ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เปิดตัว
ตอนที่1
“และรางวัลสาวสวยประจำปีนี้ได้แก่ หมายเลข 47 นีล นีลเลล่า ของเรานี่เอง”
ฉันเดินออกไปรับมงกุฎ สายสะพาย ช่อดอกไม้ และเสียงปรบมือที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งหอประชุม
ด้วยใบหน้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามโทนร้อนแต่ดูอบอุ่นส้มน้ำตาล ผมดัดเป็นลอนเล็ก ๆมีริบบิ้นผูกผมสีน้ำตาลทองเล็กๆ ผิวขาวเนียนออกชมพูทำให้ดูโดดเด่น และอยู่ชุดเดรสออกงาน ที่สุดแสนจะละลายใจหนุ่ม สาว ให้โหวตคะแนนให้ฉัน ชุดเดรสสีน้ำตาลชายกระโปรงจีบระบายซ้อนเป็นชั้น ช่วงบนเป็นเสื้อแขนกุดคอกว้างมีโบริบบิ้นเล็ก ๆ ตรงกลางหน้าอกเข้ารูปแบบพอดีตัว ต่อลงมาด้วยชายกระโปรงจีบระบายซ้อน 4ชั้น ชั้นที่ 2 เป็นลูกไม้สีน้ำตาลอ่อนลงมา ใส่เสื้อนอกคลุมเป็นไหมถักสีน้ำตาลตกแต่งด้วยเลื่มสีทอง ผ้าพันคอเลื่อมสีทอง รองเท้าผ้าพันลายดอกไม้สีแดง กระเป๋าสะพายข้อมือหนังแตกสีทอง
ชุดเดรสสีน้ำตาลของฉัน ชนะ ชุดเดรสคล้องคอสีขาวกระโปรงพลีทรอบตัว คาดเอวด้วยริบบิ้นสีดำของยัยเกรซ ตัวเก็งประจำปี สาวสวยที่ทุกคนชื่นชมยกย่องเอาใจดุจนางพญา แต่ฉันก็ชนะ!!!! ชนะยัยเกรซได้ ฮ่า ฮ่า อยากจะหัวเราะให้สวยขึ้นอีกสัก 100 เท่า แต่ก็ต้องเก็บอาการ และแล้วสิ่งที่ฉันหวังรองลงมาคือ รุ่นพี่ได หนุ่มสุดหล่อประจำโรงเรียน ก็มาพบฉันหลังจากฉันลงจากเวที
“นีล ฉันรักเธอ คบกับฉันได้มั้ย” “เธอน่ารักที่สุด” รุ่นพี่ไดกระซิบข้างฉันเบา ๆ
ฉันจะตอบรับรุ่นพี่ดีมั้ยนะฉันยังมีโอกาสเลือกอีกนี่นา ก็ฉันเป็นสาวสวยแล้วนี่ หนุ่ม ๆ ในโรงเรียนอยู่ในกำมือฉันแน่นอน แต่รุ่นพี่ก็เป็นชายหนุ่มสุดเท่ประจำโรงเรียนที่สาว ๆทั้งหลายใฝ่ฝันถึง และอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง กันทั้งนั้น แม้แต่ยัยเกรซก็กำลังคั่วกับรุ่นพี่อยู่ !!!โอกาสนี่แหละ ฉันจะไม่ลังเลอีกต่อไป
“พี่ไดคะ ฉันก็.............”
!!!!??? “นีล ตื่นได้แล้ว นีล เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย นะ นีล แม่จะไม่ปลุกแล้วนะ”
ปัง!!!!! เสียงแม่ปิดประตูห้องนอน หลังจากเปิดประตูมาปลุกฉันด้วยเสียงฟ้าผ่า
ฝัน ฝัน ฝันหรอเนี่ยโอย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แท้ๆ เชียว แม่นะแม่ จะมาปลุกช้ากว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ จะนอนฝันต่อก็ไม่ได้ด้วย
“โอย เจ็ดโมงเช้าแล้วหรอนี่ ง่วงชะมัด” นีลหยิบนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมาดู พร้อมกับบ่น แล้วลุกขึ้นเข้าห้องน้ำแปรงฟันอาบน้ำเพื่อที่จะไปโรงเรียน
ภาพของสาวน้อยหน้ากระจกตอนนี้ช่างต่างกับภาพในความฝันเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง นีลไม่ได้เป็นสาวสวยในชุดเดรสสีน้ำตาลเหมือนในฝัน แต่เป็นเพียงสาวม.ปลายหน้าตาตกกระผมเส้นใหญ่ฟูที่ทำอะไรไม่ได้นอกมัดมันหรือถักเปียไว้แค่นั้น
ชุดนักเรียนเห่ยๆ แต่ถูกระเบียบในสายตาแม่และเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย แขวนอยู่หน้าตู้ ไม่มีทางหรอกที่นีลจะตัดกระโปรงให้มันสั้นอีกนิด แม่คงไม่ยอมแน่ๆ นีลไม่อยากไปโรงเรียนเลย ก็นีลเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาตกกระ ผิวขาวซีด ไม่มีอะไรสะดุดตานี่นา ผิดกับยัยเกรซเจ้าหญิงประจำห้อง ประจำชั้น ไปจนถึงประจำโรงเรียนเลยมั้ง ที่มีแต่คนมาห้อมล้อม เทิดทูนบูชาล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเวลา มีพี่ได เจ้าชายประจำโรงเรียนเคียงคู่ อาจารย์ก็มักจะชื่นชมบ่อยๆจนน่ารำคาญ แค่ยัยเกรซมีงานถ่ายแบบนิตยสาร 2 3 ฉบับ เท่านั้นเอง อาจารย์ก็เห็นว่าเป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน เชอะ!!! ก็แค่น่าตาดี สวย เรียนเก่ง เฮ้อชนะนีลหมดเลยนี่หว่า
“นีล ตื่นรึยังลงมาได้แล้ว คุณพ่อจะไปแล้วนะ” แม่ตะโกนขึ้นมาจากข้างล่าง
“เสร็จแล้วค่ะแม่ จะลงไปแล้วค่ะ” นีลตะโกนตอบแม่แล้วรีบวิ่งลงบันไดจากชั้นสองลงมา
“อ้อ นีล ช้าจังเลยนะเรา ไม่ทันแล้วคุณพ่อจะไปแล้วล่ะ เอาขนมปังกับนมไปกินในรถนะลูก” แม่พูดพลางส่งขนมปังกับนมมาให้นีล
“ทีหลัง ตื่นให้มันเร็วๆหน่อย” แม่บ่นต่อ
“ค่ะแม่ ไปนะคะ บ่นมากระวังพ่อเบื่อนะคะ” นีลบอกแม่ด้วยเสียงล้อเลียน
นีลลาแม่แล้วออกมาขึ้นรถที่พ่อนั่งประจำที่อยู่ที่นั่งคนขับ
“ไปเลยค่ะพ่อ เดี๋ยวพ่อจะสาย” นีลก้าวขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วเร่งพ่อของเธอให้รีบไป
บนท้องถนนแม้จะยังเช้าอยู่ แต่รถก็ยิ่งวิ่งขวักไขว่บนท้องถนนแต่จากบ้านนีลไปถึงโรงเรียนก็ใช้ระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ที่ต้องออกเช้าก็เพราะว่าที่ทำงานของพ่ออยู่ไกลออกไปอีก จริงๆแล้วนีลโตพอที่จะนั่งรถเมลล์มาโรงเรียนได้แล้ว แต่แม่ก็ยังไม่ยอมเพราะกลัวว่านีลจะเถลไถล โธ่..แม่นีลจะไปไหนได้ พ่อมารับนีลทุกเย็น ถ้าพ่อไม่มาแม่ก็มา แม้แม่จะอ้างด้วยเหตุผล 108 ก็เหอะ ว่ามาซื้อของบ้างล่ะ นัดเพื่อนบ้างล่ะ แล้วนีลจะไปไหนกับเพื่อนได้ล่ะ ทุกวันนี้เพื่อนมันเหม็นหน้านีลจะแย่แล้ว ชวนไปไหนก็ไปไม่ได้ อายุ 16 แล้ว พ่อแม่ยังตามรับตามส่งอยู่อีก เสื้อผ้าที่นีลใส่ก็แม่ซื้อให้ นีลไม่เคยได้เลือกเองหรอก ชุดดีที่สุดของแม่ กลายเป็นชุดที่แย่ที่สุดของเพื่อนเสมอ
“นีล วันนี้กลับเองนะลูก พ่อติดประชุมตอนเย็น คงมารับนีลไม่ได้” พ่อหันมาบอกนีล
“ค่ะพ่อ แต่พ่อบอกแม่แล้วหรอคะ เดี๋ยวแม่ว่าเอานะ” นีลแย้งแต่ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ โอ้ยขนมปังแทบหล่นจากมือแหนะ
“พ่อคุยกับแม่แล้ว ลูกเองก็อายุ 16 แล้ว กลับบ้านเองได้แล้วมั้ง” พ่อบอกนีลแต่ยังไม่ทันจบประโยค...
“นีลไป-กลับโรงเรียนเองได้แล้วหรอคะพ่อ เย้ เย้” นีลถามแบบตัดกลางประโยคพ่อทันที
“ยังลูกยัง ยังก่อน ตอนขามาก็มากับพ่อก่อน ส่วนขากลับลูกก็กลับเอง ตกลงมั้ย”
“จริงหรือคะพ่อ” “แน่ใจนะคะว่าแม่อนุญาตแล้ว” “ชัวร์นะคะ”
“แม้....ลูกคนนี้ จริงสิเห็นพ่อเป็นอะไร จะโกหกลูกได้ไง” “แต่มีข้อแม้นะว่าต้องกลับบ้านก่อน 18.00 น. โรงเรียนนีลเลิก 15.30 น. พ่อกับแม่ให้อิสระนีลแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น คราวนี้ถึงนีลจะทำกิจกรรมที่โรงเรียนต่อพ่อก็ไม่ต้องนั่งรอแล้วไง แต่ต้องสัญญากับพ่อก่อนนะ” พ่อต่อรองหลังจากร่ายยาว
“สัญญาอะไรคะพ่อ”
“นีลต้องสัญญาก่อน ว่านีลจะต้องเป็นเด็กดี ห้ามเกเร อย่าทำให้พ่อแม่เสียใจนะลูก”
“โธ่...พ่อคะ 2 ชั่วโมงเนี่ย นีลจะไปทำอะไรได้คะ อย่างมากแค่เดินเที่ยวในเมืองกับเพื่อนๆ นั่งกินขนมที่ร้านกับเพื่อนๆเท่านั้น เพื่อนนะเบื่อนีลจะแย่แล้วค่ะ ชวนไปไหนนีลก็ไปไม่ได้” “นีลสัญญาค่ะพ่อนีลจะเป็นเด็กดี ไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ขอบคุณนะคะพ่อ เอ๊ะ...แต่แม่ไม่เห็นบอกอะไรนีลเลยล่ะคะ”
“แม่เค้าให้พ่อมาบอกนีลน่ะ แม่เค้ากลัวว่าถ้าแม่บอกเองแม่คงจะบ่นนีลไปเรื่อยๆแล้วคงกลับคำไม่อนุญาตแน่ๆ”
“นีลก็ว่างั้นแหละค่ะพ่อ นีลอาจจะกวนโมโหจนแม่เลิกอนุญาตแน่ๆเหมือนกัน” นีลงึมงำบอกกับพ่อ
***************************************************************
“นี่เพื่อนๆ วันนี้จะไปไหนกันดีล่ะ” นีลหันมาถามเพื่อนๆ หลังจากเรียนจบชั่วโมงแรก
“อะไรยะ ยัยนีล วันนี้มาแปลก ไปได้หรือยะ มาถามกันอย่างนี้” จีนพูดพลางพยักเพยิกกับเพื่อนๆในกลุ่ม “ไปได้สิ ที่บ้านอนุญาต แล้ว” นีลรีบบอก
“แน่นะ ไม่ใช่ตอนเย็นๆพ่อเธอมานั่งรอหน้าบานอยู่หน้าโรงเรียนอีกนะยะ”ลีลี่สำทับ
“ชัวร์หน่า ไม่งั้นชั้นไม่ชวนเองหรอกนะ”นีลรีบพูดเพราะกลัวว่าเพื่อนจะไม่เชื่อ
“งั้นวันนี้เราต้องฉลองให้เธอหน่อยแล้ว นะนีล”จีนบอกพร้อมทั้งแนะนำให้ไปที่ร้าน ‘พีชเค้ก’ ที่จีนและเพื่อนๆนิยมไปนั่งกินก่อนกลับบ้าน
แต่ยังไม่ทันที่ยัยจีนจะโม้จบ อาจารย์ฮัน ก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี เรื่องที่พูดกันจำเป็นต้องหยุดชะงักไปเพื่อเข้าเรียนในชั่วโมงต่อไปทันที
ระหว่างเรียนนีลนั่งฝันหวานถึงร้าน ‘พีชเค้ก’ ที่นีลไม่เคยได้ไปกินที่ร้านเลย จะได้กินเค้กของร้านนี้ก็ต่อเมื่อแม่หรือพ่อของเธอซื้อมาฝากเท่านั้น หลายครั้งที่นีลนั่งรถกลับกับพ่อแล้วผ่านร้านนี้ นีลจะเห็นเพื่อนนั่งกินเค้กสีหวานกับน้ำผลไม้สีสวยๆกันอย่างเอร็ดอร่อย คงมีเรื่องคุยกันหลายเรื่องที่นีลไม่รู้ และอีกหลายโต๊ะที่นีลเห็น สาวๆนั่งสะเทิ้นเขินอายอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่มาด้วยกัน และบางครั้งนีลเห็น เกรซ กับรุ่นพี่ได นั่งกินเค้ก จิบชากันสองคนอย่างน่าอิจฉานัก แม้รุ่นพี่ไดจะมีสาวๆมาชอบหลายคน ก็มีเพียงไม่กี่คนที่รุ่นพี่ไดยอมไปเที่ยวด้วย แต่รุ่นพี่ไดก็ใจดีกับทุกคนเสมอ ถ้าสาวหน้าตกกระอย่างนีลจะขอไปเที่ยวกับรุ่นพี่ไดบ้างรุ่นพี่จะยอมหรือเปล่านะ
“ปัง ปัง ปัง” เสียงตบโต๊ะอยู่ตรงหน้านีลดังขึ้น
“นี่ นี่ ยัยนีล นังฝันหวานไปถึงไหนกันจ๊ะ ลุกขึ้นไปทำโจทย์ที่หน้ากระดานโน่นไป” อาจารย์ฮันทุบโต๊ะแล้วดุนีล
“ฮา.................”เพื่อนๆหัวเราะเยาะนีลกันทั้งห้อง
นีลอายจนหน้าขาวซีดของนีลแดงไปหมด หันไปดูรอบๆห้องเห็นยัยเกรซหัวเราะเยาะอยู่กับวารี่เพื่อนที่นั่งคู่กัน แย่จัง เมื่อหันมาดูโจทย์ในกระดานหน้าห้อง นีลเรียนมาแล้วนี่นา เฮ้อ...ยังดีนะที่แม่ส่งไปเรียนพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์ไม่งั้นนะขายหน้าเพื่อนๆแน่เลย ถึงนีลจะไม่สวย แต่นีลก็ไม่โง่นะ ไม่งั้น นีลจะมาอยู่ห้องเด็กเก่งอย่างนี้ได้ไง แล้วอาจารย์ฮันน่ะ ขอให้ทำโจทย์ที่อาจารย์ตั้งได้เป็นพอ นีลจึงเดิน ไปทำโจทย์ที่หน้ากระดานทันที ระหว่างทำโจทย์อยู่ นีลได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินผ่านห้องไป จึงหันไปดู จึงเห็นว่ารุ่นพี่ได ที่นีลแอบใฝ่ฝันถึงเดินผ่านมาพอดี เมื่อตาประสานตา นีลจึงยิ้มให้ แล้วรุ่นพี่ไดก็ยิ้มให้นีลกลับมา ว้าว...วันนี้นีลคงมีความสุขไปทั้งวัน น่าขอบคุณอาจารย์ฮันจริงๆเลยที่ทำทำให้นีลได้มีโอกาส ตาสบตา ยิ้มส่งยิ้ม แค่นี้นีลก็ปลื้มสุดๆแล้ว
“นี่ ยัยนีล เมื่อไหร่จะทำเสร็จจ๊ะ ชั้นจะได้สอนต่อ” อาจารย์ทักเมื่อเห็นว่านีลหยุดชะงักไป
“ทำได้รึเปล่า ไม่งั้นชั้นจะให้คุณอื่นไปทำนะ”อาจารย์เริ่มเสียงเขียวเมื่อเห็นว่าลูกศิษย์ทำโจทย์ไม่ได้ซึ่งนั่นก็แสดงว่าลูกศิษย์ของเธอไม่ตั้งใจเรียนนั่นเอง
“ได้ค่ะอาจารย์ ได้ค่ะ หนูแค่ช้านิดเดียวเอง” นีลแย้ง
“ก็เร็วๆซีจ๊ะ ชั้นจะได้สอนต่อ”
แหม..อาจารย์คะอย่าดุนีลนักเลยค่ะเมื่อกี๊แค่นีลแว๊บใจไปนิดเดียวเอง แต่ยังงัยนีลก็ขอบคุณอาจารย์มากค่ะที่ทำให้นีลมีโอกาส อย่างนี้ นีลคิดอยู่ในใจ
หลังจากที่นีลทำโจทย์เสร็จแล้ว อาจารย์ก็เดินมาตรวจ เมื่อรู้ว่านีลทำถูกก็ให้นีลกลับไปนั่งเรียนตามปกติ และท้ายชั่วโมง อาจารย์ฮันก็บอกกับนักเรียนว่า อาจารย์ซิน ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องให้มาแจ้งว่าเย็นนี้หลังเลิกเรียนให้นักเรียนเข้าหอประชุมโรงเรียนทันที โรงเรียนจะมีประกาศบางอย่าง และอาจารย์ซินจะคอยนักเรียนอยู่ที่นั่น
“โห....”เสียงบ่นของนักเรียนทั้งห้องดังขึ้น
“นี่ยัยนีล ฤกษ์ฉลองที่ได้กลับบ้านเองของเธอ เสียหมดแล้ว” จีนหันมาพูดกับนีลทันทีที่อาจารย์ฮันเดินออกจากห้องไป
“นั่นสิ...ชั้นจะชวนพวกเธอไปร้านสปาที่เปิดใหม่สำหรับสาววัยรุ่นอย่างเราด้วย”ลีลี่บอก
“แย่เลย...เซ็งสุด” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
หลายคนในห้องก็บ่นอย่างนั้น
“แต่ว่า...วันนี้พวกอาจารย์เค้าเรียกประชุมกันทำไมนะ” เพื่อนคนหนึ่งในห้องพูดขึ้น แต่ทุกคนในห้องก็ไม่มีใครรู้ว่าทางโรงเรียนจะประกาศเรื่องอะไร
เมื่อหมดชั่วโมงเรียนแล้วยังต้องเรียนต่อไปอีก 1 ชั่วโมงกว่าจะพักกลางวัน และต้องเรียนต่อไปอีก 3 ชั่วโมงกว่าโรงเรียนจะเลิก........
***************************************************
“ที่ทางโรงเรียนเรียกนักเรียนมาประชุมกันในวันนี้ เพื่อที่จะแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า อีก 2 เดือนจะถึงช่วงจัดงานประจำปีของโรงเรียนแล้ว ทางโรงเรียนกำหนดให้มีงานออกร้านต่างๆขึ้น ซึ่งแต่ละห้องจะต้องจัดงานออก ร้านต่างๆห้องละ 1ร้าน งานออกร้านนี้ ให้เฉพาะชั้นปีที่ 4-6 เท่านั้น และปีนี้ก็เช่นเคยทางโรงเรียนอนุญาตให้พาครอบครัวหรือเพื่อนต่างโรงเรียนเข้ามาเที่ยวได้” เสียงประกาศจากอาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนดังขึ้นทันทีที่นักเรียนทุกคนประจำที่ในแถวของห้องตัวเองอย่างเรียบร้อย
“ขอให้นักเรียนเตรียมจัดงานอย่างเป็นระเบียบ อย่าสร้างความวุ่นวายให้กับทางโรงเรียนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นทางโรงเรียนจะงดการจัดงานประจำปีทันที และทางโรงเรียนจะแจ้งรายละเอียดต่างๆให้ทราบเป็นระยะ”
“ดังนั้นวันนี้ ขอให้แต่ละห้องของปีที่4-6 ส่งตัวแทนมาจับฉลากพื้นที่ ที่ห้องของตัวเองจะได้จัดงานด้วย”
เมื่ออาจารย์ใหญ่จอบเฮี๊ยบ สงสัยจะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนเลยดุสุดๆ พูดจบลงเสียงนักเรียนก็พูดคุยกันดังลั่นหอประชุมไปหมด ทั้งนักเรียนปีที่ไม่จัดงานออกร้านโวยวายเพราะอยากจะจัดงานบ้าง ส่วนนักเรียนปีที่ได้จัดงานก็เริ่มจับกลุ่มกันพูดคุยถึงเรื่องงานที่ว่าห้องตัวเองจะจัดอะไรดีในงานโรงเรียนประจำปีนี้
“นี่พวกเธอ เงียบๆหน่อย ส่งตัวแทนมาจับฉลากพื้นที่ได้แล้ว และอยู่ในความสงบด้วย” อาจารย์ใหญ่พูดออกมาอย่างทนไม่ได้ เมื่อเสียงพูดคุยของนักเรียนเริ่มดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น...
เมื่อแต่ละห้องส่งตัวแทนไปจับฉลากพร้อมรับแผนที่พื้นที่ที่จะจัดงาน ก็มีเสียงกรี๊ด สลับกับเสียงโห่ เสียงบ่นของเพื่อนนักเรียนร่วมห้องเมื่อตัวแทนของห้องตัวเองลงมาจากเวทีที่ขึ้นไปจับฉลาก ที่กรี๊ดก็เพราะห้องตัวเองได้พื้นที่ด้านหน้าเป็นพื้นที่ ดีดีที่ทุกคนต้องการ ส่วนที่โห่หรือรุมสกรัมกับคนจับฉลากเล่นๆก็เพราะได้พื้นที่ด้านหลังหรือเป็นมุมอับ
“เงียบๆหน่อยได้มั้ย พวกเธอหูอาจารย์จะแตกแล้วนะ” “เงียบ! แล้วฟังทางนี้” ครูใหญ่พูดอีกครั้ง
“เมื่อทุกคนได้พื้นที่แล้ว ให้ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาก่อน เพื่อที่พวกเธอจะได้รู้ว่ากิจกรรมแบบไหนที่ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้จัดขึ้นนะ เมื่ออาจารย์ของพวกเธออนุญาตแล้วให้มาแจ้งได้ที่กองกิจกรรมได้เลย แจ้งก่อนได้ก่อน นะ จะอนุญาตให้ซ้ำกันได้ไม่เกิน3ร้านเท่านั้นนะจ๊ะ” อาจารย์ใหญ่แจ้งรายละเอียดต่อหลังจากที่เห็นว่าทุกห้องได้จับฉลากหมดแล้ว
“เอาล่ะทุกคนกลับบ้านได้” “แล้ว รีบมาแจ้งล่ะ” อาจารย์ใหญ่สำทับอีกครั้ง
*******************************************************
“กลับมาแล้วค่ะ” นีลตะโกนบอกแม่ขณะที่ถอดรองเท้าอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมากินข้าวเลยนะนีล วันนี้คุณพ่อกลับช้ามากินข้าวกับแม่เลยไม่ต้องรอ”แม่ตะโกนตอบนีลมาจากข้างในบ้าน
สงสัยแม่คงจะอยู่ในครัว เฮ้อ...เซ็ง อุตส่าห์ได้กลับบ้านเองวันแรกดันต้องไปยืนฟังประกาศของโรงเรียนจนอดไปร้านพีชเค้กเลย แล้วปีนี้เป็นปีแรกที่เราจะได้จัดงานออกร้านด้วย เมื่อก่อนตอนเป็นรุ่นน้องก็เดินเที่ยวงานของรุ่นพี่ซะเพลิน ปีนี้ห้องเราจะจัดอะไรนะ พรุ่งนี้อาจารย์ที่ปรึกษาคงเรียกประชุม แต่นีลก็คงไม่ได้เป็นตัวเด่นนักหรอก คนที่เด่นก็คงเป็นยัยเกรซอีกแน่นอน แล้วห้องรุ่นพี่ไดจะทำอะไรนะจะได้ไปเที่ยวบ้าง นีลคิดอะไรเรื่อยเปื่อยขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้า และเมื่อปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจึงรีบลงมาหาแม่ข่างล่าง
“แม่คะ” นีลเรียก
“ลงมาแล้วหรือลูก มากินข้าวกันเลยจ๊ะ” แม่พูดพลางตักข้าวใส่จานที่วางเตรียมไว้บนโต๊ะ
“หอมจังเลยค่ะแม่” นีลชม
“ไม่ต้องมาชมเลยจ๊ะ จะประจบเอาอะไรกับแม่ล่ะ” “แล้ววันนี้ไปไหนมาบ้างจ๊ะ แม่ปล่อยให้กลับเองเนี่ย” แม่ถามต่อเหมือนรอที่จะถามตั้งแต่นีลเดินเข้าประตูบ้านมาแล้ว
“แหม...ทีเดาข้อสอบไม่เห็นถูกอย่างนี้บ้าง คิดไว้แล้วว่าแม่ต้องถาม” นีลพูดอย่างรู้ทัน
“ก็ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะแม่ เลิกเรียนที่โรงเรียนเค้าให้ไปประชุมต่อทั้งโรงเรียนเลย กว่าจะเลิกก็เย็นแล้ว นีลก็นั่งรถเมลล์กลับบ้านเลยค่ะ ไม่ได้ไปไหน” นีลอธิบายต่อพร้อมกับเล่าเรื่องที่โรงเรียนประกาศให้แม่ฟัง
“ก็ดีแล้ว...ที่แม่อนุญาต ก็เพราะแม่ไม่อยากจะกักนีลไว้ นีลเองก็อายุ 16 แล้ว นีลก็คงอยากมีอิสระ มีเวลาของตัวเองบ้าง แต่ต้องสัญญา...”
ยังไม่ทันที่แม่จะพูดจบ
“พอเลยค่ะแม่ นีลสัญญาค่ะ นีลสัญญาไปกับคุณพ่อแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงค่ะ นีลรู้หรอกหน่า” นีลรีบบอก
“โอเค โอเค จ๊ะ แม่เชื่อใจนีล” แม่บอกด้วยน้ำเสียง จริงใจและยิ้มให้ “กินข้าวเถอะจ๊ะ” แม่พูดพลางตักปีกไก่ทอดให้นีล
***********************************************************************
‘เกรซ’ สาวสวยที่ใครๆชื่นชมนักหนา กำลังนั่งมองตัวเองที่อยู่ในกระจก ใบหน้ารูปไข่ได้รูปรับกับผมที่ยาวตรงมาถึงกลางหลัง รอบห้องของเกรซเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่พ่อกับแม่เธอซื้อมาให้ เมื่อเธอทำผลงานหรือสร้างชื่อเสียงให้กับครอบครัว พ่อแม่ของเกรซ ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว พ่อกับแม่จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้านมากนัก วันนี้บินไปฮ่องกง พรุ่งนี้บินไปญี่ปุ่น เป็นอย่างนี้อยู่ประจำ แต่สิ่งเดียวที่พ่อกับแม่ของเกรซไม่เคยลืม คือการวางกฏระเบียบต่างๆไว้ให้เธอ ถึงแม้ว่าเกรซจะมีอิสระในการได้เดินทางไปไหนต่อไหน แต่เกรซก็ต้องเข้าเรียนตามโปรแกรมต่างๆตามที่พ่อกับแม่ของเธอสมัครไว้ให้ วันๆเธอเห็นหน้าลุงอี้คนขับรถของเธอมากว่าพ่อกับแม่ของเธอซะอีก
แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกนะ ทุกคนคงเห็นภาพเกรซกับครอบครัวที่ดูอบอุ่นอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เกรซรับเกียรติประวัติต่างๆ พ่อกับแม่ของเธอจะว่างเสมอ แม้ว่าจะยุ่งสักเพียงใด แต่เมื่อไหร่ที่เธอไม่สบาย บ่อยครั้งสิ่งที่เกรซได้รับนอกจากยา ก็คือตุ๊กตาที่พ่อกับแม่เธอส่งมาให้แทนตัวเองที่กลับมาดูแลไม่ได้
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“คุณหนูคะ” “คุณหนู” “ป้าเข้าไปนะคะ”
“ค่ะป้าเหมย เข้ามาเลยค่ะ” เกรซร้องบอก
“ป้าเอานมอุ่นๆมาให้คุณหนูค่ะ แล้วก็คุณแม่โทรมาบอกว่าคงต้องอยู่ฮ่องกงต่ออีก 2 วันค่ะ”ป้าเหมยแม่บ้านที่เกรซเห็นมาตั้งแต่เกิดบอกพร้อมกับส่งนมให้เกรซ
“อีกแล้วหรือคะ ป้าเหมย เกรซว่า เกรซเห็น ป้าเหมยกับลุงอี้มากกว่าพ่อกับแม่ซะอีกนะคะ” เกรซพูดแบขำขำ
“โธ่..คุณหนูของป้าเหมย พูดอะไรอย่างนั้นคะ คุณพ่อกับคุณแม่ทำงานหนักก็เพื่อคุณหนูนะคะ”ป้าเหมยบอกเสียงอาทร
“รู้ค่ะรู้ เกรซฟังประโยคนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนะคะป้า”
“นั่นแหละค่ะฟังอีกบ่อยๆ คุณหนูจะได้เลิกน้อยใจซะทีไงล่ะคะ”ป้าเหมยบอกเสียงอาทรไม่เปลี่ยน
“เอาล่ะ เอาล่ะ ป้าไม่กวนคุณหนูแล้วล่ะค่ะ คุณหนูก็ควรนอนได้แล้วนะคะ พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีก”ป้าเหมยพูดแล้วก็เดินออกจากห้องไป
เฮ้อ...ป้าเหมยนะ รู้ทันความในใจของเกรซจนได้ ก็รู้ทันมาตั้งแต่เกรซเด็กๆนั่นแหละ ป้าเหมยเข้าใจเกรซซะทุกอย่าง ทุกครั้งป้าเหมยจะคอยประนีประนอมให้กับเกรซเสมอ แต่เรื่องความเหงานี่มันไม่เข้าใครออกใครนะ เกรซน่ะอิจฉายัยนีลจะแย่ ที่พ่อและแม่ทั้งไปรับไปส่ง เกรซอยากมีแบบนั้นบ้าง ไม่ใช่แค่ลุงอี้ สามีป้าเหมย ที่พ่วงตำแหน่งพ่อบ้านและคนขับรถของเกรซไปในตัว คอยรับส่งตลอดเวลา วันนี้ได้ยินว่ายัยนีลได้กลับบ้านเองแล้วนี่ แต่เกรซก็ยังอิจฉานีลอยู่ดี บ่อยครั้งเวลาที่พ่อของนีลมารับ เกรซเห็นพ่อของนีลยกมือขึ้นขยี้หัวนีลอย่างเอ็นดู แล้วนีลก็ทำหน้ากระเง้ากระงอด งอนพ่อนั้น มันน่าอิจฉาที่สุด เกรซอย่างให้พ่อของเธอแสดงออกอย่างนั้นบ้างแทนที่จะแค่ส่งตุ๊กตาให้เธอแล้วบอกว่า”พ่อรักหนูนะเกรซ”
แม่ก็เหมือนกัน แม่รูปร่างอ้วนๆกลมๆของยัยนีลน่ะ แม้จะพูดมากไปบ้างก็ดีกว่าแม่ของเกรซที่เงียบๆทำตัวเป็นนักธุรกิจหญิงที่เก่งกาจ หากอยู่บ้านวันๆออกกำลังกายฟิตเนส จ้างคนมานวดหน้านวดตัวอยู่ที่บ้าน เพราะทุกอย่างต้องเพอร์เฟกซ์สำหรับแม่เสมอ และมักจะพูดกับเกรซแค่ว่า “แม่ภูมิใจในตัวลูกนะเกรซ”
ใครๆก็พากันอิจฉาเกรซ แต่เกรซก็อิจฉาคนอื่นในเรื่องเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระเหมือนกัน
“เฮ้อ...”เกรซถอนใจแล้วเดินไปที่เตียง หยิบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดู นอกจากรูปพ่อแม่แล้ว ยังมีรูป รูปหนึ่งที่เกรซมักจะหยิบมันมาดูเสมอ คือรูปเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ แล้วมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆขี่หลังอยู่ ในรูปเด็กทั้งสองคนยิ้มกว้างอย่างเบิกบาน.....
เด็กผู้ชายในรูปเป็นเด็กชายข้างบ้าน ที่โตขึ้นมาพร้อมกันกับเด็กผู้หญิงในรูป และเด็กผู้หญิงในรูปนั้นก็คือตัวเกรซเอง ตั้งแต่เล็กจนโตจนอายุ 16 เกรซก็มีพี่ชายคนนี้อยู่ข้างๆตลอดเวลาคอยเป็นเพื่อนเล่น คอยปลอบใจเธอ และสอนเรื่องต่างๆให้เธอรู้เสมอ ทุกครั้งที่เธอเหงา มีน้ำตา พี่ชายคนนี้จะคอยปลอบประโลมอยู่ข้างๆ หลายครั้งที่เธอไม่เข้าใจวิชาต่างๆที่เรียนมา พี่ชายคนนี้จะคอยสอนและอธิบายให้เธอเข้าใจ ทุกครั้งที่เธอไม่สบายพี่ชายคนนี้จะคอยอยู่ข้างๆจนกระทั่งเธอหลับไม่ว่าครั้งใดที่เธอต้องการมือหนึ่งมาช่วยฉุดให้เธอลุกขึ้นยืนหากเธอล้มลง มือนั้นก็จะเป็นของพี่ชายคนนี้เสมอ...
เกรซเลื่อนตัวลงไปนอนบนเตียงแต่ในมือก็ยังถือรูปรูปนั้นอยู่ แล้วเกรซก็พูดกับรูปเบาๆว่า... “พี่คะ...เกรซนอนแล้วนะคะ เกรซรักพี่ที่สุดเลยค่ะ พี่ได...”
แล้วเกรซก็บรรจงวางรูปนั้นไว้บนโต๊ะหัวเตียงอย่างแผ่วเบา...
**************************************************
รบกวนคอมเมนท์บ้างนะคะ เพิ่งแต่งเป็นเรื่องแรก ขอบคุณมากๆๆๆๆค่ะ
“และรางวัลสาวสวยประจำปีนี้ได้แก่ หมายเลข 47 นีล นีลเลล่า ของเรานี่เอง”
ฉันเดินออกไปรับมงกุฎ สายสะพาย ช่อดอกไม้ และเสียงปรบมือที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งหอประชุม
ด้วยใบหน้าที่ตกแต่งอย่างสวยงามโทนร้อนแต่ดูอบอุ่นส้มน้ำตาล ผมดัดเป็นลอนเล็ก ๆมีริบบิ้นผูกผมสีน้ำตาลทองเล็กๆ ผิวขาวเนียนออกชมพูทำให้ดูโดดเด่น และอยู่ชุดเดรสออกงาน ที่สุดแสนจะละลายใจหนุ่ม สาว ให้โหวตคะแนนให้ฉัน ชุดเดรสสีน้ำตาลชายกระโปรงจีบระบายซ้อนเป็นชั้น ช่วงบนเป็นเสื้อแขนกุดคอกว้างมีโบริบบิ้นเล็ก ๆ ตรงกลางหน้าอกเข้ารูปแบบพอดีตัว ต่อลงมาด้วยชายกระโปรงจีบระบายซ้อน 4ชั้น ชั้นที่ 2 เป็นลูกไม้สีน้ำตาลอ่อนลงมา ใส่เสื้อนอกคลุมเป็นไหมถักสีน้ำตาลตกแต่งด้วยเลื่มสีทอง ผ้าพันคอเลื่อมสีทอง รองเท้าผ้าพันลายดอกไม้สีแดง กระเป๋าสะพายข้อมือหนังแตกสีทอง
ชุดเดรสสีน้ำตาลของฉัน ชนะ ชุดเดรสคล้องคอสีขาวกระโปรงพลีทรอบตัว คาดเอวด้วยริบบิ้นสีดำของยัยเกรซ ตัวเก็งประจำปี สาวสวยที่ทุกคนชื่นชมยกย่องเอาใจดุจนางพญา แต่ฉันก็ชนะ!!!! ชนะยัยเกรซได้ ฮ่า ฮ่า อยากจะหัวเราะให้สวยขึ้นอีกสัก 100 เท่า แต่ก็ต้องเก็บอาการ และแล้วสิ่งที่ฉันหวังรองลงมาคือ รุ่นพี่ได หนุ่มสุดหล่อประจำโรงเรียน ก็มาพบฉันหลังจากฉันลงจากเวที
“นีล ฉันรักเธอ คบกับฉันได้มั้ย” “เธอน่ารักที่สุด” รุ่นพี่ไดกระซิบข้างฉันเบา ๆ
ฉันจะตอบรับรุ่นพี่ดีมั้ยนะฉันยังมีโอกาสเลือกอีกนี่นา ก็ฉันเป็นสาวสวยแล้วนี่ หนุ่ม ๆ ในโรงเรียนอยู่ในกำมือฉันแน่นอน แต่รุ่นพี่ก็เป็นชายหนุ่มสุดเท่ประจำโรงเรียนที่สาว ๆทั้งหลายใฝ่ฝันถึง และอยากจะได้มาไว้ในครอบครอง กันทั้งนั้น แม้แต่ยัยเกรซก็กำลังคั่วกับรุ่นพี่อยู่ !!!โอกาสนี่แหละ ฉันจะไม่ลังเลอีกต่อไป
“พี่ไดคะ ฉันก็.............”
!!!!??? “นีล ตื่นได้แล้ว นีล เดี๋ยวไปโรงเรียนสาย นะ นีล แม่จะไม่ปลุกแล้วนะ”
ปัง!!!!! เสียงแม่ปิดประตูห้องนอน หลังจากเปิดประตูมาปลุกฉันด้วยเสียงฟ้าผ่า
ฝัน ฝัน ฝันหรอเนี่ยโอย กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มอยู่แท้ๆ เชียว แม่นะแม่ จะมาปลุกช้ากว่านี้หน่อยก็ไม่ได้ จะนอนฝันต่อก็ไม่ได้ด้วย
“โอย เจ็ดโมงเช้าแล้วหรอนี่ ง่วงชะมัด” นีลหยิบนาฬิกาปลุกที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมาดู พร้อมกับบ่น แล้วลุกขึ้นเข้าห้องน้ำแปรงฟันอาบน้ำเพื่อที่จะไปโรงเรียน
ภาพของสาวน้อยหน้ากระจกตอนนี้ช่างต่างกับภาพในความฝันเมื่อครู่นี้อย่างสิ้นเชิง นีลไม่ได้เป็นสาวสวยในชุดเดรสสีน้ำตาลเหมือนในฝัน แต่เป็นเพียงสาวม.ปลายหน้าตาตกกระผมเส้นใหญ่ฟูที่ทำอะไรไม่ได้นอกมัดมันหรือถักเปียไว้แค่นั้น
ชุดนักเรียนเห่ยๆ แต่ถูกระเบียบในสายตาแม่และเหล่าอาจารย์ทั้งหลาย แขวนอยู่หน้าตู้ ไม่มีทางหรอกที่นีลจะตัดกระโปรงให้มันสั้นอีกนิด แม่คงไม่ยอมแน่ๆ นีลไม่อยากไปโรงเรียนเลย ก็นีลเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาตกกระ ผิวขาวซีด ไม่มีอะไรสะดุดตานี่นา ผิดกับยัยเกรซเจ้าหญิงประจำห้อง ประจำชั้น ไปจนถึงประจำโรงเรียนเลยมั้ง ที่มีแต่คนมาห้อมล้อม เทิดทูนบูชาล้อมหน้าล้อมหลังตลอดเวลา มีพี่ได เจ้าชายประจำโรงเรียนเคียงคู่ อาจารย์ก็มักจะชื่นชมบ่อยๆจนน่ารำคาญ แค่ยัยเกรซมีงานถ่ายแบบนิตยสาร 2 3 ฉบับ เท่านั้นเอง อาจารย์ก็เห็นว่าเป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน เชอะ!!! ก็แค่น่าตาดี สวย เรียนเก่ง เฮ้อชนะนีลหมดเลยนี่หว่า
“นีล ตื่นรึยังลงมาได้แล้ว คุณพ่อจะไปแล้วนะ” แม่ตะโกนขึ้นมาจากข้างล่าง
“เสร็จแล้วค่ะแม่ จะลงไปแล้วค่ะ” นีลตะโกนตอบแม่แล้วรีบวิ่งลงบันไดจากชั้นสองลงมา
“อ้อ นีล ช้าจังเลยนะเรา ไม่ทันแล้วคุณพ่อจะไปแล้วล่ะ เอาขนมปังกับนมไปกินในรถนะลูก” แม่พูดพลางส่งขนมปังกับนมมาให้นีล
“ทีหลัง ตื่นให้มันเร็วๆหน่อย” แม่บ่นต่อ
“ค่ะแม่ ไปนะคะ บ่นมากระวังพ่อเบื่อนะคะ” นีลบอกแม่ด้วยเสียงล้อเลียน
นีลลาแม่แล้วออกมาขึ้นรถที่พ่อนั่งประจำที่อยู่ที่นั่งคนขับ
“ไปเลยค่ะพ่อ เดี๋ยวพ่อจะสาย” นีลก้าวขึ้นมานั่งข้างคนขับ แล้วเร่งพ่อของเธอให้รีบไป
บนท้องถนนแม้จะยังเช้าอยู่ แต่รถก็ยิ่งวิ่งขวักไขว่บนท้องถนนแต่จากบ้านนีลไปถึงโรงเรียนก็ใช้ระยะเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น แต่ที่ต้องออกเช้าก็เพราะว่าที่ทำงานของพ่ออยู่ไกลออกไปอีก จริงๆแล้วนีลโตพอที่จะนั่งรถเมลล์มาโรงเรียนได้แล้ว แต่แม่ก็ยังไม่ยอมเพราะกลัวว่านีลจะเถลไถล โธ่..แม่นีลจะไปไหนได้ พ่อมารับนีลทุกเย็น ถ้าพ่อไม่มาแม่ก็มา แม้แม่จะอ้างด้วยเหตุผล 108 ก็เหอะ ว่ามาซื้อของบ้างล่ะ นัดเพื่อนบ้างล่ะ แล้วนีลจะไปไหนกับเพื่อนได้ล่ะ ทุกวันนี้เพื่อนมันเหม็นหน้านีลจะแย่แล้ว ชวนไปไหนก็ไปไม่ได้ อายุ 16 แล้ว พ่อแม่ยังตามรับตามส่งอยู่อีก เสื้อผ้าที่นีลใส่ก็แม่ซื้อให้ นีลไม่เคยได้เลือกเองหรอก ชุดดีที่สุดของแม่ กลายเป็นชุดที่แย่ที่สุดของเพื่อนเสมอ
“นีล วันนี้กลับเองนะลูก พ่อติดประชุมตอนเย็น คงมารับนีลไม่ได้” พ่อหันมาบอกนีล
“ค่ะพ่อ แต่พ่อบอกแม่แล้วหรอคะ เดี๋ยวแม่ว่าเอานะ” นีลแย้งแต่ก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ โอ้ยขนมปังแทบหล่นจากมือแหนะ
“พ่อคุยกับแม่แล้ว ลูกเองก็อายุ 16 แล้ว กลับบ้านเองได้แล้วมั้ง” พ่อบอกนีลแต่ยังไม่ทันจบประโยค...
“นีลไป-กลับโรงเรียนเองได้แล้วหรอคะพ่อ เย้ เย้” นีลถามแบบตัดกลางประโยคพ่อทันที
“ยังลูกยัง ยังก่อน ตอนขามาก็มากับพ่อก่อน ส่วนขากลับลูกก็กลับเอง ตกลงมั้ย”
“จริงหรือคะพ่อ” “แน่ใจนะคะว่าแม่อนุญาตแล้ว” “ชัวร์นะคะ”
“แม้....ลูกคนนี้ จริงสิเห็นพ่อเป็นอะไร จะโกหกลูกได้ไง” “แต่มีข้อแม้นะว่าต้องกลับบ้านก่อน 18.00 น. โรงเรียนนีลเลิก 15.30 น. พ่อกับแม่ให้อิสระนีลแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น คราวนี้ถึงนีลจะทำกิจกรรมที่โรงเรียนต่อพ่อก็ไม่ต้องนั่งรอแล้วไง แต่ต้องสัญญากับพ่อก่อนนะ” พ่อต่อรองหลังจากร่ายยาว
“สัญญาอะไรคะพ่อ”
“นีลต้องสัญญาก่อน ว่านีลจะต้องเป็นเด็กดี ห้ามเกเร อย่าทำให้พ่อแม่เสียใจนะลูก”
“โธ่...พ่อคะ 2 ชั่วโมงเนี่ย นีลจะไปทำอะไรได้คะ อย่างมากแค่เดินเที่ยวในเมืองกับเพื่อนๆ นั่งกินขนมที่ร้านกับเพื่อนๆเท่านั้น เพื่อนนะเบื่อนีลจะแย่แล้วค่ะ ชวนไปไหนนีลก็ไปไม่ได้” “นีลสัญญาค่ะพ่อนีลจะเป็นเด็กดี ไม่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ขอบคุณนะคะพ่อ เอ๊ะ...แต่แม่ไม่เห็นบอกอะไรนีลเลยล่ะคะ”
“แม่เค้าให้พ่อมาบอกนีลน่ะ แม่เค้ากลัวว่าถ้าแม่บอกเองแม่คงจะบ่นนีลไปเรื่อยๆแล้วคงกลับคำไม่อนุญาตแน่ๆ”
“นีลก็ว่างั้นแหละค่ะพ่อ นีลอาจจะกวนโมโหจนแม่เลิกอนุญาตแน่ๆเหมือนกัน” นีลงึมงำบอกกับพ่อ
***************************************************************
“นี่เพื่อนๆ วันนี้จะไปไหนกันดีล่ะ” นีลหันมาถามเพื่อนๆ หลังจากเรียนจบชั่วโมงแรก
“อะไรยะ ยัยนีล วันนี้มาแปลก ไปได้หรือยะ มาถามกันอย่างนี้” จีนพูดพลางพยักเพยิกกับเพื่อนๆในกลุ่ม “ไปได้สิ ที่บ้านอนุญาต แล้ว” นีลรีบบอก
“แน่นะ ไม่ใช่ตอนเย็นๆพ่อเธอมานั่งรอหน้าบานอยู่หน้าโรงเรียนอีกนะยะ”ลีลี่สำทับ
“ชัวร์หน่า ไม่งั้นชั้นไม่ชวนเองหรอกนะ”นีลรีบพูดเพราะกลัวว่าเพื่อนจะไม่เชื่อ
“งั้นวันนี้เราต้องฉลองให้เธอหน่อยแล้ว นะนีล”จีนบอกพร้อมทั้งแนะนำให้ไปที่ร้าน ‘พีชเค้ก’ ที่จีนและเพื่อนๆนิยมไปนั่งกินก่อนกลับบ้าน
แต่ยังไม่ทันที่ยัยจีนจะโม้จบ อาจารย์ฮัน ก็เดินเข้ามาในห้องเรียนพอดี เรื่องที่พูดกันจำเป็นต้องหยุดชะงักไปเพื่อเข้าเรียนในชั่วโมงต่อไปทันที
ระหว่างเรียนนีลนั่งฝันหวานถึงร้าน ‘พีชเค้ก’ ที่นีลไม่เคยได้ไปกินที่ร้านเลย จะได้กินเค้กของร้านนี้ก็ต่อเมื่อแม่หรือพ่อของเธอซื้อมาฝากเท่านั้น หลายครั้งที่นีลนั่งรถกลับกับพ่อแล้วผ่านร้านนี้ นีลจะเห็นเพื่อนนั่งกินเค้กสีหวานกับน้ำผลไม้สีสวยๆกันอย่างเอร็ดอร่อย คงมีเรื่องคุยกันหลายเรื่องที่นีลไม่รู้ และอีกหลายโต๊ะที่นีลเห็น สาวๆนั่งสะเทิ้นเขินอายอยู่ตรงหน้าชายหนุ่มที่มาด้วยกัน และบางครั้งนีลเห็น เกรซ กับรุ่นพี่ได นั่งกินเค้ก จิบชากันสองคนอย่างน่าอิจฉานัก แม้รุ่นพี่ไดจะมีสาวๆมาชอบหลายคน ก็มีเพียงไม่กี่คนที่รุ่นพี่ไดยอมไปเที่ยวด้วย แต่รุ่นพี่ไดก็ใจดีกับทุกคนเสมอ ถ้าสาวหน้าตกกระอย่างนีลจะขอไปเที่ยวกับรุ่นพี่ไดบ้างรุ่นพี่จะยอมหรือเปล่านะ
“ปัง ปัง ปัง” เสียงตบโต๊ะอยู่ตรงหน้านีลดังขึ้น
“นี่ นี่ ยัยนีล นังฝันหวานไปถึงไหนกันจ๊ะ ลุกขึ้นไปทำโจทย์ที่หน้ากระดานโน่นไป” อาจารย์ฮันทุบโต๊ะแล้วดุนีล
“ฮา.................”เพื่อนๆหัวเราะเยาะนีลกันทั้งห้อง
นีลอายจนหน้าขาวซีดของนีลแดงไปหมด หันไปดูรอบๆห้องเห็นยัยเกรซหัวเราะเยาะอยู่กับวารี่เพื่อนที่นั่งคู่กัน แย่จัง เมื่อหันมาดูโจทย์ในกระดานหน้าห้อง นีลเรียนมาแล้วนี่นา เฮ้อ...ยังดีนะที่แม่ส่งไปเรียนพิเศษวันเสาร์-อาทิตย์ไม่งั้นนะขายหน้าเพื่อนๆแน่เลย ถึงนีลจะไม่สวย แต่นีลก็ไม่โง่นะ ไม่งั้น นีลจะมาอยู่ห้องเด็กเก่งอย่างนี้ได้ไง แล้วอาจารย์ฮันน่ะ ขอให้ทำโจทย์ที่อาจารย์ตั้งได้เป็นพอ นีลจึงเดิน ไปทำโจทย์ที่หน้ากระดานทันที ระหว่างทำโจทย์อยู่ นีลได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินผ่านห้องไป จึงหันไปดู จึงเห็นว่ารุ่นพี่ได ที่นีลแอบใฝ่ฝันถึงเดินผ่านมาพอดี เมื่อตาประสานตา นีลจึงยิ้มให้ แล้วรุ่นพี่ไดก็ยิ้มให้นีลกลับมา ว้าว...วันนี้นีลคงมีความสุขไปทั้งวัน น่าขอบคุณอาจารย์ฮันจริงๆเลยที่ทำทำให้นีลได้มีโอกาส ตาสบตา ยิ้มส่งยิ้ม แค่นี้นีลก็ปลื้มสุดๆแล้ว
“นี่ ยัยนีล เมื่อไหร่จะทำเสร็จจ๊ะ ชั้นจะได้สอนต่อ” อาจารย์ทักเมื่อเห็นว่านีลหยุดชะงักไป
“ทำได้รึเปล่า ไม่งั้นชั้นจะให้คุณอื่นไปทำนะ”อาจารย์เริ่มเสียงเขียวเมื่อเห็นว่าลูกศิษย์ทำโจทย์ไม่ได้ซึ่งนั่นก็แสดงว่าลูกศิษย์ของเธอไม่ตั้งใจเรียนนั่นเอง
“ได้ค่ะอาจารย์ ได้ค่ะ หนูแค่ช้านิดเดียวเอง” นีลแย้ง
“ก็เร็วๆซีจ๊ะ ชั้นจะได้สอนต่อ”
แหม..อาจารย์คะอย่าดุนีลนักเลยค่ะเมื่อกี๊แค่นีลแว๊บใจไปนิดเดียวเอง แต่ยังงัยนีลก็ขอบคุณอาจารย์มากค่ะที่ทำให้นีลมีโอกาส อย่างนี้ นีลคิดอยู่ในใจ
หลังจากที่นีลทำโจทย์เสร็จแล้ว อาจารย์ก็เดินมาตรวจ เมื่อรู้ว่านีลทำถูกก็ให้นีลกลับไปนั่งเรียนตามปกติ และท้ายชั่วโมง อาจารย์ฮันก็บอกกับนักเรียนว่า อาจารย์ซิน ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องให้มาแจ้งว่าเย็นนี้หลังเลิกเรียนให้นักเรียนเข้าหอประชุมโรงเรียนทันที โรงเรียนจะมีประกาศบางอย่าง และอาจารย์ซินจะคอยนักเรียนอยู่ที่นั่น
“โห....”เสียงบ่นของนักเรียนทั้งห้องดังขึ้น
“นี่ยัยนีล ฤกษ์ฉลองที่ได้กลับบ้านเองของเธอ เสียหมดแล้ว” จีนหันมาพูดกับนีลทันทีที่อาจารย์ฮันเดินออกจากห้องไป
“นั่นสิ...ชั้นจะชวนพวกเธอไปร้านสปาที่เปิดใหม่สำหรับสาววัยรุ่นอย่างเราด้วย”ลีลี่บอก
“แย่เลย...เซ็งสุด” ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน
หลายคนในห้องก็บ่นอย่างนั้น
“แต่ว่า...วันนี้พวกอาจารย์เค้าเรียกประชุมกันทำไมนะ” เพื่อนคนหนึ่งในห้องพูดขึ้น แต่ทุกคนในห้องก็ไม่มีใครรู้ว่าทางโรงเรียนจะประกาศเรื่องอะไร
เมื่อหมดชั่วโมงเรียนแล้วยังต้องเรียนต่อไปอีก 1 ชั่วโมงกว่าจะพักกลางวัน และต้องเรียนต่อไปอีก 3 ชั่วโมงกว่าโรงเรียนจะเลิก........
***************************************************
“ที่ทางโรงเรียนเรียกนักเรียนมาประชุมกันในวันนี้ เพื่อที่จะแจ้งให้ทราบทั่วกันว่า อีก 2 เดือนจะถึงช่วงจัดงานประจำปีของโรงเรียนแล้ว ทางโรงเรียนกำหนดให้มีงานออกร้านต่างๆขึ้น ซึ่งแต่ละห้องจะต้องจัดงานออก ร้านต่างๆห้องละ 1ร้าน งานออกร้านนี้ ให้เฉพาะชั้นปีที่ 4-6 เท่านั้น และปีนี้ก็เช่นเคยทางโรงเรียนอนุญาตให้พาครอบครัวหรือเพื่อนต่างโรงเรียนเข้ามาเที่ยวได้” เสียงประกาศจากอาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนดังขึ้นทันทีที่นักเรียนทุกคนประจำที่ในแถวของห้องตัวเองอย่างเรียบร้อย
“ขอให้นักเรียนเตรียมจัดงานอย่างเป็นระเบียบ อย่าสร้างความวุ่นวายให้กับทางโรงเรียนเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นทางโรงเรียนจะงดการจัดงานประจำปีทันที และทางโรงเรียนจะแจ้งรายละเอียดต่างๆให้ทราบเป็นระยะ”
“ดังนั้นวันนี้ ขอให้แต่ละห้องของปีที่4-6 ส่งตัวแทนมาจับฉลากพื้นที่ ที่ห้องของตัวเองจะได้จัดงานด้วย”
เมื่ออาจารย์ใหญ่จอบเฮี๊ยบ สงสัยจะอยู่ในวัยหมดประจำเดือนเลยดุสุดๆ พูดจบลงเสียงนักเรียนก็พูดคุยกันดังลั่นหอประชุมไปหมด ทั้งนักเรียนปีที่ไม่จัดงานออกร้านโวยวายเพราะอยากจะจัดงานบ้าง ส่วนนักเรียนปีที่ได้จัดงานก็เริ่มจับกลุ่มกันพูดคุยถึงเรื่องงานที่ว่าห้องตัวเองจะจัดอะไรดีในงานโรงเรียนประจำปีนี้
“นี่พวกเธอ เงียบๆหน่อย ส่งตัวแทนมาจับฉลากพื้นที่ได้แล้ว และอยู่ในความสงบด้วย” อาจารย์ใหญ่พูดออกมาอย่างทนไม่ได้ เมื่อเสียงพูดคุยของนักเรียนเริ่มดังขึ้น ดังขึ้น และดังขึ้น...
เมื่อแต่ละห้องส่งตัวแทนไปจับฉลากพร้อมรับแผนที่พื้นที่ที่จะจัดงาน ก็มีเสียงกรี๊ด สลับกับเสียงโห่ เสียงบ่นของเพื่อนนักเรียนร่วมห้องเมื่อตัวแทนของห้องตัวเองลงมาจากเวทีที่ขึ้นไปจับฉลาก ที่กรี๊ดก็เพราะห้องตัวเองได้พื้นที่ด้านหน้าเป็นพื้นที่ ดีดีที่ทุกคนต้องการ ส่วนที่โห่หรือรุมสกรัมกับคนจับฉลากเล่นๆก็เพราะได้พื้นที่ด้านหลังหรือเป็นมุมอับ
“เงียบๆหน่อยได้มั้ย พวกเธอหูอาจารย์จะแตกแล้วนะ” “เงียบ! แล้วฟังทางนี้” ครูใหญ่พูดอีกครั้ง
“เมื่อทุกคนได้พื้นที่แล้ว ให้ปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษาก่อน เพื่อที่พวกเธอจะได้รู้ว่ากิจกรรมแบบไหนที่ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้จัดขึ้นนะ เมื่ออาจารย์ของพวกเธออนุญาตแล้วให้มาแจ้งได้ที่กองกิจกรรมได้เลย แจ้งก่อนได้ก่อน นะ จะอนุญาตให้ซ้ำกันได้ไม่เกิน3ร้านเท่านั้นนะจ๊ะ” อาจารย์ใหญ่แจ้งรายละเอียดต่อหลังจากที่เห็นว่าทุกห้องได้จับฉลากหมดแล้ว
“เอาล่ะทุกคนกลับบ้านได้” “แล้ว รีบมาแจ้งล่ะ” อาจารย์ใหญ่สำทับอีกครั้ง
*******************************************************
“กลับมาแล้วค่ะ” นีลตะโกนบอกแม่ขณะที่ถอดรองเท้าอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน
“กลับมาแล้วเหรอจ๊ะ เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมากินข้าวเลยนะนีล วันนี้คุณพ่อกลับช้ามากินข้าวกับแม่เลยไม่ต้องรอ”แม่ตะโกนตอบนีลมาจากข้างในบ้าน
สงสัยแม่คงจะอยู่ในครัว เฮ้อ...เซ็ง อุตส่าห์ได้กลับบ้านเองวันแรกดันต้องไปยืนฟังประกาศของโรงเรียนจนอดไปร้านพีชเค้กเลย แล้วปีนี้เป็นปีแรกที่เราจะได้จัดงานออกร้านด้วย เมื่อก่อนตอนเป็นรุ่นน้องก็เดินเที่ยวงานของรุ่นพี่ซะเพลิน ปีนี้ห้องเราจะจัดอะไรนะ พรุ่งนี้อาจารย์ที่ปรึกษาคงเรียกประชุม แต่นีลก็คงไม่ได้เป็นตัวเด่นนักหรอก คนที่เด่นก็คงเป็นยัยเกรซอีกแน่นอน แล้วห้องรุ่นพี่ไดจะทำอะไรนะจะได้ไปเที่ยวบ้าง นีลคิดอะไรเรื่อยเปื่อยขณะที่เปลี่ยนเสื้อผ้า และเมื่อปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วจึงรีบลงมาหาแม่ข่างล่าง
“แม่คะ” นีลเรียก
“ลงมาแล้วหรือลูก มากินข้าวกันเลยจ๊ะ” แม่พูดพลางตักข้าวใส่จานที่วางเตรียมไว้บนโต๊ะ
“หอมจังเลยค่ะแม่” นีลชม
“ไม่ต้องมาชมเลยจ๊ะ จะประจบเอาอะไรกับแม่ล่ะ” “แล้ววันนี้ไปไหนมาบ้างจ๊ะ แม่ปล่อยให้กลับเองเนี่ย” แม่ถามต่อเหมือนรอที่จะถามตั้งแต่นีลเดินเข้าประตูบ้านมาแล้ว
“แหม...ทีเดาข้อสอบไม่เห็นถูกอย่างนี้บ้าง คิดไว้แล้วว่าแม่ต้องถาม” นีลพูดอย่างรู้ทัน
“ก็ไม่ได้ไปไหนหรอกค่ะแม่ เลิกเรียนที่โรงเรียนเค้าให้ไปประชุมต่อทั้งโรงเรียนเลย กว่าจะเลิกก็เย็นแล้ว นีลก็นั่งรถเมลล์กลับบ้านเลยค่ะ ไม่ได้ไปไหน” นีลอธิบายต่อพร้อมกับเล่าเรื่องที่โรงเรียนประกาศให้แม่ฟัง
“ก็ดีแล้ว...ที่แม่อนุญาต ก็เพราะแม่ไม่อยากจะกักนีลไว้ นีลเองก็อายุ 16 แล้ว นีลก็คงอยากมีอิสระ มีเวลาของตัวเองบ้าง แต่ต้องสัญญา...”
ยังไม่ทันที่แม่จะพูดจบ
“พอเลยค่ะแม่ นีลสัญญาค่ะ นีลสัญญาไปกับคุณพ่อแล้ว แม่ไม่ต้องห่วงค่ะ นีลรู้หรอกหน่า” นีลรีบบอก
“โอเค โอเค จ๊ะ แม่เชื่อใจนีล” แม่บอกด้วยน้ำเสียง จริงใจและยิ้มให้ “กินข้าวเถอะจ๊ะ” แม่พูดพลางตักปีกไก่ทอดให้นีล
***********************************************************************
‘เกรซ’ สาวสวยที่ใครๆชื่นชมนักหนา กำลังนั่งมองตัวเองที่อยู่ในกระจก ใบหน้ารูปไข่ได้รูปรับกับผมที่ยาวตรงมาถึงกลางหลัง รอบห้องของเกรซเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่พ่อกับแม่เธอซื้อมาให้ เมื่อเธอทำผลงานหรือสร้างชื่อเสียงให้กับครอบครัว พ่อแม่ของเกรซ ทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว พ่อกับแม่จึงไม่ค่อยได้อยู่บ้านมากนัก วันนี้บินไปฮ่องกง พรุ่งนี้บินไปญี่ปุ่น เป็นอย่างนี้อยู่ประจำ แต่สิ่งเดียวที่พ่อกับแม่ของเกรซไม่เคยลืม คือการวางกฏระเบียบต่างๆไว้ให้เธอ ถึงแม้ว่าเกรซจะมีอิสระในการได้เดินทางไปไหนต่อไหน แต่เกรซก็ต้องเข้าเรียนตามโปรแกรมต่างๆตามที่พ่อกับแม่ของเธอสมัครไว้ให้ วันๆเธอเห็นหน้าลุงอี้คนขับรถของเธอมากว่าพ่อกับแม่ของเธอซะอีก
แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกนะ ทุกคนคงเห็นภาพเกรซกับครอบครัวที่ดูอบอุ่นอยู่เสมอ ทุกครั้งที่เกรซรับเกียรติประวัติต่างๆ พ่อกับแม่ของเธอจะว่างเสมอ แม้ว่าจะยุ่งสักเพียงใด แต่เมื่อไหร่ที่เธอไม่สบาย บ่อยครั้งสิ่งที่เกรซได้รับนอกจากยา ก็คือตุ๊กตาที่พ่อกับแม่เธอส่งมาให้แทนตัวเองที่กลับมาดูแลไม่ได้
“ก๊อก ก๊อก ก๊อก”
“คุณหนูคะ” “คุณหนู” “ป้าเข้าไปนะคะ”
“ค่ะป้าเหมย เข้ามาเลยค่ะ” เกรซร้องบอก
“ป้าเอานมอุ่นๆมาให้คุณหนูค่ะ แล้วก็คุณแม่โทรมาบอกว่าคงต้องอยู่ฮ่องกงต่ออีก 2 วันค่ะ”ป้าเหมยแม่บ้านที่เกรซเห็นมาตั้งแต่เกิดบอกพร้อมกับส่งนมให้เกรซ
“อีกแล้วหรือคะ ป้าเหมย เกรซว่า เกรซเห็น ป้าเหมยกับลุงอี้มากกว่าพ่อกับแม่ซะอีกนะคะ” เกรซพูดแบขำขำ
“โธ่..คุณหนูของป้าเหมย พูดอะไรอย่างนั้นคะ คุณพ่อกับคุณแม่ทำงานหนักก็เพื่อคุณหนูนะคะ”ป้าเหมยบอกเสียงอาทร
“รู้ค่ะรู้ เกรซฟังประโยคนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วนะคะป้า”
“นั่นแหละค่ะฟังอีกบ่อยๆ คุณหนูจะได้เลิกน้อยใจซะทีไงล่ะคะ”ป้าเหมยบอกเสียงอาทรไม่เปลี่ยน
“เอาล่ะ เอาล่ะ ป้าไม่กวนคุณหนูแล้วล่ะค่ะ คุณหนูก็ควรนอนได้แล้วนะคะ พรุ่งนี้ยังต้องไปโรงเรียนอีก”ป้าเหมยพูดแล้วก็เดินออกจากห้องไป
เฮ้อ...ป้าเหมยนะ รู้ทันความในใจของเกรซจนได้ ก็รู้ทันมาตั้งแต่เกรซเด็กๆนั่นแหละ ป้าเหมยเข้าใจเกรซซะทุกอย่าง ทุกครั้งป้าเหมยจะคอยประนีประนอมให้กับเกรซเสมอ แต่เรื่องความเหงานี่มันไม่เข้าใครออกใครนะ เกรซน่ะอิจฉายัยนีลจะแย่ ที่พ่อและแม่ทั้งไปรับไปส่ง เกรซอยากมีแบบนั้นบ้าง ไม่ใช่แค่ลุงอี้ สามีป้าเหมย ที่พ่วงตำแหน่งพ่อบ้านและคนขับรถของเกรซไปในตัว คอยรับส่งตลอดเวลา วันนี้ได้ยินว่ายัยนีลได้กลับบ้านเองแล้วนี่ แต่เกรซก็ยังอิจฉานีลอยู่ดี บ่อยครั้งเวลาที่พ่อของนีลมารับ เกรซเห็นพ่อของนีลยกมือขึ้นขยี้หัวนีลอย่างเอ็นดู แล้วนีลก็ทำหน้ากระเง้ากระงอด งอนพ่อนั้น มันน่าอิจฉาที่สุด เกรซอย่างให้พ่อของเธอแสดงออกอย่างนั้นบ้างแทนที่จะแค่ส่งตุ๊กตาให้เธอแล้วบอกว่า”พ่อรักหนูนะเกรซ”
แม่ก็เหมือนกัน แม่รูปร่างอ้วนๆกลมๆของยัยนีลน่ะ แม้จะพูดมากไปบ้างก็ดีกว่าแม่ของเกรซที่เงียบๆทำตัวเป็นนักธุรกิจหญิงที่เก่งกาจ หากอยู่บ้านวันๆออกกำลังกายฟิตเนส จ้างคนมานวดหน้านวดตัวอยู่ที่บ้าน เพราะทุกอย่างต้องเพอร์เฟกซ์สำหรับแม่เสมอ และมักจะพูดกับเกรซแค่ว่า “แม่ภูมิใจในตัวลูกนะเกรซ”
ใครๆก็พากันอิจฉาเกรซ แต่เกรซก็อิจฉาคนอื่นในเรื่องเล็กๆน้อยๆที่คนอื่นเห็นว่าเป็นเรื่องไร้สาระเหมือนกัน
“เฮ้อ...”เกรซถอนใจแล้วเดินไปที่เตียง หยิบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะหัวเตียงขึ้นมาดู นอกจากรูปพ่อแม่แล้ว ยังมีรูป รูปหนึ่งที่เกรซมักจะหยิบมันมาดูเสมอ คือรูปเด็กผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ แล้วมีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆขี่หลังอยู่ ในรูปเด็กทั้งสองคนยิ้มกว้างอย่างเบิกบาน.....
เด็กผู้ชายในรูปเป็นเด็กชายข้างบ้าน ที่โตขึ้นมาพร้อมกันกับเด็กผู้หญิงในรูป และเด็กผู้หญิงในรูปนั้นก็คือตัวเกรซเอง ตั้งแต่เล็กจนโตจนอายุ 16 เกรซก็มีพี่ชายคนนี้อยู่ข้างๆตลอดเวลาคอยเป็นเพื่อนเล่น คอยปลอบใจเธอ และสอนเรื่องต่างๆให้เธอรู้เสมอ ทุกครั้งที่เธอเหงา มีน้ำตา พี่ชายคนนี้จะคอยปลอบประโลมอยู่ข้างๆ หลายครั้งที่เธอไม่เข้าใจวิชาต่างๆที่เรียนมา พี่ชายคนนี้จะคอยสอนและอธิบายให้เธอเข้าใจ ทุกครั้งที่เธอไม่สบายพี่ชายคนนี้จะคอยอยู่ข้างๆจนกระทั่งเธอหลับไม่ว่าครั้งใดที่เธอต้องการมือหนึ่งมาช่วยฉุดให้เธอลุกขึ้นยืนหากเธอล้มลง มือนั้นก็จะเป็นของพี่ชายคนนี้เสมอ...
เกรซเลื่อนตัวลงไปนอนบนเตียงแต่ในมือก็ยังถือรูปรูปนั้นอยู่ แล้วเกรซก็พูดกับรูปเบาๆว่า... “พี่คะ...เกรซนอนแล้วนะคะ เกรซรักพี่ที่สุดเลยค่ะ พี่ได...”
แล้วเกรซก็บรรจงวางรูปนั้นไว้บนโต๊ะหัวเตียงอย่างแผ่วเบา...
**************************************************
รบกวนคอมเมนท์บ้างนะคะ เพิ่งแต่งเป็นเรื่องแรก ขอบคุณมากๆๆๆๆค่ะ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น