ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic snsd exo} ROOMMATE

    ลำดับตอนที่ #4 : เ พื่ อ น ร่ ว ม ห้ อ ง บ ท ที่ ส อ ง (100%)

    • อัปเดตล่าสุด 27 เม.ย. 59


    Roommate 2

    เพื่อนร่วมห้องบทที่สอง

     

     

     

    {Kris part}

     

    ผมไม่รู้ว่ามันจะแย่ขนาดนี้นี่หว่า -0-!

     

    ผมเหลือบสายตาไปมองของที่ผมส่งตรงอิมพอร์ทจากแคนาดาพร้อมกับร่างที่สลบเหมือดของรูมเมทที่นอนอยู่ข้างๆกัน ก็หลังจากที่น้องเขากรี๊ดเสียงดังไปเขาก็ล้มฟุบลงไปกับพื้นเลยอ่ะ พี่คริสไม่ผิดนะครับทุกคน! คนบ้าอะไรเจอตุ๊กตาหมีแล้วกรี๊ดอ่ะ

     

    ครับ.. ไอของที่ผมอิมพอร์ตจากแคนาดามันคือตุ๊กตาหมีส่วนสูง 150 เซนติเมตร

     

    มันก็ไม่ได้ใหญ่มากเลยนะ -0-!

     

    ผมนั่งกุมขมับเพราะนางเขาไม่มีทีท่าว่าจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิด หรือผมจะแกล้งน้องเขาแรงไปวะ? เห่ย! แต่คนบ้าไรเห็นตุ๊กตาหมี กรี๊ดแล้วสลบอ่ะ เรื่องนี้คริสอู๋ไม่ผิดนะครับ ผมก็แค่หวังดีให้น้องเขาทำความคุ้นเคยกับอาณาจักรลูกๆของผมเท่านั้นเอง

     

    “อืม...”

     

    เห่ย..

    ฟื้นแล้ว!

     

    น้องเขาลืมตาแล้ว

    ผมพ้นผิดข้อหาฆ่าคนตายด้วยตุ๊กตาหมีแล้วนะครับทุกคน TOT

     

    “เป็นไงบ้างครับน้องยุน” เพราะผมเป็นคนที่ทำให้น้องเขาล้มตึงลงไป ก็ไม่แปลกเท่าไหร่ที่ผมจะถามอาการของน้องเขา น้องเขามองไปรอบๆห้องเหมือนกำลังจะปรับโฟกัสสายตาของตัวเอง แล้วพอน้องเขาเห็นหน้าผม พร้อมกับมองไปข้างๆตัวเองที่มีเจ้าตุ๊กตาหมีตัวใหญ่อยู่ข้างเขาก็ลุกขึ้นทันที

     

    ก่อนที่จะ..

     

    ตึง!

     

    ตุ๊กตาของโผมมมมมมมมมม TOT

     

    ทำไมสาวคณะวิทยาฯโหดแบบนี้อ่ะ หรือโหดแค่น้องเขาคนเดียว ผมจะฟ้องนะ จะฟ้องจริงๆ ! น้องเขาใช้เท้าถีบตุ๊กตาของผมจนหน้ามันหงายลงกับพื้นเลยอ่ะ ย้ำนะครับว่าใช้เท้าถีบไม่ใช่ใช้มือผลัก

     

    น้องเขาจะรู้ไหมครับว่าตุ๊กตาตัวนี้มันราคาเหยียบแสนวอนเลยนะแถมยังสีขาวขนปุยน่ารักมากๆอีกต่างหาก น้องเขาทำร้ายมันได้ยังไง TOT!

     

    ผมจะย้ายเมท!!

     

    “เอา มัน ไป ทิ้ง” น้องเขาหันหน้ามาทำตาเขียวปั้ดใส่ผม ก่อนที่จะใช้มือตีป้าบเข้าไปที่หัวของเจ้าตุ๊กตาน้องน้อยของผมอย่างแรง ถึงแม้ว่ามันจะไม่ดังแต่ตุ๊กตามันก็เจ็บเป็นนะ(?)ครับ

     

    “มันแพงมากเลยนะครับน้องยุน” บอกเหตุผลไปครับ.. อย่างน้อยน้องเขาเรียนวิทยาฯมาก็ต้องดูเป็นคนมีหลักเกณฑ์ เหตุผล และคิดตามได้

     

    แต่ผมว่าคราวนี้ผมคิดผิดนะ...

     

    “โว้ย! ก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่ชอบแล้วจะสั่งมาทำไม” น้องเขาโวยวายพร้อมกับส่งสายตาที่เหมือนจะด่ากราดและยิงผมให้พรุนไปทั้งตัว

     

    แง้ กลัวแล้วจ้า TOT

     

    “ฉันจะไปกินข้าวกับเพื่อนแล้ว! ถ้ากลับมายังเจอมันหน้าสลอนอยู่ห้องนั่งเล่นอีก ฉันจะจับมันโยนลงจากชั้น 4 แน่!”

     

    ปัง!

     

    น้องเขาเดินออกไปแล้วครับ เหลือแค่ผมกับเจ้าตุ๊กตาหมีแค่สองคน(?)...

     

    แล้วผมจะเอาไปไว้ที่ไหน แค่ตอนนี้ห้องผมมันก็แทบจะไม่มีที่เดินอยู่แล้ว เอ.. แต่น้องเขาบอกว่าห้ามเอามันอยู่ห้องนั่งเล่นนี่น่า งั้นห้องอื่นก็ได้นี่น่าจริงมั้ยล่ะ?

     

    ผมค่อยๆเปิดประตูห้องห้องหนึ่งๆก่อนที่จะวางเจ้าหมีตัวยักษ์แสนน่ารักสีขาวขนปุยลงกับพื้น กอดมันด้วยความรักใคร่และจูบที่จมูกมันอย่างหมั่นเขี้ยวไปหนึ่งที

     

    “ทีนี้แกก็ไม่ได้ถูกโยนลงจากชั้น 4 แล้วนา เพราะแกไม่ได้นั่งหน้าสลอนอยู่หน้าห้องนั่งเล่น” ผมยกยิ้มให้กับมัน ก่อนที่จะปิดไฟและปิดประตูห้องๆนั้นลง

     

    ว่าแต่.. แน่ใจนะว่าจะไม่ถูกโยนลงจริงๆ?

     

     

     

     

     

     



    {Seohyun Part}

     

    ฉันเบื่อวันประชุมผู้ปกครองที่สุด!

    แต่วันนี้คงเป็นวันแรกที่มันไม่ได้น่าเบื่อล่ะมั้ง J

     

    ก็แหม.. ผู้ปกครองคนข้างๆเขาหล่อกระชากใจซะขนาดนี้ จะไปรู้สึกเบื่อได้ยังไง..

     

    “พี่เซฮุนคะ เซ็นตรงนี้ก่อนค่ะ แล้วเดี๋ยวพี่เซฮุนขึ้นไปเอาเอกสารให้น้องซอนะ” ช้อนสายตาขึ้นมองผู้ปกครองสุดหล่อตรงหน้า พี่เขาดูมีท่าทีอึกอักเล็กน้อย ก่อนที่จะยกขยับยิ้มพร้อมทั้งลูบหัวฉันไปมา

     

    “ครับๆ เสร็จแล้วเราไปกินไอศกรีมกันนะ” ทำไมพี่เขาถึงได้หล่อขนาดนี้กันนะ T//////T พี่เซฮุนเขาใจดีเอามากๆ ใจเต้นแรงไปหมดเลย ต่อมความอยากได้เป็นแฟนนี่ทำงานแรงมาก แต่ดูเหมือนพี่เขาจะชอบผู้หญิงเรียบร้อยนะ..

     

    เพราะแบบนั้นซอฮยอนจะต้องทำตัวเป็นเด็กดีและแสนเรียบร้อยในสายตาของพี่เขา

     

    ถึงแม้ว่ามันจะ..

     

    “ยัยซอ!”

     

    เพื่อนเรียกน้องซอแล้ว ไปก่อนนะคะ พี่ฮุนเสร็จแล้วโทรหาน้องซอนะเดี๋ยวน้องซอไปหา” พูดกับพี่เซฮุนจนเสร็จและพี่เขาเองก็ออกเดินไปยังสถานที่ที่จะต้องรับเอกสาร ดังนั้นฉันเดินแยกตัวไปหายัยเพื่อนรักด้วยความอาฆาตแค้น..

     

    คิมเยริม! เพื่อนสนิทของฉันที่รู้จักนิสัยกันดียิ่งกว่าอะไร! รวมไปถึงคังซึลกิด้วยอีกคน!

     

    “คนนั้นใครอ่ะ หล่อจัง พี่ชายแกหรอ ติดต่อให้หน่อยดิ่” เพียงนั่งลงปุ๊บเพื่อนรักก็ถามปั๊บทันที.. จะถามก็ไม่แปลกเลยสักนิด ก็พี่เซฮุนออกจะหล่อขนาดนั้น ขนาดวันนี้แค่ใส่เสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนส์สีซีดพี่เขายังฮอตขนดานี้เลย! แอบชักจะหวงเบาๆแล้วสิ L

     

    “ไม่ให้ย่ะ!” ฉันหันไปแลบลิ้นใส่เพื่อนรัก ก่อนที่จะหยิบขนมของซึลกิเข้าปากไปด้วย ผิดกับคิมเยริมที่เบ้ปากออก.. จะบอกว่านิสัยปกติของพวกเราก็เป็นกลุ่มที่ค่อนข้างจะโดดเด่นไปทางด้านหน้าตาและระดับผลการเรียนที่ดีมาก เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกที่จะมีหนุ่มๆเข้ามาแวะเวียนขายขนมจีบกันบ่อยๆ แต่ถ้าถามเรื่องมีแฟนนี่มัน..

     

    โนวๆ ค่ะ! ไม่มีเลยสักคน!

     

    พวกเราก็ค่อนข้างจะเฟรนด์ลี่ นัดบอดบ้างบางเวลา และปกติเวลาที่เจอหนุ่มหล่อที่จะเกิดอาการคลั่งไคล้(?)และอยากเป็นแฟนของเขา แต่ก็มีได้ไม่บ่อยนักหรอกที่จะเข้าหาเอง.. ก็บอกแล้วไงล่ะว่าผู้ชายมาขายขนมจีบให้เยอะจะตายไป..

     

    “คนนี้อะหรอที่บอกว่าไปอยู่ด้วยอ่ะ”

    “ช่ายยยยยยยยยย”

     

    ฉันลากเสียงยาวกับคำถามที่ดูจะเข้าท่าที่สุดของซึลกิ แน่นอนว่าเราเป็นเพื่อนรักกันเพราะฉะนั้นเรื่องที่ฉันไปอยู่กับพี่เซฮุนทั้งสองคนเลยรู้เรื่องไปด้วย ที่คิมเยริมพูดเมื่อกี้นี้มันก็แค่แซวเล่นไปเท่านั้นเอง

     

    “แล้วนี่ต้องทำตัวเป็นน้องซอคนใสซื่อไปถึงเมื่อไหร่คะ?”

     

    เยริมล้อฉันอย่างล้อเลียน ก็เพราะไปบอกเพื่อนๆมันเหมือนกันว่าพี่เขาดูจะชอบผู้หญิงเรียบร้อยน่ารัก ฉันเลยพยายามทำตัวให้มันดูซื่อๆใสๆน่ารักๆเหมาะสมกับวัย 17 ปี ทั้งๆที่ความจริงฉันเองก็ออกจะแก่นเซี้ยวกว่านี้

     

    “ไม่รู้เหมือนกันอ่ะ”

    “ไหวแน่อ่อ?” ซึลกิหันมาถามฉัน อันที่จริงกับพี่เซฮุนนี่ค่อนข้างจะจริงจังนะ ไม่ได้โกหกหรอกว่าตอนแรกชอบพี่เขาเพราะพี่เขาหล่อ มาดแมน แถมยังฮอตแบบนายแบบอีกต่างหาก แต่พออยู่ด้วยกันพี่เขาก็ดูเป็นคนที่ใจดีไปอีกแบบนะ

     

    เด็กๆน่ะ.. ไม่ว่าใครก็ชอบผู้ใหญ่ใจดีกันทั้งนั้นแหละ

     

    “ไหวสิ!” พูดพร้อมกับชูกำปั้นแสดงความมั่นใจ มันเหนื่อยดีเหมือนกันที่ต้องพยายามทำตัวเรียบร้อยทั้งๆที่ตัวตนจริงๆของฉันไม่ใช่คนแบบนั้นเลยสักนิดเดียว

     

    แต่ถ้าได้เป็นแฟนพี่เซฮุนนี่มันก็.. คุ้มค่าที่จะเหนื่อยดีเหมือนกัน..

     

    ผ่านไปสักพักหนึ่งที่เราสามคนแชร์เรื่องราวต่างๆต่อกันไปมากมาย จนกระทั่งเสียงของโทรศัพท์มือถือของฉันที่ดังขึ้น และบุคคลที่โทรเข้ามาทำให้ฉันฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะกดรับ และลุกขึ้นเพื่อที่จะเดินออกไปหาเขา

     

    “กลับบ้านก่อนนะ เจอกันเปิดเทอม”

    “โชคดีนะยะ!”

    “อย่าให้หางมันโผล่ออกมาซะหล่ะแม่แมวจูฮยอน”

     

    “ย๊าส์! คังซึลกิ!!”

     

     

     

     

     

     

     

    {Chanyeol Part}

     

                ผมกำลังหงุดหงิด หงุดหงิดมาก..

     

    แต่ไม่ดิ่ ผมจะหงุดหงิดทำไมวะ?

     

    ผมเหลือบตามองนาฬิกาที่อยู่บนฝาผนังที่ตอนนี้บอกเวลาเกือบจะห้าทุ่มเข้าไปแล้ว ผมเปิดทีวีดูหนังในช่องรายการหนังที่มีให้ดูตลอด 24 ชั่วโมง แต่ไอหนังที่ฉายอยู่บนจอนี่มันไม่ได้รับความสนใจจากผมเท่าไหร่

     

    เพราะผมกำลังมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้ไง!

     

    เบื้องหน้าของชายหนุ่มผู้หล่อเหลานามปาร์คชานยอลคือแอพพลิเคชั่นอิสตราแกรมที่ขึ้นชื่อของรูมเมทปีศาจหัวแดงที่บอกว่าจะออกไปแฮงก์โอเวอร์ปาร์ตี้กับเพื่อนที่คณะและจะกลับมาในตอนค่ำๆ ให้ผมอุ่นข้าวในตู้เย็นกินเองได้เลย

     

    ในรูปคือหมีปีศาจ(?)ที่ใส่เสื้อสีดำที่เว้าลงจนเห็นร่องหน้าอกเล็กน้อยเพื่อความเซ็กซี่ แต่ไอรอยเสื้อที่มันขาดๆนี่มันคืออะไรวะ? ผมมองมันด้วยความหงุดหงิด เดาได้เลยว่าคิ้วตัวเองคงจะขมวดเป็นปมไปแล้ว แต่เออแม่ง.. แล้วทำไมผมต้องหงุดหงิดขนาดนี้นี่ไง!

     

    “กลับมาแล้ว” ผมมองไปที่ประตูห้องที่ถูกเปิดออกมาโดยคนที่ทำให้ผมมีอาการหงุดหงิด รูมเมทผมแดงที่ขึ้นชื่อเรื่องความเซ็กซี่ของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์กำลังถอดรองเท้าส้นสูงสีแดงส้นแหลมปรี๊ดของตัวเองออกจากกัน

     

    ผมไล่มองไปที่เสื้อตัวที่เธอใส่ ก่อนที่จะพบว่ามันก็ไม่ได้โป๊หรือหวือหวาอะไรมาก.. ยกเว้นไอที่มันขาดตรงนั้น ฉีกตรงนี้ , แม่ง.. เสื้ออะไรวะมีรอยขาดแทบจะทั้งตัว.. แล้วใครมันเป็นคนออกแบบเสื้อ? เผาคอลเลคชั่นนี้ทิ้งเลยดีมั้ยเนี่ย?

     

    “เป็นไรอ่ะ” ทิฟฟานี่ฮวังเดินเข้ามาหาผม ก่อนที่จะใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่หว่างคิ้วของผมและหมุนมันไปมา คนที่ตัวเล็กกว่าผมมากโขกำลังจะเดินให้ห่างออกจากตัว แต่นั่นไม่ทันหรอกครับ..

     

    ผมคว้าเอวที่เคยสบประมาทว่ามันบานยิ่งกว่ากระทะของทิฟฟานี่ฮวังและออกแรงดึงมันเข้ามาหาตัวเอง เธอล้มตัวนั่งลงบนตักของผม คนตัวเล็กดิ้นเล็กน้อย ก่อนที่จะนั่งมันแบบสงบๆเพราะผมเอาหน้าไปเกยที่ไหล่ของเธอ โอบรอบเอวพร้อมทั้งเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูที่ยังคงเป็นหน้าต่างของรูปในไอจีของเธออยู่

     

    “อธิบาย” ผมบอกเธอเสียงนิ่ง ทิฟฟานี่จิ้มๆรูปนั้นไปสักพัก ก่อนที่จะกดย้ำสองทีให้มันขึ้นเป็นรูปหัวใจ เธอหันหน้าเข้ามาหาผม พร้อมกับบีบจมูกของผมไปหนึ่งที

     

    “อธิบายไร? ก็ฉันไปเที่ยว ฉันก็ถ่ายรูปไง มีไรต้องอธิบาย”

    “เสื้อก็ไม่ได้คอกว้างมาก หน้าอกก็ไม่ได้มีเลยนะ จะถ่ายไปให้ใครดู”

     

    พูดเพียงเท่านั้นเธอก็หันมาค้อนใส่ผม พร้อมทั้งทุบอกผมอย่างแรงจนผมต้องร้องมันออกมา , ผู้หญิงบ้าอะไรมือหนักขนาดนี้..

     

    “เออ! เพราะไม่มีไงเลยต้องถ่ายให้รู้ว่ามี คราวหลังฉันจะใส่แหวกกว่านี้อีก”

    “ถ้าใส่อีกจะไม่ให้ออกจากห้อง”

    “นายห้ามฉันไม่ได้หรอกย่ะ!”

     

    สิ้นประโยคต่อล้อต่อเถียงจากปากแดงๆที่ชอบเถียงผมเป็นประจำ ผมก็กดจูบหนักๆที่ริมฝีปากอิ่มเคลือบไปด้วยลิปกลอสนั้นแรงๆหนึ่งที.. , อืม.. กลิ่นเชอร์รี่แหะ..

     

    “ย๊า! ปาร์คชานยอล”

    “วันนี้แค่เตือนหรอกนะ ถ้าครั้งหน้าทำอีก มันไม่ได้จบแค่แบบเมื่อกี้”

     

    รูมเมทปีศาจลุกขึ้นจากตักของผมก่อนที่จะทำหน้าง้ำงอ เลื่อนไปหยิบรีโมททีวีก่อนที่จะปิดมันลง เป็นการประชดประชันแปลกๆแบบเล็กน้อยที่แสดงอาการไม่พอใจของเจ้าตัว

     

    “นี่นายเป็นรูมเมทหรือเป็นพ่อฉันกันแน่ห๊ะ? อายุก็น้อยกว่าแท้ๆ”

    “ฉันเป็นพ่อเธอไง”

    “พ่อฉัน...”

     

    “พ่อทูนหัวไงที่รัก”

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    {Baekhyun part}

     

                “ขอบคุณนะครับที่มาส่ง”

     

    “ดูแลมันดีๆนะแบค พี่ฝากด้วย” พี่ทิฟฟานี่คนสวยของคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ รูมเมทของไอชานยอลเพื่อนรักของผมเอง.. , เธอหิ้วปีกพี่สาวตัวเล็กรูมเมทของผมเข้ามาพร้อมทั้งวางเธอลงกับโซฟากลางห้องรับแขกที่มีผมช่วยพยุงอีกข้างหนึ่ง..

     

    ไปแฮงก์โอเวอร์จนเมากลับมาจนได้..

     

    “อือ” เสียงของพี่แทยอนดังขึ้น ทันทีที่ใบหน้านวลเนียนสัมผัสได้ถึงความเย็นจากผ้าชุบน้ำที่ผมเอามาซับบนแก้มของพี่เขา..

     

    “เห้อ.. ผมจะทำไงกับพี่ดีเนี่ย” จะปล่อยให้นอนโซฟาก็ไม่ได้ซะด้วย.. พี่เขาก็คงตื่นมาแล้วโวยวายด้วยท่าทางน่ารักๆจนผมจะต้องอดที่จะยิ้มในใจไม่ได้แน่ๆ..

     

    ใช่ครับ ได้ยินไม่ผิดหรอก

    ยิ้มในใจอ่ะ..

     

    เพราะภายนอกผมก็จะทำตัวหางลู่หูตกเหมือนน้องหมาน้อยที่น่าสงสาร ให้ตัวพี่เขาเกิดความรู้สึกเอ็นดู(?)ขึ้นมาเล็กน้อย ถึงผมจะดูตุ๊ดแต๋วหรือทำตัวเหมือนผู้ชายที่ไม่ค่อยจะแมนในสายตาพี่เขา แต่ความจริงหน่ะ..

     

    “เดินดีๆหน่อยสิครับ” ผมพยุงคนเมาที่กำลังชี้นู่นชี้นี่พร้อมทั้งยิ้มเผล่อย่างน่ารัก รอยยิ้มกว้างที่ส่งมาให้ผมนั่นทำเอาหัวใจเต้นแรงขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้

     

    ตอนพี่เขาเมาอ่ะน่ารักมากเลยครับ ฉีกยิ้มตาหยีเหมือนเด็กน้อยไม่มีผิด แต่อย่าให้ถึงเวลาปกติเชียว.. , คิมแทคนแมนเข้าสิงแถมไม่ยอมออกอีกต่างหาก -0-;;

     

    “อ่า” ผมวางพี่เขาลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา คนเมากลิ้งตัวบนเตียงไปมาก่อนที่จะส่งยิ้มน่ารักๆมาให้ผมทั้งๆที่ยังตาปิดอยู่นั่นแหละครับ

     

    “แบ้ก.. นั่นแบ้กยอนหรอ”

    “ครับ ผมเอง” ผมนั่งลงบนเตียงของรูมเมทคนน่ารัก(ในสภาพเมา) ก่อนที่จะแอบลูบแก้มพี่เขาไปมา ฮือ ... ความน่ารักนี้ T/////T ผมกำลังจะเป็นบ้าตายไปแล้ว!

     

    “ทำไมวันนี้แบ้กยอนหล่อจัง”

    “ปกติแบ้กยอนไม่หล่อเลย” ผมยิ้มเอ็นดูให้กับพี่เขา นิ้วชี้นุ่มนิ่มจิ้มเข้าที่แก้มของผมจนมันบุ๋มลงไป.. ผมเป็นคนแก้มเยอะอ่ะครับ แล้วหน้าตาก็ออกไปทางหวานนิดๆเลยทำให้คนเขา เข้าใจผิดกันบ่อยๆ..

     

    “แล้วปกติแบ้กยอนเป็นคนยังไงอ่ะ” เหมือนมันจะดูเป็นการฉวยโอกาสที่ถามคนเมาออกไปแบบนั้น.. , แต่ถ้าให้ผมถามตอนพี่เขาปกติ มีหวังได้ยินแต่คำด่าออกมาแน่ๆ

     

    “แบ้กยอนเป็นคนนั่ลล้ากกกกกกกกก” ลากเสียงยาวพร้อมกับยิ้มตาหยีส่งมาให้ผมอีกแล้ว ผมจะตายกับการโดนแอทแทคแบบนี้.. พี่เขาน่ารักจริงๆนะครับ(ตอนเมา)

     

    “แต่ตอนนี้แบ้กยอนหล่อแล้ว”

    “แบ้กยอนจะมีสองร่างในคนเดียวกันได้ยังไงล่ะครับ”

    “ก็นี่ไงแบ้กยอน ส่วนอีกคนก็แบ้กยอน” เธอชี้มาที่ผมทีเป็นตัวจริงๆกับอีกคนที่เหมือนว่าเธอจะมองเป็นภาพซ้อนของผมเข้าไปแล้ว.. , นี่คงจะกินหนักเข้าไปจริงๆถึงได้เป็นแบบนี้ -0-;

     

    “แบคฮยอนก็ต้องมีคนเดียวสิครับ คนไหนกันล่ะในสองคนที่พี่ว่า”

    “คนนี้ไง”

     

    จุ้บ!

     

    เหี้ย!!!!

     

    ผมอุทานในใจตัวเองเสียงดังเมื่อพี่เมทคนน่ารักตัวเล็ก คว้าหน้าของผมเข้าไปใกล้ตัวก่อนที่จะจุ้บลงมาที่ริมฝีปากของผมอย่างแรง เธอผละออกก่อนที่จะยิ้มเผล่ให้ผมอย่างน่ารักราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น..

     

    พี่เขาไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอกครับ.. แต่ผมเนี่ยหัวใจเหมือนกำลังจะวายตายเลย..

     

    “เห็นม้ะ ถูกด้วย” พี่เขาหัวเราะคิกคักก่อนที่จะล้มตัวลงนอนพร้อมกับห่มผ้าให้ตัวเองเรียบร้อย.. เหมือนผมส่งเด็กน้อยเข้านอนเลยแหะ.. ,

     

    ผมหยิบเก้าอี้ทำงานในห้องมาวางข้างพี่เมทตัวเล็ก ก่อนที่จะนั่งมองใบหน้าหวานสวยที่กำลังจมอยู่ในนิทราอย่างน่ารักน่าชัง และน่าฟัดมาก!

     

    “แบ้กยอนนอน” และเหมือนคนที่นอนไปแล้วเขาจะรู้ตัวว่าถูกจ้อง เขาเลยปรือตามาน้อยๆก่อนที่จะตบเตียงปุๆข้างตัวเองให้ผมนอนลงข้างๆเขา

     

    แต่ถ้าผมนอนน่ะหรอ.. พรุ่งนี้เช้าผมได้กลายเป็นศพหมกคาห้องแน่...

     

    “ครับๆ เดี๋ยวผมนอนแล้ว ฝันดีนะครับ”

    “งื้อ”

     

    ผมจัดแจงผ้าห่มให้พี่แทยอนอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะโน้มตัวประทับริมฝีปากลงที่หน้าผากที่มีผมหน้าม้าปรกนิดหน่อยของพี่เขา และล้มตัวนอนลงบนเตียงของตัวเองที่อยู่ข้างๆ

     

     

     

     

     

     

     

    {Jessica Part}

     

                เหนื่อย.. เป็นวันที่เหนื่อยมาก!

     

    ฉันเปิดประตูห้องของตัวเองเข้ามาหลังจากเลิกเรียนในตอนเย็นเสร็จ , ปรายสายตาไปมองที่พื้นที่มีวีกรรมอันแสนสุดยี้ของไอเพื่อนรูมเมทจอมหื่นกามเมื่อตอนเช้า ก่อนจะพบว่าคอลเลคชั่นแรร์ไอเท็มของพ่อคุณเขาถูกเก็บไปเรียบร้อยแล้ว

     

    อย่างน้อยก็หายเหนื่อยไปหน่อยที่ไม่ต้องมาคอยเก็บอะไรพวกนั้นหลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน

     

    ฉันนั่งลงที่โซฟากลางห้องหลังจากที่นำกระเป๋าที่ใส่เอกสารการเรียนไปเก็บที่ห้องนอนของตัวเองแล้ว ชุดก็ยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาเดิมเพื่อรอใครบางคนที่กำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำให้ออกมาเสียก่อน

     

    “อ่าว กลับมาแล้วหรอ?” เสียงเปิดประตูห้องน้ำที่ดังขึ้นพร้อมทั้งร่างของรูมเมทตัวสูงที่เดินเช็ดผมเปียกๆของตัวเองออกมาจากห้องน้ำ โธ่ว.. นั่นคิดว่าเท่ห์มากเลยสินะ -___-

     

    “ถ้ายังไม่กลับนายจะเห็นฉันนั่งอยู่ตรงนี้มั้ยล่ะ?”

    “อ้าวป้า.. คนถามดีๆทำไมต้องกวนกันด้วยวะ” ลู่หานมองฉันด้วยสายตาอารมณ์ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ ก่อนที่จะโยนผ้าเปียกๆลงมาใส่ที่ตักของฉันเต็มๆ

     

    “ยี้! อย่ามาทำตัวสกปรกซกมกแถวนี้ได้ปะ” ฉันใช้นิ้วชี้และโป้งกรีดกรายหยิบเจ้าผ้าชุ่มน้ำของลู่หานให้ขึ้นมาจากตักของตัวเอง แต่ยังไม่ทันที่จะได้ปาใส่หน้าไอคนตรงหน้าแรงๆ ลู่หานก็เดินเข้ามาพร้อมกับนั่งหันหลังระหว่างหว่างขาของฉัน ก่อนที่เขาจะแหงนหน้าขึ้นมามองใบหน้าของฉันด้วยใบหน้าที่ติดจะกวนประสาทเบาๆ

     

    “เช็ดผมให้หน่อยดิ่”

    “ไม่มีมือทำเองรึไง” ถึงจะบ่นไปอย่างนั้น แต่ก็หยิบผ้ามาเช็ดผมเปียกๆของเขาอยู่ดี ส่วนไอคนที่มันโดนเช็ดหัวมันก็นั่งหลับตาพริ้มจนฉันเองอดที่จะเบ้ปากไม่ได้

     

    และด้วยความหมั่นไส้เลยขยี้หัวของลู่หานแรงๆจนอีกคนเบ้หน้าเบ้ตา และก่อนที่ผมของเขาเองจะเสียทรงไปมากกว่านี้ จะต้องหยุดมือปีศาจของแม่มดให้ได้!

     

    “ย๊า!นี่!” ฉันอุทานออกมาเสียงดังด้วยความตกใจ เมื่อข้อมือของตัวเองถูกรวบโดยมือข้างเดียวของลู่หาน แขนเล็กทั้งสองข้างโดนควบคุม ก่อนที่จะถูกกระชากให้โน้มตัวลงมา

     

    และนี่มันจะไม่มีปัญหาเลยถ้าหมอนี่มันไม่เอาหัวเข้ามาในช่องว่างระหว่างแขนของฉัน!

     

    ขอกรี๊ดได้ป่ะ?!

     

    “เช็ดดีๆดิ่ป้า ผมเนี่ยทำมาแพงนะไม่ใช่ถูกๆ” เหอะ! คำก็ป้า สองคำก็ป้า แบบนี้มันน่าเช็ดให้ได้ดีๆมั้ยล่ะ! ฉันเบ้หน้าออก แต่เมื่อว่าเจ้ารูมเมทจอมหื่นจะจับได้ จมูกทั้งสองข้างเลยถูกบีบไปโดยปริยาย!

     

    มันสนุกแต่ฉันเจ็บว้อย!

     

    “เอามือนายออกไปเลยนะ!” เพราะโทนเสียงมันดูแปลกไปทำให้ลู่หานหัวเราะลั่น เขาขำ แต่ฉันไม่ขำเลยย่ะ! นี่คิดว่าตัวเองเป็นใครถึงคิดจะมาบีบจมูกชาวบ้านเล่นแบบนี้!

     

    “โอ้ยแม่งขำว่ะ”

     

    ขำบ้านป้าแกดิ่!

     

    หลังจากมันขำจนพอใจก็ยอมปล่อยมืออกจากจมูกของฉัน ให้เดาเลยมั้ยล่ะว่าตอนนี้คงขึ้นสีแดงเถือกเพราะแรงบีบแน่ๆ

     

    ฉันผลักหัวของอีกคนออกไปห่างจากตักของตัวเองเพราะผมของเขามันแห้งแล้ว , เออมันดีไง! ก็เขาอาบน้ำแล้วนี่ แต่ฉันยัง! แถมพรุ่งนี้ยังต้องไปทำงานที่คณะแต่เช้าอีกต่างหาก!

     

    “เอาหัวนายออกไปเลยนะ ฉันจะไปอาบน้ำแล้ว -*-” บอกกับลู่หานแต่ก็ดูท่าว่าอีกคนจะไม่เอาหัวออกไปง่ายๆ หมอนี่มันยังคงนอนหลับตาพริ้มเหมือนลูกแมวอยู่เลย

     

    ฆ่าทิ้งซะตอนนี้เลยดีมั้ย?

     

    “ลุกออกไปเลยนะ ฉันจะไปอาบน้ำ!” ฉันพูดกับเขาเสียงดังแต่ก็ยังคงนิ่งและไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ.. , นี่จะเล่นแบบนี้ใช่ป่ะ..!

     

    แต่ยังไม่ทันที่จะเอื้อมมือว่าแกล้งไปบีบจมูกเอาให้หายใจไม่ออกกันไปข้างนึง เสียงทุ้มของลู่หานก็ทำให้ฉันหยุดชะงักไปซะก่อน

     

    “ทำไมป้าไม่มีแฟนสักทีวะ”

    “ไม่รู้ดิ่ ไม่มีก็ไม่มี ไม่เห็นจำเป็นเลย” ฉันตอบออกไปอย่างไม่แยแส แค่ทุกวันนี้ใช้ชีวิตให้มันรอดพ้นจากงานของคณะก็ดีบุญหัวแล้ว

     

    “ป้าแม่งพิลึกคน” ฉันตีป้าบเข้าไปให้แขนของลู่หาน แน่นอนว่ามันแรงแต่เขาก็นิ่งไม่ไหวติงอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น

     

    ลืมคิดไป..

    ระดับนี้หนังคงหนาจนไม่เจ็บอะไรแล้ว -____-

     

    “เออ ฉันมันพิลึกคน” ตอบปัดๆเพื่อให้อีกคนลุกออกไปจากตักสักที เหนื่อยโว้ย! อยากอาบน้ำจะแย่อยู่แล้ว!

     

    แต่ป้าเป็นคนพิลึกที่เอ๋อๆน่ารักๆดีนะ” ห๊ะ?! เมื่อกี้หมอนี่พูดว่าไงนะ? ประสาท.. นี่มันต้องไปกินยาไม่เขย่าขวดมาแน่ๆ

     

    ฉันผลักหัวลู่หานออกอย่างแรง จนกระทั่งหัวของเขาหลุดวงโจรออกจากตักของฉันไป พูดบ้าพูดบออะไรออกมาก็ไม่รู้ แชมพูไหลเข้าสมองจนเพี้ยนไปแล้วรึไง

     

    หมอนั่นมันประสาทที่อยู่ๆก็พูดแบบนั้น

    แต่ฉันเนี่ยสิบ้ารึเปล่าที่หน้าร้อนกับคำพูดของเขา!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    100 PERCENT COMPLETE

    อัพแล้ว เย่ๆ 5555555

    ฟาดฟันกับการจัดเรียงฟิคใหม่.. จะร้องหรั้ย ;_____;

    ตอนนี้พยายามจะอัพฟิคสลับกันไปนะคะ

    ฟิคนี้ก็ฟิคสายฮา คลายเครียดเนาะ ใครเครียดๆจากฟิคเรื่องอื่นฟิคนี้ช่วยได้นะคะ #ขายของอีกแล้ว555555

    ขอบคุณสำหรับการรอคอยฟิคมาโดยตอลดนะฮะ

    เลิ้บยูวทุกคนซำเหมอ <3

     

     

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×