างหมายมาด

              “ชมว่าปล่อยมันไปอย่างนี้เถอะซักพักชมก็น่าจะทำใจได้  ขอบคุณเพื่อนๆมากที่มานั่งฟังและให้คำปรึกษาแก่ชม  ชมต้องกลับบ้านแล้ว  นี่หม่าม้าก็โทรมาหลายครั้งแล้ว  เดี๋ยวหม่าม้าเหงา”  พราวชมพูพูดอย่างเศร้าสร้อยพลางนึกไปถึงมารดาที่บ้าน

              “ขับรถดีดีนะชม  อย่าร้องไห้กลางทางนะ  ถ้ามีอะไรก็โทรมาหาชั้นได้เลย”  ศรันย์รสพูดขึ้นพลางเดินไปส่งพราวชมพูที่รถ

              “ถึงบ้านแล้วโทรมาด้วยนะชม”  ชิตาภาตะโกนทิ้งท้าย

              หลังจากที่ศรันย์รสกลับมาจากเดินไปส่งพราวชมพูที่รถเสร็จแล้ว  สามสาวที่เหลือก็นั่งประชุมกันอีกครั้ง

              “ที่ชั้นพูดเมื่อกี้  ชั้นจริงจังนะโว้ย”  ชิตาภาพูดขึ้น

              “ชั้นก็เอาด้วยกับต้าร์นะ  กล้าดียังไงมาทำแม่ชมพูน้อยของเราร้องไห้”  ศรันย์รสสนับสนุน

              “ชั้นก็เอาด้วย  แต่ตอนนี้ชั้นเริ่มมีแผนแล้วหล่ะ  ลดาแกมั่นใจไหมว่าต้องการช่วยชมพูจริงๆ”  ช่อลดาถามขึ้น

              “เออ  ชั้นไม่เคยผิดคำพูดอยู่แล้ว”

              “ก็ดีแล้ว  งั้นชั้นจะให้แกไปจัดการไอ้ตะวันนั่น  ชั้นจะให้แกไปสืบหาประวัติมัน  ตีสนิทกับมัน  เพราะชั้นคิดว่าอีกไม่นานตะวันก็จะบอกเลิกชมพู  ช่วงนี้แกก็แค่สืบหาประวัติและทุกอย่างเกี่ยวกับตัวไอ้ตะวันไปพลางๆ  รอให้มันบอกเลิกหนูชมพูของเราเมื่อไหร่ก็ค่อยเริ่มตีสนิทกับมัน  แล้วก็แกล้งให้มันตายใจ  แล้วค่อยคิดแผนต่อกันอีกที  ตอนนี้ชั้นรู้สึกตื้อ”  ช่อลดากล่าวขึ้น

              “ชั้นว่าก็โอนะ  แผนแก  แล้วยังไงเราค่อยมาคุยกันอีกที  ชั้นว่างวันเสาร์นะแก”  ชิตาภาพูดขึ้นเพราะเธอเริ่มง่วงนอนเต็มที

              “เออ  ก็ได้  เดี๋ยววันเสาร์ค่อยเจอกันอีกที  อย่าให้ชมพูรู้เรื่องนี้นะ”  ช่อลดาย้ำ

              หลังจากที่เพื่อนๆกลับกันหมดแล้ว  เหลือเพียงศรันย์รสแค่เพียงลำพัง  เธอรอให้ลูกน้องเก็บร้านเสร็จ  เธอก็เดินขึ้นไปข้างบนร้าน  ที่ดัดแปลงเป็นที่พักด้วย  พลางคิดถึงแผนการที่ช่อลดาบอก  “ให้เธอหาประวัติตะวันหน่ะมันไม่ใช่เรื่องยาก  แต่จะให้เธอไปตีสนิทกับตะวันนะซิที่เป็นเรื่องยาก  เกิดมายังไม่เคยจีบผู้ชายก่อนเลยเรา  แล้วชั้นจะทำได้ไหมเนี่ย  นี้ถ้าพี่วินยังอยู่เราคงมีที่ปรึกษาดีดี  เห้อ!ยังคิดถึงเค้าทำไม  เค้าบอกเลิกเธอนะรส  จำใส่สมองไว้สิ”  ศรันย์รสพยายามเตือนตัวเอง  แต่เธอรู้ดีที่สุดว่ายังไงเธอก็ยังคงลืมพี่วินซึ่งเป็นรักแรกของเธอไม่ได้  แต่ช่อลดาก็คิดมาได้อยู่ดีดีให้เพื่อนเล่นบทนางร้ายซะงั้น  เธออมยิ้มกับความคิดตัวเอง  พร้อมกับเข้านอนเพื่อเตรียมตัวพบกับชีวิตในวันพรุ่งนี้ 

    ปล.ช่วยเม้นต์กันหน่อยนะค่ะ  ติเพื่อก่อค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×