ตอนที่ 256 : บทที่ 256 พระเจ้าหายนะจุติ ตอน ล้างบางสวรรค์ 3
บทที่ 256 พระเจ้าหายนะจุติ ตอน ล้างบางสวรรค์ 3
เทพเจ้าสังหารเทพเจ้าด้วยกันได้ เป็นการตกตายอย่างแท้จริง แตกดับสูญสิ้นชั่วนิรันดร์ไม่หวนคืน
มนุษย์ธรรมดาสังหารเทพเจ้าไม่ได้ ทวยเทพสังหารฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ ไร้ความผิด !?
มนุษย์ผู้ถูกเลือก ผู้มีนามแห่งเทพที่คู่ควร จะสามารถสังหารเทพเจ้าชั่วร้ายได้ทุกเผ่าพันธุ์ที่มีมาแต่โบราณ ไม่ว่าจะเทพอสูร เทพปีศาจ เทพมาร เทพมังกร เทพเจ้าอื่นใดก็ตามในจักรวาลสามพิภพ ของแต่ละความเชื่อของศาสนานั้น ๆ ของดวงดาวต่าง ๆ มากมายในจักรวาลสุดไพศาล ด้วยมหาศาสตราเทพในตำนาน ที่มากด้วยพลังแห่งมหาเทพ นอกเขตแดนสวรรค์ชั้นฟ้าได้ ไร้ความผิด
มนุษย์ผู้ถูกเลือกสังหารเทพเจ้าได้ !
แต่เทพเจ้ามิได้ตกตายอย่างแท้จริง ทวยเทพมีดวงจิตเป็นอมตะทำลายไม่ได้
จนกว่าจะถึงวันเวลาแห่งการแตกดับที่ดำรงอยู่คู่กันของแต่ละองค์ อมตะได้ แต่ไม่นิรันดร์ ..
มิติสวรรค์ชั้นฟ้าใด ๆ มนุษย์ไม่อาจจะสังหารเทพเจ้าได้
ยกเว้นแต่คนผู้นั้น ...
มากเมฆนั้นขาดเงื่อนไขหลักๆ ในการสังหารเหล่าทวยเทพแบบตรง ๆ อยู่อีกมาก
เขาอาจจะทำได้เพียงแค่ทำให้อีกฝ่าย เจ็บไข้ได้ป่วยทุกข์ทนทรมานเหมือนจะตกตายทั้งเป็นได้ คล้ายกับทำให้เหล่าทวยเทพดูเหมือนถูกพิษร้ายแรงที่รักษาได้ยาก เจ็บปวดทรมานจากพลังและทักษะการต่อสู้ของเขา และจะต้องใช้วันเวลา ในการเยียวยาอีกนานหลายเดือนกว่าจะหายดี
แต่เดิมมากเมฆก็ไม่คิดจะสังหารเทพเจ้า หรือมหาเทพที่ไหนอยู่แล้ว
เพราะยังไงทั่วทั้งหมดในสวรรค์ชั้นฟ้าของทุก ๆ ชั้นเหล่านี้ ที่ราวกับจักรวาลขนาดใหญ่ที่ถูกนำมาเรียงกันเป็นชั้น ๆ ไร้ขอบเขต ต่างก็เป็นหนึ่งในผลงานการสร้างสรรค์และรังสรรค์ให้เกิดขึ้น
จากภรรยาที่รักทั้งสามของเขาเอง การไปทำอะไรที่รุนแรง หรือทำลายให้หายไปกับผลงานของเหล่าภรรยาของตนเอง อาจจะกลายเป็นปัญหากันได้ในภายหลัง ต่อระบบส่วนรวมความเป็นไปของจักรวาลสามพิภพแห่งนี้ก็เป็นได้
มากเมฆก้าวเดินออกไปตามทางเดิน ภายในเมืองอย่างไม่เกรงกลัวต่อสายตาที่มองมา พร้อมกับแปรเปลี่ยนกรงขัง อันเลวร้ายของเหล่าภูตินางฟ้านิรันดร์ ให้กลายเป็นวิมานฝันชั้นฟ้าเล็ก ๆ แห่งหนึ่งโดยสมบูรณ์
กลายเป็นโลกใบเล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาตามความเข้าใจเดิมของเขา
จากความทรงจำเดิม ๆ ที่เหลืออยู่และค่อยๆ ตื่นขึ้นตามลำดับ ก่อนที่จะให้เหล่าภูตินางฟ้านิรันดร์ตนอื่น ๆ ทั้งหมดเข้าไปอยู่อาศัยได้ ภายในกรงที่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นเพชรสีฟ้าทรงกลมขนาดใหญ่พอๆ กับฟุตบอล ซึ่งมันเป็นอะไรที่งดงามและล้ำค่าอย่างมาก
การเปลี่ยนสิ่งๆ หนึ่งให้กลายเป็นสิ่งอื่นที่ไม่สนใจกฎใด ๆ ของการเล่นแร่แปรธาตุอย่างที่ควรจะมี เล่นทำเอาเหล่าทวยเทพในเหตุการณ์ ต่างก็หวาดกลัวขึ้นหนักกว่าเดิม เพราะพลังที่เห็นอยู่นี้ มันเป็นพลังของพระเจ้าผู้สร้างชัดๆ มนุษย์คนหนึ่งจะไปมีพลังแบบนั้นได้ยังไง บ้าไปแล้ว..
ตลอดทางเดินอดีตมหาเทพชราไอร์ดอส ได้เดินตามมากเมฆไปติดๆ คอยพูดคุยและป้องกันอันตราย จากการโจมตีระยะไกลของเหล่าเทพเจ้าอย่างลับๆ ให้กับเขาอย่างเต็มกำลัง
ต้องบอกเลยว่าแม้จะแก่ชรามากแล้ว แต่อดีตมหาเทพไอร์ดอสก็ยังคงเก่งกาจ และมีประสบการณ์มากมาย ในการรับมือกับพวกลูกเล่นสกปรก ของเหล่าทวยเทพองค์อื่น ๆ อยู่มากเลยทีเดียว
มหาเทพสูงสุดทั้ง 4 ของแต่ละสวรรค์ชั้นฟ้า รวมไปถึงเหล่าเทพเจ้าและนางฟ้าผู้โลภมาก ที่พยายามจะปิดล้อมกดดัน และทำตัวสูงส่งเหนือกว่ามาโดยตลอด ต่างก็เริ่มเกรงกลัวและไม่เข้าใจในพลังอันเร้นลับ ของสุดยอดตัวประหลาดชายหนุ่มรูปงามคนนี้เลยจริง ๆ รวมไปถึงจุดมุ่งหมายหลัก ของการเข้ามาปกป้องเหล่าภูตนางฟ้านิรันดร์ของอดีตมหาเทพชราผู้ใกล้แตกดับแล้วแม้แต่น้อย
ทำไมท่านอดีตมหาเทพ ถึงได้มาทรยศเหล่าทวยเทพด้วยกันในเวลาแบบนี้ได้
ทั้งที่ตอนแรกก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร ..
โดยเฉพาะสุดยอดตัวประหลาดผู้ไม่รู้ว่ามาจากไหน ผู้ที่มีกลิ่นอายของสรรพสิ่งชีวิตและพลังอันไม่ธรรมดาต่าง ๆ อยู่เต็มไปหมดทั่วทั้งร่างกาย รวมไปถึงพลังแปลกๆ จากจิตวิญญาณที่เหล่าเทพเจ้าสัมผัสได้และมันก็คุ้นๆ ยังไงชอบกลอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นเหล่าทวยเทพทั้งหลาย จึงไม่กล้าที่จะเปิดฉากโจมตีอย่างจริงจังเปิดเผย ได้แต่ทดสอบและลองลอบโจมตีหาจุดอ่อนของอีกฝ่าย จากระยะไกลแบบลับๆ เท่านั้น และอีกหนึ่งเหตุผลที่รู้กันดีโดยเฉพาะเหล่าเทพเจ้าระดับสูง
เพราะจนถึงทุกวันนี้ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาแล้วหลายสิบวัน แล้วแท้ๆ
แต่มหาเทพของสวรรค์ชั้นฟ้าที่ 14 ผู้แข็งแกร่งจนไร้พ่ายผู้นั้น
ท่านมหาเทพโอไทอัสผู้ยิ่งใหญ่ ก็ยังไม่หายดีจากอาการบาดเจ็บสาหัส ที่มีอยู่เลยแม้แต่น้อย
ไม่ว่าจะใช้ของวิเศษล้ำค่าปานใดไปมากมายแค่ไหนแล้วก็ตาม ในการรักษาทั้งหมดก่อนหน้านี้
ท่านมหาเทพก็จำต้องทนทุกข์ทรมาน จากพลังประหลาดอยู่อย่างงั้นและช่วยอะไรไม่ได้เลย
เผชิญหายนะกับเมฆหมอกสีดำทมิฬรอบ ๆ ตัวอยู่ตลอดเวลาอย่างช่วยไม่ได้ และดูเหมือนว่ายิ่งเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งทรงพลังมากเท่าไร ก็ยิ่งต้องเผชิญกับความทุกข์ยากหายนะสารพัดอย่างสาสม กับพลังเมฆหมอกสีดำทมิฬ อันน่ากลัวนั่นมากขึ้นเป็นเท่าทวี แม้จะไม่ถึงตายในทันที แต่ก็ทำให้เหมือนตกตายทั้งเป็นได้อย่างแท้จริง
และนี่เป็นข่าววงในที่รู้กันดีโดยเฉพาะเหล่าเทพเจ้าระดับสูง .. ที่ต้องเดินทางมายังสวรรค์ชั้นฟ้าที่ 16 นี้
แต่ทว่าเหล่าทวยเทพทั้งหลาย ถึงแม้จะหวาดกลัวเพรยงใด และไม่เข้าใจในพลังอำนาจหายนะของเมฆหมอกสีดำทมิฬพวกนั้น ของอีกฝ่ายที่มักจะหลุดรอยออกมาอยู่เรื่อย ๆ อย่างไม่ตั้งใจ จนถึงขนาดต้องมีการส่งส่วยและขอร้องให้อีกฝ่าย อย่าได้ออกจากเกาะลอยฟ้ามาอีกเลยนับจากนั้น
แต่ด้วยความโลภมาก โลภอย่างที่สุดต่อพลังและอำนาจที่ต้องการ
จนอยู่เหนือเหตุและผลของจิตใจดีงาม อย่างทีควรจะมีไปแล้ว
รวมไปถึงตัวตนทรงอำนาจที่ดำรงอยู่เบื่องหลัง ที่คอยสั่งการความเป็นไปในสวรรค์ชั้นฟ้า แต่ละชั้นอย่างลับๆ มาตลอด ที่ต้องการเลือดบริสุทธิ์และส่วนต่าง ๆ ของเหล่าภูตินางฟ้านิรันดร์จำนวนมาก ทั้งให้ทำลายและต้องการเก็บไว้เอง ได้ทำให้กลุ่มเทพเจ้าชั้นต่ำและสูงบางจำพวก ที่อดทนต่อไปอีกไม่ไหวต่อความโลภและกิเลสในใจของพวกมันเอง
เริ่มทำการเปิดฉากโจมตี เข้าใส่มากเมฆและอดีตมหาเทพอย่างรุนแรง
ตูมมมม !!!! เมืองทั้งเมืองที่งดงามถูกทำลายลงอย่างงายดาย
ฝ่ามือยักษ์โบราณปิดนภา !!
ดาบเพลิงขนาดใหญ่มหึมา !!
หนึ่งนิ้วสังหารมารปีศาจ !!
บทวงแหวนเวทมนตร์ ระดับมหาเวทเทพเจ้านับสิบๆ บทกลางท้องฟ้านับพันๆ
ไม่เว้นแม้แต่ข่ายอาคมอักขระ ค่ายกลอาณาเขตพื้นที่วงกว้าง โบราณกาลของโลกแห่งเทพเซียน
หมื่นมังกรโลหิต 4 กรงเล็บวิบัติฟ้า เพลิงสังหาร !!
ต่างก็ปรากฏขึ้นมา ชนิดที่ว่าปิดแผ่นฟ้าไว้หมด จนไม่อาจจะมองเห็นหมู่เมฆกลางเวหา ... ได้เลยทีเดียว
มากเมฆมองดูทักษะเก่าแก่และวิชาโจมตีแปลกๆ อันแตกต่างไม่เคยเห็นด้วความยินดี
พวกมันทั้งหมดพุ่งทะยานใกล้เข้ามาด้วยความเร็วสูง หมายจะสังหารและทำลายล้างมากเมฆให้จบโดยเร็วและกดดันเขาด้วยจำนวนที่มากกว่า และมวลมหาพลังอันไม่จำกัดของเหล่าทวยเทพ
ซึ่งทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นทักษะและวิชาโบราณ นับพัน ๆ ของเหล่าทวยเทพทรงพลัง ผู้โลภมากด้วยกันทั้งนั้น
แต่กระนั้นชายหนุ่มรูปงามกับมองสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่วางตา และเต็มไปด้วยความสนใจ
ทำการขโมยเรียนรู้ทักษะและวิชาต่าง ๆ มาจนหมดไม่มีเหลือ ได้ในชั่วพริบตาอย่างง่ายดาย !!!
ก่อนที่จะตอบโต้สวนกลับออกไป เพียงแค่มองอย่างเฉยชา !! ด้วยดวงเนตรที่เรือนแสงออกมาเล็กน้อย
พร้อมกับการแปรเปลี่ยนที่คาดไม่ถึงอีกอย่าง ต่อสายตาของทุก ๆ ตัวตนในทีนี่
แม้แต่มหาเทพชราไอร์ดอส ถึงกับมองมากเมฆอย่างตื่นกลัวและคาดไม่ถึง
ด้วยทักษะและวิชาเดียวกันที่เหนือกว่าหลายระดับปรากฏขึ้น
อย่างกับทรราชย์ผู้อยู่เหนือกฎเกณฑ์สวรรค์อย่างแท้จริง
มากเมฆได้ใช้พลังพิเศษเฉพาะ จากวงแหวนพระเจ้าแห่งการคดโกงอันเล็ก ๆ ที่กลางแผ่นหลัง
ร่วมกับพลังพระเจ้าแห่งการแปรเปลี่ยนที่มีเพียงเล็กน้อย ผสานกับพลังมิติรังสรรค์ ทำการฉกฉวยพลังโจมตีและทักษะต่าง ๆ ของเหล่าทวยเทพมาเป็นของตัวเองทั้งหมดในพริบตา ก่อนที่จะส่งพวกมันกลับคืนไปแบบเต็มแรง x 100 หลังจากปรับเปลี่ยนแก้ไขจนสมบูรณ์ ยิ่งกว่าเดิมหลายเท่าตัว
จนพลังทำลายล้างและทักษะต่าง ๆ อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทาง
หลุดออกจากการควบคุมของเหล่าเทพและนางฟ้าไปจนหมด
เหล่าทวยเทพที่ใจร้อน หมายจะสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตา และบางจำพวกที่คิดจะฉกฉวยเอาผลประโยชน์ให้ได้มากที่สุด จากเพชรสีฟ้าทรงกลมที่ลอยอยู่ ก่อนจะหลบหนีออกไปในช่วงชุลมุนวุ่นวาย
ต่างจำต้องมองดูทักษะและวิชาโจมตีต่าง ๆ ของตนเอง
ถูกควบคุมไว้อย่างพร้อมเพรียง ให้หันกลับมาโจมตีเข้าใส่อย่างจังด้วยความเร็วสูง
จะหลบก็หลบไม่ได้ จะหนีก็เหมือนถูกอะไรบางอย่างมาหยุดเอาไว้
เหล่าเทพและนางฟ้าที่กล้าโจมตี ได้กลายเป็นอากาศธาตุในพริบตา
แม้ไม่ได้ตกตายอย่างแท้จริง แต่ก็สูญเสียร่างเนื้อกลายเป็นเพียงดวงวิญญาณอมตะเท่านั้น
เหล่าทวยเทพที่ทรงพลัง สร้างร่างเนื้อของตัวเองขึ้นมาใหม่ในทันที มองสุดยอดตัวประหลาดด้วยความโกรธแค้น เพราะการสร้างร่างเนื้อสมบูรณ์แบบของเทพเจ้าขึ้นมาใหม่ นั่นหมายถึงการลดอายุขัยลดพลังเทพที่มีลงไปอย่างมาก เป็นอะไรที่ขาดทุนที่สุดแล้ว และจำจะต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือเป็นปีๆ ในการสะสมพลังที่สูญเสียไปให้กลับมา เนื่องจากร่างกายของเทพนั้นแตกต่างและล้ำค่าในทุก ๆ ส่วนเช่นกัน ดังนั้นการจะสร้างร่างใหม่ขึ้นมาก็ต้องแลกด้วยสิ่งต่าง ๆ ที่เท่าเทียบกัน
".. ท่านมหาเทพทั้ง 4 พระองค์ อันเป็นที่เคารพรักสูงสุดในที่นี้ ได้โปรดให้พวกเรายืมมือยืมพลังของท่านด้วย สุดยอดตัวประหลาดผู้นี้ สมควรเป็นเผ่าพันธุ์อสูรปีศาจโบราณ หรือไม่ก็ตัวเลวร้ายจากนอกมหาเอกภพเป็นแน่ ตัวข้านามมังกร “หลงเทียนตี้” เทพเจ้า 14 วงแหวนสายเลือดแท้บรรพกาล มังกรเพลิงอมตะผู้มีดวงจิตนิรันดร์ จากสวรรค์ชั้นฟ้าที่ 5 ขอร้องให้พวกท่านช่วยเหลือพวกเราด้วย .."
เทพเจ้าชายหนุ่มรูปงามอย่างกับพระเอกหนังจีน แต่งกายเหมือนจักรพรรดิของโลกแห่งเทพเซียน ที่มากเมฆเคยดูทางทีวีปรากฏตัวขึ้น ปลดปล่อยพลังกดดันแห่งมังกรเพลิงอันร้อนระอุออกมา สร้างแรงกดดันได้มากมายยิ่งกว่าเทพเจ้าองค์อื่น ๆ ที่เคยโจมตีมากเมฆหลายสิบเท่า บ่งบอกได้ถึงระดับพลังที่ต่างชั้นกันแบบสุดๆ ของเทพเจ้าหน้าใหม่นายนี้เอามาก ๆ
เหตุที่มหาเทพทั้งสี่ไม่ลงมือตั้งแต่แรก แม้ว่าจะโกรธที่ถูกชิงเอาสมบัติที่สมควรจะได้ไป เป็นเพราะต้องการจะเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุด จากสถานการณ์ที่อยู่ ๆ ก็เปลี่ยนไป และก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไปหลังจากนี้ให้คุ้มค่าที่สุด และพยายามหาจุดยืนที่เป็นฝ่ายถูกต้องไปด้วยในเวลาเดียวกัน
เนื่องจากคำพูดก่อนหน้านี้ ของอดีตมหาเทพไอร์ดอสเองก็มีผลอยู่ไม่น้อย เหล่ามหาเทพทั้งสี่เองก็รู้ความจริงเช่นกัน แต่เพราะผลประโยชน์สารพัดที่จะได้ และพลังอำนาจอันหอมหวานที่ต้องการ ไหนเลยจะนิ่งเฉยไม่แสวงหามาเป็นของตัวเอง และเพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงในภายหลังจากสถานการณ์ในตอนนี้ เหล่ามหาเทพทั้งสี่จำต้องได้รับแรงกระตุ้น สนับสนุนบางอย่างที่เหมาะสม
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ขอบคุณครับ