ตอนที่ 80 : บทที่ 80 จักรกลเทพเจ้า
บทที่ 80 จักรกลเทพเจ้า
เซารอนได้ถูกฝ่ามือที่อัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณของอีกฝ่าย กระแทกเข้าที่กลางหน้าอกอย่างจัง จนเป็นเหตุให้ชายหนุ่มกระเด็นไปไกลราวกับว่าวที่ขาดสาย ชนเข้ากับต้นไม้สูงใหญ่ที่ด้านหลังเข้าอย่างแรง ถึงขนาดที่ทำให้ต้นไม้โบราณอายุกว่าพันปีถึงกับหักโค่น แถมเชารอนเองถึงกับกระอับเลือดออกมาทางปากเป็นจำนวนมาก บาดเจ็บภายในเป็นครั้งแรกในชีวิตของเขา
ถึงแม้วิชาลมปราณพิษและพลังพิษชนิดต่างๆ ของพวกพรรคมาร จะทำอะไรเซารอนไม่ได้เลย
แต่สำหรับผู้ติดตามและกองกำลังของเขาทั้ง 50 คนแล้ว มันแตกต่างกันอย่างมาก ทั้งหมดได้ตกเป็นรองตั้งแต่ต้น ถึงแม้จะมีบัพพลังเวทมนตร์ ต้านทานพิษเอาไว้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งหมดก็ยังถูกทำร้ายด้วยวิชาลมปราณอยู่ดี
ทั้งหมด 50 คนไม่อาจจะทานทนได้นานนัก และเริ่มที่จะบาดเจ็บล้มตายราวกับใบไม้ร่วงต่อหน้าต่อตาของเขา
เซารอนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเสียใจ แต่ที่โกรธแค้นมากที่สุดก็คือตัวของเขาเอง ที่มักจะอวดดีมากเกินไป มั่นใจมากเกินเหตุกระทำการต่างๆ ไม่รอบคอบเพียงพอ เป็นเหตุให้กองกำลังและเพื่อนๆ ของเขาเสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 35 คน แต่ทางฝ่ายตรงข้ามพวกชั่วพรรคมารพิษสวรรค์กับตกตายไปแค่ 10 กว่าคนเท่านั้น
แถมพวกมันก็เป็นผู้เล่นที่ถึงแม้จะตาย ก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากนัก
ผิดกับ NPC เอไออย่างพวกเขาที่หากตายและไม่ได้รับการชุบชีวิตอย่างทันท่วงที ทั้งหมดก็จะตกตายเป็นการถาวรจริงๆ
หัวหน้ากลุ่มพรรคมารได้ทีที่อีกฝ่ายบาดเจ็บอย่างหนัก ใช้วิชาตัวเบาระดับสูงเคลื่อนไหวร่างกาย มายืนอยู่ใกล้ๆ กับจุดที่เซารอนพยายามจะลุกยืนขึ้นอย่างยากลำบาก พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า ".. ไอหนู !!! หากเจ้ายอมส่งมอบแหวนประหลาดวงนั้นมาดีๆ ข้าจะปล่อยพวกเจ้าทั้งหมดไป ข้าพูดคำไหนคำนั้น .."
".. แต่หากเจ้าปฏิเสธ อย่าหาข้าเป็นคนโหดร้าย ใช้พิษลืมสวรรค์ทำลายร่างกายของพวกเจ้าทั้งหมดทิ้งไป ไม่เหลือแม้แต่เศษซากใดๆ ให้เห็น หมดสิทธิ์ที่จะกลับมามีชีวิตอีกครั้งอย่างถาวรตลอดกาล เลือกเอาระหว่างเครื่องประดับกับชีวิต ฮ่า ฮ่า ฮ่า .."
".. คิดให้ดีข้าจะให้เวลาเจ้าแค่นับหนึ่งถึงสิบเท่านั้น .." หัวหน้ากลุ่มของพรรคมารพิษสวรรค์พูดเสียงดังให้ทุกคนได้ยิน คล้ายกับเสนอทางรอดให้กับเซารอน และพรรคพวกที่กำลังบาดเจ็บล้มตาย พร้อมกับกดดันอีกฝ่ายให้ต้องเลือกระหว่างชีวิตของเพื่อนๆ และแหวนเทพเจ้าที่สวมใส่อยู่ในขณะนี้
แต่ในขณะเดียวกันหัวหน้ากลุ่มพรรคมารพิษสวรรค์นายนี้ ก็ได้ทำการแอบส่งเสียงลมปราณออกคำสั่งอย่างลับๆ ให้กับเหล่าลูกสมุนของตัวเองที่อยู่ใกล้ๆ
ให้ทำการลากเอา 1 ในร่างไร้วิญญาณของ NPC ที่เสียชีวิตไปแล้ว ออกมาเชือดไก่ให้ลิงดู โดยให้ใช้พิษลืมสวรรค์ทำลายร่างกายของพวกมันไปทีละคนอย่างช้าๆ ทุกครั้งที่นับเวลา 1 – 10 ต่อแต่นี้ไป
และเมื่อใดก็ตามที่อีกฝ่ายยอมส่งมอบแหวนพิษประหลาดวงนั้นให้กับตนเองแล้ว ก็ให้ลูกสมุนทั้งหมดทำลายซากศพ และฆ่าพวกมันให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่คนเดียวเป็นการปิดปาก
เหล่าลูกสมุนได้รับคำสั่งก็ลงมือปฏิบัติตามในทันที พร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจในคำสั่ง และเริ่มแย่งชิงเอาร่างไร้วิญญาณของ NPC ชายหญิงปกติออกมาทำลายทีละร่างอย่างช้าๆ สร้างความเจ็บปวดและเสียใจให้กับกองกำลังของเซารอนอย่างมาก กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
".. หนึ่ง สอง สาม เลือกให้ดี ฮ่า ฮ่า ฮ่า .." หัวหน้ากลุ่มพรรคมาร หัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ที่ได้เห็นสายตาโกรธแค้นของแต่ละคนที่มองมาที่มันอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ และมองสลับกลับไปยังร่างกายของเพื่อนๆ ที่เสียชีวิตไปแล้ว ที่ต่างก็ค่อยๆ ถูกละลายจนกลายเป็นไอระเหยออกไปอย่างช้าๆ
แต่ละคนภายในกลุ่มกองกำลังต่างก็เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเหล่าลูกหลานจอมเทพหมื่นมนตราที่ได้รู้จักกันมาตั้งแต่ยังเล็กๆ ทั้งหมดมีความผูกพันชิดใกล้ ราวกับครอบครัวเดียวกันมาตลอด
แต่ในตอนนี้การได้มาเห็นเพื่อนๆ คนในครอบครัวของตัวเองถูกทำร้าย และไม่อาจจะช่วยเหลืออะไรใดๆ ได้เลย มันทรมานและเจ็บปวดมากแค่ไหน ไม่มีใครรู้ ยกเว้นแต่จะได้สัมผัสและพบเจอด้วยตัวเองเท่านั้น
ในดวงตาของแต่ละคนได้กลายเป็นสีแดงเลือด มีน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บแค้นอย่างที่สุด แต่ทั้งหมดก็ยังไร้หนทางที่จะช่วยเหลือ เพราะในตอนนี้กองกำลังที่เหลือทั้งหมดได้พ่ายแพ้ไปหมดแล้วอย่างสมบูรณ์
และไม่สามารถหนีรอดออกไปได้เลยสักคน เหตุเพราะระดับเลเวลของพรรคมารและกองกำลังเซารอนแตกต่างกันเกินไป พรรคมารแต่ละคนคล้ายกับมีอุปกรณ์บางอย่างที่ทำให้ระดับเลเวลสูงขึ้นได้ชั่วขณะ
และอยู่ๆ ก็จะต่ำลงมาที่ 75 สลับไปมาอยู่เรื่อยๆ เสมอ แต่โดยเฉลี่ยแล้วพวกมัน สมควรจะมีระดับเลเวลไม่ต่ำกว่า 1,700 แน่ๆ และทั้งหมดก็สวมใส่ไอเทมระดับสูงด้วยกันทั้งนั้น
เซารอนพยายามจะลุกขึ้นยืนให้ได้อย่างช้าๆ เพื่อเข้าไปช่วยเหลือกองกำลังของตนเองอีกครั้ง
แต่ร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระดูกซี่โครงหักจนทะลุออกมานอกร่างกาย เลือดไหลนองเต็มพื้น แต่ชายหนุ่มกับไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยแม้แต่คำเดียว และยังคงพยายามก้าวเดินออกไปข้างหน้าอย่างช้าๆ พร้อมกับนำเอาม้วนคัมภีร์โบราณประหลาดออกมา 1 ม้วน
ในความคิดของเซารอน ตัวเขาเองไม่คิดที่จะมอบแหวนเทพเจ้าให้กับคนพวกนี้แม้แต่น้อย เพราะเขาเองก็ดูออกว่าคนพวกนี้ มันเชื่อใจไม่ได้ และภายในแววตาของพวกมันก็เต็มไปด้วยคำโกหกหลอกลวงมากมาย
หากส่งมอบให้ไปแล้ว ก็มีแต่ปิดทางหนีรอดของตัวเองและพรรคพวกเท่านั้น
".. พวกเรา ฝากขอโทษนายท่านให้ด้วย ที่ทำให้ผิดหวัง .." เซารอนพูดบอกเพื่อนๆ และกองกำลังของตัวเองด้วยน้ำเสียงที่เบาอย่างมาก พร้อมกับหยิบเอาม้วนคัมภีร์เวทมนตร์โบราณที่ดูเก่าแก่อย่างมากออกมา พร้อมกับเรียกใช้งานมนตราเวทภายในม้วนคัมภีร์ในทันที
ม้วนคัมภีร์เวทอันนี้ แต่เดิมเป็นของดูต่างหน้าของมารดาเซารอนที่ได้มอบเอาไว้ให้ตอนที่ตนเอง จะถูกทำให้กลายเป็นหินอมตะ เพื่อหลบหนีจากการตามล่าของเทพเจ้าโบราณในสมัยก่อน มันเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย และความรักความอบอุ่นของมารดาที่ตนเองเฝ้าคิดถึงอยู่ทุกวัน
เซารอนได้เลือกและตัดสินใจนำมันออกมาใช้อย่างไม่ลังเล เพื่อให้ทุกๆ คนสามารถมีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้
และภายในม้วนคัมภีร์นั้นก็ได้บรรจุเวทมนตร์สำหรับหลบหนีเอาไว้ และยังสามารถกำหนดจำนวนคนสิ่งของ และสถานที่ในการหลบหนีเอาไว้ได้อีกด้วย และที่มันเป็นเวทมนตร์ระดับเทวะตำนานได้ ก็เพราะว่ามันสามารถหลบหนีได้แม้แต่เหล่าเทพเจ้าแท้จริง และเป็นบนเวทโบราณในตำนานอย่างไม่ต้องสงสัยใดๆ
แต่ถึงมันจะมีข้อดีมากมายแค่ไหนก็ตาม เจ้าเวทมนตร์บทนี้ มันก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือผู้ใช้ม้วนคัมภีร์เวทจะไม่ถูกเคลื่อนย้ายไปด้วย หลังจากที่ได้เรียกใช้เวทหลบหนีไปแล้ว
และจะต้องใช้ทั้งร่างกายจิตวิญญาณเป็นแหล่งพลังเวท ในการทำงานของเวทมนตร์โบราณบทนี้ คล้ายกับการบูชายัญร่างกายและจิตวิญญาณที่เป็นการตกตายอย่างถาวรนั่นเอง
เซารอนใช้ม้วนคัมภีร์เวทโบราณ และกำหนดให้กองกำลังทั้ง 50 คน รวมไปถึงร่างไร้วิญญาณทั้งหมดหลบหนีไปยังก้อนเมฆสังเกตการณ์ ของนายท่านมากเมฆที่ลอยอยู่เหนือเมืองเมฆเคลิ้มในทันที
ร่างกายของเพื่อนๆ ที่ไร้วิญญาณและกองกำลังที่ยังเหลือรอด ทั้งหมดถูกเคลื่อนย้ายหายไปในพริบตา
แรงกดดันของพลังเวทโบราณ ช่างมากมายมหาศาล จนแม้แต่พวกพรรคมารพิษสวรรค์ที่มีระดับเลเวล 1700 ต่างก็ยังไม่อาจจะเข้ามาขัดขวาง หรือกระทำการใดๆ ได้เลย
ในขณะเดียวกันร่างกายของเซารอนค่อยๆ ละลายหายไปอย่างช้าๆ ... และหลงเหลือไว้เพียงแต่แหวนเทพเจ้าแห่งพิษเท่านั้น
แต่ดูเหมือนว่าแหวนวงนี้ก่อนที่จะตกลงสู่พื้น มันได้ส่องแสงประหลาดออกมาวูบหนึ่ง และดูดกลืนบางสิ่งบางอย่างเข้าไปภายในแหวน และยากที่จะสังเกตเห็นได้ พร้อมกับทำการปิดผนึกตัวมันเองในทันทีและกลายเป็นแค่ไอเทมประดับสวยงามระดับ SSS เท่านั้น
ดูเหมือนแหวนเทพเจ้าแห่งพิษ จะมีความนึกคิดเป็นของตัวเองอย่างไงอย่างงั้น เพราะในขณะที่กำลังถูกบังคับให้วาร์ปไปยังจุดหมายที่เลือกไว้ แหวนเทพเจ้าวงนี้กับเลือกที่จะปฏิเสธ และกระทำการบางสิ่งที่ไม่ธรรมดาเข้าให้แล้ว
ก่อนหน้านั้นเล็กน้อย ราว 1-2 นาที ในขณะที่มากเมฆกำลังเฝ้าสังเกตการณ์เมืองเมฆเคลิ้ม จากมุมสูงบนก้อนเมฆที่ได้สร้างขึ้นมาเป็นของตัวเอง
ระบบแจ้งเตือนต่างๆ ของชายหนุ่มก็เด้งแจ้งเตือนออกมาถี่อย่างมาก จนตัวเขาเองเริ่มรู้สึกไม่ดี
พร้อมกับประหลาดใจไม่น้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น และหากเป็นเมื่อก่อนสมัยที่เข้ามาออนไลน์เกมใหม่ๆ หากมีการแจ้งเตือนแบบนี้ ก็จะมีรากไม้คอยพูดให้ฟังอยู่เสมอ แต่สำหรับในตอนนี้แล้ว มากเมฆจำเป็นจะต้องอ่านมันเอาเองเกือบทั้งหมด จากหน้าต่างของระบบเกมที่เด้งขึ้นมามากมาย และได้พบว่ากองกำลังของเซารอน ได้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมากถึง 20 คน
และไม่นานนักอยู่ๆ ก็ปรากฏร่างกายไร้วิญญาณ และกองกำลังพิษของเซารอนที่ด้านหลังของเขา
ทั้งหมดอยู่ในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส และต่างก็ติดพิษร้ายแรงกันหมด แถมร่างไร้วิญญาณของแต่ละคนก็ถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก ไม่ว่าจะแขนขาด ขาหาย ใบหน้าถูกทำลาย จนไม่เหลือสภาพที่สมบูรณ์เลย แลเป็นภาพที่ไม่น่ามองอย่างยิ่ง
มากเมฆไม่รอช้าทำการชุบชีวิต และรักษาอาการบาดเจ็บให้กับทุกคนในทันที ด้วยบทเวทมนตร์ระดับตำนานเทพเจ้าของเขา ไม่ว่าจะเป็นลมหายใจมหาเทพและเวทมนตร์ชุบชีวิตคืนสภาพต่างๆ เพียงใช้เวลาไม่นานนัก ทั้งหมดก็กลับมาแข็งแรงดั่งเดิม เหมือนกับก่อนหน้านี้ 100%
แต่ทว่าสีหน้าของแต่ละคนกับเต็มไปด้วยความทุกข์ โศกเศร้าเสียใจและร้องไห้ออกมาราวกับเด็กๆ และในขณะนั้นเอง หน้าต่างระบบเกมของมากเมฆก็เด้งขึ้นมาอีกครั้ง และรายงานถึงการเสียชีวิตของเซารอน และเป็นการตกตายอย่างถาวร 50% อีกด้วย ไม่สามารถชุบชีวิตได้ด้วยวิธีการปกติ และทำให้มากเมฆสงสัยอย่างมาก กับการตายถาวร 50% มันคืออะไร ??!!
พร้อมกันนั้นที่เมืองเมฆเคลิ้ม อยู่ๆ ก็เกิดการระเบิดขึ้นมาอย่างรุนแรง ออกมาจากบาเรียป้องกันของทางระบบหลัก ใกล้จุดที่ได้ปกคลุมสิ่งก่อสร้างเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นจุดที่มากเมฆไม่สบายใจ และได้ฝากให้คามูโม่พยายามเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง หากสามารถทำได้ในก่อนหน้านี้
และในขณะเดียวกันอยู่ๆ วงแหวนมหาเทวะตำนานโบราณ เขตแดนแห่งยุคหินดึกดำบรรพ์ ก็ถูกทำลายหายไปพร้อมกันอีกด้วย คล้ายกับถูกยิงด้วยพลังงานทรงอำนาจบางอย่างที่มากเมฆไม่รู้จัก และมันรวดเร็วอย่างมากจนยากที่จะสังเกตเห็นได้ตั้งแต่ต้น
สภาพของเมืองเมฆเคลิ้มในปัจจุบัน เสียหายมากกว่าก่อนหน้านี้หลายร้อยเท่า แรงระเบิดทำให้กองกำลังขุนพลเทพเจ้าเกือบทั้งหมดและเหล่าขุนพลทั้ง 9 ต่างก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีหลายร้อยคนเสียชีวิตในทันที
โชคยังดีที่ก่อนหน้านี้เล็กน้อยราว 2 นาที เหล่า NPC ปกติทั้งหมดกว่า 26 ล้านคน ต่างก็ได้หลบหนีออกจากเมืองเมฆเคลิ้มไปหมดแล้ว และได้รับการดูแลจากเตียวเสี้ยนและเทพลิโป้อยู่ในขณะนี้ ภายในเมืองเฟยอวี่ในฐานะพลเมืองอย่างถูกต้อง พร้อมกับจัดสรรที่อยู่อาศัยและหน้าที่ให้ทุกคนได้ทำ ได้มีงานทำกันทุกคน 100% ตามความชอบและความถนัดที่มี ทั้งหมดสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติอีกครั้ง โดยนับ 1 ใหม่ตั้งแต่ต้น และทั้งหมดยังได้รับมอบเงินและอาหารสำหรับ 3 เดือนแรกอีกด้วยในจำนวนมาก
แต่สำหรับในเวลานี้ มากเมฆได้รู้แล้วว่าเมืองเมฆเคลิ้มและสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมากมายทั้งหมดที่ผ่านมา
พวกมันเป็นแค่ แผนการสำหรับเรียกให้ตัวเขาปรากฏตัวออกมา
เพราะในตอนนี้หลายสิ่งหลายอย่าง มันได้เปลี่ยนไปหมดแล้ว และหากจะให้มากเมฆลำดับเหตุการณ์ จากทุกสิ่งที่ได้เห็นและคาดเดาออกมา
มันก็คงเป็นแผนที่ซ้อนอยู่ในแผนตั้งแต่แรก ที่แม้แต่ชายสวมหน้ากากเหล็กดำ ก็ยังไม่ได้รับอนุญาตให้รู้แม้แต่น้อย และสำหรับการหายตัวไปของเหล่าทหารเคออสระดับสูง จำนวนมากก่อนหน้านี้ และหัวหน้ากิลด์ตัวแทนแต่ละคน รวมไปถึงกองกำลังสนับสนุนที่กำลังรีบเร่งเดินทางมาในครั้งนี้ด้วย จากระยะไกล
คำตอบทั้งหมดมันได้มาอยู่ที่ตรงหน้าของมากเมฆแล้ว ทั้งที่ตนเองยืนอยู่บนก้อนเมฆสีขาวที่สร้างขึ้นมา และมันได้ลอยสูงอย่างมากภายในชั้นบรรยากาศของโลกเวทมนตร์ และยากจะมีสัตว์อสูร หรือผู้เล่นที่บินได้จะสามารถบินขึ้นมาสูงได้มากขนาดนี้
แต่ในตอนนี้ตรงหน้าของมากเมฆ มันได้ปรากฏร่างของหุ่นยนต์จักรกล ขนาดเท่าตัวคน สูงราว 240 เซนติเมตร ทุกส่วนของมันเป็นสีดำและเป็นโลหะที่ตรวจสอบไม่ได้ ภายนอกคล้ายมนุษย์จักรกลโบราณอย่างมาก และมีดาบยาว 6 เมตรขนาดใหญ่ ถือเอาไว้บนมือทั้งสองข้าง
แต่หากสังเกตให้ดีเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้ ก็มีส่วนที่คล้ายกับเทวทูตสงคราม อยู่หลายส่วนเช่นกัน พร้อมกับมีปีกขนาดใหญ่ขนนกสีเงิน ที่เต็มไปด้วยออร่าเทพเจ้าที่ด้านหลังจำนวน 8 ปีก ทำให้มันแลดูสง่างามสมบูรณ์แบบเป็นอย่างมาก
และยังมีวงแหวนเทพเจ้าขนาดใหญ่ที่ไม่ควรจะไปอยู่ที่ด้านหลังของหุ่นยนต์ได้เลย กำลังปลดปล่อยพลังงานประหลาดและอักขระเวทมนตร์โบราณออกมาอย่างต่อเนื่อง
คล้ายกับพลังเวทพลังจิตและพลังงานรูปแบบต่างๆ ออกมาอย่างมากมาย ราวกับว่ามันสามารถปะทุพลังใดๆ ออกมาก็ได้ไม่สิ้นสุด และมันกำลังยืนเผชิญหน้ากับมากเมฆอยู่ในขณะนี้
ในระหว่างนั้นเองมากเมฆทำการออกคำสั่งให้กองกำลังทั้งหมด กลับไปยังมิติพระเจ้าเมฆมายาในทันทีอย่างเร่งด่วน และให้เก็บกายเนื้อของทุกคนที่เสียชีวิตกลับไปอีกด้วยทั้งหมด ไม่ว่าจะเหลือเศษซากมากน้อยแค่ไหนก็ตาม
พร้อมกับออกคำสั่งพิเศษส่งไปให้ทางมังกรหายนะทั้งสาม ให้ช่วยมารักษาและชุบชีวิตให้กับกองกำลังเทพเจ้าด้วยในทันที หลังจากที่ทุกคนได้เข้าไปภายในมิติพระเจ้าเมฆมายาแล้ว
".. ยินดีที่ได้พบ คุณหายนะสีเงิน ดีใจจริงๆ ที่จะได้นายมาเป็นหนูทดลอง อาวุธเทพเจ้าจักรกลในครั้งนี้ ตอนแรกก็ลำบากใจอยู่เหมือนกันว่าจะไปหนูทดลองดีๆ ได้ที่ไหน .."
".. อ้อโทษที ผมลืมแนะนำตัวเองก่อนสินะ ผมมีชื่อว่า กายเมฆ เมฆาเทพ เหตุที่บอกชื่อและนามสกุลจริงไปด้วย เผื่อคุณอยากจะแก้แค้น จะได้กำหนดเป้าหมายได้ถูก แต่ส่วนใหญ่พอผมบอกชื่อสกุลออกไปแบบนี้ ทุกคนก็หวาดกลัวหนีหายไปหมด ช่างน่าเสียดายจริงๆ อยากเจอของแข็งบางเหมือนกัน ประมาณว่าร่างกายอยากได้รับแรงปะทะ .."
".. เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ผมได้ทำการควบคุมหุ่นยนต์ตัวนี้จากระยะไกล คุณหายนะสีเงิน อาจจะตกใจเล็กน้อยที่ได้เห็นระดับเลเวลของเจ้าหุ่นยนต์จักรกลตัวนี้ แต่มันก็เป็นผลสำเร็จและข้อผิดพลาดอีกเล็กน้อย จากการทดลองของดาวเคออสอย่างลับๆ และการผสมผสานระหว่างสามดวงดาวที่ผมได้รับมาจากกลุ่มอำนาจต่างๆ มันสุดยอดไปเลยว่ามั้ย วงแหวนเทพเจ้าที่สามารถใช้พลังได้ไม่จำกัด และยังมีรูปแบบพลังที่หลากหลายแบบสุดๆ .."
".. แต่ก้อน่าเสียดายเหมือนกัน ที่ค่าหัวของนายมีแค่ 8 หมื่นกว่าล้าน เงินมันน้อยเกินไป ช่วงที่ผ่านมานายน่าจะสร้างวรีกรรมเยอะๆ ให้มากกว่านี้ เอาเป็นว่าช่วยมาเป็นหนูทดลอง ทดสอบความสามารถและเป็นกระสอบทรายให้หน่อยล่ะกัน คุณหายนะสีเงินผู้ไม่เคยพ่ายแพ้ใคร ฮ่า ฮ่า ฮ่า .." กายเมฆหัวเราะออกมาเสียงดังหลังจากที่ได้พูดจบ และมั่นใจอย่างมากในพลังจักรกลเทพของตนเอง และไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย
ก่อนหน้านี้เล็กน้อยตอนที่ได้มากเมฆได้เห็นหุ่นยนต์เทวทูตสงครามเป็นครั้งแรก เขาได้ทำการตรวจสอบอีกฝ่ายในทันที และตัวมันเองก็ไม่มีการปกปิดข้อมูลใดๆ มากนัก และสามารถที่จะมองเห็นระดับเลเวลของมันได้ เพียงแต่ว่าข้อมูลอื่นๆ ไม่สามารถจะมองเห็นได้ เนื่องจากระดับเลเวลที่ห่างกันมากเกินไป จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้นั่นเอง
ตรวจสอบข้อมูล | |
จักรกลเทวทูตสงคราม โบรอส (ไม่สมบูรณ์) | ระดับเลเวล : 5,100,000 (ไม่เสถียร) |
สถานะ : จักรกลเทพเจ้า | สถานะร่างกาย : คงสภาพได้ไม่นาน |
เจ้าของ : กายเมฆ | อายุ : ตรวจสอบไม่ได้ |
พลังชีวิต : ตรวจสอบไม่ได้ | พลังเวทมนตร์ : ตรวจสอบไม่ได้ |
พลังลมปราณ : ตรวจสอบไม่ได้ | พลังกาย : ตรวจสอบไม่ได้ |
พลังวิญญาณ : ตรวจสอบไม่ได้ | ความร้อนภายใน : ตรวจสอบไม่ได้ |
สถานะร่างกาย สกิลพิเศษหลอมสร้างเทพเจ้าจักรกล มีผลให้เกิดการการหลอมรวมระดับเลเวล ของเหล่าทหารเคออสผู้เสียสละ ทั้งหมด 3,000 คน โดยทั้งหมดมีระดับเลเวล 1,700 และทหารเคออสเหล่านั้น กำลังอยู่ในสภาวะหลับลึก และหากได้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ระดับเลเวลจะถูกลดลงทันที 50% เป็นระยะเวลา 6 เดือนเวลาในเกม และจะต้องเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสเป็นเวลา 3 ชั่วโมง ไม่สามารถยกเลิกได้ | พลังกาย : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ความฉลาด : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ความอึด : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ความเร็ว : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ความว่องไว : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ความแม่นยำ : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป พลังโจมตี : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป พลังโจมตีเวท : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป พลังป้องกันกาย : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป พลังป้องกันเวท : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ต้านทาน : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป ค่าโชค : ตรวจสอบไม่ได้ระดับเลเวลห่างกันเกินไป สถานนะอีกมากที่ตรวจสอบไม่ได้ +30 |
หลังจากที่ได้เห็นข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ มากเมฆก็คาดเดาและเข้าใจได้ทุกอย่าง รวมไปถึงการทดลองต่างๆ ในก่อนหน้านี้ของพวกมันเกือบทั้งหมด
บาเรียของระบบหลักยังคงอยู่และไม่ได้หายไปไหน ไม่สามารถเข้าไปได้ แต่สามารถออกมาได้ ตัวอย่างก็คือเจ้าหุ่นยนต์จักรกลเทพสีดำตัวนี้ ที่ได้ยิงปืนลำแสงออกมาทำลายวงแหวนเวทจนหายไป
และภายในม่านพลังบาเรียป้องกัน จะต้องมีทหารเคออสระดับสูงที่หายตัวไปก่อนหน้านี้ จำนวนทั้งหมดสามพันคน กำลังนอนหลับลึกอยู่ภายในอาคารที่กำลังก่อสร้างเหล่านั้น และได้รับการป้องกันจากระบบหลักที่เป็นบาเรียพิเศษแน่นอน
ดูเหมือนกายเมฆจะอาศัยช่องโหว่ที่มี มาเป็นข้อได้เปรียบอย่างลงตัว และกลายมาเป็นปัญหาให้กับมากเมฆได้อย่างพอเหมาะ ระดับลเวลของผู้เล่นมักจะติดเงื่อนไขหากไปต่างดวงดาว
แต่หากเป็นระดับเลเวลของอุปกรณ์ต่อให้มากมายแค่ไหนก็จะไม่ถูกนับ และสำหรับอาคารที่พวกมันกำลังก่อสร้างและสิ่งของต่างๆ ภายใน คงจะเต็มไปด้วยวิทยาการล้ำหน้าและองค์ความรู้ต่างๆ จากทั้งสามดาวแม่ที่พวกมันรวบรวมมาได้แน่ๆ และนำมาสร้างจักรกลเทพเจ้าตัวนี้ขึ้นมาอย่างแน่นอน และสำหรับไอ้เจ้าระเบิดทำลายล้างดาวเคราะห์เล็ก ที่ได้ถูกติดตั้งและฝังดินเอาไว้ มันก็มีไว้สำหรับลบหลักฐานทุกๆ อย่างให้หายไปนั่นเอง และคงจะหวังผลในส่วนต่างๆ เอาไว้ด้วยอีกแน่ๆ
มากเมฆนับถือในความคิดและการวางแผนต่างๆ และการเตรียมความพร้อมของกายเมฆจริงๆ
กลับมายังปัจจุบัน หลังจากที่สิ้นเสียงหัวเราะของกายเมฆผู้หลงตัวเองและบ้าอำนาจ จักรกลเทวทูตสงครามทำการเก็บดาบทั้งสอง หายเข้าไปภายในมิติเก็บของที่อยู่กลางลำตัวของมันที่คล้ายกับลูกแก้วขนาดใหญ่
พร้อมกับทำท่าเชิญชวนให้หายนะสีเงินเข้าไปต่อสู้มือเปล่ากับมันอย่างดูถูกดูแคลน
".. มามะ หนูทดลองหายนะสีเงิน ลองมาสู้กับโปรแกรมต่อสู้มือเปล่าอัตโนมัติ ที่ได้รวบรวมวิชาการต่อสู้ทุกรูปแบบเอาไว้แล้ว จากทั่วโลก และหลากหลายสำนัก อ้อ ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกลัว ผมจะให้ทำมันงานและใช้พลังแค่ 1 % เท่านั้น เริ่มละนะ หวังว่าจะไม่ตายแบบโง่ๆ เพียงแค่ 1 % หรอกนะ .."
กายเมฆผู้ควบคุมจักรกลเทพเจ้าจากระยะไกล ที่ไม่รู้ว่าควบคุมมาจากที่ไหน ได้พูดจาดูถูกดูแคลนและท้าทายหายนะสีเงินอย่างเปิดเผยต่อเนื่อง พร้อมกับพยายามจะให้อีกฝ่ายลงมือก่อน
ราวกับอีกฝ่ายเป็นแค่ของเล่นตัวตนไร้ค่า .. จะทำลายหรือให้อยู่ยังไงก็ได้ พร้อมกับเคลื่อนไหวจักรกลเทวทูตสงครามไปมารอบๆ หายนะสีเงิน บนก้อนเมฆราวกับกำลังเต้นรำอย่างสบายใจ และไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตาแม้แต่น้อย กวนประสาทอย่างมาก แต่สำหรับมากเมฆในตอนนี้ กำลังรู้สึกเจ็บปวดและเต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้ที่แปลกประหลาด ทั้งโกรธแค้น เสียใจ และก็ดีใจที่ในที่สุดก็ได้มาพบกับน้องชายแท้ๆ ของตัวเองอีกครั้ง และถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่รู้ว่าตนเองเป็นใครก็ตาม
มากเมฆเต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่สับสน ขัดแย้ง ไม่อยากทำร้ายน้องชายของตัวเองเลย อยากจะถามว่าสบายดีมั้ย กินข้าวหรือยัง เป็นยังไงบ้างเหลือเกิน แต่ก็ไม่อาจจะทำได้อย่างคนปกติทั่วไป..
และการที่ต้องสูญเสียเซารอนไปก่อนหน้านี้ มากเมฆก็ทำใจยอมรับไม่ได้อยู่หลายส่วน โกรธแค้นพวกพรรคมารพิษสวรรค์อย่างมาก และสาบานว่าจะไปล้างบางพวกมันให้หมด ที่ได้กระทำการอย่างโหดร้ายกับเหล่าผู้ติดตามของเขาถึงที่
พร้อมกับกล่าวโทษตัวเองที่ยังรอบคอบไม่มากพอ ตัดสินใจผิดพลาดไม่เข้มงวดให้มากกว่านี้
และปล่อยให้ผู้ติดตามต้องมาจากไป แถมเซารอนนั้นยังมีคนรักคู่หมั้นรอคอยให้ชายหนุ่มกลับไปหา มากเมฆไม่รู้จะไปอธิบายกับเธอคนนั้นว่ายังไงดี
ในขณะที่มากเมฆกำลังเต็มไปด้วยความสับสน และไม่อาจจะปล่อยวางอารมณ์ต่างๆ ลงได้
กายเมฆผู้ขี้เกียจจะรออีกต่อไปแล้ว ก็ได้เริ่มเป็นฝ่ายลงมือก่อนในทันที ฉวยโอกาสทำการเคลื่อนไหวร่างกาย กระโดดลอยขึ้นสูง พร้อมกับปลดปล่อยพลังหมัดอันดุดันราวกับปืนใหญ่ลงมาจากมุมสูงเหนือศีรษะของหายนะสีเงิน
หมัดเทพคลื่นสวรรค์ 9 บรรจบ !!!
พลังจากหมัดเหล็กสีดำที่เต็มไปด้วยพลังของเทพเจ้าโบราณ ทับซ้อนกันอยู่ถึงเก้าชั้นฟ้า ได้พุ่งเข้าใส่มากเมฆที่กำลังสับสนอย่างไม่มีลังเลเข้าอย่างจัง
จนแม้แต่ก้อนเมฆสีขาวขนาดใหญ่ยักษ์ ที่มากเมฆได้สร้างเอาไว้เป็นจุดสังเกตการณ์ก่อนหน้านี้ ถึงกับสลายหายไปถูกทำลายในทันที
ตูมมมมมมม!!! อ่านเก้าครั้ง ...
พร้อมกันนั้นร่างกายของหายนะสีเงิน ก็ราวกับเป็นเทพเจ้าที่กำลังตกจากสวรรค์ชั้นฟ้า ด้วยความเร็วสูงเหนือเสียงเป็นเส้นตรง กระแทกเข้ากับพื้นดินพสุธาที่ด้านล่างอย่างรุนแรง จนเกิดเป็นหลุมลึกกว้างอย่างมาก
พื้นดินและหินแตกกระจายไปทั่ว แรงสั่นสะเทือนไม่ต่างจากการที่ภูเขาไฟขนาดมินิกำลังระเบิดปะทุพลังงานที่สะสมออกมาแม้แต่น้อย พร้อมกับการระเบิดออกของพลังเทพเจ้า หมัดเทพคลื่นสวรรค์เก้าบรรจบ ได้ทำลายล้างสิ่งต่างๆ โดยรอบจนหมดสิ้นถึงเก้าครั้ง
ป่าไม้โดยรอบของเมืองเมฆเคลิ้ม ต่างก็ถูกเผาไหม้ทำลายหายไปในพริบตา สัตว์อสูรมากมายต่างก็กำลังหนีตายอย่างไม่คิดชีวิต คล้ายกับวันนี้จะเป็นวันสิ้นโลกของพวกมันอีกครั้ง
เพียงพลังทำลายล้างแค่ 1% ของจักรกลเทวทูตสงคราม ระดับเลเวลห้าล้านหนึ่งแสนเท่านั้น
แต่มันกับช่างมากมายมหาศาลเหลือเกิน จนแม้แต่ตัวของมากเมฆเองก็ยังคิดไม่ถึง และหากตนเองไม่ได้สร้างโล่อักขระกลืนมายาเอาไว้หลายร้อยชั้นก่อนหน้านี้ ผ่านทางมิติรังสรรค์ และสวมใส่ไอเทมระดับตำนานไว้มากมาย เขาเองก็อาจจะตายไปแล้วก็เป็นได้
กายเมฆมองดูผลงานของตัวเองก็ชอบใจอย่างมาก เพียงแค่ 1 % ก็มีพลังทำลายล้างสูงแล้ว มันไม่ต่างจากบทเวทมนตร์ระดับตำนานเทพเจ้าเลย และหากตนเองได้เพิ่มพลังให้มากกว่านี้ มันอาจจะมากกว่าระดับหายนะเทพเจ้าก็เป็นได้
ในตอนแรกกายเมฆคิดว่าหายนะสีเงินคงไม่รอดแล้ว และกำลังจะจากไปเพราะหมดความสนใจ พร้อมกับว่าจะไปลองใช้พลังที่มีโดยการทำลายเมืองและหมู่บ้านทั้งหมดภายในทวีปจิตมายาให้หายไป หรือแม้แต่จะลองจมเกาะกลางทะเลเล่นดูอยู่เหมือนกัน แต่ทว่าไม่ว่าตนเองจะรอนานเท่าไหร่ ก็ยังไม่ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของเอไอส่วนตัว รายงานผลถึงการสังหารหายนะสีเงินเลยแม้แต่น้อย
จึงอดที่จะประหลาดใจและรีบบินลงมายังใจกลางหลุมลึกที่เป็นผลงานของตนเองไม่ได้ และในตอนนี้เองหลุมลึกที่ว่าก็ได้กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่หมดไปแล้ว
ที่ใจกลางแอ่งน้ำได้ปรากฏชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่บนผิวน้ำ และสวมหน้ากากสีเงินชุดคลุมสีดำโบราณกำลังหลับตาอยู่ คล้ายกับรูปปั้นที่สงบนิ่งและเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง แลดูสบายตาและเป็นธรรมชาติอย่างมาก
พร้อมกับคำพูดที่ชวนให้อีกฝ่ายเลือดสูบฉีดมากขึ้นหลายเท่าตัว และเต็มไปด้วยอารมณ์ตื่นเต้นไม่พอใจ อยากจะต่อสู้ให้มากกว่านี้อีก
".. น้องชายกายเมฆพลังทำลาย 1 % งั้นสินะ งั้นมาลองพลังของพี่ชายคนนี้ดูมั้ย เพียงแค่ 0.01% ดูแล้วกัน .."
มากเมฆเร่งเร้าพลัง "หมื่นลมปราณดาราทมิฬ" ออกมาอย่างรุนแรงบ้าคลั่ง พร้อมจะจบชีวิตอีกฝ่ายในพริบตา
แต่ทว่าในระหว่างนั้นเอง เจ้าหน้าต่างของระบบแจ้งเตือนนับเวลาถอยหลังที่ให้ออกจากเกม มันกับดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนว่าทุกครั้งที่จะใช้พลังลมปราณอย่างเร่งรีบ จำนวนตัวเลขเวลานับถอยหลัง ก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน
จากการคำนวณของมากเมฆ เขาเองคงจะออนไลน์ได้อีกแค่ไม่เกิน 10 นาที สำหรับเวลาภายในเกมเท่านั้น
หากยังจะต่อสู้กับอีกฝ่าย ด้วยการใช้พลังหมื่นลมปราณดาราทมิฬแบบนี้
จนสุดท้ายมากเมฆก็ต้องหยุด และพูดบอกกับตัวเองว่า “เปลี่ยนแนวก็แล้วกัน ..”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

จัดหนักเลยยยย
และก็รอตอนต่อไปอีกเช่นเคยครับสนุกมากจริงๆสมแล้วที่รอคอย ในตอนนี้ผมว่ามากเมฆคงสอดส่องดูแลลูกน้องอยู่และให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นบทเรียนก่อนที่จะไปช่วยเพราะว่าถ้าภารกิจในครั้งหน้ามีปัญหามันจะใหญ่เกินไปที่จะแก้ไขปรับปรุงตัวและเพื่อให้เรียนรู้ถึงความประมาทของตนเองจะได้แก้ไขได้โดยเร็ววัน