ตอนที่ 353 : บทที่ 353 มหานิกายหมื่นมายาอมตะ ตอน คุณป๊ะป๋าพิโรธ
บทที่ 353 มหานิกายหมื่นมายาอมตะ ตอน คุณป๊ะป๋าพิโรธ
ตุ๊กตาแมวน้ำทั้งสองหาใช่ใครอื่น แต่เป็นรากไม้กับZERO ที่ทำหน้าที่มาส่งพวกเด็ก ๆ
ก่อนที่จะเล่นเกมง่าย ๆ จนแพ้อย่างน่าอับอายทั้งที่เป็นผู้ใหญ่แล้วแท้ ๆ
และจำต้องถูกลงโทษให้กลายเป็นตุ๊กตาหิน และไม่อาจจะขยับตัวหรือใช้พลังใด ๆ ได้ตามที่ตกลงกันไว้
จนกว่ามากเมฆป๊ะป๋าของพวกเด็ก ๆ ทั้งสามคนจะมาถึง หรือให้พวกเด็ก ๆ คนใดคนหนึ่งเอานิ้วมาจิ้มที่จมูกก่อนเท่านั้น
พวกเด็ก ๆ แม้จะอายุยังน้อย เพราะเพิ่งจะเกิดได้ไม่นานนักแม้จะไม่สมบูรณ์
หากนับตามเวลาของสิ่งมีชีวิตระดับสูง
แต่ด้วยความฉลาดเฉลียวที่ได้รับมาจากคุณพ่อและคุณแม่ โดยเฉพาะจากบรรดาแม่ ๆ ผู้เป็นต้นแบบที่น่าเคารพอย่างยิ่ง ทำให้พวกเด็ก ๆ สามารถอนุมานความคิดของคนทั้งสองได้อย่างรวดเร็ว และรู้เช่นเห็นชาติ มองเห็นสันดานแท้จริงของคนทั้งสองได้โดยง่าย แม้จะไม่ต้องใช้พลังวิเศษใด ๆ ตรวจสอบเลยก็ตาม
แต่กระนั้นด้วยข้อบังคับในหลาย ๆ อย่างที่ได้ตกลงกับบรรดาแม่ ๆ เอาไว้แล้ว
ก่อนที่จะได้รับอนุญาตเป็นพิเศษ ให้มาอยู่กับคุณป๊ะป๋าที่โลกทางนี้ได้ เป็นเวลาหลายวันหรืออาจจะหลายเดือนหากทำตัวดี ๆ
ทำให้พวกเด็ก ๆ ไม่สามารถที่จะใช้พลังพระเจ้าที่มีอยู่ได้ และจำจะต้องปกปิดพลังที่มีเอาไว้ อยู่ตลอดเวลาอย่างสมบูรณ์แบบ 100% เพราะพวกเด็ก ๆ ต้องทำการสะสมพลังงานแรกกำเนิด ที่ได้รับจากคุณพ่อและคุณแม่ไปเรื่อย ๆ ตลอดเวลากว่า 3-5 ปี ตามเวลาของระบบสุริยะจักรวาลในปัจจุบัน
เพื่อที่จะได้ถือกำเนิดขึ้นมา และมีตัวตนอย่างแท้จริง ในทุก ๆ เอกภพและภาวะที่ดำรงอยู่ในขณะนี้นั่นเอง
ดังนั้นหากเกิดเรื่องเลวร้ายใด ๆ ขึ้นมาก็ตาม
พวกเด็ก ๆ ในเวลานี้ก็ไม่แตกต่างอะไรเลย กับเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนธรรมดาสามัญทั่วไป
แน่นอนว่าหากถึงที่สุดจริง ๆ แล้ว พวกเด็ก ๆ สามารถใช้พลังพระเจ้าได้หนึ่งครั้ง
แต่หลังจากที่ใช้ออกไปแล้ว เด็กน้อยทั้งสามก็จะถูกบรรดาแม่ ๆ เรียกตัวกลับพระมหาวิหารพระเจ้าในทันทีเช่นกัน
เพราะเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่ได้ทำเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ และทางมากเมฆเองก็ทราบดีถึงข้อตกลงต่าง ๆ
รวมไปถึงข้อบังคับที่ต้องระวังเอามาก ๆ ที่ภรรยารักทั้งสามได้บอกเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้
".. คุณอาหญิงคนนี้ ที่ดูเหมือนคุณป้าเอามาก ๆ คิดจะจับพวกเราไปขายด้วยแหละ .."
แม่หนูน้อย“เรอัส” พี่สาวคนโตของพวกน้อง ๆ ได้พูดบอกให้ทุกคนระวังตัว
ก่อนจะพาพวกน้อง ๆ ถอยหลังอย่างช้า ๆ กลับไปยังจุดที่ตุ๊กตาแมวน้ำทั้งสองตั้งอยู่
ลูกสาวสุดที่รักเรอัสมีใบหน้าอ้วนกลม คล้ายกับซาลาเปาจนน่ากินเอามาก ๆ อวัยวะทั้งห้าบนใบหน้าล้วนแล้วแต่สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ ผิวพรรณขาวอมชมพูสุขภาพดี เส้นผมสีดำออกแดงเงางามยาวมาถึงบ่า ดวงตากลมโตกระจ่างใส ระยิบระยับงดงามสีแดงเพลิง ดุจดวงดาวที่ส่องสว่างสดใสยามราตรีกาล แม้ในคืนเหมันต์ไร้หัวใจก็ตาม จมูกโด่งได้รูปตั้งแต่ยังเล็ก ริมฝีปากสวยชวนมองราวกับผลเชอร์รี่สวรรค์
ชวนให้ใครต่อใครที่หากได้พบเห็น จึงอดไม่ได้ที่จะต้องหันกลับมามองดูซ้ำ ๆ อยู่หลายครั้ง ด้วยความรู้สึกรักใคร่และเอ็นดูอย่างยิ่งจากหัวใจ ด้วยความสดใสน่ารักของเรอัสอันเป็นธรรมชาติตั้งแต่แรก และดวงตาที่เป็นหน้าต่างของจิตใจ อันไร้มลทินของเด็กน้อย ที่ราวกับกำลังส่องสว่างประกายแสงอบอุ่น คอยเยียวยาหัวใจของทุก ๆ คน ให้รู้สึกดีและไม่รู้สึกเหงาเดียวดายอีกต่อไป
".. คุณลุงคนนี้ก็เหมือนกัน คิดจะจับพวกเราไปขาย คนสมัยนี้น่ากลัวจังเลยค่ะ .." พี่สาวคนรอง“เนเน่” เองก็รู้ตัว
หนูน้อยผู้มีใบหน้างดงามยิ่ง สง่างามราวกับแสงไฟแห่งนิรันดร์ ราวกับเป็นแสงสวรรค์จันทราบริสุทธิ์ แห่งหมื่นมวลแสงนิรันดร์กาลของพันหมื่นเอกภพนับอนันต์ ได้มาเกิดใหม่และหลอมรวมอยู่ภายในร่างกาย และจิตวิญญาณของเด็กน้อยผู้ไร้เดียงสาคนนี้
ผู้ที่มีดวงตากลมโตสีฟ้าประกายแสง ราวกับแก้วตามหาสมุทรวิเศษสุดแสนลึกล้ำไพศาล ที่กำลังประชันแสงกับดาราสวรรค์มากมายมิรู้จบอย่างเป็นมิตร จมูกสวยเองก็ได้รูปงดงาม สมบูรณ์พร้อมรับกับใบหน้ารูปไข่ที่วัยเยาว์ ริมฝีปากชมพูเองก็ชวนมอง จนงมงายคล้ายความฝันมิรู้ตื่น คิ้วเรียวงามตอบรับกับใบหน้าและดวงตาสีฟ้าแก้วอำพันอันสดใส หากเปรียบเปรยคงคล้ายกับความงดงามของจิตใจ ที่ดีงามและเลิศล้ำบริสุทธิ์กว่าแสงดาราสวรรค์ใด ๆ จะเทียบเทียม
".. สองคนนี้เป็นคนไม่ดี สร้างบาปกรรมไว้มาก ป๊ะป๋าจะต้องลงโทษคนพวกนี้แน่ ๆ .."
น้องคนสุดท้อง“ยาย่า” พูดบอกเสียงแข็ง
หลังจากที่สัมผัสได้ถึงภูตผีร้ายและวิญญาณอาฆาตแค้น จากร่างกายของคนทั้งสองอย่างหนาแน่น
ยาย่านั้นมีใบหน้ากลมเรียวรูปไข่ ผิวขาวบริสุทธ์ดุจหิมะนิรันดร์จากสวรรค์ มีเส้นผมสีดำเงางามและยาวที่สุดในบรรดาพี่น้องทั้งสาม ร่างกายอวบอ้วนกว่าพวกพี่ ๆ เล็กน้อย เพราะเป็นคนกินเก่งและชอบทานของหวานเอามาก ๆ แต่กระนั้นหนูน้อยยาย่าก็เป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ทั้งน่ารักและงดงาม
และมีดวงตาที่สวยที่สุดในบรรดาพวกพี่ ๆ ดวงตาทั้งสองที่กลมโตส่องประกายสีดำและน้ำเงิน ราวกับแสงแห่งนิลกาฬอันลึกล้ำหน้าค้นหา มีเสน่ห์น่าหลงใหลรักใคร่ตั้งแต่แรกเห็น ริมฝีปากนุ่มชุ่มชื้นสีชมพูเล็ก ๆ เหมาะกับวัยที่กำลังเติบโต จมูกที่โด่งสวยแต่ยังเล็ก คิ้วเองก็งาม ราวกับถูกวาดขึ้นด้วยฝีมือของผู้เป็นพระเจ้าสูงสุด แห่งความงดงามและสมบูรณ์แบบสรรค์สร้าง
ในขณะนั้นเองที่พวกเด็ก ๆ คิดจะหนี
แต่ทว่าในขณะที่กำลังจะก้าวเท้า วิ่งไปยังจุดที่ตุ๊กแมวน้ำทั้งสองตั้งอยู่
พวกเด็ก ๆ กับถูกพลังปราณวิญญาณที่มีอำนาจพลังกดดันอย่างหนัก จนขยับตัวไม่ได้เลยจนอึดอัด
ก่อนที่จะถูกยกขึ้นให้ลอยสูงขึ้นจากพื้น และลอยห่างจากตุ๊กตาแมวน้ำมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าคนเลวทั้งสอง
ทั้งสามพี่น้องเรอัส เนเน่ และยาย่า ล้วนแล้วแต่มีรูปลักษณ์ที่งดงาม และโดดเด่นกว่าพวกเด็ก ๆ 3-5 ขวบในวัยเดียวกันเป็นอย่างมาก
ราวกับสวรรค์และโลกเลยทีเดียวและไม่เกินจริงแต่อย่างใด ในความคิดเห็นของแม่เล้าและนักพรตชั่ว
ดังนั้นหลังจากที่สองคนร้ายนิสัยเสีย ชั่วขนาดนี้ได้มาเห็นกับตาใกล้ ๆ ถึงความงดงามและบริสุทธิ์ยิ่งของเด็ก ๆ ทั้งสาม
พวกมันจึงอดไม่ได้ที่จะคิดร้ายอย่างชั่วช้าสามาน และจะจับบังคับนำพวกเด็ก ๆ ไปหลอกขาย
หรือไม่ก็ตีตราทาสเลี้ยงจนโตก่อน จะปล่อยขายในราคาแพง ๆ ต่อไปในอนาคต
และทั้งสองเองก็มิได้หวาดกลัว หรือวิตกกังวลแต่อย่างใดเลยต่อบิดามารดาของอีกฝ่าย
เพราะหลังจากที่ตรวจสอบคลื่นพลังชีวิตที่ยังวัยเยาว์ ผ่านทางสัมผัสวิญญาณวิเศษแล้วจึงพบว่า
ทั้งสามเด็กน้อยเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กธรรมดาทั่วไป
ไม่ได้มีร่องรอยของพลังปราณวิญญาณ หรือพลังชีวิตของผู้บ่มเพาะติดตัวมาเลยแม้แต่น้อย
เพราะตามตรรกะพื้นฐานของโลกแห่งเทพเซียนแล้วนั้น
หากเด็ก ๆ เหล่านี้เกิดจากบิดามารดาที่เป็นผู้ฝึกตนระดับสูง ในอาณาจักรที่สองโลกบำเพ็ญแล้วละก็ ต่อให้เด็ก ๆ เหล่านี้มิได้ฝึกฝนทักษะพลังใด ๆ จากผู้เป็นบิดามารดาเลยก็ตาม เพราะอายุยังน้อยเกินไป แต่กระนั้นกลิ่นอายแห่งชีวิตของเด็ก ๆ เหล่านี้ จะต้องมีพลังปราณวิญญาณบริสุทธิ์ ติดตัวมาด้วยตั้งแต่เกิดไม่มากก็น้อย และหากยิ่งบริสุทธิ์มากเท่าไร ก็ยิ่งบ่งบอกให้รู้ว่าบิดามารดาของเด็กคนนั้น ๆ บ่มเพาะไปถึงขอบเขตพลังที่สูงอย่างยิ่งแล้วนั่นเอง
พอรู้ว่าจะไม่ต้องเป็นกังวลใด ๆ แล้วจากครอบครัวของเด็กน้อยทั้งสาม แม้จะใช้กำลังบังคับจับไปขาย
แม่เล้าและนักพรตเฒ่าที่มักจะเคยคบค้า เคยค้าเคยขายกันมาหลายหน ในตลาดมืดของเมืองกิเลนทอง
จึงไม่เกรงใจและคิดที่จะจับพวกเด็ก ๆ เหล่านี้โดยใช้กำลัง และแน่นอนว่านักพรตเฒ่ามีพลังฝีมือสูงกว่ามาก
ดังนั้นแม่เล้าเลยต้องจำยอมเล็กน้อย แบ่งเอาไปแค่คนเดียว หลังจากที่ได้สื่อสารกันผ่านเสียงลมปราณลับระหว่างทั้งสองคน
".. จะตามมาด้วยดี ๆ หรือจะให้ท่านลุงผู้นี้ใช้กำลัง ข้าไม่อยากให้พวกเจ้ามีบาดแผลหรอกนะ เพราะราคามันอาจจะตกลงมาได้ .." ตั้งแต่แรกที่ได้ยินพวกเด็ก ๆ พูด เด็ก ๆ ว่าก่อนหน้านี้
มันก็รู้แล้วว่าเด็กพวกนี้ฉลาดมาก และน่าจะรู้เรื่องอะไรมาบ้างทางโลกไม่มากก็น้อย อย่างการลักพาตัวไปขายอะไรแบบนั้น ดังนั้นนักพรตเฒ่าจึงไม่ต้องแสดงละครใด ๆ อีกต่อไป เปิดเผยธาตุแท้ของตัวเองออกมาเสียเลยด้วยใบหน้าชั่วร้าย ก่อนที่จะใช้มือใหญ่ที่หนาและหยาบเอามาก ๆ ของมัน จับไปที่แขนซ้ายของเรอัสที่เอาตัวมาปกป้องน้อง ๆ เอาไว้ไม่ให้ถูกจับไป
พอแม่เล้าเห็นว่าพวกเด็ก ๆ คิดจะขัดขืนไม่ทำตามที่สั่ง
แม่เล้าวัยมนุษย์ป้ามหาโหด จึงได้เรียกเอาไม้เรียวที่ทำด้วยไม้หนามชนิดหนึ่ง ออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ
ก่อนจะตีลงไปยังแขนและขาของเด็กหญิงตัวน้อยที่ตนเองได้เลือกไว้แล้ว อย่างยาย่าอย่างแรงหลายทีจนเป็นรอย
เพราะถึงอย่างไรก็ตกลงกันแล้วกับนักพรตเฒ่า ดังนั้นเด็กคนนี้เจ้าตัวจะทำอย่างไรก็ได้เช่นกัน
ไม่ต้องห่วงนั่นห่วงนี่ ว่าจะราคาตกเหมือนนักพรตเฒ่า ที่อยากจะใช้ไม้อ่อนจับเด็กน้อยอีกสองคนที่เหลือไป
เนเน่เห็นน้องคนเล็กของตนยาย่าถูกตี ด้วยไม้เรียวยาวหลายครั้งจนเป็นแผลแดง ๆ ก็ทนไม่ไหว
เด็กน้อยกลัวน้องจะเจ็บ จึงได้เอาตัวเข้าไปบังไม้เรียวที่ตี ให้กับน้องสาวคนเล็กอย่างไม่หวาดกลัวและกล้าหาญ
และเรอัสเองที่ถูกจับแต่แรก ถูกบีบแขนซ้ายอย่างแรงจนเจ็บจนเป็นรอย ก็ยังพยายามจะเอาตัวเข้าไปบังให้พวกน้อง ๆ
ไม่ให้น้องทั้งสองของเธอถูกตี แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะไม่อาจจะสู้แรงของนักพรตเฒ่าตัวเหม็นได้เลย
แถมยังถูกกระชากอย่างแรงอยู่หลายครั้งจนล้ม ได้รับบาดแผลไปทั่วทั้งตัวจนน่าสงสาร
".. ดื้อด้านกันจริง ๆ สงสัยจะต้องสั่งสอนเสียบ้าง แม่เล้าศรี ลงมือหนัก ๆ ตีไปเลยทั้งสามคน ข้ามียาดีรักษาบาดแผลเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ เพียงทาเล็กน้อยไปที่บาดแผลเหล่านั้น มันก็หลอกตาจนมองไม่เห็นแล้ว เอาตีแรง ๆ จะยอมตามลุงผู้นี้ไปดี ๆ หรือจะยอมให้ถูกตีจนตัวลาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า .." นักพรตเฒ่าสารเลวเป็นคนใจร้อน ในเมื่อจับตัวไปดี ๆ ไม่ยอม มันจึงโมโหและออกปากให้แม่เล้าลงมือตีหนัก ๆ ไปเลย
แม่เล้ามีนิสัยชอบทารุณเด็กอยู่ก่อนแล้วมาตลอดหลายสิบปี
หลังจากที่ได้รับอนุญาตจากนักพรตเฒ่า แม่เล้าศรีผู้นี้จึงยิ่งลงมือหนักขึ้นเอามาก ๆ
จนตุ๊กตาแมวน้ำทั้งสองถึงกับสั่นไหวไปมาอย่างมีโทสะ พยายามจะทำลายผนึกที่เล่นเกมจนแพ้และถูกลงโทษออกไป ..
แต่ด้วยพลังพระเจ้าที่ถูกทำให้เป็นตุ๊กตาแมวน้ำจนขยับไม่ได้นั้น จึงทำให้ได้แต่มองดูพวกเด็ก ๆ ถูกรังแกด้วยความโกรธ
พวกเด็ก ๆ ไม่ได้ร้องไห้เพราะเจ็บที่ถูกตี แต่หลังจากที่เห็นกันและกันมีบาดแผล ต่างคนต่างก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
".. อดทนไว้นะ เนเน่ ยาย่า อีกเดี๋ยวป๊ะป๋าจะมาแล้ว .." เรอัสพูดบอกน้อง ๆ และยังเอาตัวมาบังพวกน้อง ๆ เอาไว้ไม่ให้ถูกตี
".. ป๊ะป๋ามาเร็ว ๆ มาจัดการคนเลว .." เนเน่ร้องไห้จนตัวสั่น เพราะไม่อยากให้พี่เรอัสถูกตีอีกแล้ว
".. ป๊ะป๋าใจร้าย ป๊ะป๋าไม่รักพวกหนูแล้ว ไม่มาช่วยพวกหนูแล้ว .." ยาย่าร้องไห้ตะโกนเสียงดังอย่างน้อยใจ
สามพี่น้องกอดกันกลมต่างคนต่างก็ถูกตี ต่างก็ปกป้องกันและกัน
ทันใดนั้นเองเหมือนโลกหล้าและจักรวาลเริ่มสั่นไหว ..
ดวงดาวและสิ่งมีชีวิตมากมายถูกทำลายเพียงแค่โทสะที่ระเบิดออก
ท้องนภาและสวรรค์ชั้นฟ้าทั่งปวงนับอนันต์ ไม่เว้นแม้แต่มหานรกยมโลก เหมือนถูกกระตุ้นด้วยมหาพลังจนแตกร้าวใกล้แตกดับ
แม้แต่ดาราจักรต้องห้ามที่ว่าร้ายกาจนักหนามาตลอด เต็มไปด้วยความเร้นลับมากมายเกินคาดเดา
ในเวลานี้ราวกับถูกกดทับด้วยมหาพลังพระเจ้าผู้พิโรธอย่างที่สุดด้วยเช่นกัน
จนสิ่งมีชีวิตและผู้เหลือรอดของพระเจ้าลี้ลับบรรพกาลจำนวนนึงที่อ่อนแอ ถึงกับถูกบีบอัดจนตายและไม่อาจจะหวนคืน
มากเมฆปรากฏตัวออกมาจากความว่างเปล่า ด้วยดวงตาทั้งสองที่กลายเป็นสีเลือดโลหิตดุจมารร้าย กับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออกมาเป็นสายเลือด ด้วยความโกรธพิโรธอย่างที่สุด อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ไม่ว่าจะชาติที่แล้วหรือในชาติภพไหน ๆ ก็ตามที่ผ่านมา
และที่ด้านหลังของเขากับเต็มไปด้วยวงแหวนพระเจ้ามากมายมหาศาล ที่ร้อยเรียงเป็น “หมื่นมายาสังสารวัฏอมตะ” อันทรงพลังยิ่งและเริ่มใกล้เคียงกับ “วงแหวนพระเจ้าลี้ลับบรรพกาลหมื่นสังสารวัฏอมตะ”ที่สมบูรณ์พร้อมเข้าไปทุกขณะด้วยความโกรธจนอยากจะจบทุก ๆ ชีวิตที่เป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้มันสูญสิ้นไปจากเอกภพแห่งนี้
ในเวลานี้ท้องฟ้าของโลกแห่งเทพเซียนกำลังสลายและแตกร้าว ลมสุริยะเริ่มเผาไหม้ทำลายทุก ๆ สรรพชีวิต อสูรกายบรรพกาลนับล้านมากมายในอวกาศ เริ่มที่จะบุกเข้ามายังโลกทางนี้อย่างไม่ขาดสาย พร้อม ๆ กับกลืนกินทุก ๆ สรรพชีวิตอย่างป่าเถื่อนและหิวโหย
ดาวทั้งดวงสั่นไหวไปมาราวกับกำลังจะแตก
สภาพอากาศเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ ที่เคยพบเจอมาตลอดหลายพันล้านปีที่ดาวดวงนี้ถือกำเนิดขึ้นมา
".. ปล่อยข้า ปล่อยข้าไป ข้าผิดไปแล้วนายท่าน ข้าผิดไปแล้ว ข้าไม่กล้าแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว .."
เสียงร้องทรมานอยากตายไม่ได้ตาย ของนักพรตเฒ่าที่กำลังถูกจับฉีกเป็นชิ้น ๆ ก่อนที่จะถูกจับประกอบร่างใหม่ซ้ำไปซ้ำมา
ถูกฆ่าถูกทรมานด้วยด้วยน้ำมือของชายหนุ่มรูปงามตรงหน้า อย่างทารุณพร้อมด้วยสารพัดวิธีการที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ
".. ม่ายยยยยยย อย่าทำแบบนี้ ข้ายอมแล้ว ยอมแล้ว นายท่านผู้สูงสุดได้โปรด .."
เสียงกรีดร้องของแม่เล้าศรีสารเลว ที่กำลังถูกฝูงหนอน ฝูงหนู มดปีศาจหัวกระสุน และแมลงร้ายนานาชนิดกัดกินร่างกาย จนกลายเป็นก้อนเนื้อเป็นก้อนมูลก้อนขี้จนดูไม่ได้ ก่อนที่จะถูกย้อนกลับสภาพร่างกายใหม่อีกครั้งจนเป็นปกติ ก่อนที่จะถูกฝูงหนอนฝูงสรรพสัตว์กัดกินอีกครั้งวนไปมา
ตั้งแต่ที่มากเมฆได้มาถึง เขาได้ทำการรักษาบาดแผลและส่งพวกเด็ก ๆ เข้าไปพักในมิติลับเมฆมายาในทันที
พร้อมกับส่งรากไม้และ ZERO ที่ออกมาจากตุ๊กตาแมวน้ำเข้าไปด้วยเช่นกัน
แน่นอนว่ามากเมฆนั้นไม่อาจจะสงบโทสะ ความพิโรธของตัวเองลงได้ ราวกับได้รับแรงกระตุ้นจากมหาพลังที่โกรธแค้น
ดังนั้นมากเมฆที่กำลังโกรธจนใกล้ ๆ จะขาดสติอยู่แล้ว จึงได้ใช้พลังทักษะลับอย่างการสืบโลหิตจากสายเลือด และนำเอาญาติ ๆ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลูก หลาน เหลน ของสองสารเลวนี่มาไว้ที่นี่ทั้งหมด ก่อนที่จะลงทัณฑ์และทรมานพวกมันให้เจ็บปวดยิ่งกว่าตกนรกเป็นไหน ๆ มากกว่าเดิมเป็นหมื่น ๆ เท่า
ก่อนที่จะสืบค้นความทรงจำและดวงวิญญาณของพวกมัน และนำเอาเพื่อน คนรัก คนสนิทหรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับไอ้สองสารเลวนี่ เอามาทรมานเอามาฆ่า และคืนชีวิตกลับไปอีกครั้ง และทรมานพวกมันวนไปเวียนมา ดุจมหาปีศาจจากมหานรกอย่างแท้จริง ซึ่งโรคจิตเกินกว่าอสูรปีศาจที่มาพบยังต้องหวาดกลัวเลยทีเดียว
โกรธเพียงใดก็ได้ แต่ไม่ควรไร้เหตุผล ...
มากเมฆรู้ดีว่าหากตนเองยังระเบิดอารมณ์ และไม่ควบคุมพลังอยู่อย่างนี้ต่อไป จักรวาลได้พินาศสิ้นเป็นแน่
ดังนั้นมากเมฆจึงได้เปิดประตูมหานรกยมโลภ ก่อนที่จะลากไอ้สองสารเลวนี่ที่ทำร้ายลูก ๆ ของเขา รวมไปถึงทุก ๆ คนที่เป็นญาติและเป็นคนสนิทคนรู้จักทั้งหมดของมันทั้งสอง ลากลงนรกไปด้วยและลงไปทรมานลงทัณฑ์คนทั้งหมดเหล่านี้ด้วยตัวเอง
และด้วยการเปิดเผยพลังของมากเมฆในครั้งนี้เอง ถึงกับทำให้พระเจ้าจอมปลอมที่กำลังมั่นอกมั่นใจ หลังจากกลืนกินร่างอวตารทรงพลังไปเมื่อเร็ว ๆ นี้จนแข็งแกร่งกว่าเดิมหลายสิบเท่า ถึงกับหวาดกลัวและขนลุกเกรียวเลยทีเดียว ทำไมกันทำไมเพียงแค่ระยะเวลาไม่นาน ทำไมเจ้ามากเมฆอะไรนั่น มันถึงได้ทรงพลังมากขึ้นถึงขนาดนี้
พระเจ้าจอมปลอมเริ่มรู้สึกว่าสิ่งที่ตนเองกำลังพยายามอยู่ มันช่างไร้ค่าเหลือเกิน
หลังจากที่สัมผัสได้ถึงมหาพลังที่ห่างไกลกันแบบโคตร ๆ ชนิดที่ต่อให้กลืนกินร่างอวตารทั้งหมดก็ไม่แน่ว่าจะสู้ได้
ส่วนทางเหล่าผู้ติดตามที่เหลือรอดคนอื่น ๆ ของพระเจ้าลี้ลับ
หลังจากที่สัมผัสถึงพลังของมากเมฆในระหว่างที่โกรธจนเกือบจะขาดสติได้ กับทำให้ผู้ติดตามที่เหลือรอด อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัวจนไม่กล้าที่จะขยับ หรือใช้ออกด้วยพลังพิเศษใด ๆ เพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะตรวจพบและจับพวกตนไปฆ่าทิ้ง ไประบายอารมณ์จากโทสะที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ว่าเรื่องอะไรด้วยซ้ำ พร้อม ๆ กับคำถามที่ว่า ทำไมเมื่อชาติภพที่แล้วพระเจ้าแห่งการรู้แจ้ง ผู้เป็นศัตรูคู่อาฆาตของพระเจ้าลี้ลับของตน ถึงได้พัฒนาและยกระดับพลังตนเองเร็วนัก มันรวดเร็วและทรงพลังมากเกินไป จนแผนการต่าง ๆ ที่เคยได้วางไว้ เหมือนจะไร้ค่าและสิ้นหวังอย่างอธิบายไม่ถูกเลยจริง ๆ
**********
จบไปอีกบท หากมันไม่ดียังไงติชมได้นะครับ ยินดีแก้ไข
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แค่คิดก็โกรธแล้ว