ตอนที่ 79 : บทที่ 79 ขุนพลเทพเจ้า
บทที่ 79 ขุนพลเทพเจ้า
การปรากฏตัวอย่างฉับพลันของกลุ่มผู้เล่นจำนวนมาก ที่ได้กระจายตัวกันไป รอบๆ กำแพงเมืองเมฆเคลิ้มในจุดยุทธศาสตร์ที่เครื่องกลไฮเทคเหล่านั้นตั้งอยู่ ได้สร้างความประหลาดใจ และตื่นตัวให้กับเหล่าทหารเคออสที่รักษาการณ์อยู่ในขณะนั้นเป็นอย่างมาก
ต่างก็สงสัยว่ากลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ ปรากฏตัวออกมาจากที่ไหนและมาได้ยังไง ทั้งที่โดยรอบก็เปิดเครื่องสลายพลังเวทมนตร์เอาไว้อยู่แล้ว ในระดับที่ต่ำสุด แต่ก็มีผลให้ไม่สามารถใช้เวทมนตร์ได้อยู่ดี
เมื่อเห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดีและไม่น่าไว้วางใจ เหล่าทหารเคออสเกือบทั้งหมดที่เห็นเหตุการณ์ ต่างก็รีบพุ่งเข้ามาโจมตี เหล่าผู้เล่นทั้ง 248 คนอย่างรุนแรง หมายจะสังหารอีกฝ่ายให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อตัดปัญหาที่คาดไม่ถึง
แต่พวกทหารเคออสทั้งหมดก็ช้าเกินไป เพราะผู้เล่นจำนวนทั้งสิ้น 248 คน ได้ใช้ทักษะเฉพาะของตัวเอง ทำการเข้าใกล้เครื่องกลไฮเทคที่ปล่อยคลื่นสลายพลังเวทมนตร์อย่างรวดเร็วในทันที
พร้อมกับนำเอาศิลาเวทที่เต็มไปด้วยอักขระเวทโบราณ ขึ้นมาบีบทำลายอย่างพร้อมเพรียง จนก่อให้อักขระเวทมนตร์แปลกประหลาดมากมาย นับล้านๆ ตัวอักษรหลายสีหลายขนาด พร้อมกับวงแหวนเวทมนตร์จำนวนมาก ได้หลุดลอยออกมา จากภายในศิลาเวทอย่างต่อเนื่อง เข้ารุมล้อมร่างกายของผู้ทำลายเอาไว้อย่างสมบูรณ์ ราวกับกำลังกลืนกินผู้เล่นเหล่านั้นอย่างป่าเถื่อน ต่างคนก็ต่างส่งเสียงร้องเจ็บปวดทรมานออกมาตลอดเวลา
และอยู่ๆ ก็เกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงในระดับเดียวกับมหาเวท ติดต่อกันหลายสิบ หลายร้อยครั้งแตกต่างกันไปของแต่ละคน อย่างต่อเนื่องจนสิ่งปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนต่างๆ รอบข้างถูกทำลายทั้งหมดไม่มีเหลือ แม้แต่เจ้าเครื่องกลไฮเทคสลายพลังเวทมนตร์ก็ถูกทำลายไปด้วยเช่นกัน
โดยระเบิดศิลาอักขระเวทโบราณเหล่านั้น จะทำการดูดกลืนระดับเลเวลของผู้เล่น นำมาเป็นพลังงานสะสมและใช้เป็นจำนวนครั้งในการระเบิด และทำลายตัวมันเองไปพร้อมๆ กับผู้ใช้ในทันทีในระดับมหาเวท ด้วยเหตุนี้จึงมีแต่ผู้เล่นเท่านั้นที่ทำได้ เพราะหากให้มนุษย์ดั้งเดิมหรือ NPC ปกติไปทำหน้าที่นี้ ทั้งหมดคงตกตายเป็นการถาวร
และผลลัพธ์ของพลังทำลายล้าง จะรุนแรงมากหรือน้อยเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับระดับเลเวลที่ยอมแลกให้ในขณะนั้น ของผู้เล่นแต่ละคน แต่รู้สึกว่าแต่ละคนจะยอมเหลือเลเวล 1 เหมือนๆ กันหมดอย่างไม่ลังเล หรือไม่ก็หลงเชื่อหายนะสีเงินกันหมด และยินดีแรกด้วยทุกสิ่งที่มีนั่นเอง
สำหรับแหวนที่ได้รับมาจากหายนะสีเงินนั้น ก็ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระบุเป้าหมาย ในการทำลายเครื่องกลไฮเทคที่ว่าเหล่านั้นจากระยะไกล คล้ายอุปกรณ์การทหารคอยชี้เป้าของเครื่องบินรบในสมัยก่อน แถมยังสามารถต่อต้านการสลายพลังเวทได้อีกด้วย
เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมา 100% อย่างสมบูรณ์ ไอเทมที่เป็นแหวน จะทำการส่งพลังทำลายทั้งหมดและจำนวนครั้งที่ระเบิดได้ ไปยังเครื่องกลไฮเทคที่อยู่ใกล้ที่สุดของผู้เล่นแต่ละคน ในทันทีอย่างแม่นยำตั้งแต่แรก
โชคยังดีที่บริเวณโดยรอบของเครื่องกลไฮเทคเหล่านี้ ไม่มี NPC ปกติเลยสักคน เพราะพวกทหารเคออสดูเหมือนจะระมัดระวังตัวอย่างมาก ถึงแม้คนเหล่านั้นจะกลายเป็นทาสไปแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่อนุญาตให้บุคคลอื่นใดเข้าใกล้เครื่องกลที่ว่าได้เลยแม้แต่คนเดียว
ศิลาระเบิดพลีชีพของผู้เล่นทั้ง 248 คน ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนพินาศย่อยยับ
ตูมมมมม!!! ตูมมมมม!!! ตูมมมมม!!! ตูมมมม!!! ตูมมมมม!!!
เสียงระเบิดทำลายล้างรุนแรงอย่างมากและดังอย่างต่อเนื่อง ราวกับปืนกล ราวกับท้องฟ้ากำลังจะถล่มลงมา จนแม้แต่ผู้เล่นและรวมไปถึงเหล่า NPC ที่กำลังสังเกตการณ์ จากภายในป่าและบริเวณโดยรอบจากระยะไกลทั้งหมด ต่างก็ได้ยินเสียงระเบิดและสามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
เหล่าทหารเคออสจำนวนมาก เห็นท่าไม่ดี รีบถอยหนีออกมาจากจุดศูนย์กลางของแรงระเบิดอย่างรวดเร็ว เอาชีวิตรอดกันอย่างลนลาน เพื่อรักษาชีวิตและอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ ของตัวเองเอาไว้ พร้อมกับส่งสัญญาณแจ้งเตือนไปยังกลุ่มพันธมิตรเคออสทุกคน ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ กลายเป็นเสียงแจ้งเตือนที่ดังคล้ายกับการแจ้งเตือนภัยพิบัติธรรมชาติร้ายแรง ดังไปทั่วทั้งตัวเมืองเมฆเคลิ้ม แม้แต่เหล่าทหารที่ออกเวรไปแล้วก่อนหน้านี้ ยังต้องรีบสวมเกราะจักรกลและออกมาปฏิบัติหน้าที่ในทันที
หลังจากที่สิ้นเสียงระเบิดครั้งสุดท้าย สิ่งที่เหล่าทหารเคออสทุกคนได้เห็น ก็เหลือแค่ซากเศษของเครื่องกลไฮเทคและรอบๆ ข้างก็เต็มไปด้วยอาคารบ้านเรือนที่เสียหายจนใช้การไม่ได้อีกต่อไปจำนวนมาก
ในขณะเดียวกันทางทิศตะวันออกของเมืองเมฆเคลิ้มไม่ไกลนัก กลุ่มกองกำลังของขุนพลเทพเจ้าของมากเมฆ ที่นำทัพมาโดยไรริอัสผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งเปลวเพลิง และไลท์นิงผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งสายฟ้า
ทั้งสองคนได้รับหน้าที่สำคัญเป็นทัพหน้า นำกองกำลังแรกของตัวเอง บุกเข้าทำลายล้างและสังหารโหดเหล่าทหารเคออสทุกคนอย่างไม่ป่าเถื่อน ราวกับพายุเพลิงสายฟ้าสวรรค์ก็ไม่ปาน ไม่ว่าจะผ่านไปทีใดสถานที่นั้นๆ จะถูกทำลายหายไปทั้งหมด ด้วยพลังเวทมนตร์ที่อยู่เหนือจินตนาการ ไร้ขีดจำกัด อย่างบ้าคลั่ง ราวกับทั้งสองเป็นร่างสถิตของเทพเจ้าโบราณผู้ทำลายล้างในอดีตก็ว่าได้
หญิงสาวทั้งสองคนเพียงใช้เวลาแค่ไม่ถึง 5 วินาทีเท่านั้น ประตูเมืองขนาดใหญ่ที่สร้างด้วยวิทยาการล้ำสมัยจากดาวเคออสสุดแข็งแกร่ง ก็กลายสภาพเป็นแค่เศษซากไร้ราคาในพริบตา
แถมกำแพงเมืองทางทิศตะวันออกยังถูกทำลายเสียหายอย่างหนัก ตั้งแต่ระเบิดพลีชีพของผู้เล่นทั้ง 248 คนอยู่ก่อนแล้ว พอต้องมารับเอาพลังทำลายล้างมหาโหดของสองสาวผู้บ้าพลัง สภาพของกำแพงที่เหลือจึงเลวร้ายกว่าเดิมหลายเท่าตัว
".. ตาเธอแล้วนะ อาลูน่า!! .." ไรริอัสตะโกนเสียงดัง ผ่านอุปกรณ์สื่อสารพิเศษที่นายท่านมากเมฆสร้างให้ บอกให้เพื่อนสาวคนสนิทของเธอ ทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในทันทีในลำดับต่อไป
หลังจากที่สิ้นเสียงตะโกนของไรริอัสหญิงสาวผู้เคยแทงดาบใส่มากเมฆจนเลือดสาด
อาลูน่าผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งแสง เธอก็เคลื่อนไหวร่างกายไปมา ราวกับลำแสงไร้ตัวตน พุ่งไปยังใจกลางเมืองอย่างรวดเร็วภายในพริบตา และยากที่จะมองเห็นหากไม่สังเกตให้ดี และด้วยความเร็วอันหน้าเหลือเชื่อนี้เอง ที่แม้แต่ไลท์นิงผู้ครอบครองแหวนเทพเจ้าสายฟ้า ก็ยังไม่สามารถมีความรวดเร็วเท่ากันเธอได้
// - - อาลูน่า ไอเดน เธอสามารถเคลื่อนที่ไปมาด้วยความเร็วแสงได้ - - //
".. ยัยบ้าไรริอัส!! ไม่ต้องตะโกนก็ได้ อายคนอื่นเค้า ไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ พูดธรรมดาก็ได้ยินแล้ว .." อาลูน่ารู้สึกอายที่เพื่อนสนิทของเธอ ชอบทำตัวเป็นเด็กอยู่เรื่อยๆ จนคนอื่นๆ ในกลุ่มก็มองเธอเป็นเด็กไปด้วยจนถึงทุกวันนี้
อาลูน่าทำการเปิดใช้เครื่องมือประหลาดที่ได้รับมาจากนายท่านมากเมฆในทันที
โดยได้นำออกมาจากแหวนเทพเจ้าของเธอ ที่ภายในแหวนนั้น จะมีช่องมิติเก็บของที่สามารถเก็บได้ไม่จำกัด ไม่ว่าจะขนาด น้ำหนัก หรือจำนวน แน่นอนว่าแหวนเทพเจ้าของคนอื่นๆ ก็มีคุณสมบัติมิติเก็บของเหมือนกัน
ณ ใจกลางเมืองเมฆเคลิ้ม อยู่ๆ ก็ปรากฏกล่องเหล็กสีดำขนาดใหญ่ขึ้นมา ภายนอกมองดูเหมือนเครื่องคอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์โบราณขนาดใหญ่ยักษ์เครื่องหนึ่งเท่านั้น แต่ทว่าอยู่ๆ เจ้าเครื่องประหลาดที่ว่านี้ ก็ระเบิดคลื่นพลังงานประหลาดโบราณออกมาอย่างต่อเนื่องรุนแรง พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าเป็นทางยาว ก่อตัวเป็นอักษรอักขระเวทโบราณจำนวนมากราวกับมีชีวิต จนแม้แต่ท้องฟ้า หมู่เมฆเลิกต่อต้าน ก่อนที่จะเปลี่ยนสีสันไปเรื่อยๆ อย่างน่ากลัว ลมพายุสายฟ้า คลื่นทะเลเริ่มบ้าคลั่ง สภาพอากาศเริ่มไม่แน่นอน เสียงฟ้าร้องและสายฟ้ากระจายตัวออกไปเป็นวงกว้างหลายร้อยกิโลเมตรจากจุดศูนย์กลางของพลังงานทมิฬ
และไม่นานเกินรอ อยู่ๆ ที่ใจกลางของท้องฟ้าเหนือเมืองเมฆเคลิ้ม ก็ปรากฏวงแหวนเวทโบราณขนาดใหญ่ยักษ์ ลอยอยู่เหนือเมืองทั้งเมืองอย่างยิ่งใหญ่สุดอลังการงานสร้าง หลายสิบหมื่นวงแหวนเวทหลากสีสัน ได้คอยๆ หลอมรวมกลายเป็นวงแหวนเวทโบราณที่หาดูได้ยากอย่างช้าๆ
พร้อมกับปลดปล่อยบรรยากาศแห่งความสิ้นหวัง และความตายออกมาอย่างไม่สิ้นสุด ทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ และที่ได้สัมผัสต่างก็หมดกำลังใจอย่างบอกไม่ถูก และอยากจะหนีหายไปไกลๆ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่กับไม่สามารถขยับตัวได้เลยสักคนเดียว
พร้อมกับมีเสียงแจ้งเตือนจาก AI ส่วนตัวของแต่ละคนดังขึ้น เป็นน้ำเสียงที่แปลกประหลาดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งภายในเมืองเมฆเคลิ้มและผู้เล่นที่อยู่รอบๆ บริเวณที่สามารถมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้
และได้รู้ว่าเจ้าวงแหวนมหาเวทขนาดมหึมาใหญ่ยักษ์ ที่สามารถปกคลุมทั้งเมืองเมฆเคลิ้มได้ในตอนนี้ อย่างสมบูรณ์ มันคืออะไรกันแน่ !!??
[: มหาเวท ระดับ เทวะตำนานโบราณ ได้ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ด้วยอักขระเวทโบราณของเหล่าเทพเจ้าแท้จริง ที่ได้สาบสูญไปแล้วในยุคสมัยแห่งเทพบรรพกาลในอดีต :]
[: ตั้งแต่ยุคสมัยของพระเจ้าแห่งการหลงลืมทั้งสามได้จากไป :]
[: ผู้เล่นและ NPC ทุกคน รวมไปถึงเหล่าสัตว์อสูรทั้งหมดที่ได้พบเห็นตำนานเกิดใหม่ในครั้งนี้ จะกลายมาเป็นสักขีพยานคนสำคัญ และจะได้รับค่าประสบการณ์พิเศษ 250,000,000 หน่วยเป็นรางวัล :]
[: มหาเวทเทวะตำนานโบราณ เขตแดนแห่งยุคหินดึกดําบรรพ์ :]
[: ชื่อผู้สร้างตำนาน ไม่เปิดเผย ฉายาผู้สร้างที่เปิดเผยได้ “หายนะสีเงิน” :]
[: เขตแดนแห่งยุคหินดึกดำบรรพ์นี้ มีผลทำให้ดินแดนที่ถูกปกคลุมไปด้วยมหาเวทโบราณทั้งหมด กลับคืนสู่ยุคหินอันบ้าคลั่งป่าเถื่อน ไร้อารยธรรมดีงาม และเทคโนโลยีทั้งหมดไม่สามารถใช้การได้ :]
[: มีแต่เหล่าเทพเจ้าแท้จริงเท่านั้นที่ยังคงมีพลังอำนาจ เหนือทุกสรรพสิ่งในเขตแดน มนุษย์และสัตว์อสูรทั้งหมด เป็นได้แค่สิ่งมีชีวิตที่โง่งมงายเท่านั้น ไม่ต่างอะไรจากหนอนแมลง :]
หลังจากที่ทุกคนได้ยินเสียงประกาศแจ้งเตือนแปลกๆ จาก AI ส่วนตัวของแต่ละคนกันแล้วนั้น บ้างคนถึงกับหวาดกลัวและรีบหนีออกมาจากพื้นที่บริเวณโดยรอบในทันที โดยไม่สนใจอยู่ดูต่อเพราะหลายๆ คนพอจะคาดเดาตอนต่อไปได้อยู่แล้วจากนี้ ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง
เพราะแค่รู้ว่าคนที่สามารถสร้างมหาเวทเทวะตำนานโบราณ สุดอลังการงานสร้างได้เป็นใคร มาจากไหน มีฉายาอะไรในปัจจุบัน ทุกคนในที่นี้ส่วนใหญ่ก็ไม่อยากจะอยู่รอดูผลอีกแล้ว
เพราะอาจจะต้องซวยไปด้วยเหมือนครั้งที่ผ่านๆ มาก็เป็นไปได้ ส่วนกลุ่มผู้เล่นที่รักตัวกลัวตายต่างก็รีบวิ่งหนีในทันที แถมตอนที่หนียังต้องวิ่งด้วยพละกำลังสองขาใส่เกียร์หมาของตัวเอง กันอย่างสุดแรงเกิดอีกด้วย
เพราะทุกๆ คนไม่เว้นแม้แต่สัตว์อสูรก็ยังไม่สามารถใช้ได้แม้แต่เวทมนตร์พื้นฐานอย่างง่ายๆ อุปกรณ์ช่วยบิน ไอเทมใบวาร์ปกลับเมือง และอื่นๆ ทั้งหมด มันไร้ผลไปหมดทุกอย่าง พวกมันไม่ทำงานเลยแม้แต่อย่างเดียว ทำได้แต่คุยกับ AI ส่วนตัวเท่านั้น พร้อมกับสอบถามว่าให้วิ่งไปทางไหนจะปลอดภัยมากที่สุด
อาลูน่าและเพื่อนสาวทั้งสอง ได้ทำหน้าที่ของเธอได้อย่างไร้ที่ติ
ทั้งสามคนพร้อมกับกองกำลังพลที่เหลือ ยังคงสามารถใช้เวทมนตร์ได้ เนื่องมาจากพวกเธอเป็นผู้ครองแหวนเทพเจ้าโบราณ จึงคล้ายกับเทพเจ้าแท้จริงอยู่ไม่ต่ำกว่า 50% และยังมีทักษะพลังในการบัพเวทมนตร์ออร่าเทพเจ้าให้กับผู้ติดตามได้อีกด้วยจำนวนมาก แต่ก็สามารถคงอยู่ได้แค่ 59 นาทีเท่านั้น และภายใน 10 นาทีนี้เอง ก็ได้กลายมาเป็นตัวกำหนดแผนการและการทำงานต่างๆ ของเหล่าขุนพลเทพเจ้าทั้งหมด
โดยทั้งหมดก็ยังไม่ลืมสวมใส่แหวนต่อต้านการสลายพลังเวท ที่ได้รับมาจากนายท่านมากเมฆไว้ด้วย เพราะอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมาก็เป็นได้ เหตุที่คิดแบบนั้นก็เพราะตั้งแต่เมื่อวาน หลังจากที่งานประมูลได้จบลงไปแล้ว มีอีกสถานที่แห่งหนึ่งที่มากเมฆไม่สามารถผ่านเข้าไปได้อยู่ นั่นก็เพราะมันเป็นเขตพื้นที่พิเศษ ที่ถูกปิดกั้นด้วยบาเรียพิเศษของทางระบบหลักอย่างสมบูรณ์ ที่ได้รับการว่าจ้างมาจากทางกองกำลังทหารพันธมิตรเคออส
จนกว่าสิ่งที่ปลูกสร้างอยู่ภายในจะแล้วเสร็จ 100% มันถึงจะเปิดออกและอนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไปได้ และเจ้าสิ่งที่กำลังปลูกสร้างอยู่นั้น มันทำให้มากเมฆรู้สึกไม่ดีและไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
ในตอนนี้กองกำลังทหารพันธมิตรเคออส แต่ละคนต่างกำลังขวัญเสียและไม่สามารถใช้ทักษะและอุปกรณ์ไอเทมใดๆ ได้เลย เหล่าทหารที่เคยบินได้ บินไปบินมาต่างก็ตกลงมาจากท้องฟ้าในระดับสูง ราวกับนกปีกหักที่พิการ กระแทกเข้ากับพื้นอย่างแรงจนบาดเจ็บสาหัสไปหลายราย
ชายหนุ่มผู้สวมหน้ากากเหล็กดำ พยายามจะระบายโทสะของตัวเอง ด้วยการกดปุ่มระเบิดปลอกคอทาสที่ถูกจับมากว่า 26 ล้านคน อย่างบ้าคลั่งราวกับเสียสติ แต่ก็ไร้ผลเพราะไม่สามารถใช้อุปกรณ์ไอเทมใดๆ ได้เลย และหากเจ้าตัวกดปุ่มให้ระเบิดทำงานก่อนหน้านี้แค่ 3 วินาที เหล่าทาสทั้งหมดกว่า 26 ล้านชีวิต คงไม่มีใครรอดไปได้อย่างแน่นอน เพราะยังไงในตอนนี้ พวกมันทั้งหมดก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว
ในระหว่างที่เหล่าทหารพันธมิตรเคออสกำลังสับสน และอยู่ในสถานะอ่อนแออยู่นั้น เหล่าขุนพลเทพเจ้าทั้ง 9 และกองกำลังของตัวเองกำลังบุกตะลุยเข้าไปช่วยเหลือเหล่า NPC ทาสที่ถูกจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว
โดยแบ่งกองกำลังกันออกเป็น 3 ส่วน อย่างละสามกองกำลังเท่าๆ กัน และทั้งหมดก็มีหน้าที่ของใครของมันอย่างชัดเจน
หน่วยที่ 1 ทำลายและสังหาร ประกอบไปด้วยขุนพล ไรริอัส ไลท์นิง อาลูน่า ทั้งสามบุกตะลุยและสังหารให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะทั้งหมดมีเวลาแค่ 59 นาทีเท่านั้น เพราะพลังเวทมนตร์ พลังทำลายของตนเอง รวมไปถึงของกองกำลังทั้งหมดก็ลดน้อยลงกว่า 50% จากมหาเวทเทวะตำนานของนายท่าน และเจ้ามหาเวทที่ว่านี้ มันก็กำลังทรงพลังมากขึ้นเรื่อยๆ ทุก ๆ 10 นาทีเช่นกัน ทำให้ไม่อาจจะระเบิดพลังทำลายล้างที่แท้จริงออกมาได้ แม้แต่ผู้สวมแหวนเทพเจ้าเองก็จะอ่อนแอลงเช่นกัน หากอยู่ในเขตแดนเหล่านี้นานเกินไป แถมยังต้องแบ่งพลังเวทมนตร์ พลังสวรรค์ให้กับผู้ติดตามอยู่เรื่อยๆ ภายในกองกำลังของตัวเองอีกด้วย และที่สำคัญที่สุดนายท่านอนุญาตให้ทำตามแผนที่วางไว้แค่ 10 นาทีเท่านั้น หลังจากที่มหาเวทได้ปรากฏบนท้องฟ้าแล้ว
ทั้งสามได้ไล่ล่าสังหารไปทุกทิศทุกทาง และทำลายเครื่องกลไฮเทคที่เหลือ ที่ยังไม่ถูกประกอบให้แล้วเสร็จอีก 5 เครื่องอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงเหล่าปืนใหญ่บริเวณรอบๆ และบนกำแพงเมืองอีกด้วย
แต่ก็ไม่อาจจะทำลายได้ทั้งหมดอยู่ดี ทำได้แค่ให้พวกมันเสียหายจนใช้การไม่ได้ในเร็วๆ นี้ และคล้ายกับพวกมันถูกสร้างด้วยแร่เหล็กที่แปลกประหลาด มีความแข็งแกร่งทนทานอย่างน่าเหลือเชื่อ จนไรริอัสถึงกับเก็บเศษซากของโลหะที่แตกกระจายออกมา กลับไปด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อนำไปมอบให้กับนายท่านมากเมฆได้วิเคราะห์หลังจากนี้
และเหตุที่พวกเธอไม่สามารถทำลายมันได้ ก็คงเป็นเพราะโลหะเหล่านี้ ถูกสร้างและออกแบบมาไว้สำหรับต่อต้านและสลายพลังเวทมนตร์อยู่ก่อนแล้ว แต่เนื่องจากมันถูกสร้างออกมาภายหลังที่เจ้าเครื่องกลไฮเทคสลายพลังเวทจะได้ถูกผลิตออกมาอย่างสมบูรณ์ ไม่อย่างงั้นก็คงเป็นเรื่องยากอย่างมาก หากเครื่องกลไฮเทคสลายพลังและต่อต้านเวทมนตร์ ถูกสร้างด้วยแร่โลหะพวกนี้ทั้งหมดในอนาคต
หน่วยที่ 2 ช่วยเหลือ ส่งออก ชักชวน ประกอบไปด้วยขุนพล วอรัส สตรอม ฟีราเอล ทั้งสามได้แอบบุกเข้ามาก่อนที่ผู้เล่นจำนวน 248 คนจะทำการระเบิดพลีชีพก่อนเวลาเล็กน้อยราว 5 นาที ผ่านทางแม่น้ำและลำคลองต่างๆ ภายในเมืองเมฆเคลิ้มที่ไหลผ่านมากมายหลากหลายก่อนลงสู่ทะเล โดยไม่ถูกทหารรักษาการณ์คนใดพบเจอเลย
โดยฟีราเอลหญิงสาวผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งวารีสวรรค์ ทำหน้าที่เป็นผู้ใช้เวทป้องกันทุกคนเอาไว้ และทำให้สามารถเคลื่อนไหวไปมาใต้น้ำลึกได้อย่างอิสระ พร้อมๆ กับหายใจในน้ำได้อย่างเป็นธรรมชาติ และทั้งหมดก็ได้ลงไปในน้ำที่ลึกอย่างมาก จนแม้แต่คลื่นสลายพลังเวทก็ยังไม่สามารถผ่านไปถึงได้
จนเมื่อถึงเวลาที่กำหนดไว้แล้วตามแผนการเดิม ทั้งสามและกองกำลังทั้งหมด ก็ปรากฏตัวขึ้นมาใกล้ๆ ที่พักของเหล่า NPC ที่ถูกจับเอาไว้ก่อนหน้านี้ ผู้คนจำนวนมากถูกบังคับให้อยู่และอาศัยในบ้านหลังเก่าๆ หลายพันหลัง และต้องอยู่อย่างแออัดสกปรกเป็นอย่างมาก ถึงแม้จะผ่านมาแค่ 1-2 วันกับอีกไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แต่การได้อยู่ในที่แคบๆ ราวกับสัตว์ในกรงแบบนี้
ทำให้ฟีราเอลถึงกับหลั่งน้ำตาของเธออกมาด้วยความสงสาร และด้วยจิตใจที่อ่อนโยนของเธอดุจสายน้ำ ไม่อาจจะรับไหวกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าได้
และต่อมาก็กลายมาเป็นหน้าที่ของ สตรอม ผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งสายลม ได้สร้างเคียวสายลมออกมาเป็นจำนวนมาก ออกไปทำลายปลอกคอทาสของเหล่า NPC ทั้งหมดอย่างต่อเนื่องแม่นยำ
เหตุที่สามารถทำลายได้ก็เพราะไอเทมทั้งหมด ไม่สามารถทำงานได้แล้ว แม้ว่ามันจะถูกทำลายแต่ระเบิดภายในก็ถูกหยุดไปด้วยอย่างสมบูรณ์
ในระหว่างนั้นเอง ฟีราเอล เธอได้บอกกล่าวกระจายเสียงแนะนำให้ NPC มนุษย์ดั้งเดิมทั้งหมดของเมืองเมฆเคลิ้ม ที่ได้รับอิสระผ่านทางคลื่นเสียงวารีสวรรค์ ชักชวนให้ทั้งหมด มาเป็นพลเมืองของนายท่านมากเมฆในทันที
".. ทุกคนคะ เมืองเมฆเคลิ้มไม่อาจจะอยู่อาศัย และเป็นบ้านหลังสุดท้ายในชีวิตให้กับทุกคนได้อีกแล้ว แต่ด้วยนายท่านของพวกเรา ผู้ยิ่งใหญ่จิตมายา ผู้เต็มไปด้วยความเมตตามากมายต่อพวกเราทุกคนในที่นี้ ได้ส่งพวกเรามาช่วยเหลือทุกคน .."
".. พร้อมกับยังได้มอบโอกาสอันล้ำค่า และชีวิตใหม่ให้กับทุกคนอีกครั้ง โดยทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะยินดีเป็นพลเมืองเฟยอวี่หรือไม่ เมืองเฟยอวี่เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความสงบสุขอุดมสมบูรณ์ด้วยอาหาร และมีงานมากมายให้ได้ทำ และยังมีองค์เทพเจ้าโบราณแท้จริง คอยดูแลและปกป้องอยู่ถึงสององค์ตลอดเวลา ทุกคน มาเป็นพลเมืองเฟยอวี่ด้วยกันเถอะนะคะ เพื่อลูกหลาน เพื่ออนาคตของพวกเขาทุกๆ คนจากนี้และตลอดไป .."
".. จงเชื่อมั่นในผู้ยิ่งใหญ่จิตมายา .." ฟีราเอลบอกกล่าวถ้อยคำมากมาย ผ่านทางคลื่นวารีสวรรค์ของเธอกระจายน้ำเสียงอ่อนหวานและอ่อนโยนจากใจ ให้ทุกๆ คนได้ยินและรับฟัง
ในขณะเดียวกันกองกำลังทั้งหมดต่างก็เข้าช่วยเหลือ ดูแลรักษาผู้คนทั้งหมดเอาไว้เป็นอย่างดี พร้อมกับมอบยาและอาหารให้อย่างไม่เสียดาย และหากใครยินดีเข้าร่วมก็จะได้รับกำไลเวทมิติสำหรับเป็นพลเมืองเฟยอวี่ในทันที
หลังจากที่สวมแล้วก็จะปรากฏข้อความมากมายของกฎหมาย และข้อบังคับให้ทั้งหมดได้รับรู้อย่างชัดเจน และเอ็นพีซีทั้งหมดก็ยอมรับ พร้อมกับยินดีปฏิบัติตามทั้งหมดเช่นกัน
".. ทุกคนคะ เมืองเมฆเคลิ้มจบสิ้นแล้ว หากทุกคนไม่มีที่ไปจริงๆ และอยากเริ่มต้นใหม่ ในดินแดนที่ไม่ต่างจากสวรรค์ ก็สามารถติดตามพวกเรามาได้ พวกเราเป็นตัวแทนของเทพเจ้าโบราณทั้งสิบ และก็เป็นผู้ดูแลปกป้องเมืองเฟยอวี่ด้วย ทุกคนจะไม่ต้องกลายมาเป็นทาสและลำบากแบบนี้อีกแล้ว .."
".. ทุกคนหากได้ยินเสียงของฉัน หากใครอยากจะเป็นอิสระ ก็ให้ทำลายปลอกคอทาสทิ้งได้เลย มันจะไม่ระเบิดอีกแล้ว และให้กลับมายังจุดพักที่นี่ภายใน 10 นาทีนี้นะคะ .."
".. และสำหรับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว และอยากให้พวกเราตัวแทนเทพเจ้าคืนชีพให้ พวกเราก็ยินดีขอแค่ภายใน 5 นาทีนี้ให้ไปนำร่างของคนที่คุณรักมาเท่านั้น หรือบอกที่ตั้งที่เก็บร่างของพวกเขามาก็ได้ พวกเราจะช่วยเหลือและคืนชีพให้ที่ในเมืองเฟยอวี่ค่ะ .." ฟีราเอลคอยส่งคลื่นเสียงไปยังเหล่าทาสทุกๆ คนภายในเมือง อยู่เรื่อยๆ ราวกับเป็นประชาสัมพันธ์มืออาชีพไปแล้ว
หลังจากที่ทุกคนได้ยินเสียงของฟีราเอล ก็เริ่มมีเหล่า NPC จำนวนมากเดินกลับมายังสถานที่พักมากขึ้นเรื่อยๆ และยังมีหลายล้านคน ที่ยังมีแรงเหลืออยู่ ต่างก็พยายามทำลายปลอกคอทาสด้วยตัวเอง และด้วยการเคลื่อนไหวของกองกำลังเทพเจ้าแห่งสายลม ทำให้สามารถเคลื่อนไหวไปมาได้รวดเร็วอย่างมาก และไม่เป็นอันตรายกับผู้คนรอบข้างเลยแม้แต่น้อย พร้อมกับมอบกำไลเวทมิติระดับพลเมืองให้กับเหล่า NPC ได้อย่างรวดเร็ว
ขอแค่พูดตอบรับก็จะปรากฏกำไลเวทมิติระดับพลเมืองในทันที
แค่เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที ก็สามารถแจกกำไลเวทมิติพลเมืองไปได้มากกว่า 16 ล้านคนแล้วอย่างรวดเร็ว และทุกคนก็วาร์ปหายเข้าไปยังเมืองเฟยอวี่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่
จะมีก็แต่ทางวอรัสเท่านั้น ที่รับหน้าที่เข้าต่อต้าน ต่อสู้กับเหล่าทหารเคออสจำนวนหลายพันคน ถึงแม้พวกมันจะใช้ไอเทมใดๆ ไม่ได้แล้ว พลังต่อสู้อะไรก็อ่อนหัดไปหมด เป็นพวกที่เก่งเพราะมีอุปกรณ์ตัวช่วยอย่างแท้จริงเท่านั้น
แต่พวกมันก็ยังสามารถหาบางสิ่งบางอย่างมาเป็นอาวุธได้อยู่ พวกมันทั้งหมดจึงเปลี่ยนอาวุธมาเป็นดาบและไม้ รวมไปถึงก้อนหินมาปาเข้าใส่แทน
แต่พวกมันทั้งหมดก็ได้แต่ฝันกลางวันเท่านั้น ขุนพลเทพวอรัส ผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งปฐพี ไหนเลยจะปัญญาอ่อนไปกับพวกทหารพันธมิตรเคออส ที่ใช้ไม้ ใช้หินเป็นอาวุธได้
วอรัสได้ออกคำสั่งให้กองกำลังทั้งหมดของตัวเอง เข้าต่อสู้กับเหล่าทหารเคออสในทันที ระหว่างมนุษย์ธรรมดาที่ปาหินเป็นอาวุธ ไม่เป็นมวยหรือะไรเลยสักอย่าง แม้แต่การถือดาบจับดาบยังผิดไปหมด กับกลุ่มยอดมนุษย์ทรงพลังที่ใช้เวทมนตร์ได้ แถมมีพละกำลังมหาศาลราวกับอสูร
อะไรจะเกิดต่อจากนี้ไม่ต้องคาดคิดให้เสียเวลาเลย
เพียงเวลาไม่ถึง 3 วินาที เหล่าทหารเคออสถูกฆ่าตายอย่างกะผักปลา และสุดท้ายพวกมันก็ถอยหนีกลับไปยังปราสาทเจ้าเมืองกันหมดอย่างลนลาน และดรอปไอเทมสวมใส่เอาไว้เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงอุปกรณ์อื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
หน่วยที่ 3 ค้นหา เก็บให้หมด อย่าให้เหลือ กำลังเสริม ประกอบไปด้วยขุนพล พาเวล คามูโม่ เซรีเซล ทั้งสามคนได้รับหน้าที่ในการเก็บกู้ของมีค่าทั้งหมด หรือจะเรียกว่าหน่วยเก็บกวาดก็ได้ ภายในเมืองเมฆเคลิ้มหากพบเจอของมีค่าไอเทมที่ดรอปอยู่ให้เก็บกลับมาทั้งหมด หรือเจออะไรก็เอากลับมาให้หมดอย่าให้เหลือ
และหากพบเจอกับเหล่า NPC ที่ถูกจับเป็นทาสตามจุดต่างๆ ก็ให้ช่วยเหลือในทันทีและชักชวนให้เข้าร่วมเป็นพลเมืองด้วยเช่นกัน ในระหว่างออกค้นหาของมีค่าต่างๆ ไปด้วย แต่ให้เน้นช่วยเหลือเหล่า NPC เป็นอันดับแรกก่อน
เซรีเซลผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งทอง หรือโลหะ หญิงสาวผู้มีสัมผัสพลังพิเศษในการหาสิ่งของที่มีค่า ได้เคลื่อนไหวไปตามจุดต่างๆ ของเมืองอย่างรวดเร็ว พร้อมกับกองกำลังของเธอออกค้นหาของมีค่าได้มากมาย ไม่ว่าจะแอบเก็บไว้ที่ไหนก็ตาม แร่โลหะ แร่ในตำนาน ดาบโบราณ โล่สุดแกร่ง เหรียญทอง คลังสมบัติที่ถูกแอบซ่อนไว้ ทั้งหมดถูกเก็บไม่มีเหลือ แม้แต่ในปราสาทเจ้าเมืองเองก็ไม่เว้นภายในคลังถูกเก็บไปหมดจนว่างเปล่า
เหล่าทหารเลเวลหลักพันระดับสูง และแม้แต่ชายสวมหน้ากากเหล็กดำเจ้าเมืองคนปัจจุบัน ยังต้องหนีตายอย่างลนลาน เมื่อต้องมาพบเจอกับเซรีเซล ผู้ชมชอบในการเก็บสะสมของมีค่าทุกอย่าง แม้แต่ชุดเกราะกล อาวุธไฮเทคของพวกมันเอง ระเบิดขนาดต่างๆ อะไรที่สามารถเก็บเอาไปได้เธอเอาไปหมด
เซรีเซลเธอเก็บไม่เหลือแม้แต่หน้ากากเหล็กดำของเจ้าเมืองคนใหม่ จนอีกฝ่ายโกรธแค้นระเบิดตัวเองตาย หนีหายไปทันที อย่างเจ็บแค้นที่ถูกกระทำราวกับของเล่นชิ้นหนึ่ง
แต่มีสิ่งหนึ่งที่เซรีเซลไม่อาจจะหาพบได้ ก็คือตราเจ้าเมือง และสัญลักษณ์เมืองในปัจจุบัน ดูเหมือนมันจะถูกเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีในสถานที่ที่เข้าถึงไม่ได้ และอยู่นอกเหนือสัมผัสพลังของเธอ
พาเวล ผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งพงไพร ออกตามหาและเก็บกวาดรวบรวมของมีค่าอย่างอื่น ที่ต่างจากเซรีเซลไม่ว่าจะเป็นสมุนไพรหายากต่างๆ เมล็ดพันธุ์ที่มีทั้งหมดภายในเมือง ขวดแก้ว ไอเทมราคาถูกต่างๆ ที่ถูกทิ้งไว้
แม้แต่กองขยะไอเทมที่ไม่ใช้แล้วขนาดสูงใหญ่มากมายในเขตยากจน พาเวลยังเก็บมาหมด ไม่เว้นแม้แต่สัตว์เลี้ยง สัตว์อสูรแปลกๆ ที่ถูกจับเอาไว้รอขายในร้านค้าต่างๆ ทั้งหมดถูกพาเวลเก็บเรียบไม่มีเหลืออีกเช่นกัน แต่ส่วนใหญ่ที่ได้มาจะเป็นพวกสมุนไพรเป็นส่วนใหญ่ รวมไปถึงตำราเวทมนตร์ทักษะสกิลในแบบต่างๆ และหนังสือมากมายนับล้านเล่มจากห้องสมุดของเมือง และจากปราสาทเจ้าเมืองทั้งหมด
ส่วนทางคามูโม่ผู้ครองแหวนเทพเจ้าแห่งความมืด ทำหน้าที่ไล่ล่าสังหารเหล่าทหารที่หนีรอดมาได้ จากเพื่อนทั้งสองอย่างจิตๆ และคอยเก็บตกให้อย่างเมามันส์ เพราะคามูโม่ไม่เก่งเรื่องหาของมีค่าสักเท่าไหร่ แต่หากเป็นเรื่องการต่อสู้และทรมานแล้วละก็เป็นเรื่องหมูๆ สำหรับเขาเท่านั้นเอง
แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นคามูโม่ก็ได้รับคำสั่งพิเศษ โดยตรงจากนายท่านมากเมฆมาเช่นกัน โดยให้เจ้าตัวแอบไปสำรวจสิ่งปลูกสร้างที่มีบาเรียปิดกั้นของทางระบบหลักอีกครั้ง
และตรวจสอบให้ได้ว่ามันคืออะไรกันแน่ และทำไมภายในเมืองเกิดเรื่องมากขนาดนี้แท้ๆ เหล่าหัวหน้าระดับสูงของแต่ละกลุ่มพันธมิตรเคออส มันหายหัวไปไหนกันหมด
และหากครบกำหนดเวลา 10 นาทีแล้วให้ทั้งหมดถอนตัวออกมาทันที ห้ามรีรอเด็ดขาด ในระหว่างที่ 9 ขุนพลผู้ครองแหวนเทพเจ้ากำลังทำภารกิจของตัวเองอยู่นั้น
หนึ่งในขุนพลของมากเมฆ เซารอน ชายหนุ่มผู้ครอบครองแหวนเทพเจ้าแห่งพิษ
เซารอนได้รับมอบหมายให้ออกตามหา และกำจัดกลุ่มบุคคลที่คอยวางยาพิษเอ็นพีซี ออกทำร้ายผู้คนในช่วงที่ผ่านมาอยู่ก่อนแล้วหลายวัน โดยได้กระจายกองกำลังกันออกไปค้นหาตามเมืองและป่าเขาที่มีเบาะแส และข่าวลือเกี่ยวกับพวกมัน ตามสถานที่ต่างๆ
แต่ในขณะนี้กองกำลังของเซารอนกำลังถูกลอบโจมตี จากพรรคมารพิษสวรรค์อย่างหนัก อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งสองกองกำลังเข้าปะทะกันอย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างใช้พิษเข้าหักล้างกันและกันอย่างไม่คิดชีวิต อีกฝ่ายได้ใช้ลมปราณพิษและวิชาหมื่นพิษ ส่วนทางเซารอนใช้เวทพิษ และคำสาปพิษเข้าต่อสู้อย่างไม่ลดละ
แต่เป็นเพราะเซารอนนำกองกำลังมาด้วยน้อยเกินไป แค่ 50 คนเท่านั้น รวมกับเขาเองก็แค่ 51 คน
จึงทำให้เสียเปรียบอย่างมากในขณะที่ถูกลอบทำร้าย เพราะในตอนนี้ ได้กลายเป็นว่าจะต้องต่อสู้แบบ 51 ต่อ 800 ไปแล้ว และพวกพรรคมารทั้งหมดก็เก่งกาจในการต่อสู้ไม่ใช้น้อย พวกมันไม่ได้มีดีแค่การใช้พิษเท่านั้น
พวกพรรคมารไม่ได้ใช้เวทมนตร์ แต่ใช้ทักษะที่เรียกว่าวรยุทธ์และกำลังภายในเข้าต่อสู้ และมันมีผลอย่างมากกับผู้ใช้เวทมนตร์อย่างชัดเจน ที่มีพลังในการป้องกันที่อ่อนแอกว่า
เซารอนเคยเห็นแต่นายท่านมากเมฆฝึกฝน แต่ก็ไม่เคยได้สัมผัสกับตัวเองจริงๆ สักครั้ง พอได้มาสัมผัสก็เข้าใจในความแตกต่างของพลังอย่างชัดเจน
พวกมันแต่ละคนแข็งแกร่ง และสามารถต่อสู้ได้อย่างยาวนาน ผิดกับทางฝั่งของตนเองที่ส่วนใหญ่เป็นนักเวทระดับกลาง ถึงแม้จะมีพลัวเวทมนตร์และทักษะสกิลที่หลากหลาย แต่ร่างกายกับอ่อนแออย่างมาก ถูกโจมตีแค่ไม่กี่ครั้ง ก็แทบจะไม่รอดอยู่แล้ว
กำลังพลของเซารอนเริ่มบาดเจ็บ และมีหลายคนอาการสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากส่วนใหญ่ก็ยังเป็นแค่พวกมือใหม่ที่อ่อนประสบการณ์ ถูกรุมโจมตีมากเข้า ยังไงก็ต้องพลาดและถูกทำร้ายพร้อมกับติดพิษประหลาด
ถึงแม้ทั้งหมดจะมีทักษะสกิลระดับตำนานคอยช่วยเหลือ จากระบบโรงเรียนเมฆทะยานของนายท่าน แต่ทั้งหมดก็ยังอ่อนหัดเกินไป ทำให้ถูกทำร้ายบาดเจ็บและถูกหลอกล่อได้ง่ายๆ หลายครั้ง
เซารอนเห็นท่าไม่ดี จึงได้ออกคำสั่งที่ได้ยินเฉพาะกองกำลังของตัวเอง ให้ทุกคนวาร์ปกลับมิติเมฆมายาไปก่อน ส่วนตนเองจะต้านเอาไว้ให้ สมาชิกหลายคนไม่ยอมทำตาม แต่เมื่อเป็นคำสั่งบังคับก็ต้องทำ เพราะมีหลายคนเจ็บหนักและอาจจะตายได้จริงๆ หากยังไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
".. พวกมันแข็งแกร่งมาก และมีเยอะเกินไป ไปได้แล้ว รีบไป แจ้งสถานะการณ์ให้กับนายท่านรับทราบด้วย .." พอพูดจบเซารอนก็พุ่งเข้าปะทะ หนึ่งต่อหนึ่งกับผู้นำของอีกฝ่าย พร้อมกับเคลื่อนไหวไปมาช่วยเหลือกองกำลังของตัวเองไปด้วยพร้อมๆ กัน
".. คิดจะหนีเหรอเจ้าพวก NPC น่าโง่ อย่าให้พวกมันรอด ใช้พิษลืมสวรรค์ซะ .." ระดับหัวหน้าของพวกพรรคมารพิศสวรรค์ออกปากสั่งการในทันที พร้อมกับแสยะยิ้มที่มุมปากด้วยความพอใจที่ตนเองเป็นฝ่ายเหนือกว่า และมันเองก็ได้เล็งแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วมือของเซารอนไว้อีกด้วย
คล้ายกับมันสัมผัสได้ถึงพลังพิเศษบางอย่าง และหมายจะชิงแหวนวงนั้นมาให้ได้
เซารอนมองเห็นกองกำลังของตัวเอง ถูกทำร้ายและบาดเจ็บล้มตายไปหลายคนแล้ว ก็ได้แต่กัดฟันอดทนเอาไว้ และพยายามจัดการกับอีกฝ่ายให้ได้โดยเร็วที่สุด พร้อมกับนึกเสียใจที่อวดดีเกินไป ไม่ได้รับเอาไอเทมเสริมพลังต่างๆ จากนายท่านมากเมฆ ที่ได้แจกจ่ายให้กับเหล่าขุนพลก่อนออกมาจากมิติเมฆมายาในครั้งนี้
คู่ต่อสู้ในครั้งนี้แข็งแกร่งมากเกินไป น่าจะมีระดับเลเวลอยู่ที่ 2,000 เป็นอย่างน้อยแน่ๆ จนแม้แต่พิษระดับเทพเจ้าที่ตนเองสามารถใช้ออกได้ในตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถทำอะไรมันได้เลย และดูเหมือนทุกครั้งที่มันได้ดูดกลืนพิษจากตนเองเข้าไป ชายวัยกลางคนตรงหน้าก็ดูเหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก
นายท่านข้าทำให้ท่านผิดหวังแล้ว ..
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เซารอสจะเป็นแบบเเิมอีกแล้วเหรอออออออ
ขุนพลคนสุดท้ายจะโดนแย่งแหวนมัยเนี่ย
เล่นขโมยซะเกลี้ยงกะจะไม่ยึดเมืองแต่น่าจะทำให้หายไปจากแผนที่มากกว่า