ตอนที่ 309 : บทที่ 309 ภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม
บทที่ 309 ภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม
กฎที่ว่าผู้ที่จะเข้าไปยัง < ภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม > แห่งนี้ได้
จะมีกฎที่แตกต่างกันไปตามแต่ล่ะบุคคล ถูกกำหนดขึ้นมาโดยวิญญาณเทียบฟ้าที่อยู่ภายในขุนเขาแห่งนี้ เช่น
1. หากเป็นชาวพื้นเมืองกิเลนทองโดยกำเนิด จะสามารถเข้าไปได้เดือนล่ะ 1 ครั้ง แบบจำกัดเวลา 6 ชั่วยาม
2. หากเป็นผู้มาเยือนจากต่างแดน จะสามารถเข้าได้เฉพาะวันเกิดของตัวเองเท่านั้น 1 ครั้งต่อ 1 ปี 12 ชั่วยาม
3. กฎในการเก็บสมุนไพรและของวิเศษต้องทำตาม พบสมุนไพร 3 ต้น เก็บได้เพียง 1 ต้น พบ 5 ต้นเก็บได้ 2 ต้น
4. หากไม่ทำตามและละเมิดกฎที่ตั้งไว้โดยตั้งใจ จะถูกบังคับให้ออกจากมิติดินแดนลับ ของภูเขาเทียบฟ้าไร้นามในทันที และกลับเข้าไปอีกไม่ได้ตลอด 10 ปีหลังจากนี้ พร้อมกับถูกประนามให้รู้กันทั่วทั้งเมืองในเวลาต่อมา
5. ผู้ที่เข้าไปยังภูเขาเทียบฟ้าไร้นามแห่งนี้ จะถูกจำกัดพลังสูงสุดที่บ่มเพาะ ลดเหลือเพียงแค่ขอบเขตอาณาจักรที่สองโลกบำเพ็ญ <ปฐพีบำเพ็ญ ขั้นที่ 10 > เท่านั้น ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมีพลังสูงส่งมาจากไหนก็ตาม ไม่เว้นแม้แต่ทวยเทพบนสวรรค์
6. จำนวนที่สามารถเก็บสมุนไพรและของวิเศษล้ำค่าต่าง ๆ หนึ่งคนได้ไม่เกิน 10 อย่างเท่านั้น มากกว่านั้นจะถูกเรียกคืนและบังคับให้ออกไป พร้อมกับรับโทษห้ามเข้าไปยังภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม 10 ปี รวมไปถึงถูกประจานให้รู้กันทั่วในความโลภที่มีอีกด้วย
7. หากชวนเมืองกิเลนทอง เข้ามาเก็บสมุนไพรและของวิเศษพร้อมกันทั้งครอบครัว พ่อแม่และลูก จะได้รับเวลาเพิ่มขึ้นเป็น 12 ชั่วยามและโอกาสพิเศษ ในการค้นพบของวิเศษจากสวรรค์มากขึ้น 5 เท่าตัว และสิทธิ์ในการเข้าร่วมและทดสอบเข้ามหานิกายลับแห่งนึงหากโชคดี
8. ทุกคนที่เข้าไปยังภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม ไม่ว่าจะมาคนเดียวหรือหมู่คณะ ต่างก็จะถูกสุ่มไปยังตำแหน่งต่าง ๆ ในครั้งแรกที่เริ่มต้น ทุกคนจะไม่สามารถระบุตำแหน่งของตัวเองได้ ขึ้นอยู่กับโชคล้วน ๆ นับจากนี้
9. หากถูกสัตว์อสูรวิเศษในส่วนลึกของภูเขาเทียบฟ้าไร้นามสังหาร คนผู้นั้นจะมิได้ตายจริง ๆ แต่จะถูกห้ามไม่ให้เข้ามายังภูเขาเทียบฟ้า อีกเลยตลอดชีวิตที่เหลือ
10. ภายในอาณาเขตมิติดินแดนลับแห่งนี้ มีทางลับไปยังโลกสุริยาโบราณพงพนาซ่อนอยู่ หากผู้มีวาสนาค้นพบ จะได้รับสิทธิ์ให้เข้าร่วมการทดสอบจิตใจและพรสวรรค์ หากสำเร็จจะได้เป็นศิษย์ของมหานิกายลับแห่งหนึ่ง และได้สิทธิ์ในการเข้าออกโลกทั้งสองใบไร้จำกัด
11. ผู้เข้าไปยังภูเขาเทียบฟ้าหลังจากเข้าไปแล้ว จะไม่สามารถติดต่อกับโลกภายนอกได้ และจำจะต้องรอเวลาจนกว่าจะหมดเสียก่อน ถึงจะกลับออกมาได้ ยกเว้นก็แต่ค้นพบป้ายหยก สำหรับกลับเมืองกิเลนทองเท่านั้น ถึงจะใช้สิ่งนั้นกลับมายังพื้นที่ส่วนกลางของเมืองได้ในทันที
12. ภูเขาเทียบฟ้าไร้นามเป็นสถานที่ที่อันตรายอย่างมาก ยิ่งเข้าไปลึกก็ยิ่งเต็มไปด้วยอันตรายเกินกว่าจะคิดฝัน แต่ก็เต็มไปด้วยโชคและวาสนาอย่างที่สุดเช่นกัน ดังนั้นจึงอนุญาตให้สามารถต่อสู้กันได้ รวมไปถึงการล่าสัตว์อสูรวิเศษต่าง ๆ แต่ทว่าหากสัตว์อสูรนั้น ๆ ถึงจำนวนจำกัด สูงสุดที่อนุญาตให้ล่าได้แล้วของเดือนนั้น ๆ ผู้ที่เข้าร่วมเกิดไปโจมตีหรือทำร้าย โดยไม่ฟังคำเตือนจากวิญญาณเทียบฟ้าที่แจ้งบอก จะถูกบังคับให้ออกจาภูเขาเทียบฟ้าในทันทีเช่นกัน แต่ทว่าในกรณีที่ฝ่ายสัตว์อสูรโจมตีก่อน ผู้เข้าร่วมจะไม่ถูกบังคับให้ออก แต่จะต้องหนีให้ได้ และห้ามฆ่าสัตว์อสูรที่ว่าทุกกรณี ไม่อย่างงั้นจะถูกห้ามเข้าเป็นเวลา 10 ปี
ประชาชนของเมืองกิเลนทองนับสิบล้านคน รวมไปถึงเหล่าผู้เล่นที่อยู่ใกล้ ๆ เหมือนจะได้ยินเสียงในหัว และเข้าใจได้เองในทันทีของแต่ละคน ถึงกฎและกติกาต่าง ๆ ที่ระบุไว้สำหรับภูเขาสูงเทียบฟ้าไร้นามแห่งนี้ เพียงแต่มองดูจากที่ไกล ๆ เท่านั้น
แต่กระนั้นเอาแค่ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการที่อยู่ใกล้ ๆ ภูเขาเทียบฟ้าแห่งนี้
มันก็มากมายมหาศาลแล้วจริง ๆ กับพลังปราณวิญญาณที่หนาแน่นอย่างมาก ราวกับดินแดนสวรรค์ และการแปรเปลี่ยนของสภาพอากาศโดยรอบ รวมไปถึงต้นไม้และสมุนไพรนานาชนิดโดยรอบของภูเขา หรือแม้แต่พืชไร่ที่ปลุกโดยชาวบ้านรอบ ๆ ตัวเมือง ถึงขนาดที่ทำให้เมืองกิเลนทองกลายเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วอย่างที่เห็น ผลผลิตทางการเกษตรกลายเป็นของวิเศษระดับสูงไปเกือบทั้งหมด จากผลกระทบที่ได้รับไปในทางที่ดีราวกับฝัน
เพราะหลังจากนี้ไปสำหรับชาวเมืองทุกผู้ทุกคน แม้ว่าคนปกติธรรมดาทั่วไป จะมิได้ฝึกตนบ่มเพาะวิชาเทพอันใดก็ตาม ก็ยังจะมีอายุยืนยาวนับร้อย ๆ ปีได้อย่างสบาย พร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรงเต็ม 100 ตลอดเวลา ตราบใดที่อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้ ที่เต็มไปด้วยพลังปราณวิญญาณอันบริสุทธิ์ จากภูเขาเทียบฟ้าไร้นามอยู่ตลอดเวลา
ครืนนนน !!
ครืนนนนนนน !!!
ทันใดนั้นเองสัตว์อสูรจำนวนมากที่เคยอยู่รอบ ๆ บริเวณใกล้เคียงของเมืองกิเลนทอง ต่างก็เริ่มที่จะอพยพมาอยู่อาศัยบริเวณรอบ ๆ ภูเขาสูงเทียบฟ้าไร้นามเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนั้นกับเกิดพลังแห่งปาฏิหาริย์จากสวรรค์ก็ว่าได้
ทำให้บริเวณรอบ ๆ ภูเขาเทียบฟ้าอันรกร้างว่างเปล่า จากแรงระเบิดในครั้งก่อนเมื่อนานมาแล้วจากกระบี่ 1 เล่มของคนผู้หนึ่ง อยู่ ๆ ก็กลายเป็นป่าไม้และทะเลสาบที่อุดมสมบูรณ์เป็นที่สุด แต่ทว่ากับมีเส้นทางหินอ่อนสีขาวราวกับหิมะบริสุทธิ์ ปรากฏขึ้นมาเช่นเดียวกันให้เห็น
กลายเป็นเส้นทางทอดยาวตั้งแต่หน้าประตูเมืองกิเลนทอง ยาวขึ้นไปถึงภูเขาเทียบฟ้าไร้นาม ตัดผ่านกลางป่าไม้และทะเลสาบที่อดุมสมบูรณ์ไป พร้อมกับมีเสาหินสีขาวโคมไฟมังกร คอยให้แสงสว่างตลอดเวลา จนกลายเป็นเส้นทางเดินอันปลอดภัย สำหรับทุกผู้ทุกคนที่ต้องการจะเข้าไปยังภูเขาเทียบฟ้าแห่งนี้ ไม่ต้องหวาดกลัวว่าจะถูกสัตว์อสูรที่อพยพมาใหม่เหล่านั้น จะทำร้ายอีกต่อไปแม้ว่าจะเป็นคนธรรมดาที่ไม่มีทักษะวิชาวรยุทธ์เลยก็ตาม
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ทำให้เจ้าเมืองกิเลนทองดาบแดนเดือด ถึงกับยืนมองตาค้างกับภาพที่เห็นกับสภาพแววล้อมที่แปรเปลี่ยนไป รวมไปถึงองค์จักรพรรดิบัลลังก์เมฆที่ยังไม่ได้กลับไปเมืองหลวง และเหล่าขันทีกับองค์หญิง ที่ต่างก็กำลังตกใจและมองภูเขาสูงเทียบฟ้าอย่างตกตะลึง
".. 1 เดือนที่ใครก็ไม่สามารถ เข้าไปยังบริเวณภูเขาสมุนไพรที่ถูกทำลายได้ ในเวลานี้กลับกลายเป็นภูเขาสูงเทียบฟ้าไร้นามที่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ ที่สูงขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นฟ้าและเต็มไปด้วยหมู่เมฆมงคลจากสวรรค์ คุณชายมากเมฆสมควรเป็นเทพนิรันดร์ที่อยู่เหนือกว่าเหล่าเทพโดยทั่วไปเป็นแน่ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ สมควรให้เมืองหลวงของอาณาจักร ย้ายมายังเมืองกิเลนทองจึงจะเป็นการสมควร ไม่อย่างงั้นแล้ว ความวุ่นวาย ความโลภและความไม่สงบจะต้องเกิดขึ้นจากภูเขาและบริเวณโดยรอบ จะต้องมีนิกายและตระกูลเห็นแก่ได้มากมาย ย้ายมายังเมืองกิเลนทองเป็นแน่ และแม้แต่เจ้าสหายข้า เจ้าเองก็ไม่น่าที่จะรับมือได้ไหว หากไม่ใช้พลังของราชวงศ์ในครั้งนี้เข้ามาดูแล .."
".. ดาบแดนเดือด เจ้าเมืองกิเลนทองรับคำสั่ง จากนี้ไปให้ประกาศออกไปให้รู้กันทั่วทั้งทวีป นับจากนี้เมืองกิเลนทองจะเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรบัลลังก์เมฆสืบไป ส่วนเจ้า “ดาบแดนเดือด” จากตระกูล “กิเลนโบราณ” สหายรักของข้า นับจากนี้เจ้าจะต้องดำรงตำแหน่งแม่ทัพหลวงประจำพระนคร ร่วมกับตำแหน่งเจ้าเมืองสืบไปและสืบทอดไปยังลูกหลาน และในทุกพื้นที่รอบ ๆ ตัวเมืองจะถูกเรียกคืนมาเป็นของราชสำนักทั้งหมด หากพื้นที่ใดที่เป็นของชาวเมืองอยู่ก่อนแล้ว จะต้องได้ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องโดยเร็ว และทำการตรวจย้อนหลังถึง 18 ชั่วโคตร หากพบว่ามีการทุจริตจับขังทันที และห้ามมีการซื้อขายที่ดินใด ๆ โดยเด็ดขาดจากเรา .."
".. ลูกพ่อ เหล่ากงกงและขุนนางคนสนิทของข้า พวกเจ้ากลับไปยังอดีตเมืองหลวงและใช้ตราประทับพระราชลัญจกรบัลลังก์เมฆ เปิดใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของเมืองหลวงมายังเมืองกิเลนทอง และใช้หยดเลือดของเจ้าเป็นพลังงาน ในการย้ายพระราชวังบัลลังก์เมฆมายังเมืองกิเลนทองแห่งนี้ในทันที พร้อมกับแจ้งไปยังเหล่าขุนนางที่ภักดี และตระกูลต่าง ๆ ที่ขึ้นตรงต่อเรา ให้ย้ายมายังเมืองกิเลนทองทั้งหมดโดยเร็ว ไปได้ .." เมฆทองคำจักรพรรดิองค์ปัจจุบันกล่าวออกคำสั่งด้วยอำนาจและบารมีมังกรที่มี
แน่นอนว่าอาจจะดูเห็นแก่ตัวอยู่บ้าง แต่หากไม่ควบคุมและเข้ามาจัดการด้วยตัวเองอย่างเต็มกำลัง ก็บอกได้เลยว่าเมืองกิเลนทองจะต้องถูกนานาสำนัก และนิกายหรือไม่ก็ตระกูลโบราณจำนวนมาก พยายามเข้ามาจับคนเป็นทาสหรือไม่ก็เข้ายืดครองเป็นแน่ ดังนั้นการตัดสินใจขององค์จักรพรรดิจึงถือว่าเห็นสมควรแล้ว
คนทั้งหมดภายในห้องประชุม น้อมรับคำสั่งด้วยกันทุกคนอย่างพร้อมเพรียงกัน
".. รับด้วยเกล้า พะยะค่ะ .." หลังกล่าวจบคนทั้งหมดก็ออกจากห้องไปทำหน้าที่ของตนในทันที
ในขณะเดียวกันนั้นเอง .. รอบ ๆ เมืองกิเลนทอง
เหล่าชาวบ้านชาวเมืองที่กำลังตื่นเต้นดีใจ และมีความสุขมาก ๆ กับสิ่งแปลกใหม่ที่ปรากฏขึ้น
ต่างก็พูดคุยสนทนากันอย่างออกรส ราวกับมีงานเลี้ยงและความดีใจที่อยู่ ๆ ก็ได้กลายเป็นคนเมืองหลวง
แต่ทันใดนั้นเองกับมีกลุ่มคนจากนิกายและสำนักที่ไม่ทราบชื่อ ได้ปรากฏตัวขึ้นจำนวนหลายพันคน ได้เข้ามาปิดล้อมประตูเมืองและเส้นทางสำหรับขึ้นภูเขาเทียบฟ้าเอาไว้ ภายหลังจากที่ท่านเจ้าเมืองกิเลนทอง เพิ่งจะประกาศการย้ายเมืองหลวง และกิจการภายในของราชวงศ์จะเข้ามาควบคุมอาณาเขตรอบ ๆ เมืองกิเลนทองแห่งนี้ได้ไม่ถึง 30 นาที
เหล่าผู้ฝึกตนมากฝีมือจำนวนหลายพันที่เร่งเดินทางมา
รวมไปถึงผู้คนบางส่วนที่มาร่วมชม ความสนุกและความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน
ต่างก็ปรากฏกายให้เห็น แถมยังมีบางกลุ่มที่ไม่เห็นกฎหมายของบ้านเมืองอยู่ในสายตา พยายามจับผู้คนของเมืองกิเลนทองให้กลายเป็นทาส เพื่อให้เข้าไปยังภูเขาเทียบฟ้าเพื่อหาสมบัติและสมุนไพรวิเศษออกมาให้ จึงทำให้เกิดการปะทะกันขึ้น ระหว่างทหารกล้าของเมืองและเหล่าผู้ฝึกตนที่เอาแต่ได้
".. ยังไม่ทันไร ข้ากระบี่โชคหิมะ ก็จับทาสกิเลนทองได้ถึง 2,580 คน สบายล่ะทีนี้ ฮ่าฮ่า เสียดายก็แต่พวกมันกับแสนรู้หนีหายเข้าไปในเมืองกันหมด ทำให้ข้าพลาดโอกาสดี ๆ เสียได้ .."
".. อะไรกัน ๆ ข้าเพิ่งมาถึงพร้อม ๆ กับท่านแท้ ๆ แต่ก็จับทาสกิเลนทองได้กว่า 31,500 คน เอาไว้ในกรงมิติทองคำอันนี้ พี่ท่านเอาแต่เล่นสินะ ของวิเศษที่มีก็ไม่ใช้ ถึงได้จับทาสแรงงานมาน้อยยิ่งนัก น่าเสียดายแทนจริง ๆ .."
".. สหายข้าบังคับให้ชาวเมือง ขายที่ดินรอบ ๆ ให้ข้าได้ตั้ง 3000 กว่าไร่แล้ว ต่อไปตระกูลของข้า จะมาตั้งรกรากที่นี่นับจากนี้ไป วันข้างหน้าตระกูล “หมูสวรรค์” ของข้า จะต้องยิ่งใหญ่เป็นแน่ ปราณวิญญาณของที่นี่ช่างบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ฮ่าฮ่า โชคครั้งนี้สวรรค์ประทานชัด ๆ เลย .."
".. 3000 กว่าไร่ทำมาคุย ข้าได้บังคับซื้อแถมจับคนขายมาเป็นทาส ได้มากกว่า 5000 ไร่เข้าไปแล้ว แถมในที่ดินของข้า ยังได้มีการทำการเกษตรเอาไว้อีกด้วย ข้าไปดูมาแล้ว เม็ดข้าวในนาจำนวนมาก ได้กลายเป็นพืชจิตวิญญาณวิเศษระดับสูงทั้งหมด ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าคิดดูสิ ผลกำไรในครั้งนี้ช่างมากมายนัก .."
".. มันก็จริง แต่พวกเราจะเอายังไงในเวลานี้กันดี ทางราชวงศ์บัลลังก์เมฆได้ประกาศออกมาแล้ว แถมยังย้ายเมืองหลวงมาที่นี่อีก แถมเจ้าเมืองบ้านั่นยังส่งกำลังทหารฝีมือดี ออกมาต่อสู้กับคนของพวกเรา ทำให้ชาวเมืองกิเลนทองได้มีเวลาหนีเข้าไปในเมืองกันหมด ทำให้พวกเราไม่อาจจะจับทาสมาเพิ่มได้อีก .."
".. มันจะไปยากอะไร เจ้าคิดว่ามีแค่พวกเราหรือไงที่คิดว่าจะจับปลาในน้ำขุ่นครั้งนี้ อีกเดี๋ยวเหล่านิกายระดับสูง ตระกูลโบราณที่มากด้วยอำนาจ จะต้องมาถึงแน่ ๆ จากนั้น เจ้าว่าโอกาสใด ๆ ก็เป็นไปได้ พวกเราที่ได้ผลกำไรแล้ว มิสู้แกล้งทำเป็นผู้มาชมดูไปก่อน รอเวลาที่เหมาะสมหรืออย่างไร .."
".. ความคิดเจ้าไม่เลวเลยสหาย .. เอาตามนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า สั่งให้คนของพวกเราทั้งหมดกลับมา .. ข้าสัมผัสได้ว่าทางเหนือของเมืองได้มีกลุ่มก้อนพลังระดับสูงกำลังบินมาด้วยความเร็วสูงแล้ว .."
เหล่าผู้ฉวยโอกาสหมาจิ้งจอกในร่างของมนุษย์ กลุ่มคนที่เอาแต่ได้และไร้ซึ่งความเป็นคน พอได้ผลประโยชน์ก็ถอยหนี สร้างปัญหาให้กับทหารหาญและเหล่าขุนนางในเมืองเป็นอย่างยิ่ง .. เพราะจากการที่ตรวจสอบประชาชนโดยละเอียดอยู่หลายครั้ง ทำให้ทราบแน่ชัดแล้วว่า มีประชาชนของเมืองกิเลนทองซึ่งเป็นแค่คนธรรมดา ถูกจับตัวไปมากกว่า 3 ล้านคนในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง
ความโลภของมนุษย์นั้นมันน่ากลัวจริง ๆ ...
กว่ากองกำลังหลักจากอดีตเมืองหลวงจะมาถึง ก็ยังต้องใช้เวลาถึง 2 ชั่วยามเป็นอย่างน้อย และก็เช่นเดียวกันกว่าพระราชวังบัลลังก์เมฆ จะลอยมาถึงเมืองกิเลนทองแห่งนี้ได้ ก็ยังต้องใช้เวลาอีกนานนับได้ไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วยามเป็นอย่างน้อย แล้วหากเกิดตระกูลโบราณทรงอำนาจที่เป็นอริกับราชวงศ์ และเหล่านิกายสำนักในระดับสูง เกิดลงมือแตกหักจริง ๆ ขึ้นมากับทางราชสำนัก ขั้วอำนาจหลักของทวีปบัลลังก์เมฆจะแปรเปลี่ยนไปในทันที
ดูเหมือนไม่ว่ามากเมฆจะทำอะไร .. ก็มักจะเป็นหายนะได้กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอยู่เสมอ ..
ในขณะเดียวกันนั้นเอง
ชาวเมืองกิเลนทองได้มองขึ้นไปบนท้องฟ้า ต่างก็พบเข้ากับ !?
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

4,939 ความคิดเห็น
-
#4588 หมีธนู (จากตอนที่ 309)วันที่ 18 พฤศจิกายน 2562 / 07:27มากเมฆทำอะไรดูผลที่ตามมาด้วยยยย#4,5880
-
#4435 นักอ่านสายขาว (จากตอนที่ 309)วันที่ 5 ตุลาคม 2562 / 00:53พับกบ เฮ้ย พบกับ#4,4350
-
#4434 pnipni1999 (จากตอนที่ 309)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 22:05พ่อเขามาแล้วแกยังจะอยากจับเขาอีกมั้ยละพวกมือหนืด#4,4340
-
#4433 zaalah5931 (จากตอนที่ 309)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 21:05ความค้างมากมาย#4,4330
-
#4432 loliz (จากตอนที่ 309)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 16:39ีอแป้บ เดี๋ยวเจ้าเมฆจัดให้พวก หยั่วงี้ต้องตอนให้เกลี้ยงไม่ก็สร้างสัตว์อสูรระดับเทพมาไล่แด๊กให้หมด#4,4320
-
#4431 Morden Jr (จากตอนที่ 309)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 13:49กับ!!??#4,4310
-
#4430 RazeLosT (จากตอนที่ 309)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 13:22โลภมากกันแบบนี้เดี๋ยวก็โดนเทพบุตรซาตานลงทัณฑ์#4,4300
-
#4429 joelamtan (จากตอนที่ 309)วันที่ 4 ตุลาคม 2562 / 11:09ขอบคุงงับ ค้างง#4,4291
-
#4429-1 Mr01539(จากตอนที่ 309)4 ตุลาคม 2562 / 11:57เอาไม้มาสอยสิครับ#4429-1
-