ตอนที่ 314 : บทที่ 314 สองชั่วยามแห่งความระทึก
บทที่ 314 สองชั่วยามแห่งความระทึก
หนึ่งยิ้มหวานคู่ควรสวรรค์ คำกล่าวนี้หาได้เกินจริงแต่อย่างใด
สำหรับผู้ที่ได้พบเห็นรอยยิ้มสดใสเบิกบาน อันงดงามหาใดเปรียบนั่นแล้วกับตา
เพียงหนึ่งรอยยิ้มตราตรึงใจ อันไม่ได้ตั้งใจของหญิงสาวแสนสวย ผู้งดงามสมบูรณ์พร้อมยิ่งกว่านางฟ้านางสวรรค์ใด ๆ กับทำให้ใครต่อใคร จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ราวกับวิญญาณบริสุทธิ์แรกเริ่มที่ได้รับมา หลุดลอยออกจากร่างและหายไปในดินแดนหมื่นความฝันพันอารมณ์ อันแสนหวานมิรู้ตื่นเสียอย่างงั้น
แม้จะมีผู้คนมากมายตกลงจากท้องฟ้า !!
แต่ทว่าซินหลินก็หาได้สนใจหรือใส่ใจใคร่จะมอง
นางยังคงมองเพียงแต่ชายหนุ่มที่นางหลงรักเท่านั้น และหาได้สนใจหรือใส่ใจกับสถานการณ์รอบ ๆ ที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
ณ กลางท้องฟ้ามุมหนึ่งอันมิห่างไกลจากเมืองกิเลนทองนัก ราว 5 ลี้เห็นจะได้
ที่นั่นได้ปรากฏ < พระราชวังทองคำลอยฟ้า > อันหรูหราไม่ธรรมดา
ราวกับมาจากสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า ที่สูงล้ำเกินคิดฝันถึงของใครหลาย ๆ คนตลอดชั่วชีวิต
ทว่าด้านในของลานกว้างหน้าพระราชวังทองคำ ต่างก็กำลังจัดงานเลี้ยงสังสรรค์กันอยู่อย่างเบิกบานและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ทั้งหมดกับเต็มไปด้วยผู้คนและอาหารเลิศรสมากมาย กลิ่นหอมหวานของสุราเลิศรส แม้ว่าจะอยู่ไกลออกไปถึง 5-10 ลี้ก็ตาม ผู้คนโดยรอบต่างก็ยังได้กลิ่นหอม ๆ เบาบางชวนให้มึนเมานั่นอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน
โดยผู้ที่มานั้นแท้จริงแล้วคือ “มหานิกายมหาจักรพรรดิเทพมังกร” ในตำนานโบราณจาก “ทวีปเก้าศาสตราสวรรค์” อันร้ายกาจดินแดนที่เต็มไปด้วยอาวุธโบราณชั้นเลิศภพจบแดนจำนวนมาก และภายในงานเลี้ยงที่ว่า เจ้าภาพผู้เป็นประมุขและเป็นเจ้าของพระราชวังแห่งนี้ กำลังเลี้ยงต้อนรับเหล่าบรรดาแขกและมิตรสหายจากตระกูลน้อยใหญ่ต่าง ๆ ที่มาจากทวีปเดียวกัน และเหล่าพันธมิตรที่รู้จับคบหากันมานานที่ไม่ได้พบหน้ากันมาหลายร้อยหลายสิบปี
ทว่าบริเวณหอสูงแห่งหนึ่ง สถานที่ที่เหล่านายน้อยของแต่ละตระกูลทรงอำนาจ ได้แยกตัวออกมาจากงานเลี้ยงที่เต็มไปด้วยผู้คน เพื่อทำความรู้จักกันและกันเอาไว้ในโอกาสสำคัญในครั้งนี้
".. หญิงสาวผู้นั้น สมควรเป็นหญิงสาวในข่าวลือใช่หรือไม่ สหายข้าพิษสายส่ง นางช่างงดงามอะไรถึงเพียงนี้ รอยยิ้มนั่น ทำให้โลกใบนี้สดใสขึ้นมาได้ในพริบตา ข้าว่า ข้าชอบนางเข้าให้แล้วล่ะ ข้าเดี่ยวเพลิงก็มีความรักเป็นเหมือนกันหรือนี่ .." นายน้อยลำดับที่ 1 นามว่า “เดี่ยวเพลิง” จาก “ตระกูลพยัคฆ์อัคคีโบราณ” มหาตระกูลระดับ 10 เมฆาอันทรงพลังอำนาจ ซึ่งในปัจจุบันเป็นตระกูลราชวงศ์สูงสุดของ “ทวีปอัคคีผลาญฟ้า” จากทวีปหลักอันห่างไกลได้กล่าวพูดขึ้น พร้อมกับมองไปยังหยางซินหลิน ด้วยอารมณ์และความรู้สึกอันหลากหลายยากจะอธิบาย
".. ข้าคิดว่าใช่นะ สหายเดี่ยวเพลิง หญิงงามผู้นี้งดงามหาใดเปรียบจริง ๆ แม้ว่าข้าจะเห็นหญิงงามราวกับดอกไม้สวรรค์มาก็มาก หญิงสาวมากมายที่ข้าเคยได้เล่นสนุกด้วย แต่กับไม่มีใครเลยที่จะเปรียบเทียบกันนางได้ แม้แต่น้อยนิดก็ยังไม่มี เหมาะสมแล้วที่เป็นร่างจุติจากพระเจ้าผู้สร้างในตำนานผู้งดงาม ใครได้ร่วมรักกับนาง จะกลายเป็นมหาเทพสวรรค์ 16 วงแหวนนิรันดร์ในทันที มีชีวิตยืนยาวเป็นนิรันดร์อมตะไม่แตกดับไม่สูญสิ้น ใครกันจะเป็นผู้ที่โชคดีปานนั้น .." ผู้ที่กล่าวตอบเสียงสั่น ๆ หายใจเข้าออกรุนแรงกว่าปกติเล็กน้อย หาใช่คนธรรมดาทั่วไปไม่ มันเป็นถึงนายน้อยลำดับที่ 1 จาก “ตระกูลอสรพิษสายฟ้าโบราณ” มีนามว่า “พิษสายส่ง” ซึ่งเป็นตระกูลระดับ 10 เมฆาเช่นเดียวกัน จาก “ทวีปอสรพิษทองคำ” ที่อยู่ห่างไกลออกไปจากทวีปเริ่มต้นเป็นอย่างมาก
ในขณะเดียวกันชายหนุ่มอายุน้อยมากพรสวรรค์จำนวนมาก คนอื่น ๆ ต่างก็ลุกขึ้นมามองและชมดูรอยยิ้มงามคู่ควรสวรรค์ของหยางซินหลินเป็นจำนวนมาก มองจนตาเป็นมันด้วยอารมณ์และความรู้สึกอันหลากหลาย จนเกิดอาการเคลิบเคลิ้มหลุดลอยเข้าไป ในดินแดนหมื่นความฝันแสนหวานกันทั้งนั้นอย่างไม่รู้ตัว
อีกด้านหนึ่งชั้นบนของพระราชวังทองคำของงานเลี้ยง บริเวณที่ถูกจัดไว้เป็นพิเศษสำหรับผู้นำตระกูลและเหล่าอาวุโสชั้นฟ้าระดับสูง ผู้ที่อยู่เหนือกว่าเซียนสวรรค์ทั่ว ๆ ไปจะเข้าถึงได้ รวมไปถึงท่านประมุขของมหานิกายจำนวนมากที่เป็นพันธมิตรต่อกัน ล้วนแล้วแต่สังสรรค์กันอยู่ภายในสถานที่จัดเลี้ยงแห่งนี้
".. ดีจริง ๆ แม่หนูน้อย พวกเจ้าดูที่ <หยกเทพพรหมจรรย์> ของข้าสิ เมื่อครู่ข้าได้ใช้พลังจากหยกเทพชิ้นนี้ ที่ 10 ปีจะใช้ตรวจสอบได้เพียง 5 ครั้งเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นเทพสวรรค์เหล่านางฟ้าก็ตาม ก็สามารถตรวจสอบได้ .."
".. ข้าได้ลองใช้ตรวจสอบหญิงสาวในข่าวลือ ที่พวกเรากำลังมองเห็นอยู่นี้ ว่าหญิงสาวที่พวกเราหมายตาและจำต้องเดินทางไกลมาถึงที่นี่ด้วยตัวเอง ยังคงบริสุทธิ์และรักษาพรหมจรรย์ไว้หรือไม่ ผลที่ได้ก็คือ แม่นางน้อยผู้นั้นยังคงบริสุทธิ์ผุดผ่อง .."
".. นางมิเคยได้ผ่านชายใดมาก่อนเลย แถมแม่นางน้อยยังเป็นร่างจุติของพระเจ้าจริง ๆ อีกด้วย พวกเจ้าดูที่ตัวอักษรโบราณที่เรือนแสงขึ้นมา ก็น่าจะเข้าใจได้ในทันที ฮ่า ฮ่า ฮ่า แม้ชายคนแรกของนางจะได้กลายเป็นมหาเทพ 16 วงแหวนนิรันดร์อันร้ายกาจ .."
".. แต่สำหรับคนอื่น ๆ ที่ได้ร่วมรักกับนางในภายหลัง แน่นอนว่าจะต้องได้ผลประโยชน์ไม่น้อยเป็นแน่ ดีจริง ดีจริง ๆ งานนี้พวกเราไม่ได้มาเสียเที่ยวแล้ว .." เฒ่าชราหน้าขาวอายุหลายร้อยปี ได้กล่าวพูดขึ้นเสียงดัง จนได้ยินกันทั่วสถานที่จัดเลี้ยงชั้นบน
มันผู้นี้มีนามว่า “โสมทอง” เป็นประมุขของ “มหานิกายเทพสุขสันต์” ซึ่งเป็นมหานิกายสายมารร้ายที่มักจะใช้อิสตรีที่บริสุทธิ์อายุน้อย ในการฝึกฝนวิชามารเทพของพวกมัน ผ่านการร่วมรักและดูดกลืนพลังหยินบริสุทธิ์จากหญิงสาวเหล่านั้นอย่างช้า ๆ จนพวกนางเสียชีวิต และอยู่ในสภาพแก่ชราก่อนที่จะสิ้นใจจากไป
".. การที่ข้าเชิญเจ้ามาด้วย เป็นความคิดที่ถูกต้องจริง ๆ ข้อมูลที่ได้ก็มา มันก็มากพอแล้วสำหรับการเดินทางในครั้งนี้ เจ้าคิดอย่างงั้นมั้ยสหายข้า ท่านพี่โสมทอง .." เสียงบอกกล่าวที่เต็มไปด้วยอำนาจ พลังแห่งสภาวะผู้นำระดับสูงจากสวรรค์ ราวกับจักรพรรดิเทพมาเองได้ดังขึ้นจากด้านหลังของทุก ๆ คน จนใครต่อใครต่างก็หันไปมองและทำความเคารพผู้มาใหม่ที่เพิ่งจะเข้ามาในงานเลี้ยงอย่างนอบน้อม
ชายวัยกลางคนที่ภายนอกดูเหมือนอายุราว 45-50 ปีเท่านั้น ที่เพิ่งจะเข้าร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ในครั้งนี้ แท้ที่จริงแล้วคือประมุขของ “มหานิกายมหาจักรพรรดิเทพมังกร” มันผู้นี้มีนามว่า “มังกรดาบ” เป็นผู้ที่อยู่ในอาณาจักรที่สามเทวะนิรันดร์ เป็นเทพนิรันดร์ที่มีพลังในการบ่มเพาะที่ขอบเขต “เซียนอสูรมังกรฟ้า” อย่างแท้จริง หากจะบอกว่าเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกของเทพเซียนหรือไม่ ต้องบอกเลยว่าคนผู้นี้ติด 1 ใน 10 อย่างแน่นอน
".. แต่ดูเหมือนข่าวลือที่เกิดขึ้นไปทั่ว ทั้งโลกแห่งเทพเซียนของเราเมื่อเร็ว ๆ นี้ในทุก ๆ ทวีป จะเป็นความจริงแทบจะทุกอย่าง อย่างไม่น่าเชื่อจริง ๆ ดูจากที่ลือกันว่าจะปรากฏขุนเขาที่เต็มไปด้วยของวิเศษ และปราณวิญญาณอันบริสุทธิ์ที่หนาแน่นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน .."
".. ทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นความจริง รวมไปถึง ร่างจุติของพระเจ้าเพศหญิงเองก็ปรากฏขึ้นมาเช่นกัน ดูเหมือนงานนี้แม้ว่าพวกเราจะมากันเยอะ หรือต่อให้รวมพลังกัน ก็ใช่ว่าจะเอาชนะและชิงทุก ๆ สิ่งอย่าง มาเป็นของพวกเราเองได้ .." อาวุโสท่านหนึ่งผู้มีพลังในการบ่มเพาะ ระดับเซียนปราชญ์เทวะได้กล่าวพูดขึ้นเสียงเย็น
".. แม้พวกเราจะต้องการร่างจุติแห่งพระเจ้า แต่พวกท่านเห็นหรือไม่ ที่ข้างกายของนาง 1 คนรับใช้รูปงามที่เป็นชายหนุ่มอ่อนแอ กับเฒ่าชราที่เป็นเทพสวรรค์ระดับ 6 วงแหวนอันร้ายกาจ แถมไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ จากเจตจํานงสวรรค์ลงทัณฑ์เลยสักนิด .."
".. การที่พวกเราจะชิงตัวนางมาให้ได้ คงไม่ง่ายอย่างที่คิดเป็นแน่ แถมเท่าที่ข้าเห็น เหมือนว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่นี้และการปรากฏขึ้นของขุนเขาเทียบฟ้าไร้นามนั่น สมควรอุบัติขึ้นจากพลังเร้นลับบางอย่าง ราวกับเป็นธรรมชาติของทุก ๆ สรรพสิ่งต้องการให้เป็นอย่างนั้น พวกเราไม่ควรรีบร้อน รอดูท่าทีไปก่อนจึงจะดีที่สุด .." เซียนปราชญ์เทวะอีกท่านหนึ่งได้กล่าวพูดขึ้น เพื่อเตือนสติเหล่าสหายที่คบหากันมานาน
ก่อนที่ทุก ๆ คนจะรู้สึกว่าตนเองที่มาในครั้งนี้ตั้งมากมาย หาได้ปลอดภัยอันใดอย่างที่คิด
และรู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่กับดัก ของแผนการร้ายบางอย่างอยู่เหมือนกัน อย่างอธิบายไม่ถูกพูดออกมาไม่ได้
อีกมุมหนึ่งที่ไกลออกไปทางทิศใต้
กองกำลังระดับสูงเหล่ากลุ่มตระกูลระดับ 8-10 เมฆาจาก “ทวีปพยัคฆ์ทมิฬ” ได้เดินทางมาถึง แน่นอนว่าผู้ที่นำกองกำลังมาแบบเต็มอัตรารบ หาใช่ใครอื่น มันคือ “ตระกูลเย่โบราณ” ที่ได้เปิดโหมดระบบสงครามกับมากเมฆไปแล้วตั้งแต่ก่อนหน้านี้
และด้วยความแค้นที่บุตรชายอันเป็นที่รัก ถูกสังหารแม้แต่ซากยังหาไม่เจอ หนึ่งในอ๋องทั้ง 8 ผู้เป็นบิดาและเป็นขุนพลเอกของมหาจักรพรรดิพยัคฆ์ทมิฬผู้แข็งแกร่งเจ้าแผนการ ถึงกับเก็บกดอารมณ์เอาไว้ไม่ได้ ระเบิดพลังที่บ่มเพาะออกมาและปลดปล่อยจิตสังหารอันบ้าเลือดอย่างป่าเถื่อน จนรับรู้ได้เป็นวงกว้างราวกับฟ้าจะถล่มลงมาอย่างไงอย่างงั้น
โกรธแค้นจนหมายจะพุ่งบินเข้าไปสังหารมากเมฆให้ตาย เสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้อย่างบ้าคลั่ง
แต่ด้วยคำสั่งเด็ดขาดขององค์มหาจักรพรรดิพยัคฆ์ทมิฬที่เป็นผู้นำตระกูลเย่คนปัจจุบัน จึงทำให้บรรดาขุนพลและเหล่าลุงป้าน้าอา ของเจ้าเย่เทียนหลงอ๋องน้อยที่ถูกมากเมฆ จับโยนลงไปยังมหานรกให้ต้องรับกรรมไปจนวิญญาณแตกสลายไปเอง จำจะต้องอดทนอดกลั้นไปก่อนอย่างช่วยไม่ได้ จนหน้าดำหน้าแดงไม่น่ามองเลยสักนิดกันทุกคน
".. พี่ใหญ่ ให้ข้าได้ล้างแค้นให้กับลูกข้าหลงเอ๋อด้วยเถอะ ข้าทนไม่ไหวจริง ๆ มันยิ้มและมองมาทางเราอยู่แบบนั้น เจ้าขยะนั่น มันก็แค่เซียนสวรรค์ตัวน้อย ๆ เท่านั้น ข้าอยากจะจับมันฉีกออกเป็นชิ้น ๆ บดกระดูกและจองจำดวงวิญญาณของมันไปชั่วนิรันดร์ ข้าอยากจะทรมานมันไปเรื่อย ๆ จนอยากจะตายก็ตายไม่ได้ .." บิดาของเย่เทียนหลงหนึ่งในอ๋องทั้ง 8 ผู้ทรงอำนาจของทวีปพยัคฆ์ทมิฬกล่าวพูดขึ้นอย่างโกรธแค้น จนดวงตาทั้งสองแดงก่ำเป็นสีเลือดอันน่าสะพรึงกลัว
".. น้องพี่ ใช่ว่าข้าไม่เข้าใจและไม่โกรธแค้นเหมือน ๆ กับเจ้า แต่เจ้ามองไม่เห็นหรือไง ร่างจุติของพระเจ้าผู้นั้นมีพลังถึงระดับเซียนดาราเก้าสวรรค์ 1 วงแหวน หากเจ้าบุกเข้าไป ไม่เท่ากับเข้าไปหาความตาย อย่างกับหมูกับหมาที่ไร้สมองไร้ความคิดหรืออย่างไร .."
".. แถมใกล้ ๆ กันนั้น เจ้าไม่เห็นชายชราที่เป็นถึงเทพสวรรค์ 6 วงแหวน ที่กำลังคอยคุ้นกันอยู่ใกล้ ๆ เลยหรือ การที่ข้าห้ามเจ้าไว้ ก็คือการห้ามไม่ให้เจ้าไปตายอย่างเปล่าประโยชน์ และเป็นการห้ามไม่ให้เจ้า ไปทำให้เทพสวรรค์ 6 วงแหวนผู้นั้น ต้องพิโรธและมาลงกับตระกูลเย่ของเราในครั้งนี้ไปด้วย สงบใจไว้ก่อนเถอะ รอให้เจ้าขยะข้ารับใช้มากเมฆอะไรนั่น แยกตัวออกมาก่อน เมื่อถึงเวลานั้น ข้าจะช่วยเจ้าเองน้องชาย .." องค์มหาจักรพรรดิพยัคฆ์ทมิฬ ได้กล่าวบอกน้องชายของตนอย่างใจเย็น แต่ภายในแววตาที่มองไปยังมากเมฆกับเต็มไปด้วยจิตสังหารอันรุนแรง
แต่กระนั้นองค์มหาจักรพรรดิพยัคฆ์ทมิฬ ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ กับข่าวสารและข้อมูลที่ได้รับมาเมือเร็ว ๆ นี้
ก่อนที่จะสรุปผลออกมาว่า แท้ที่จริงแล้วก่อนหน้านี้ตั้งแต่หลายอาทิตย์ก่อน ที่ตนเองได้รู้ว่ามีร่างจุติพระเจ้าเพศหญิง ที่มีนามว่า “หยางซินหลิน” เป็นนางรำ เป็นข้ารับใช้ของเจ้ามากเมฆอะไรนั่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ทั้งหมดนั่นมันกลับกันเลยต่างหาก
ข้อมูลที่ได้รับก่อนหน้านี้ล้วนเป็นคำลวงทั้งสิ้น
หากมองจากภาพความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่นี้เต็มสองตา บวกกับเหตุผลที่แม้แต่เด็กก็น่าจะเข้าใจ
เพราะคงไม่มีเทพสวรรค์ชั้นฟ้าที่ไหน ยอมไปเป็นข้ารับใช้ของนักเดินทางข้ามฟากฟ้าเป็นแน่
และด้วยตำแหน่งของคนทั้งสามที่กำลังยืนกันอยู่ในขณะนี้ หญิงสาวออกนำผู้ชายติดตาม เพียงแค่ได้เห็นมันก็มองออกได้ง่าย ๆ เลยว่า ร่างจุติพระเจ้าสมควรเป็นองค์หญิงสูงศักดิ์ของตระกูลหยางโบราณ และมีชายชราเทพสวรรค์ 6 วงแหวนเป็นผู้คุ้มกันอย่างใกล้ชิดต่างหาก และเจ้าสารเลวมากเมฆอะไรนั่น สมควรเป็นเพียงข้ารับใช้ที่ติดตามมาด้วยเท่านั้นเอง หรือก็แค่ตัวประกอบใช้แล้วทิ้งเท่านั้น
พอเป็นอย่างนี้แล้ว
จึงทำให้องค์จักรพรรดิพยัคฆ์ทมิฬสงบใจลงมาได้มาก เพราะหากข้อมูลที่ได้รับมาเป็นความจริง
และตระกูลหยางโบราณอะไรนั่น เป็นกองกำลังผู้ติดตามรับใช้ของเจ้ามากเมฆสารเลว ผู้สังหารหลานรักของตนไปจริง ๆ แล้วล่ะก็ ต่อให้ตระกูลเย่โบราณของมัน จะทำการอัญเชิญเหล่าบรรพบุรุษชั้นฟ้าที่ขึ้นสวรรค์ไปแล้วลงมาช่วยเหลือ ก็ไม่แน่ว่าจะรอดพ้นมหันตภัยในครั้งนี้ไปได้
******
ในเวลาเดียวกันหลาย ๆ กลุ่มตระกูลระดับสูง หลาย ๆ กลุ่มสำนักพรรคและมหานิกายจากทั้ง 9 ทวีปหลัก ซึ่งประกอบไปด้วย <ทวีปพยัคฆ์ทมิฬ> – <ทวีปอัคคีผลาญฟ้า> – <ทวีปอสรพิษทองคำ> – <ทวีปมังกรเทียมฟ้า> – <ทวีปเก้าศาสตราสวรรค์> – <ทวีปอสูรมายา> – <ทวีปค่ายกลนิรันดร์> – <ทวีปอักขระเหนือชะตา> -- <ทวีปฟ้าเหนือฟ้าอมตะ>
ทั้งหมดต่างก็ตรวจสอบและพูดคุยกันอย่างออกรส แลกเปลี่ยนข่าวสารที่ได้รับไปมา และเพียงเวลาไม่นานนัก นามของหญิงงามปานจะล่มบ้านล่มเมือง หญิงสาวที่ยิ้มหวานจนเป็นเหตุให้เกิดดินแดนหมื่นความฝัน ออกมาอย่างไม่รู้ตัวโดยไม่ตั้งใจ จนพรากชีวิตจิตวิญญาณของผู้คนไปแล้วมากมาย ต่างก็รับรู้และได้ยินกันโดยทั่ว
และในขณะนั้นเอง .. เฒ่าชราเทพสวรรค์ 6 วงแหวนก็ได้เริ่มที่จะประกาศให้ทุก ๆ คนรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
รวมไปถึงการประลองเพื่อหาผู้ชนะที่หมายจะครอบครองทุก ๆ สิ่งอย่างมาเป็นของตัวเอง
โดยรายละเอียดนั้นก็เหมือน ๆ กับที่เคยพูดบอก 5 ตระกูลราชวงศ์โบราณของทวีปบัลลังก์เมฆไปแล้วก่อนหน้านี้
แน่นอนว่าทุก ๆ คนเห็นด้วย ไม่เห็นด้วยก็โง่แล้ว
เพราะแม้แต่เจตจํานงสวรรค์หรือระบบหลักของเหล่าผู้เล่น ยังถึงกับยอมมาเป็นกรรมการให้ในครั้งนี้
".. ตามที่ข้าได้พูดบอกออกไป ผู้แพ้จะไม่ตายจริง ๆ แต่กระนั้นภายหลังจากที่ตัดสินแล้ว หากพวกเจ้าผู้พ่ายแพ้ยังไม่ยอมรับ และคิดจะใช้กำลังหรือแผนการร้ายใด ๆ อีก หมายจะยึดครองเมืองแห่งนี้หรือภูเขาเทียบฟ้าไร้นามมาเป็นของของตน หรือของตระกูลส่วนตัวหรือส่วนตนอะไรก็แล้วแต่ พวกเจ้าก็เตรียมตัวรับการลงทัณฑ์จากสวรรค์ที่รู้และเห็นในทุก ๆ สิ่งเองแล้วกัน เมื่อการประลองนั้นได้สิ้นสุดลง .."
".. จำเอาไว้ ตัวแทนตระกูล แต่ละตระกูลได้เพียง 5 คนเท่านั้น เกินกว่านี้ไม่ได้ ไม่เว้นแม้แต่ตระกูลสาขา กลุ่มสำนัก พรรค และมหานิกายเองก็เช่นกัน ดังนั้นการที่จะเข้าร่วมแบบไหนยังไง พวกเจ้าก็คิดและตัดสินใจกันให้ดี ๆ แล้วกัน ผู้ฉลาดครอบครองทุกสิ่ง ตัดสินใจทุกอย่าง .."
".. และสำหรับนักเดินทางข้ามฟากฟ้าทั้งหลาย พวกเจ้าสามารถเข้าร่วมได้ แต่จะต้องเป็นนักเดินทางด้วยกันทั้งหมดเท่านั้น 1 กลุ่มได้ไม่เกิน 5 คน ส่วนสิทธิ์ขาดหรือสิทธิประโยชน์ใด ๆ ที่จะได้รับ เจตจํานงสวรรค์จะแจ้งต่อพวกเจ้าเองเหมือนชนะได้แล้ว หากพวกเจ้าสามารถล่ะก็ .."
".. แค่เพียงพวกเจ้า สามารถชนะในการประลองได้จริง ๆ ของรางวัลที่ได้จากมิติลับโลกวิเศษแห่งการประลองในครั้งนี้ มันก็มากเกินพอที่จะทำให้กลุ่มอำนาจของพวกเจ้า ใช้ไปได้ไม่หมดแล้วนับหมื่น ๆ ปี ทรงพลังอำนาจมากขึ้นในชั่วข้ามคืนแล้ว .."
".. แถมผู้ที่เข้าร่วมยังมีพลังในระดับเท่า ๆ กัน วัดกันด้วยความสามารถที่มีอย่างแท้จริง หรือจะใช้ลูกเล่นแผนสกปรกอะไรก็ได้ภายในโลกวิเศษแห่งการประลอง พวกเจ้าก็ตัดสินใจกันเอาเองแล้วกัน ปํญญาความรู้ดุจอาวุธอันร้ายกาจ หวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจ .." ท่านผู้เฒ่าหยางเจี่ยกล่าวตะโกนพูดบอก ด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยพลังอำนาจของเทพสวรรค์ 6 วงแหวน จนได้ยินกันทั่วทั้งทวีปแห่งนี้เลยทีเดียว
และใน 2 ชั่วยามนี้เองผู้คนมากมายมหาศาล ไม่ว่าจะผู้เล่นหรือกลุ่มตระกูลน้อยใหญ่ต่าง ๆ ต่างก็รีบเร่งเดินทางมาเข้าร่วมและรับชมด้วยเป็นจำนวนมาก
ในขณะเดียวกันก็ปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งในเว็บบอร์ดของสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ที่โลกภายนอกอย่างรวดเร็ว สร้างความสนอกสนใจได้เป็นอย่างมาก เพราะมีอยู่หัวข้อข่าวอันหนึ่ง ที่พูดถึงโอกาสที่สองในการล่าสังหารบุตรชายคนโตของตระกูลเมฆาเทพอีกครั้ง และชิงแขนขวาที่มีโลกใบเล็กมาให้ได้อีกด้วย
แน่นอนว่าข่าวลืออีกเรื่องเกี่ยวกับมิติลับโลกใบเล็ก และเป็นสถานที่อยู่อาศัยของคนตระกูลหยาง
ร่างจุติของพระเจ้าก็โด่งดังขึ้นมาในทันทีเช่นเดียวกัน จนใครต่อใครหมายจะสังหารมากเมฆให้ได้ ภายในโลกวิเศษแห่งการประลองครั้งนี้
เพื่อที่จะได้มีโอกาสในการครอบครองสาวงาม และกองกำลังตระกูลหยางโบราณไปด้วยในเวลาเดียวกัน และแน่นอนว่าปากต่อปากพูดไปเรื่อย มักจะเสริมเติมแต่งไปจนเกินจริง จนในที่สุด ข่าวลือที่ว่าหากสามารถตัดแขนขวามากเมฆมาได้ แล้วจะได้ครอบครองหญิงงามก็หลุดรอดออกยังกลุ่มตระกูล NPC พรรคสำนักและมหานิกายต่าง ๆ อย่างรวดเร็วเช่นกัน จนกลายเป็นข่าวดังไปในทันที จนมีผู้บ่มเพาะระดับสูงหลาย ๆ คน หมายจะสังหารมากเมฆให้ตายก่อนที่จะเริ่มการประลองเสียด้วยซ้ำหากทำได้
ในขณะเดียวกันนั้นเองที่เหล่าผู้ฝึกตนจำนวนมาก กำลังมองมาที่มากเมฆยังกับเสือร้าย ที่กำลังจ้องมองเหยื่อของตัวเองอยู่นั่น
อยู่ ๆ เหนือเมืองกิเลนทองอันยิ่งใหญ่ ก็ปรากฏดวงดาวขนาดย่อส่วนออกมาให้ทุกคนได้เห็น
ก่อนที่จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับดวงดาวที่มีชีวิตจิตใจ ดวงดาวที่เต็มไปด้วยพลังแห่งสวรรค์และโลกบรรพกาลจำนวนมาก และความเร้นลับของมหาพลังของพระเจ้าผู้สร้างที่สัมผัสได้
ก่อนที่อยู่ ๆ รอบดวงดาวแห่งโลกวิเศษจะปรากฏป้ายหยกสีม่วงออกมา
สำหรับใช้เป็นบัตรผ่านของหัวหน้าตัวแทนจำนวนหลายสิบล้านชิ้น ก่อนที่พวกมันจะบินตรงไปยังหัวหน้าตระกูลโบราณและพรรคสำนักมหานิกายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเจ้าสำนัก หัวหน้าพรรค ประมุข เพื่อให้ทุกคนที่คิดจะเข้าร่วม ได้คัดเลือกเหล่าตัวแทนที่มากความสามารถ โดยมีเวลาให้เตรียมการเข้าร่วมได้ราว 2 ชั่วยาม
โดยผู้ที่เข้าร่วมทั้ง 5 คนนั้น เพียงแค่หยดเลือด 3 หยดลงไปบนป้ายหยกม่วงที่ได้รับมา ก็จะเป็นการลงทะเบียนเข้าร่วมการประลองอย่างถูกต้องในทันที
ผู้ที่เข้าร่วมในครั้งนี้ หาใช่เพียงแค่เหล่า NPC ของโลกแห่งเทพเซียนเท่านั้น
แต่กับมีเทพสวรรค์จำนวนไม่น้อยที่แอบหลบซ่อนตัวอยู่ แอบเข้าร่วมอย่างลับ ๆ เพื่อความสนุกอีกด้วย ไม่เว้นแม้แต่เหล่าผู้เล่นจำนวนหลายสิบล้านคน ทั้งที่มาจากโลกเวทมนตร์หรือแม้แต่ดาวเคออสเองก็มีให้เห็นเช่นกัน
เนื่องจากข่าวลือเกี่ยวกับการปรากฏขึ้นในครั้งนี้ ล้วนแล้วแต่ได้ยินกันไปทั่วตั้งแต่แรก แถมยังถูกประกาศให้รู้โดยเหล่าผู้เล่นด้วยกันเอง ยกเว้นเฉพาะทวีปเริ่มต้นบัลลังก์เมฆเท่านั้นที่รับรู้กันได้เป็นส่วนน้อย เฉพาะนิกายและตระกูลระดับสูง ๆ เท่านั้น
งานนี้ .. ทีม 5 คน ผู้เล่นโดยเฉพาะของทีมมากเมฆ จะประกอบไปด้วยใครกันบ้างนะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

4,939 ความคิดเห็น
-
#4486 loliz (จากตอนที่ 314)วันที่ 16 ตุลาคม 2562 / 06:58กลายเป็นคนใช้ไปฉิบเหอๆ ลากแท้#4,4861
-
#4486-1 พู่กันลี้ลับ(จากตอนที่ 314)17 ตุลาคม 2562 / 12:41ในเย็น ช่วงนี้กำลังปูพื้นกับทางเดินอยู่#4486-1
-
-
#4467 zaalah5931 (จากตอนที่ 314)วันที่ 11 ตุลาคม 2562 / 23:05เละทุกทีมชัวร์#4,4671
-
#4467-1 พู่กันลี้ลับ(จากตอนที่ 314)12 ตุลาคม 2562 / 15:00อาจจะไม่ก็ได้นะ#4467-1
-
-
#4466 RazeLosT (จากตอนที่ 314)วันที่ 11 ตุลาคม 2562 / 15:47มากเมฆผู้น่าสงสาร...ไม่มีบทเลย 5555#4,4661
-
#4466-1 พู่กันลี้ลับ(จากตอนที่ 314)12 ตุลาคม 2562 / 15:00ช่วงนี้บทเด่นไม่ได้ ซินหลินต้องเด่นที่สุด#4466-1
-
-
#4465 joelamtan (จากตอนที่ 314)วันที่ 11 ตุลาคม 2562 / 15:34ขอบคุณครับ#4,4651
-
#4465-1 พู่กันลี้ลับ(จากตอนที่ 314)12 ตุลาคม 2562 / 15:00ขอบคุณเช่นกันครับ#4465-1
-