ตอนที่ 321 : บทที่ 321 คนอื่นแทบตาย .. แต่ ..
บทที่ 321 คนอื่นแทบตาย .. แต่ ..
ณ ด้านนอกของโลกวิเศษแห่งการประลอง รอบ ๆ บริเวณวงกว้างที่ลอยอยู่เหนือเมืองกิเลนทอง เหล่าจอภาพจำนวนมากที่ถูกจับจองไปจนหมดแล้วก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วแต่กำลังฉายภาพ ถ่ายทอดสดเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นออกมา ทั้งภาพและเสียงคมชัดระดับสูงอย่างออกรส
".. เวลาเพิ่งจะผ่านไปแค่ 2 ชั่วโมงเองนะ แต่กับมีคนตายไปกว่าแสนคนแล้ว แม่งฆ่ากันยังกับบี้มดบี้แมลงเลย .."
".. แต่สะใจว่ะ ส่วนใหญ่ที่ตาย มีแต่ NPC ทั้งนั้นตระกูลใหญ่ ๆ อะไรมันจะบ้าศักดิ์ศรี ยอมตายไม่ยอมแพ้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เห็นแล้วขำ .."
".. ผู้เล่นอย่างเรา ๆ พอมีระดับพลังที่พอ ๆ กันกับพวก NPC ระดับสูง แม้ทักษะการต่อสู้จะอ่อนกว่า พวกเรากับกล้าได้กล้าเสีย มากกว่าพวก NPC เยอะเลย พอจะแพ้ใกล้ตายก็หนี พอเจอสมุนไพรดี ๆ ก็กินเข้าไปเลย บางคนเห็นกินของดี ๆ เข้าไประหว่างทางที่กำลังหนี อยู่ ๆ กับมีพลังแข็งแกร่งขึ้นกว่าปกติอีกก็มี เสียดายมาไม่ทันเลยไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมด้วย .."
".. ผู้เล่นอย่างเรา ๆ รู้จักปรับตัวไง ดูดิพวกคนดัง ๆ จากกิลด์ใหญ่กิลด์ดังหลายร้อยคน ตอนนี้แอบเนียนเข้ากลุ่มพันธมิตรต่าง ๆ ของพวก NPC ระดับสูงไปแล้ว เป็นเสือแต่แกล้งเป็นลูกแมวชะงั้น เชื่อเลยว่าพอใกล้ ๆ จะจบศึกการประลองโลกวิเศษ พวกผู้เล่นพวกนั้นจะต้องทรยศและฉวยโอกาสแน่ ๆ ยังไงผู้ชนะก็มีแค่ 1 เดียว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด .."
".. พวกนักเดินทางข้ามฟากฟ้า มันคิดว่าเข้าร่วมแล้วจะทรยศได้ง่าย ๆ หรือไง ช่างเป็นเด็กน้อยไร้เดียงสาเสียจริง ๆ รอดูต่อไปเถอะ หัวเราะทีหลังดังกว่าเสมอ ฮ่า ฮ่า ฮ่า .."
".. ตอนนี้กลุ่มอำนาจใหญ่ ๆ เริ่มกลยุทธ์ที่เหมือน ๆ กัน จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรขึ้นมาเยอะมาก แต่การที่มีคนจำนวนมากแบบนี้ราวกับกองทัพ ก็ทำให้ตกเป็นเป้าหมายให้โจมตีได้ง่ายอย่างลับ ๆ ดูดิมีกลุ่มตระกูลชั่วร้าย เริ่มใช้กลยุทธ์แบบกองโจร เข้าโจมตีในช่วงเวลาที่ไม่ทันระวังและถอยหนีอย่างรวดเร็ว .."
ที่ท้องพระโรงราชวังบัลลังก์เมฆลอยฟ้า ณ เมืองกิเลนทองที่ถูกตั้งให้เป็นเมืองหลวงของราชวงศ์นับจากนี้ ภายในท้องพระโรงหรูหรากว้างใหญ่กับเต็มไปด้วยขุนนางเก่าแก่จำนวนมาก และเหล่าผู้นำตระกูลทรงอำนาจที่ไม่ได้เข้าร่วมการประลอง และต่างก็เป็นพันธมิตรสำคัญของราชวงศ์มาช้านานหลายร้อยปีนับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ขึ้นมา
ใจกลางท้องพระโรง ได้ปรากฏจอภาพขนาดใหญ่กว่า 600 นิ้วลอยอยู่
คอยฉายภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ถ่ายทอดสดตลอดเวลา
".. สถานการณ์ในเวลานี้เรียกได้ว่าแย่เอามาก ๆ ตระกูลพันธมิตรเหล่าตัวแทนของพวกเราถูกคัดออก เพราะไปปรากฏตัวยังสถานที่ที่อันตรายหลายสิบตระกูล ต้องบอกเลยว่าโชคไม่ดีเลยจริง ๆ หากภายในวันนี้ยังรวมกลุ่มจัดตั้งพันธมิตรที่ด้านในโลกวิเศษไม่ได้ โอกาสรอดไปจนถึงช่วงท้าย ๆ คงเหลือไม่มากแล้ว .." แม่ทัพเฒ่าท่านหนึ่งกล่าวพูดขึ้นอย่างเป็นห่วง หลังจากที่ได้วิเคราะห์สถานการณ์ทั้งหมดโดยภาพรวมแล้ว
".. โชคยังดีที่กลุ่มขององค์จักรพรรดิของพวกเรา ถูกสุ่มไปปรากฏที่เกาะขนาดเล็กแห่งนั้น ทำให้ได้รับสมุนไพรวิเศษจำนวนมาก และยังสามารถกำจัดสัตว์อสูรไหมเงินได้อีกจำนวนมาก ทำให้ได้รับวัตถุดิบในการสร้างเสื้อเกราะอ่อนไหมเงินอันแข็งแกร่งขึ้นมาหลายชุด และองค์จักรพรรดิยังเป็นผู้ที่เก่งกาจในการหลอมสร้าง สิ่งประดิษฐ์อีกด้วย ทั้ง 5 คนในกลุ่มจึงได้รับเกราะไหมเงินอ่อนกันทุกคน ซึ่งสามารถป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ลดความเสียหายที่เกิดขึ้นได้กว่า 7 ส่วนจากพลังทั้งหมดที่ตกกระทบกับร่างกายของผู้สวนใส่ชุดเกราะแต่ละคน ขอให้สวรรค์เมตตาราชวงศ์ของเราด้วยเถอะ .." หัวหน้าขันทีชราผู้จงรักภักดีกล่าวบอก และด้วยข้อมูลนี้เอง จึงทำให้ใครต่อใครภายในท้องพระโรงยังสงบใจไว้ได้ หลังจากที่เห็นองค์จักรพรรดิบัลลังก์เมฆยังคงปลอดภัย
".. จากที่เห็นตระกูลกิเลนโบราณ อดีตท่านเจ้าเมืองพระสหายคนนั้น หากข้าจำไม่ผิด รู้สึกจะมีนามว่า “ดาบแดนเดือด” กลุ่มตระกูลกิเลนโบราณอยู่ใกล้กับองค์จักรพรรดิมากที่สุด น่าจะเป็นกำลังเสริมที่สำคัญเอามาก ๆ ในเวลานี้แล้ว แต่กว่าจะเดินทางไปถึงสถานที่ที่องค์จักรพรรดิประทับอยู่ คงจะต้องใช้เวลาหลายชั่วยามเลยทีเดียว และจากที่ข้ารู้มา หลังจากที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว โลกวิเศษจะปรากฏสัตว์ปีศาจโบราณผู้กระหายเลือด หรือไม่ก็อสูรกายบรรพกาลออกมากวาดล้างผู้คน อีกไม่นานกลุ่มต่าง ๆ จะต้องหาสถานที่ปลอดภัยหลบซ่อน และการที่องค์จักรพรรดิยังไม่ได้จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรขึ้นมา ก็อาจจะเป็นโชคดีของพระองค์ก็เป็นได้ ยิ่งมีผู้คนรวมตัวกันอยู่จำนวนมากเท่าไร ก็ยิ่งจะต้องเผชิญกับบททดสอบที่ยากลำบากมากเท่านั้น .." อัครมหาเสนาบดีนามว่า “ไม้สงบใจ” ผู้เป็นพ่อตาขององค์จักรพรรดิได้กล่าวบอก ก่อนจะมองไปยังบุตรสาวของตนเองที่อยู่ในกลุ่มขององค์จักรพรรดิด้วยความเป็นห่วง
".. ทุกท่านโปรดดูที่จอภาพเร็ว ดูเหมือนพลังขอบเขตขั้นต่ำจะเริ่มต้นที่ “เซียนอสูรมังกรฟ้า” ซึ่งเป็นพลังในอาณาจักรที่สามเทวะนิรันดร์ แต่ดูคนผู้นี้สิ ข้าได้สลับจอไปยังช่องที่มีผู้ชมมากที่สุด ก็พบเข้ากับ ภาพเหตุการณ์นี้เข้าโดยบังเอิญ ดูเหมือน ทุก ๆ คนที่เข้าร่วมจะสามารถยกระดับพลังบ่มเพาะขึ้นได้เรื่อย ๆ อย่างรวดเร็ว ผ่านของวิเศษประเภทต่าง ๆ ชายชราคนนั้น ก่อนหน้านี้ได้กินโอสถวิเศษเม็ดหนึ่งเข้าไป จากนั้นพลังบ่มเพาะก็พุ่งทะยานขึ้น กลายเป็น “ครึ่งก้าวเซียนดาราเก้าสวรรค์” ในเวลาไม่นานและใกล้จะบรรลุถึงขอบเขตเซียนดาราเก้าสวรรค์ 1 วงแหวนแล้วอีกด้วย ดูเหมือนยังมีหลายสิ่งอีกมากที่พวกเราไม่รู้เกี่ยวกับโลกวิเศษ แถมทุก ๆ คนที่ถูกฆ่าหรือตายไปแล้ว ก็ยังไม่ได้กลับมายังโลกทางนี้ในทันทีอีกด้วย แล้วคนพวกนั้นหายไปไหน และที่เห็นหลายคนที่โชคดีได้พบกับตำราทักษะยุทธต่าง ๆ หลังจากที่เปิดอ่านก็สำเร็จวิชานั้น ๆ ได้ทันทีเช่นกัน โดยไม่จำเป็นต้องฝึกฝนใด ๆ อีกด้วย แต่กับสามารถใช้ออกเคล็ดวิชานั้น ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบราวกับฝึกฝนมาแล้วนับสิบ ๆ ปีจนเชี่ยวชาญ กับบางคนที่ได้พบกับอาวุธเทพ หลังจากที่ครอบครองได้สำเร็จอย่างยากลำบาก คนคนนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นเป็นอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นข้าคิดว่า หนทางที่จะอยู่รอดให้ได้นานที่สุดจนเป็นผู้ชนะ สมควรมุ่งเป้าไปยัง ตำราทักษะต่าง ๆ อาวุธ และสมุนไพรหรือโอสถช่วยชีวิตมากกว่า เรื่องการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตร ไม่ใช่หนทางที่เหมาะสมนักในระยะแรก เพราะสุดท้ายแล้วทุก ๆ กลุ่มก็จะต้องฆ่ากันให้ตายไปข้างอยู่ดี และไม่มีอะไรรับรองได้ว่าผู้นำกลุ่มนั้น ๆ จะรักษาสัญญา อย่าลืมอีกว่า ใจคนนั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาด้วยเช่นกัน ยิ่งได้เห็นและพบกับของล้ำค่าวิเศษมากมายปานนั้น คนปกติจำนวนมากล้วนแปรเปลี่ยนไป และเปิดเผยสันดานธาตุแท้ของตัวเองออกมาในที่สุดทุกคน ข้ากับรู้สึกว่าโลกวิเศษที่ปรากฏขึ้นนี้ และภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม เหมือนจะเป็นการคงอยู่ของบททดสอบอะไรบางอย่าง แต่ข้ากับไม่อาจจะหาเหตุผลหรือข้อสังเกตมาอธิบายได้ มันคาใจจริง ๆ .." ผู้ที่กล่าวคำพูดออกไปมากมายอย่างมีเหตุมีผล หาใช่ใครอื่น แต่เป็นที่ปรึกษาหนุ่มมากความสามารถ นามว่า “จู่เกอหลาน” จาก “ตระกูลบัณฑิตนภา” ซึ่งคำพูดของเจ้าตัวกับทำให้ใครหลาย ๆ คนในท้องพระโรงรู้สึกตัว
และเริ่มเป็นกังวลกับกลุ่มตัวแทนตระกูลของตนเองเอามาก ๆ เพราะหากอยู่ ๆ กลุ่มตัวแทนของตระกูลได้ของวิเศษและแข็งแกร่งขึ้นมาเป็นอย่างมากในเวลาอันสั้น จนไม่เห็นหัวองค์จักรพรรดิและเล่นงานอีกฝ่ายแล้วล่ะก็ วันคืนดี ๆ ที่ผ่านมาจากนี้และตลอดไป คงจะไม่เหลือเป็นแน่ ยกเว้นก็แต่กลายเป็นผู้ชนะในท้ายที่สุดเท่านั้น แต่มันจะเป็นไปได้หรือไง
จากข้อมูลวงในที่รู้ ๆ กันเฉพาะคนของราชวงศ์บัลลังก์เมฆระดับสูง ผู้ชนะได้ถูกกำหนดไว้แล้วอย่างแท้จริง
แม้จะไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน แต่องค์จักรพรรดิได้ตรัสเอาไว้แล้วว่า ... ตนเองหรือแม้แต่ใคร ๆ ก็จะเป็นเพียงแค่ผู้แพ้เท่านั้น
ดังนั้นการที่พระองค์เข้าร่วมในครั้งนี้ ก็เพราะตามหาถุงวิเศษบ้างอย่าง และเก็บกวาดของล้ำค่าให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถเท่านั้น แต่ก็ดูเหมือนองค์จักรพรรดิเองก็มีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ และไม่เปิดเผยออกมาให้คนนอกได้รับรู้ไปมากกว่านี้อีกด้วย
ภายในโลกวิเศษ
บริเวณเกาะกลางทะเลแห่งใหม่ ที่มากเมฆและอาจารย์ทั้งสองกำลังพักผ่อนกันอยู่ และมีหายนะสีเงินย่างบาร์บีคิวทานอยู่ใกล้ ๆ โดยมีเกรย์เป็นลูกมือแบบสั่น ๆ กลัว ๆ ตลอดเวลา
".. ลูกพี่มากเมฆมั่นใจแล้วนะ ว่าได้วางกับดักค่ายกลไว้รอบ ๆ เกาะแล้ว ผมไม่อยากกิน ๆ ไปแล้วต้องลุกขึ้นมาสู้กับศัตรูหลอกนะ แถมตอนนี้ก็ใกล้จะมืดแล้วด้วย ไม่ใช่ว่าพวกเราจะต้องหาที่หลบซ่อนหรือไง .." เกรย์พูดบ่นในขณะที่ในมือเต็มไปด้วยอาหารแสนอร่อยสารพัดอย่าง
".. แต่ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ลูกพี่หายนะสีเงินจะทำอาหารได้เก่งมาก ๆ แบบนี้ เห็นหายไปไม่ถึง 10 นาที แต่กลับนำเอาวัตถุดิบต่าง ๆ กลับมาจำนวนมากเลย แถมยังย่างบาร์บีคิวได้อร่อยสุด ๆ อีกด้วย แต่ที่ผมคาดไม่ถึงสุด ๆ เลยก็คือ ลูกพี่หายนะเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับทำอาหารติดตัวไปไหนมาไหนตลอดหรือหรอเนี่ย .." เกรย์ถามต่ออย่างสงสัย ก่อนที่จะมองไปยังหายนะสีเงิน แต่สิ่งที่ได้รับกับเป็นความเงียบอันเย็นชาเท่านั้น
".. เกรย์ นายไม่ได้อ่านจดหมายที่ส่งไปเลยหรือไงเนี่ย ก็บอกไว้แล้วนะว่าชวนให้มาเที่ยวเล่นเฉย ๆ เรื่องอื่น ๆ ไม่ต้องห่วง แล้วก็เกาะแห่งนี้ปลอดภัยแน่นอน วางใจได้ มา ๆ กินให้อิ่ม วันนี้อาหารอร่อย ๆ ทั้งนั้น .." มากเมฆกล่าวบอกก่อนที่จะเลือกชิ้นดี ๆ ใส่จานจำนวนมาก รวมไปถึงเครื่องดื่มที่จัดเตรียมเอาไว้ และเอาไปเสิร์ฟให้กับท่านอาจารย์ทั้งสองที่กำลังเดินหมากล้อมกันอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านพักที่สร้างขึ้นมาเป็นการชั่วคราว
".. มาแล้ว ๆ หอมน่ากินจริง ๆ เลย มา ๆ .." ท่านอาจารย์ไป๋หลงทานอาหารที่นำมาเสิร์ฟโดยลูกศิษย์ ก่อนที่จะใช้พลังลมปราณ ควบคุมให้ตัวหมากสีขาวที่ลอยอยู่วางลงไปในตำแหน่งที่ต้องการ เดินหมากโดยใช้พลังลมปราณ ทั้งการบังคับและควบคุมสมบูรณ์แบบในทุก ๆ ด้าน
".. เจ้าเฒ่า ฝีมือเดินหมากล้อมของเจ้า ต่อให้ฝึกอีกสักร้อยปีก็ยังคงไม่ก้าวหน้า เล่นกับเจ้านี่มันน่าเบื่อจริง ๆ สถิติทั้งหมด 999 ครั้งที่ผ่านมา เจ้าแพ้ข้าถึง 998 ครั้ง แต่เจ้าก็ไม่เคยยอมรับความพ่ายแพ้ แถมเวลานี้ยังห่วงเอาแต่กินอีก เล่นต่อไปก็ชนะแน่ ๆ อยู่แล้ว ไม่สนุกเลยสักนิด เลิก ๆ ดีกว่า .." มารกระบี่กล่าวพูดบ่นไปเรื่อยกับสหายสนิทเพียงหนึ่งเดียวในชีวิต พร้อมกับใช้มือที่ว่างอยู่ รับขวดเหล้าผลไม้จากมากเมฆมาดื่ม ซึ่งเหล้าผลไม้ที่ว่าเป็นเหล้าสวรรค์ที่ได้รับการบ่มเพาะด้วยสูตรลับ โดย “ชีวิตสุรา” ที่ทำงานอย่างหนักอยู่ภายในโลกสุริยาโบราณพงพนานั่นเอง
".. เหล้าดี รสเลิศอะไรจะปานนี้ เจ้าหนู เจ้ามีอีกมั้ยนำมาให้อาจารย์ของเจ้าเร็ว ข้าไม่เคยดื่มสุราอะไรหอมหวานแล้วจะติดใจถึงเพียงนี้มาก่อนเลย .." อาจารย์มารกระบี่กล่าวบอก พร้อมกับดื่มเข้าไปจนหมดขวดในเวลาต่อมา
ก่อนที่จะหันไปมองที่ด้านข้างของตัวเอง พร้อมกับรู้สึกว่าโดนเจ้าลูกศิษย์ตัวแสบ มันประชดเข้าให้หรือเปล่า เพราะขวดสุราหยกที่เรียงกันอยู่ที่ด้านข้าง มันสูงยังกับภูเขาขนาดเล็ก ๆ เลยก็ว่าได้ แถมมีจำนวนไม่ต่ำกว่าสามหมื่นขวดเสียอีก ดื่มกินหมดนี่จะไม่เมาไปเป็นสิบ ๆ ปีเลยหรือไง
มากเมฆเหมือนจะรู้ทันความคิดของอาจารย์มารกระบี่ จึงพูดบอกไปว่า ".. อาจารย์ชอบ ลูกศิษย์ก็เต็มใจมอบให้เป็นของขวัญ แถมผมเองก็มีอยู่เยอะมาก ๆ แบ่งให้อาจารย์ไป 3 หมื่นขวดก็ไม่เห็นเป็นอะไรนี่ครับ ผมเชื่อว่าต่อให้อาจารย์มารกระบี่ดื่มไปจนหมด ก็คงไม่เบื่อสุราสวรรค์พวกนี้แน่ ๆ เพราะมันเป็นของดีที่หาได้ยากสุด ๆ เลยล่ะครับ แถมยังช่วยให้พลังบ่มเพาะของโลกเทพเซียนพัฒนาขึ้นมากอีกด้วย .."
พอได้กลิ่นหอม ๆ ของผลไม้นานาชนิด ท่านอาจารย์ไป๋หลงเองก็นำสุราที่ว่ามาลองดื่มรับรสจากสวรรค์เช่นเดียวกัน .. ก่อนที่จะกล่าวชมสุราในมือไม่ขาดปาก สุดท้ายแล้วสองชายชราอยู่ ๆ ก็กลายเป็นชายชราขี้เมาไปในที่สุด
เพราะต่อให้เก่งกล้ามากแค่ไหน ก็ไม่อาจะทนต่อผลมึนเมาราวกับฝันอันแสนสุขในวิมาน ของสุราที่ทำจากผลไม้สวรรค์เหล่านี้ได้อยู่ดี .. และพอหันไปมองเจ้าเกรย์ผู้ติดตามตัวแถมจากโลกเวทมนตร์ อีกฝ่ายก็เมาหลับไปแล้วอย่างหมดสภาพ ต้องบอกเลยว่าคออ่อนสุด ๆ .. และหายนะสีเงินก็ปล่อยให้อีกฝ่ายนอนอยู่บนพื้นทรายไปทั้งแบบนั้น
ก่อนที่มากเมฆจะเดินไปสบตากับร่างแยกพลังของตนเอง พร้อมกับมองไปยังพระอาทิตย์ที่ลาลับหายไปจากสายตาด้วยกันทั้งคู่กับร่างแยกพลัง ..
ดูเหมือนจะได้เวลาเริ่มแผน .. ปีศาจกระหายโลหิตแล้ว ..
ที่โลกเทพเซียนด้านนอก ... เมืองใต้ดินที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้เล่นอย่างลับ ๆ
เหล่าอาวุโสของโลกมืดและสมาชิกระดับสูงขององค์กร เหล่าหมื่นมารพันอสูรที่ออนไลน์เข้ามาภายในเกม .. ต่างก็มองจอภาพอันไร้เสียงโดยมิได้นัดหมาย .. ด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่แตกต่างกันไป ไม่เข้าใจเลยจริง ๆ กับภาพที่เห็นและที่เกิดขึ้นทั้งหมดตรงหน้า
".. จอภาพที่เช่ามา มันของมือสองปะเนี่ย ของคนอื่นภาพชัดสุด ๆ เสียงก็ได้ยิน แต่ทำไมของพวกเรามันกับภาพไม่ชัด เสียงไม่ได้ยินเลย .."
".. นี่เช่ามาแบบ 800 นิ้วเลยนะ ความชัดระดับสูงสุดเลย ตอนแรกมันก็ชัดดีอยู่หลอก แต่หลังจากที่จักรพรรดิมากเมฆของพวกเรา วางลูกแก้วแปลก ๆ ออกไปรอบ ๆ เกาะขนาดเล็ก ๆ นั่น อยู่ ๆ ภาพที่เห็นก็ไม่ชัดและเสียงก็ไม่ได้ยินอีกเลยต่างหาก .."
".. เรื่องชัดไม่ชัดช่างมันเถอะ แต่ที่อยากรู้ก็คือ จักรพรรดิรุ่นก่อนกับรุ่นนี้ ไม่มีอะไรทำ หรือหาที่เที่ยวไม่ได้กันแน่ เลยต้องหาสถานที่ที่มันต้องตื่นเต้น เร้าใจ เลยไปปิกนิกกันในโลกวิเศษที่เต็มไปด้วยอันตรายนั่นหรือไง แบบนี้แล้วเงินที่วางเดิมพันไปจะทำยังไง .."
".. ดูขวดเหล้าข้าง ๆ อดีตจักรพรรดิสิ ข้าติดตามจักรพรรดิมารกระบี่มาหลายร้อยปี ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายจะดื่มสุราเข้าไปมากแบบนั้นมาก่อน แสดงว่าสุราในขวดหยกพวกนั้น จะต้องมีรสชาติที่ดีมาก ๆ เป็นแน่ เพราะขนาดเทพยุทธ์ไป๋หลงเอง ก็ยังดื่มกินอย่างต่อเนื่องจนเมาหน้าแดงไปหมดแล้ว ดูจากจำนวนขวดเปล่าข้าง ๆ คนทั้งสองกว่าสิบขวด แถมสภาพแต่ละคนในเวลานี้ ใครจะเมาจนล้มหัวทิ่มก่อนก็พูดยากเหมือนกัน .."
".. ทำไมข้ารู้สึกว่าเงินจำนวนมากที่ลงทุนวางเดิมพันไปก่อนหน้านี้ เหมือนจะหายไปในกาลอากาศยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกเจ็บที่หน้าอกทางซ้ายแบบแปลก ๆ เริ่มใจคอไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก .."
".. ดูจอภาพเล็ก ๆ พวกนี้สิ คนอื่น ๆ เขาสู้กันจะเป็นจะตาย เอาชีวิตรอดอย่างยากลำบากในแต่ละลมหายใจเข้าออก แต่พอหันไปดูเหล่าจักรพรรดิของพวกเราทั้งสอง ไปปิกนิกกันจริง ๆ สินะ ไปปิกนิก เอาล่ะ หันกลับไปมองคนอื่น ๆ ต่อที่ต้องวิ่งหนีตาย หลบคมดาบ หลบระเบิดปืนแสง เอาตัวรอดจากับดักค่ายกลทางธรรมชาติ มันคนละอารมณ์เลยจริง ๆ .."
สมาชิกโลกมืดแต่ละคนได้แต่ส่ายหน้า ... ก่อนที่จะคิดสรุปออกมาเหมือน ๆ กันว่า
เอาเถอะ .. จะทำอะไรก็ทำไปเถอะ !!! เสียงสูงในใจ ... จักรพรรดิที่เคารพรักทั้งสองไอ้พวกบ้า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เกราะไหมเงิน กับ เกราะอ่อนไหมเงิน อันไหนน่าใช้กว่ากันครับ
แต่ในบางประโยคมี เกราะอ่อนปรากฏมาด้วย เพราะกลัวบ้างคนไม่เข้าใจ .. แต่ใช้ได้ทั้งสองนะ