ตอนที่ 344 : บทที่ 344 เกรย์ อินฟิไนท์ ตอน ต้น
บทที่ 344 เกรย์ อินฟิไนท์ ตอน ต้น
เช้าวันใหม่ของโลกวิเศษแห่งการประลองได้มาถึง ขนาดของดวงดาวอันงดงามและมหาสมุทรสุดเวิ้งว้าง ต่างก็ได้ค่อย ๆ มีขนาดเล็กลงเหมือนกันกับทุกครั้งที่ต้องเริ่มวันใหม่ บีบบังคับให้ผู้เล่นและเหล่าผู้เข้าร่วมการประลองจำนวนมาก ต้องหันมาเผชิญหน้ากันมากยิ่งขึ้น บ่อยขึ้น ทวีความรุนแรงของการต่อสู้สัประยุทธ์ไปอีกระดับ เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ของผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียว
ณ ด้านนอกบริเวณที่เหล่าผู้ชมสมาชิกของโลกมืดนับหมื่น ๆ คน ได้เหมาเอาโรงเตี๊ยมจำนวนมากนับสิบ ๆ มาเป็นจุดรับชมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด และเป็นสถานที่ค้างแรมของทุก ๆ คนในสังกัด
และในเวลานี้ที่ใจกลางห้องพักสุดหรูหราขนาดใหญ่ของโรงเตี๊ยมที่แพงและหรูที่สุด ที่ประกอบไปด้วยเหล่าสมาชิกอาวุโสอย่างหมื่นมารพันอสูรหลายสิบคน และเหล่าบรรดาหัวหน้าโลกมืดของกลุ่มต่าง ๆ ประจำโลกแห่งเทพเซียน ต่างก็กำลังมองจอภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ด้วยอารมณ์อย่างหมดอาลัยตายอย่างด้วยกันทั้งนั้น
".. ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า ท่านผู้นั้นจะโหดร้ายกับพวกเราแบบนี้ เล่นพวกเราคนกันเองเจ็บจุกจนพูดไม่ออกเลย หากรู้อย่างงี้ไม่ลงเงินเดิมพันไปจนหมดตัวเสียก็ดี เงินตั้งห้าพันล้านพลังงานสุริยะเลยนะ ห้าพันล้าน เงินสด ๆ ที่แลกเข้ามาในเกม ทั้งหมดที่สะสมมาตลอดชีวิตการทำงานผิดกฎหมาย หาย มันหายไปในอากาศหมดแล้ว .." สมาชิกอาวุโสหมื่นมารผู้ใช้กระบี่นายหนึ่งพูดขึ้น หลังจากที่เห็นอดีตจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่อย่างมารกระบี่ กลายมาเป็นคุณปู่คุณตาผู้แสนใจดีของหลาน ๆ และไม่คิดจะออกไปจากเกาะลับแม้แต่น้อย หรือไปเพิ่มพลังบ่มเพาะอะไรให้เก่งกาจมากขึ้นเลยสักนิด วัน ๆ เอาแต่เมาหรือไม่ก็นอน หรือไม่ก็ให้พวกสาว ๆ มาบีบนวด หรือวันดีคืนดีก็ลุกขึ้นมาแนะนำสอนเคล็ดวิชากระบี่เสียอย่างงั้น
แต่ก็นะ ไม่รู้ทำไมพอถึงเวลาสอนวิชากระบี่หรือแนะนำเคล็ดวิชาทีไร ไอ้เมฆหมอกบ้า ๆ สีขาวนั่น พวกมันจะปรากฏขึ้นมาบังจนมองไม่เห็นไปทุกที แถมพออยากจะฟังเสียงว่าพูดคุยอะไรกันบ้าง สอนสั่งแนะนำอย่างไรกับพวกสาว ๆ ทั้ง 6 คนกลุ่มนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นเสียงซ่า ๆ ฟังไม่ได้ความเลย ยิ่งเห็นแบบนี้เหล่าผู้ใช้กระบี่ของโลกมืดยิ่งเต็มไปด้วยความอิจฉา
สุดท้ายและท้ายสุด !! ... หากอยากจะเห็นความเป็นไปต่าง ๆ บนเกาะแห่งนั้น จะได้ดูได้เห็น ก็ต่อเมื่อเมฆหมอกบ้า ๆ นั่นหายไปแล้วเท่านั้น ... ซึ่งมันขัดใจเหล่าสมาชิกโลกมืดเสียจริง ๆ
".. เจ้ายังแค่ห้าพันล้านสหาย แต่ข้านี่สิ เงินเก็บทั้งหมดทั้งชีวิตตั้ง 5 แสนล้านพลังงานสุริยะ ลงเดินพันข้างองค์จักรพรรดิทั้งสองไปแบบไม่ลังเลใจใด ๆ แต่ตอนในนี้ ข้าละอยากจะร้องไห้จริง ๆ สรุปแล้วองค์จักรพรรดิโลกมืดทั้งสอง เข้าร่วมกิจกรรมนี้ไปเพื่ออะไร ต้องการอะไรกันแน่ หากอยากจะพักผ่อนริมชายหาด ทำไมไม่ไปสถานที่ที่มันดี ๆ กว่านี้ หรือชอบแบบอะไรที่มันตื่นเต้นเร้าใจ ฆ่ากันตายได้ตลอดเวลาหรือไง นับวันยิ่งไม่เข้าใจความคิดของทั้งสองจักรพรรดิเลยจริง ๆ แม้จะเคารพรักมากก็เถอะ 5 แสนล้านของข้า .." มารหมัดเหล็ก หนึ่งในยอดฝีมือของผู้ได้รับฉายานามหนึ่งในหมื่นมารพันอสูร กล่าวพูดขึ้นพร้อมกับน้ำตาที่ใกล้จะไหลอยู่ปริ่ม ๆ
".. พวกเจ้านี่มันไม่มีความเชื่อหรือศรัทธาใด ๆ เลยหรือไง การที่ทั้งสองพระองค์ เหล่าจักรพรรดิโลกมืดของพวกเรา ไม่กระทำการเคลื่อนไหวใด ๆ เป็นชิ้นเป็นอัน เอาแต่กินและนอนไปวัน ๆ พวกเจ้าไม่รู้สึกหรืออย่างไรว่ามันแปลก ๆ ผิดไปจากวิสัยของผู้นำทั้งสองตั้งแต่แรกที่พวกเรารู้จัก .." อาวุโสระดับสูงและมากด้วยอำนาจฉายานาม “อสูรผีอมตะ” กล่าวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนทุกที และเต็มไปด้วยจิตสังหารอ่อน ๆ อยู่ตลอดเวลาในขณะที่พูด จนคนอื่น ๆ รอบข้างสัมผัสได้
พร้อมกับได้ก้าวเดินอย่างช้า ๆ ไปยังระเบียงห้องที่ตกแต่งประดับไว้อย่างสวยงาม
ก่อนที่จะหันกลับมากล่าวพูดกับทุก ๆ คนอีกครั้งว่า ".. ต่อให้องค์จักรพรรดิทั้งสอง จะแกล้งแพ้ให้พวกเจ้าเสียเงินเดิมพันเล่นจนหมดตัว แต่พวกเจ้ามีสิทธิ์หรือมีเสียงอะไรไปต่อว่าพระองค์ได้ พวกเจ้าคงไม่ลืมหลอกใช่มั้ย ว่าทุกวันนี้ที่พวกเราแข็งแกร่งขึ้น ร่ำรวยมากขึ้นแม้มิได้ทำงานอันใด และมีหลักประกันชีวิตในทุก ๆ ด้านมากขึ้นเป็นเพราะใคร หรือพวกเจ้าคนใดคนหนึ่งในที่นี้ กล้าไปต่อว่าองค์จักรพรรดิมากเมฆที่ทำเป็นเล่นไม่จริงจังหรือไม่ .."
เหล่าบรรดาผู้นำระดับห้วหน้าของโลกมืดที่อยู่ภายในห้อง ที่ต่างก็ได้ลงเงินเดิมพันไปมาก ต่างก็พูดอะไรไม่ออกเถียงไม่ได้
แม้ทุก ๆ คนจะมีความเห็นแก่ตัว และโลภมากไปกับระบบเกมที่มีการวางเงินเดิมพัน ในอัตราจ่ายที่สูงจนยากจะห้ามใจไหวมาล่อลวง
แต่ทั้งหมดแม้จะหัวเสียและรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมไปบ้างก็ตาม
แต่ทว่าหลังจากที่ได้คิดไตร่ตรองให้ดี ๆ แล้ว ถึงสิ่งที่ได้รับมาทั้งหลายก่อนหน้านี้ ก็ไม่มีใครกล้าที่จะพูดบ่นอีกเลย เพราะอย่างไรเสียเงินที่ลงเดิมพันไปนั้น สุดท้ายก็เป็นความสมัครใจของตัวเองทั้งสิ้นอยู่ดี
ทว่าในระหว่างที่ทุก ๆ คนกำลังตัดใจและเลิกหวังกับเงินที่วางเดิมพันไปอยู่นั้น
อยู่ ๆ อาวุโสอสูรผีอมตะก็กล่าวพูดขึ้นมาอีกว่า
".. แต่ด้วยลักษณะนิสัยที่รู้กันอยู่แล้วมาตลอดนับร้อยปี องค์จักรพรรดิมารกระบี่เป็นผู้ที่เกลียดการพ่ายแพ้เป็นที่สุด และที่สำคัญไปกว่านั้น องค์จักรพรรดิโลกมืดมากเมฆเป็นผู้ที่ไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับผู้ใดมาก่อน เป็นผู้ที่สามารถสร้างปาฏิหาริย์แห่งชีวิต และมีพลังพิเศษมากมายถึงปานนั้นอีกมากที่พวกเรายังไม่รู้ ตระกูลเมฆาเทพหาใช่อะไรที่จะเข้าใจและมองออกได้โดยง่ายอย่างที่คิดมาเหมือนก่อนหน้านี้ .."
".. พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าทั้งสองพระองค์ จะแพ้ให้กับสวะขยะ NPC เหล่านั้น และบางทีที่ทั้งสองพระองค์ รวมไปถึงคนผู้นั้นอย่างเทพยุทธ์ไป๋หลง พวกเจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าคนทั้งสามคนจะพ่ายแพ้ และการที่คนทั้งสามมิได้เคลื่อนไหวใด ๆ เลย จะเป็นการกระทำที่ไร้แบบแผนหรืออย่างไร แถมในเวลานี้พวกเจ้าไม่สังเกตเลยหรือว่า องค์จักรพรรดิมากเมฆหายไปไหน .." อสูรผีอมตะเป็นผู้ที่ผ่านโลกมามาก และมองการณ์ไกลมากกว่าคนอื่น ๆ ในที่นี้อยู่หลายก้าว ที่ยังคงเป็นคนหนุ่มสาวที่มากด้วยพรสวรรค์และฝีมือในงานถนัดของตน บวกกับความใจเย็นราวกับน้ำที่นิ่งสงบ ประดุจเดียวกับพวกจิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์ทั้งหลาย ซึ่งได้กล่าวพูดขึ้นด้วยความมั่นใจในความคิดอ่านของตน และยังบอกเป็นนัย ๆ อีกว่า ห้ามมิให้สงสัยในทุก ๆ การกระทำขององค์จักรพรรดิโลกมืดหลังจากนี้อีกด้วย
หลังจากที่กล่าวพูดจบ ทุก ๆ คนภายในห้องหาได้คิดสงสัย หรือคิดเล็กคิดน้อยเกี่ยวกับองค์จักรพรรดิอีกต่อไป และในขณะเดียวกันนั้นเอง หนึ่งในสมาชิกระดับหัวหน้าที่อยู่ภายในห้อง ผู้ที่เฝ้ามองจอภาพมาตลอดตั้งแต่แรก ได้ลุกขึ้นมาตะโกนเสียงดังและบอกให้ทุก ๆ คน หันกลับมามองที่จอภาพขนาดใหญ่ใจกลางห้องแทบจะในทันที ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน
".. ผู้อาวุโสเหล่าหมื่นมารพันอสูร ดูเร็ว!! กลุ่มของจักรพรรดิผู้เฒ่ามารกระบี่ถูกโจมตีแล้ว แถมยังถูกปิดล้อมไว้ทุกทิศทุกทางอีกด้วย .."
สมาชิกระดับผู้นำแต่ละคน หันกลับมามองจอภาพขนาดใหญ่เป็นตาเดียวด้วยความตื่นเต้น
".. นั่นมันกลุ่มตระกูลเย่ ไอ้ขยะตระกูลใบไม้จากทวีปหลัก ทวีปพยัคฆ์ทมิฬ ที่เป็นกลุ่ม NPC ที่มีเรื่องกับจักรพรรดิมากเมฆมิใช่หรือ ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเตรียมพร้อมมาอย่างดี แถมยังดูเหมือนจะมีการใช้พิษในอากาศอีกด้วยในการลอบโจมตีก่อนหน้านี้ .."
".. ดูพวกสาว ๆ ทั้ง 6 คนสิ เหมือนจะถูกพิษร้ายแรง สีหน้าของพวกนางกลายเป็นสีม่วงสลับเขียว ยืนตรง ๆ ยังทำไม่ได้เลย แย่แล้ว !! เวลาแบบนี้องค์จักรพรรดิมากเมฆกับหายไปที่ไหน แถมจักรพรรดิผู้เฒ่าเหมือนจะเมามากอยู่ด้วย เทพยุทธ์ไป๋หลงเองก็สภาพพอ ๆ กัน ยิ่งแก่ยิ่งขี้เมาหรือไง ทำไมถึงยังเอาแต่เมาหัวราน้ำอยู่ได้ ดื่มมากเกินไปแล้ว เดินยังจะไม่ไหวเลยเวรกรรม .."
".. จำนวนแค่ 9 คนแถมยังหมดสภาพ กับจะต้องมาต่อกรกับเหล่า NPC มากฝีมือนับร้อย ๆ แบบนี้ แถมดูเหมือนคนในกลุ่มจะถูกพิษกันเกือบจะทุกคนอีกด้วย ไม่อยากเห็นภาพเหตุการณ์ที่จักรพรรดิมารกระบี่พ่ายแพ้เลยจริง ๆ แล้วแบบนี้พวกเราจะถูกตามฆ่ามั้ยเนี่ยที่ได้มาเห็นเรื่องน่าอายขององค์จักรพรรดิผู้เฒ่าเข้าแบบนี้ .."
เหล่าระดับผู้นำและหัวหน้าโลกมืดแต่ละคน ต่างก็กล่าวพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง เพราะในเวลาแบบนี้จะสู้ก็ไม่รู้ว่าจะรอดมั้ย แถมแต่ละคนที่เฝ้าชมดูเหตุการณ์แบบสด ๆ จะพลอยซวยไปด้วยหรือเปล่าก็ยังไม่รู้
ภายในโลกวิเศษแห่งการประลอง เกาะลับของมากเมฆและบรรดาเหล่าอาจารย์ทั้งสอง
".. ไม่คิดเลยว่าหลังจากที่เตรียมพร้อม เตรียมแผนการรับมืออยู่หลายวัน เจ้าสารเลวมากเมฆนั่นกับไม่อยู่ที่นี่ แต่ก็ดี !! พวกเจ้าจงไปจับคนของมันมาทั้งหมด มาให้เราจักรพรรดิ เรามีความคิดดี ๆ กับคนพวกนี้ไว้แล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า .." องค์จักรพรรดิพยัคฆ์ทมิฬกล่าวพูดออกคำสั่ง
".. น้อมรับบัญชา พะยะค่ะ .." ขุนพลคนสนิทรับคำสั่ง ก่อนที่จะพากลุ่มตระกูลของตนเอง ออกไปจับกุมคนทั้ง 9 ที่ตกอยู่ในสภาพติดพิษจนขยับไปไหนไม่ได้
ทั้ง 6 สาวพอจะมียาแก้พิษที่พอจะใช้ได้อยู่บ้าง แต่ทว่าด้วยฤทธิ์ยาพิษที่สูดดมเข้าไปอย่างไม่รู้ตัวในอากาศ กับมีผลทำให้ร่างกายชาด้านจนเกือบจะไร้ความรู้สึก และไม่สามารถขยับร่างกายได้อย่างที่คิด แถมยังทำให้พลังลมปราณวิญญาณ และทุก ๆ พลังที่ใช้การได้ก่อนหน้านี้เป็นอัมพาตชั่วคราว แม้อยากจะเอายาแก้พิษออกมาดื่มมากแค่ไหน สุดท้ายก็ได้แค่คิดเท่านั้น
".. นี่มันหนังจีนชัด ๆ เลย พิษที่มากับอากาศและสายลมแบบในหนัง แม่เจ้า!!! ทั้งไร้สีไร้กลิ่น เคยแต่ดูในหนังในละคร ไม่คิดเลยว่าวันนี้จะต้องมาโดนกับตัวเองแบบนี้ ตัวชาไปหมดแล้ว .." หลิ่งหลินขยับปากพูดเสียงเบา แต่ทุก ๆ คนก็ยังได้ยิน ก่อนที่จะพยักหน้าเห็นด้วยกับความสมจริงของสามพิภพออนไลน์
".. ทุกคน อย่าพยายามใช้พลังปราณวิญญาณต้านพิษ พิษชนิดนี้มีชื่อว่า “ผงวายุสลายพลัง” เป็นผงพิษระดับสวรรค์ ขั้นที่ 8 หากยิ่งต่อต้านและสูดดมเข้าไปอีก ก็จะยิ่งหมดแรงและไร้พลังต่อต้านมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกคนคะ พยายามปิดสัมผัสรับกลิ่นหรือไม่ก็ปิดจุดชีพจรที่จมูกเร็วเข้า .." ดาวไพลินกล่าวบอกเพื่อน ๆ และด้วยประสบการณ์ที่มากกว่ามากของเธอ ในฐานะที่เป็นผู้คนดั้งเดิมของโลกทางนี้ จึงทำให้ไพลินมีความรู้มากมายเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ และได้กล่าวบอกให้เพื่อน ๆ ทุกคนปรับตัวหาวิธีรับมือได้อย่างรวดเร็ว
".. คุณปู่ทั้งสองเวลาแบบนี้ทำไมถึงได้ดื่มหนักตั้งแต่เช้าได้ละเนี่ย ในมือยังถือขวดเหล้าตลอดเวลา สายเมาในตำนานหรือไงเนี่ย .." องค์หญิงเซ่อเซ่อพูดขึ้น หลังจากที่พยายามจะประคองร่างของคุณปู่ทั้งสองไม่ให้ล้ม
".. หายใจทางปากเองก็ลำบาก เหมือนมีรสชาติขม ๆ ในอากาศเลยเต็มไปหมด .." ถังเยียนกล่าวบอกด้วยสีหน้าม่วงสลับเขียว ก่อนที่จะพยายามเปิดแหวนเก็บสมบัติ เพื่อที่จะได้นำเอาเม็ดยาแก้พิษออกมา แต่ก็ไม่เป็นผลเนื่องจากพลังปราณวิญญาณมา ๆ หาย ๆ
".. พวกเราทั้งหมดติดพิษแต่ทำไม อีตานั่นถึงไม่เป็นอะไรเลยล่ะ .." จางซินอวี่กล่าวถามขึ้นหลังจากมองไปยังชายหนุ่มเพียงคนเดียวในกลุ่ม
".. ตอนแรกก็เห็นติดพิษอยู่นะ แต่อยู่ ๆ สีหน้าที่เคยมีสีม่วงและเขียวก็หายไปเฉย ๆ เหมือนจะมีทักษะพิเศษในการสลายพิษระดับสูง ตานี่เป็นผู้เล่นจากโลกเวทมนตร์ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงมีทักษะสลายพิษของโลกแห่งเทพเซียนได้ล่ะ .." เฉินเย่ว์พูดบอกเพื่อน ๆ ก่อนที่จะพยายามเอาโอสถแก้พิษออกมาจากแหวนเก็บสมบัติ
".. ไม่ใช่อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ตัวเองชอบ เลยโชว์เทพไม่ติดพิษหรือเปล่า ดูดิผู้สวย ๆ ติดพิษก็ตั้งเยอะ แต่เจ้าบ้านั่นกับเป็นห่วงแค่ดาวอยู่คนเดียว .." หลิ่งหลินแกล้งพูดแซว
ก่อนที่จะเห็นปฏิกิริยาหน้าแดงเขินอาย ราวกับลูกแอปเปิ้ลของชายหนุ่ม นามว่า “เกรย์ อินฟิไนท์”
".. บ้า ผมก็แค่ดูว่าใคร ถูกพิษแล้วมีอาการมากน้อยกว่ากันเท่านั้นเองเฉย ๆ ก่อนที่จะเอายาแก้พิษไปให้ นี่ไงผมเอาให้ดาวเป็นคนแรกเพราะอยู่ใกล้ที่สุด .." เกรย์พูดบอกแบบอาย ๆ ทั้งที่ยังหน้าแดงและทำอะไรไม่ถูก และแน่นอนว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ กับเกรย์มากกว่าไม่ใช่ดาวไพลิน แต่เป็นหลิ่งหลินนั่นเอง แต่ก็อย่างว่า ... คนกำลังมีความรัก คนที่รักสำคัญที่สุดเสมอ ..
และด้วยการพูดคุยแบบไม่กลัวตายนี่เองทั้งที่ตกเป็นรอง และอยู่ในสถานการณ์ที่เสียเปรียบ กับทำให้คนตระกูลเย่และเหล่าพันธมิตรนับร้อย ๆ คน ไม่พอใจ มิได้เห็นคนนับร้อย ๆ อยู่ในสายตา
แน่นอนว่าทั้ง 6 สาวอาจจะหวาดกลัวและคิดว่าตนเองอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวัง
แต่สำหรับสองผู้เฒ่าที่ยังเมาไม่สร่าง และเกรย์ผู้ติดตามของมากเมฆ มิได้เห็นคนนับร้อย ๆ เหล่านี้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย ..
".. จะตายอยู่แล้ว ยังกล้าจีบกันต่อหน้าข้าขุนพลดาบทมิฬ ดี ดี ข้าจะทำให้พวกเจ้าสำนึก และตีตราทาสพวกเจ้าไปตลอดชีวิตที่เหลือ .."
".. ท่านขุนพล ส่วนผู้หญิงชุดแดงนั่น ข้าขอ ข้าขอ นางดูจะเหมาะจะเป็นอนุภรรยาลำดับที่ 18 ของข้าจริง ๆ กลิ่นอายของสาวบริสุทธิ์นี่มันหอมหวานจริง ๆ .."
".. ส่วนผู้หญิงนักเดินทางข้ามฟากฟ้าที่เหลือ หลังจากที่ตีตราทาสแล้ว ข้าขอเอาพวกนางไปทดลองตัดต่อสายเลือดอสูรจำแลงได้หรือไม่ บางทีพวกเราอาจจะหากองกำลังอมตะ ได้จากการค้นพบของข้าก็เป็นได้ .."
".. ตาเฒ่าสืบอสูร ขอข้าเล่นสนุกกับพวกนางก่อนได้หรือไม่ ยังไงโลกวิเศษทางนี้ก็เป็นดินแดนของ “อาณาเขตไร้กฎเกณฑ์” อยากจะทำอะไรก็ทำ เจตจำนงแห่งสวรรค์คงไม่มาสนใจกฎบ้ากฎบออะไรที่นี่เป็นแน่ พวกเจ้าเองก็คงคิดเหมือน ๆ กับข้าใช่มั้ย .."
".. พวกเจ้าอยากจะทำอะไรก็ทำ คำสั่งขององค์จักรพรรดิเพียงแค่ให้จับเป็นพวกมันทั้ง 9 กลับไปเท่านั้น พวกเจ้าจะตัดแขนตัดขา หรือจะทำลายการบ่มเพาะพลังของพวกมันเลยก็ได้ หรือจะล่ามโซ่หรือทรมานพวกมันยังไงก็ตามแต่ ก็เอาที่ตามพวกเจ้าสะดวกเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า อยากมาเป็นศัตรูกับตระกูลมหาจักรพรรดิ พวกมันคงไม่รู้ว่าฟ้าสูงแผ่นดินต่ำนั้นเป็นเช่นไร ต่อให้พวกมันมีชีวิตเป็นอมตะแล้วยังไง ความตายซ้ำซากทรมานแบบไม่รู้จบ คือสิ่งที่พวกมันจะได้รับหลังจากนี้ .." ขุนพลดาบทมิฬกล่าวบอก ก่อนที่จะออกคำสั่งให้ทุก ๆ คนปิดล้อมคนทั้ง 9 เอาไว้ทุกทิศททุกทาง
หลังจากที่ได้ยินคำพูดสารเลวของอีกฝ่าย และความต้องการของพวกมันที่หน้าไม่อาย
เกรย์ผู้ที่ทำตัวเป็นอ่อนแอไร้พิษภัยมาตลอด เหมือนจะถูกกระตุ้นให้โกรธและไม่พอใจเข้าให้แล้ว
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

//ใช้ได้กับสามีที่รักภรรยาทุกคนในเรื่องนี้