คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : SL.G&B : 06
SL&GB : 06
เช้าวันเสาร์ที่ใครหลายๆคนต่างรอคอย โดยเฉพาะนักศึกษานักเรียนที่เป็นวันผ่อนคลายสมองหลังจากต้องเจอบทเรียนในช่วงเปิดเทอมไม่นาน ยองแจตอนนี้ลุกขึ้นมารดน้ำต้นไม้ในสวนหย่อมหน้าบ้านตามกิจวัตรปกติในวันหยุด ซึ่งเวลานี้ก็เพิ่งประมาณหกโมงกว่า ใบหน้าน่ารักยู่เล็กน้อยเพราะถูกปลุกตั้งแต่เช้าทั้งที่เป็นแบบนี้ประจำแต่สำหรับ ชเว ยองแจก็ไม่เคยชิน ก็คนมันอยากนอนอ่ะ !
“ยองแจอ่า... มีเพื่อนมาหาน่ะ”
เสียงแหลมๆดังมาจากทางหน้าประตูบ้าน ไม่ใช่ใครที่ใหน ก็แม่เขาเองเนี่ยแหละ ส่วนเขาก็ยืนรถน้ำต้นไม้ตรงข้างบ้านจึงไม่สามารถเห็นได้ว่าใครมาหา
“ครับๆ...”
ยองแจรีบเดินไปปิดน้ำ แล้วเดินออกไปทั้งกางเกงขาสั้นเหนือเขานิดหน่อยพร้อมกับเสื้อยืดย้วยๆ ที่เจ้าตัวมักใส่นอน แล้วตอนนี้ยองแจก็ยังไม่ได้อาบน้ำด้วยซ้ำ แค่ล้างหน้าแปลงฟันอย่างเดียว
“พ่อหนุ่ม...เดี๋ยวกินข้าวเช้าด้วยกันนะลูก”
ยองแจกึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางคนเป็นแม่ที่เชิญให้เพื่อนเขาคนนั้นเข้ามาในบ้าน เมื่อไปถึงก็ต้องชะงัก อ้าปากผะงาบๆ อย่างไม่เชื่อสายตา จนคนเป็นแม่หันมามองแล้วทำหน้างงใส่เขา ส่วนคนตัวสูงก็แค่กระตุกยิ้มมุมปากกลับมาเท่านั้น
“เป็นอะไรยองแจ...พาเพื่อนเข้าไปในบ้านแล้วขึ้นไปอาบน้ำซะ แม่จะไปเตรียมอาหาร”
สิ้นเสียงดุๆนิดๆของคุณแม่ก็เดินหายเข้าไปในบ้านเลย คงจะเข้าไปบอกพ่อของเขาด้วยนั่นแหละ ทิ้งให้คนตัวเล็กกับแขกที่ไม่รู้ว่ามาทำไมอยู่หน้าบ้านมองหน้ากันไปมา
“นายมาได้ไงน่ะ จีมิน?”
ใช่! จีมิน ตอนนี้เจ้าของดวงตาคมตี่ๆยืนอยู่ด้านหน้าเขา ในรั้วบ้านของเขา
“เดินมา”
คำตอบสั้นๆห้วนๆ ไม่ผิดจากที่ยองแจคิดสักเท่าไหร่
“รู้แล้วๆ เข้าบ้านก่อนเถอะ”
ร่างเล็กเดินนำเข้าไปในบ้านขนาดไม่ใหญ่มากนัก ให้คนเป็น ‘เพื่อน’ ทักทายพ่อเขาสักหน่อย ก่อนจะพากันเดินขึ้นไปบนห้องนอนของเขา เพราะต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า จะปล่อยคนที่เดินตามหลังมาไว้ข้างหลังก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะคนเงียบๆแบบนี้ถ้าปล่อยไว้ คงไม่มีใครรู้อ่ะ ว่านั่งอยู่ใหน
“นายนั่งรอไปก่อนนะ ฉันขออาบน้ำก่อน”
ยองแจถือผ้าขนหนูสีเหลืองอ่อนพาดไหล่แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ บอกสั่งร่างสูงให้นั่งรอ จีมินนั่งลงที่ปลายเตียง สายตาคมกวาดมองสำรวจทั่วห้อง ซึ่งก็ไม่ได้ต่างจากห้องนักเรียนชายทั่วไป ไม่ค่อยมีระเบียบ แต่ก็ไม่ได้ดูสกปรก บนโต๊ะเขียนหนังสือข้างหัวเตียง ค่อนข้างรกเป็นพิเศษเพราะมันเต็มไปด้วยการบ้านและโน้ตเพลงของเจ้าของห้อง มีรูปครอบครัวพ่อแม่ลูก และรูปเดี่ยวๆที่ยองแจกำลังส่งยิ้มกว้างจนตาที่ตี่อยู่แล้วหยีลงอย่างน่ารัก ชูสองนิ้วเหมือนเด็กๆแต่ก็ทำให้คนมองหลุดยิ้มออกมาบางๆ
แกรก...
“ทำอะไรอยู่หรอ...”
เสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้น ส่งผลให้จีมินต้องวางรูปนั้นลงพร้อมกับเสียงใสๆที่ทักเขา จีมินส่ายหัวนิดๆก่อนจะหันไปหาเจ้าของเสียงทัก แต่ก็ต้องชะงักเมื่อสายตาโฟกัสเข้าที่แผ่นหลังบาง ขาวนวลของยองแจที่ดันพันผ้าขนหนูผืนเดียวออกมานอกห้องน้ำ ไม่ระวังตัวเลย แล้วแบบนี้จะทำยังไง...
“ทำไมออกมาแบบนี้”
จีมินเอ่ยถามออกไปเรียบๆ พลางเสมองไปทางอื่นเหมือนไม่ได้คิดอะไร ยองแจก็หันมามองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะหันไปใส่เสื้อผ้าต่อ
“ก็ฉันทำแบบนี้ประจำนี่...”
ยองแจบอกอย่างไม่ใส่ใจ ส่วนอีกหนึ่งคนในห้องก็ได้แต่ผ่อนลมหายใจเบาๆ ก็บอกไปแล้วว่าชอบ ยังมาอ่อยแบบไม่รู้ตัวอีก...
“นายมันซื่อบื้อ...”
“นายว่าอะไรนะ...ฉันฟังไม่ชัด”
“ป่าว...”
“เออนี่ แล้วนายมาหาฉันมาทำไมหรอ?”
“มาไม่ได้?” จีมินถามเรียบๆแล้วเดินมานั่งข้างๆยองแจที่นั่งลงที่ปลายเตียงก่อนแล้ว เพื่อทาครีมสารพัดบำรุงผิว ที่คุณแม่คนสวยของเขาสรรหามาให้เพราะเกรงว่าผิวของลูกชายเพียงคนเดียวจะไม่ดูดีเหมือนแม่ คือ...แม่ครับ ยองแจเป็นผู้ชาย
“ไม่ใช่ว่ามาไม่ได้ แค่อยากรู้ว่านายมาทำอะไร?” ยองแจถาม แล้วก้มหน้าก้มตาทาครีมเนื้อนิ่มลงบนขาเรียว โดยไม่ได้สนใจจีมินที่ก็กำลังทาแขนให้เขา จะได้เสร็จเร็วๆ
“มาจีบ...” เสียงทุ้มตอบกลับไป จนอีกคนชะงัก ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาทำตาโตใส่ ถึงแม้มันจะไม่ได้ต่างจากเดิมนัก
“เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ!!” ยองแจเอ่ยถามเสียงดัง จีมินส่ายหัวช้าๆอย่างเอือมกับนิสัยซื่อๆนี่ แต่ริมฝีปากหยักกลับมีรอยยิ้มเอ็นดูประดับอยู่นิดๆ
“ไปเถอะ ...เดี๋ยวก็รู้เอง” จีมินลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ยองแจนั่งมองตามตาปริบๆ แก้มอวบขึ้นสีระเรื่ออย่างไม่รู้ตัว ไม่ใช่ว่าไม่ได้ยิน แต่แค่อยากได้ยินชัดกว่านี้ เผื่อเข้าใจผิด
“ลงมาพอดีเลย แม่จัดโต๊ะเสร็จพอดี มากินข้าวกันเร็วลูก”
เสียงคุณแม่ครอบครัวชเวเอ่ยทักอย่างใจดี เมื่อเห็นเพื่อนลูกชายตนเองเดินลงข้างล่าง ก่อนจะตามด้วยยองแจที่วิ่งดุ๊กๆตามหลังมา
“อย่าวิ่ง...” จีมินบอกเรียบๆ แต่ก็สามารถทำให้ยองแจยอมหยุดวิ่งได้ แล้วเดินตามลงมาต้อยๆ
“จีมินนี่...ทำยังไงเนี่ย ถึงทำให้เจ้ายองแจมันหยุดวิ่งได้ ปกติแม่ทั้งว่าทั้งหยิกยังไม่ฟังเลย” คุณแม่บอกเสียงกลั้วหัวเราะ พลางตักข้าวใส่จานทั้งสี่ใบ
“นั่นสิ ฝากสอนมันด้วยละกันนะจีมิน” คุณพ่อบอกยิ้มใจดีก่อนจะเริ่มรับประทานอาหารเช้ากัน โดยบทสนทนาครั้งนี้เป็นการเอาเรื่องของลูกชายมาเล่าให้จีมินฟัง จีมินเองก็ยิ้มบางๆตลอดเวลาที่ได้ฟังเรื่องของยองแจ มีบ้างที่หลุดขำออกมาเมื่อเจอคุณพ่ออารมณ์ดีเล่าถึงยองแจโดยมีมุกคลายเครียดด้วย ส่วนหัวข้อสนทนาก็ได้แต่ทำหน้าบึ้งตึงอย่างรู้สึกอาย เพราะแต่ละเรื่องที่พ่อแม่เขาเล่าไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง อาทิ น้ำไม่อาบบ้างล่ะ นอนตายเป็นรากเน่าบ้างล่ะ ปลุกยากบ้างล่ะ ได้ยินเสียงฟ้าร้องเขาก็ร้องไห้ตามบ้างล่ะ แถมแต่ละอย่างยังทำท่าทางประกอบอีกต่างหาก ทำเอาจีมินผู้ชายเย็นชายังหลุดขำ ซึ่งมันทำให้ยองแจใจเต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล รู้แค่ว่า เวลาจีมินยิ้มแล้วมันน่าอยู่ใกล้มากที่สุดเล
หลังจากมื้อเช้าผ่านไป คุณแม่ของยองแจก็เดินตัวลอยละลิ่วเข้าสมาคมคนรักรักงามกับเพื่อนๆไปแล้วเรียบร้อย ส่วนคุณพ่ออารมณ์ดีก็ไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน จะมีก็แต่วันอาทิตย์ที่ครอบครัวนี้ไม่มีนัดไปใหน ยองแจกับจีมินนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องนั่งเล่น จะว่าคุยกันก็คงไม่ได้เหมือนยองแจคุยคนเดียวเสียมากกว่า เพราะบางคำถามคนข้างๆก็ไม่ยอมตอบเขา
“ไปร้านกาแฟกัน...”
จีมินเอ่ยชวนคนที่นั่งดูการ์ตูนอยู่ข้างล่างโซฟาไปข้างนอก ยองแจจึงละสายตาจากการ์ตูนเงยหน้าขึ้นมามองคนที่อยู่เหนือกว่า
“คิดอะไรอยู่อ่ะ ถึงชวนไปร้านกาแฟ”
“ร้านเพื่อน...จะไปไหม?” จีมินถามซ้ำอีกครั้ง ยองแจก็พยักหน้ารับเพราะไม่รู้ว่าอยู่ต่อที่บ้านแล้วจะให้ทำอะไร ออกไปข้างนอกก็คงจะดีกว่า
“นี่ๆ ฉันมีจักรยาน เอาไปไหม?”
ยองแจถามอย่างไม่แน่ใจนัก เพราะเขาก็ไม่รู้ว่าร้านมันอยู่ใหน จีมินพยักหน้านิดๆก่อนจะเดินไปเอาจักรยานที่พิงอยู่ในโรงรถ
“ขึ้นมาสิ” จีมินบอก ก่อนที่จะค่อยๆถีบไปตามซอยต่างๆมุ่งหน้าไปยังร้านกาแฟของยุนกิ มันปกติอยู่แล้วที่เวลาวันหยุด ถ้าพวกเขาว่างจนไม่รู้จะทำอะไร จะไปช่วยเพื่อนตัวขาวที่ร้าน จะได้หมดๆหนี้กับคิม จินวูเสียที
ไม่นานนักทั้งคู่ก็มาถึงร้านกาแฟน่ารักๆที่บรรยากาศร่มรื่นน่านั่ง เสียงกระดิ่งหน้าร้านดังขึ้นเมื่อมีลูกค้าเข้ามา
กริ๊งๆ...
“ยินดีต้อนรับครับ....”
เสียงสดใสขี้เล่นดังขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนเข้ามาในร้าน ทั้งที่ยังไม่ได้หันไปมอง ยองแจที่เงยหนามองเจ้าของน้ำเสียงอย่างสงสัย เพราะมันค่อนข้างคุ้นพอตัว แต่รอไม่เกินหนึ่งนาที เจ้าของเสียงก็หันกลับมาทางเขาพ้อมรอยยิ้มกว้างอย่างเป็นมิตร ก่อนที่เจ้าของรอยยิ้มจะทำตาโตเมื่อเจอกับเพท่อตนเอง อีกคนก็เช่นกัน
“ยองแจ!”
“เจโฮป!”
ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างอึ้งๆเพราะไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ ยุนกิที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ที่กำลังก้มเก็บของก็ค่อยๆยืนขึ้นเต็มความสูง มองคนสองคนที่เป็นเพื่อนกันอย่างไม่เข้าใจ ว่าแค่เจอกันจะตกใจอะไรมากมาย
“นายมาทำอะไรที่นี่อ่ะ”
ยองแจเป็นฝ่ายเอ่ยทักก่อน พลางสำรวจเพื่อนตนเองที่มีผ้ากันเปื้อนคลุมอยู่ด้านหน้า เป็นพนักงานในร้านกาแฟนี้ชัวร์ แล้วเจ้าของร้านก็คงเป็น.... ยุนกิ
“ฉันมาช่วยยุนกิน่ะ แล้วทำไมนายถึงมากับ เอ่อ...” เจโฮปตอบพลางถามถึงจีมินที่มากับเพื่อนเขา
“เอ่อ...หมอนี้ไปบ้านฉันอ่ะ แล้วไม่มีคนอยู่บ้าน จีมินเลยชวนฉันออกมาที่นี่อ่ะ” ยองแจเหลือบมองไปทางจีมินที่สวมผ้ากันเปื้อนแล้ว ในมือก็มีอีกผืน คาดว่าคงเป็นของเป็นแน่ล่
“เอาไปใส่”
จีมินวางผ้ากันเปื้อนไว้บนหัวกลมๆของยองแจ เป็นเชิงบอกให้รีบรับๆไปใส่ซะ คนตัวเล็กกว่าก็พยักหน้ารับอย่างเลี่ยงไม่ได้ แม้จะยังทำหน้าตามึนๆอยู่ก็ตาม
“เดี๋ยวนายมาช่วยฉันต้อนรับลูกค้าแล้วก็เสิร์ฟนะแตง” เจโฮปบอกพลางเดินไปเก็บแก้วกาแฟของโต๊ะที่ลุกออกไปแล้ว ส่วนยุนกิลีมินก็ทำงานอยู่หลังเคาน์เตอร์แทน ปกติร้านกาแฟของบ้านยุนกิคนก็ค่อนข้างแน่นพอสมควร มีลูกค้ามาตลอดๆ โดยมีคุณแม่ของยุนกิเป็นคนทำเค้กรสเริด อยู่ด้านหลังร้านและเรื่องชงกาแฟก็มีบาริสต้าอยู่ 1 คน และเด็กเสิร์ฟอีก 2 คน ซึ่งเด็กเสิร์ฟจะจ้างเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ เพราะในวันเสาร์-อาทิตย์ ยุนกิจะอยู่ช่วยที่ร้าน ถือเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย และดูเหมือนตั้งแต่ที่เจโฮปพายุนกิไปซื้อวัตถุดิบสำหรับทำเค้กอย่างเร่งด่วนครั้งนั้น ทำให้เจโฮปกลายมาเป็นเด็กเสิร์ฟของร้านยุนกิไปโดยปริยาย เจ้าตัวขออาสามาช่วยโดยขอค่าแรงเป็นการมาเทียวรับเทียวส่งและกับข้าวฝีมือคุณแม่ ใบหน้าหล่อเหลากับรอยยิ้มจริงใจ ความขี้เล่นของเจโฮปทำให้กลายเป็นที่รักใคร่ของคุณแม่จนยุนกิอดที่จะหมั้นไส้ไม่ได้
บรรยากาศในร้านดูจะคึกคักมากกว่าเดิมเมื่อมียองแจเจ้าของรอยยิ้มสดใสมาช่วยต้อนรับและเสิร์ฟ โปรยเสน่ห์ไปพร้อมๆกับเจโฮป ดูเหมือนคนตัวเล็กจะชอบมากๆกับการได้มาทำงานบริการแบบนี้ เพราะปกติที่ร้านที่ยองแจทำอยู่ เจ้าตัวก็ทำแค่ร้องเพลงดนตรีอยู่ภายในร้าน จีมินที่ปกติมักจะเงียบและไม่มีรอยยิ้มอยู่บนหน้า แต่วันนี้ใบหน้าคมกลับมีรอยยิ้มบางเบาประดับอยู่ สาเหตุก็มาจากเสียงหัวเราะใสๆที่ดังคิกคักอยู่ตรงบริเวณที่พักพนักงานเมื่อยังไม่มีลูกค้าที่ต้องอะไรเพิ่มเติม
“ยิ้มบ่อยนะจีมิน หึหึ”
ยุนกิที่สังเกตอาการของเพื่อนตัวเองมาได้สักพักพูดขึ้นอย่างรู้ทัน เขาไม่รู้หรอกว่าสองคนนี้ไปรู้จักกันตอนใหน แต่ก็ทำให้คนยิ้มยาก ไม่ต่างจากนัมจุนยิ้มออกมาแบบนี้ แสดงว่ายองแจมีอิทธิพลต่อเพื่อนเขาพอสมควร
“แล้วนายล่ะ...”
จีมินไม่ตอบแต่สวนคำถามกลับไปแทน ยุนกิก็ได้แต่หันหน้านี้แล้วลอบมองเจโฮปที่ยืนแกล้งยองแจอยู่บริเวณเดิม จีมินเองก็หันไปมองยองแจด้วยความรู้สึกที่เริ่มเต็มเปรี่ยมขึ้นเรื่อยๆ
...................................Loading
ยอมรับผิด : ขอโทษนะคะที่หายไปนานขนาดนี้ เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ของก่อนหน้านีคือ เจยังไม่ได้เซฟตอนที่จะลง แล้วคอมดับทำให้งานหายไปเลย #ร้องไห้หนักมาก แล้วอาทิตย์ต่อมาคือก่อนหน้านี้เน็ตหมดค่ะ เจเลยไม่ได้มาอัพ แล้วอาทิตย์นี้ก็ได้ฤกษ์ดีแล้วที่เจจะมาอัพสักที แห่.... เจจะได้อยู่บ้านจริงๆแบบไม่ไปใหนลยแค่วันอาทิตย์นะคะ เพราะเจมีเรียนพิเศษด้วย อาจจะมาอาทิตย์หนึ่งมาอัพทีนะคะ กราบขอโทษงามๆเลย แต่เจว่างแค่นี้จริงๆ
ความคิดเห็น