คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : C H A P T E R 11 : Abduct!
C H A P T E R 11 : Abduct!
“เอาตัวเด็กคนนั้นมาให้ได้”ร่างบางที่ขับนำทีมอยู่หน้าสุดสั่งลูกทีมที่เหลือผ่านเครื่องมือสื่อสาร
“รับทราบ”
“ไวลด์ เปิดระบบอาวุธ”สเปคเตอร์สั่งการคอมพิวเตอร์ด้วยเสียงก่อนที่บริเวณด้านหน้ารถจะมีปืนกลโผล่ขึ้นมา
บรื้นนนนนนนนนนนนน!!!
“ระวัง!! ก้มหัวลง!”ทิฟฟานี่กดหัวไคกับซันนี่ลงเมื่อเห็นรถติดอาวุธจากด้านหลังเตรียมเล็งมาทางพวกเธอ ขณะที่ลู่หานเหยียบคันเร่งจนความเร็วปาเข้าไป 180 กม./ชั่วโมง แล้ว
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!
เพล้ง! เพล้ง!
“อร๊ากกกกกกกกกกก!!! คยองซูกลัววววว!! TTTTOTTTT”คยองซูกรีดร้อง(?)ด้วยความตกใจจนถึงขั้นลงไปนั่นตรงที่วางเท้ากันเลยทีเดียว-*-
“บ้าชิบ!! เล่นกันอย่างนี้ใช่มั้ย ได้!!”ลู่หานยิ่งเพิ่มความเร็วของรถเข้าไปอีกจนมอเตอร์ไซต์ด้านหน้าต้องแยกออกเป็นสองคันขนาบด้านข้างรถ
“นานๆที ได้เล่นมันส์ๆ เอาด้วย!!”ไคสวมโหมดจิตอีกครั้ง-*- มือหนาหยิบM16 ออกมาแล้วกราดยิงไปทางด้านหลังใส่รถคันที่ตามมา
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!
“กระจกกันกระสุนน่ะ ไอ้น้องชาย”สเปคเตอร์ยิ้มที่มุมปากน้อยๆภายใต้หน้ากาก รถคันนี้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษต่อให้เจอระเบิดก็ยังไม่เป็นอะไร
“เบอร์ต้า ระวัง!”โฟร์อายส์เตือนเบอร์ต้าที่ขับมอเตอร์ไซต์ขนาบอยู่ด้านข้างรถเมื่อตำรวจหญิงในรถคนหนึ่งเล็งปืนมาทางเบอร์ต้า
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
แพทย์ของทีมก้มตัวหลบทันอย่างหวุดหวิดก่อนจะหยิบปืนพกยิงสวนกลับไปจนกระจกรถแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ไกสท์ เรามาจัดการให้มันเสร็จๆกันเถอะ”เสียงทุ้มของเวกเตอร์เอ่ย ขณะที่ขับขนานไปพร้อมกับไกสท์ หัวหน้าทีมพยักหน้ารับก่อนจะเบี่ยงรถออกมาพร้อมกันอยู่ในระดับเดียวกับรถของสเปคเตอร์
“พวกนั้นจะทำอะไรน่ะ”ซันนี่เงยหน้าขึ้นมา ขอบตาระรื้นไปด้วยน้ำตา ตอนนี้เธอกลัวมาก พวกนั้นรู้ได้ยังไงว่าเธอน้องสาวของ “ยูริ”
“อย่าเงยหัวขึ้นมา ซันนี่”ทิฟฟานี่กดหัวกลมๆลงไปอีกครั้ง ก่อนจะยิงโต้กลับไปใส่กลุ่มทหารแต่มันน่าเจ็บใจที่ทุกครั้งที่เธอยิง พวกนั้นมักจะหลบได้เสมอ
ปัง!!!
“กระสุนระเบิด!!!”ไคตาโต ให้ตายสิ!!! จากเดิมที่เขาเคยคิดว่าตัวเองเก่งแล้วนะ ทหารพวกนี้ทำเอาเขาหงายเงิบจริงๆ-*-
ลู่หานเบี่ยงรถหลบไปอีกทาง กระสุนที่ยิงมาระเบิดอยู่บนพื้น หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยอีกหลายลูกซึ่งลู่หานก็สามารถเบี่ยงหลบได้ทันเช่นกัน
“ยิงไม่ยั้ง สเปคเตอร์ เราต้องหยุดพวกเขาก่อนที่พวกเค้าจะไปถึงสะพาน”
“รับทราบ ไวลด์ เปิดระบบยิงอัตโนมัติ”
ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!!!
ฟิ้ววววววว!! ตู้มมมมมมม!!! ตู้มมมมมมม!!!
ทั้งกระสุนปืน กระสุนระเบิดมากันครบเซต แต่ละครั้งที่กระสุนยิงมาทำเอาทุกคนใจหายวาบ ตอนนี้ความหวังของทุกคนอยู่ที่ลู่หานเท่านั้น
ฟิ้ววววววววววววววววว!!!! ตู้มมมมมมมมมมม!!!
กระสุนลูกใหญ่พุ่งเข้าใส่ท้ายรถคันสีดำจนตัวรถกลิ้งไปมา ไถลไปตามพื้นและพุ่งเข้าร้านขายชุดแฟชั่น ควันสีดำลอยโขมงออกมาเต็มไปหมด เดลต้าทีมจอดรถในบริเวณที่ใกล้ๆ
“ระวังด้วย”ไกสท์ยกปืนขึ้นจ่อก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปพร้อมกับเวกเตอร์และเบลท์เวย์ มือบางเปิดผ้าที่ปิดรถอยู่ขึ้นมาแต่ก็พบแต่เพียงความว่างเปล่า สร้างความฉงนให้กับเดลต้าทีมเป็นอย่างมาก
“พวกนั้นหายไปไหน?”เบอร์ต้าหันไปมองรอบๆ
“สเปคเตอร์ใช้เรดาห์ตรวจจับสิ่งมีชีวิตหาพวกเขา”ไกสท์สั่งพลแม่นปืนของทีมที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พวกเขาหนีไปได้ไม่ไกลหรอก”โฟร์อายส์เอ่ยขึ้น ซึ่งเวกเตอร์ก็เห็นด้วยกับความคิดนั้น
หน้าจอเรดาห์ค่อยแสกนพื้นที่รอบๆก่อนจะพบจุดสีเหลืองขึ้นบนหน้าจอ สเปคเตอร์ยกยิ้มขึ้นก่อนจะส่งข้อมูลให้หัวหน้าทีมดู ไกสท์พยักหน้าให้เวกเตอร์และเบลท์เวย์นำร่องไปก่อน
“พวกเขากำลังมาทางเรา ทำยังไงดี พี่ลู่หาน”ซันนี่เริ่มมีอาการลนลานมากกว่าใคร ลู่หานพาพวกเธอมาหลบอยู่อีกตึกหนึ่งซึ่งมีสิ่งของวางระเกะระกะไปหมด
“ทิฟฟานี่ คุณพาทุกคนไปประตูบานนั้นซึ่งมันเชื่อมกับอีกตึกหนึ่ง อย่าลืมเอาปืนไปด้วย”
“แล้วคุณล่ะ ลู่หาน”
“เดี๋ยวผมตามไป ไปสิ”ลู่หานดันให้ทุกคนเข้าประตูอีกบานไปแล้วจัดการดันของมาปิดประตูเอาไว้ ก่อนจะเดินออกไปเผชิญกับทหารสองคนที่กำลังเดินมา...
“พี่ลู่หานเขาทำอะไร บ้าไปแล้วเหรอ”คยองซูคือคนที่สติแตกรองลงมาจากซันนี่ คิดได้ยังไง เป็นเขาเขาจะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด มันเหมือนการฆ่าตัวตายชัดๆ
“เราต้องไปต่อ ถ้าหากเราข้ามสะพานกวังโพไปได้ เราก็ปลอดภัย ที่นั่นมีค่ายทหาร”
“แต่เราทิ้งพี่ลู่หานไม่ได้นะครับ”ไคค้าน ความจริงให้เขาออกไปด้วยยังได้
“ไม่ได้ นายไม่เคยเจอกับทหารพวกนั้น พวกนั้นน่ะจะฆ่าเราทุกคน ไม่เว้นแม้แต่คนเดียว”
“เดี๋ยว ผมว่าผมนึกออกแล้วว่าพวกนั้นเป็นใคร”ไคทำท่าเหมือนนึกออก ทุกคนหันมามองกันเป็นตาเดียว
“ใคร?”
“พวกเค้าเป็นหน่วย Delta Team สังกัด United Security Service ที่ขึ้นตรงต่อประนาธิบดีของอเมริกาคนปัจจุบัน เป็นหน่วยจู่โจมพิเศษที่ถูกส่งมาทำงานนี้โดยเฉพาะ”
“นายรู้ได้ยังไง”คยองซูถามเพื่อนซี้ตัวโต
“อย่าลืมสิว่าพ่อของฉันเป็นนายพลระดับสูงนะ ท่านเคยเข้าร่วมประชุมเกี่ยวกับโครงการนี้ด้วย ถ้าจำไม่ผิดที่ท่านเล่าให้ฟังนะ หัวหน้าทีมของทีมนั้นคือผู้หญิงที่ใส่หน้ากากกรอบฟ้า รหัสไกสท์”
ปัง!!!! ปัง!!! ปัง!!!!
เสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าลู่หานเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
“ไปเถอะ เราต้องรีบไป ลู่หานบอกเดี๋ยวจะตามมา เขาต้องมาแน่นอน”ทิฟฟานี่วิ่งนำทุกคนไปตามทางในตึกอย่างระมัดระวัง ประตูด้านนอกถูกปิดตายทุกบานเป็นไปได้ว่าที่นี่อาจจะมี....พวกมันอยู่
“เดินระวังด้วยนะ ทุกคนพกปืนเอาไว้ด้วย”ทิฟฟานี่ค่อยๆก้าวเดินไปด้านหน้าอย่างระมัดระวังทุกครั้งที่ผ่านประตู
“ไค ด้านซ้าย!”คยองซูตะโกนบอกเพื่อนสนิท เพราะมีซอมบี้อยู่ทางด้านซ้าย
ผั่วะ!!
ซอมบี้ตัวนั้นหงายล้มตึง หน้าของมันยุบเข้าไปเพราะแรงฟาดอย่างรุนแรง เลือดสีคล้ำไหลออกมานองพื้น
“ฮื่อออออออออ!!! แฮ่ห์!!!!”ซอมบี้อีกหลายตัวค่อยๆลุกขึ้นมาจากพื้นจากที่ทุกคนคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ศพ พวกมันส่งเสียงขู่คำรามเมื่อเห็นเหยื่ออันโอชะตรงหน้า ฟันเหลืองเรียงกันเป็นระเบียบเต็มไปด้วยน้ำลายไหลเยิ้ม ก่อนที่พวกมันจะวิ่งเข้าใส่บุคคลทั้ง 4
“วิ่ง!!!!!!!!”ทิฟฟานี่ออกวิ่งพร้อมกับซันนี่ คยองซูและไค หญิงสาวหยุดยิงสกัดให้ที่เหลือไปก่อน
ปัง!!! ปัง!!! ปัง!!!
ซอมบี้ 3 ตัว กระเด็นไปเพราะแรงกระสุนปืนแมกนั่มที่ทำหัวของมันระเบิดออกเป็นชิ้นเนื้อชิ้นเล็กชิ้นน้อย แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้จำนวนของพวกมันดูลดน้อยลงไปแต่กลับดูเพิ่มมากขึ้นจนน่ากลัว
“ทางด้านหน้าๆ มีประตูอยู่!”ซันนี่วิ่งไปตามเส้นทางแคบๆที่มีแสงสว่างน้อยๆลอดออกมาจากช่องประตู
ปึก!! ปึก!! ปึก!!
“ไค! มันเปิดไม่ออก!! ติดอะไรไม่รู้!!”มือเล็กพยายามดันประตูออกแต่ดูเหมือนจะถูกบางอย่างกั้นอยู่ด้านนอก เพราะประตูมันไม่ได้ล็อก
“หลบไป!!”ไควิ่งสปีดด้วยความเร็วก่อนจะกระโดดถีบประตูเต็มแรงจนมันเปิดอ้าออก
“ไปเร็ว!!!”
“ฮื่ออออออออออออ!!!! โอออออออออออออออ!!!”ศพเดินได้ต่างคำรามส่งเสียงร้องน่าเกลียด พวกมันวิ่งตามทิฟฟานี่มาติดๆ มือซีดหลายมือพยายามขวนขวายจับหญิงสาวตรงหน้าให้ได้
“โอ๊ยยยย!!”ร่างเพรียวเสียหลักล้มลงเพราะโดนจับขา ซอมบี้มากมายหลายตัวถาโถมเข้าใส่ทิฟฟานี่ วินาทีนั้นเธอคิดว่าคงได้กลายเป็นพวกเดียวกับมันแน่
“เห้ยยยยยย!!! หยุดนะเว้ยยย!!!”
ผั่วะ!!! ผั่วะ!! ผั่วะ!!!
เสียงเหล็กกระทบเนื้อดังก้องชวนให้สยองไปถึงท้ายทอย หน้าเละๆของพวกมันที่กำลังจะก้มลงมาขย้ำหญิงสาวต้องบิดเบี้ยวกระเด็นไปอีกทางด้วยแรงฟาดอย่างแรง
“ไปเร็วครับ! พี่ทิฟฟานี่!”ไคยื่นมือดึงทิฟฟานี่ขึ้นมาก่อนจะรีบวิ่งไปยังประตูที่เปิดรออยู่
“โอออออออออออ!!!”
“วิ่งเร็วเข้าๆ!!!”ทั้ง 4 ออกวิ่งอย่างเต็มที่แบบไม่คิดชีวิต ด้านหลังมีซากศพไร้ชีวิตเดินได้กำลังไล่ตามอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ให้ตายสิ!! ทางตัน!”ทิฟฟานี่สบถหัวเสียก่อนจะรัวกระสุนใส่บรรดาซอมบี้ไม่ยั้ง
ปัง!! ปัง!! ปัง!!
“มันมีมากเกินไป!”ไคพูดขณะที่กำลังกระหน่ำฟาดใส่พวกซอมบี้
“เดี๋ยว พี่ทิฟฟานี่ ลองยิงที่ซอมบี้ตัวนั้นครับ ยิงที่ท้อง”คยองซูชี้ไปทางซอมบี้หญิงตัวหนึ่งที่สภาพศพเธอยังดูครบสมบูรณ์เหมือนกับพึ่งกลายเป็นซอมบี้ใหม่ๆ
ปัง!!
“ฮื่อออออ!!! โออออ!!!”ทันทีที่กระสุนเจาะเข้าที่กลางท้องของซอมบี้ผู้ตัวนั้น เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลออกมาเหมือนก๊อกน้ำ กลิ่นคาวเลือดสดฟุ้งไปทั่ว ซอมบี้ที่อยู่รอบๆเริ่มวิ่งเข้ารุมซอมบี้ตัวนั้นและขย้ำกินราวกับสัตว์ป่า
“ตัวนั้นด้วยครับ!”
ปัง!!
“แล้วก็อีกสองตัวนั้น!”
ปัง!! ปัง!!!
ดูเหมือนว่าวิธีของเด็กนักเรียนมัธยมจะได้ผล พวกมันเข้ารุมพวกเดียวกันเอง จนเป็นช่องทางให้ทั้งสี่หนีได้
“วิ่งฝ่าไปเลย!!”ทิฟฟานี่วิ่งนำไป ตามด้วยซันนี่ คยองซูและไค พวกมันดูไม่สนใจพวกเขาเลยแม้แต่นิดเดียว พวกมันสนใจแต่เพียงเหยื่อที่มันกำลังขย้ำ เลือดสดๆไหลนองเต็มพื้นพร้อมกับเลือดที่สาดกระเซ็นไปรอบๆ
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
“เรารอดแล้วใช่มั้ย”ซันนี่ถาม ใบหน้ากลมฉายแววแห่งความหวาดกลัว ร่างเล็กหอบน้อยๆผลจากการวิ่งหนีมาเป็นเวลานาน
“ก็แค่ตอนนี้แหละ”ไคพูดปัดๆอย่างไม่สนใจ
“คยองซู เมื่อกี๊นายรู้ได้ยังไง”ตำรวจสาวพูดพลางเปลี่ยนแม็กกระสุน
“พวกศพเดินได้พวกนี้จะตอบสนองต่อเสียงและกลิ่นได้เร็วมากเมื่อเทียบกับการมองเห็น พวกมันจะไวต่อฮอร์โมนหรือกลิ่นเลือดสด ที่ผมให้พี่ยิงไปเมื่อกี๊เพราะสภาพศพยังดูสมบูรณ์ดีเหมือนกับพึ่งตาย เลือดยังคงสด และเป็นตัวดึงดูดซอมบี้ตัวอื่นๆได้ดี พวกมันถึงไม่สนใจเราซักนิดเมื่อเราวิ่งผ่านไป”คยองซูร่ายยาวจนทิฟฟานี่ยังอึ้งถึงความสามารถของเด็กมัธยมเกรด 11 ที่สามารถรู้ได้เทียบเท่ากับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งเลยทีเดียว
“เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”ทิฟฟานี่ถึงกับต้องเอ่ยปากชม มีเด็กคนนี้ด้วยคงช่วยได้มากโขเลยทีเดียว
“แล้วเราจะไปไหนกันต่อ?”เด็กสาวเอ่ยถาม ขณะที่มือบางนั้นกำสร้อยคอเอาไว้แน่น
“เราต้องไปให้ถึงสะพานกวังโพ อีกไม่ไกลหรอก เดินอีกซักครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวก็ถึง”
“คยองซู นายมีคำแนะนำสำหรับการเดินทางต่อมั้ย?”ใบหน้าสวยหันมาหาเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆเพื่อขอความเห็น
“ผมคิดว่าเราน่าจะเดินทางที่โล่งๆ ไม่เข้าซอยแล้วก็ไม่เดินใกล้อาคารด้วยครับ พวกมันอาจจะได้กลิ่นฮอร์โมนอะดรีนาลินจากพวกเราได้นะครับ”
“โอเค ไปกันเถอะ”
“รู้เยอะขนาดนี้ ไม่ต้องเรียนแล้ว ไปสมัครงานเป็นหมอหรือนักวิทยาศาสตร์เลยเห๊อะ”เสียงกวนๆของไคพูดขึ้น
“=w= ก็ว่างั้นแหละ ทำไงได้คนมันเก่งนี่”คยองซูยืดอกพูดอย่างมั่นใจ จนทำเอาคนข้างๆเกือบสำลักน้ำลาย (-*- สำลักน้ำลายตัวเองเนี่ยนะ ไก่? #อินานะ)
“เฮ้ยๆ ดูแขนยัยลมบ้าหมูดิ”ด้วยความที่เป็นคนช่างสังเกตของคยองซู ตาโตสังเกตเห็นรอยเล็กๆคล้ายรอยข่วนที่ต้นแขนของเด็กสาวที่เดินนำหน้า จึงรีบกระซิบเพื่อนซี้ข้างๆทันที
“อะไร รอยข่วนเหรอ?”
“ใช่”
“อย่าบอกนะว่า.....”
“ฉันก็คิดเหมือนนายนั่นแหละ แต่อย่าพึ่งพูดอะไรนะ ฉันขอสังเกตอาการไปเรื่อยๆก่อน”
“โอเคๆ”
“ครืด....ครืด....ซ่า....”ทิฟฟานี่หยิบวิทยุสื่อสารที่เก็บมาด้วยขึ้น คิ้วเรียวขมวดกันก่อนจะกดปรับจูนคลื่นสัญญาณให้พอดี
“ดูเหมือนว่าจะมีคนติดต่อเรานะ”
((เจ้าหน้าที่ทิฟฟานี่)) เสียงหญิงสาวปริศนาดังขึ้นจากปลายทางสัญญาณ
“คุณเป็นใคร”
((เราเคยเจอกันแล้ว เจ้าหน้าที่ทิฟฟานี่ ตอนนี้เรากำลังรอคุณอยู่ที่สะพานกวังโพ ถ้าคุณอยากได้คุณหมอเพื่อนของคุณแบบมีชีวิต มาหาเราภายใน 10 นาที.........ซ่า.........))
“เดี๋ยว!!!”มือบางพยายามหมุนคลื่นจูนหาสัญญาณอีกครั้ง แต่ก็ไม่เป็นผล
“พวก USS ใช่มั้ยครับ?”ไคถามทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีใครนอกจากทหารพวกนั้น
“ใช่ พวกนั้นจับตัวลู่หานเอาไว้ ตอนนี้กำลังรออยู่ที่สะพานกวังโพ พวกนั้นบอกว่าเราต้องไปหาภายใน 10 นาที”
“ผมว่านี่มันแปลกๆ ถ้าแค่ทำลายหลักฐาน พวกนั้นก็คงฆ่าพี่ลู่หานไปแล้ว แต่นี่ไม่ แสดงว่าพวกนั้นต้องการบางอย่างจากเรา”คยองซูพอจะเดาสถานการณ์ออก เขาค่อนข้างมั่นใจสิ่งที่เขาคิดว่ามันต้องใช่
“งั้นอะไร?”สิ้นเสียง สายตาทุกต่างจับจ้องไปที่เด็กสาวที่ยืนกำสร้อยคอแน่น
“ใช่สร้อยเส้นนั้นหรือเปล่า ซันนี่?”ร่างเพรียวถามซันนี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ใบหน้ากลมเริ่มส่อแววมีพิรุธ
“คือ...คือ...”
“ใช่มั้ย?”คยองซูถามซ้ำอีกครั้ง ยิ่งทำให้ซันนี่รู้สึกกดดันกับสายตาของทุกคนมากขึ้นเรื่อยๆ มือเล็กกำแน่นจนชื้นเหงื่อ
“ใช่ สร้อยเส้นนี้แหละ ที่พวกนั้นต้องการ”ซันนี่อ้ำอึ้งอยู่นานก่อนจะเปิดเผยความจริง เพราะถึงปิดต่อไปก็คงไม่มีประโยชน์อะไร ยังไงสามคนนี้เธอก็ไว้ใจที่สุดแล้วในตอนนี้
“มันคืออะไร?”เมื่อสร้อยจี้สีม่วงถูกถอดออกมา นี่ก็คือคำถามแรกที่ถูกถามจากปากไค
“มันคือ A-Virus เป็นอาวุธชีวภาพที่พี่สาวของฉันผลิตขึ้นมา ดร.ควอนยูริ ตอนที่เกิดเอาท์เบรก เธอฝากมันไว้ให้ฉันเพราะบอกว่ามีคนกำลังตามล่าเธอ ซึ่งก็คือทหารพวกนั้น เธอบอกว่าเก็บไว้ให้ดีเพราะมันมีค่าต่อเธอมาก”
“พี่สาวแท้ๆเลยเหรอ?”ทิฟฟานี่ถาม ความจริงเธอเองก็แทบจะไม่เชื่อว่าเด็กสาวคนนี้เป็นน้องสาวของดร.ยูริ เธอเคยเห็นยูริในนิตยสารวงการนักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับโครงการวิจัยไวรัสของเธอ ดูจากผลงานของดร.ยูริแล้ว เธอเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงอย่างมากเลยทีเดียว
“ใช่ค่ะ เดิมฉันชื่อควอนยูริน แล้วก็เปลี่ยนเป็นลีซุนกยู ซึ่งตอนนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าพี่ยูริให้ฉันเปลี่ยนชื่อทำไม ครั้งสุดท้ายที่ฉันเจอพี่ยูริ เธอบอกว่าพวกนั้นกำลังจะเจอเธอ เธอคง...อยู่ได้อีกไม่....นาน....ฮึก...ตอนนี้ฉันไม่รู้...ว่าพี่ยูริ...ฮึก....จะเป็นยังไงบ้าง....ฮือๆ”น้ำตาเม็ดใสไหลรินออกมาจากดวงตากลมโตอย่างหยุดไม่ได้ เด็กสาวสะอื้นจนตัวลอย ทิฟฟานี่จึงรีบเข้าไปกอดปลอบซันนี่ที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก
“ไม่เป็นไรนะ ซันนี่ ฉันเชื่อว่าพี่เธอต้องปลอดภัยแน่นอน”น้ำเสียงที่อ่อนโยนพร้อมกับอ้อมกอดจากคนตรงหน้า ทำให้ซันนี่อารมณ์อ่อนลงจนเหลือแค่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆ
“ใจเย็นๆนะ ซันนี่ พี่สาวเธอออกจะเก่ง ไม่เป็นไรอยู่แล้ว”คยองซูเองก็ช่วยปลอบเพื่อนร่วมโรงเรียนด้วยเช่นกัน
“ใช่ๆๆ พี่สาวเธอเก่งอย่างกับเฉินหลง”สารวัตรนักเรียนอย่างไคก็ร่วมด้วย คำพูดที่ติดตลกของไค ทำเอาซันนี่หลุดขำออกมาน้อยๆ
“น่านนนนนนน เธอหัวเราะด้วย ยัยลมบ้าหมูโรคจิต 555+”
“ไอ้ไก่บ้า เรียกฉันว่าลมบ้าหมูโรคจิตได้ไง”ซันนี่ปาดน้ำตาออกพลางหัวเราะน้อยๆ คยองซูยกนิ้วโป้งให้คิมจงอินเพื่อนซี้ที่สามารถพลิกแพลงบรรยากาศได้เก่งจริงๆ
“ไม่เป็นไรนะ ซันนี่”ทิฟฟานี่ยิ้มให้เด็กสาวตรงหน้าจนตาปิด
“ค่ะ พี่ทิฟยิ้มสวยจัง”
“เพราะพี่สวยอยู่แล้วไง โฮะๆๆๆ”นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสามเห็นตำรวจสาวเป็นแบบนี้ตั้งแต่เดินทางร่วมกันมา เพราะปกติจะเห็นเจ้าตัวทำหน้าเครียดเหมือนคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา
“ฮ่ะๆๆ พี่ทิฟฟานี่ ไม่ค่อยเลยเนอะ”
“555555 โอ๊ยๆๆ พอๆๆ เดินทางกันต่อเถอะ”
“อีก 1 นาที ฉันสงสัยว่าเพื่อนนายคงไม่มาแล้วมั้ง หมอลู่หาน”ไกสท์เหลือบมองนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนจะขยับท่านั่งเพื่อคลายความปวดเมื่อย
“หึ”มีเพียงเสียงในลำคอลู่หานเท่านั้น ใบหน้าคมปนหวานมีรอยฟกช้ำเต็มไปหมด และมีรอยเลือดแห้งกรังที่บริเวณหางคิ้วยาวลงมาจนถึงแก้ม
“มาแล้ว”ปืนทุกกระบอกถูกเล็งไปยังหญิงสาวร่างเพรียวในชุดแบทเทิลสูทเดินมาด้วยท่าทางมุ่งมั่น ไม่มีร่องรอยแห่งความกลัวหรือกังวลเลยแม้แต่นิดเดียว
“ทำไมมาคนเดียวล่ะ เพื่อนๆที่เหลือของคุณล่ะ เจ้าหน้าที่ทิฟฟานี่”ไกสท์ทำสัญญาณมือให้ทุกคนลดปืนลง ก่อนจะตะโกนถามตำรวจสาวไป
“ต้องการไอ้นี่ใช่มั้ย?”ทิฟฟานี่ไม่พูดพร่ำทำเพลงใด มือบางชูสร้อยคอที่มีแท่ง “เอ-ไวรัส” ขนาดเล็กห้อยอยู่
“ใช่ แต่เราต้องการเด็กผู้หญิงที่ชื่อลีซุนกยูด้วย”
“แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ?”ขาเพรียวเดินเข้าไปใกล้ร่างบางตรงหน้ามากขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว เวกเตอร์ยกปืนขึ้นจ่อขวางทิฟฟานี่เอาไว้
“ไม่ต้องเวกเตอร์”ไกสท์เอ่ยเบาๆ เวกเตอร์จึงยอมลดปืนลง
“ถ้าคุณไม่มอบตัวเด็กคนนั้นให้เรา เราก็จะ....ฆ่าคุณซะ”ปลายกระบอกปืนพกมันขลับจ่อเข้าที่ขมับของหญิงสาว โดยที่ทิฟฟานี่นั้นไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
“อย่า!!! ยุนอา!!”ลู่หานตะโกนห้ามพร้อมกับพยายามลุกขึ้นมาแต่ก็โดนเบลท์เวย์ทุบให้นั่งลงไป
“ไม่เป็นไร ลู่หาน ถ้าเธอคิดว่าจะยิงฉัน ก็เอาเลย เพราะฉันจะไม่มีวันบอกว่าเด็กคนนั้นอยู่ที่ไหน”แววตาที่ฉายแววแข็งกร้าวถูกส่งไปยังไกสท์
“รู้มั้ย...คุณทำให้ฉันนึกถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่ฉันพึ่งจะกำจัดไป ดื้อด้านเหมือนคุณเลย”
“เหอะ”
“แต่ในเมื่อคุณเลือกเอง ฉันก็จะไม่ขัด”เบอร์ต้าหัวเราะในลำคอ ตำรวจคนนี้เหมือนดร.ยูริไม่มีผิด เพียงแต่เธอไม่ได้คลั่งแล้วก็กรีดร้องขนาดนั้น
“พวกนั้นจะยิงพี่ทิฟฟานี่!!!”ซันนี่กำลังจะวิ่งออกจากมุมตึกที่ซ่อนเพื่อออกไปช่วยทิฟฟานี่
“อย่าออกไปนะ ซันนี่!!!”คยองซูรั้งเพื่อนตัวเล็กเอาไว้ ถ้าขืนปล่อยออกไปเดี๋ยวเสียแผนหมด
“แต่พี่เค้ากำลังจะโดนยิงนะ!!!”
“รู้แล้ว แต่ถ้าออกไปเธอก็ตายด้วยอ่ะดิ”ไคขยับตัวออกมาขวางทางซันนี่เอาไว้
“ฉันไม่ยอมให้พี่เค้าตายหรอก!!”ด้วยความที่ตัวเล็ก ซันนี่จึงสามารถลอดช่องแคบๆที่ไคปิดไม่มิดไว้ได้
“เห้ย!! วิ่งออกไปทำไมวะเนี่ย!!”ร่างสูงทำท่าจะวิ่งตามไปด้วย แต่ก็โดนคยองซูรั้งเอาไว้
“ฉันคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นอย่างนี้ ใช้แผนสำรองต่อเลย”ไคและคยองซูต่างพยักหน้า รับรู้สิ่งเดียวกันก่อนจะเดินหายเข้าไปในตึก
“อย่า!!!!!!!!!!!!”เสียงใสตะโกนมาแต่ไกล ไกสท์กระตุกยิ้มขึ้นอย่างพอใจ แผนเด็กๆแค่นี้ก็ล่อเสือออกจากถ้ำได้แล้ว
“ซันนี่! ออกมาทำไม!”ทิฟฟานี่ตกใจกับการกระทำของซันนี่ ร่างบางกำลังจะวิ่งไปหาเด็กสาวแต่ก็ถูกเตะขาจนล้มลงไป
“เบอร์ต้า จับตำรวจคนนี้ไว้”แพทย์ของทีมเดินเข้ามาล็อคตัวทิฟฟานี่เอาไว้ ตำรวจสาวพยายามขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะทหารคนนี้แข็งแรงกว่ามากแถมยังรู้จุดที่กล้ามเนื้อไม่สามารถออกแรงได้เท่าที่ควรด้วย
“อย่าทำอะไรพี่ลู่หานกับพี่ทิฟฟานี่นะ”เด็กสาวสั่นไปทั้งตัว ดวงตากลมมีม่านน้ำตาบางๆเคลือบอยู่
“ได้ ฉันจะปล่อยทั้งสองคนนี้ไป แต่เธอต้องมากับพวกเรา”หญิงสาวร่างเพรียวต่อรองกับเด็กสาวด้วยข้อเสนอที่ดูเหมือนจะทำให้อีกฝ่ายเสียเปรียบอย่างมาก
ซันนี่เม้มปากเข้าหากันอย่างลำบากใจ ใบหน้ากลมหันไปมองบุคคลทั้งสองที่ถูกล็อคตัวอยู่กับพื้น ก่อนจะหันกลับมาตอบ
“ได้ค่ะ”ถือว่าเป็นคำตอบที่น่าพึงพอใจสำหรับเดลต้าทีมอย่างมาก ไกสท์ยกยิ้มขึ้นแต่มันเป็นรอยยิ้มของผู้ชนะที่เหยียดหยามผู้แพ้อย่างชัดเจน
“ไม่นะ!! ซันนี่! ไม่!!”ลู่หานพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการด้วยแรงทั้งหมดที่มี แต่ก็เปล่าประโยชน์
“ซันนี่ อย่าทำอย่างนี้”ทิฟฟานี่พยายามขอร้องให้ซันนี่เปลี่ยนใจ
“ขอโทษนะคะ”ซันนี่เบือนหน้าหนีไปทางอื่น เด็กสาวหยิบสร้อยคอมาจากทิฟฟานี่พร้อมกับเดินตามไกสท์ไป
“สเปคเตอร์ เรียกฮอล์มารับได้เลย เราต้องรีบเดินทางแล้ว”
“ส่วนพวกที่เหลือ.....”
“ฆ่าทิ้งให้หมด”
คุยกันซักติ๊ส!!!!!
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!! อัพแย้ววววววววววว!! ต้องขอประทานโทษเจงๆที่มาอัพช้า ช่วงนี้ไรเตอร์สอบเหลืออีก 1 วัน นานะก็จะสอบเสร็จ!! แล้วอินานะก็จะมาอัพให้แบบ extream อุวฮะฮ่า!! รู้สึกว่าเนื้อเรื่องมันจะยิ่งซับซ้อนขึ้นไปเรื่อยๆแฮะ ยังมีคนติดตามอยู่หรือเปล่าเนี่ย T^T กลั๊วกลัวไม่มีคนอ่านอ่า อย่าพึ่งทิ้งเค้าน้าTT อ่านแล้วอย่าลืมเม้นน้า จุ๊บุๆๆ รักรีดเดอร์ทุกคน!
ความคิดเห็น