ตอนที่ 222 : บทที่ 222 ภัยร้ายที่ใกล้เข้ามา
บทที่ 222 ภัยร้ายที่ใกล้เข้ามา
กลุ่มผู้เล่นนับแสนๆ คนจาก 13 พันธมิตร รวมไปถึงกลุ่มผู้เล่นอิสระที่ถูกว่าจ้างมาเป็นการเฉพาะ และเหล่าผู้เล่นที่อยากจะเข้ามาหาประสบการณ์แปลกใหม่ เหล่าผู้เล่นที่อยากรู้อยากเห็นกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ต่างก็ได้ก้าวเดินเข้าไป ในนรกทะเลทรายเขตชั้นกลางอย่างราบรื่น ไม่มีอุปสรรคใดๆ แม้แต่น้อย
".. นี่ใช่นรกทะเลทรายจริงๆ เหรอ เข้ามาไม่เห็นมีสัตว์อสูรมาโจมตีเลยสักตัว .." ชายหนุ่มคนหนึ่งพูดขึ้น และทำท่าดูถูกสถานที่แห่งนี้เอามากๆ เพราะคิดว่าจะโหดตามที่ลือๆ กัน แต่ที่ไหนได้ ง่ายยิ่งกว่าเดินรอบกำแพงเมืองตอนเลเวล 10 เพื่อจะสังหารสัตว์อสูรเสียอีก
".. อย่าประมาณไป หากมันง่ายแบบนั้น ทำไมทุกคนไม่มาเก็บเลเวลที่นี่ล่ะ .." รุ่นพี่ที่มีประสบการณ์กล่าวขึ้นและไม่สนใจชายหนุ่มคนนั้นอีก
".. เฮ้เพื่อน จำได้ว่าตอนที่มาครั้งก่อน พวกเราหนีกันแทบตายกว่าจะรอดออกไปได้ แล้วทำไมวันนี้พวกสัตว์อสูรอย่างพวกแมงป่องทรายแดงที่มีอยู่เป็นหมื่นๆ ตัว แถมอยู่กันเป็นกลุ่มๆ ใต้ผืนทรายของเขตรอบนอก พวกมันหายไปไหนกันหมด ตลอดทางที่เข้ามาไม่เจอแม้แต่ตัวเดียวเลย นกสักตัวที่บินบนฟ้าก็ยังไม่มี .." นักดาบเวทสายฟ้าคนหนึ่งพูดขึ้นเสียงเบา พร้อมกับความรู้สึกแปลกประหลาดและสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างบอกไม่ถูก
".. นั่นสิวะเพื่อน พวกหมาป่าทะเลทราย พวกฝูงไฮยีน่าพิษ กิ้งก่าเพลิง จิ้งจอกวายุ จนแม้แต่อูฐศิลาทรายก็ยังไม่มีให้เห็น นี่มันแปลกเกินไปจริงๆ ว่ะ จะบอกว่าพวกเราโชคดีเดินมาถูกทางก็ไม่น่าจะใช่ เพราะเขตรอบนอกก็ไม่มีสัตว์อสูรแม้แต่ตัวเดียวเหมือนกัน แถมพอเข้ามาในเขตชั้นกลางแล้วแท้ๆ ยังไม่เห็นแม้แต่สิ่งมีชีวิตอะไรเลย แถมสภาพแวดล้อมรอบๆ ก็ดูเหมือนจะถูกทำลายไปไม่มีเหลืออีก กลับกันก่อนดีกว่ามั้ยเนี่ย .." นักดาบเพลิงอีกคนพูดขึ้น ก่อนที่เนื้อหาของบทสนทนาความไม่น่าไว้ใจ จะกระจายออกไปยังกลุ่มคนรอบๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกกิลด์ระดับสูง จนก่อให้เกิดความรู้สึกไม่ดี ไม่ชอบมาพากลไปตามๆ กัน
เพราะทุกคนในที่นี้ต่างก็มีประสบการณ์กันทั้งนั้น
บางคนเคยเข้ามาในอาณาเขตนรกทะเลทรายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง
ต่างก็ไม่เคยเจอกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่แบบนี้มาก่อน ซึ่งมันแปลกประหลาดเกินไป
แต่ในขณะนั้นเอง เหมือนจะมีผู้เล่นคนหนึ่งในกลุ่มสมาชิกระดับสูงตะโกนขึ้น
เพื่อต้องการจะบอกให้เหล่าผู้นำ 13 พันธมิตร และกลุ่มเนตรสามตารู้สึกตัว และตัดสินใจได้ทัน
".. หนีเร็ว!! การที่สัตว์อสูรไม่อยู่บริเวณนี้เลย อาจจะเป็นเพราะเขตพื้นที่นี้ กำลังจะเกิดภัยธรรมชาติแบบเดียวกับในทวีปหลักก็ได้ พวกห่ารากนั่นจึงไม่ได้อยู่แถวนี้เลยสักตัว และน่าจะหนีไปหมดแล้ว ผู้นำพวกเราควรจะถอนกำลังกันก่อน และทิ้งส่วนหนึ่งไว้ดูสถานการณ์ที่นี่ .." เสียงตะโกนอย่างดังแต่ได้ยินเฉพาะในกลุ่มแนวหน้าสมาชิกระดับสูงเท่านั้น ด้วยพลังเสียงของเวทมนตร์ที่ส่งตรงไปยังกลุ่มผู้นำที่หยุดเดิน เพื่อสังเกตการณ์ความผิดปกติที่เกิดขึ้น
ชายหนุ่มผู้สวมหน้ากาก แต่งกายคล้ายกับจอมเวทแห่งความมืด และมีตราสัญลักษณ์เนตรสามตาที่ผ้าคลุมหลัง ผู้รับผิดชอบเป็นผู้นำกลุ่มของคนนับแสนๆ ในวันที่สองนี้ ได้หยุดเดินและมองดูไอเท็มลูกแก้วประหลาดในมือพร้อมกับดวงตาที่เปิดกว้างและตื่นตัว
หลังจากที่ได้พิจารณาถึงความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น และข้อบ่งชี้จากไอเท็มพิเศษในมือแล้ว
และแม้แต่ตัวมันเองก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเอามากๆ เหมือนกัน
จากสภาพอากาศที่อยู่ๆ ก็ร้อน แล้วอยู่ๆ ก็หนาว แถมบางครั้งก็มีฝนตกลงมาอย่างหนัก
ซึ่งมันอธิบายอะไรไม่ได้เลยมากนัก แต่หลังจากที่นำไอเท็มซึ่งเป็นลูกแก้วประหลาดออกมา และทำการตรวจสอบอีกหลายครั้งจนแน่ใจ จึงทำให้เจ้าตัวในฐานะผู้นำกลุ่ม ตัดสินใจหยุดเคลื่อนพล
และถอยกลับออกไปยังเขตรอบนอกที่พอจะรับมือได้อีกครั้งเฉพาะกลุ่มคนสนิทของตัวเอง
พร้อมกันนั้นเจ้าตัวยังได้ทิ้งไอเท็มประหลาดคล้ายกับสิ่งประดิษฐ์ ที่แลดูเหมือนลำโพงกระจายเสียงขนาดใหญ่ ระยะทางไกลเอาไว้ที่พื้นทราย โดยทิ้งผู้เล่นบางส่วนไว้ป้องกัน เพื่อใช้ให้มันส่งข้อความเสียง ที่ต้องการจะบอกให้เป้าหมายอย่างบุตรชายคนโตของตระกูลเมฆาเทพได้รับรู้
".. เศษสวะน่าไม่อายที่เอาแต่หนี จากตระกูลเมฆาเทพ “มากเมฆ” ผู้ติดตามนามว่า “เกรย์” ได้ถูกจับตัวเอาไว้แล้ว หากไม่อยากให้มันต้องถูกทรมานไปเรื่อยๆ เป็นวังวนจนตายทั้งเป็นจนเป็นบ้า ไปจนถึงวันสุดท้ายของสงครามระหว่าง 13 พันธมิตรอีกตลอด 3 วันที่เหลืออยู่ ก็ให้กล้าๆ ออกมาสู้กันตรงๆ เจอกันที่รอบนอกอาณาเขตนรกทะเลทรายแห่งความป่าเถื่อน .."
เสียงพูดแดกดันหยาบคายที่ดังลั่นทุ่งไปไกล ได้ถูกส่งกระจายออกไปอย่างต่อเนื่องในอากาศ เสียงพูดประโยคเดิมๆ วนซ้ำไปมาอยู่เรื่อยๆ ไม่มีหยุด ได้ถูกส่งออกไปไกลกว่า 500 กิโลเมตรในเวลาอัดรวดเร็ว กลายเป็นบทเวทมนตราคำสาปขยายเสียงสะท้านแบบวงกว้างรอบทิศทาง
ส่งผลให้ผู้ได้ยินเสียงที่ว่า ต่างก็รู้สึกทรมานเล็กน้อยในหัวและหู โดยเฉพาะหากว่าเป็น NPC มนุษย์ หรือผู้เล่นที่อยู่ในระยะ 250 กิโลเมตรหรือใกล้เคียง จะต้องได้ยินและรับผลที่เกิดขึ้น 100% จนรู้สึกปวดหัวปวดหูจนไม่สบายตัวในที่สุด และจะต้องออกมาทำลายเจ้าลำโพงที่ว่าอย่างแน่นอน
ในระหว่างทางที่ถูกลากเข้ามา และถูกลากออกไปบนผืนทรายร้อนๆ
เกรย์ยังคงหมดสติอยู่ตลอดเวลาในสภาพปางตาย และหมดสภาพยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
แต่ในขณะเดียวกันนั้น โล่อักขระกลืนมายา ที่ดูเหมือนจะถูกทำลายจนสลายหายไปก่อนหน้านี้
หลังจากที่ถูกรุมทำร้ายสารพัดการโจมตีรอบทิศ จากผู้เล่นนับแสนๆ คนจนพ่ายแพ้และถูกจับทรมานให้เหมือนกับตายทั้งเป็น ถูกสังหารโหดไปไม่ต่ำกว่า 3 รอบ
เวทอักขระโบราณของโล่อักขระกลืนมายา ที่ถูกตราประทับไว้โดยมากเมฆ ดูเหมือนพวกมันกำลังก่อตัว ขึ้นมาใหม่อีกครั้งอย่างช้าๆ และไม่มีผู้เล่นคนไหนเลยที่สังเกตเห็นแม้แต่คนเดียว
เพียงเวลาแค่ไม่ถึง 10 นาที เหล่ากลุ่มผู้นำเนตรสามตาและสมาชิกกิลด์ระดับสูงของเหล่า 13 พันธมิตร ที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติในสภาพอากาศ และไอเท็มตรวจสอบในมือของผู้นำกลุ่มได้แจ้งเตือนให้รู้
ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น จากสภาพอากาศอันเลวร้ายอย่างสุดขั้ว ต่างก็เร่งรีบออกไปจากเขตนรกทะเลทรายชั้นกลางเป็นกลุ่มแรกๆ อย่างเห็นแก่ตัว
เพราะหากบอกว่าจะมีอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ออกไปให้รู้กับคนหมู่มากที่ติดตามมา
ด้วยจำนวนคนที่มากมายแบบนี้ อาจจะทำให้การหลบหนีล่าช้าออกไปอีก
หรือถอยกำลังกลับอย่างเร่งด่วนไม่ได้ เกิดการชุลมุนวุ่นวายขึ้นมาในกลุ่มต่างๆ ที่ต้องการอยากจะเอาตัวรอด และอาจจะทำให้ถอยหนีออกไป จากเขตชั้นกลางของเหล่าผู้นำไม่ทันการณ์ ด้วยเหตุนี้เอง เหล่ากลุ่มผู้นำจึงได้ปล่อยให้เหล่าผู้เล่นสมาชิกกิลด์ระดับล่าง เหล่าผู้เล่นที่เสนอตัวมาตายตั้งแต่แรก ที่ยังติดตามมาด้านหลังและเคลื่อนพลเคลื่อนที่ตามใจอยาก หรืออยู่ไกลออกไปจนสังเกตความผิดปกติไม่เห็น ต่างก็รับเคราะห์ไปเต็มๆ จากสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันให้ตั้งตัว
โดยกลุ่มผู้เล่นจำนวนมากราว 3-6 หมื่นคนที่ติดตามมาด้วย พวกที่ถูกกลุ่มผู้นำทอดทิ้ง พวกเขาเหล่านั้นได้เผชิญกับหายนะไปแบบเต็มๆ อย่างพายุทรายเพลิงกันต์ ฝนกรดหลอมกระดูด พายุทรายเหมันต์ และอีกสารพัดที่สามารถทำให้ถึงตายได้อย่างต่อเนื่อง
ลางสังหรณ์อันเลวร้ายของผู้เล่นหลายๆ คนที่มีประสบการณ์กับปรากฏขึ้นมาจริงๆ
เพราะถึงอย่างไรสถานที่แห่งนี้ ก็ได้ชื่อว่าเป็น “นรกทะเลทรายแห่งความป่าเถื่อน” มันคงจะไม่ง่าย หากคิดจะมาเดินทอดน่องไปมาราวกับเดินเล่นสบายอารมณ์ ราวกับสวนหลังบ้านของตัวเอง..
และการที่อยู่ๆ สัตว์อสูรหายไปทั้งหมดไม่มีเหลือ คงไม่ใช่แค่ก่อนหน้านี้ที่พวกมันหวาดกลัวกองทัพนักรบนางฟ้าเลเวล 35,000 เท่านั้น แต่พวกมันยังรับรู้ได้ถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ตามสัญชาตญาณเอาตัวรอดแบบสัตว์ป่าสัตว์อสูรของพวกมันอย่างเป็นธรรมชาติ จึงทำให้สัตว์อสูรจำนวนมากที่มีเลเวลหลายพัน ต่างก็หลบหนีออกไปจากอาณาเขตภัยพิบัติเหล่านี้หมดแล้วตั้งแต่แรก
************
ในขณะเดียวกันของเช้าวันใหม่ ภายในทวีปเริ่มต้นจิตมายาของเมืองสำคัญๆ จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเมืองต้นไม้สีทองเมืองเริ่มต้นของผู้เล่นทุกๆ คนต้องรู้จัก นครแห่งการช่างเมืองเอกอุที่เต็มไปด้วยแหล่งเรียนรู้ของทักษะอาชีพงานฝีมือจำนวนมาก เมืองหิมะโปรยดินแดนแห่งมหานครที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของหิมะและน้ำแข็งอันงดงามเหนือคำบรรยาย เมืองเมฆเคลิ้มเมืองท่าเรือสำคัญของทวีป ประตูขาเข้าและออกของทวีปจิตมายาอันขาดไปไม่ได้ และเมืองอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก
ต่างก็ถูกบุกเข้ายึดครองส่วนแบ่งของตลาด ของสินค้าจำนวนมากในประเภทต่างๆ ทำการผูกขาดการค้าขายเสรีแบบหักดิบ ชนิดที่สร้างศัตรูไปทั่วในพริบตา และก่อตั้งตึกการค้าขึ้นมาใหม่ในทุกๆ มุมเมืองอย่างยิ่งใหญ่ พร้อมกับกำลังรบอันน่ากลัว ที่มากพอให้ทำลายเมืองใหญ่ๆ เมืองหนึ่งให้หายไปได้ในพริบตา
ตึกการค้าขนาดใหญ่ในย่านธุรกิจสำคัญในเมืองต่างๆ ของทวีปจิตมายาได้ปรากฏตราสัญลักษณ์เนตรสามตาอันทรงพลังขึ้นมา ทวีปจิตมายาและหมู่บ้านต่างๆ จำนวนมาก ถูกยึดครองอำนาจอิสระหมุนเวียนการเงิน ในเวลาเพียงแค่ช่วงข้ามคืนอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จากลุ่มผู้เล่นปริศนาและกองทัพ NPC จำนวนมาก รวมไปถึงเหล่ากองกำลังของเผ่าพันธุ์ต่างๆ โดยเฉพาะเหล่าไฮออร์คและคนยักษ์จากทวีปหลัก ที่บุกเข้ามายึดครองพื้นที่เสรีของผู้เล่นไปเกือบจะทั้งหมด
จนแม้แต่ตึกการค้าของสหพันธ์พาณิชย์เมฆมายา ที่เคยตั้งอยู่ในเมืองต้นไม้สีทองจำนวน 4 ตึกขนาดใหญ่ ต่างก็ถูกทำลายจนเหลือเพียงแค่ตึกการค้าแห่งเดียวเท่านั้น ที่ตั้งอยู่ย่านการค้าใจกลางเมือง
จากฝีมือของกลุ่มผู้เล่นระดับสูงปกปิดตัวตน ที่ร่วมมือกับ NPC ขุนนางชั่วร้ายและเจ้าหน้าที่ทหารของเมืองต้นไม้สีทองที่รับสินบน ได้เข้าทำการปิดล้อมตึกการค้าทั้ง 3 และโจมตีตึกการค้าของสหพันธ์อย่างหนักจนได้รับความเสียหายจนใช้การไม่ได้ แถมไอเท็มพร้อมขายกว่า 65% ยังถูกปล้นออกไปจากตึกการค้าที่ถูกทำลายทั้งหมด สร้างมูลค่าความเสียหายอย่างหนัก แถมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ยังได้ขัดขว้างแผนธุรกิจของมากเมฆ ที่เหล่าหัวหน้ากลุ่มการค้าทั้ง 12 กำลังดำเนินการอยู่อีกด้วย
".. เก็บไปให้หมด อย่าให้เหลือ .."
".. งานนี้รับเงินง่ายๆ ได้เป็นล้าน สบายไปเป็นปีๆ เลย ฮ่าฮ่าฮ่า .."
".. ชอบจริงๆ แกะอ้วนที่ชื่อเมฆมายาอะไรนี่ ไม่ผิดหวังเลยที่เข้าร่วมด้วย .."
".. ขนออกไปให้หมด ยังเหลืออีกตึกการค้าหากพวกเราตัดทางทำกินพวกมันได้หมด ต่อไปก็บุกข้ายึดเมืองในมิติพิเศษของพวกมัน จากนั้นพวกเราก็ไม่ต้องทำงานอีกต่อไปตลอดชีวิต มีกินมีใช้ไม่รู้จบ ไปๆ เร่งมือ อย่าได้ปราณี เจ้าหน้าที่ทหารในเมืองจะยังไม่ยุ่งกับพวกเราอีกจนกว่าจะเที่ยงวัน เร่งมืออีก ไปๆ .."
เสียงพูดคุยของเหล่าผู้เล่นและ NPC ชั่วร้ายดังขึ้นไม่ขาดเสียงต่างคนต่างก็ขโมยและเก็บสิ่งที่อยากได้ตามใจฉัน ทำตัวราวกับพวกผีไร้ญาติที่หิวกระหายอย่างไงอย่างงั้น
****************
ย้อนเวลากลับไปเล็กน้อย มากเมฆผู้เอาตัวรอดมาได้จากฝีมือการทำอาหารอันไม่ธรรมดา ได้หลบเข้าไปในอาณาเขตชั้นในที่เต็มไปด้วยอันตรายสารพัดหนักกว่าเดิม แต่กระนั้นด้วยโชคที่ยังไม่หมด จึงทำให้เจ้าตัวได้พบเข้ากับปราสาททรายหินโบราณที่รกร้างไปแล้วหลังหนึ่ง ก่อนที่จะเข้าไปหลบซ่อนภายในเพื่อพัก และฟื้นฟูพลังให้กลับมาอย่างเดิม
ในระหว่างนี้เองที่มากเมฆกำลังพักอยู่ เขาได้นำกล่องสมบัติอาวุธแบบสุ่มนำมาวางไว้ตรงหน้า
".. หากตอนนี้เชื่อมต่อกับมิติเก็บของของรากไม้ได้ คงไม่จำเป็นต้องหาอาวุธมาเพิ่ม แต่ตอนนี้คงต้องหวังใช้เจ้านี่ไปก่อน หวังว่าจะสุ่มอาวุธระดับสูงๆ ผลกระทบดีๆ ออกมาด้วยล่ะ .." มากเมฆทำการเปิดกล่องสมบัติ พร้อมๆ กับมีเสียงแจ้งเตือนขึ้นมาในหัว
[: โปรดเลือดประเภทของอาวุธ :]
มากเมฆคิดง่ายๆ เพราะเอาจริงๆ เขาใช้ได้ทุกอย่าง แต่จะให้ดีก็อยากจะเป็นจอมยุทธ์แบบจีนๆ อยู่เหมือนกัน ดังนั้นเจ้าตัวจึงได้เลือกกระบี่แบบที่เคยใช้มาก่อน
".. เลือกประเภทกระบี่จีนโบราณ .." มากเมฆกล่าวตอบ
ทันใดนั้นกล่องสมบัติก็สั่นอย่างรุนแรง สภาพอากาศรอบข้างเลวร้ายอย่างที่สุด พร้อมกับคลื่นพลังมหาศาลของธาตุพลังที่ลบล้างกันไปมาไม่จบไม่สิ้นได้ปรากฏขึ้น
".. เชี่ย แค่เปิดกล่องถึงกับมีแสงสีเสียงอะไรจะขนาดนี้ .." มากเมฆกล่าวบ่น แต่ก็ยังลุ้นเอามากๆ ว่ากระบี่ที่ได้จะเป็นระดับ S หรือไม่
...
[: ยินดีด้วย ผู้เล่นมากเมฆ สุ่มอาวุธกระบี่โบราณได้รับ .... :]
มากเมฆมองกระบี่ที่ลอยอยู่ตรงหน้า พร้อมกับดวงตาที่ขยายกว้างและไม่อยากจะเชื่อ.!?
------------
ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะครับ ขออภัยที่อัพช้า T^T
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดิลโด้แน่เลย
ตกลงพระเอกจะกระจอกหรือจะเทพเอาสักอย่างเหอะ พอเหมือนจะเทพต้องหนีตายอีกแระ พอเหมือนจะโหดก็แก้แค้นแค่พอศัตรูเจ็บๆคันๆ ไม่เด็ดขาด กลัวอันนู้นบ้างล่ะกลัวนี้บ้างล่ะ ตกลงพระเอกหรือพระรองก่ำกึ่งตลอด
ไม่เทพก็ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน T^T ที่กล้าๆ กลัวๆ ช่วงแรกๆ ก็เพราะเจอกับของแปลก เพศที่สามอันไม่คุ้นชิน
แถมยังหมายตาตูดอีก มันก็ต้องมีช่วงเวลาให้เกิดความสันสนบ้าง ยังไงก็ยังเป็นมนุษย์อยู่
ส่วนในเรื่องที่ต้องหนี หมดปัญญาสู้ อยากให้มองแบบภาพรวมนะกว้างๆ ที่ถูกตัดพลังพระเจ้าที่เคยมี
เลเวล 248 เจอกองทัพเทพ 3332 คน เลเวล 3 หมื่นอัพ พร้อมอาวุธเทพที่เกินกว่า SSS นี่กะจะให้บวก
แล้วตายๆ ก็คงไม่ได้เพราะยังติดสงคราม 4 วันกับ 13 พันธมิตรอยู่
หนีจึงเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว
การติดสินใจใดๆ ได้ ไม่ว่าจะสู้หรือหนี มันก็ต้องใช้ความกล้าเป็นที่ตั้ง
ดังนั้นหากจะมองว่าไม่เด็ดขาดอันนี้ก็แล้วแต่มุมมอง
แต่ในช่วงที่เจอกระเทยหมีควายกับเกย์เฒ่า พวกบ้ากามทั้งสอง อันนั้นมากเมฆรู้สึกแปลกๆ และไม่อยากจะเข้าใกล้
จึงเป็นอย่างที่เห็น แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยความตายของอีกฝ่าย ชนิดที่กลับมาเกิดก็ยังทำไม่ได้เลย
แต่พอคิดใหม่ดีๆ แล้ว เอาแบบเข้าตาจนสุดๆ แทนดีกว่า
ก่อนจะกลับมาได้อย่างยิ่งใหญ่ เพราะยังไงพลังเงินทุนของมากเมฆ ก็มหาศาลไม่มีใครเกินอยู่แล้ว
อ้อ อย่าลืมไม้ตายของมากเมฆที่ใกล้จะปรากฏในอีกไม่กี่ตอนจากนี้
หมากเปลี่ยนเกมที่ไม่ต้องให้หายนะออกโรงแม้แต่น้อย