ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    So hot series.. รักป่วนกวนหัวใจนายเพลย์บอย

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 5 --> : ลี้ภัย

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 55


     



    So hot series 
    ..รักป่วนกวนหัวใจนายเพลย์บอย..

      





    M U S I C CAFE : LUN LA




     ...  ...








    Chapter 5






    ลี้ภัย

    “นั่นมันอาจารย์นายไม่ใช่อาจารย์ฉัน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับฉัน เพราะฉะนั้นปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ”    

                    “เธอแน่ใจนะว่าไม่เกี่ยวกับเธอ เรื่องนี้เธอเป็นตัวก่อเรื่องชัดๆ เลยนะยัยตัวแสบ”

                    “ก็..!!

                    “ไม่ต้องมาเถียง เข้าไปเร็วเข้า ก่อนที่ตาอาจารย์โหดนั่นจะตามมาลากเราเข้าห้องปกครอง คราวนี้เรื่องได้ถึงโรงเรียนเธอแน่”
                    ไทเปไม่ฟังอะไร ตอนนี้เขาจัดฉันยัดใส่รถสปอร์ทคันสวยราคาหลายล้านของเขา อีตานี่เป็นเด็กมัธยมไม่ใช่เหรอ ทำไมขับรถราคาแพงอย่างนี้ล่ะ แพงกว่าบ้านฉันทั้งหลังอีกมั้งเนี่ย

                    “นายจะพาฉันไปไหน”
                    “ไม่ต้องพูดมาก หุบปากแล้วนั่งนิ่งๆ”

                    แงๆ นายไทเปมันหันมาตะคอกฉัน วิญญาณซาตานที่ไหนสิงมันเนี่ย ทำไมดุนักอ่ะ T___T

                    สุดท้ายฉันก็ต้องยอมหุบปากแล้วยอมนั่งมาในรถของไทเป ตลอดทางเขาไม่ได้พูดอะไรกับฉันเลยซักคำเดียวเหมือนว่าเขากำลังใช้ความคิดอะไรอยู่อย่างนั้นแหละ แล้วฉันก็ไม่กล้าที่จะถามด้วย เพราะดูไทเปจะโมโหมากที่ฉันทำให้เขาเดือดร้อน แต่อย่างน้อยเขาก็น่าจะบอกฉันซักคำสิว่าเขาจะพาฉันไปไหน เกิดเขาพาฉันไปขายฉันไม่แย่เรอะ

                    “ถึงแล้ว ลงไปซะ”
                    “ที่นี่ที่ไหนอ่ะ”

                    “คอนโดฉันเอง”

                    หา?? คอนโดนายไทเปงั้นเรอะ นี่เขาจะพาฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ย หรือว่าเขาจะพาฉันมาจุดจุดจุด อ้าย!! ไม่นะ ลืมคิดไปซะสนิทเลยว่าเขาเป็นเสือผู้หญิงนี่นา เวอร์จิ้นน้อยๆ ของฉันจะต้องมาเสียให้อีตาบ้านี่อย่างนั้นเหรอ ม่ายยยย

                    “นี่มัวทำอะไรอยู่ ฉันบอกให้ลงไปไง”

                    เมื่อเห็นฉันนั่งไม่กระดุกกระดิก อีตาไทเปเลยหันมาแหวใสฉันอีกรอบ

                    “ไม่ ฉันไม่ลง นายพาฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ย”

                    “ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า”

                    “ฉันจะเชื่อนายได้ยังไงเล่า”

                    ไทเปหันมามองหน้าฉันอย่างใช้ความคิดนิดนึง ก่อนจะกระตุกยิ้มที่มุมปากแบบเจ้าเล่ห์ แต่ฉันเห็นแววตาเขามันดูขันๆ นะ

                    “ยิ้มอะไรไม่ทราบยะ”

                    “ก็เธอน่ะคิดอะไรอยู่ เธอกำลังคิดว่าฉันจะพาเธอมาทำอะไรมิดิมิร้ายอย่างนั้นเรอะ”

                    “ก็..”

                    “จะบอกอะไรให้นะ หุ่นประถมนมอนุบาลแบบเธอ จ้างให้ฉันก็ไม่สนหรอก มองตรงไหนก็ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง ไม่น่าเร้าใจสักนิด”

                    =’’= หุ่นประถมนมอนุบาลอย่างนั้นเรอะ มากไปแล้วนะไอ้บ้าไทเป

                    “นี่มันจะมากไปแล้วนะนายไทเป พูดอย่างกับฉันอยากจะให้นายสนอย่างนั้นแหละ หนอยไอ้โรคจิต ไอ้บ้ากาม ไอ้ๆๆ”

                    “หยุดพูดแล้วลงจากรถซะก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจแล้วทำอะไรเธอ”

                    ไทเปไม่พูดเปล่า เขายังยื่นหน้าเข้ามาหาฉันอีก >x< อ้ายย ไหนบอกไม่สนฉันยังไงละยะ

                    ฉันจึงรีบกระโดดลงจากรถทันทีก่อนที่ไอ้คนตัวใหญ่กว่าจะทำอย่างที่พูดจริงๆ ไทเปก้าวลงจากรถตามมา ฉันเห็นเขาแอบยิ้มด้วยแหละ ขำมากสินะที่หลอกให้ฉันกลัวได้อ่ะ

                    “ตามมา”
                    ฉันตั้งสติแล้วยอมเดินตามนายไทเปไปช้าๆ จนถึงห้อง ไม่อยากเรื่องมากเพราะรู้ดีว่าไอ้การอยู่กับตัวอันตรายแบบนายนี่มันเสี่ยงต่อความปลอดภัยแค่ไหน ฉะนั้นสงบไว้ท่าจะดีกว่า

                    ฉันมองสำรวจภายในห้องพักของไทเปเมื่อเก้าเข้ามาถึง ห้องพักหรูหรากว้างขวางถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์โทนสีเข้มในแบบผู้ชาย เน้นสีเทาและสีดำเป็นหลักบวกกับความเก๋ของการจัดวางอีกทั้งยังมีระเบียบจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นห้องของผู้ชาย ส่งผลให้ห้องนี้ดูดีมีระดับมากเลยทีเดียว

                    “นายพาฉันมาที่นี่ทำไม”

                    ฉันถามนายไทเปไปทันทีที่เข้ามาภายในห้อง ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าไม่ได้คิดจะทำอะไรจุดจุดจุดกับฉัน แต่ถึงยังไงการที่ฉันต้องมาอยู่กับเขาสองต่อสองในคอนโดนี้มันก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี

                    “เธอต้องอยู่ที่นี่”

                    “ห๊า! นายว่าอะไรนะ”

                    อีตานี่เพี้ยนไปแล้วหรือไงที่อยู่ๆ จะมาบอกให้ฉันอยู่ที่คอนโดนี่กับเขา

                    “เธอฟังไม่ผิดหรอกเธอต้องอยู่ที่นี่กับฉัน”

                    “พูดบ้าๆ เรื่องอะไรฉันต้องอยู่กับนายไม่ทราบ”

                    “ฉันก็ไม่ได้อยากจะให้เธออยู่นักหรอกนะถ้าเธอไม่ไปก่อเรื่องไว้ซะขนาดนั้น”

                    “แล้วมันเกี่ยวอะไรกันเล่า”

                    “เธอไม่รู้หรือไงว่าพ่อของซีเนียร์เขามีอิทธิพลมากขนาดไหน การที่เธอไปก่อเรื่องกับลูกสาวเขาไว้ขนาดนั้น คิดเหรอว่าเขาจะยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ น่ะ”
                    นี่ไทเปกำลังจะบอกว่า การที่เขาบังคับให้ฉันมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อเป็นการช่วยฉันอย่างนั้นสินะ

                    “นายกำลังช่วยฉันอย่างนั้นเหรอ”

                    “ก็ไม่อยากจะช่วยเท่าไหร่หรอก ถ้าต้นหอมกับอาฟเตอร์ไม่สั่งมาให้ฉันดูแลเธอ จ้างให้ฉันก็คงไม่สน”

                    หนอยอีตาบ้า ฉันเกือบหลงผิดคิดว่าเป็นคนดีอยู่แล้วเชียว ว่าแล้วว่าคนอย่างตานี่ไม่น่าจะทำอะไรดีๆ เป็น

                    “ในเมื่อนายไม่เต็มใจสักนิด งั้นฉันก็จะไม่อยู่ที่นี่”

                    “อยากตายมากนักรึไงหา บอกแล้วไงว่าพวกนั้นไม่ปล่อยเธอไว้แน่”

                    ฉันหันหลังจะเดินออกมาจากห้องแต่ถูกอีตาไทเปคว้าแขนฉันไว้ซะก่อน แถมยังดึงฉันจนปลิวไปแปะอยู่บนอกเขาอีก

                    “ฉันดูแลตัวเองได้ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ”

                    ฉันพยายามแกะแขนออกจากการเกาะกุมของนายไทเป แต่พยายามเท่าไหร่ก็ไม่เป็นผล อีตาบ้านี่ท่าจะเป็นญาติกับตุ๊กแกแฮะ เหนียวแน่นหนึบชะมัดเลย =,=

                    “เธอนี่ดื้อจริงๆ เลยนะยัยตัวแสบ”

                    “จะทำอะไรน่ะ ว้าย!! ปล่อยฉันนะ”

                    แล้วอยู่อยู่ฉันก็โดนนายไทเปอุ้ม(อีกแล้ว) แต่คราวนี้ดีหน่อยที่มันไม่ใช่ท่าตีลังกาห้อยหัวโชว์บั้นท้ายเย้ยฟ้าท้าดินแบบคราวก่อน เขาช้อนตัวฉันขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วพาเดินมาที่ห้องห้องหนึ่ง ดูจากสภาพแล้วน่าจะเป็นห้องนอน O_O!! นายนี่พาฉันมาที่นี่ทำไมเนี่ยหรือว่าจะทำมิดีมิร้ายอะไรฉัน คิดได้ดังนั้นฉันก็เริ่มดิ้นอีกครั้ง

                    “นี่นายพาฉันมาในนี้ทำไม คิดจะทำอะไร ปล่อยนะ”

                    ดิ้นๆๆๆ

                    “นี่หูหนวกรึไงบอกให้ปล่อยไงล่ะ”

                    ไทเปไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่พาฉันเดินต่อมาที่เตียงขนาดคิงไซส์ จากนั้นก็จัดการโยนฉันลงบนเตียงอย่างแรง

                    แอ๊ก!! จุก T__T

                    “ไอ้บ้าปล่อยมาได้ เจ็บนะ”

                    “อ้าวก็เห็นเธอบอกให้ปล่อย ฉันก็ปล่อยแล้วไง”

                    ดูมันกวนบาทา -___-“

                    “ฉันบอกให้ปล่อย ไม่ได้บอกให้โยนลงมาแบบนี้เว้ยยยย”

                    “ไม่ต้องพูดมาก ไปจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไปมีเรื่องมาตอนนี้ตัวเธอมอมอย่างกับลูกหมา”

                    “ฉันไม่อาบ ฉันจะกลับบ้าน”

                    “เลือกเอา! จะอาบเองหรือจะให้ฉันอาบให้”

                    เฮือกก นายไทเปดุอีกแล้วอ่ะ ไอ้บ้านี่กินไรเข้าไปฟะ

                    เมื่อเห็นว่าฉันไม่ตอบนายนั่นก็เลยก้าวฉับๆ ไปที่ประตู ก่อนจะปิดยังพูดทิ้งท้ายไว้อีกว่า

                    “เสื้อผ้าอยู่ในตู้ฝั่งซ้าย เลือกใส่ได้ตามสบาย อ้อแล้วก็อย่าแม้แต่จะคิดที่จะหนี เพราะถ้าเธอทำอย่างนั้นฉันเองก็ไม่รับรองว่าจะเกิดอะไรกับเธอบ้างเข้าใจไหม”

                    “ปัง!

                    แล้วมันก็ปิดประตูไป แต่เดี๋ยวก่อนสิ ฉันจะยอมง่ายๆ แบบนี้นะเหรอ

                    ฉันกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งตามไปเพื่อที่จะเปิดประตู แต่แล้วก็พบว่าประตูมันไม่สามารถจะเปิดได้เพราะมันได้ถูกล๊อกจากด้านนอก

                    “นี่ไทเป เปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ นายจะมาขังฉันไว้ในห้องอย่างนี้ได้ไง ฉันยังต้องไปโรงเรียนอยู่นะ”

                    “เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงฉันจะจัดการให้เธอเอง ตอนนี้เธอไปอาบน้ำให้เรียบร้อยซะ อีกครึ่งชั่วโมงฉันจะมาเปิดประตูให้ แล้วถ้าฉันมาแล้วเธอยังไม่อาบ ฉันจะอาบให้เธอจริงๆ แน่ เข้าใจไหมยัยแสบ”

                    แล้วฉันก็ได้ยินเสียงนายไทเปผิวปากเดินห่างประตูออกไปอย่างอารมณ์ อีตาบ้าตะกี้ยังทำดุใส่ฉันอยู่เลยแล้วตอนนี้มาผิวปากทำไมยะ ฉันอยากฆ่านายจริงๆ ไทเป!!

     

                    แล้วสุดท้ายฉันก็ต้องยอมทำตามคำสั่งอีตานั่นแบบจำยอม หลังจากอาบน้ำเสร็จฉันก็ไปเลือกเสื้อผ้ามาใส่ ที่ห้องอีตานี่มีเสื้อผ้าผู้หญิงด้วยแฮะสงสัยจะพาผู้หญิงมานอนบ่อย แต่เสื้อผ้าแต่ละตัวนี่สิ ทำไมมันถึงได้โป๊แบบนี้ แล้วอย่างนี้ฉันจะใส่เข้าไปได้ยังไง แต่ละตัวคว้านลงไปแทบจะถึงสะดือ =,.=

                    และสุดท้ายฉันก็เลือกที่จะใส่ชุดแซกสายเดียวสีชมพู ถึงมันจะสั้นไปหน่อยแต่มันก็คงดูเรียบร้อยที่สุดในบรรดาชุดทั้งหลายแล้วแหละ ผ่านไปครึ่งชั่วโมงพอดี

                    “เสร็จรึยัง”

                    นายไทเปมาเคาะห้องอย่างรู้เวลา อีตานี่นั่งจับเวลาอยู่รึเปล่าเนี่ย

                    “เสร็จแล้วๆ”

                    ฉันวิ่งมาหยุดอยู่ที่ประตูเป็นจังหวะที่นายไทเปเปิดประตูพอดี อีตานี่มองฉันอย่างอึ้งๆ แถมยังหน้าแดงอีก จะหน้าแดงทำไมยะ

                    “มองอะไร”

                    ฉันเอ่ยถามออกไปเมื่อเห็นว่าไทเปยังยืนค้างอยู่ที่ประตูโดยไม่มีท่าทีที่จะขยับให้ฉันเดินออกไปไหน พอได้ยินฉันเรียกเหมือนว่าอีตานั่นจะได้สติกลับมานิดนึงเลยพูดออกมาแก้เก้อว่า

                    “ใครใช้ให้เธอแต่งตัวแบบนี้กันหา”

                    “แต่งแบบนี้?”

                    ฉันก้มลงมองชุดที่ตัวเองใส่อย่างงงๆ แต่งแบบนี้มันทำไมเหรอ ก็เขาเป็นคนบอกให้ฉันเอาเสื้อผ้าในตู้นั่นมาใส่เองนี่ เขาก็น่าจะรู้ดีนี่นาว่าเสื้อผ้ามันเป็นแบบไหน

                    ฉันเงยหน้ามาเพื่อที่จะเถียงแต่ก็พบว่าไทเปได้มองฉันอยู่ก่อนแล้ว มองแบบสำรวจชนิดที่ว่าคนถูกมองอย่างฉันต้องหลบสายตาเลย อีตาบ้าฉันเป็นผู้หญิงนะนายมาใช้สายตาแบบนั้นมองฉันได้ยังไงกัน อายโว้ยย >///<

                    “ใส่ซะมันโป๊”

                    แล้วอยู่ๆ อีตานั่นก็โยนเสื้อตัวนอกมาใส่หัวของฉัน เสื้อเขาหอมจังเลยแฮะ -,.-

                    ฉันรับเสื้อของไทเปมาใส่อย่างเขินๆ ไม่ว่าทำไมตัวเองจะต้องเขินด้วยกะอีแค่อีตานั่นถอดเสื้อมาให้ใส่

                    “แล้วที่หลังอย่าแต่งตัวแบบนี้อีก ไม่อย่างนั้นฉันไม่รับประกันว่าตัวฉันจะไม่ทำอะไรเธอ”

                    ฉ่า >///< แล้วคำพูดของเขาก็ทำให้ฉันต้องหน้าแดงอีกรอบ ไม่รับประกันว่าจะไม่ทำอะไรฉันอย่างนั้นเรอะ ไทเปนนายพูดบ้าอะร๊ายยยยย

                    “มัวยืนบื้ออยู่ได้ มากินข้าวได้แล้วฉันหิว”

                    แล้วไทเปจัดการลากฉันมาที่โต๊ะกินข้าวซึ่งถูกจัดไว้เรียบร้อยแล้ว โดยที่มีอาหารหน้าตาหน้ากินหลายอย่างวางรออยู่

                    “นี่นายทำเองเหรอไทเป”

                    “ไม่ต้องถามมากจะกินไม่กิน”

                    “กินสิ กินๆๆ”

                    แล้วฉันก็เริ่มจัดการกับอาหารตรงหน้า หิวอ่ะมัวแต่บู๊ทั้งวันลืมไปเลยว่าไม่ได้กินข้าว ฉะนั้นมื้อนี้กต้องกินให้เรียบ

                    “อร่อยอ่ะ ^O^

                    “ตัวเล็กนิดเดียวกินเยอะชะมัด”

                    ชิส์ แล้วทำไมนายต้องมาว่าฉันด้วยเล่าไทเป ก็คนมันหิวนี่

                    เมื่อจัดการกับอาหารตรงหน้าจนเกลี้ยงแล้ว ฉันก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าตัวเองได้ลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไป

                    “ฉันถามอะไรหน่อยสิไทเป”

                    “ว่ามา”

                    ไทเปบอกฉันแบบไม่ใส่ใจนัก เรียกว่าไม่เงยหน้าขึ้นมามองเลยก็ว่าได้ เชอะทีตะกี้ละมองเอามองเอา

                    “ฉันต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนเนี่ย”
                    “ซักประมาณอาทิตย์ หรือไม่ก็อาจจะนานกว่านั้น”

                    “อาทิตย์นึง!!!

                    “โอ๊ยนี่เธอจะตะโกนทำไมเนี่ยแสบแก้วหู”

                    จะไม่ให้ฉันตะโกนได้ยังไงล่ะอีตาบ้า นี่นายบอกให้ฉันอยู่กับนายตั้งอาทิตย์นึงเลยนะ อยู่ร่วมห้องกับไอ้ตัวอันตรายอย่างไทเป

                    “ฉันไม่มีทางอยู่ที่นี่แน่ๆ”

                    “บอกแล้วไงว่าเธอไม่มีสิทธิ์เลือก อ้อ ! แล้วก็อย่าคิดแม้แต่จะหนีเชียว”

                    “ทำไม นายจะทำไมฉันหา!

                    เรื่องอะไรจะต้องยอมง่ายๆ ล่ะ คนอย่างเลมอนไม่เคยยอมใครหรอกนะยะ

                    “ฉันก็จะ....”

                    นายไทเปเว้นคำพูดไว้แค่นั้น เขาใช้สายตามองฉันขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ รอยยิ้มกับสายตานั้นเล่นเอาฉันชาวาบไปทั้งตัวเลย

                    “เลิกมองฉันด้วยสายตาลามกแบบนั้นซะที เห็นแล้วขนลุก”

                    ฉันตวาดแว้ดออกไป แต่นายไทเปกลับดูไม่สะทกสะท้านเลยซักนิด หน้าด้านชะมัด เขาทำเพียงแค่ยักไหล่แล้วเดินผ่านฉันไป

                    “นี่นายจะไปไหนน่ะไทเป”

                    “ไปนอน”

                    พูดถึงนอน แล้วนี่ฉันจะต้องนอนตรงไหนละเนี่ย ไอ้คอนโดนี้ใหญ่ซะเปล่าแต่ดันมีห้องนอนแค่ห้องเดียวซะด้วย อย่าบอกนะว่าฉันจะต้องนอนกับนายไทเป นั่นมันเป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยอย่างยิ่ง

                    “เฮ้เดี๋ยวแล้วฉันละ นายจะให้ฉันนอนตรงไหน คงไม่ใช่..”

                    “นั่นไงที่นอนของเธอ”

                    ฉันถามยังไม่ทันจบนายไทเปก็พูดขัดขึ้นแล้วบุ้ยปากไปทางกลางห้องที่มีโซฟาสีขาวสะอาดตาวางทอดยาวอยู่

                    “นี่นายจะให้ฉันนอนที่โซฟาอย่างนั้นเหรอ”

                    “ฉลาดนี่”

                    “อ๊ายไอ้บ้า ความเป็นสุภาพบุรุษของนายมันอยู่ไหนกันยะ ถึงได้ให้ผู้หญิงไปนอนที่โซฟาอ่ะ”

                    “หรือเธออยากจะนอนในห้อง.. กับฉันละ”

                    ไม่พูดเปล่านายไทเปยังสาวเท้ายาวๆ ก้าวมาหาฉันอีก ฉันไม่ทันตั้งตัวเลยถอยหลังจนตอนนี้ไปยืนชิดกับกำแพงแล้ว อ๊ากกกก สถานการณ์ล่อแหลมทำไงดี คิดสิๆ เลมอน

                    “ได้ฉันจะนอนในห้อง”

                    ฉันเอ่ยพลางเงยหน้าขึ้นมองนายไทเปด้วยสายตาที่คิดว่าหวานหยดย้อยมากที่สุดในชีวิตเท่าที่ทำมา

                    “หืม”

                    นายไทเปมีท่าที่งงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ใบหน้าของเขาเลื่อนต่ำลงมาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนลมหายใจเป่ารดแก้มแล้วตอนนี้ (มันหื่นจริงๆ ไอ้บ้านี่)

                    “แต่ฉันจะนอนคนเดียว”

                    “พลั่ก”

                    “โอ๊ย!!!

                    “ตุบ”

                    เหตุการณ์เกิดขึ้นไวมากคนอ่านอาจตามไม่ทันเดี๋ยวเลมอนจะประมวลให้ฟังคร่าวๆ นะคะ

                    ฉันใช้สายตาหวานฉ่ำหลอกล่อให้ไอ้บ้าไทเปหลงกลจนคล้อยตาม จากนั้นก็อาศัยจังหวะตอนที่มันเผลอกระทุ้งเข่าไปที่น้องชายนายนั่นอย่างจังแบบกะเอาให้สูญพันธุ์จะได้เลิกทำสายตาเช้าชู้ชักที เสร็จแล้วฉันก็ผลักเขาลงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้นแล้วรีบเผ่นเข้าห้องอย่างรวดเร็ว

                    “คิดจะทำอะไรคนอย่างฉันเร็วไปร้อยชาติย่ะ นอนข้างนอกไปเถอะนะไทเป แบร่ :P

                    “ปัง!!

                    ฉันพูดทิ้งท้ายก่อนที่จะปิดประตูใส่หน้านายไทเปที่นอนจุกจนหน้าเขียวอยู่ด้วยฝีมือของฉันโดยไม่คิดจะสนใจเสียงร้องเรียกใดๆ จากเขาอีก

                    “ยัยเลมอน ยัยบ้า ยัยตัวแสบ ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

                    โวยวายไปเถอะไอ้บ้ากาม ฮ่าๆ คืนนี้เตียงใหญ่ๆ แสนนุ่มนี้ต้องเป็นของฉัน

                    ฉันล้มตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นตลอดทั้งวัน เฮ้อนี่ขนาดอยู่กับหมอนั่นแค่ไม่กี่ชั่วโมง เมื่อตะกี้ยังเกือบถูกฉวยโอกาส แล้วนี่อีกหนึ่งอาทิตย์ที่เหลือฉันจะรอดไหมเนี่ย ยิ่งคิดยิ่งกลุ้ม

     

                   

     

     
     create : 2012/7/5 





     ..My fanpage.. 














    Matesoul my 











    Transparent Yellow Star
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×