ตอนที่ 85 : บทที่ 85 ฮีโร่แห่งความถูกต้อง
บทที่ 85 ฮีโร่แห่งความถูกต้อง
ลื่นไหลดุจสายน้ำ เชื่อมผสาน ยากคาดฝัน นี่คงเป็นคำนิยามสำหรับกระบวนท่าวรยุทธ์อันเรียบง่าย ของชายหนุ่มเมื่อครู่ที่ใช้ออกด้วยกระบี่ในมือขวา ตัดเอาแขนและขาของชายวัยกลางคนจนขาดสะบั้น
กระบวนท่าลื่นไหลจนแม้แต่ยอดฝีมือ ยังมิรู้ตัวเลยว่าในเวลานี้ แขนและขาของตนได้ขาดหายไปแล้ว แต่กว่าจะรู้ตัวก็คงยากที่จะแก้ไขสถานการณ์
ชายชราผมขาวดีดตัวกระโดดลอยออกมา ทิ้งระยะห่างอย่างเร่งรีบ หลังจากสัมผัสได้ถึงอันตรายจากชายหนุ่มเป้าหมายสังหารตรงหน้า ระเบิดพลังลมปราณแปลกประหลาดสีดำทมิฬออกมา ราวกับดวงดาราหมื่นพันที่เต็มไปด้วยหายนะแห่งความตายอันไร้ข้อกังขา
".. อายุเพียงเท่านี้ ทำไมถึงสามารถฝึกปรือจนถึงขอบเขตปราณเบิกภพได้ยังไง มีพลังฝึกปรือมากกว่า 150 ปีของมนุษย์ได้ ท่านผู้เฒ่าจักรพรรดิมารกระบี่ส่งมอบอะไรให้แก่เจ้า ทำไมถึงได้ก้าวล้ำกว่าผู้อื่นเช่นนี้ .." ชายชราผมขาวตื่นตะลึงกับพลังลมปราณอันมหาศาลจนมองเห็นได้ของอีกฝ่าย ที่ก้าวล้ำเกินคนในวัยเดียวกันอย่างไม่คาดฝัน
พลังปราณหรือขอบเขตพลังที่มีมาแต่โบราณ จะถูกแบ่งออกเป็น
ขอบเขต ปราณแรกเริ่ม มีพลังลมปราณเล็กน้อยภายในมิติลมปราณ จัดอยู่ในกลุ่มผู้อ่อนหัด
ขอบเขต ปราณมนุษย์ พลังลมปราณราว 40-100 ปี สัมผัสได้แต่ไม่อาจจะมองเห็น จัดเป็นผู้ยอดยุทธ์
ขอบเขต ปราณเบิกภพ พลังลมปราณราว 101-300 ปี ก่อรูปจนมองเห็นได้ มีอนุภาคแห่งพลังธาตุสวรรค์
ขอบเขต ปราณเบิกนภา พลังลมปราณราว 301-500 ปี ลึกล้ำหาใดเปรียบ ยากคาดเดาไร้เหตุผล ดุจเทพมาร
ขอบเขต ปราณเบิกสวรรค์ มีพลังลมปราณราว 501-800 ปี แปรเปลี่ยน ก่อรูป ไร้สภาพ พิสดาร เหนือสามัญ
ขอบเขตพลังอันสูงล้ำกว่านี้นั้น เป็นเพียงแค่ตำนานในตำนานเทพเจ้าที่เล่าลือกันมาเท่านั้น ในโลกของผู้ฝึกตนอันเป็นความลับของโลกมนุษย์มายาวนานนับพันๆ ปี และไม่เคยมีมนุษย์คนใดเคยไปถึงขอบเขตพลังเหล่านั้นมาก่อน
ในจำนวนปีของพลังลมปราณบริสุทธิ์ที่มีมาแต่โบราณ คือพลังปราณชีวิตในร่างที่มนุษย์สามารถสะสมไว้ได้ จากการฝึกฝนมาเป็นระยะเวลายาวนานนับสิบๆ ปี จากความสำเร็จของแต่ละคนแตกต่างกันไป และเป็นความก้าวหน้าในวิชาลมปราณที่ฝึกปรือ อันเป็นความลับของแต่ละสำนักยุทธ์ พร้อมกับของวิเศษต่างๆ ที่ช่วยส่งเสริมให้สร้างพลังลมปราณในร่างได้เป็นจำนวนมากแตกต่างกันไป
*****
มากเมฆไม่ได้รอให้ช่วงเวลาอันมีค่าที่ได้เปรียบ หมดไปอย่างไร้ค่า
ในขณะที่ผู้คนทั้งสี่กำลังตื่นตกใจ และไม่ทันระวังตัวให้ดีมากนัก มากเมฆได้เคลื่อนไหวอาวุธในมือขวาของเขา ในท่วงท่าพิสดารราวกับมังกรฟ้าสวรรค์พริบกาย ร่ายรำกลางท้องนภา ออกกระบวนท่าโจมตี ราวภาพมายาแทงกระบี่แหลมคมออกมาเป็นจังหวะนับร้อยพันอย่างต่อเนื่อง
จนก่อเป็นรูปหัวมังกรทมิฬโบราณอันบ้าคลั่ง พุ่งเข้าใส่ชายหนุ่มสองคนของตระกูลเมฆาเทพอย่างดุดันป่าเถื่อน หมายจะพิชิตชัยให้ได้อย่างรวดเร็ว
คนทั้งสองจากตระกูลเมฆาเทพ มหาตระกูลเก่าแก่ผู้ทรงอำนาจไพศาล เห็นท่าไม่ดีที่อีกฝ่ายพุ่งจู่โจมหมายสังหารให้ตายในพริบตา จึงรีบเรียกใช้โล่พลังนาโนเทคขนาดใหญ่อันแข็งแกร่งออกมาถึงสามชั้น
เข้าปกป้องร่างกายเอาไว้อย่างทันท่วงที แต่ก็ต้องสูญเสียพลังงานของชุดเกราะ และโลหะผสมนาโนเทคสำรองไปเป็นจำนวนมากในการป้องกันในครั้งนี้ แถมยังถูกแรงดันที่มองไม่เห็นอัดกระแทกเข้าใส่อย่างจัง จนลอยกระเด็นไปชนเข้ากับผนังกั้นห้องจนได้รับบาดเจ็บในที่สุด
".. ไหนว่าเป้าหมายที่ให้จับกุมในครั้งนี้ เป็นแค่คนธรรมดาไม่ใช่หรือไง นายรับงานมาผิดหรือเปล่าวะคิดส์ .." ชายหนุ่มอีกคนร้องถามเพื่อนร่วมทีม ที่นอนบาดเจ็บอยู่ข้างๆ เสียงเบา จนได้ยินกันแค่สองคนเท่านั้น ในสภาพที่ยับเยินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตั้งแต่ทำงานให้กับตระกูลเมฆาเทพ
".. เอ่อ ใครจะไปรู้วะ ไอแก่สองตัวนั่นคนสนิทของผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ทำเรื่องแล้วมั้ยล่ะ แม่งบอกว่าเป็นงานง่ายๆ เสียเวลาเล่นเกมซิบหาย รู้งี้ไม่รับดีกว่า อยากเล่นเกมโว้ยยย ออทิสพวกเราหนีกันดีกว่า เป้าหมายในครั้งนี้เป็นอะไรที่สู้ด้วยชุดนาโนเทคระดับ 1 ในตอนนี้ไม่ได้ รู้งี้น่าจะเอานาโนเทคแบบสงครามระดับ 4 มาก็ดีอยู่หรอก .." คิดส์ชายหนุ่มผู้บ้าคลั่งและรักการเล่นเกมเป็นชีวิตจิตใจ ชวนเพื่อนร่วมทีมหนี หลังจากที่รู้ว่าไม่อาจจะทำอะไรได้แล้ว พร้อมกับตรวจสอบสภาพของตนเองและเพื่อนในเวลาเดียวกัน
ทั้งสองแปรงสภาพชุดเกราะนาโนเทคของตัวเอง จนกลายเป็นชุดเกราะเหล็กระดับสูงเต็มตัว พร้อมกับสร้างปีกขนาดใหญ่ที่ด้านหลัง และหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุในทันที หลังจากตรวจสอบพลังงานที่เหลืออันน้อยนิด และความเป็นไปได้ในภารกิจในปัจจุบันแล้วทั้งหมด
กระบี่เหล็กในมือของมากเมฆ หลังจากที่ใช้ออกด้วยกระบวนท่าอันดุดันรุนแรง กระบี่ในมือถึงกับแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เพราะไม่อาจจะทนรับพลังปราณทมิฬของผู้ใช้ได้ไหว ทำให้ในเวลานี้ชายหนุ่มจำเป็นจะต้องกลับมาใช้มือเปล่า ในการรับมือกับชายชราผมขาวอีกครั้ง
ส่วนชายวัยกลางคนหลังจากที่สูญเสียแขนและขาไป จนได้รับบาดเจ็บสาหัสในก่อนหน้านี้ ก็ได้สหายอีกสามคนที่ยังเฝ้าสังเกตการณ์มาตลอดออกมาช่วยเหลือ และนำตัวออกไปจากระยะโจมตีของเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
พร้อมกับได้นำแขนขาที่ขาดไปแล้ว ต่อคืนให้ด้วยวิทยาการอันแปลกประหลาดล้ำสมัย จนในเวลาต่อมาชายวัยกลางคนกลับมามีร่างกายสมบูรณ์เหมือนปกติในตอนแรก แต่ใบหน้ากับซีดขาวอย่างมาก เพราะเสียเลือดไปเป็นจำนวนมากในก่อนหน้านี้
".. ยาเชื่อมผสานเซลล์ สองขวดอย่าลืมจ่าย ทั้งหมด 40 ล้านสุริยะ โอนเข้าบัญชีคลื่นสมองให้ด้วยไม่รับเงินสด .." เด็กหญิงอายุราว 13-14 ปีพูดขึ้นหลังจากรักษาต่อแขนต่อขา ให้กับชายวัยกลางคนสำเร็จแล้ว
".. รู้แล้วน่า ยายเฒ่าทารก .." ชายวัยกลางคนมิได้ขอบคุณใดๆ ที่อีกฝ่ายเข้ามาช่วยเหลือ แต่กับนั่งลงกับพื้นปรับพลังลมปราณและสมดุลในร่างต่อไปในทันที
".. ดูเหมือนงานนี้พวกเราต้องร่วมมือกัน ไม่อย่างงั้นคงไม่มีใครรอดไปได้สักคน ขอบเขตปราณเบิกภพ ดัวยวัยยังไม่ถึง 20 ปี หากปล่อยให้เติบโตต่อไป จะเป็นภัยใหญ่หลวงกับพวกเราเป็นแน่ .." ชายวัยกลางผมแดงในกลุ่มได้พูดขึ้น พร้อมกับนำเอาอาวุธดาบวงจันทร์ออกมา และเข้าจู่โจมมากเมฆในทันที
คนในกลุ่มที่เหลือจากโลกมืดต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย หากเป้าหมายรายนี้ยังคงเติบโตต่อไป กลุ่มอำนาจมืดของพวกมันคงอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆ นับจากนี้
มากเมฆรับมือชายชราผมขาวกับชายผมแดงได้ไม่ยากเย็นอะไร แต่พอขาดอาวุธในมือกับคล้ายอ่อนแอลงไปหลายส่วน
เหตุที่ดูคล้ายกับอ่อนแอลง เป็นผลมาจากหมื่นลมปราณดาราทมิฬภายในร่างของเขา กำลังปรับสมดุจพลังปราณใหม่อีกครั้ง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพร่างกายในปัจจุบัน ทำให้ช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาเมื่อครู่ ไม่อาจจะใช้พลังลมปราณได้
คนทั้งห้าเห็นสบโอกาสทองที่อยู่ๆ อีกฝ่ายอ่อนแรงลงอย่างมาก ได้แต่หลบหนีไปมาไม่ตอบโต้ และคล้ายกับใช้พลังลมปราณไม่ได้อย่างผิดวิสัย เข้ารุมแบบห้าต่อหนึ่งอย่างต่อเนื่องด้วยอาวุธและวิชาสังหารนานาชนิด หมายจะปิดงานให้ได้โดยเร็ว
เด็กเฒ่าทารกหญิงใช้ออกด้วยพลังฝ่ามือประหลาด จนแม้แต่กระจกนิรภัยที่ด้านหลังของมากเมฆถึงกับแตกสลายเป็นผง กระบวนท่าของอีกฝ่ายช่างต่อเนื่องรุนแรง ไม่เปิดโอกาสให้สวนกลับได้เลย
ชายวัยกลางคนที่เคยแขนขาขาดไป ใช้ดาบสั่นสะท้านในมือตัดผนังห้องที่มากเมฆใช้กําบังกายออกเป็นชิ้นๆ ทำให้ชายหนุ่มต้องถอยหนีเป็นระยะๆ
ชายชราผมขาวและยอดยุทธ์อีกสองคนผู้ใช้กระบี่ ประสานงานกันอย่างรู้ใจ คล้ายกับใช้ออกด้วยค่ายกลกระบี่พิสดารโบราณ พยายามหยุดการเคลื่อนไหวท่าร่างตัวเบาของเป้าหมาย ในแง่มุมที่ยากจะหลบเลี่ยงไม่ได้อยู่หลายครั้ง
มากเมฆพยายามใช้ท่าร่างตัวเบาพื้นฐานที่รู้อย่างสุดกำลัง ในขณะที่ใช้พลังลมปราณไม่ได้
โดยอาศัยแรงกายแรงใจในการขับเคลื่อน พร้อมกับสังเกตและลอบแอบเรียนวิชาฝ่ามือประหลาด ของเด็กหญิงเฒ่าทารกไปด้วยในขณะเดียวกัน ด้วยความสนใจใคร่รู้จนเข้าใจมากกว่า 8 ส่วนแล้วในเวลาอันรวดเร็ว
เฒ่าทารกหญิงที่ดูเหมือนอายุ 13-14 ปี จับผิดการมองของเป้าหมายได้ ถึงกับขนลุกซู่เลยทีเดียว
เพราะทุกครั้งที่ถูกอีกฝ่ายมองกลับมาเวลาที่ตนเองใช้ออกด้วยวิชา “ฝ่ามือวิญญาณสลายหยิน-หยาง” ของสำนักโบราณแห่งหนึ่งของประเทศจีนก่อนที่จะถูกทำลายจนหายไป มักจะถูกชายหนุ่มผู้เป็นเป้าหมายแอบมองดูอยู่ตลอดเวลาอย่างผิดวิสัย หลายต่อหลายครั้ง จนเฒ่าทารกหญิงเริ่มหวาดกลัวในแววตาของอีกฝ่ายมากขึ้นทุกที
".. พวกเรารีบฆ่ามัน รู้สึกได้ว่าเจ้าเด็กนี่ มันกำลังแอบเรียนรู้วิชาของพวกเราอยู่ .." เฒ่าทารกหญิงร้องบอกสหาย หลังจากที่ลองใช้ออกด้วยกระบวนท่าฝ่ามือวิญญาณสลายหลายต่อหลายครั้ง และทุกครั้งก็ถูกอีกฝ่ายมองดูอย่างละเอียด
".. หายนะชัดๆ หากเจ้าเด็กนี่สามารถแอบเรียนวิชายุทธ์ในขณะที่ต่อสู้ไปด้วยได้ .." ชายผมแดงพูดจบก็ใช้ออกด้วยกระบวนท่าสังหารวงจันทร์อย่างรวดเร็ว
มากเมฆตลอดเวลาที่หลบไปหลบมาด้วยท่าร่างตัวเบา จากการโจมตีหมายสังหารของยอดยุทธ์ทั้งห้าอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีหลายครั้งที่ได้บาดแผลจากมุมมองโจมตีที่คาดไม่ถึงอยู่หลายครั้ง
แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นบาดแผลเล็กน้อยเท่านั้น ยังดีที่คนเหล่านี้ไม่ได้ใช้พิษในการต่อสู้ร่วมด้วย ไม่อย่างงั้นเขาอาจจะตกที่นั่งลำบากมากกว่านี้ก็เป็นได้
ในขณะเดียวกันมากเมฆก็ยิ้มออกมาที่มุมปาก จนคนทั้งห้าต้องขนลุกและถอยหนีเว้นระยะกันอีกครั้งอย่างไม่สบายใจ จากสัมผัสที่แปรเปลี่ยนไปอีกครั้งของเป้าหมายที่แลดูจะผิดมนุษย์ จนคาดเดาไม่ได้อยู่หลายครั้ง
".. เป็นวิชายุทธ์ที่น่าสนใจอย่างมาก ฝ่ามือที่สลายได้แม้แต่เหล็กอย่างง่ายดาย .." มากเมฆเคลื่อนไหวสวนกลับโจมตีเป็นครั้งแรก
แต่ทว่าวิชาที่ใช้กับเป็นวิชาฝ่ามือของเฒ่าทารกหญิงอย่างชัดเจน ในการต่อสู้สวนกลับคนทั้งห้า
จนแม้แต่ผู้เป็นเจ้าของวิชาคนปัจจุบัน ที่ได้ปรับปรุงและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนสมบูรณ์ ยังอดคิดไม่ได้ว่าเป้าหมายที่แลดูอายุยังไม่ 20 ปีเลย ทำไมถึงสามารถทำได้ ทำไมถึงเข้าใจหลักการสำคัญของเคล็ดวิชาลับที่มีมาแต่โบราณได้ง่ายดายถึงเพียงนี้
".. เป็นไปไม่ได้ทำไมเจ้าถึงใช้วิชาฝ่ามือวิญญาณสลายของข้าได้ เจ้าเป็นใครกันแน่ .." เฒ่าทารกหญิงถึงกับเสียจริตที่เคยมี
".. ฝ่ามือวิญญาณสลาย ชื่อดี .." มากเมฆพูดตอบรับและเข้าจู่โจมคนทั้งห้าอย่างไม่เกรงกลัว
ฝ่ามือทมิฬของมากเมฆทั้งซ้ายและขวาถูกใช้ออกด้วยฝ่ามือสลายวิญญาณ จนก่อเป็นรูปมองเห็นด้วยตาเปล่า ผ่านทางหมื่นลมปราณดาราทมิฬอย่างรุนแรง เข้าปะทะกับกระบี่เหล็กของคนทั้งสามที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มร่ายรำมวยเมฆเก้ามายา กระบวนท่าพลิ้วไหวเข้าดุจสายน้ำ ผสานเข้ากับฝ่ามือสลายวิญญาณเข้าปะทะกับศาสตราโลหะเหล็กกล้าอย่างไม่เสียดายมือ
แต่สิ่งที่ปรากฏกับมิใช้เลือดสีแดงสดสาดกระจายให้เห็น แต่กับเป็นกระบี่เหล็กและดาววงจันทร์ทั้งสาม ต่างก็ถูกทำลายหายไปในพริบตาอย่างง่ายดาย
".. ยายเฒ่านี่มันวิชาฝ่ามือวิญญาณสลายของเจ้า หรือเจ้ามีความเกี่ยวพันอันใดกับมัน .." ชายชราผมขาวร้องตะโกนอย่างหัวเสีย ที่อาวุธคู่บุญที่อยู่ร่วมกันมาไม่ต่ำกว่า 60 ปีในเวลานี้ได้สลายหายไปกับสายลมแล้ว
".. ข้าก็บอกเจ้าอยู่ว่าเจ้าเด็กนี่มันลอบเรียนวิชาของพวกเรา มันเป็นมารปีศาจชัดๆ .." เฒ่าทารกพูดตอบโต้ และคิดจะหลบหนีออกไปเป็นคนแรก เพราะดูท่าว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะกลับมาใช้กำลังภายในได้แล้ว เพราะไอปราณทมิฬรอบกายหนาแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ จนมองเห็นได้
เพียงระยะเวลาที่กระบี่ถูกทำลาย ชายชราผมขาวกับชายวัยกลางคนผู้ใช้ดาบ เคยเผชิญหน้ากับลมปราณทมิฬมาก่อนจึงได้ถอยหนีออกมาโดยเร็ว
ผิดกับสองมือกระบี่ที่ไม่รู้อะไรเลย หลังจากกระบี่และดาบวงจันทร์ถูกทำลาย ทั้งสองยอดยุทธ์ต่างก็โกรธจัด และใช้วิชายุทธ์ของตนเองที่มี เข้ากระหน่ำโจมตีเป้าหมายอย่างดุดันคับแค้นโดยไม่คิด
แต่ใครจะเชื่อคนทั้งคู่ยังมิได้ออกกระบวนท่าใดๆ เลยให้ถึงตัวอีกฝ่าย
แต่กับถูกฝ่ามือสลายวิญญาณที่ผสานเพลงมวยเมฆเก้ามายาของอีกฝ่าย ที่ลอบเรียนมาสวนกลับเข้ากลางหน้าอกเข้าอย่างจัง จนเสียชีวิตทั้งที่ยังลืมตาในทันที และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงตายราวกับหนอนแมลงแบบนี้
จากห้าคนเหลือสามคนในเวลาไม่ถึง 10 นาที แม้แต่ผู้ใช้ดาบวงจันทร์ที่ถูกทำลายอาวุธคู่ใจก็ยังไม่รอด
ชายชราผมขาว ชายวัยกลางคนผู้ใช้ดาบ และเฒ่าทารกหญิงทั้งหมดสามคนถึงกับหน้าถอดสี กับพลังลมปราณขอบเขตเบิกภพของอีกฝ่าย ที่ก่อรูปจนวิชาฝ่ามือวิญญาณสลายหยินหยาง แสดงอนุภาคมากกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า
สลายร่างกายและวิญญาณของสองยอดฝีมือจนไม่เหลือแม้แต่เศษซาก กลายเป็นภาพของสุดยอดวิชาอย่างแท้จริง
คนทั้งสามมองหน้ากันและกัน พร้อมกับแยกตัวกันหลบหนีออกไปในทันที ผ่านทางผนังตึกที่คนของตระกูลเมฆาเทพได้ระเบิดไว้สำหรับหลบหนีก่อนหน้านี้ แต่ดูเหมือนพญามัจจุราชจะไม่ให้คนทั้งสามหลบหนีได้ง่ายดายขนาดนั้น
ในบรรดาทั้งสามคน มากเมฆให้ความสนใจเฒ่าทารกหญิงมากที่สุด เพราะฝ่ามือวิญญาณสลายที่แอบเรียนรู้มานั้น เขากับสนใจมันอย่างมาก และอยากจะได้เคล็ดวิชาที่สมบูรณ์แบบของมันเป็นอย่างยิ่ง
จึงได้ไล่ติดตามเฉพาะเฒ่าทารกหญิงออกจากตัวตึกไปด้วย หมายจะต่อรองหรือแย่งเอาวิชาที่ว่ามาให้ได้
ชายหนุ่มติดตามอีกฝ่ายมาอย่างรวดเร็วราวกับวิญญาณอาฆาตจากนรกด้วย “ย่างก้าวหมื่นดารา”
ไม่ว่าเฒ่าทารกหญิงจะเหินบินหลบหนีไปทางไหน แอบหลบซ่อนในมุมมืดหรือแม้แต่จุดอับใดๆ ก็มักจะถูกชายหนุ่มติดตามจนเจอได้เสมอ
เวลาผ่านไปราว 30 นาที บนยอดตึกสูงของศูนย์กลางค้าแห่งหนึ่ง
เฒ่าทารกหญิงหมดเรี่ยวแรงจะหลบหนีอีกต่อไป หันกลับมามองชายหนุ่มที่ติดตามมาราวกับวิญญาณร้าย ด้วยแววตาโกรธแค้นเป็นอย่างมาก
".. เด็กน้อยไม่หนีอีกแล้วเหรอ อุตส่าห์กำลังไล่ตามสนุกๆ เลย .." มากเมฆผู้มีพลังลมปราณทมิฬราวกับไม่มีวันหมด พูดถามด้วยท่าทางไม่เหน็ดเหนื่อยอะไรเลย
".. จะฆ่าก็ฆ่า ข้าแพ้ให้เจ้าไม่มีอะไรจะพูด .." เฒ่าทารกหญิงกล่าวคำอย่างไม่เสียดายชีวิต ในสภาพร่างกายเหลือพลังลมปราณไม่ถึง 1 ส่วน
".. จะตายนะได้ แต่เรามาแลกเปลี่ยนกันดีกว่า ผมเองก็ไม่อยากจะฆ่าคนเท่าไหร่ .." มากเมฆก้าวเดินเข้าไปใกล้ๆ อีกฝ่ายพร้อมแรงกดดันมหาศาลไม่ให้อีกฝ่ายหลบหนีได้อีก
เฒ่าทารกหญิงราวกับถูกโซ่ลมปราณที่ตามองไม่เห็นผูกมัดเอาไว้ จนขยับร่ายกายไม่ได้ แต่ในเมื่อเตรียมใจตายไว้แล้ว จึงมิได้หวาดกลัวอะไรมากนัก ได้แต่ชื่นชมจักรพรรดิมารกระบี่ที่หาผู้สืบทอดได้น่ากลัวเหลือเกิน แม้ว่าจะตายไปแล้วละไปอยู่ในโลกเสมือนจริงใบนั้น
".. เจ้าต้องอะไร .." เฒ่าทารกหญิงถูกแรงกดดันอย่างหนัก จนมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากบางแล้ว
".. ส่งมอบเคล็ดวิชาฝ่ามือสลายวิญญาณออกมา กับยาเชื่อมผสานเซลล์สัก 1 ขวด เพียงเท่านี้ผมจะปล่อยคุณไป .." มากเมฆกล่าววาจาออกไปอย่างง่ายดาย จนแม้แต่เฒ่าทารกหญิงยังคาดไม่ถึง
ไม่ใช่ว่าลอบแอบเรียนจากตนไปจนสำเร็จและเหนือกว่ามากไปแล้วไม่ใช่หรือไง ยังจะมาเอาอะไรอีก แต่นี่ก็เป็นโอกาสรอดของตนเช่นกัน จะทิ้งก็เสียดายและในชีวิตนี้ยังมีสิ่งที่อยากจะทำอีกมาก
".. ได้ข้าจะมอบมันให้เจ้าทั้งสองอย่าง แต่เจ้าต้องรับปากว่าจะไม่กลับคำพูด .." เฒ่าทารกหญิงมองตามากเมฆในขณะที่พูดเพื่อหาคำตอบว่าอีกฝ่ายจะโกหกหรือไม่
".. หากเราหายนะอยากจะฆ่าเจ้า เจ้าตายไปนานแล้ว .." มากเมฆแทนตัวเองว่าหายนะ เพราะทุกวันนี้เคยชินกับชื่อหายนะสีเงินไปแล้ว
แม้จะเป็นการฆ่าคนจริงๆ ครั้งแรก แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลอะไรกับมากเมฆเลยสักนิด คงจะต้องขอบคุณระบบปรับแต่งเกมที่เจ้ารากไม้ได้ตั้งค่าเอาไว้ ทำให้เขาไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรมากนักกับสัมผัสต่างๆ ที่ได้รับรู้ในตอนนี้มากนัก
".. ได้เจ้านี่คือสิ่งที่เจ้าต้องการ .." เฒ่าทารกกำลังส่งมอบตำราอิเล็กทรอนิกส์ และขวดยาขนาดเล็กให้กับมากเมฆอย่างเชื่อฟัง
แต่ในขณะเดียวกันนั้นกับมีเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งดังขั้น...
".. ไอ้เราก็ว่าอยู่ ทำไมไล่ตามกันมาเป็นสิบๆ นาที ทีแท้ก็โจรมาปล้นขโมยกลางวันแสกๆ นี่เอง .."
".. นี่ไอหน้าหล่อ แย่งชิงของจากเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ คิดว่าเท่ห์หรือยังไง .."
ชายหนุ่มผมทองคล้ายชาวอังกฤษ อายุราว 25 ปีลอยตัวอยู่กลางอากาศจากยอดตัวตึกหลายสิบเมตร ในชุดทักซิโด้สีดำราคาแพง มองลงมาจากที่สูงด้วยแววตารังเกียจ และดูถูกดูแคลนมากเมฆเป็นอย่างมาก
แต่มากเมฆก็หาได้สนใจ รับของที่ต้องการจากเด็กหญิงมาไว้ในมือเก็บใส่กระเป๋า และไล่ให้อีกฝ่ายไปไกลๆ อย่างไม่ใยดี
สร้างความโกรธแค้นและไม่พอใจให้กับฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมอย่างยิ่ง แถมยังมองมากเมฆด้วยแววตากระหายเลือดมากกว่าเดิมอีกหลายเท่า และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเฒ่าทารกหญิงยังได้เล่นละคร แกล้งทำเป็นร้องไห้เสียใจมีน้ำตาที่ถูกแย่งของอีกต่างหาก ในขณะที่กำลังจะจากไป แต่ในความเป็นจริงเฒ่าทารกกำลังไปหาที่ซ่อนดีๆ เฝ้ามองดูเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นจากระยะไกลต่างหาก
".. คิก คิก คิก หากจำไม่ผิด ชายหนุ่มผมสีทองคนนั้นคือ มีคาเอล เป็นผู้มีพลังพิเศษและยังเป็นผู้ฝึกปรือพลังลมปราณอัจฉริยะอีกด้วย สนุกแน่ๆ งานนี้ ฮีโร่แห่งแสงมาเอง .." เฒ่าทารกหญิงหลังจากที่กระโดดหายตัว ไปยังอีกตึกข้างๆ ก็เฝ้าสังเกตการณ์จากระยะไกล มองดูเรื่องสนุกที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน
มากเมฆไม่สนใจมีคาเอลแม้แต่น้อย และกำลังจะเดินหนีไปไกลๆ ให้จบเรื่องพร้อมกลับไปยังคฤหาสน์ลอยฟ้า แต่ทว่ากับถูกอีกฝ่าย ...
".. ดี ดีจริงๆ วันนี้ได้จับขโมยไปส่งเรือนจำพิเศษอีกแล้ว .." มีคาเอลกล่าวบอกพร้อมกับยิงลำแสงออกมาจากดวงตาเข้าใส่เป้าหมายในทันที ..
".. เจอพวกที่คิดว่าตนเองถูกต้องไปทุกอย่างสินะ .." มากเมฆกระโดดหลบ พร้อมกับ ..
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ซัดมันให้หมอบเลยยยยยยย
คล้ายกับพี่เป็นพระอาทิตย์ น้องเป็นดวงจันราวๆ นี้ครับ
แต่ในเรื่องที่โดนเล่นงานจากคนอื่นๆ อันนี้มันก็เป็นอีกสาเหตุครับ คล้ายกับเหตุที่คาดไม่ถึง