ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic EXO x SNSD] ...."Operation Evil Nightmare"....

    ลำดับตอนที่ #14 : C H A P T E R 12 : Unexpected (100 %)

    • อัปเดตล่าสุด 1 ต.ค. 55


     

     

     

    C H A P T E R  12 : Unexpected

     

     

     

     

     

                    “ฆ่าทิ้งให้หมด”สิ้นเสียงปลายกระบอกปืนยาวจ่อเข้าที่หัวของลู่หานและทิฟฟานี่ก่อนจะเตรียมเหนี่ยวไกยิง

    “อะไรนะ!! ไหนคุณบอกว่าจะปล่อยพวกเขาไป!!

    “ใช่ แต่ปล่อยหลังจากที่จัดการเสร็จเรียบร้อยแล้ว”

    “ไม่นะ!!! พี่ทิฟ! พี่ลู่หาน!!”ซันนี่พยายามวิ่งเข้าไปหาทั้งสองแต่ก็ถูกเวกเตอร์กระชากกลับมาแล้วจัดการล็อคตัวเอาไว้

     

     

     

     

     

    ทางด้านบนตึกที่อยู่ไม่ไกลนัก ลำกล้องยาวของ BS Sniper 0103 เล็งไปยังเป้าหมายทหารชุดดำที่ถือปืนจ่อลู่หานเอาไว้ คยองซูหายใจเข้าลึกๆเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับตนเอง เกิดมาชีวิตนี้เขายังไม่เคยยิงปืนซักครั้ง ตากลมเล็งไปยังเป้าหมายอย่างใช้สมาธิ

    “ฉันเชื่อว่านายทำได้ คยองซู”ไคให้กำลังใจเพื่อนสนิทห่างๆ ยังไงเขาก็เชื่อว่าคยองซูสามารถยิงได้แม้ว่าจะไม่เคยยิงมาก่อนเลยก็ตาม

    “ฟู่ววววว นิ่งไว้ๆ”คยองซูรวบรวมสมาธิอย่างแน่วแน่ พร้อมกับกดเหนี่ยวไกปืนอย่างไม่รีรอ

     

     

     

     

     

     

    ปัง!!!!!!

     

     

     

     

     

     

     

    “ระวัง!!”สเปคเตอร์ตะโกนเตือนเบลท์เวย์ กระสุนปืนนัดใหญ่ยิงผ่านเบลท์เวย์ที่หลบได้ทันไปอย่างเฉียดฉิว  เดลต้าทีมยิงสวนกลับไปยังตึกนั้น ทำเอาคยองซูกับไคก้มหลบแทบไม่ทัน

     

     

     

     

     

     

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!

     

     

     

     

     

     

    ทิฟฟานี่อาศัยจังหวะช่วงที่เดลต้าทีมกำลังระดมยิงใส่ตึกนั้น เธอรู้ทันทีว่าเป็นคยองซูและไค ขาเรียวกวาดเตะเบอร์ต้าจนล้มลงไป พร้อมกับกลิ้งตัว หยิบปืนพกออกมาจากด้านหลัง จ่อที่ขมับของหัวหน้าทีม USS

    “ปล่อยตัวซันนี่ซะ!!”ทิฟฟานี่สั่งเสียงเข้ม เธอไม่มีความเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะมีปืนอีกห้ากระบอกจ่อมาที่เธอและพร้อมจะเหนี่ยวไกได้ทุกเมื่อ

    “ได้”

    “ซันนี่ มานี่เร็ว!”เด็กสาวรีบวิ่งมาหลบหลังตำรวจสาวที่ยังคงจ่อปืนไว้อยู่

    “แล้วก็ปล่อยตัวลู่หานด้วย”

    “ได้ อยากได้ก็เอาไปเลย”ตอบตกลงง่ายดายจนทิฟฟานี่เองรู้สึกแปลกใจ ร่างบางค่อยๆเดินถอยหลังออกมาพร้อมกับลู่หานและทิฟฟานี่ขณะที่ยังถือปืนจ่อไว้อยู่

     

     

     

    “ไปกัน......”เมื่อทิฟฟานี่หันหน้ามา ยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยค ปืนพกขนาดเล็กก็ถูกจ่อเข้าที่เธออีกเช่นกัน ดวงตากลมมองคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ รวมทั้งซันนี่ด้วยเช่นกัน

    “เราจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”สีหน้าที่ว่างเปล่าทำให้ทิฟฟานี่ไม่มั่นใจว่าคนตรงหน้าคิดยังไงอยู่กันแน่

    “นี่มันอะไรกัน ลู่หาน?”

     

     

     

     

     

     

     

     

     





     

     

     

     

     

     

    ภารกิจของฉันกับเดลต้าทีม

     

     

     

     

     

     

     

     

     
     

     

    !!!!!”หญิงสาวแทบไม่เชื่อสิ่งที่ตัวเองได้ยิน เธอคาดไม่ถึงจริงๆว่าลู่หานจะเป็นสายของทหารชุดดำพวกนี้ แล้วที่ปกป้องพวกเธอล่ะ? เพื่ออะไรกัน?

    “หึ ตกใจล่ะสิ”เบอร์ต้าเค้นหัวเราะออกมาน้อยๆ ดูจากสีหน้าของซันนี่และทิฟฟานี่ คงจะตกใจกันมากเลยสินะ

    “เวกเตอร์ เบลท์เวย์ จับตัวเด็กอีกสองคนนั้นที่อยู่บนตึกมา โฟร์อายส์ตรวจสอบทีว่าใช่ A-virus หรือเปล่า”ไกสท์ที่ยืนอยู่ด้านหลังสั่งการลูกทีมก่อนจะพาตัวเองเดินมายืนอยู่ข้างๆลู่หาน

    “ที่ผ่านมาพี่โกหกพวกเราเหรอ? พี่ลู่หาน!”ร่างเล็กของซันนี่สั่นไปตามแรงโกรธ ความน้อยใจ ความผิดหวัง ผสมปนเปกันไปหมด ดวงตากลมระรื้นไปด้วยม่านน้ำตา

    “ใช่ พี่แสดงเก่งใช่มั้ย?”ลู่หานแสยะยิ้มออก ในสายตาของทิฟฟานี่นั้นมันช่างเป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจที่สุดในโลก!

    “แสดงเก่งมากเลยล่ะ คนสารเลว!”เสียงหวานตะคอกใส่หน้าของร่างสูงเข้าอย่างจัง

    “พวกแกทุกคนด้วย! พวกสารเลว ฆ่าคนบริสุทธิ์! พวกนั้นให้เงินพวกแกเท่าไหร่ล่ะ มากขนาดนั้นเชียวเหรอ?!”ทิฟฟานี่ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างเหลืออด ให้ตายสิ! นี่โชคชะตาไม่ใช่แค่เล่นตลก แต่เป็นตลกที่ร้ายกาจมากๆเลยล่ะ!

    “ขอบคุณที่ชมฉัน”ลู่หานพยักหน้าขอบคุณอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะ....

     

     

     

     

     

     

    ปัง!!!!

     

     

     

     

     

     

    “พี่ทิฟฟานี่!!”ซันนี่ก้มลงไปดูตำรวจสาวด้วยความตกใจ เลือดสดค่อยๆไหลออกมาจากสีข้างของทิฟฟานี่ ใบหน้าหวานเหยเกด้วยความเจ็บปวด

    “เลิกดราม่ากันซะที รีบจัดการให้จบๆเถอะ เวธ เราเสียเวลามากพอแล้ว เวกเตอร์ได้ตัวเด็กสองคนนั้นหรือยัง?”ไกสท์พูดกับลู่หานก่อนสลับไปติดต่อกับเวกเตอร์ทางเครื่องสื่อสารที่หู

    “ได้ตัวแล้ว”

    คยองซูและไคค่อยเดินออกมาจากตึกโดยมีปืนจ่ออยู่ด้านหลังให้เดินไป ใบหน้าคมมีรอยฟกช้ำคล้ายกับมีร่องรอยของการต่อสู้ ทันทีที่คยองซูเห็นทิฟฟานี่นอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นพร้อมด้วยซันนี่ที่กำลังร้องไห้ เขาก็วิ่งเข้าไปอย่างไม่สนใจว่าจะโดนยิงทิ้งหรือไม่ก็ตาม

    “นี่มันอะไรกัน? พี่ลู่หาน?”

    “ฉันอธิบายไปแล้ว ขี้เกียจอธิบายอีก นายฉลาดน่าจะรู้”

    “ลู่หาน! แก!! ไอ้สารเลว!!”ไคทำท่าจะวิ่งเข้าชกลู่หานกลับถูกเวกเตอร์เตะจนจุกลงไปนอนกับพื้น

     

     

     

    “ไกสท์ เฮลิคอปเตอร์มาแล้ว”สเปคเตอร์เดินเข้าไปบอกไกสท์ ร่างบางเงยหน้ามองบนฟ้า เฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่กำลังมุ่งมาทางเดลต้าทีม ตามพิกัดตำแหน่ง

    “ความจริง ตอนแรกก็กะว่าจะฆ่าเธอทิ้งตั้งแต่ตอนที่เราเจอกันครั้งแรกแล้วล่ะ แต่ฉันคิดว่าเธอน่าจะเป็นเครื่องมือของฉันในการค้นหาเด็กคนนั้น ซึ่งมันก็จริง ฉันต้องขอบใจเธอจริงๆ เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนพิเศษฮวังมิยอง”

    “ฉัน...ไม่รับคำ..ขอบคุณจาก...แกหรอก”ทิฟฟานี่เค้นคำพูดออกมาอย่างยากลำบาก ความเจ็บปวดที่สีข้าง มันทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะ....ตาย

    “ไม่ได้ขออยู่แล้วนี่”

     

     

     

     

    ฟึบ!ๆๆๆ

     

     

     

     

    เสียงเครื่องบิน C-130 เฮอร์คิวลิสค่อยๆลงจอดที่บริเวณสะพานกว้าง

    “เวธ ไปเถอะ เราต้องไปกันแล้ว”ลู่หานพยักหน้าก่อนจะเดินตามไกสท์ไป เบอร์ต้าเดินเข้าไปดึงซันนี่ออกมา ขณะที่เด็กสาวพยายามขืนตัวออกมา

    “ไม่!! ไค! ช่วยฉันด้วยด้วย”มือหนายื่นออกไปหมายจะดึงฉุดเพื่อนรักเอาไว้ ก็ต้องชะงักเมื่อเบอร์ต้าชักปืนออกมาจ่อ

    “อยากโดนเป่าสมองหรือไง เจ้าเด็กเมื่อวานซืน”

    “ไม่!! ปล่อยนะ! ปล่อย!! พี่ทิฟฟานี่!!”ใบหน้ากลมเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา มือบางพยายามจับมือของพี่สาวอีกคนเอาไว้ แต่มันกลับค่อยๆลื่นออกจากกัน

    “ซันนี่...ไม่”ทิฟฟานี่ไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัว ทำได้เพียงแค่ยื่นมือออกไปหา น้องสาวตัวเล็กเท่านั้น

     

     

    “อย่าดิ้นให้มากนักน่ะ!”เบอร์ต้าจัดการจี้จุดจนซันนี่ไม่สามารถขยับตัวได้ ก่อนจะแบกตัวเด็กสาวเดินไปยังเครื่องบินที่จอดรออยู่

    “โฟร์อายส์ ยิงฟีโรโมนได้เลย”ทันทีที่เครื่องขึ้น ลู่หานหรือเวธจึงสั่งให้นักวิทยาศาสตร์ของทีมยิงฟีโรโมนไปยังสามคนด้านล่างทันที

    “ขอให้สนุกนะ หึ”

     

     

     

     

    ปุก....ฟี้....

     

     

     

     

    “นี่มัน...ฟีโรโมน!”ทันทีที่แท่งหลอดสีแดงตกลงบนพื้น ควันสีแดงๆก็พวยพุ่งออกมารอบๆดึงดูดซอมบี้เข้ามา

    “ไค! อุ้มพี่ทิฟฟานี่ที! เราต้องรีบหนีแล้ว!”ไคที่พึ่งหายจากอาการจุกจี๊ดที่ท้อง รีบอุ้มทิฟฟานี่ขึ้นในท่าเจ้าหญิงทันที เพื่อไม่ให้บาดแผลฉีก หญิงสาวหน้าซีดเผือก มือบางกดปากแผลเอาไว้เพราะเลือดยังคงไหลออกมาไม่หยุด

    “โอออออออออ!!!”บรรดาซอมบี้เริ่มกรูกันเข้ามา จนทำให้ไคและคยองซูต้องเร่งสปีดมากกว่าเดิม

    “พวกมันจะวิ่งเข้าหาฟีโรโมนก่อน เรามีเวลาอีกประมาณ 1 นาที รีบวิ่งเร็วเข้า ไค”

     

     

     

    ตึก ตึก ตึก

     

     

     

     

    “ฮึ้บ! แม่งขวางทาง”ไคใช้ขาถีบซอมบี้ด้านหน้าที่เดินกะเผลกๆเข้ามาหาเขา จนล้มลงไป

    “เร็วเข้า ฟีโรโมนหมดแล้ว วิ่งไปทางนั้น!”เมื่อสารฟีโรโมนหยุดลง ฝูงซอมบี้จึงเปลี่ยนเป้าหมายพุ่งตรงมายังทั้งสอง

    “เอาก็เอาฟะ!!”คยองซูหยิบปืนออกมาจากกระเป๋าเป้ด้านหลังพร้อมกับหันหลังกลับไปรัวปืนใส่บรรดาซอมบี้ที่วิ่งตาม ร่างเล็กเขย่าตามแรงปืนน้อยๆ

     

     

     

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!

     

     

     

     

     

    “โว้ว! เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ไคเหลือบหันไปมอง ซอมบี้หลายตัวล้มลงไปกับพื้น

    “รู้แล้วน่า ต้องยิงที่ส่วนซีรีบรัมส่วนที่ควบคุมการเคลื่อนไหว”

    “-*- เราอย่าพูดเรื่องชีวะกันเลยนะ นายก็รู้ว่าทักษะด้านนี้ฉันต้อยต่ำมาก”

    “พูดมากน่ะ รีบวิ่งเร็วเข้า”คยองซูพูดตัดบทก่อนจะหันกลับไปยิงใส่ ตอนนี้เขาเริ่มชินกับปืนแล้ว ความจริงไม่ก็ไม่ได้ยากอะไรเลย

     

     

     

    ปังๆๆๆๆๆๆๆ!!!

     

     

     

     

    “เราจะไม่ปล่อยให้พวกนั้นรอด นักบิน 1 ปล่อยมิสไซน์ได้เลย”ลู่หานหรือเวธพูดผ่านเครื่องสื่อสารที่หู ขณะที่สายตาแข็งกร้าวนั้นมองไปยังบุคคลทั้งสามที่กำลังวิ่งหนีเอาตัวรอดอยู่

    “รับทราบ ปล่อยจรวดมิสไซน์”นักบินประจำเครื่องเปิดปุ่มสีแดงพร้อมกับเล็งไปทั้งสามและกดยิง

    “ม่ายยยยยยย!!!”ซันนี่ตะโกนทั้งน้ำตา เธอรู้สึกโกรธตัวเองที่ไม่สามารถช่วยอะไรคนอื่นได้เลย

     

     

     

     

    ฟิ้วววววว!

     

     

     

     

    “คยองซูหลบ!!!

     

     

     

     

     

     

    ตู้มมมมมมมม!!!

     

     

     

     

    แรงระเบิดกระจายออกเป็นวงกว้าง พวกซอมบี้กระเด็นกันไปคนละทิศคนละทาง ไคลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ภาพข้างหน้าพร่ามัวไปหมด เขาเห็นคยองซูและพี่ทิฟฟานี่นอนสลบอยู่ไม่ไกล ก่อนที่โลกทั้งโลกจะดับวูบลง.....

     

     

     

    USS Command.Mission Clear!”ไกสท์รายงานผลภารกิจไปยังศูนย์บัญชาการ ดวงตากลมโตมองไปยังกลุ่มควันไฟที่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

    “คุณทำได้ดีมาก แล้วเวธล่ะ?”

    “ผมอยู่กับเดลต้าทีมแล้ว ลู่หาน หัวหน้า Alpha Team รหัส Wraith รายงานตัว

     

     

     

     

    “ความตายเป็นเพียงจุดเริ่มต้น”

    Luhan [U.S.S Alpha Leader]

    Codename : Wraith/Mr. Dead  เวธเป็นหัวหน้าหน่วย Alpha Team กองกำลังรักษาความปลอดภัยของ United Experiment กลุ่มแรกก่อนที่จะมีเดลต้าทีม เวธมีประสบการณ์การทำงานในด้านนี้มาอย่างยาวนาน ทักษะการต่อสู้ของเขานั้นถูกยกย่องให้ว่าเป็นทหารเอกที่เก่งที่สุดองค์กร ทักษะการเอาตัวรอด ทักษะการหลอกให้ศัตรูตายใจและอีกหลายทักษะ เวธเป็นครูฝึกของเวกเตอร์ด้วยความที่ทั้งสองมีลักษณะนิสัยที่คล้ายกัน การต่อสู้ที่เฉียบขาดเหมือนกัน พวกเขาจึงเหมือนพี่น้องที่คลานตามกันมา Mr. dead เป็นอีกฉายาหนึ่งของเขาที่เหล่าทหารในองค์กรตั้งให้ เนื่องจากวีรกรรมของเขา เขาเป็นเหมือนคนที่ไม่มีวันตาย ทุกภารกิจที่เสี่ยงตายสุดท้ายจะเหลือเขาอยู่เพียงคนเดียวที่รอด นั่นจึงเป็นที่มาของ “Mr. Dead

    **ประวัติของเวธไม่ปรากฏในที่ใดๆ เขาเป็นบุคคลปริศนา**

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “อืมมม...”ดวงตากลมค่อยลืมขึ้น แสงสว่างลอดผ่านม่านบางๆออกมาจนต้องกระพริบตาถี่ๆ หญิงสาวมองไปรอบๆห้องก่อนจะยันตัวขึ้นมา แต่ทว่าความเจ็บที่สีข้างแล่นจี๊ดขึ้นมาจนต้องนอนลงไปเหมือนเดิม

    “โอ๊ย...บ้าจริง”ทิฟฟานี่เลิกชายเสื้อขึ้น ผ้าปิดแผลมีเลือดซึมออกมาน้อยๆ ใครทำแผลให้เธอกัน?

    “อ้าว ตื่นแล้วเหรอคะ อย่าพึ่งขยับนะคะ เดี๋ยวแผลจะฉีกเอา”หญิงสาวเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถาดอาหาร ใบหน้าสวยแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มที่แสนอ่อนโยน

    “คุณเป็นใคร?”

    “ฉันชื่อ ซอจูฮยอน เรียกซอฮยอนก็ได้นะคะ ฉันเป็นหมอที่ทำแผลให้คุณค่ะ”ซอฮยอนส่งยิ้มบางๆให้ตำรวจสาวบนเตียงพร้อมกับวางถาดอาหารที่มีข้าวต้มกลิ่นหอมลอยฟุ้งข้างๆโต๊ะ

    “ขอบคุณนะคะที่ช่วยทำแผลให้”ไม่รู้เป็นอะไรแต่ช่วงนี้เธอไม่รู้ไม่ดีกับคำว่าหมอเอามากๆ

    “กินข้าวต้มก่อนนะคะ แล้วค่อยกินยา ให้ฉันช่วยป้อนมั้ยคะ?”

    “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

    “ค่ะ งั้นฉันขอตัวนะคะ”ซอฮยอนส่งยิ้มบางๆให้ทิฟฟานี่อีกครั้งก่อนจะเดินออกจากห้องไป

    “เฮ้อ...”ทิฟฟานี่ถอนหายใจเบาๆ ใบหน้าเรียวเหลือบมองข้าวต้มอยู่สักพักแล้วจึงหยิบขึ้นมากินจนพร่องลงไปเกือบหมดถ้วย นานแล้วที่เธอไม่ได้กินอาหารอร่อยๆแบบนี้ ตั้งแต่วันที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

    มือบางหยิบยาในถ้วยเล็กมากินก่อนจะค่อยๆพยุงร่างของตัวเองขึ้นมาแล้วเดินไปยังหน้าต่าง ทิฟฟานี่มองไปรอบๆ ที่นี่ดูเหมือนจะเป็นที่ที่ปลอดภัยดูจากความสูงแล้วคงจะอยู่บนภูเขาเพราะเธอมองเห็นสภาพเมืองโซลอย่างชัดเจน

     

     

     

     

     

    ก๊อก ก๊อก ก๊อก

     

     

     

     

    “เข้ามาเลยค่ะ อ้าว คยองซู ไค”เด็กชายนกฮูก(?)กับเด็กชายไก่(?)เปิดประตูห้องเข้ามา ในมือถือขนมอยู่ในถาดมากมาย

    “พวกนาย ไปโดนอะไรกันมา”สภาพของทั้งสองทำเอาทิฟฟานี่อดเป็นห่วงไม่ได้ รอยฟกช้ำและรอยแผลตามตัวตามใบหน้าเต็มไปหมด

    “อ่อ เจอน้องมิสไซน์ถล่มน่ะครับ ฮ่ะๆ”

    “พวกนั้น...ใช่มั้ย?”คิ้วเรียวขมวดกันจนเป็นปม นึกถึงบุคคลคนนั้นแล้ว พาลทำให้เธออยากจะตามไปฆ่าให้รู้แล้วรู้รอด

    คยองซูและไคพยักหน้ารัวๆก่อนจะยัดขนมคำโตเข้าปากไป

    “แล้วที่นี่ที่ไหน?”

    “ที่นี่คือเซฟเฮาส์ อยู่บนภูเขาอินวาง เราปลอดภัยครับ พวกเขาช่วยเราไว้”คยองซูพูด

    “หมายความว่าที่นี่ไม่ได้มีแค่คุณหมอคนนั้นเหรอ?”

    “ใช่ครับ มีผู้รอดชีวิตหลายคนเลย เดี๋ยวผมจะพาพี่ออกไปดูนะครับ”ไคเดินเข้าไปพยุงทิฟฟานี่ออกมานอกห้อง โดยมีคยองซูเดินนำ

     

     

     

     

     

    “อ้าว คุณทิฟฟานี่ออกมาเดินเล่นเหรอคะ?”คุณหมอซอฮยอนที่พึ่งเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นเจอกับทิฟฟานี่พอดีจึงหยุดถาม

    “ค่ะ พอดีอยากจะเดินชมรอบๆบ้านน่ะค่ะ”

    “งั้นเดี๋ยวฉันพาคุณชมรอบบ้านเองค่ะ  นั่งรถเข็นเถอะนะคะ เดินเดี๋ยวแผลจะฉีกเอา คยองซูกับไคกผ่อนก่อนเถอะค่ะ แผลช้ำในต้องพักผ่อนเยอะๆ”ใบหน้าหวานคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนพร้อมกับช่วยพยุงทิฟฟานี่มานั่งลงบนรถเข็น

    “ครับ ฝากด้วยนะครับ  ป่ะ โด้ ฉันอยากเล่นเกมส์”

    “บอกว่าอย่าเรียกอย่างนั้น!

    “ทำไมอ่ะ น่ารักออก ดีโด้”

    “บอกว่าอย่าเรียกไง! ไอ้ไก่!

     

     

     

     

    “พวกเขาน่ารักดีนะคะ”ซอฮยอนมองภาพนั้น ก็อดที่จะหัวเราะตามไม่ได้

    “ค่ะ พวกเขาก็เป็นแบบนี้แหละค่ะ ว่าแต่ที่นี่เป็นบ้านคุณเหรอคะ?”

    “ใช่ค่ะ ฉันใช้มันเป็นเซฟเฮาส์รวบรวมผู้รอดชีวิต ที่นี่มีทั้งหมด 16 คน ถ้ารวมคุณด้วยนะคะ อ้อ นั่นพันเอกชเวชีวอน พันโทหวังจือเถา นาวาโทคิมมินซอก นาวาอากาศเอกยุนโฮและนาวากาศโทซูโฮค่ะ”ซอฮยอนเข็นทิฟฟานี่ออกมาจากตัวบ้านมายังลานโล่งที่มีรั้วล้อมรอบตัวบ้านก่อนจะเริ่มแนะนำกลุ่มทหารที่ทำหน้าที่อารักขาผู้รอดชีวิต

    “เรียกซะเต็มยศเชียวครับ คุณหมอ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณฮวังมิยอง”พันเอกชเวชีวอนเดินเข้ามาทำความรู้จักกับตำรวจสาว

    “เรียกทิฟฟานี่ก็ได้ค่ะ”ร่างบางคลี่ยิ้มออกบางๆมือบางยื่นมือออกไปเชคแฮนด์คนข้างหน้า

    “พวกเขาช่วยคุณไว้ระหว่างที่กำลังออกลาดตระเวนน่ะค่ะ”

    “ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยชีวิตฉันกับน้องของฉันเอาไว้”

    “ไม่เป็นไรครับ มันเป็นหน้าที่ เดี๋ยวผมขอตัวไปดูทางนั้นก่อนนะครับ”ชายหนุ่มส่งยิ้มให้ทั้งสองบางๆก่อนจะเดินกลับไปหากลุ่มทหารที่เรียกเขาไป

     

     

    “พวกเขาเป็นทหารที่ยังเหลือรอดชีวิตอยู่ เขาเจอฉันที่โรงพยาบาล ฉันจึงพาพวกเขามาที่นี่ ตอนนี้กำลังพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออยู่น่ะค่ะ”

    “แล้วที่นี่มีใครอีกคะ?”

    “นั่นโบอา แม่ครัวประจำที่นี่ นี่ซูยองนักวิชาการ ส่วนนี่ก็ลอเรนน้องสาวของซูยองค่ะ”

    “สวัสดีค่ะ พี่สาว พี่สาวน่ารักจัง^^”เด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มออกไปทางฝรั่ง เดินเข้ามาเกาะแขนตำรวจสาวก่อนจะยิ้มออกมาจนตาหยี

    “น่ารักเหมือนคนพูดนั่นแหละ^^

    “ฮิฮิๆ พี่สาวน่ารักเหมือนหนู”

    “แล้วนี่ลอเรนจะไปไหนจ้ะ”ซฮฮยอนเอ่ยถามในมือลอเรนถือขวดน้ำอยู่ 2 ขวด

    “เอาไปให้พี่ยุนโฮกับพี่ชีวอนค่ะ อยู่ข้างนอกตั้งนาน ลอเรนกลัวพี่ๆเป็นลม”

    “จ้ะ งั้นเอาไปให้เถอะ ไปช้าสงสัยพี่ชีวอนต้องชักแน่ๆเลย ฮ่ะๆ”

    “อุ้ย งั้นลอเรนไปก่อนนะคะ เดี๋ยวพี่ชีวอนชัก”เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งดุ๊กดิ๊กออกไปอย่างน่ารัก ทิฟฟานี่มองดูลอเรนจนกระทั่งลับตาไป

    “นั่นฮโฮยอนเป็นครูสอนเต้น ชางมินนักบาสทีมชาติและสุดท้ายลีโอน้องชายของเลย์ค่ะ”

    “ใครคือเลย์เหรอคะ?”

    “อุ้ย ลืมแนะนำไปเลย  นั่นไงออกมาพอดี นี่คือจางอี้ชิงหรือเลย์ เขาเป็นหมอเหมือนฉันค่ะ”

    “สวัสดีครับ คุณทิฟฟานี่ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมเลย์”หนุ่มใบหน้าคมปนหวานเดินออกมาพร้อมแฟ้มเอกสารก่อนจะเข้ามาแนะนำตัวกับหญิงสาว เขาคลี่ยิ้มออกน้อยๆแต่ก็เห็นเป็นลักยิ้ม

    “ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ”

    “ผมขอตัวก่อนนะครับ”เลย์โค้งคำนับให้หญิงสาวอย่างสุภาพก่อนจะเดินออกไปอย่างรีบร้อน

    “ค่ะ”

     

     

     

     

    “คนพวกนี้คุณช่วยมาหมดเลยเหรอคะ?”

    “ค่ะ ฉันเจอพวกเขาระหว่างที่เดินทางมาที่นี่”

    “แล้วคุณเจอฉันตอนฉันสลบเหรอคะ?”

    “อ้อ เปล่าค่ะ พันเอกชีวอน นาวาอากาศเอกยุนโฮออกไปลาดตระเวนน่ะค่ะ ตอนแรกฉันตกใจมาก ที่ได้ยินเสียงระเบิด เราเห็นเครื่องบินลำใหญ่บินอยู่บนฟ้า เราพยายามส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ แต่พวกเขาไม่ตอบกลับมาแม้แต่นิดเดียว ชีวอนก็เลยออกลาดตระเวนค้นหา แล้วก็ไปพบคุณกับเพื่อนๆคุณอีก 2 คนน่ะค่ะ”ทิฟฟานี่พยักหน้าตาม ถ้าเธอไม่ได้คนพวกนี้ช่วย เธอจะเป็นยังไงนะ?

    “นี่ห้องอะไรคะ?”มือเรียวชี้ไปยังห้องทึบที่มีประตูเหล็กหนาปิดอยู่

    “ห้องวิจัยค่ะ ใช้สำหรับตรวจหาเชื้อ”

    “ด้านหลังมีสวนดอกไม้นะคะ คุณทิฟฟานี่อยากออกไปเดินเล่นหรือเปล่าคะ?”

    “ไม่เป็นไรคะ ตอนนี้ฉันรู้สึกอยากพักผ่อนมากกว่า”

    “ค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันพาคุณกลับห้องนะคะ”ซอฮยอนเลี้ยวรถเข็นกลับและพาไปยังห้องของทิฟฟานี่ ก่อนจะช่วยพยุงทิฟฟานี่ลุกจากรถเข็นแล้วลงนอนบนเตียง

    “ขอบคุณมากเลยนะคะ คุณหมอ”ตำรวจสาวยิ้มให้คนตรงหน้าเป็นการขอบคุณ

    “ด้วยความเต็มใจค่ะ”ซอฮยอนเองก็ส่งยิ้มกลับให้เช่นกัน มือเล็กห่มผ้าห่มให้ทิฟฟานี่แล้วเดินออกห้องไปพร้อมกับรถเข็น  ทิฟฟานี่นอนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอีกซักพักก่อนจะเข้าสู่นิทราไป....

     

     

     

     

     

    บนเครื่องบินลำใหญ่ เด็กสาวนั่งร้องไห้อยู่ในมุมมืด ร่างเล็กสะอื้นเบาๆ โฟร์อายส์เดินเข้าไปพร้อมกับเข็มฉีดยา

    “อย่ามาแตะต้องตัวฉันนะ!”มือเล็กปัดมือของคนตรงหน้าออกไปอย่างไม่ใยดี แววตาฉายแววแข็งกร้าวเป็นประกาย

    “เราต้องตรวจเลือดคุณ”เบอร์ต้าเดินเข้ามาจับซันนี่ลุกขึ้นยืนแล้วล็อคตัวไว้

     

     

     

    ฉึก!

     

     

     

    ใบหน้ากลมเหยเกด้วยความเจ็บปวด เลือดค่อยๆถูกดูดเข้าสู่เข็มฉีดยา ก่อนโฟร์อายส์จะดึงมันออกไปตรวจ

    เลือดสีแดงสดหยดลงบนแผ่นสไลด์บาง โฟร์อายส์หยดสารบางอย่างลงไปก่อนจะวางแผ่นสไลด์อีกแผ่นทับแล้วจึงนำไปส่องกล้องอิเล็กตรอนกำลังขยายสูง

    “เป็นยังไงบ้าง”ไกสท์เดินเข้ามาถามนักวิทยาศาสตร์ประจำทีมที่ทำหน้าเคร่งเครียด

    “เธอติดเชื้อ” หลังจากที่ได้ยินคำตอบจากโฟร์อายส์ ไกสท์นิ่งไปซักพักราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

    “เอาเถอะ ยังไงเราก็ต้องใช้เธอ ควบคุมให้ดีละกัน”

    “ค่ะ”

     

     

     

     

     

    เครื่องบิน C-130 เฮอร์คิวลิสค่อยๆร่อนลงบนรันเวย์ในฐานทัพสหรัฐอเมริกา โดยมีคณะรัฐบาลมารออยู่ก่อนแล้ว ไกสท์เดินนำลงมาตามด้วยเวธและคนอื่นๆ

    “คุณทำภารกิจสำเร็จ ดีมาก”ประนาธิบดีสหรัฐอเมริกาจับมือหัวหน้าทีมเป็นการขอบคุณ

    “ค่ะ”

    “คุณเช่นกัน เวธ”

    “ครับ”

    “ปล่อยฉันนะ!! ปล่อย!!”ซันนี่ดิ้นสุดแรงเกิดเมื่อตัวเองถูกพาลงมาจากเครื่องบิน

    “เธอจะเป็นกุญแจสำคัญของโครงการวิจัยนี้”ประธานาธิบดีพูดกับเด็กสาวพร้อมกับรอยยิ้มมุมปากน้อยๆ

    “ถุ้ย!!”ร่างเล็กถ่มน้ำลายใส่หน้าคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว

    “ไปตายซะ!! ไอ้สารเลว!!

    “เอาเธอไปขัง!”ประธานาธิบดีพยายามข่มความโกรธเอาไว้ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ด

    “ท่านคะ”ทหารสาวที่มีตำแหน่งค่อนข้างสูงเดินเข้ากระซิบบางอย่างกับประธานาธิบดี

    “เข้าใจแล้ว ผมอนุมัติ คุณชี้แจงรายละเอียดให้พวกเขาละกัน ตอนนี้ผมจะกลับไปพักผ่อน”ชายวัยกลางคนเดินกลับไปยังรถคันหรูโดยมีบอดี้การ์ดร่างใหญ่เดินขนาบรักษาความปลอดภัยเข้าไปด้วย

    “เดลต้าทีมและเวธ! พวกคุณอย่าพึ่งไป เด็กคนนั้นฉันจะให้คนเอาไปขัง ส่วนพวกคุณมากับฉันก่อน”ไกสท์หันมามองด้วยความสงสัยก่อนจะเดินตามทหารสาวคนนี้ไปยังห้องประชุมลับ

    “มีอะไรอีก”เวธถาม

    “เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว เราพบสัญญาณขอความช่วยเหลือที่ถูกปล่อยขึ้นมาจากเกาหลีใต้”หญิงสาวเปิดโปรเจคเตอร์โชว์แผนที่ที่พบแหล่งสัญญาณ

    “ภูเขาอินวาง?”สเปคเตอร์เอ่ยอย่างไม่แน่ใจ

    “ใช่ แสดงว่ายังมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่”

    “หมายความว่าคุณจะให้พวกเรากลับไป”เบลท์เวย์ถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าคำตอบเป็นอย่างไร

    “ใช่ แต่ฉันจะถามหัวหน้าทีมทั้งสองก่อนว่าพวกคุณตกลงหรือเปล่า ไกสท์ เวธ?”ดวงตาคมโฉบเฉี่ยวที่กรีดอายไลน์เนอร์หนามองไปยังบุคคลทั้งสองก่อนที่จะได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจออกมา

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “ตกลง”

     

     

     

     

     

     

     

    .........................................................................................................................................................
    คุยกันซักติ๊ส!!!!!!!!!!!!!

    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!! ครบแย้ววววววว ใส่ที่สุดก็ได้อัพ ต้องขอประทานโทษรีดเดอร์ทุกท่านจริงๆ ที่อินานะมิได้มาอัพ เนื่องจากเสด็จพ่อของอินานะอยู่บ้านทั้งวัน อินานะจึงไม่กล้าเล่นคอม เพราะเล่นทีไรโดนด่าทุกที-*-  รู้สึกตอนนี้มันยาวมาก อินานะหัวสมองแล่นปรี๊ดปร๊าด ตอนนี้ทุกคนคงมองว่าเดลต้าทีมและอาลู่กลายเป็นตัวร้ายแล้วสินะ! ไม่เป็นไรอินานะอยากให้รีดเดอร์จินตนาการกันไปต่างๆนาๆ แล้วทุกคนจะต้องงงกับตอนนี้จบ-*- (อะไรของอินานมันฟะ= =#รีดเดอร์) ยังไงก็อ่านแล้วก็เม้นๆนะจ้ะ รักรีดเดอร์ทุกคน จุ๊บุๆๆๆๆๆๆ


    ปล.ชุดเครื่องแบบของอาลู่นี่หน้าตาออกจะคล้ายๆนก แต่อินานะแนะนำให้มองเป็น "ห่าน" เพื่อให้เข้ากับชื่อ 55555+
    ปล2.รีดเดอร์คนไหนสงสัยเกี่ยวกับประวัติของอาลู่ หรืออาลู่มีความสัมพันธ์ยังไงกับเดลต้าทีม ถามอินานะได้นะเคอะ

     

    The Room ! ,,MINUS

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×