ตอนที่ 17 : บทที่ 17 เบเฮมอธผู้ให้ไม่คาดหวัง
บทที่ 17 เบเฮมอธผู้ให้ไม่คาดหวัง
".. เจ้าตัวนี้ พี่ทหารคนนั้นบอกมาว่า มันเป็นตัวปัญหาที่สุด เป็นพวกบ้าการต่อสู้ที่สุดอีกด้วย ต้องเอาชนะมันให้ได้ด้วยพลังล้วนๆ เท่านั้น .." มากเมฆกล่าวคำพูดของพี่ทหารที่เคยได้บอกกับตนเองเอาไว้ก่อนหน้านี้ ถึงบอสตัวสุดท้ายก่อนที่จะเป็นอิสระและจะต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้นไม่อย่างงั้นก็นอนคุกกันยาวๆ อีกรอบ
".. ดูท่าทางมันจะไม่ปล่อยพวกเราไปง่ายๆ นะครับนายท่าน จะเอายังไงดีครับจะลองให้ผมเข้าไปลองต่อสู้ดูก่อนมั้ยเพื่อเก็บข้อมูลก่อน แต่ผมเองไม่มีความมั่นใจเลยว่าจะเอาชนะหรือสู้มันได้ เพราะเจ้าตัวนี้มันแข็งแกร่งกว่าทุกๆ ตัวที่เคยเจอมาทั้งหมดเลย .." รากไม้ทำการประเมิน พร้อมกับตรวจสอบเจ้าอสูรกายโบราณตรงหน้าอย่างจริงจังผ่านทางฐานข้อมูลของตนเอง ถึงกับรู้สึกหวาดหวั่นๆ ในใจและมีโอกาสที่จะแพ้มากถึง 70% หากให้ต่อสู้กันแบบ 1-1 แต่หากร่วมมือกับนายท่านก็ไม่แน่ว่าอาจจะเอาชนะมันได้
".. เจ้าอสูรตนนี้เบเฮมอธ มีคุณสมบัติทางกายภาพที่แข็งแกร่งราวกับเพชร มีพละกำลังมหาศาล มีพลังเวทมนตร์ไม่ต่างจากเหล่าเทพอสูร แม้แต่พลังโจมตีในระดับสูงก็ยังไม่อาจจะสร้างความเสียหายได้มากนัก และยังมีความสามารถในการต้านทานต่อทุกสิ่งพอๆ กับมังกรโบราณระดับสูงเลเวลกว่า 5000 อีกด้วย หากจะสู้ก็ต้องเอาจริงหน่อยนะรากไม้ มากเมฆ ห้ามทำเป็นเล่นเด็ดขาด และเจ้าตัวนี้ยังมีสกิลทักษะแปลกประหลาดอยู่พอสมควรระวังตัวไว้ด้วย .." อาจารย์ไป่หลงกล่าวแนะนำอย่างเรียบง่าย เพราะเคยต่อสู้กับมันมาก่อน แต่เป็นสัตว์อสูรอีกตัวที่ระดับเลเวลสูงกว่านี้มากที่หอคอยหมื่นจักรพรรดิอสูร ของทางระบบหลัก ZERO
ด้วยคำพูดของอาจารย์ไป่หลงก่อนหน้านี้ ทำให้มากเมฆและรากไม้เข้าใจความหมายที่จะสื่อของท่านอาจารย์ เพราะอยากจะให้พวกเขาทั้งสองได้เรียนรู้ ต่อสู้กับสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งกว่า เพื่อที่จะได้รู้จักคิดและทำอะไรให้รอบคอบมากยิ่งขึ้น
โดยที่ไม่รู้หลอกว่าหากรากไม้และมากเมฆตกอยู่ในอันตราย อาจารย์ไป่หลงจึงจะลงมือเข้าไปจัดการและช่วยเหลือทั้งสองในทันที
ส่วนสองสาวในเวลานี้ดูเหมือนจะหมดหวังที่จะเป็นอิสระไปแล้ว เพราะสัตว์อสูรตรงหน้ามีเลเวล 1500 มันไม่ใช่สัตว์อสูรที่คนภายในทวีปเริ่มต้นจิตมายาจะรับมือได้
แต่ทว่าในระหว่างนั้นเองชายหนุ่มผมสีขาว ได้ก้าวเดินออกมาด้วยท่าทางสบายอารมณ์ เดินไปเผชิญหน้ากับเบเฮมอธอย่างไม่เกรงกลัว
".. ผมขอเป็นคนสู้แทนได้มั้ยเอ่ย พอดีเบื่อมากไม่ได้ทำอะไรเลย อยากหาอะไรทำฆ่าเวลาสักหน่อย แต่หากสู้ไม่ไหวรากไม้ก็เข้ามาช่วยแล้วกัน .." มากเมฆพูดบอกทุกคน
รากไม้กับอาจารย์ไป่หลงถึงกับมีเม็ดเหงื่อบนใบหน้าทั้งสองคนเลยทีเดียว หลังจากได้ยินที่มากเมฆขออาสาออกไปสู้กับเจ้าเบเฮมอธตัวใหญ่ยักษ์นั่นด้วยตนเอง แถมยังเอาไม้เท้าเวทระดับ SSS ออกมาเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้ว
อาจารย์ไป่หลงเริ่มรู้สึกหวาดเสียวในใจ แต่ก็ยังอยากให้ลูกศิษย์ได้หาประสบการณ์ใหม่ๆ แต่หากให้มากเมฆไปต่อสู้อย่างจริงจังอาจจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นมาก็เป็นได้ ในแบบที่คาดไม่ถึงแบบก่อนหน้านี้ที่รากไม้และมากเมฆประลองกัน
รากไม้เองก็ไม่ต่างจากอาจารย์ไป่หลง ตัวมันเองคงจะต้องออกไปห้ามไม่ให้นายท่านของมันออกไปต่อสู้กับอีกฝ่ายโดยเด็ดขาด ไม่งั้นเหตุการณ์หายนะได้เกิดที่คุกลับแห่งนี้ด้วยแน่ๆ ดีไม่ดีอาจจะถึงขั้นที่ว่าลบคุกลับแห่งนี้ให้หายไปตลอดกาลก็เป็นได้ และเพื่อไม่ให้ตนเองต้องมาซวยโชคร้ายมากไปกว่านี้ วิธีที่ดีที่สุดคือจัดการกับเจ้าเบเฮมอธด้วยตัวเองและต้องเร็วที่สุด ไม่งั้นนายท่านมากเมฆได้ออกโรงบู๊แหลกแน่นอนรากไม้คิดในใจ
แต่ทว่าในระหว่างที่หนึ่งคนกับอีกหนึ่งเอไอระดับสุดยอด กำลังใช้ความคิดกันอยู่นั้น มากเมฆชายหนุ่มผู้หล่อเหลาผมสีขาวออกสีเงิน ในชุดของนักเวทฝึกหัดสีดำกับไม้เท้าเก่าๆ ในมือก็ได้ก้าวเดินออกไปท้าสู้กับเจ้าเบเฮมอธอย่างตรงไปตรงมา ทุกการกระทำและการเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างธรรมชาติ ราวกับเดินไปหาเพื่อนเล่นอย่างไงอย่างงั้น
มากเมฆเข้าใจว่าทุกคนกำลังคิดอะไร แต่ในเวลานี้ตัวเขาเองรู้สึกเบื่อมากจริงๆ กับบอสในชั้นที่ผ่านๆ มาทั้งหมด และพอได้มายืนเผชิญหน้ากับเจ้าเบเฮมอธสัตว์อสูรที่มีสายเลือดของเทพอสูร
มากเมฆกับรู้สึกได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกกระหายเลือด ต้องการการต่อสู้กันอันบ้าคลั่งจากเจ้าสัตว์อสูรตนนี้อย่างรุนแรง และกระตุ้นให้อีกฝ่ายอย่างเขาไม่อาจจะระงับความตื่นต้นยินดี ในการต่อสู้ครั้งนี้เอาไว้ได้เป็นผลให้ มากเมฆที่ถูกคลื่นพลังกระตุ้นให้สัญชาตญาณการฆ่าฟันการต่อสู้ตื่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว ทำการพุ่งเข้าไปปะทะกับเจ้าเบเฮมอธในทันทีด้วยหมัดเปล่าๆ แต่อัดแน่นไปด้วยพลังลมปราณชกเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัวถึงความตายใดๆ
แรงปะทะของทั้งสองทั้งของมากเมฆและเจ้าเบเฮมอธ ก่อให้เกิดคลื่นลมแรงอย่างมากกระจายไปทั่วบริเวณ เริ่มแรกมากเมฆยังใช้มือเปล่าในการต่อสู้ แต่พอได้ปะทะกับอีกฝ่ายจึงได้รู้ว่าตนเองยังหากไกล จึงตัดสินใจเลือกใช้ไม้เท้าเวทมายา และวิชาไม้เท้าเงาลมเข้าต่อสู้อย่างจริงจัง พร้อมกับใช้เวทมนตร์พร้อมๆ กันถึง 8 บทเวทในหนึ่งครั้งอย่างต่อเนื่อง ทั้งเสริมกำลัง เสริมกายา บัพโล่พลังต่างๆ อีกมาก เพื่อให้ตนเองสามารถต่อสู้กับอีกฝ่ายได้อย่างสูสีกัน
".. ได้ไงอ่า เลเวลแค่ 30 เองไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงปะทะพลังกับเบเฮมอธได้ละ หัวหน้าปาร์ตี้ทำไมเก่งจัง ไม่เคยเห็นใครต่อสู้แบบนี้มาก่อนเลย ใช้ทั้งทักษะเวทและทักษะต่อสู้วรยุทธ์ได้ หรือหัวหน้าปาร์ตี้มาจากโลกแห่งเทพเซียนและกำลังภายใน .." นักเวทสาวผู้ร่วมทีมแหกคุกในครั้งนี้ พูดขึ้นด้วยความรู้สึกประหลาดใจตกใจกับสิ่งที่ได้เห็นเป็นอย่างมาก
เนื่องจากปาร์ตี้แหกคุกในครั้งนี้ เป็นปาร์ตี้เฉพาะกิจที่ถูกจัดตั้งขึ้น จึงทำให้สองสาวไม่สามารถรู้ชื่อที่แท้จริงของทั้งสามคนในปาร์ตี้ได้ เพราะไม่ได้มีรายชื่อเพิ่มเป็นเพื่อนกันมาก่อน ทำให้มองเห็นรายชื่อในปาร์ตี้แค่ว่า หัวหน้าปาร์ตี้ สมาชิก 1 สมาชิก 2 เท่านั้น แต่สำหรับการมองเห็นรูปร่างหน้าตานั้นสามารถมองเห็นใบหน้าฝ่ายตรงข้ามได้ปกติทุกอย่างและไม่ได้ปกปิดอะไร นับตั้งแต่เข้าปาร์ตี้แหกคุกเฉพาะกิจนี้มาตั้งแต่ต้น
".. คนเก่งแบบนี้หาไม่ยากหรอก สักวันพวกเราต้องได้รู้แน่ๆ ว่าเขาเป็นใคร หรือไม่ก็ก่อนจะออกจากคุกขอเป็นเพื่อนก่อนก็ได้นี่ ใช่มั้ย .." นักบวชสาวสวย พูดบอกเพื่อนสนิทที่ดูเหมือนจะสนใจพ่อหนุ่มผมขาวสีเงินคนนี้เป็นพิเศษ
ส่วนทั้งรากไม้และอาจารย์ไป่หลง ต่างก็เตรียมพร้อมกันแบบสุดๆ แล้ว
หากมากเมฆใช้พลังที่คาดเดาไม่ได้จากไม้เท้าเวทมนตร์ ระดับ SSS เกินความจำเป็น ทั้งสองจะเข้าไปหยุดการต่อสู้ในทันที และอาจารย์ไป่หลงจะเข้าไปจัดการกับเบเฮมอธด้วยตัวเอง
เพราะระดับของอาจารย์ไป่หลงสามารถที่จะจัดการสังหารเบเฮมอธให้ตายได้ในหนึ่งการโจมตี และที่สำคัญที่สุดต้องระวังการใช้พลังแปลกๆ และลูกบ้าไม่คิดของมากเมฆ มากกว่าระวังเจ้าสัตว์อสูรเบเฮมอธซะอีก
จนเดี๋ยวนี้ทุกวันนับตั้งแต่ได้ประลองกับนายท่าน รากไม้รู้สึกว่าตนเอง เหมือนมีระเบิดเวลาอยู่กับตัวยังไงก็ไม่รู้ ใช้ชีวิตอยู่บนความไม่แน่นอนแบบสุดๆ ตลอดเวลา
".. โจมตีไปเท่าไหร่ก็รู้สึกเหมือนจะทำอะไร ไม่ได้มากจริงๆ ด้วย แข็งแกร่ง และเก่งจริงๆ เลยนะครับคุณเนี่ย .." มากเมฆยังมีเวลามาชวนคุยและหลบการโจมตีของเบเฮมอธ ไปมาได้อย่างสบายๆ ด้วยท่าร่างที่งดงามดูเทพเซียนของวิชาก้าวเท้าดาวเคลื่อน และดูเหมือนเจ้าตัวจะชิลล์ๆ กับการต่อสู้นี้มากเหลือเกิน
พร้อมกับเข้าปะทะพลังกับอีกฝ่ายอยู่เรื่อยๆ อย่างตรงไปตรงมาโดยใช้พลังเวทและบทเวทต่อสู้ระยะประชิดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมัดเพลิงมังกร หมัดเวทสายฟ้าที่มีอยู่อย่างเมามันส์
".. ฮ่าฮ่าฮ่า ช่วยทำให้ข้าผู้นี้พ่ายแพ้ และต่อสู้อย่างจริงจังให้มากกว่านี้ หากเจ้ามีพลังมากพอ ก็ทำให้ข้าแพ้เจ้าให้ได้ .." เบเฮมอธสัตว์อสูรผู้ได้ชื่อว่ามีความแข็งแกร่งและทรงพลังอย่างที่สุด เป็นตัวแทนของพลังอำนาจและความแข็งแกร่งอันไร้เทียมทาน พูดตอบมากเมฆอย่างจริงจังและพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างรวดเร็ว
".. จะพยายามครับ งั้นผมขอเอาจริงมากกว่านี้อีก .." มากเมฆในเวลานี้เปลี่ยนไปอีกครั้งหลังจากพูดจบ แววตาที่เคยขี้เล่นและสดใสเป็นประกายได้หายไป กลายเป็นแววตาของบุรุษผู้ไร้อารมณ์ที่มุ่งมั่นและจริงจังอย่างถึงที่สุด เต็มไปด้วยสัมผัสพลังที่ให้ความรู้สึกอันตรายและความตายจนหน้าตกใจออกมา
เบเฮมอธเองก็สัมผัสได้ว่าคู่ต่อสู้ของมันนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน
ทั้งยังปลดปล่อยคลื่นพลังประหลาดออกมา ให้ความรู้สึกที่ร้องบอกให้ตัวมันเองยอมแพ้และรีบหนีไปให้ไกลๆ ทั้งที่ตัวมันเองเป็นถึงสัตว์อสูรระดับราชา และมีระดับเลเวลสูงกว่าอีกฝ่ายอย่างมาก แต่กับรู้สึกหวาดกลัวชายหนุ่มตรงหน้าได้
มากเมฆกระโดดลอยตัวออกไปไกลเว้นระยะห่างจากเบเฮมอธมากขึ้นในอากาศ เรียกใช้พลังทั้งหมดที่มีออกมาและทำการเก็บไม้เท้าเวทมนตร์ระดับ SSS เข้าไปในมิติเก็บของของรากไม้ และนำไม้เท้าปกติทั่วไปออกมาแทน เพราะในครั้งนี้มากเมฆต้องการจะต่อสู้ด้วยพลังของตัวเขาเองอย่างแท้จริง โดยไม่หวังพึ่งพาพลังพิเศษที่คาดเดาไม่ได้ของไม้เท้าระดับพระเจ้าที่ตนเองถือครองอยู่
พร้อมกับไม่อยากให้มีคนนอกอย่างสองสาวที่อยู่ที่นี่ได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของไอเทมระดับ SSS และก็ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้กับอาจารย์ไป่หลงและรากไม้ด้วย เพราะเห็นทั้งสองคนเหมือนจะหวาดหวั่นเสมอตลอดเวลาที่เขาได้ใช้ไม้เท้าเวทมายาต่อสู้กับอีกฝ่ายมาตั้งแต่ต้น
แต่ทันใดนั้นเบเฮมอธไม่ปล่อยให้มากเมฆมีโอกาสทิ้งระยะห่าง จึงทำการพุ่งเข้าโจมตีมากเมฆอย่างรวดเร็วดุจสายฟ้าสวรรค์อย่างรุนแรงกลางอากาศ หมายจะจัดการกับมนุษย์ผู้นี้ ให้ตกตายไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยความหวาดกลัวที่สัมผัสได้ก่อนหน้านี้ ด้วยพละกำลังอันมากมายเหลือล้นของมัน เพราะหากยังปล่อยให้เวลาผ่านไปนานมากกว่านี้ ตัวมันเองรู้สึกได้ว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างที่เลวร้ายเกิดขึ้น
จากสัญชาตญาณของมันร้องบอกให้ระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และสิ่งที่เบเฮมอธหวาดหวั่นแท้จริงแล้วไม่ใช่เพียงแต่เฉพาะอาวุธในมือของชายหนุ่มเท่านั้นที่เป็นไม้เท้าเวทมนตร์ระดับสูง แต่ยังมีหนังสือโบราณที่หลงลืมที่เต็มไปด้วยอำนาจพลังลึกลับและยากจะเข้าใจแพร่กระจายพลังออกมาอยู่เสมออีกด้วย ถึงแม้จะไม่ได้นำออกมายังภายนอกก็ตาม
แรงตบทรงพลังจากกรงเล็บขนาดใหญ่ของเบเฮมอธ ส่งผลให้มากเมฆกระแทกเข้ากับพื้นหินอ่อนอย่างแรงเป็นครั้งแรก เป็นเหตุให้พื้นหินอ่อนสวยงามก่อนหน้านี้ ถึงกับแตกกระจายออกไปเป็นวงกว้างและมีหลุมลึกขนาดใหญ่ เบเฮมอธยังคงโจมตีต่ออย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ตัวมันลอยอยู่กลางอากาศ พร้อมกับรวมพลังเวททั้งหมดไปยังปากของมัน หลอมรวมเป็นลำแสงเวททำลายล้างยิงตรงไปยังมากเมฆที่ยังนอนอยู่ในหลุมลึกอย่างไม่ลังเล
เบเฮมอธก็ยิงลำแสงเวทมนตร์สีแดงเพลิง ออกจากปากของมัน พุ่งไปยังมากเมฆอย่างเต็มกำลังเป็นพลังลำแสงเวทที่ร้ายกาจอย่างมากและมีคุณสมบัติของธาตุไฟธาตุแสงผสมผสานกันจนมองเห็นได้ เต็มไปด้วยพลังทำลายล้างสูงอย่างมากและสามารถเจาะเหล็กหนาๆ ได้ง่ายดายราวกับกระดาษเลยทีเดียว
แต่แล้วอยู่ๆ ก็ปรากฏวงแหวนเวทมนตร์หลุมดำขนาดใหญ่ขึ้นมาขวางกั้นลำแสงของสัตว์อสูรเบเฮมอธเอาไว้ พร้อมกับทำการดูดกลืนลำแสงพลังเวทของเบเฮมอธในทันทีอย่างหิวกระหายบ้าคลั่ง
พร้อมๆ กับมากเมฆที่ออกมาจากหลุมลึกได้อย่างปลอดภัย และยังครบ 32 และไม่บาดเจ็บใดๆ แม้แต่น้อย
โดยก่อนหน้านี้มากเมฆได้ใช้บทเวทมนตร์บาเรียป้องกันอันแข็งแกร่ง ที่ได้เสริมด้วยอักขระเวทโบราณและอักษรรูนจำนวนมาก ผสมผสานเข้าด้วยกันร้อยเรียงเป็นวิถีมหาเวทแบบใหม่ที่มากเมฆค้นพบได้โดยบังเอิญ และได้ทำการทดลองอย่างลับๆ ด้วยตนเองมาตลอดหลายปี
จนในที่สุดก็ได้สร้างมหาเวทป้องกันที่เป็นแบบเฉพาะของตัวเองขึ้นมา และกลายเป็นเวทมนตร์บทใหม่ที่มีพลังในการป้องกันอันแข็งแกร่งมากกว่าเวทบาเรียใดๆ ที่มีอยู่อย่างมาก และชื่อที่มากเมฆตั้งให้กับเวทบาเรียใหม่ของตนเองก็คือ โล่อักขระกลืนมายา
มหาเวทมนตร์โล่อักขระกลืนมายา เป็นเวทมนตร์ที่มากเมฆสร้างขึ้นโดยนำเอาบทเวทป้องกันหลากหลายบทเวทระดับตำนานและมหาเวทบรรพกาลมาหลอมรวมเข้าด้วยกัน เข้ากับอักขระเวทแบบต่างๆ และยังได้นำเอาบทเวทมนตร์รูปแบบต่างๆ จำพวกดูดกลืนพลัง และคำสาปร้ายแรง มาผสมเข้าด้วยกันอีกด้วย พร้อมกับใช้อักษรรูนและอักขระโบราณ เข้ามาเสริมอีกหลายต่อหลายชั้นของวงแหวนตั้งต้น ทำให้มันเวทมนตร์บทนี้ร้ายกาจอย่างมาก และถูกเรียกให้เป็นเวทมนตร์ระดับมหาเวทบรรพกาลได้เลยทีเดียว
มีคุณสมบัติในการป้องกันคำสาป ป้องกันการโจมตีทุกรูปแบบ พร้อมกับยังสามารถดูดกลืนทั้งหมดทั้งมวลเอาพลังเหล่านั้นทั้งหมด มาเพิ่มให้กับมากเมฆได้อย่างไม่จำกัดจนกว่าโล่จะแตก
และยังคงมีความสามารถในการสะท้อนกลับความเสียหายทั้งหมดที่ได้รับได้อีกด้วย ถึงดูเหมือนจะสมบูรณ์แบบแล้วราวกับทักษะของพระเจ้า แต่มากเมฆก็ยังคงพัฒนาเวทมนตร์โล่อักขระกลืนมายาอยู่เสมอ เพราะมากเมฆรู้สึกได้ว่ามันยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกมากกว่านี้
กลับมาที่การต่อสู้ของมากเมฆ หลังจากที่ได้ดูดกลืนพลังเวทของอีกฝ่ายมาเป็นของตัวเองแล้ว ชายหนุ่มก็ลอยตัวขึ้นไปกลางอากาศอีกครั้งอย่างงดงาม พร้อมกับวงแหวนเวทมนตร์ ทั้งหมด 8 วงเวทระดับสูงที่ไม่อาจจะวัดได้ที่ด้านหลัง จนก่อให้เกิดเป็นภาพอันงดงามราวกับเทพเจ้าแห่งการทำลายล้างได้มาจุติยังโลกมนุษย์
".. อุ่นเครื่องกันพอแล้วนะครับ ต่อไปผมจะโจมตีบ้างแล้ว .." มากเมฆที่เต็มไปด้วยอารมณ์อันเย็นชา พูดขึ้นพร้อมๆ กับปรากฏวงแหวนเวทออกมาพร้อมกันถึง 8 วงเวทรอบๆ ตัวของเขา
".. พลังพิเศษสายเลือดของเทพวานรแปดแขน เจ้าได้มันมาได้ยังไง .." เบเฮมอธประหลาดใจอย่างมาก แต่เดิมมันก็ได้กลิ่นเทพวานรจากตัวของมนุษย์ผู้นี้อยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรนักเพราะอาจจะเคยเจอกันมาก่อนเมื่อเร็วๆ นี้ก็เป็นได้จึงมีกลิ่นติดตัวมาด้วย เป็นกลิ่นที่มีแต่สัตว์เทพอสูรด้วยกันเท่านั้นที่สัมผัสได้
หลังจากเห็นทักษะพิเศษของเทพวานรแปดแขน เบเฮมอธจึงได้ระวังตัวมากขึ้นกว่าเดิมสิบหลายเท่า เพราะอีกฝ่ายสามารถใช้พลังเวทได้รุนแรงมากกว่าเดิมจากปกติถึง 8 เท่า และยังใช้พลังได้พร้อมๆ กันถึง 8 บทเวทในหนึ่งการโจมตีได้อีกด้วย
".. ความลับ .." มากเมฆยิ้มแต่แววตากับยังเย็นชาเช่นเดิม และเลือกไม่ตอบอะไรออกไป
พร้อมกับระเบิดคลื่นพลังเวทมนตร์ออกมาอย่างรุนแรง มากมายมหาศาลอย่างที่ไม่ควรจะมีอยู่ในผู้เล่นที่ยังระดับเลเวลไม่ถึง 3000 จะมีได้
แต่มากเมฆกับถือเป็นกรณีพิเศษที่หาได้ยาก มีพลังเวทมากมายกว่าคนอื่นๆ หลายหมื่นเท่าเพราะมากเมฆมักจะฝึกฝนและพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของพลังเวทตนเองอยู่เสมอตลอดเวลา เพราะมีตัวช่วยหารพลัง และเป็นกาฝากดูดพลังทุกอย่างอยู่ตลอดเวลาอย่างรากไม้ แถมยังเคยได้ใช้เวทมนตร์ต้องห้ามของเทพมาร จนมีผลลัพธ์ประหลาดอย่างคาดไม่ถึงที่ทำให้ร่างกายในโลกสามพิภพของมากเมฆมีพลังมากมายมหาศาลแบบนี้
ตลอดระยะเวลาหลายปีในเกม มากเมฆได้ฝึกฝนทั้งพลังเวทและพลังลมปราณอยู่ทุกวัน และฝึกการใช้เวทมนตร์และวิทยายุทธ์ไปด้วยกันเสมอ เพื่อให้ตนเองมีความสามารถที่หลากหลาย และสามารถเอาตัวรอดให้ได้ในเวลาคับขัน และด้วยตัวของรากไม้เอง ที่ต้องแชร์การใช้พลังงานต่างๆ กับมากเมฆผู้เป็นนายท่านอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้พลังของมากเมฆหมดไวกว่าปกติหลายสิบเท่าร้อยเท่าในแต่ครั้ง จากการถูกดูดไปใช้ของรากไม้
จึงเป็นเหตุให้พลังเวทมนตร์และพลังอื่นๆ หมดไปและไม่พอใช้อยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่พลังเวทและพลังลมปราณมีอยู่มากมายแล้วก็ตาม ทำให้มากเมฆต้องนั่งพักฟื้นอยู่เกือบ ทุก 30 นาทีในแต่ละวัน ทุกครั้งที่มีการใช้เวทมนตร์ระดับสูงจำนวนมาก
ในตอนแรกมากเมฆไม่เคยได้สังเกตเลยว่า ทุกครั้งที่ใช้พลังหมดอยู่บ่อยๆ ซ้ำๆ กันสักหลายสิบรอบในหนึ่งวัน พอฟื้นพลังกลับมาสมบูรณ์ 100% ก็มักจะเห็นว่าพลังเวทและพลังต่างๆ ของเขาเองมันเพิ่มมากขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และด้วยข้อสังเกตนี่เองทำให้มากเมฆและรากไม้พยายามใช้พลังเวทให้หมดเร็วๆ ก่อนหน้าทุกวัน
เพื่อที่จะพักฟื้นและเพิ่มพลังให้มากขึ้นในครั้งต่อๆ ไป มากเมฆทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆ จนสามารถทำให้พลังเวทของตัวเองหมดลงได้ในทันที ในเวลาแค่ 5 นาทีเท่านั้น เป็นการฝึกพลังที่ปัญญาอ่อนโดยแท้ก่อนนอน
แต่มันกับให้ผลลัพธ์ที่เกินความคาดหมายอย่างมาก จนมากเมฆถึงกับต้องมีตารางเวลาสำหรับฝึกพลังเป็นช่วงๆ อย่างจริงจัง ทั้งที่มีพลังเวทที่วัดค่าเป็นตัวเลขได้มากกว่า 10 ล้านอยู่แล้วก็ตาม
ในที่สุดความพยายามก็เป็นผล มากเมฆรู้แล้วว่าการใช้พลังเวทให้มากๆ เกินขีดจำกัดที่จะรับไหวอยู่บ่อยๆ และทำให้มันหมดไปอย่างรวดเร็วด้วยวิธีการกระจายออก จะเป็นการเพิ่มปริมาณพลังเวทได้มากที่สุดและเร็วที่สุด
โดยไม่ได้อาศัยพลังเวทที่ได้มาจากระดับเลเวลแบบคนอื่นๆ เขาทำกัน
แถมมากเมฆยังมีบทเวทและวิธีการมากมาย ในการเพิ่มพลังให้กลับมาอย่างรวดเร็ว จึงเป็นเหตุให้คนบ้าหนึ่งคน ฝึกพลังเวทและเพิ่มพลังตัวเองอยู่เสมอในแต่ละวันตลอดหลายปีในเกม เพราะหากมากเมฆมีพลังที่น้อยนิด จะไม่ใช่แค่มากเมฆที่ลำบาก แต่รากไม้เองก็จะเดือดร้อนไปด้วย การที่ได้รากไม้เป็นเพื่อนและเป็นเหมือนพี่ชายน้องชาย ทำให้มากเมฆไม่รู้สึกท้อหรือเบื่อหน่าย ในการฝึกฝนและทำอะไรปัญญาอ่อนแบบนี้ซ้ำซากทุกวันตลอดหลายปี และพอมากเมฆฝึกการเพิ่มพลังและฟื้นฟูพลังอยู่บ่อยๆ ทำให้มากเมฆคิดรู้แจ้งเกี่ยวกับวิชาลับและวิชาเวทต้องห้ามที่จะทำให้ตนเองนั้น มีพลังเวทมากมายมหาศาล
พร้อมกับการดูดกลืนพลังงานโดยรอบ มาใช้ให้เป็นพลังเวทได้ไม่รู้จบ ด้วยอักษรรูนและอักขระเวทโบราณต่างๆ ที่มีอยู่ในหัวมาใช้ให้เป็นประโยชน์สูงสุด
มากเมฆยังคงต่อสู้กับเบเฮมอธได้อย่างสูสี ถึงแม้มากเมฆไม่อาจจะเอาชนะมันได้อย่างเด็ดขาด มันเองเจ้าเบเฮมอธก็ไม่อาจจะเอาชนะมากเมฆได้ง่ายๆ เช่นกัน
ในตอนนี้มากเมฆรู้แล้วว่าไอเทมระดับ SSS มันร้ายแรงสุดยอดพลังทำลายล้างมากขนาดไหน พอไม่ได้ใช้มันแล้ว มากเมฆรู้สึกได้ว่าตนเองไร้พลังที่จะจัดการกับเบเฮมอธได้ในขั้นเด็ดขาด เพราะพลังโจมตีของมากเมฆยังไม่ทรงพลังหรือสูงมากพอ
".. เบเฮมอธคุณแข็งแกร่งมากๆ เลยครับ .." มากเมฆกำลังคิดจะเรียกให้รากไม้มาช่วยสู้ด้วยกัน เพราะแค่เขาคนเดียวยังไม่สามารถเอาชนะสัตว์อสูรระดับราชาเลเวล 1500 ได้ โดยไม่ใช้ไม้เท้าเวทมายาระดับ SSS
".. เจ้าเองก็เป็นผู้ใช้เวทที่ร้ายกาจจนน่าตกใจเช่นกัน .." เบเฮมอธเข้าใจดีเลยว่า หากอีกฝ่ายมีระดับพอๆ กับมันแล้วละก็ไม่เกิน 3 นาทีตนเองจะต้องพ่ายแพ้อย่างแน่นอน
สิ่งที่ขาดไปสำหรับชายหนุ่มคนนี้ ก็คือพลังทำลายและพลังโจมตีและระดับเลเวลในปัจจุบัน ที่ต้องมีมากกว่านี้และทรงพลังมากกว่านี้ให้มากๆ เพราะในตอนนี้เจ้าหนุ่มคนนี้มันมีทั้งความรู้และทักษะเวทที่หลากหลายอยู่แล้ว พร้อมๆ กับพลังป้องกันอันร้ายกาจจนน่ากลัว แถมยังมีพลังเวทมนตร์ที่มากมายไม่รู้จบนั่นอีก เบเฮมอธในเวลานี้ยอมรับแล้วว่าตนเองก็ไม่อาจจะเอาชนะอีกฝ่ายได้เช่นกัน
ทั้งสองเหมือนเป็นจุดแตกต่างของเหรียญคนละด้าน เบเฮมอธคือตัวแทนของความแข็งแกร่งทรงพลังอำนาจ ผู้มีพละกำลังมากมายมหาศาลเป็นสุดยอดของสายโจมตีทางกายภาพที่ไม่มีวันหมดหรือรู้จักเหน็ดเหนื่อย มีพลังในการโจมตีและทำลายล้างอันไม่สิ้นสุด
ส่วนมากเมฆเป็นอีกด้านของเหรียญ มีพลังเวทมนตร์อันไร้ขีดจำกัดและเต็มไปด้วยทักษะเวทที่มากมายราวกับดวงดาวบนฟ้า มีพลังป้องกันอันแข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบราวกับเทพเจ้า
มากเมฆในเวลานี้เองก็ยอมรับแล้วว่า เขาเองไม่อาจจะเอาชนะเบเฮมอธได้ ไม่ว่าจะพลังโจมตีหรือทักษะการต่อสู้ที่มีอยู่ หรือใช้เวทมนตร์โจมตีแบบไหนก็ตาม เบเฮมอธก็สามารถแก้ทางและป้องกันได้เสมอ พลังป้องกันของเบเฮมอธก็เป็นปัญหาอย่างมากสำหรับมากเมฆเช่นกัน
ถึงแม้มากเมฆอาจจะมีหนทางที่จะทำให้ชนะได้อยู่ แต่มากเมฆก็ไม่กล้าที่จะใช้มันในสถานที่แห่งนี้ เพราะหากใช้ไปแล้วคนรอบข้างอาจจะตายไปด้วยกันทั้งหมดแน่ๆ เวทระดับตำนาน หรือมหาเวทโบราณ ผ่านทางไม้เท้าระดับ SSS มันเป็นอะไรที่เกินเลยไปมากหากนำมาใช้บนยอดหอคอยแห่งนี้
ทันใดนั้นในระหว่างที่กำลังคิดหาหนทาง อยู่ๆ มากเมฆกับได้ยินสิ่งที่เบเฮมอธร้องบอกและตกใจอย่างมาก ถึงสิ่งที่ได้ยินและได้รับในเวลาเดียวกัน
".. พวกเจ้าทั้งหมดไปได้แล้ว ข้าสนุกมากพอแล้ว หากมีโอกาสอีกครั้งข้ายังอยากจะสู้กับเจ้าอีกสักครั้งในสถานที่ที่ข้าสามารถใช้พลังทั้งหมดได้อย่างเต็มที่ และเจ้าหนูเจ้ามีชื่อว่าอะไร จงบอกข้ามา .." เบเฮมอธมองมาที่มากเมฆและเต็มไปด้วยความต้องการต่อสู้อีกครั้งในวันข้างหน้า และตัวมันเองก็ต้องการจะสลายหายไปจากสถานที่แห่งนี้ผ่านทางพันธะสัญญาของผู้แพ้
โดยที่มันยอมตายเพื่อให้หลุดพ้นออกจากคุกลับ เพื่อกลับไปยังดินแดนของมันเพื่อเริ่มต้นใหม่
".. ผมชื่อมากเมฆครับ .." มากเมฆพูดตอบโดยใช้เสียงลมปราณในการพูดคุย และให้เบเฮมอธได้ยินเท่านั้น เพราะหากพูดตอบแบบปกติสองสาวจะรู้ว่าตนเองนั้นมีว่าชื่ออะไร ถึงแม้เกมสามพิภพจะอนุญาตให้ใช้ชื่อซ้ำกันได้ แต่มากเมฆไม่อยากให้สองสาวรู้อยู่ก่อนแล้วก็เลยต้องระวังในคำพูดให้มากไว้ก่อน
สำหรับเบเฮมอธการยอมรับความตาย จากการที่ตนไม่อาจจะเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ และเป็นการยอมรับความตายจากความพึ่งพอใจและเต็มอิ่มกับการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนี้อย่างมาก พร้อมกับเงื่อนไขที่ว่าหากไม่เสียชีวิตในหน้าที่ ประตูเคลื่อนย้ายก็จะไม่ปรากฏขึ้น เบเฮมอธจึงเลือกที่จะตายและปล่อยให้ทั้งปาร์ตี้ได้ออกไป
เพราะเหตุผลสำคัญของมันจริงๆ คือความเบื่อหน่ายที่ต้องมานอนเฝ้าและรอคอยอยู่ที่นี่มานานแสนนาน หลายร้อยหลายพันปี พอได้สู้สมใจปรารถนา มันก็เลือกที่จะช่วยให้คนที่ทำให้มันพอใจและมีความสุขออกไปจากที่นี่
พร้อมๆ กับมอบรางวัลสำหรับความพอใจและเต็มอิ่มในครั้งนี้ให้กับคนคนนั้นอีกด้วย จึงกลายเป็นความตายที่เต็มไปด้วยความพอใจและมีความสุข และมันเป็นสิ่งที่มากเมฆคงไม่มีวันเข้าใจ ตรรกะความคิดของสัตว์อสูรเบเฮมอธได้เลย
".. เอานี่ไป มันอยู่ที่กับข้าก็ไม่มีประโยชน์อีกแล้ว มอบให้เจ้าเผื่อไว้วันข้างหน้า เจ้าจะได้แข็งแกร่งและเก่งมากกว่านี้ ข้าอยากจะลองสู้กับเจ้าอีกสักครั้ง ทั้งพลังเวทมนตร์และทักษะการต่อสู้ เจ้ายังขาดพลังทางกายภาพรับมันไว้แล้วเจ้าจะเข้าใจได้เอง มนุษย์ที่ข้ายอมรับมากเมฆ .."
เบเฮมอธมอบการ์ดวิเศษคำอวยพร ให้กับมากเมฆ พอมาอยู่ในมือของมากเมฆก็ปรากฏข้อความทั้งหมดในหัวแจ้งเตือนออกมา พร้อมกับการ์ดสีทองใบนั้นก็หายไป หายเข้าไปในร่างกายของมากเมฆ
[: ผู้เล่นมากเมฆได้รับการยอมรับจากใจจริงจากราชาอสูรเบเฮมอธ ทำให้ได้รับพลังและคุณสมบัติ :]
[: พิเศษบางอย่าง จากอสูรกายโบราณเบเฮมอธ ได้รับพลังความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น 50-1000% :]
[: พลังป้องกันทางกายภาพและเวทมนตร์ เพิ่มขึ้น 50-1000% :]
[: ได้รับออร่าของราชันอสูรโบราณเบเฮมอธ ทำให้เพิ่มค่าความเสียหายพลังโจมตีต่อ :]
[: ผู้เล่นและสัตว์อสูรทั้งหมด ได้รุนแรงขึ้น 50-1000% โดยไม่ติดเงื่อนไขของระดับเลเวล :]
[: ฟื้นฟู HP พลังชีวิตได้เร็วขึ้น 50% ต่อ 58 วินาที ในขณะต่อสู้เท่านั้น :]
[: ฟื้นฟู พลังกายพลังใจและความเหนื่อยล้า 50% ต่อ 30 วินาที ในขณะต่อสู้เท่านั้น :]
มากเมฆไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเบเฮมอธถึงได้มอบพลังเหล่านี้ให้กับตน ไม่ได้ช่วยเหลือหรือแม้แต่เอาชนะอีกฝ่ายได้เลย แต่กับได้รับรางวัลเป็นอะไรที่มากเมฆไม่เข้าใจและคงไม่มีวันคิดออกแน่ๆ
".. ไปซะ ขอให้โชคดี เจ้าหนูมากเมฆ .." พูดจบเบเฮมอธก็ค่อยๆ สลายหายไปอย่างช้าๆ กลายเป็นละอองแสงลอยขึ้นไปยังบนท้องฟ้าลอยไปสู่ดวงดาวอันห่างไกล
พร้อมกับรอยยิ้มที่แต่เดิมเคยเป็นรอยยิ้มที่ให้ความรู้สึกที่ไม่ดีและน่าหวาดกลัว
แต่ในเวลานี้รอยยิ้มของสัตว์อสูรตนนี้กับเต็มไปด้วยความสุขและความพอใจอย่างถึงที่สุดแล้วในชีวิต และไม่นานหลังจากที่เบเฮมอธได้หายไป ก็ปรากฏประตูเคลื่อนย้ายทางไกลออกมา ทุกคนจึงได้เดินเข้าไปในประตูมิติและถูกวาปออกมาข้างนอก
ปาร์ตี้แหกคุกลับของทั้ง 4 คนกับ 1 เอไอได้ถูกยกเลิกในทันทีหลังจากออกมาข้างนอกแล้ว
มากเมฆและรากไม้ได้ไปปรากฏตัวที่จุดเกิดหายนะที่ตนเองได้สร้างเอาไว้ ตรงที่เสียชีวิตครั้งล่าสุด ส่วนคนอื่นๆ ถูกสุ่มส่งไปยังสถานที่ต่างๆ กันไป
อาจารย์ไป่หลงถูกวาปกลับไปยังเมืองใกล้ๆ ส่วนอีกสองสาวถูกวาร์ปไปคนละเมือง ละทิศละทางแบบสุ่มกันไปไกลทั้งที่สองสาวอยากจะเพิ่มมากเมฆเป็นเพื่อนก่อน แต่พอมีหนึ่งคนเดินเข้าไปในประตูมิติคนอื่นๆ ก็ถูกวาร์ปในทันที และชาตินี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้วละมั้ง
แต่เชื่อได้ว่าสองสาวจะต้องตามหาบุคคลที่ช่วยเหลือให้เธอแหกคุกสำเร็จออกมาได้อย่างแน่นอน เพราะเธอทั้งสองคนยังไม่ได้พูดขอบคุณและตอบแทนอะไรเลยนั่นเอง และเพราะเหตุนี้ทั้งสองสาวจึงตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะต้องออกตามหา ผู้มีพระคุณให้เจอให้จงได้และได้กลายมาเป็นจุดหมายในการเล่นเกมของทั้งสองคนไปในที่สุด
ส่วนมากเมฆยังคงคิดหาเหตุผลว่าทำไม เบเฮมอธถึงได้ให้พลังพิเศษของตัวเองกับตัวเขา
การได้รับอะไรมาโดยไม่ได้ทำอะไรเลย แถมยังทำร้ายเบเฮมอธด้วยตอนที่ต่อสู้กันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แล้วทำไมถึงให้การ์ดวิเศษใบนั้นกับเขา !!??
มันรู้สึกแปลกๆ อย่างบอกไม่ถูก นั่นก็เพราะมากเมฆแต่เดิมเวลาจะได้รับสิ่งใด ก็ต้องมีเหตุและผลอยู่เสมอมาตลอด ไม่เคยได้รับสิ่งของจากใคร หรือมีใครเคยให้อะไรกับมากเมฆโดยไม่แลกเปลี่ยน โดยไม่ได้ตอบแทนแบบในครั้งนี้
แต่ในครั้งนี้คงจะเป็นครั้งแรกในชีวิตของมากเมฆที่ได้รับของขวัญมาโดยไม่ได้ทำอะไร เป็นการให้ครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของสัตว์อสูรเบเฮมอธ เป็นการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ จากผู้รับนั่นเอง
ของขวัญจากอสูรโบราณมากเมฆคงไม่มีวันคิดออก และกว่ามากเมฆจะเข้าใจคำว่า ให้ ได้อย่างแท้จริงและรู้สึกได้ว่าการให้คืออะไร
มันก็คงเป็นเรื่องที่อีกนานกว่าจะรู้และเข้าใจได้ของชายหนุ่ม ที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดและถูกทิ้งไม่ให้ได้รับความรักจากใครๆ มาตลอดเกือบ 19 ปี ในบ้านเก่าๆ ที่มีหุ่นยนต์สังหาร รอคอยวันเวลาที่จะได้ฆ่าเขาให้ตายในวันเวลาที่กำหนดเอาไว้เมื่อมากเมฆอายุครบ 20 ปี เรื่องบางเรื่องคงเข้าใจง่าย และเรื่องบางเรื่องคงยากเกินไปสำหรับบางคน เพราะแต่ละคนเกิดมาแตกต่างกันไป ไม่มีใครเหมือนเราหรือเราไปเหมือนใครทั้งหมด 100% นี่ละคือมนุษย์
…
นี่ล่ะชายที่ชื่อมากเมฆ มนุษย์ผู้มีตรรกะความคิดไม่เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเขา ...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

[พิเศษ.....] ทำไมไม่เขียนให้ต่อกันไปเลยอะครับ
มากเมฆผู้ไม่เหมือนใคร
ปล.ขอสเตตัสมากเมฆหน่อยค้าาาาาา
ความต่างเลเวลนี้ทีความหมายบ้างมั้ย
และยังรู้ทักษะเวททั้งหมดตั้งแต่ตอนก่อนๆ และเข้าใจอักขระโบราณทั้งหมดอีก
แถมยังมีการ์ดคำอวยพรถึง 2 ใบ และยังมีไอเทมระดับ SSS อีกด้วย
เหตุที่เลเวลยังไม่สามารถอัพเกิน 30 ได้ก็เพราะติดเงื่อนไข แต่สเตตัสและความสามารถ
มันไปไกลกว่านั้นมากๆ แล้ว เกมนี้ในบทต่อๆ ไปจะมีบอกครับ
จากที่เป็นไปไม่ได้ ถูกเปลี่ยนให้เป็นไปได้ (สกิลพระเอกครับ น่าจะเข้าใจง่ายที่สุด)
เกมนี้เป็นแบบฝึกฝนเอานะถึงได้พลังและสเตตัสมา ผมสปอยมากไปขอโทษด้วยนะครับ
แล้วอย่างนี้ถ้าพอมาเกิดใหม่ จะต้องไปเฝ้าอยู่ที่เดิมไหมคะ
หรือว่ามีสิทธิเป็นอิสระหลุดพ้นได้นะคะ?
อะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ บฮม หล่อสุดแล้วตอนนี้
"ซะ" อีก
บุรุษผู้ "ไร้อารมณ์
ทุก 1 "ชั่ว" โมง
และด้วย "ข้า" สังเกต - อันนี้เดาไม่ออกค่าาา "ค่า" ?
ไป "ซะ"
ขอบคุณครับ