ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {fic snsd exo} ROOMMATE

    ลำดับตอนที่ #2 : Roommate : INTRO

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 59


    INTRO

     

     

    {Taeyeon part}

                หลังจากที่เมื่อวานจบกิจกรรมโคตรเมาค้าง เมาแฮงก์กับเพื่อนรักไปแล้ว ฉันก็เดินสะโหลสะเหลกลับห้องพร้อมกับทิ้งตัวลงบนเตียงนอนสีเหลืองของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า ไม่ลืมที่จะหยิบหมอนข้างแสนนุ่มนิ่มที่ตนเองชอบเข้ามากอดเอาไว้

     

                แต่... ทำไมหมอนข้างแม่งดิ้นได้วะคะ?

    หรือผีจะสิง?

     

    ช่างแม่งเหอะ! ตอนนี้อยากนอนมากกว่า

     

    ว่าแล้วก็ปิดเปลือกตาลงอย่างเมื่อยล้า ก็แหม...นี่มันตีสองนะคุณ ใครจะมีเวลามาโผล่หน้ามาสนใจกับหมอนข้างที่ตัวเองกอดละ นอนไปเถอะ ตื่นเช้ามาก็เห็นเองแหละว่าอะไรเป็นอะไร

     

    แล้วพอเช้ามาถึงก็ชัดเลย...

    ชัดถึงโสตประสาทหูเต็มๆ!

     

     

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด” เสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นรบกวนเวลานอนทำให้ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับสบถอย่างงัวเงีย จำได้ว่าไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกเป็นเสียงกรี๊ดนะ แล้วหมาตัวไหนมันกรี๊ดวะคะ!?

     

    “หุบปาก!!! คนจะหลับจะนอน กรี๊ดหาพระแสงไรวะ?!” พูดขมขู่ออกไปชนิดที่คิดว่าแมนของโคตรแมน อิคนที่กรี๊ดก็สงบปากทันที แต่มันกลายเป็นเสียงสะอื้นแทน และนั่นทำให้พี่แทคนแมน(?) ต้องลุกมาดูหนังหน้าอิคนที่มันร้องไห้ แล้วก็ต้องทำให้หัวเสียยิ่งกว่าเดิม...

     

    “อิตุ๊ด! กรี๊ดทำไมวะ?” ฉันเขวี้ยงหมอนใส่หน้ารูมเมทอย่างแรงจนมันทำเสียงสะอื้นอีกครั้ง มันเงยหน้าหวานๆสวยๆที่มันคิดว่าหล่อขึ้นมา ก่อนที่จะปาดน้ำตาอย่างลวกๆ

     

    “พี่แท... พี่แทปล้ำเค้าอ่ะ!” สรรพนามขยะแขยงที่มันใช้แทนตัวมันเองทำให้คนแมน(?)แทบกุมขมับ

     

    ฉันเนี่ยนะปล้ำแก?! สมองส่วนไหนคิด?

    ถ้าหล่อๆล่ำๆ เมะแตกสิว่าไปอย่าง

    คนที่ฉันสมควรปล้ำมันต้องไม่เคะแตกตุ๊ดกระจายแบบนี้

     

    ณ จุดนี้... คิมแทรับไม่ได้ค่ะ! L

     

     

    “อย่ามาตลกไอตุ๊ดบยอน ฉันไม่มีทางปล้ำแกว้อย!” ฉันตอบออกมาเสียงดัง เอือมกับหน้าหมาๆตุ๊ดๆของมัน เออ...ยอมรับก็ได้ว่ามันสวยอ่ะ ตอนแรกก็คิดว่าจะหล่อนะ พออยู่ด้วยกันเท่านั้นแหละ... ตุ๊ดแตกชิบหาย!

    “แล้วทำไมเสื้อน้องแบคถึงหลุดล่ะ ถ้าพี่แทไม่ได้ทำอะไรน้องแบคทำไมเสื้อน้องแบคหลุด”

    “จะรู้กับแกมั้ยละ? แล้วอย่ามากรี๊ดปลุกฉันอีก ขนลุก!” ฉันตัดปัญหาออกพร้อมกับก้าวเท้าฉับๆเดินไปยังห้องน้ำแทน

     

     

    พอเดินออกมาก็เห็นมันนั่งอยู่บนเตียง ขาทิ้งลงกับพื้นเขี่ยไปเขี่ยมา น้ำตาก็ไหลปรอยๆ สะอื้นฮัก แต่ในความคิดฉันมันคือเหมือนหมาเหนื่อยมากกว่านะจริงๆ

     

    “พี่แทใจร้าย” ใจร้ายบ้านแกสิ! ก็คนมันไม่ได้ทำนี่หว่า!

    “อย่ามาทำตัวน่ารำคาญ ไปทำกับข้าวเลยไป!” เอ่ยปากไล่มันอีกครั้ง คราวนี้มันน้ำตานองหน้า เงยหน้าขึ้นมาเหมือนเด็กแต่น้ำมูกนี่แบบ... บอกตรงๆนะสภาพโคตรทุเรศอ่ะ

     

    แล้วคือ...ตอนเช้ามามันควรเป็นฉันแทนป่ะที่ต้องกรี๊ดเพราะมีผู้ชายมานอนกอด แล้วทำไมเป็นมันอ่ะ? ตื่นมาทำอย่างกับนางเอกซีรี่ย์โดนฟันเสียซิงครั้งแรกแล้วพระเอกเป็นแนวจำเลยรัก เอาซะภาพพจน์พี่แทคนแมนเสียหมด

     

     

    บอกตรงๆว่าคิมแทยอนปวดหัวกับรูมเมทตุ๊ดแตกบยอนแบคฮยอนเป็นที่สุด!

     

     

     

     

    {Chanyeol part}

    ตอนนี้ผมกำลังนั่งอยู่ครับ...นั่งจริงๆนะ แต่นั่งแบบโคตรหงุดหงิด ตอนนี้มันปาไปสามทุ่มแล้วนะครับ แต่ทำไมยัยรูมเมทปีศาจยังไม่กลับมาอีกเนี่ย อย่าครับอย่าคิด ผมไม่ได้เป็นห่วงยัยนั่นสักนิด ก็แค่...เพื่อนร่วมโลกคนนึง

     

    “กลับมาแล้ว” สาวผมแดงเดินเข้ามาถอดรองเท้า แล้วก็เขวี้ยงหนังสือเรียนวิศวะเล่มหนาๆของผมมาใส่ตักก่อนแม่นางจะเดินฉิวเข้าห้องไปเลย

     

    “อะไรๆ ทำไมทำหน้าเป็นหมาไม่ได้กินข้าวแบบนั้น” รูมเมทผมฮวังทิฟฟานี่ ปากที่จัดพอๆกับสีผมสีแดงของเธอนั่นแหละครับ ทำให้ผมหันหน้าไปนิ่งๆพร้อมกับพยักหน้า

    “เออ หิว! ทำไรให้กินหน่อยดิ”

    “อย่าบอกนะรอกินข้าวพร้อมฉันอ่ะ” ยัยปิศาจถามผมออกมาก่อนที่จะยักคิ้วเหล่ตาราวกับต้องการคำตอบ

    “ตลก... ใครจะไปรอ ก็รู้อยู่ทำกับข้าวไม่เป็น”

     

    ผมไม่ได้รอเขานะครับ...ไม่ได้รอจริงๆนะ

     

    “เออๆ เดี๋ยวไปทำให้ ไปอาบน้ำไปบ่นเป็นแม่มดเสร็จปุ้บก็เดินลิ่วๆเข้าครัว จับกระทะ ถือตะหลิว เปิดตู้เย็น ส่วนผมน่ะหรอ...ก็ไปอาบน้ำดิ่ กินเสร็จจะได้นอนเลยไง สบายดีออก

     

     

    ผมออกมาจากห้องน้ำพร้อมชุดนอน แต่สภาพผมของตัวเองนี่คือโคตรทุเรศเลยอ่ะ...ก็เพิ่งสระผมมานี่ครับ น้ำนี่ก็หยดจังเลย กลิ่นกับข้าวที่ลอยหอมฟุ้งทำให้ผมเดินไปหยุดอยู่ที่โต๊ะกินข้าว ยัยปิศาจกำลังหันหลังยืนล้างอุปกรณ์ ผมสีแดงถูกมัดรวบเป็นหางม้า

     

    “เอวบาน” ผมเรียกชื่อเธอ... ชื่อเฉพาะน่ะ ก็ยัยนี่เอวบานจริงๆนี่น่า

    “อะไรไอโยดา” เธอส่งสายตาหันมาค้อนผม และนั้นทำให้ผมโยนผ้าเช็ดหัวไปให้กับเธอ และนั้นทำให้สาวผมแดงสบถออกมาพึมพำๆ

     

    เธอเดินมาที่โต๊ะกินข้าว ก่อนที่จะนั่งทับตักของผม... ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ นั่งตักนั่นแหละ แถมยังหันหน้าเข้ามาหาผมอีกต่างหาก แล้วไอท่าทางเผยอปากทำตาฉ่ำแบบนั้นมันคืออะไร? จะยั่วพี่ปาร์คหรอครับ บอกตรงนะไม่หลงกลหรอก...

     

    มือเล็กค่อยๆสางผมสีน้ำตาลอ่อนของผมด้วยความเบา บางครั้งก็มีกระตุ้นบ้างด้วยการบีบนวด เมื่อเห็นว่าผมเริ่มแห้งดีแล้ว คนตัวเล็กก็เอามือที่กำลังเช็ดหัวผมอยู่นั้นคล้องลงมาจนต่ำ จนกลายเป็นว่าตอนนี้เธอกำลังโอบรอบคอผมอยู่กลายๆ

     

    “จะกินข้าว” ผมบอกเธอเสียงนิ่ง แต่มือก็ดันไปโอบล้อมรอบเอวอิ่มเอาไว้ ก่อนที่จะบดเบียดเข้ามาใกล้กัน

    “ก็ไม่ได้ห้ามนี่น่า จะกินก็กินสิ” ทิฟฟานี่พูดเบาๆ ก่อนที่เขาจะผลักออกจากผมไป

     

    แต่ไม่ทันหรอกครับ....

     

    ผมดึงคนที่ตัวเล็กให้ลงมานั่งบนตักอีกครั้งหนึ่ง ริมฝีปากร้อนบดเบียดกับริมฝีปากอิ่มนุ่มก่อนที่จะบดคลึงเบาๆ ฟันคมกัดเข้าไปที่ริมฝีปากล่างของอีกคนอย่างยั่วเย้า คนตัวบางกว่าเบียดตัวเข้ามาใกล้กับผมพร้อมกับรับจูบของผมอย่างเต็มใจ ดูก็รู้ครับ... นี่มันจงใจยั่วผมชัดๆ

     

    “คิดว่ายั่วแล้วได้ผลหรอ?” ผมผละริมฝีปากออกจากปากอิ่มที่ฉ่ำไปด้วยน้ำสีใส มือหนาเอื้อมมาลูบไล้แก้มใสอย่างแผ่วเบา

     

    “ก็ไม่รู้สินะ” ทิฟฟานี่พูดพร้อมกับยกยิ้มที่มุมปาก ก่อนที่เจ้าหล่อนจะลุกออกจากตักผมก็ไม่วายกดริมฝีปากอิ่มนุ่มลงมาทับกับริมฝีปากของผมแรงๆหนึ่งที

     

    “อย่าลืมไปปลดปล่อยในห้องน้ำล่ะ”

     

    แล้วคุณล่ะ...คิดว่ายัยปีศาจยั่วผมได้ผลหรือเปล่า?

     

     

     

     

    {Sehun part}

    โอเคครับ...ผมจะไปประสาทเสียประสาทกินไปมากกว่านี้ ถ้าไม่เจอกับตุ๊กตาน่ารักเดินได้ที่กำลังจ้องผมตาแป๋วอยู่ตรงหน้า

     

    “ครับแม่” ผมตอบรับคำสั่งจากปลายสาย ถอนหายใจออกมาแผ่วเบา ดวงตาก็จ้องกลับไปยังเด็กน้อย(?)ที่มองนู่นมองนี่ไปทั่วห้อง

     

    “เราน่ะชื่ออะไร?” ผมถามเด็กตรงหน้า แต่เชื่อผมเหอะครับ..ยัยนี่ไม่ได้เด็กหรอก แต่น่าจะเป็นรุ่นน้องผม น่าจะอายุสัก 19 ได้มั้งครับ

     

    “เค้าชื่อซอฮยอน ซอจูฮยอน” พูดพร้อมกับกอดตุ๊กตากบจากเรื่องเคโรโระมองมาทางผม ผมสะบัดหัวอีกครั้ง

     

    การเรียนวิศวะนี่ก็เหนื่อยของโคตรเหนื่อยแล้วนะครับ พอกลับมาหอพักจะทิ้งตัวลงนอนสักหน่อย ก็พบกับสิ่งมีชีวิตสปีชี่ส์เดียวกับผมกำลังนั่งดูทีวีอย่างสบายใจในห้อง ให้ทายช็อกมั้ยล่ะครับ?

     

    คำตอบคือแม่งโคตรช็อก!

     

    “อายุเท่าไหร่”

    “ปีนี้...อืม 17 ค่ะ” อืม..ก็แค่อายุ 17 ห๊ะ?! อายุ 17? ตลกละ เด็กสมัยนี้นี่มันสูงไวกันขนาดนี้เลยหรอครับ คือน้องตัวโคตรสูงอ่ะผมบอกเลย

     

    “พี่ชายชื่ออะไร” ถามผมตาแป๋วแหวว แต่ไอที่ผมจ้องมันไม่ใช่หน้าน้องเนี่ยสิครับ... เสื้อคอวีที่มันเว้าให้เห็นร่องของหน้าอกเล็กน้อยทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืนๆ ไอนี่ก็เป็นอีกปัจจัยนึงล่ะครับที่ผมไม่อยากเชื่อว่าน้องอายุ 16 ทำไมไซส์มันใหญ่นักล่ะ?

     

    ก็ยอมรับล่ะครับ ผมก็ผู้ชายคนนึงล่ะนะ...เรื่องฟันหญิงมันก็มีบ้างแหละ ผมยังโสดก็ไม่เห็นจะแปลกนี่ครับ จริงมั้ย?

     

    “พี่ชื่อเซฮุนครับ”

    “น้องซอเรียกว่าพี่ฮุนนะ” น้องตอบกลับผมทันควัน รัศมีความน่ารักกระจายฟุ้งและแอทแทคโอเซฮุนอย่างจังเลยครับ...เห้อ จะผิดมั้ยถ้าผมอยากปล้ำเด็ก(?)

     

    “เอ่อ...แล้วแต่เลยครับ” ตอบอ้อมแอ้มบอกไปอย่างงั้นแหละครับ แต่น้องก็ยิ้มกว้างราวกับว่าเข้าใจประโยคที่ผมพูด

     

    “พี่ฮุนน้องซออยากนอน ง่วงแล้ว” เพราะตอนนี้ก็ปาไปสามทุ่มกว่าก็ไม่ผิดแปลกอะไรที่คนตัวเล็กอยากจะนอน ผมจึงพยักหน้ารับเบาๆ น้องเดินมาเกาะที่แขนของผมอย่างน่ารัก

     

    แต่หน้าอกที่มันเบียดนี่...ไม่น่ารักเลยนะครับน้องซอ

     

     

    อย่าทำให้ความอดทนของพี่เซฮุนมีต่ำสิครับ...

    พี่ยังไม่อยากเข้าคุกข้อหาพรากผู้เยาว์ตอนนี้!!!

     

     

     

     

    {Yoona part}

    เพราะมีแล็ปตอนดึกๆ ทำให้ตอนนี้สี่ทุ่มแต่ฉันก็ยังเพิ่งจะกลับถึงหอ พอเปิดประตูไขกุญแจเข้าห้องเท่านั้นแหละ... ถึงกับต้องทิ้งหนังสือลงบนพื้นแล้วก็อยากจะทึ้งหัวตัวเองอย่างแรง

     

    ตุ๊กตา!!

     

    อิมยุนอาไม่ได้เกลียดตุ๊กตาไม่ได้อะไรเลย... ถ้ามันไม่มีเยอะเกินแบบนี้ มองไปทางไหนก็มีแต่ตุ๊กตา แม่ง...อย่างกับโดนจับตามอง ผวานะบอกเลย

     

    ไม่รอช้าที่ร่างโปร่ง 167 เซนติเมตรจะเดินไปพร้อมกับมารยาทอันดีงาม(?)คว้าลูกบิดพร้อมกับเปิดประตูผ่างเข้าไป

     

    “นี่เธอ!...” ยังไม่ทันได้ด่าดี ก็ถึงกับนิ่งค้าง อ้าปากหวอ เพราะไอคนที่เรียกว่าเธอน่ะมันคือผู้ชาย! ผู้ชายร่างสูงที่กำลังกอดตุ๊กตาเดินไปนู่นไปนี่เพื่อหาที่วางให้กับตุ๊กตาสีขาวหน้าเหมือนแพะ ใบหน้านี่อิมยุนขอบอกเลยว่าโคตรหล่อ แต่ไออาการมุ้งมิ้งแบบนี้อิมยุนรับไม่ได้!!!

     

    ขอสตั๊นไปสามวิ...

     

    “สวัสดีครับ” เหมือนคนในห้องจะรู้ตัวว่ามีคนเข้ามา คนตัวสูงยิ้มรับก่อนที่จะโค้งหัวให้อย่างมีมารยาท

    “ผมชื่อคริสนะ อยู่ปีสามคณะบริหาร” เป็นพี่ฉันหนึ่งปี... เป็นรุ่นพี่! แต่ไอตุ๊กตานี่มันคืออะไร!! มันสมควรเป็นของเด็กอายุ 3 ขวบไม่ใช่ 21 สิ!!

     

    “เอาตุ๊กตาออกไปเลย” ฉันพูดเสียงดัง และนั่นทำให้เขามองอย่างงุนงง คนตัวสูงแต่ใจมุ้งมิ้งในความคิดฉันเดินตรงเข้ามาพร้อมกับยกมือหนามายีหัวฉัน แต่ฉันทำหน้ามุ่ยพร้อมกับปัดมือเขาออกอย่างแรง

     

    “อย่ามาเล่นหัวฉันนะ!” ฉันพูดกับเขาเสียงดัง แต่คนตัวสูงกับยิ่งยีผมของฉันจนมันชี้ฟูไม่ได้รูปเข้าไปใหญ่

     

    “อยากเล่นตุ๊กตาก็ไม่บอก อ่ะให้ 1 ตัว” อย่ามาปัญญาอ่อนกับขาโหดยุนอาแห่งคณะวิทยาศาสตร์นะเว้ย! สงสัยไอพี่สูงหล่อนี่แม่งวอนตายเกินไปแล้ว

     

    “ฉันจะพูดอีกครั้ง”

    “...”

    “เอา-ตุ๊กตา-ออก-ไป-จาก-ห้อง” ฉันเน้นย้ำที่ละคำแต่ไอรุ่นพี่คริสตัวสูงมันก็หัวเราะออกมาราวกับเป็นเรื่องตลกและนั่นทำให้อิมยุนอาคนนี้ปรี๊ดแตก!

     

    มือของฉันจัดการคว้าหมับไปที่ไอตุ๊กตาหน้าแพะที่กำลังยิ้มก่อนจะเขวี้ยงมันออกไปหน้าห้องอย่างแรงจนมันกระดอนพื้นหนึ่งครั้ง และไอพี่คริสตัวสูงก็ถึงกับเบิกตากว้างออกมา

     

    “ทำบ้าอะไรของเธอ!” เขาพูดอย่าคนโมโหจัด แต่อิมยุนอาคนนี้ใยแคร์ แล้วอิมยุนอาก็ไม่ได้ทำบ้าด้วย อิมยุนอาแค่เขวี้ยงตุ๊กตาออกไปเท่านั้นเอง! J

     

     

     

     

    {Luhan part}

    ผมเพิ่งไปเมาแฮงก์ที่ผับกับเพื่อนมาครับฉลองโปรเจกต์ที่เพิ่งทำเสร็จไป และแน่นอนว่าคืนนี้พี่ลู่หานต้องพกหรือหนีบสาวมาด้วยสักคนเถอะน่า และนั่นก็เป็นจริงครับ..คืนนี้ผมได้ ลีฮโยรินดาวของคณะมนุษยศาตร์ที่ลือกันว่าโคตรแซ่บมาไว้ แล้วจะรออะไรล่ะครับ ผมไขกุญแจเข้าไปในหอ ก่อนที่จะเร่งฝีเท้าเดินไปยังห้องนอนของตัวเอง

     

    พูดไปก็แปลก วันนี้ยัยแม่มดไม่ยักกะรอหน้าห้องรับแขกเหมือนเดิม สงสัยหลับไปแล้ว แต่ผมก็ไม่ได้เสียเวลานึกถึงให้มากหรอกครับ ไม่มียัยนั่นก็ดีออก ขี้บ่นจุกจิกจู้จี้น่ารำคาญโคตรๆเลยครับ

     

    “ลู่หาน ตรงนั้น” เสียงครางกระเส่าของฮโยรินดังขึ้นและนั่นมันก็ปลุกเร้าอารมณ์ของผมกระพือขึ้นมาด้วยเช่นกัน อันที่จริงผมว่าตัวเองก็เริ่มจะเมากรึ่มๆบ้างแล้วล่ะครับ จริงๆนะ

     

    เสียงครางที่ดังออกมาหน้าห้อง ส่งผลให้อารมณ์ของคนในห้องเตลิดไปถึงไหนไม่รู้ แต่ที่รู้ๆ...มันไม่ใช่กับคนที่อยู่ห้องเดียวกับลู่หานแน่นอน

     

    ก๊อกๆๆๆ

     

    เสียงเคาะประตูที่แม่งโคตรจะรำคาญทำให้ผมที่ไซร้คอสวยที่มีกลิ่นน้ำหอมเซ็กซี่เจือจางอยู่ถึงกับชะงัก แต่ยังไม่ทันที่จะได้ไปเปิด ประตูสีขาวห้องของผมก็เปิดออกมาพร้อมกับร่างบอบบางในชุดนอนแขนยาวขายาวที่แม่งโคตรจะขัดใจผมเลย

     

    “เสียงดัง” เสียงบ่นพึมพำที่ผมคิดว่าน่าจะได้ยินแบบนี้ทำให้ผมยีหัวตัวเอง ใบหน้าที่เหมือนจะยังไม่ตื่นดีพร้อมกับแว่นสี่เหลี่ยมหนาเตอะบังใบหน้าไปเกือบครึ่งของรูมเมททำให้ผมรู้สึกขัดใจแล้วก็อารมณ์เสียสุดๆ

     

    “ออกไป!” ผมไล่เธอพร้อมกับปิดประตูใส่หน้าลงกลอนประตูเรียบร้อย แล้วก็หันไปสนใจกิจกรรมของตัวเองต่อ โดยที่มีเสียงโวยวายเป็นเอฟเฟคประกอบอยู่หน้าห้อง

     

    “หนวกหู!!! ไอลู่หาน! ไอโรคจิต!”

     

                “จะไปเอาก็ไปเอากันที่อื่นดีว่ะ! คนจะหลับจะนอน!”

     

    ยัยแม่มดบ่นจนผมเริ่มที่จะอารมณ์เสียหนัก สุดท้ายแล้วผมก็ผละออกจากผิวสีแทนและให้ฮโยรินกลับไป ถึงแม้ตอนแรกเจ้าหล่อนจะโวยวายขัดใจก็ตาม แต่พอผมส่งสายตาเย็นๆกลับไปให้ก็เป็นอันว่าเคลียร์

     

    “ไง! สวรรค์ชั้นเท่าไหร่” เสียงประชดแดกดันแบบนี้มีอยู่แค่คนเดียวนั่นแหละครับ ยัยจองเจสสิก้าหรือยัยป้าแม่มด กำลังยืนเท้าเอวส่งคิ้วกระตุกยิ้มมาให้ผม

     

    “อยากรู้หรอ” ผมเดินเข้าไปหาพร้อมกับยกยิ้มเจ้าเล่ห์ให้กับคนตัวเล็กในชุดนอนโคตรจะรุ่มร่าม ยัยนั่นรีบหาทางออกด้วยการเดินตรงไปยังประตูห้องนอนที่อยู่ตรงข้ามกับผม

     

    “แค่ถาม”

    “ยังเลย มีหมาที่ไหนไม่รู้มาขัด”

    “ฉันไม่ใช่หมานะ!” เจสสิก้าแผดเสียงดังลั่น และนั่นทำให้ผมยกมือขึ้นปิดหูทันทีตามสัญชาติญาณ

    “อีกอย่าง...ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม” เธอพูดเสียงแผ่ว ไอเรื่องนี้เธอพูดกับผมหลายรอบแล้วครับ เรื่องที่ผมพาผู้หญิงมาที่ห้อง

     

    “แล้วไง ที่นี่ก็ห้องพักฉันเหมือนกัน” ผมตอบออกไปอย่างหน้าตาย และนั่นเหมือนทำให้คนตัวเล็กฉุนขึ้นมา เธอเปิดประตูหน้าห้องออก ขยับแว่นสายตาหนาเตอะประจำตัว

    “แต่มันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน ฉันก็แชร์อยู่กับนายเหมือนกัน!”

    “แล้วเวลาคนมันเอากันมันห้ามครางได้ด้วยหรอวะ!” แล้วผมก็เริ่มจะอารมณ์เสีย ไออาการเมานี่หายเป็นปลิดทิ้งตั้งแต่โดนเคาะประตูเรียกแล้วก็ไอเสียงที่มันแผดแหลมๆอยู่ตอนนี้ด้วย

     

    “หรือเธอทำได้” ผมกระตุกยิ้มขึ้นมาพร้อมกับเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้กับแว่นหนาๆ และนั่นทำให้ยัยแม่มดผงะถอยหลัง ไม่รู้ว่าแสงไฟในห้องหรืออะไรนะ...

     

    เหมือนผมจะเห็นว่าแก้มสีนวลที่มีกระแต่งอยู่บนใบหน้านั่นแดงจางขึ้นมานิดๆ เขิน? อาย? หรือไม่เคย?

     

    แต่ยังไม่ทันที่จะได้ถามคนตัวเล็กในชุดรุ่มร่ามก็เดินเข้าห้องซะก่อน ทิ้งให้ผมยิ้มออกมา สงสัยวิธีนี้จะได้ผล...คราวหน้าเอาไว้แกล้งอีกจะดีกว่า

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

    พูดได้เต็มปากว่านี่คืออินโทร -0-; ยาวเป็นหางว่าว ฮ่าๆ

    มาอัพแล้วนะครัช บอกแล้วว่าฟิคเรื่องนี้เน้นความใสจริงๆ

    รักนักอ่านทุกคนนะครับ ชุ้บ <3

    CRY .q
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×