ตอนที่ 14 : บทที่ 14 มรรคาบู๊ล้างโลก !!??
บทที่ 14 มรรคาบู๊ล้างโลก !!??
การทดลองที่ว่านี้มันก็คือ การทดลองย้ายจิตสำนึกความคิดการรับรู้ในทุกรูปแบบ คลื่นสมองของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ ย้ายเข้าไปยังเกมสามพิภพนั่นเอง แต่ก่อนที่จะทำแบบนั้นได้ทางระบบหลักรวมไปถึงผู้สร้างนักวิจัยระดับสูงและผู้บริหารต่างก็ได้วางแผนต่างๆ เอาไว้แล้วมากมายถึงความน่าจะเป็นไปได้ของการทดลองในครั้งนี้ จากการค้นพบหนึ่งในความลับพิเศษของพลังคลื่นสมองของมากเมฆ
ทางผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ได้ลงมติทำการติดต่อไปยังอาจารย์ไป่หลงโดยตรง และอธิบายถึงความจำเป็นในการทดลอง และพูดถึงหลักความจริงของเวลาที่เหลือของปรมาจารย์นั้นใกล้จะหมดลงแล้ว และยังได้บอกความลับบางอย่างให้กับปรมาจารย์รับรู้ด้วยอีกว่า การทดลองที่จะกำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นผลมาจากการทดลองและศึกษาความวิเศษของพลังคลื่นสมองของลูกศิษย์ของเขาที่ชื่อว่ามากเมฆ โดยได้เล่าถึงรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับข้อมูลความเป็นมาของมากเมฆ ให้อาจารย์ไป่หลงได้รับรู้ รวมไปถึงเรื่องที่ยังไม่ได้บอกเกี่ยวกับการแอบศึกษาพลังพิเศษของชายหนุ่มอีกด้วย
ในตอนแรกอาจารย์ไป่หลงโกรธอย่างมาก ที่กลุ่มคนเหล่านี้ผู้มีอำนาจเงินทองทำกับลูกศิษย์ของเขาแบบนี้ราวกับเป็นหนูทดลองที่ถูกควบคุมไว้ ทั้งยังแอบศึกษาพลังพิเศษของคนอื่นโดยไม่ได้ขออนุญาต และยังจะเอามาใช้ทดสอบหาผลประโยชน์โดยไม่บอกกล่าวใดๆ ให้อีกฝ่ายได้รับรู้อีกด้วย ช่างเป็นกลุ่มคนที่หน้าด้านไร้ยางอายอย่างที่สุดเท่าที่เคยพบเจอ
แต่ด้วยคำขอร้องและเหตุผลบางอย่างที่ระบบหลัก ZERO ได้บอกกล่าวกับอาจารย์ไป่หลงเป็นการส่วนตัว กับทำให้ท่านอาจารย์ยอมรับและตัดสินใจเข้ารับการทดลองในครั้งนี้ ด้วยข้อตกลงบางอย่างที่เป็นความลับ
หากการทดลองสำคัญในครั้งนี้ เกิดประสบความสำเร็จอย่างงดงามแล้วละก็อาจารย์ไป่หลงก็จะสามารถถ่ายทอดวิชาความรู้ที่มีอยู่ให้กับมากเมฆได้ทุกวันตลอดเวลา และคอยปกป้องลูกศิษย์คนสุดท้ายได้อย่างเต็มที่จากข้อตกลงบางอย่างกับระบบหลัก ZERO และผู้สร้างที่เรียกตัวเองว่า GOD เพราะหลังจากที่ได้รับรู้ถึงความเป็นมาของมากเมฆที่สืบค้นได้โดยสายลับระดับสูงของผู้สร้าง GOD อาจารย์ไป่หลงถึงกับปวดใจอย่างมากและรู้สึกสงสารเห็นใจเด็กหนุ่มคนนี้จนเก็บน้ำตาไว้ไม่อยู่ และไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในยุคสมัยนี้ยังจะมีครอบครัวที่โหดร้ายกับลูกหลานของตนเองได้ถึงขนาดนี้อยู่ด้วย
หลังจากที่ตอบรับการทดลองในครั้งนี้ และยินดีที่จะใช้ชีวิตอยู่ในโลกเสมือนจริง อาจารย์ไป่หลงจึงได้ออนไลน์อีกครั้ง และบอกกับมากเมฆว่าจะไม่ได้ออนไลน์ในเกมไปสักระยะ และในระหว่างนี้ที่อาจารย์ไม่อยู่ก็ยังได้มอบ "คัมภีร์ไม้เท้าเงาลม" เอาไว้ให้มากเมฆได้ฝึกฝน เพราะทุกๆวัน มักจะเห็นมากเมฆฝึกไม้เท้าเวทเก่าๆ อยู่เสมอ กับเจ้ารากไม้ที่มักจะถืออาวุธหลากหลายชนิดเข้าต่อสู้กัน ฝึกซ้อมไม่เว้นแต่ละวันจนชินตา จึงได้มอบวิชาไม้เท้าเงาลมให้มากเมฆได้ศึกษาและฝึกฝนด้วยตนเองในขณะที่ตนไม่อยู่
และยังได้มอบ "คัมภีร์พันศาสตราเทพ" ให้กับเจ้าเอไอรากไม้ไว้ศึกษาและฝึกฝนอีกด้วยเช่นกัน
เพราะยังไงเจ้าเอไอที่ชื่อรากไม้ก็ยังเรียกตนเองว่าอาจารย์ จะไม่ให้วิชายุทธ์ใดๆ ไว้ฝึกฝนเลย ก็ดูจะใจดำเกินไปหน่อย ถึงแม้ร่างกายของเอไอจะไม่สามารถฝึกฝนและเข้าใจวิถีแห่งลมปราณได้ก็ตามในตอนนี้
//- มากเมฆได้รับมอบคัมภีร์ไม้เท้าเงาลม - //
//- - รากไม้ได้รับมอบคัมภีร์พันศาสตราเทพ - - //
เวลาผ่านไปไว้ราวกับโกหก 1 เดือนสำหรับโลกภายนอก กับได้เกิดข่าวใหญ่ข่าวดังที่ทำให้ทั้งโลกและระบบสุริยะจักรวาล ดวงดาวต่างๆ และเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาระดับสูง ต่างก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงอีกครั้งกับสิ่งที่เกิดขึ้น
เมื่องานวิจัยล่าสุดของผู้ที่เรียกตัวเองว่า GOD ผู้ที่อยู่เหนือกว่าสามมหาอำนาจ ผู้ที่เป็นนายเหนือหัวแท้จริงของทั้งสามมหาอำนาจและยังเป็นเจ้าของอันแท้จริงของสามพิภพออนไลน์ ได้ประสบความสำเร็จอีกครั้งอย่างยิ่งใหญ่และถูกบันทึกลงไปยังหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ ที่ประสบความสำเร็จในการย้ายจิตสำนึกของบุคคลในตำนานอย่างปรมาจารย์เทพไป่หลง ผู้เป็นสุดยอดฝีมือในด้านการต่อสู้อันดับหนึ่งของระบบสุริยะและของโลก เมื่อร้อยปีก่อนเข้าไปยังมิติจักรวาลเสมือนจริงได้สำเร็จอย่างงดงาม และไม่พบโอกาสที่จะผิดพลาดหรือความผิดปกติใดๆ เลยแม้แต่น้อย จากพลังพิเศษคลื่นสมองต้นแบบของมากเมฆที่ช่วยในการวิจัยและทดลองต่างๆ ให้เป็นไปได้ด้วยดีและประสบผลสำเร็จอย่างมากมายในระดับที่คาดไม่ถึง
หลังจากข่าวความสำเร็จได้ถูกกระจายออกไปเป็นวงกว้าง กลุ่มอำนาจมืดและกลุ่มบุคคลที่ทรงอิทธิพลอำนาจมากมายที่ไม่อยากจะตาย ต่างก็ต้องการจะเข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้ย้ายจิตสำนึกไปยังโลกเสมือนจริง และอยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่เจ็บไม่แก่และไม่ตาย สร้างความโลภและความต้องการให้กับกลุ่มคนเหล่านั้นอย่างมาก
ถึงกับมีบางกลุ่มของมหาอำนาจได้ตกลงร่วมมือกัน เพื่อที่จะเข้ามายึดครองผลงานและงานวิจัยทั้งหมดของกลุ่มผู้สร้างและสามมหาอำนาจให้จงได้
แต่ก็เหมือนๆ กับทุกครั้งที่ผ่านมาโดยตลอด ไม่ว่ากลุ่มมหาอำนาจเหล่านั้นจะพยายามมากแค่ไหน ใช้วิธีการสกปรกยังไงก็ตาม ก็ไม่อาจจะเอาชนะหรือมีอำนาจเหนือกว่าผู้สร้างที่เรียกตัวเองว่า GOD ได้เลย
แถมยังเป็นการเรียกร้องหาความตายทำลายชีวิตตนเองอย่างโง่ๆ โดยกลุ่มอำนาจเหล่านั้นทั้งหมดได้เสียหายจนเกือบจะถูกทำลายตัวมันเองจนไม่มีอะไรหลงเหลือแม้แต่ชีวิต
แทนที่จะได้ยึดครองในสิ่งที่หมองปองต้องการ กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดกับถูกองค์กรผู้สร้างที่ทำตัวลึกลับอย่างมาก ที่ใช้นามเรียกขานกันว่า GOD ค่อยเป็นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังเสมอ เข้ายึดครองควบคุมกลุ่มคนเหล่านั้นได้ทั้งหมดอย่างเด็ดขาด และกลุ่มอำนาจเหล่านั้นก็จะค่อยๆ หายไปอย่างช้าๆ จนไม่มีเหลือ..หลักฐานการมีอยู่ใดๆ ให้ค้นหาได้อีกตลอดกาล
ด้วยเหตุผลการมีอยู่ขององค์กรผู้สร้าง GOD ผู้ลึกลับในเงามืด ทำให้แม้แต่กลุ่มมหาอำนาจอย่างตระกูลเมฆาเทพผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกร ไม่เคยเห็นหัวใครมาตลอดหลายร้อยปี ก็ยังไม่อาจกระทำการใดๆ ได้มากนัก
จนเป็นเหตุให้ตระกูลเมฆาเทพ ได้แต่ต้องกลายเป็นผู้ตามหลังและค่อยมองจากจุดที่ต่ำกว่าเสมอ เพราะหากลงมือกระทำการใดๆ ที่มีผลลัพธ์ไม่แน่นอน 100% ว่าจะสำเร็จแล้วละก็ก็อาจจะทำให้กลุ่มมหาอำนาจของตนเสียหายและจบสิ้นไปจากระบบสุริยะจักรวาลก็เป็นได้
ย้อนกลับไปยังมากเมฆเมื่อ 1 เดือนก่อนเวลาโลกจริง หรือราวหนึ่งพันสี่ร้อยกว่าวันในเกมที่ในเวลานั้นชายหนุ่มเพิ่งได้รับคัมภีร์ยุทธ์มาสดๆ ร้อนๆ ด้วยความที่เคยดูหนังจีนกำลังภายในมาก่อนจำนวนมากหลายต่อหลายเรื่องทั้งยุคเก่ายุคใหม่ ทำให้รู้สึกอินไปกับการเล่นเกมในตอนนี้อย่างมาก กับคัมภีร์ไม้เท้าเงาลมที่ได้รับมอบจากอาจารย์ไป่หลง ถึงแม้ไม่รู้ว่ามันจะเป็นวิชาที่ร้ายกาจหรือเปล่า หรืออาจจะเป็นแค่วิชาพื้นฐานทั่วไป แต่ด้วยจินตนาการของมากเมฆที่ในเวลานี้ได้หลุดออกนอกจักรวาลไปไกลแล้ว ด้วยความเร็วในการคิดและจินตนาการของเขา
ได้มโนและศึกษาแนวทางจากคัมภีร์ที่ได้รับมาอย่างจริงจัง จนถึงขั้นที่ว่าคิดไปเองเสียมากกว่า 99% จากทั้งหมด เช่น เงาลมนั้นไม่เคยมีตัวตนมาก่อน มองไม่เห็นจับต้องไม่ได้ พอคิดแบบนี้แล้วมากเมฆก็รู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก พร้อมกับคาดหวังไว้อย่างมากกับวรยุทธ์ในคัมภีร์เล่มนี้ ว่ามันจะต้องร้ายกาจและเป็นสุดยอดวิชาอย่างแน่นอน
ส่วนเจ้ารากไม้ในเวลานี้ มันได้ยอมแพ้ในวิธีการฝึกฝนแบบปกติไปแล้ว จึงหันมาฝึกวิชาแบบเอไอหล่อๆ ที่เขาทำกันดีกว่า มันจึงทำการสแกนหนังสือทั้งเล่มและโหลดข้อมูลเข้าหัวในทันที ไม่ต้องฝึกกระบวนท่าร่ายรำหรือทำอะไรให้มากมาย
แค่นั่งหลับตาและทบทวนไปมาอย่างช้าๆ หาข้อบกพร่องของวิชาออกมาได้อย่างรวดเร็วผ่านทางสมองกลอัจฉริยะ ผสมผสานไปกับรูปร่างต่างๆ ในจินตนาการของรากไม้ที่ได้รับอิทธิพลจากนายท่านมากเมฆ ที่ตนเองอยากจะใช้วรยุทธ์ชุดนี้กับร่างกายที่ตนสามารถแปลงกายได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะร่างมนุษย์ ร่างมังกรไม้ ร่างสัตว์อสูรในแบบต่างๆ เป็นต้น
เพราะยังไงมันก็เป็นเอไอระดับสูงแล้ว การจะให้เอไอฝึกวรยุทธ์อะไรก็ตามที่เป็นขั้นเป็นตอนแบบในอดีตมันคงเป็นไปไม่ได้ ด้วยร่างกายแท้จริงที่ไม่ใช่มนุษย์ และข้อจำกัดต่างๆ ที่มีอยู่มากเกินไป สุดท้ายรากไม้ก็เลือกหนทางที่ถูกต้องของตนเองได้ในที่สุด
แต่หากในกรณีที่รากไม้ในอนาคตที่ไม่แน่นอน อาจจะได้รับร่างกายที่คล้ายกับมนุษย์ดัดแปลง และต้องการจะฝึกวรยุทธเพื่อให้เกิดกำลังภายในและลมปราณอย่างแท้จริง มันก็แค่บันทึกภาพเป็นวีดีโอและเอกสารต่างๆ ผ่านการประมวลผลอย่างถูกต้อง และทำการย้อนภาพและทบทวนด้วยความเร็วของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในหัวที่มีอยู่ไม่ว่าจะวรยุทธ์อะไรหรือยากเย็นแค่ไหนก็ตาม เอไอรากไม้ก็สามารถฝึกฝนได้ตามตำราทั้งหมด 100% ที่เหลือก็แค่นำออกมาใช้จริงและหาประสบการณ์เพิ่มเติมเท่านั้น
มากเมฆยังคงฝึกวิชาไม้เท้าของเขาเองไปเรื่อยๆ ตามที่เขียนไว้ในตำราทั้งหมดอย่างช้าๆ โดยอ่านไปไม่ต่ำกว่า 300 รอบแล้วเห็นจะได้ แต่ก็ยังมีส่วนที่ไม่เข้าใจและสงสัยอยู่มากพอสมควร ชายหนุ่มรู้สึกว่ากระบวนท่าที่มีและการเดินลมปราณ ผ่านร่างกายตามการเคลื่อนไหวที่กำหนดมาในเคล็ดวิชาเกือบทั้งหมดมันไม่ต่อเนื่องเสียเลย ถึงจะโจมตีได้รวดเร็วราวกับลม แต่ก็อาศัยจังหวะและการเคลื่อนย้ายพลังลมปราณรวมไปถึงกำลังภายในไปยังจุดชีพจรต่างๆ ของร่างกายที่มากเกินไป
และหากในจังหวะที่การเคลื่อนไหวของกระบวนท่านั้นๆ ไม่ต่อเนื่องจนเสียโอกาสในการโจมตีจุดตายหรือเอาชนะโดยเร็ว ตามหลักการของวิชา ลมไร้เงา มันจะส่งผลเสียต่อพลังลมปราณที่ใช้ไปอย่างมากและดูไม่คุ้มค่าเสียเลย ในเวลาแบบนี้มากเมฆอยากให้อาจารย์ไป่หลงอยู่ใกล้ๆ เสียจริง จะได้ถามในสิ่งที่อยากรู้และสงสัยได้ทั้งหมด
แต่ถึงจะไม่เข้าใจ มากเมฆก็หาได้ใส่ใจมากนัก สู้เลือกลองฝึกฝนและลองผิดลองถูกในแบบของตัวเขาเองก็น่าจะดีกว่าไปตามแบบอย่างของตำราทั้งหมด อันไหนยากไม่ดีก็ปรับเสียหน่อย อันไหนง่ายไร้พลังไม่มั่นคงก็เพิ่มนิดหน่อย อันไหนไม่เข้าใจก็ลองคิดใหม่สร้างใหม่ไปเลย แบบนี้น่าจะเข้าท่ามากกว่า และด้วยวิธีการฝึกและคิดมโนเอาเองแบบหลุดกรอบของมากเมฆแบบไม่ใช้ตรรกะใดๆ แบบคนปกติทั่วไปพึงจะมี
จึงได้ก่อให้เกิดกำเนิดวิชาไม้เท้าเงาลมเวอร์ชั่นใหม่ ที่ดูต่างจากของเดิมไปมากโข ชนิดที่ว่าจะเรียกเป็นคนละวิชาเลยก็ได้ แค่มีพื้นฐานที่มาเหมือนๆ กันแค่นิดหน่อยเท่านั้นเอง แค่ชื่อละมั้ง!!??
ในตอนนี้ที่ทุกครั้งที่ชายหนุ่มผู้มีทักษะการมโนอย่างเหลือเชื่อ ได้ทำการฟาดไม้เท้าออกกระบวนท่าเงาลมออกไปตามหลักวรยุทธ์แนวคิดของตนเองในเวอร์ชั่นใหม่สุดแจ่ม ก็มักจะเกิดเป็นการโจมตีด้วยพลังลมปราณอันแปลกประหลาดที่ทำการบีบอัดแรงลมและมวลธาตุอากาศโดยรอบไว้อย่างมหาศาล พุ่งตรงไปยังเป้าหมายเข้าโจมตีได้อย่างแม่นยำทั้งระยะใกล้และไกล ในวิถีตรงและวิถีโค้งได้อย่างหักมุมอย่างคาดไม่ถึงถึงหลักการที่ใช้ในการควบคุมพลัง แถมยังรวดเร็วจนตาแทนจะมองไม่เห็น ถึงการเคลื่อนไหวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ
กลายเป็นการโจมตีกายภาพที่มีการผสมผสานพลังธรรมชาติ และพลังลมปราณรวมอยู่ด้วยอย่างลงตัวในทุกๆ การเคลื่อนไหวที่ดูเร้นลับราวภูตพราย และถึงแม้มากเมฆจะฝึกฝนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ในป่าเท่านั้น เพราะเขาเองยังไม่ได้ลองต่อสู้กับรากไม้ในเวลานี้ เหตุเพราะยังไม่แน่ใจว่าวิชาของตนนั้นฝึกจนเข้าขั้นแล้วรึยัง
ทุกกระบวนท่าเงาลมต่างมีช้ามีเร็ว มีจริงมีเท็จ แต่มากเมฆกับแก้ไขใหม่
เพื่อให้กลายเป็น ทุกกระบวนท่ามีเห็นและไม่เห็น มีตายกับไม่ตายเท่านั้นเอง กลายเป็นวิชาสุดโหดไปแล้วแบบง่ายๆ เล่นฝึกเสียจนกลายเป็นวิชาใหม่ไปแล้วพ่อคุณ
กว่าหนึ่งพันสี่ร้อยกว่าวันในเกมที่ผ่านมา มากเมฆได้ค้นพบแล้วว่าตัวเขาเองนั้นฝึกผิดและไปคนละทิศละทางกับคัมภีร์เงาลมฉบับดั้งเดิมของอาจารย์ ชนิดที่ว่าหากให้คนตาบอดได้ฝึกวิชาพวกนี้
คนเหล่านั้นก็ยังสามารถฝึกตามตำราได้มากกว่า 40% เป็นอย่างน้อย แต่มากเมฆกับหลุดไปไกล
//- - ออนไลน์ 1 วัน 24 ชั่วโมง เท่ากับ 48 วันในโลกของเกม - - //
//- - ออนไลน์ 1 เดือนเต็ม 30 วัน เท่ากับ 1,440 วันในโลกของเกม - - //
ในตอนแรกมากเมฆก็คิดไปว่าตนเองฝึกสำเร็จแล้วแน่ๆ แต่พอลองเอาคัมภีร์ไม้เท้าเงาลมไปให้เจ้ารากไม้ลองฝึกดู โดยให้รากไม้ใช้กำลังภายในของตัวเองเป็นแหล่งพลังงาน เจ้าเอไอรากไม้จึงใช้วิธีการเดิมของเอไอระดับสูงที่พึงจะมีก็คือสแกนตำราทั้งเล่มทั้งหมด โหลดเข้าหัวแล้วจึงเริ่มฝึกให้มากเมฆดูตั้งแต่ต้นจนจบ
ทุกๆ กระบวนท่าและท่าทางเคลื่อนไหวทั้งหมดของรากไม้ รวมไปถึงอานุภาพของเคล็ดวิชา แตกต่างจากที่มากเมฆฝึกฝนเองชนิดที่เรียกได้ว่า มันคนละวิชากันชัดๆ
เจ้าเอไอรากไม้เองก็ไม่คิดเลยว่านายท่านของมัน จะหลุดจากสามัญสำนึกปกติไปมากขนาดนี้เหมือนกัน จะเรียกว่าอัจฉริยะหรือปัญญาอ่อนหรือไอ้บ้าดี
".. ผมเริ่มกลัวนายท่านจริงๆ แล้วนะเนี่ย หากอาจารย์กลับมาเห็น และหาวิชาใหม่ๆ มาให้นายท่านฝึกเพิ่มอีก มันคงกลายเป็นวิชาประหลาดอะไรอีกก็ไม่รู้สิเนี่ย จะเรียกอัจฉริยะหรือไอ้บ้าดีครับเนี่ย .."
รากไม้พูดบอกนายท่านมากเมฆ ด้วยแววตาที่กำลังมองตัวประหลาดหลุดโลกและพยามจะไม่ขำ
แต่ในใจเองก็ยังรู้สึกกลัวนิดๆ ที่ในเวลานี้ตัวมันเองรู้สึกห่างไกลจากนายท่านของมันเหลือเกิน ทั้งที่ก็อยู่ใกล้ๆ เสมอแท้ๆ แต่ชาตินี้ทั้งชาติมันจะเข้าใจความคิดของนายท่านของมันแบบ 100% ได้มั้ยในสักวัน
".. เอาน่า รากไม้คนน่ะของเป็น แต่กระบวนท่าวิชาน่ะของตายรู้มั้ย หากอาจารย์ได้เห็นจะต้องภูมิใจมากแน่ๆ ที่สามารถฝึกฝนได้ด้วยตัวเองจนเป็นแบบนี้ได้ .." มากเมฆยังไม่สำนึกเลยสักนิด และยังคงไม่รู้ตัวอีกด้วยว่าการที่สามารถฝึกวิชาในตำราที่เขียนเอาไว้โดยสมบูรณ์ 100% ให้กลายเป็นวิชาอื่นใดได้ ชนิดที่ว่าไม่เหมือนกันเลยได้เนี่ย สมควรจะเรียกว่าอะไรดี สุดท้ายเจ้าตัวก็ยังเฉยๆ และกลับไปฝึกไม้เท้าเงาลมเคล็ดพิสดารต่อไป และดูเหมือนมันจะร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าไปทุกที
ไหนจะพลังแห่งลมที่อัดแน่นจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าที่พร้อมจะระเบิด และหากยังฝึกต่อไปเรื่อยๆ อีกไม่นาน สงสัยได้เกิดวิชาใหม่ระเบิดไฮโดรเจนมหาลมปราณเหนือโลกแน่นอน
ไหนจะกระบวนท่าที่หมายจะสังหารให้ได้ในหนึ่งการเคลื่อนไหว ไหนจะกระบวนท่าที่มองเห็นได้ยากและคาดเดาไม่ได้ราวกับสายลม ไหนจะพลังลมพายุรุนแรงที่ต่อเนื่องมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่เคลื่อนไหลอย่างต่อเนื่องไม่หยุดนิ่ง นายท่านของรากไม้ไม่รู้ชาติก่อนเคยเป็นตัวอะไรกันแน่ ทำไมชาตินี้ถึงได้แปลกประหลาดเกินมนุษย์แท้
รากไม้เริ่มรู้สึกปวดหัวกับนายท่านของมันจริงๆ หากมันเป็นคนคงมีเส้นเลือดในสมองแตกตายไปแล้วแน่ๆ ทั้งที่หากฝึกสำเร็จในวิชาคัมภีร์ไม้เท้าเงาลม ก็จะสามารถโจมตีได้รวดเร็ว รุนแรง เน้นรับไม่รุก สวนกลับทำลาย มีเร็วมีช้านุ่มนวลแม่นยำ คาดเดาไม่ได้ดุจสายลม นี่คือสิ่งที่คนปกติจะฝึกสำเร็จหากฝึกตามตำราและเข้าถึงเคล็ดวิชาที่มีอย่างแท้จริง
รากไม้ได้แต่มองและก็มองเท่านั้น ตัวมันเองเป็นเอไอระดับสูงแท้ๆ ได้แต่มองดูนายท่านของมันฝึกวิชาไม้เท้าเงาลมเวอร์ชั่นมากเมฆ ก็ได้แต่คิดหาเหตุผลดีๆ มารองรับและหวาดกลัวนิดๆ ในใจของมันเท่านั้นเอง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด..
".. หวังว่าท่านอาจารย์จะไม่หาสุดยอดวิชามาให้ฝึกอีกนะ ไม่งั้นอาจจะมีวรยุทธ์ระดับสูงที่มีพลังทำลายรุนแรงระดับเดียวกับระเบิดนิวเคลียร์ หรือปืนแสงทำลายล้างปรากฏขึ้นมาก็ได้ สาธุ สาธุ .." รากไม้บ่นๆ และหวังว่าอาจารย์ไป่หลงจะไม่หาอะไร มาให้ฝึกเพิ่มขึ้นอีก ไม่งั้นได้สร้างสุดยอดอาวุธมนุษย์ที่ชื่อมากเมฆขึ้นมาแน่ๆ
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสำหรับโลกภายนอก แต่ภายในเกมโลกเสมือนจริงกับผ่านไปแล้วไม่ต่ำกว่า 3-4 ปี จากเหตุการณ์สงครามครั้งที่หนึ่ง ที่ได้เกิดขึ้นจากเหล่าผู้นำและผู้มีอำนาจจากกิลด์ต่างๆ จำนวนมากประกาศท้ารบทำสงคราม เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังอำนาจดั้งเดิมของดวงดาวแม่ทั้งสามที่มีพลังและเทคโนโลยีที่แตกต่างกันไป
เพื่อให้ใครต่อใครได้รู้ถึงความยิ่งใหญ่และความแข็งแกร่งของพวกเขา และในศึกสงครามครั้งนี้ !!??
แต่ทว่าชัยชนะอันหอมหวานเหนือกว่าอีกสองดวงดาว กลับตกเป็นของโลกแห่งเทคโนโลยี หรือดาวแม่ที่มาจากเกมจักรวาลออนไลน์นั่นเอง และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
จึงทำให้ดาวแม่จากจักรวาลออนไลน์ ได้รับชื่อดวงดาวหลักอย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรกก่อนใครและจากนี้ต่อไปจะถูกเรียกว่า ดาวเคออส และยังได้รับบัพพิเศษทั้งดวงดาวเป็นรางวัง เช่น บัพพิเศษเพิ่มความแข็งแกร่งและพลังในการป้องกันและโจมตีขึ้น 30% เป็นเวลา 8 เดือนโลกภายนอก
แต่หากออกมาจากดวงดาวบ้านเกิด จะได้รับบัพเพิ่มพลังขึ้นแค่ 10% เท่านั้น พร้อมกับลดภาษีภายในดวงดาวจากกิจกรรมธุรกรรมการเงินทั้งหมดลงจาก 15% เป็น 7% ตลอด 8 เดือนโลกภายนอก และยังได้มีรางวัลพิเศษอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก และทุกคนบนดาวเคออสยังได้รับเควสใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้นกว่าดาวแม่อื่นๆ หลายสิบเท่า
ส่วนดาวแม่อื่นๆ ต่างก็ได้รับชื่อเช่นกัน แต่จะได้รับเป็นชื่อ CODE เท่านั้น เพราะพ่ายแพ้สงครามและได้รับบทลงโทษอย่างหนักเป็นระยะเวลา 2 เดือนโลกภายนอกอีกด้วย
เช่น
ดาวแม่ของเกมเมจิกออนไลน์ จะถูกเรียกในชื่อ ดาว MGO1 และอีกดาวแม่ของผู้ฝึกฝนทักษะวรยุทธ์และบ้าวิชาการต่อสู้ จะถูกเรียก ดาว AFO1
ส่วนเลข 1 ที่ต่อท้ายชื่อคือตัวบ่งบอกถึงความพ่ายแพ้ของดวงดาวในสงครามครั้งที่หนึ่ง และหากในอนาคตยังแพ้อีกก็จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนบทลงโทษในครั้งที่หนึ่งยังไม่รุนแรงเท่าไหร่นัก เพราะทางผู้ให้บริการยังถือว่าเป็นการทดสอบระบบเท่านั้น
สำหรับดวงดาวที่แพ้ ต่างก็ต้องจ่ายเงินทดแทนในจำนวนที่สูงมาก และยังต้องส่งมอบไอเทมระดับ S ที่หาได้ยากอย่างน้อย 5 ชิ้น และทรัพยากรธรรมชาติให้กับดาวเคออส เป็นเวลา 2 เดือนในเวลาโลกภายนอกอีกด้วย และสำหรับผู้ที่เข้าร่วมสงครามในครั้งนี้ รวมไปถึงทั้งดวงดาวทั้งสองที่พ่ายแพ้ก็ถูกเพิ่มภาษีจากสินค้าและธุรกรรมการเงินทั้งหมดจาก 15% เป็น 25% พร้อมกับส่งมอบภาษีบางส่วนไปยังกลุ่มกิลด์และสหพันธ์ที่เข้าร่วมกับฝ่ายที่ชนะสงครามอีกด้วย โดยระบบจะเป็นผู้จัดการให้เองทั้งหมดและมีผลโดยรวมจากทั้งสองดวงดาว
และหากต้องการจะให้ชื่อของดวงดาวบ้านเกิดได้รับการแก้ไข ก็จำเป็นจะต้องเอาชนะหนึ่งในสองให้ได้ในสงครามระหว่างดาวดวงอย่างเป็นทางการ
จึงจะได้รับชื่อนามเรียกอันแท้จริง หรือไม่ก็ประกาศสงครามกับดาวเคออสไปเลยตรงๆ ผ่านทางระบบได้ตลอดเวลา และหากชนะก็จะได้รับชื่อของดวงดาวอย่างเป็นทางการเช่นกัน พร้อมกับของรางวัลและบัพพลังพิเศษต่างๆ อีกมากมาย
แต่หากพ่ายแพ้ก็ต้องจ่ายสินไหมสงคราม และได้รับบทลงโทษที่หนักทั้งดวงดาวด้วยเช่นกัน
ศึกชี้ชะตาตัดสินผู้แพ้และผู้ชนะในครั้งนี้ ทั้งหมดได้มาหยุดลงที่ดาวเคออสบนทวีปหลัก
เนื่องจากดาว MGO1 และ AFO1 ตัดสินใจร่วมมือเป็นพันธมิตรต่อกันในช่วงเวลาสุดท้าย โดยไม่รู้เลยว่าในกลุ่มของพวกเขาเหล่านั้น ได้มีคนทรยศที่อยู่ในตำแหน่งสูง คอยชักนำให้ไปในทิศทางที่ดูเหมือนจะได้รับชัยชนะในครั้งนี้แน่ๆ และแบ่งผลประโยชน์กันในที่สุดตามแผนการเดิมต่างๆ ที่ได้ตกลงกันไว้
แต่ที่ไหนได้ทั้งกลุ่มอำนาจจากสองดวงดาวแม่ที่รัก และต้องการปกป้องดวงดาวบ้านเกิดของตนเองอย่างแท้จริง เหล่าผู้นำทั้งหมดกับหลงกลติดกับดักที่วางเอาไว้ และถูกหลอกให้พากำลังพลกองทัพจำนวนมากบุกเข้าตีและยึดครองเอาประตูมิติระหว่างดวงดาวมาได้ทั้งหมดของดาวเคออส
แต่หารู้ไม่ว่าที่ใต้ดินด้านล่างของที่ตั้งฐานประตูมิติทั้งหมดบนดาวเคออส ได้ถูกวางระเบิดอนุภาครุนแรงไว้แล้วจำนวนมาก และยากที่จะป้องกันและหลบหนีออกไปได้
พวกมันเป็นระเบิดพลังงานคลื่นไฟฟ้าอนุภาคแรงสูง ที่ถูกคิดค้นขึ้นโดยนักวิจัยของกลุ่มกิลด์มืดของดาวเคออสที่ไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร
โดยใช้หลักการและอนุภาคมูลฐานฟิสิกส์ ในการคิดค้นขึ้นมาและไม่ต่างจากของจริงที่โลกภายนอกใช้อยู่ในปัจจุบัน และด้วยเหตุนี้เองจากความรุนแรงของพลังทำลายล้างของระเบิดในครั้งนั้น จำนวนผู้เล่นมากมายที่ไม่รู้ว่ามีกับดักอยู่ที่ใต้เท้า ก็ต้องจบชีวิตและสูญเสียไอเทมทั้งหมดอย่างไร้ทางสู้ แถมยังตายเปล่าถูกส่งกลับมายังดาวบ้านเกิดอย่างน่าอับอาย
ส่วนพวกกลุ่มผู้เล่นที่ทรยศหักหลังพรรคพวกของตนเอง ต่างก็ย้ายไปอยู่อาศัยอีกดวงดาวกลายเป็นพลเมืองลี้ภัยสงคราม ได้อย่างปลอดภัยและได้ใช้เงินพร้อมกับรับผลประโยชน์ต่างๆ มากมายอย่างเป็นสุข
และสำหรับผู้ที่เสียชีวิตในสงครามจะต้องสูญเสียสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งระดับเลเวล ระดับเลเวลสกิลทักษะที่ถูกลดลง และบางคนโชคร้ายทักษะสกิลถูกทำลาย ทำให้ต้องกลับไปฝึกฝนใหม่ตั้งแต่ต้น
อีกทั้งบางคนยังสูญเสียไอเทมอันมีค่าและของสำคัญอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก และจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ทุกๆ คนคิดได้เหมือนๆ กันว่า สงคราม .... ไม่เคยปราณีใคร
ในตอนนี้ทั่วทั้งสามพิภพออนไลน์ ต่างก็มองว่าอาวุธจำพวกดาบ กระบี่ มือเปล่า พลังเวทมนตร์
เมื่อไปอยู่ต่อหน้าจักรกลยักษ์ที่มีทั้งปืนลำแสง เรลกัน บีมเซเบอร์ บีมไรเฟิล บีมพลาสม่า อาวุธทำลายล้างอย่างระเบิดมิสไซล์ เกราะเหล็กกล้าที่หนาและแข็งแกร่งสุดๆ ต่างก็ทำอะไรไม่ได้เลย ได้แต่รอคอยความตายเท่านั้น
และยิ่งในตอนนี้ที่ดาวเคออสได้รับชัยชนะ และยังได้ทรัพยากรในพัฒนาเจ้าจักรกลยักษ์เหล่านั้นต่อไปอีก ไม่รู้ว่าจะพัฒนาไปมากแค่ไหนในสงครามครั้งต่อไป
อนาคตของดวงดาวที่ล้าหลังและด้อยกว่าในเรื่องเทคโนโลยี คงได้แต่รอคอยความพ่ายแพ้อีกครั้งแน่ๆ หากมีสงครามเกิดขึ้นอีกครั้ง
อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างสามดวงดาวก่อนการเชื่อมต่อ 100%
ดาวเคออส เป็นดาวที่มีเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด ผู้เล่นมักจะใช้อุปกรณ์ล้ำสมัยและเครื่องมือประหลาดต่างๆ ในการต่อสู้และทำภารกิจ สามารถพัฒนาอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ ได้อย่างไร้ข้อจำกัดและยังเป็นดาวดวงเดียว ที่มียานอวกาศสำหรับเดินทางไปมาในจักรวาลอีกด้วย ผู้เล่นที่เลือกเกิดบนดาวดวงนี้ จะได้รับพลังพิเศษที่ชื่อ พลังจิตวิเศษ หรือพลังพิเศษในรูปแบบต่างๆ แบบสุ่ม และเลือกได้ ที่เรียกว่าเอสเปอร์
ดาว MGO1 เป็นดวงดาวที่เต็มไปด้วยพลังเวทมนตร์อันยิ่งใหญ่ มีเวทมนตร์และเทคโนโลยีของผู้หลงลืมมากมายหลบซ่อนอยู่ ผู้เล่นที่เลือกเกิดบนดาวดวงนี้ จะได้รับบทบาทให้เป็นผู้ใช้พลังเวทพลังเหนือธรรมชาติ แต่ก็มีผู้เล่นมากมายเลือกที่จะเล่นอาชีพจำพวกสายผสม เช่น นักดาบเวท มือปืนเวท หุ่นกลเวท เป็นต้น พลังพิเศษที่ทุกคนจะได้รับเมื่อเลือกเกิดบนดาวดวงนี้คือ พลังเวทมนตร์เหนือธรรมชาติ
ดาว AFO เป็นดวงดาวที่ล้าหลังที่สุดในสามดาวแม่ของจักรวาลสามพิภพ หากนับตามอารยธรรมที่มีอยู่ และเป็นดาวดวงเดียวที่มีพลังพิเศษต่างๆ มากที่สุดจากยุคบรรพกาล โดยส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบวิทยายุทธ์วิชาลมปราณ กำลังภายใน เวทโบราณ ค่ายกล วิชาการต่อสู้แบบดิบเถื่อนรุนแรงเป็นต้น ผู้เล่นทุกคนที่เลือกเกิดบนดาวดวงนี้ จะไร้พลังพิเศษในตอนต้น แต่จะสามารถฝึกฝนและทำเควสต่างๆ เพื่อเรียนรู้การใช้พลังแบบดั้งเดิมที่มีอยู่ได้มากมายและเป็นอิสระมากที่สุด พลังพิเศษที่มีในดาวดวงนี้ ประกอบไปด้วย พลังลมปราณ พลังเวทมนตร์ พลังจิต พลังวิญญาณ คลื่นพลังธาตุ พลังเหนือธรรมชาติ ในแบบต่างๆ กันไปอีกจำนวนมาก
.............................................................
ภายในเกม
บริเวณบ้านลานฝึกวิชาของท่านอาจารย์ ในที่สุดมากเมฆก็ได้พบกับอาจารย์ไป่หลงอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาหลายปีเลยทีเดียวสำหรับเวลาในเกม
และพออาจารย์มาถึงเจ้ารากไม้ก็ทำการแจ้งบอกรายละเอียดและเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงสามถึงสี่ปีที่ผ่านมาให้อาจารย์ไป่หลงได้รับฟังทั้งหมดอย่างละเอียด พร้อมๆ กับพูดถึงเรื่องที่นายท่านของมัน สำเร็จวิชานอกเหนือจากตำราที่ฝึกฝนไปไกลเกินจินตนาการแล้วอีกด้วย
อาจารย์ไป่หลงถึงกับนิ่งไปนาน ก่อนจะเรียกให้มากเมฆมาทดสอบพลังให้ดูเสียหน่อยว่าก้าวหน้าไปถึงไหนแล้วในตอนนี้ ด้วยการใช้วิชาไม้เท้าเงาลม ประลองฝีมือกับรากไม้ในร่างมนุษย์ปกตินั่นเอง
".. อาจารย์แบบนี้มันไม่ยุติธรรมนะครับ ศิษย์ยังระดับ 30 อยู่เลยหลังจากที่พ้นโทษจากเวทต้องห้ามของเทพมาร ก็ไม่ได้ไปเก็บระดับเลเวลเพิ่มด้วย .." มากเมฆเริ่มบ่นก่อนเลยเพราะระดับต่ำกว่ารากไม้มากโข
".. นายท่านผมว่าตอนนี้ระดับเลเวล 30 ของนายท่านมันไม่ใช่ปัญหานะครับ แต่เป็นวิชาที่นายท่านฝึกจนสำเร็จมากกว่า ด้วยระบบพื้นฐานของสามพิภพระดับเลเวล จะกำหนดสถานะสเตตัสตามการกระทำของผู้เล่นนั้นๆ และพลังชีวิตพลังพิเศษตามการกระทำที่ฝึกฝนอย่างชัดเจนของแต่ละคน ดูอย่างตอนนี้พลังเวทมนตร์ของนายท่านหลักสิบล้าน พลังลมปราณหลักสิบล้าน พลังชีวิตอาจจะน้อยไปหน่อยเพราะเลเวล 30 แต่ผมคิดว่าอย่างนายท่านดูไปแล้วมันไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะครับ .."
รากไม้ในร่างมนุษย์ชายหนุ่มรูปงามผมสีทองหน้าตาหล่อเหลา พูดขึ้นและบอกให้นายท่านของมันสู้ๆ ไปเถอะ ทั้งๆ ที่ตัวมันเองในเวลานี้หากประลองกันจริงๆ คงต้องเอาจริงแบบ 1000% ไม่งั้นดอกเดียวก็ได้ไปเกิดใหม่แน่ๆ หลังจากที่ได้คำนวณถึงความน่าจะเป็นทั้งหมดแล้ว โดยเฉพาะเจ้าไม้เท้าระดับ SSS นั่นอีก
มากเมฆยังคงหาเหตุหาผลเข้าข้างตัวเองอยู่นานกว่าจะยอมประลองด้วยความจำใจ
โดยอาจารย์ไป่หลงบอกว่าหากมากเมฆยอมประลองอย่างจริงจัง จะให้สุดยอดวิชาไปฝึกฝนเพิ่มอีก 1-2 วิชาเป็นอย่างน้อย ชายหนุ่มได้ยินก็ดีใจใหญ่ เพราะมันเองตลอดหลายปีในเกมที่ผ่านมาก็สนุกกับการฝึกวิทยายุทธ์อย่างมากจนเข้าเส้นไปแล้ว
ทั้งสองเริ่มจู่โจมเข้าหากันในทันทีกลางลานกว้างขนาดใหญ่ รากไม้มีความเร็วและความนิ่งสง่าที่เหนือกว่ามากเมฆหลายเท่า และยิ่งในเวลาแบบนี้
รากไม้เอาจริงเสียด้วย ถึงกับแอบใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของเครื่องเทพฝันในการคำนวณและต่อสู้ไปด้วยพร้อมๆ กัน เพื่อให้ตนเองสามารถคุมเกมและเหนือกว่าในทุกกระบวนท่าให้ได้
ส่วนทางมากเมฆพอเห็นการเคลื่อนไหวต่างๆ ของรากไม้ ก็รู้แล้วว่าเวลานี้รากไม้เอาจริงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน ตนเองจึงต้องเอาจริงเช่นกัน เพราะหากยังทำเป็นเล่นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คงทำให้รากไม้เสียใจแน่ๆ ที่ตั้งใจฝึกฝนและอยากประลองกับตนเองอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก
หลังจากคิดได้แบบนั้น มากเมฆจึงตัดสินใจเอาจริงเป็นครั้งแรก แววตาของมากเมฆก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนอย่างน่ากลัว ไม่เว้นแม้แต่ออร่าและสัมผัสพลังที่ปลดปล่อยออกมาก็เปลี่ยนไปทั้งหมดเช่นกัน
พร้อมๆ กับบรรยากาศรอบตัวของมากเมฆเองก็นิ่งสงบราวกับแสงจันทร์ในบ่อน้ำ เย็นชาไร้อารมณ์ดุจเทพประหารจากนภาไร้ใจ ทุกการขยับกายเคลื่อนไหวงดงามราวเทพสวรรค์จากยุคบรรพกาล
แต่กับมากด้วยพลังอำนาจทำลายล้าง ดุจเทพอสูรผู้หยิ่งผยอง ทุกจังหวะการหายใจลึกล้ำเป็นหนึ่งเดียวกับสวรรค์และโลกหล้า แค่การเคลื่อนไหวหนึ่งจังหวะง่ายๆ ที่ตามองไม่เห็นกับทำให้รากไม้ในเวลานี้กระเด็นไปไกลกว่า 400 เมตรอย่างรุนแรงถึงกับกระอักเลือด พร้อมกับพลังชีวิตที่ลดหายไปกว่า 10% อย่างง่ายดาย และจะต้องไม่ลืมว่าพลังชีวิตของรากไม้มีมากกว่าหลักแสนล้าน
แต่แค่การโจมตีเข้าเป้าเพียง 1 ครั้งกับลดพลังชีวิตไปถึง 10% มันรุนแรงมากขนาดไหนกันกับอีแค่หนึ่งกระบวนท่าง่ายๆ ที่ใช้ออกไป ทุกจังหวะที่ขยับกายเคลื่อนไหว อันตรายต่อชีวิตทุกลมหายใจของรากไม้เหลือเกิน
รากไม้ในตอนนี้เชื่อแล้วละว่านายท่านของมันเอาจริงแบบล้านเปอร์เซ็นต์ และดูเหมือนจะกลายเป็นคนละคนกับที่เคยเห็นทุกวันเสียแล้ว แถมยังรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายหน้ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก
เงาลม เหนือเงาลม!!! กระบวนท่าเรียบง่ายของมากเมฆ ฟาดออกไปยังรากไม้ที่ยังทรงตัวได้ไม่ดีนักอย่างรวดเร็วและดุดัน เกิดเสียงระเบิดออกของพลังลมปราณ และแรงอัดอากาสรอบๆ ถึงกับแตกกระจายจนสายตาปกติของมนุษย์มองเห็นได้
มากเมฆในเวลานี้แววตาเปลี่ยนไปเป็นไร้อารมณ์ ไร้รู้สึก หนึ่งเดียวสังหาร หนึ่งเดียวทำลาย รากไม้ได้แต่หนีกับหนีเท่านั้น แถมยังบาดเจ็บเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มจะมีน้ำโหขึ้นมาบ้างแล้ว
ถึงตัวเขาเองรากไม้จะมองเห็นหนทางเอาชนะอยู่บ้าง แต่ก็ไม่อาจจะทำได้เลยเพราะตามความเร็วไม่ทัน เพราะวิชาของรากไม้เป็นการฝึกตามตำราเท่านั้น ไม่อาจจะเอามาเปรียบเทียบกับนายท่านมากเมฆที่บรรลุลึกซึ้งไปถึงไหนต่อไหนแล้ว จากการมโนอันไร้ขอบเขตของคน..อัจฉริยะ หรือไอคนบ้าคนนี้ได้
อาจารย์ไป่หลงยืนมองด้วยความตกตะลึง พอใจกับสิ่งที่เห็นของลูกศิษย์ตนเองอย่างมาก และไม่คาดคิดเลยว่าวิชาลมปราณลับ หรือวิชาลมปราณจักรวาลที่สืบทอดกันมา มากกว่าสามพันปี ในเวลานี้จะมีคนที่สามารถฝึกฝนจนสำเร็จถึงขั้นสูงสุดได้ แถมยังดูเหมือนจะพัฒนาไปไกลเกินกว่าที่ตำราระบุไว้เสียอีก
//- - มากเมฆได้ฝึกวิชาลมปราณโบราณของจีนที่สืบทอดกันมาอย่างลับๆ ชื่อวิชาลมปราณจักรวาล- - //
ส่วนวิชาไม้เท้าเงาลม แท้จริงแล้วก็ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในยอดวิชาระดับสูง แต่ที่ไม่เคยเป็นที่รู้จักเพราะในยุคนี้ ไม่มีผู้ฝึกวิชาคนไหนเลือกใช้ไม้เท้าเป็นอาวุธนั่นเอง การที่สามารถบรรลุวิชาไม้เท้าเงาลมได้ก็ถือว่าสุดยอดแล้วในยุคปัจจุบัน
แต่มากเมฆกับบรรลุวิชาไม้เท้าเงาลมในอีกรูปแบบ ทั้งเหนือกว่า เด็ดขาดกว่า ทรงพลังกว่าของเดิม ชนิดที่ไม่อาจจะนำเอามาเปรียบเทียบกันได้เลยแม้แต่น้อย
“แค่สามถึงสี่ปีในเกม กับสามารถทำได้ขนาดนี้ เด็กคนนี้มีพรสวรรค์มากมายขนาดไหนกันแน่” อาจารย์ไป่หลงตกอยู่ในภวังค์ความคิด และนึกไปถึงความยิ่งใหญ่ของตระกูลเมฆาเทพ ที่ดูเหมือนจะกระทำการที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรงที่ได้ทอดทิ้งสุดยอดอัจฉริยะผู้นี้ได้ลงคอ แถมยังคิดสังหารให้ตายได้ยังไง ช่างเป็นตระกูลที่โง่เง่าโดยแท้
ระหว่างที่อาจารย์ไป่หลงกำลังคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ของมากเมฆที่ได้รับฟังมาอยู่นั้น
รากไม้เจ็บตัวจากการโจมตีที่ร้ายกาจของนายท่านมากเมฆ ต้องถึงกับเล่นขี้โกงใช้ทักษะเวทมนตร์ต้องห้ามร่ายเวทแปลงกาย เปลี่ยนร่างเป็นสัตว์ยักษ์มังกรดำบาฮามุทจากยุคบรรพกาลเสียเลย
มังกรดำบาฮามุท สัตว์เทพอสูรจากยุคเทพบรรพกาล มีร่างกายใหญ่โตเหลือประมาณ มีลักษะคล้ายปลาปีศาจผสมมังกรโบราณ มีปีกเหล็กสีดำขนาดใหญ่ถึง 4 คู่ ทั้งตัวเต็มไปด้วยเกล็ดมังกรสีดำเงางดงามแข็งแกร่งยิ่งกว่าโลหะใดๆ ที่มนุษย์และเทพเจ้าเคยรู้จัก มีพลังทำลายล้างได้แม้แต่เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่หายใจ เป็นพระเจ้าของเหล่าเผ่าพันธุ์มังกรแห่งการทำลายล้างทรงพลังจนแม้แต่พระเจ้ายังต้องกริ่งเกรง
รากไม้ในร่างของมังกรดำบาฮามุท ระดมใช้เวทต่างๆ จำนวนมากมาย หมายจะหยุดนายท่านของมันให้ได้ ที่ในเวลานี้ไม่รู้ว่าจิตหลุดไปไหนต่อไหนแล้ว คนผีบ้าผีบออะไร พอตัดสินใจทำอะไรแล้วจะหยุดก็หยุดไม่ได้ นี่มันแค่การประลองไม่ใช่หรือไงคิดจะตีกันให้ตายจริงๆ เลยใช่มั้ย รากไม้เริ่มโกรธจนจะควบคุมอารมณ์ไม่ได้แล้ว
เหตุที่เริ่มโกรธก็เพราะรากไม้ร้องบอกให้หยุดยังไงก็ไม่หยุด บอกยอมแพ้ยังไงก็ไม่ฟังกันเลย
เล่นฟาดเอาฟาดเอาอยู่ได้ แถมกระบวนท่าหลังๆ มีแต่โหดขึ้นแรงขึ้นโรคจิตเห็นๆ จนตอนนี้สภาพอากาศรอบๆ ตัวชิบหายไปหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่บ้านไม้ของอาจารย์ไป่หลงเองก็หายไปกับระเบิดแรงอัดอากาศเมื่อครู่ไปเรียบร้อยแล้ว
รากไม้เริ่มมีน้ำโห!!! ร่ายเวทมนตร์ระดับตำนานแม่งเลย
".. นายท่าน ตายมาก็ระดับลดด้วยกันทั้งคู่ แต่หากผมไม่ทำผมก็ไม่รู้นายท่านจะไปหยุดที่ตรงไหน ยกโทษให้ผมด้วยแล้วกันนะครับ .." รากไม้แอบยิ้มสะใจเล็กน้อย ตูสู้ไม่ได้นี่หว่าเล่นใช้เวทแปลงร่างก็แล้วยังแค่พอสู้เสมอได้นิดหน่อย ไอเทมระดับ SSS มันจะโกงมากไปแล้ว
หากยังเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่เกิน 10 นาที รากไม้ได้ตายฟรีแน่ๆ จึงตัดสินใจร่ายเวทมนตร์ระดับตำนานบรรพกาลของมังกรดำบาฮามุทเสียเลย แถมเป็นเวทมนตร์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน มันคือทักษะเวทมนตร์ มหาเวทลำแสงกลืนพิภพ
เหนือท้องฟ้ากว้างกับปรากฏวงแหวนเวทมนตร์ขนาดใหญ่ยักษ์ เรียงตัวทับซ้อนกันเป็นชั้นๆ ขนาดใหญ่ดูลึกลับน่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง แสงสว่างมากมายบนท้องฟ้า ต่างถูกดูดกลืนด้วยวงแหวนเวทขนาดใหญ่ยักษ์ มวลอากาศรอบๆ มิติเวลาโดยรอบล้วนแตกกระจาย พวกมันยังไม่อาจจะทนอยู่ได้ หมู่เมฆสีดำทมิฬจำนวนมากขยายตัวดึงดูดสายฟ้าและพลังงานต่างๆ ส่งมอบไปยังวงเวทขนาดยักษ์อย่างต่อเนื่องเติมเต็มพลังพร้อมที่จะทำลายล้างทุกสรรพสิ่งให้สูญสิ้นหมดไป
ผู้เล่นจำนวนมากที่กำลังเก็บเลเวลอยู่แถวๆ นั้น ต่างหวาดกลัวและรีบหนีกลับเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดกันอย่างรวดเร็ว เพราะทุกคนสัมผัสได้ถึงหายนะจากลำแสงสีดำน่ากลัวที่แพร่กระจายออกมาอย่างช้าๆ มันเต็มไปด้วยพลังงานด้านลบคล้ายกับความตาย ถึงขนาดทำให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี กลางวันกลายเป็นกลางคืน สัตว์อสูรมากมายต่างวิ่งหนีเอาตัวรอดกันไปคนละทิศละทางอย่างไร้จุดหมาย
ผู้เล่นระดับต่ำๆ ที่อยู่รอบบริเวณ บางคนถึงกับลงทุนบันทึกภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างตั้งใจ เพราะต่อให้ตายตนเองก็ไม่เสียหายอะไรมากนัก แต่หากบันทึกเหตุการณ์ประหลาดนี้ไว้ได้ ก็ยังเอาไปขายทำเงินได้อีกมากและอาจจะมีชื่อเสียงเพิ่มขึ้นมาก็ได้
สำหรับในตอนนี้มากเมฆยังคงโจมตีรากไม้อย่างต่อเนื่อง เปลี่ยนกระบวนท่าโจมตีไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด ถึงแม้จะโจมตีไปเท่าไหร่ก็ติดแต่บาเรียเวท แต่พอโจมตีไป 2 ครั้ง 3 ครั้ง พวกมันก็แตกสลายไปทั้งหมด แต่เจ้ารากไม้ก็สร้างขึ้นมาใหม่ป้องกันตัวเองในขณะร่ายเวทอยู่ดี
และในกระบวนท่าสุดท้ายของมากเมฆ เงาลมไร้ตัวตน เป็นการรวบธาตุอากาศที่เบาที่สุดรอบๆ ทั้งหมดเข้าไปยังไม้เท้าระดับ SSS จนกลายเป็นพลังระเบิดไฮโดรเจน ระเบิดเข้าโจมตีรากไม้อย่างรุนแรง
พร้อมๆ กับที่รากไม้ใช้เวทมนตร์ในตำนาน มหาเวทลำแสงกลืนพิภพ ยิงลงมาจากฟ้าเป็นลำแสงเส้นตรงสีดำทมิฬขนาดใหญ่ยักษ์ที่เต็มไปด้วยพลังงานสุดลี้ลับอันสยดสยองของความตายและมีเปลวเพลิงสายฟ้ามังกรดำอยู่เต็มไปหมดนับล้านๆ ตัว พุ่งเข้าใส่นายท่านมากเมฆผู้จิตหลุดเข้าอย่างจัง เป็นการต่อสู้ที่สิ้นคิดและไม่สนใจสถานะเจ้านายกับลูกน้องเลยสักนิด และที่แน่ๆ ทั้งสองคนได้หลงลืมไปแล้วว่าอาจารย์ไป่หลงอยู่ใกล้ๆ
ทั้งสองพลังทำลายล้างระดับหายนะล้างโลกปะทะและผสานกันอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับระเบิดออกอย่างรุนแรงและเต็มไปด้วยพลังแห่งพายุและเปลวเพลิงรุกไหม้ขนาดใหญ่ กลายเป็นมหาระเบิดครั้งยิ่งใหญ่รุนแรงมากกว่าสงครามดวงดาวครั้งที่หนึ่งเสียอีก
รูป
ตู้มมมมมมม!!! เสียงระเบิดทำลายล้างดังไปทั่วทวีปจิตมายาจนทุกคนที่กำลังออนไลน์อยู่ต่างก็ได้ยินเสียงแรงระเบิดในครั้งนี้ และลูกไฟขนาดใหญ่ยักษ์ที่สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล กินระยะทำลายล้างไม่ต่ำกว่า 100 ตารางกิโลเมตรนี่มันไม่ต่างอะไรเลยจากสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก
สร้างความซิบหายไปทั่วบริเวณกว้าง ภูเขาหลายลูกถูกทำลาย แม่น้ำและป่าไม้รอบๆ ถูกลบหายไปอย่างไม่มีวันได้กลับคืนมา พร้อมๆ กับอาจารย์ไป่หลงที่ต้องมาโดนลูกหลงไปด้วยไม่รู้ชะตากรรมในตอนนี้เป็นยังไงบ้าง
แต่โชคยังดีอาจารย์ไป่หลงในเวลานี้ได้เป็นส่วนหนึ่งของระบบหลัก จึงสามารถรอดมาได้โดยถูกบังคับให้วาปกลับเมืองที่ปลอดภัย ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์หายนะทำลายล้างไร้สาระแห่งปีนี้ขึ้นมา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

หากพบเจอคำผิดอีกรบกวนแนะนำด้วยนะครับ จะพยายามไล่แก้ทั้งหมดเลย
คือ พระเอกไม่มีความโดดเด่นในตัวเอง ความลึกลับ
ก็พอแ่ายแบบผ่านๆได้5/10
#สรุปเพราะเกม3เกมมันยำกัน
ยังคงทำลายไปเรื่อย
//อ้ากกกกชอบในความอลัง
สงสารคนดูแลระบบ งานเข้าอีกละ
จิ้นสนุกมาก //เดี๋ยวนะ!
เพราะอยากจะให้คนทั่วๆ ไปจินตนาการตามได้ครับ
มันไม่ต้องมีอะไรมาสมดุลไปทุกอย่างทั้งหมดครับ ไม่งั้นจักรวาลเราก็คงมีแต่
ดวงดาวที่มีขนาดเท่าๆ กันหมดจริงมั้ย แต่หากจะให้ตอบว่าทั้งสามสมดุลกันตรงไหน
ก็คงเป็นตรงที่ผู้เล่นทุกคนสามารถเป็นอะไรก็ได้และทำอะไรก็ได้ เท่าที่ความสามารถของคนคนนั้นจะมีครับ