ตอนที่ 55 : บทที่ 55 บทเรียนหมื่นมายา 2
บทที่ 55 บทเรียนหมื่นมายา 2
หลังจากที่ทั้งหมดวิ่งติดตามพี่ชายมากเมฆมาอย่างยากลำบาก แถมทั้งสี่คนยังติดพิษประหลาดเข้าให้อีกตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย จนทำให้มีแต่จะต้องอดทน และพยายามผ่านมันไปให้ได้เท่านั้น
เพราะไม่ว่าจะกินยาแก้พิษ หรือลองใช้บทเวทมนตร์แก้คำสาปใดๆ ที่มีอยู่ ก็ยังไม่สามารถลบล้างพิษหรือบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เป็นอยู่ได้เลย ทำให้ทุกคนได้รู้ว่า ทรมาน แต่ไม่ตายมันเป็นยังไง
พานาและโซนิคทั้งสองคน ในเวลานี้ได้จับคู่กันวิ่ง ช่วยกันประคับประคองกันและกันเอาไว้
ส่วนนามิกับไอจังเองก็ทำเช่นเดียวกัน ต่างคนต่างก็ช่วยเหลือกันและกันเท่าที่ไหว
เพื่อให้สามารถวิ่งไล่ตามพี่ชายมากเมฆให้ทันให้ได้ มากที่สุดก็ยังดี
แต่ทว่าจะดูเหมือนพิษประหลาดที่ไอจังกับนามิได้รับ จะไม่ทรมานร้ายแรงอะไรมากนัก หากนำไปเทียบกับคนอื่นๆ ยังกับว่าพิษร้ายประหลาดเหล่านี้ มันรู้หน้าที่และไม่ทำร้ายเด็กหญิงตัวเล็กๆ ยังไงก็ไม่รู้ และไอจังเองก็ไม่ได้เจ็บปวดทรมานอะไรมากนัก และยังคงดูเหมือนปกติมากที่สุดอยู่คนเดียว
เด็กๆ ทั้งหมดทั้งสี่คน ได้วิ่งตามพี่ชายมากเมฆ ผู้เป็นอาจารย์อยู่ตลอดเวลา ราวๆ 2 ชั่วโมง
พร้อมกับแบกน้ำหนักของคำสาปไปด้วยจนร่างกายเริ่มจะรับไม่ไหว แถมในตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยงวันเข้าไปแล้ว
แต่พี่ชายมากเมฆก็ยังคงวิ่งอยู่เรื่อยๆ และไม่ได้ชะลอความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย
ทำให้ทั้งสี่คนเริ่มที่จะไม่ไหวแล้ว ต่อให้ไม่ถูกพิษก็เถอะ เพราะยังไงแต่ละคนก็ยังเป็นเด็กปกติธรรมดาและชั่วโมงการฝึกฝนก็ยังน้อยมาก แต่ทั้งหมดก็ยังพยายามไล่ตามมาจนทันได้สำเร็จในที่สุด จนมาถึงใจกลางป่าโบราณแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่หน้ากลัวสีดำเต็มไปหมด
เมื่อเด็กๆ ทั้งสี่คนได้มาถึง ต่างก็ได้พบกับลูกแมวอ้วนกลมน่ารักสามสีสามตัวนอนรออยู่ พวกมันทั้งสามแสดงสีหน้าที่ไม่สบอารมณ์นัก เพราะพวกมันกำลังเล่นสนุกกันอยู่แท้ๆ แต่กับโดนเรียกให้ออกมาช่วยฝึกเด็กๆ กลุ่มนี้ที่พวกมันไม่รู้จักแม้แต่น้อย เพื่อให้ผ่านเงื่อนไขบางอย่างอะไรก็ไม่รู้
แน่นอนว่าพวกมันทั้งสามกะเล่นงานเด็กๆ กลุ่มนี้ ให้สาสมที่มาขัดเวลาเล่นสนุกอันแสนล้ำค่าของพวกมัน
มากเมฆสังเกตเห็นแววตาและรู้ทันเจ้าลูกมังกรหายนะทั้งสาม จึงได้ใช้สายตาที่น่ากลัวเอามากๆ มองไปยังพวกมัน พร้อมกับเดินเข้าไปใกล้ๆ และบอกให้พวกมันแปลงกายเป็นสัตว์อสูรที่หน้ากลัวที่สุดออกมา และปลดปล่อยออร่าพลังที่คิดว่าอันตรายหายนะแบบสุดด้วย เมื่อได้รับสัญญาณจากตนเอง
".. ไม่มีเวลาให้พักหรอกนะ หากพลาดโอกาสนี้ไป อาจจะไม่มีครั้งที่สองที่จะเบิกเนตรมารได้อีกแล้ว .." อาจารย์มือใหม่มากเมฆพูดบอกแกล้งทำเสียงน่ากลัวจริงจัง พร้อมกับเรียกเมนูข้อความขึ้นมาและส่งให้ทุกๆ คนได้อ่าน
เนตรมาร : ดวงตาของผู้ใช้จะเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงทุกครั้ง ที่เกิดการต่อสู้และจะทำให้พลังโจมตีรวมไปถึงพลังป้องกันเพิ่มมากขึ้น 80% ในทันที พร้อมกับสามารถมองเห็นได้ไกลมากขึ้น และยังสามารถมองเห็นในที่มืดไร้แสงสว่างได้อีกด้วย
[: เงื่อนไขในการเรียกรู้ :]
[:พยายามสบตากับสัตว์อสูรโดยไม่หวาดกลัวได้เป็นระยะเวลา 3 วินาที ก็จะได้รับทักษะในทันที :]
เป็นอะไรที่ง่ายอย่างมาก
พอทั้งหมดได้อ่านข้อความที่ถูกส่งมาให้ และสงสัยว่าจะไปหาสัตว์อสูรจากที่ไหน เพราะมองไปรอบๆ แถวนี้ก็เห็นมีแต่แมวอ้วนกลมๆ สามตัวนั่งเรียงแถวหน้ากระดานกันอยู่เท่านั้น
".. พี่มากเมฆคะ หรือว่าจะให้พวกหนูสบตากับแมวน่ารักพวกนั้น .." นามิร้องถามและเดินเข้าไปใกล้ๆ แมวอ้วนสีดำตัวหนึ่ง พร้อมกับอุ้มเจ้าแมวตัวนั้นขึ้นมากอดเอาไว้ อย่างเอ็นดูรักใคร่ และดูเหมือนเจ้าแมวตัวนั้นจะชอบให้คนอุ้มเสียด้วย ใจง่ายจริงๆ เลยแก
".. นี่ๆ เจ้าพวกนี้แข็งแกร่งมากนะ อย่าไปทำให้พวกมันโกรธเด็ดขาด แล้วก็พี่ว่าได้เวลาแล้ว มาเริ่มกันเถอะ .." มากเมฆพูดบอกทุกคน พร้อมกับสั่งให้ลูกแมวมังกรทั้งสามแปลงกายในทันที
ทั้งสามหายนะแปลงกายเป็นสัตว์อสูรที่หน้าหวาดกลัว หวาดหวั่นอย่างมาก พร้อมๆ กับปลดปล่อยออร่าคลื่นพลังที่เต็มไปด้วยความสยดสยองแห่งความตายอันลี้ลับ กดดันให้ลูกศิษย์ทั้งสี่ของลูกพี่ใหญ่มากเมฆเต็มไปด้วยความหวาดกลัวถึงขีดสุด
แม้แต่นามิเองที่เคยอุ้มลูกแมวเหล่านั้นมากอดก่อนหน้านี้ ยังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกแมวอ้วนกลมที่แสนจะน่ารักแบบนั้น ทำไมถึงได้ปลดปล่อยกลิ่นอายคลื่นพลังที่หน้ากลัวแบบนี้ออกมาได้
โชคยังดีของทุกคนที่พี่ชายมากเมฆได้ให้ทั้งหมดเริ่มฝึกฝนที่จิตใจเป็นอันดับแรก จึงทำให้ทั้งหมดสามารถสะกดข่มความหวาดกลัวภายในจิตใจเอาไว้ได้ และกล้าที่จะสบตากับสัตว์อสูรตรงหน้า ที่หน้ากลัวทั้งสามได้อย่างไม่ยากเย็นอะไรมากนัก
แต่ถึงแม้จะดูเหมือนง่ายแต่ก็ยังใช้เวลาไปเกือบ 20 นาทีเลยทีเดียว เพราะทั้งสี่คนต่างก็ยังได้รับผลกระทบจากพิษประหลาดอยู่ตลอดเวลา พอมายืนนิ่งๆ เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์จึงไม่เพิ่มขึ้นเหมือนที่ผ่านๆ มา และยิ่งทรมานเจ็บปวดเข้าไปอีก
[: โรงเรียนเมฆทะยาน ลูกศิษย์ทั่งสี่สำเร็จเงื่อนไข :]
[: ได้รับทักษะ เนตรมาร :]
[: ระดับทักษะ ในตำนานหายาก :]
[: คุณสมบัติพิเศษ :]
เนตรมาร : ดวงตาของผู้ใช้จะเปลี่ยนเป็นแสงสีแดงทุกครั้ง ที่เกิดการต่อสู้และจะทำให้พลังโจมตีรวมไปถึงพลังป้องกันเพิ่มมากขึ้น 80% ในทันที พร้อมกับสามารถมองเห็นได้ไกลมากขึ้น และยังสามารถมองเห็นในที่มืดไร้แสงสว่างได้อีกด้วย
หลังจากที่ทุกคนได้ยินเสียงแจ้งเตือนในหัวกันแล้ว ต่างก็ล้มลงกับพื้นกันหมด หมดเรี่ยวแรงและบางคนถึงกับคิดว่าจะไม่รอดเสียแล้วด้วย
มากเมฆส่งยิ้มกำลังใจให้กับพวกเด็กๆ และแอบทำการยกเลิกคำสาปพิษทรมานออกไปโดยไม่ให้พวกเด็กๆ ได้รู้ตัวแม้แต่คนเดียว เพราะทั้งหมดกำลังดีใจที่ผ่านมาได้ และได้รับทักษะในตำนานเพิ่มขึ้นมาอีกอันแล้ว
พอได้เห็นลูกศิษย์ของตนเองอดทนมาได้ดีมากขนาดนี้ และไม่ปริปากบ่นกันเลยสักคนเดียว ขณะที่กำลังถูกพิษทรมานอยู่แท้ๆ แต่ก็ยังพยายามสบตากับสัตว์อสูรน่ากลัวตรงหน้า และพยายามเคลื่อนไหวไปมาเรื่อยๆ เพื่อเพิ่มพลังชีวิต และรู้จักใช้ในสิ่งที่มีให้คุ้มค่ามากที่สุดอีกด้วย
และสาเหตุที่มากเมฆทำแบบนี้ ใช้คำสาปพิษทรมานลูกศิษย์ของเขาเอง ก็เพราะต้องการจะให้ทั้งหมดได้คิดและเรียนรู้ที่จะใช้ในสิ่งที่ตนเองมีให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะยา น้ำยาโพชั่น หรือบทเวทมนตร์ต่างๆ ที่มีอยู่
หากทั้งสี่คนเอาแต่สบตาอย่างเดียวและยืนอยู่เฉยๆ ไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย คาดว่าในตอนนี้ทั้งหมดคงได้กลับจุดเซฟหรือไปนอนโรงพยาบาลกันหมดแล้ว แต่ทั้งหมดกับเคลื่อนไหวไปมาอยู่ตลอด และสบตากับสัตว์อสูรที่หน้ากลัวไปด้วยอย่างตั้งใจและไม่ลังเลจนสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อทั้งสี่นั่งพักจนหายเหนื่อยแล้ว มากเมฆก็เรียกให้ทั้งหมดมากินข้าวกลางวันด้วยกัน และบอกให้ทั้งหมดเตรียมตัวกันอีกครั้งให้พร้อม เพื่อที่จะได้ฝึกกันต่อและพยายามผ่านเงื่อนไขอื่นๆ ให้ได้ ในการรับทักษะของเขาให้ได้มากที่สุดหลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้ว
และจากนั้นตลอดทั้งวัน อาจารย์มากเมฆก็พาลูกศิษย์ทั้งสี่คน ออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ กันไปทั้งป่าโบราณ ภูเขาเพลิง ดินแดนหิมะ น้ำตกสวยงามธรรมชาติ ทะเลสาบขนาดใหญ่ ทุ่งดอกไม้ที่เต็มไปด้วยแมลงพิษ จุดชมวิวมากมายตามเมืองต่างๆ ทั้งหมดได้เที่ยวชมธรรมชาติที่สวยงามของโลกแฟนตาซีกันอย่างเต็มอิ่ม และคงเป็นวันที่เด็กๆ เหล่านี้คงจะไม่มีทางลืมกันได้แน่ๆ
และมากเมฆเองก็ยังได้สอนให้ทุกคนรู้จักคิดหาเหตุหาผล และใช้ในสิ่งที่ตนเองมีอย่างคุ้มค่ามากที่สุด และให้เกิดประโยชน์สูงสุดเท่าที่จะทำได้ สอนให้รู้จักรักในธรรมชาติและความงดงามของโลก ไม่นานเท่าไรนักลูกศิษย์ทั้งสี่ก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนให้รับรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ได้รับ
[: โรงเรียนเมฆทะยาน ลูกศิษย์ทั่งสี่สำเร็จเงื่อนไข :]
[: ได้รับทักษะ บุตรแห่งธรรมชาติ :]
[: ระดับทักษะ ในตำนานหายาก :]
[: คุณสมบัติพิเศษ :]
บุตรแห่งธรรมชาติ : ทำให้ได้รับพรวิเศษจากธรรมชาติเร้นลับรอบตัวทั้งหมด และได้รับพลังพิเศษในการต่อสู้และป้องกันเป็นออร่าพลังของธรรมชาติจำนวนมาก
และตลอดการเดินทางเขาได้ให้เหล่าลูกศิษย์ของตนเอง วิ่งสุดกำลังอยู่ตลอดเวลา และยังให้กระโดดให้สูงและหัดให้ทั้งหมดฝึกถลาลมไปเรื่อยๆ ราวกับวิชาตัวบาหนังจีนกำลังภายใน กระโดดลอยตัวไปในที่ทางระยะไกลๆ โดยไม่หวาดกลัวกับความสูง ทำให้ทั้งหมดได้รับทักษะที่ต้องการในที่สุด
[: โรงเรียนเมฆทะยาน ลูกศิษย์ทั่งสี่สำเร็จเงื่อนไข :]
[: ได้รับทักษะ ปีกแสงเทพมายา :]
[: ระดับทักษะ ในตำนานหายาก :]
[: คุณสมบัติพิเศษ :]
ปีกแสงเทพมายา : ทำให้สามารถบินได้ มีปีกแสง 8 คู่สวยงามที่ด้านหลัง โดยนำเลเวลของผู้เล่นมาคูณด้วยแปดกิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะได้ความเร็วในการบิน ตัวอย่างเช่น เลเวล 30*8 = ความเร็วในการบิน 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และปีกแสงมายาสามารถปรับแต่งให้สวยงามได้ตามความต้องการ
[: โรงเรียนเมฆทะยาน ลูกศิษย์ทั่งสี่สำเร็จเงื่อนไข :]
[: ได้รับทักษะ วายุสวรรค์ :]
[: ระดับทักษะ ในตำนานหายาก :]
[: คุณสมบัติพิเศษ :]
วายุสวรรค์ : เพิ่มความว่องไว หลบหลีกและความเร็วทั้งหมดของร่างกาย เพิ่มมากขึ้นในทันที่ต่อสู้ 30% จากเวลาปกติ เมื่อใดที่พลังชีวิตน้อยกว่า 10% จะเพิ่มคุณสมบัติจาก 30% เป็น 150% ในทันที
แต่เดิมทักษะวายุสวรรค์ควรจะวิ่งและค่อยๆ สะสมระยะทางในการวิ่งภายใน 8 วัน แต่ทว่าตลอดทั้งวันมานี้มากเมฆกับพาพวกเด็กๆ วิ่งไปวิ่งมาอย่างเต็มกำลังความเร็วสูงสุดของแต่ละคนอยู่เสมอ หลายชั่วโมงติดต่อกันมาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว จนใกล้ตะวันจะตกดินก็ยังไม่หยุด ทำให้ไม่จำเป็นต้องรอเวลาถึง 8 วันก็สามารถสะสมระยะทางในการวิ่งได้สำเร็จ
แท้จริงแล้วในวันนี้ มากเมฆตั้งใจไว้ว่าจะให้ทั้งหมดอย่างน้อยๆ ผ่านเงื่อนไขรับทักษะในตำนานของทางโรงเรียนเมฆทะยานคนละ 7 ทักษะในเป้าหมายสูงสุด แต่ก็ไม่สามารถที่จะทำได้แล้ว เพราะเจ้าลูกมังกรหายนะทั้งสาม หลังจากที่สบตาอสูรน่าหลาดกลัวเสร็จแล้ว
พวกมันก็หนีหายไปกันหมดไม่บอกลาเลยสักคำ ทำให้มากเมฆไม่อาจจะให้พวกมันกลับร่างเดิมเป็นมังกรหายนะและให้ลูกศิษย์ทั้งสี่ลูบศีรษะของพวกมันได้ ดูเหมือนพวกมัน เจ้ามังกรแสบทั้งสามจะเล่นตัวไม่ใช่น้อย
ทำให้ในตอนนี้ก็เหลือแค่ทักษะในตำนานมัจฉาสวรรค์เท่านั้น ที่ยังมีโอกาสในการรับให้สำเร็จอยู่
เพราะว่าทักษะในตำนานลูกรักของพระเจ้านั้น มากเมฆคงไม่ได้ตามลูกศิษย์ของตนเองไปด้วย แต่จะปล่อยให้ทั้งหมดได้ไปพยามกันเอาเองน่าจะดีกว่า ส่วนทักษะในตำนานร่างเทพมังกร คงต้องรอไปก่อนในโอกาสต่อไปเท่านั้น เพราะเจ้าตัวแสบทั้งสามไม่ยอมให้ความร่วมมือใดๆ เลย จะกลับไปเล่นกับพวกเด็กๆ ในมิติอย่างเดียว
และในเวลานี้เขาก็ได้สอนให้ลูกศิษย์ของตนเองหัดบิน และลองใช้ทักษะต่างๆ ให้เข้าใจมากที่สุด และพาทั้งหมดบินไปยังทะเลสาบที่เคยเห็นก่อนหน้านี้จากที่ไกลๆ เพื่อทำการฝึกว่ายน้ำและดำน้ำให้เป็น
โดยที่มากเมฆไม่รู้เลยว่าทั้งสี่คน ได้รับทักษะในตำนานมัจฉาสวรรค์มาแล้วตั้งแต่เมื่อวาน เพราะเด็กน้อยทั้งสี่คนว่ายน้ำดำน้ำเป็นอยู่แล้ว เพราะเป็นหลักสูตรการศึกษาที่ทุกๆ โรงเรียนมีสอนในโลกภายนอก แถมเมื่อวานนี้หลังจากที่ทั้งหมดถามคำถามกับพี่ชายมากเมฆจบแล้ว ก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามปกติของใครของมัน ในระหว่างนั้นเองไอจังอยากว่ายน้ำเล่น จึงได้ชวนให้พี่ชายของเธอพานามาว่ายน้ำด้วยกัน จึงทำให้อีกสองคนที่เหลือมาเล่นด้วย และได้รับทักษะมัจฉาสวรรค์ไปในที่สุด
[: โรงเรียนเมฆทะยาน ลูกศิษย์ทั่งสี่สำเร็จเงื่อนไขตั้งแต่เมื่อวาน :]
[: ได้รับทักษะ มัจฉาสวรรค์ :]
[: ระดับทักษะ ในตำนานหายาก :]
[: คุณสมบัติพิเศษ :]
มัจฉาสวรรค์ : ทำให้สามารถหายใจในน้ำได้ และยังเคลื่อนไหวได้รวดเร็วกว่าปกติถึง 30 เท่าเมื่ออยู่ในน้ำ และยังได้รับทักษะเสริมคลื่นเสียงโซนาร์ทุกครั้งที่อยู่ในน้ำอีกด้วย
หลังจากที่ให้ลูกศิษย์ตัวน้อยทั้งสี่คนว่ายน้ำไปมา มากเมฆก็สังเกตเห็นว่าทำไมแต่ละคนว่ายน้ำเร็วกันจังแถมเป็นความเร็วที่เหนือมนุษย์เสียด้วย เร็วจนไม่รู้จะเร็วไปไหน จึงได้ตรวจตอบรายละเอียดของระบบศิษย์อาจารย์ ถึงได้รู้ว่าลูกศิษย์ของตนเองได้รับทักษะมัจฉาสวรรค์มาแล้วตั้งแต่เมื่อวาน
ในเมื่อวันนี้เสร็จภารกิจแล้ว เขาจึงบอกให้ทั้งหมดวาปกลับเมืองเมฆเคลิ้มได้เลย และให้เข้าไปพักที่โรงแรมได้เลยหากรู้สึกเหนื่อยกันแล้ว และยังได้บอกให้ทั้งหมดออกไปทำภารกิจสุดท้ายของแต่ละคนกันอีกด้วยในวันพรุ่งนี้
ทักษะในตำนาน ลูกรักของพระเจ้า เงื่อนไขในการรับทักษะ โดยจะต้องให้ลูกศิษย์ของโรงเรียนเมฆทะยานทำความดีกับเหล่า NPC ปกติที่ยากจนจำนวน 1 แสนครั้ง และได้รับคำขอบคุณกลับมา 1 แสนครั้ง ก็จะได้รับทักษะในทันที
พอกลับมาถึงเมืองเมฆเคลิ้มกันแล้ว แทนที่ทุกคนจะเข้าพักกับออกไปทำภารกิจในทันที โดยทิ้งให้ผู้เป็นอาจารย์ต้องอยู่คนเดียว ระหว่างที่มากเมฆกำลังเดินเล่นๆ อยู่นั้นอยู่ๆ ก็คิดถึงคำพูดหนึ่งขึ้นมาได้
ฝึกฝนเอง 10 ปี ไม่เท่ากับหนึ่งปีมีอาจารย์ชี้แนะ มันเป็นคำพูดที่อยู่ๆ ก็ลอยเข้ามาในความคิดของเขาอย่างช้าๆ มากเมฆรู้สึกดีและพอใจที่เห็นลูกศิษย์ของตนเอง ประสบความสำเร็จและไม่ย่อท้อต่อปัญหาต่างๆ ที่พบเจอ และทั้งหมดเป็นเด็กดีและเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญพลังงานช่างเหลือล้นจริงๆ
หลังจากนี้มากเมฆก็สบายใจได้แล้ว และคาดว่าคงจะไม่มีใครมารังแกลูกศิษย์ของตนเองได้แบบง่ายๆ แน่นอน เพราะทั้งหมดเป็นลูกศิษย์ของหายะสีเงิน พอเขาคิดได้แบบนี้ก็เดินไปยิ้มไปอย่างสบายอารมณ์
พอกลับมาถึงโรงแรมหรูมากเมฆก็เข้าไปในห้องนอนของตัวเองในทันที
โดยล็อคประตูจากด้านในและทำการวาปหายตัว เข้าไปในมิติลับเมฆมายา เพื่อพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับการเข้าช่วยเหลือและชักชวนลูกหลานของเหล่าผู้ต่อต้านเทพเจ้า ที่ยังหลงเหลืออยู่อีกครั้งกับท่านผู้เฒ่าวอเตอร์
พอเขากลับเข้ามาก็เห็นหลายๆ สิ่งเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควร เพราะในเวลานี้ภายในมิติลับเมฆมายา
มันคล้ายกับเมืองขนาดเล็กๆ แห่งหนึ่งไปแล้ว มีผู้คนและหุ่นยนต์แรงงานเดินไปเดินมาตลอดทั้งวัน
ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ให้ทำแตกต่างกันไป ในแต่ละวัน โดยไม่มีใครเลยที่ใช้ชีวิตและเวลาอันมีค่าไปอย่างสูญเปล่า
มากเมฆเรียกให้ท่านผู้เฒ่าและคนสนิทของท่านไปพบที่คฤหาสน์หลัก
ภายในห้องรับแขกผู้ติดตามที่เรียกพบทั้งหมด ต่างก็ใช้เวลาไม่นานนักก็มาถึง
เพราะบนเกาะสวรรค์รังสรรค์ทุกๆ เกาะของมากเมฆ ต่างก็จะมีประตูวาปขนาดใหญ่ ที่สามารถเดินทางไปมาได้ทั่วทั้งเกาะตลอดเวลานั่นเอง
พอทั้งหมดได้พูดคุยรายละเอียดต่างๆ กันได้ไม่นานนัก นายท่านมากเมฆก็เข้าใจถึงสิ่งที่คนในหมู่บ้านต้องการ พร้อมกับอนุญาตให้คนสนิท และท่านผู้เฒ่าวอเตอร์ร่วมเดินทางไปด้วยได้ เพราะหากให้ตนเองเป็นผู้ไปชักชวนก็คงไม่สำเร็จอย่างแน่นอน
".. ในตอนแรกกระผมคิดว่านายท่าน จะให้พวกเรารอถึงสิบวันเสียอีก นี่ผ่านไปไม่กี่วันเท่านั้นเอง นายท่านช่างเป็นคนที่ดูแลและเอาใจใส่ผู้ติดตามเสียจริง ข้าขอขอบคุณนายท่านแทนทุกๆ คนในหมู่บ้านด้วย .." ผู้เฒ่าวอเตอร์พูดขึ้นและน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความเคารพอย่างมาก
".. ผมเสร็จธุระแล้วนะครับก็เลยว่างพอมีเวลา พวกเราไปกันเถอะครับ ผมได้สร้างประตูเทเลพอร์ตทางไกลที่ใช้พลังเวทมนตร์เป็นหลักไว้แล้ว มันสามารถเดินทางไปมายังสถานที่ต่างๆ ที่เคยไปมาแล้วได้ และคนเปิดประตูในครั้งนี้ก็ต้องเป็นท่านผู้เฒ่าเป็นผู้เปิดนะครับ จะได้ไม่เสียเวลาในการเดินทาง หวังว่าจะยังจำสถานที่แห่งนั้นได้ ไม่งั้นคงได้ออกค้นหากันอีกนานแน่ๆ เลย .." มากเมฆพูดบอกและเปิดวงแหวนเวทขนาดใหญ่เป็นประตูวาป พาทุกคนไปยังที่ตั้งของประตูเทเลพอร์ตที่ได้สร้างเอาไว้
".. ไม่มีปัญหาครับ ผู้เฒ่าถึงจะแก่ชรา แต่ยังจำสถานที่แห่งนั้นได้ดีว่าอยู่ที่ไหน ถึงแม้ป่าดินแดนทางเหนือจะกว้างมากก็ตาม .." ผู้เฒ่าวอเตอร์พูดบอก และพาคนอื่นๆ เข้าไปยังวงแหวนเวทที่ถูกสร้างขึ้น
ทั้งหมดเดินออกจากคฤหาสน์หลัก โดยใช้วงแหวนเวทมนตร์ของมากเมฆทำการวาปหายตัว ไปยังประตูเทเลพอร์ตที่ลานกว้างแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วย ลูกแก้วมนตรา และศิลาธาตุพลังเวทบริสุทธิ์อยู่เป็นจำนวนมาก รอบข้างยังมีเสาหินสูงใหญ่ที่มีวงเวทโบราณ แต่ละต้นเต็มไปด้วยอักขระเวทโบราณที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน และรอบๆ นั้นยังเต็มไปด้วยอักษรรูนที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์ลี้ลับเกินจินตนาการ ถูกจารึกเอาไว้เต็มไปหมด
เมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้วก็ประกอบไปด้วย มากเมฆ ท่านผู้เฒ่าและผู้ติดตามทั้งสามของท่านที่ดูแล้วน่าจะพอมีฝีมืออยู่บ้าง ท่านผู้เฒ่าเดินออกไปยังใจกลางของวงแหวนเวทขนาดใหญ่ และเรียกใช้บทเวทของประตูเทเทเลพอร์ตในทันที
ไม่เกิน 1 ครั้งของการกระพริบตาเบาๆ วงแหวนเวทโบราณก็เต็มไปด้วยแสงสว่างอันงดงามและปรากฏประตูมิติไปไหนก็ได้ขึ้นมาเป็นประตูมิติจักรวาลขนาดใหญ่ และท่านผู้เฒ่าก็ได้กำหนดจุดหมายปลายท่านเอาไว้แล้ว และได้เรียกให้ทุกคนเข้าไปในประตูเทเลพอร์ตอันนี้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่มันจะหายไป
หลังจากที่ทั้งหมดเข้ามาในประตูเทเลพอร์ตกันแล้ว แค่เพียงหนึ่งลมหายใจเข้าออกทั้งหมดก็มายืนอยู่บริเวณนอกชายป่ารกร้างแห่งหนึ่ง ที่เต็มไปด้วยหิมะหนาวเหน็บ และภาพธรรมชาติงดงามสีขาวสุดลูกหูลูกตา
เนื่องจากไม่คิดว่าจะมาเจอกับสภาพอากาศที่เลวร้ายแบบนี้ ทุกคนจึงไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวกันมาเลยแม้แต่คนเดียว แถมท่านผู้เฒ่าเองก็หลงๆ ลืมๆ ว่าที่ที่ตนเองจะมามันมีหิมะตกตลอดทั้งปี จึงทำให้มากเมฆต้องใช้บทเวทบัพเสริมพลังต่างๆ สร้างความอบอุ่นให้กับทุกคนแทน ทำให้คนที่เหลือต่างก็จะมีลูกไฟเล็กๆ สีแดงลอยอยู่ข้างๆ ตัวเสมอตลอดเวลา เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายของแต่ละคน
ทั้งหมดเดินเข้ามาในป่าหิมะน้ำแข็งได้ไม่นาน ก็ได้พบกับหมู่บ้านขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่นี่เต็มไปด้วยผู้คนไม่ต่ำกว่า 3 พันคนเห็นจะได้ ที่กำลังทำกิจวัตรประจำวันของแต่ละครัวเรือนกันอยู่
ผู้คนในหมู่บ้านแปลกใจอย่างมาก เพราะปกติจะไม่มีคนนอกเดินทางมาถึงที่นี่ได้ เพราะหลากหลายเส้นทางมันเต็มไปด้วยหิมะและพายุน้ำแข็งตลอดทั้งปี ทำให้กว่าจะมาถึงที่นี่ได้ คนผู้นั้นจะต้องเป็นจอมเวทเพลิงที่แข็งแกร่งอย่างสุดยอดเป็นอย่างน้อย
เพราะอาณาเขตแถบนี้เกือบทั้งหมด เต็มไปด้วยคำสาปเยือกแข็งโบราณ ที่ทำให้ผู้เล่นหรือแม้แต่ NPC ปกติทั่วไปตายได้ง่ายๆ นั่นเอง
ระหว่างที่มากเมฆกำลังจะพูดบอกไม่ให้ทุกคนในหมู่บ้านตกใจอยู่นั้น อยู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาและใช้ดาบยาวน้ำแข็งพุ่งแทงเข้าโจมตีเขาอย่างสุดกำลัง
หญิงสาวเคลื่อนไหวบนหิมะสีขาวได้รวดเร็วอย่างมาก และเต็มไปด้วยพลังเวทโบราณที่สามารถฆ่าเขาให้ตายได้อย่างสบายๆ หากไม่ระวังให้ดี
".. เจ้าผู้บุกรุกชั่วช้าตายซะเถอะ .." หญิงสาวผู้มีใบหน้างดงาม ราวกับเจ้าหญิงหิมะผู้บริสุทธิ์สูงศักดิ์ของสวรรค์ชั้นฟ้า แต่ดูเหมือนจะเป็นคนที่มีนิสัยใจร้อนอย่างมาก ตรงข้ามกับหน้าตาเย็นชาของเธอแบบสุดๆ และแต่งกายด้วยชุดเบาบางที่ขัดกับสภาพอากาศหนาวเย็นแบบสุดขั้ว จนสามารถมองเห็นอกขาวๆ กลมโตของเธอได้
เจ้าหญิงหิมะได้ใช้ดาบยาวน้ำแข็งลวดลายสวยงามสีฟ้าอ่อน ที่เต็มไปด้วยออร่าพลังแห่งการสังหาร พุ่งตรงเข้าหามากเมฆอย่างรวดเร็ว ด้วยท่าร่างเคลื่อนไหวของเธอ พร้อมกับแทงดาบยาวสีฟ้าน้ำแข็งงดงาม เข้าใส่ที่กลางหน้าอกตำแหน่งหัวใจของชายหนุ่มอย่างเต็มกำลังจนสุดแรง
จนก่อให้เกิดเลือดสีแดงสด สาดกระจายออกเป็นทั่วบริเวณ
ตายยย!!!
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

❤❤❤❤❤❤