ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    the winner for u heart

    ลำดับตอนที่ #1 : เปิดฉาก

    • อัปเดตล่าสุด 25 พ.ย. 53


    บรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น อันเต็มไปด้วยท้องฟ้าสีส้ม ลมพัดเอื่อยๆ ต้นไม้ที่เหมือนกับกำลังระบำอยู่ท่ามกลางป่าเขา และแสงแดด มองไปอีกนิด ก็จะเห็นลำธารอันสวยงามที่ ทอแสง ระยิบระยับ ล้อเล่นกับแสงแดดอันอบอุ่น   พอฉันเดินไปหยุด อยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งพอ เงยหน้าขึ้นมองดูด้านบน ก็ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
                   
                    ปัง ปัง ปัง ปัง
                    ยัยธารแกตื่นได้แล้ว จะนอนกินบ้านทั้งหลังเลยใช่มั้ยยยยยยย ห๊า
                    เสียงใครกันนะ  ทำไมชอบขัดจังหวะความสุขกันซะเหลือเกิ๊น ฮึ่ย   ชักจะโมโหแล้วนะ แล้วฉันคนนะไม่ใช่ปลวกจะได้กินบ้านได้เป็นหลังๆ
                   
    ตื่นแล้วก็ได้ค่า แหมม ปิดเทอมทั้งทีขอนอนนานๆไม่ได้หรือไงคะ คุณพี่ชายขา
                    ที่แท้ก้อพี่ชายฉันเองแหละ เราก็นึกว่าใครซะอีก ถ้าเป็นคนอื่นนะ แม่จะด่าๆๆๆ ให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย คอยดูซิ แต่ก้อ เดชะบุญ ที่เป็นพี่ชายของฉันเอง นั่นแหละ
               
    ตื่นแล้วก็ รีบๆ อาบน้ำ แต่งตัวได้แล้ว วันนี้แกต้องไปทำงานแต่เช้านะ
                    งานหรอ งานอะไรล่ะ คิดๆๆๆๆ  ปิ๊งป่อง O!o อ๋อ ก็วันนี้ที่ฉันต้องรีบตื่นแต่เช้าแต่มืด  ก็เพราะว่าก่อนปิดเทอม ฉันไปสมัครงานไว้นะ แฮะๆๆๆ   ลืมจนได้ สิ ยัยสายธารเอ๊ย!!
                    แล้วนี่มันกี่โมงแล้ววววว พอดีว่า ฉันเป็นโรคเกลียดนาฬิกาปลุกเป็นที่สุด เสียงนาฬิกาของฉันนะ ดังทีแบบว่าโลกแทบแตก บ้านฉันก็แทบพังเลยละ อิอิ (เวอร์ไปแล้วแก:โชแปง)
                    มันจะ แปด โมงอยู่แล้ว แกไม่ต้องมาถามมากเลยนะ รีบๆ ไปอาบน้ำ เร็วเข้า เดี๋ยวก็ไปทำงานสายกันทั้งพี่ทั้งน้อง
                    ค่า คุณพี่ขา เออ แล้วพี่ไม้ไปส่งธารนะถ้าไปรถเมล์มันช้า ขี้เกียจรอรถเมล์
     
    ก็ทุกวันฉันต้องขึ้นรถเมล์ไป โรงเรียนนะสิ แค่เรื่องขึ้นรถเมล์นะ เล็กน้อย แต่วันนี้ฉันต้องไปทำงานแล้วมันจะสายแล้วด้วยยยย
    เออๆๆ แกก็รีบๆ เข้าเฮอะ ฉันก็จะรีบไปทำงานเหมือนกัน
     
    ในที่สุด ฉันก็วิ่งผ่านน้ำมาได้สำเร็จ ใช้เวลาประมาณ10 นาที  พอมาถึงชั้นล่าง ก็เห็นพี่ไม้นั่งรอ หน้างอเป็นกุ้งโดนน้ำร้อนลวก  ฉันไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะสายกันทั้งพี่ทั้งน้อง
     
    และแล้วมอเตอร์ไซค์ของพี่ชายฉันก็มาจอดอยู่หน้าร้าน กาแฟ ที่ชื่อว่า Coffee Drink มันคือร้านที่ฉันมาสมัครงานไว้   เฮ้อ ถึงสักที ขนาดนั่งเฉยๆ ยังเหนื่อยใจ
    บ๊าย บาย ฉันยืนโบกมือลาพี่ชายที่ขี่รถเก่าๆ เครื่องเกือบพังไปทำงาน หวังว่ามันคงจะถึงที่หมายโดยปลอดภัยนะพี่ชายของช้านนนนน
     
    พอฉันเดินเข้าไปในร้านก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเขาท้องด้วยกำลังเดินมาทางฉัน แล้วก็เรียกพนักงานในร้านทุกคนมาที่ที่ฉันยืนอยู่
    อะ ทุกคน ๆวันนี้มีพนักงานเข้ามาใหม่  มาทำความรู้จักกันหน่อยสิ
    พี่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ ไม่เห็นแนะนำตัวเองเลยล่ะ
     
    อะ แนะนำตัวเลยจ๊ะ พี่ผู้หญิงคนนั้นบอก ก็ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ก็เลยเรียกอย่างนั้นไปก่อนนะสิ
     
    สงสัยพี่เขาจะเห็นว่าฉันนิ่งๆไป เลยพูดซะ ดังเลย
    อ๋อ ค่ะ ชื่อ สายธาร ค่ะ อายุ 18 ปี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ พอฉันพูดจบทุกคนก็ ปรบมือต้อนรับฉัน (หรือเปล่า) ฉันยิ้มให้ทุกคนอย่างเดียวเลย ก็ไม่รู้จะทำยังไงนิ แล้วฉันก็แอบเห็นนะ ว่าทุกคนก็ยิ้มเหมือนกัน
    อิอิ เจอเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วสิเรา
                   
                    พอฉันแนะนำตัวเสร็จ ฉันรู้แล้วว่าพี่ผู้หญิงที่ท้องเป็นใคร เขาชื่อ พี่หนิง เป็นผู้จัดการร้านที่นี่ พี่เขาพาฉันไปหาเจ้าของร้านเพื่อคุยเรื่องงานที่จะให้ทำ และก็ขาดไม่ได้เลย คือ เงินเดือน ฮี่ฮี่ ใส่ใจตลอดเวลาเรื่องเงินเนี่ย
     
                    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
                “ไมค์พี่เข้าไปนะ ดูท่าทางพี่หนิงจะสนิทกับเจ้าของร้านมากเลยแฮะ ไม่เห็นต้องพูดคะ พูดขา แบบ ร้านอื่นเลย
                    ครับ เข้ามาเลยพี่ ประตูไม่ได้ล็อก เสียงเจ้าของห้องตอบมา
                    เอ ทำไมเรียกพี่หนิงว่า พี่ละพี่หนิงก็ไม่ใช่คนอายุเยอะซะหน่อยพอเข้าไปก็รู้เองแหละน่า
     
    พอพี่หนิงเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่าห้องนี้ผนังห้องเป็นสีเทา มีโซฟาสีน้ำเงินท่าทางคงจะนิ่มน่าดู แล้วก็มีโต๊ะทำงานใหญ่มากตั้งอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีแต่เอกสารทั้งนั้นเลย แล้วก็ มี Notebook สีดำ อีก 1 เครื่อง 
    และสิ่งที่ฉันอยากเห็นมาตั้งแต่แรกก็คือเจ้าของห้อง ว่าเขาจะ อายุเยอะหรือเปล่า พอเขาหันหน้ามาก็
    หล่อจัง
    ฮะ อะไรนะ 
    นี่ฉันคิดเสียงดังไปหรือเปล่า ทำไมพี่หนิงได้ยินละ ทุกคนในห้องนี้มองมาที่ฉันหมดเลย นี่ฉันทำอะไรลงไป แกซวยแน่ ยัยธารเอ้ย แก้หน้าก่อนเร็วเข้า
    อ๋อ ปะ ปะ เปล่าๆ ค่ะ ไม่มีอะไร เอ่อ.. ธารบอกว่าห้องนี้สวยดีนะคะ แฮะๆๆ นี่ฉันแก้หน้าหรอ จะสำเร็จไหมเนี่ย
    อ๋อ จ๊ะ ห้องนี้ ไมค์เค้าตกแต่งเองเลยนะ ก็ต้องสวยเป็นธรรมดา”  ไม่ค่อยจะชมกันเองเท่าไหร่เลยนะคะพี่หนิง
    แต่เดี๋ยวนะ เชื่อฉันอีกอะ ช่างแนบเนียนเสียจริงนะแก ยัยธาร   แกคิดได้ไง สถานการณ์ขับขัน เธอสามารถกู้หน้าได้ เก่งสุดๆ (นี่เธอ ชมตัวเองมากไปหรือเปล่า : โชแปง)
     
    ก็จะไม่ให้ฉันพูดแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ผู้ชายที่ชื่อ ไมค์อะไรเนี่ย อายุก็น่าจะเท่าๆกับฉันนะ แต่ผิดขาวโอโม้ หน้าเขาใสกิ๊ง ยิ่งกว่าฉันที่เป็นผู้หญิงอีก ดวงตาคมเข้ม ใครจ้องนานๆ อาจละลายได้เชียวละค๊า คุณผู้อ่านทุกคน จมูกนี่เป็นสันตรง (ฉันว่านายนี่ต้องพึ่งมีดหมอชัวร์) เซ็ทผมเป็นทรงเท่ห์ๆ แต่งตัวสบายๆ   ไมค์ไม่เหมาะกับ การขายกาแฟสักนิด น่าจะ ไป เป็นดารา เดินบงเดินแบบ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย อิอิ
     
    เออ ไมค์ นี่เป็น ลูกจ้างคนใหม่   ชื่อสายธาร นะ ก็เลยว่าจะมาคุยเรื่อง เงินเดือน กับ งานที่จะให้น้องเค้าทำน่ะ      พี่ฝากด้วยล่ะ ต้องไปทำงานต่อ
    ครับพี่
    โห พี่คะ พี่หนิงสุดยอดไปเลยค๊า ขนาดท้องโตขนาดนี้พี่ยังทำงานหนักซะขนาดนั้น เกิดลูกไหลออกมานอนชมดาวก่อนจะถึงกำหนดไม่แย่หรอพี่คะ
     
    อ้าว!!ไหงมาทิ้งกันอย่างนี้ละพี่หนิง ปล่อยเกาะกันซะงั้น ฉันทำได้แต่มองตามพี่หนิง ทำอย่างคนที่รักกันมา 10 ปี    อย่าทิ้งช้านปายยยยยยย
     
    เธอ เธอ เธอนะ เหมือนมีเสียงอะไรดังข้างๆ ฉัน    พอหันไป
    อะ หะ หะ เรียกฉันหรอคะ เล่นซะตกใจหมด แล้วจะเสียงดังทำม้ายยยย กลัวฉันไม่ได้ยินรึไง ฉันไม่ได้หูหนวกนะ (แต่ฉันว่าแกหูหนวกนะยัยนางเอก : โชแปง)
    เธอนั่นแหละ ฉันว่าเราน่าจะอายุเท่าๆกันนั่นแหละ
    อ๋อ ค่ะ ประมาณนั้นมั้งคะฉันยิ้ม
    เรื่องงานที่จะให้ทำเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่เรื่องเงินเดือน ก็รับแบบที่ทุกคนในร้านนี้ ได้เท่ากันหมดแหละ
     
    ฉันได้แต่พยักหน้า หงึกๆ กับ พูดว่า ค่ะ ค่ะ แค่นั้นเอง
    แต่นายไมค์นี่สิ พูดอะไรนักหนาก็ไม่รู้ เพราะฉันไม่ได้ตั้งใจฟังนิ แต่ฉันก็ตั้งใจเต็มที่แล้วนะแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี คนมันหิวนี่นา ตั้งแต่ เมื่อเช้า จนถึงตอนนี้เวลาห้าโมงเช้า โอ้ มาย ก็อด ฉันทนไปได้ยังไง ไม่ไหวแล้วววว ไมค์พูดจบพอดี ฉันเลยรีบเดินออกมาจากห้องนายนั่นด่วน กลัวจะมีเรื่องอะไรมาเล่าสู่กันฟังอีก ออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ช่างเฮอะก็ฉันไม่ไหวแล้วนิ (นางเอกของเรามารยาททราม เอ้ย !! งามแท้ : โชแปง )
     
    พอเดินมาที่หน้าร้าน ก็  OoO
    โห ทำไมลูกค้าเยอะงี้อะ แล้วฉันจะได้กินข้าวมั้ยล่ะ ฉัยบ่นกับตัวเองแต่ก็ต้องไปช่วยงานพี่เค้าก่อนอยู่ดี เฮ้อ เหนื่อยอีกแล้วสิเรา
     
    รู้งี้ฉันไปทำหน้าที่อื่นดีกว่า เดินเสิร์ฟกาแฟ ทั้งร้านเลยยยย   ไม่ไหวจะเหนื่อยแล้วนะ แต่ดีหน่อยที่ตอนนี้ลูกค้ากลับไปเยอะแล้ว ไม่งั้นฉัน ได้เดินลากขากลับบ้านชัวร์เลย
     
    พอถึงเวลาเลิกงานปั้บ ฉันก็รีบเก็บของแล้วบอกลาทุกคนปุ๊บ ฉันเผ่นออกมานอกร้านทันที แล้วรีบ เดินไปที่สถานที่มีอยู่ในหัวฉันตั้งแต่เที่ยงแล้ว คือ เซเว่น นั่นเอง
     
    พอฉันเดินออกมานอกร้านก็มีคนโทรเข้า
    ๑...คนสวยรับสายหน่อยสิ คนสวย..๑  ใครใช้เสียงสายเรียกเข้าแบบนี่เนี่ย ตลกชะมัด ก๊ากกกก
    ของฉันนี่หว่า แฮะๆ ของฉันค่ะของฉัน ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้
    “-_-//” หน้าผู้คนแถวนั้
     ติ๊ด
    ฮัลโหล ว่าไงพี่ไม้
    [ยัยธาร วันนี้แกกลับบ้านเองนะ ฉันไปรับไม่ได้แล้ว แล้วก็จะไม่กลับบ้าน แกก็กลับบ้านดีดีละ บาย]
    ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
    อ้าว ไอ้พี่บ้านิ ชิ่งกันซะ ได้ แต่ไม่เป็นไร แค่กลับบ้านคนเดียวฉันทำออกบ่อย เพราะตอนนี้ฉันหิวจนแทบจะกินหมาที่อยู่ข้างๆฉันได้แล้ววว เซ่เว่นจ๋า!! สายธารมาแว้วววววว
     
    อ๊ะ นั่นไง เซเว่นอยู่ข้างหน้านี่เอง รีบเดินเข้าซิ สายธาร ฉันพูดกับตัวเอง แล้วรีบเดินไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง เพราะว่าตอนนี้หัวใจฉันอยู่ที่เซเว่นตั้งนานแล้วนะซิ
     
    อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง เอ๊ะ!!!ทำไม ต้องมาเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติอะไรตอนนี้ ฮื่อฮื่อๆๆ ก็พื้นที่ฉันเดินอยู่มันเอียงนะสิ หรือว่า โลกจะแตก ไม่จริ๊งงงงงงงงง นี่มันยังไม่ ถึง 2012 เลยนะ ฮื่อๆๆๆ ไม่เอานะ  ในที่สุดโลกก็ดับ... ไร้แสงใดๆทั้งสิ้น
     
    ฮ้าว zzZZ 
    แสบตาจัง ฉันรีบเอามือปิดตา แล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสทีละนิด จนเห็นว่า ที่นี่มันห้องใครกันละ ฉันรีบลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
                “ตื่นแล้วหรอ    
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่มันไม่ใช่เสียงอีตานั่นหรอกนะ มันเป็นเสียงฉันเองแหละ
    เฮ้ยยย เธอเป็นอะไรของเธอ ฮะ นายนั่นมันรีบเอามือมาปิดปากช้านนนนนนนน
     
    ตอนนี้อะนะฉันไม่ต่างจาก ลูกแมวตกน้ำเลยแหละ ฉันสั่นเป็นเจ้าเข้าเรยละค๊า   ไม่ได้หนาวนะคะ กลัวค่ะ กลัว ฮื่อออออ
                    นายเป็นใครแล้วนายทำอะไรฉันหรือเปล่า ฉันทำท่างกอดอกตัวเอง มองใต้ผ้าห่มดูตัวเอง แต่แล้ว ก็รู้ว่าเสื้อผ้าฉันมันหายไปไหน ทำไมมันกลายร่างเป็น ชุดนอน อันน่าสยิวกริ้วขนาดนี้ละเนี่ย
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ฉันเสียจิ้นน้อยของฉันไปแล้วหรอเนี่ย ฮื่ออออออ แล้วฉันก็เขื่อนน้ำตาพังเลยล่ะ ไม่นะ ทำไมนายถึงใจร้ายขนาดนี้
                ก็จะไม่ให้ฉันคิดเรื่องพวกนั้นได้ยังไงล่ะ ก็หมอนี่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันตัวอยู่นิ เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วฉันก็อยู่ในสภาพทีมีชุดนอนจากไหนก็ไม่รู้ ใครไม่คิดก็มองโลกในแง่ดีมากไปแล้ว
                “ เธอบ้าไปแล้วหรือไงฉันไม่คิดสั้นขนาดนั้นหรอกนะ แล้วเธอจะร้องหาสวรรค์วิมานอะไรเล่า เดี๋ยวใครเค้าก็หาว่าฉันทำอะไรเธอ ขนกันมาที่ห้องฉันหมดนะสิ นายนั่นมันตะโกนใส่หน้าฉัน
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เคยแคร์ซะที่ไหน
                    นี่เธอ ถ้าเธอไม่หยุด กรี๊ดนะ ฉันจะ จะ
                    นายจะทำไม กลัวสักนิดไหมเนี่ย
                    ฉันจะฆ่าเธอแล้วก็เอาศพเธอกดลงชักโครก เลยเป็นไง เงียบได้แล้ววว ทำไมต้องเสียงดังด้วยเล่า ฉันไม่ได้กลัวนะ แค่เกรงใจเฉยๆ
                    ฉันว่านายนั่นแหละที่เสียงดังกว่าฉันอีกนะ พอฉันตั้งสติ ระงับอารมณ์ ได้แล้ว ฉันก็ถามสิ่งที่คาใจฉันมานาน ทันที
                   
    บรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น อันเต็มไปด้วยท้องฟ้าสีส้ม ลมพัดเอื่อยๆ ต้นไม้ที่เหมือนกับกำลังระบำอยู่ท่ามกลางป่าเขา และแสงแดด มองไปอีกนิด ก็จะเห็นลำธารอันสวยงามที่ ทอแสง ระยิบระยับ ล้อเล่นกับแสงแดดอันอบอุ่น   พอฉันเดินไปหยุด อยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งพอ เงยหน้าขึ้นมองดูด้านบน ก็ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
                   
                    ปัง ปัง ปัง ปัง
                    ยัยธารแกตื่นได้แล้ว  จะนอนกินบ้านทั้งหลังเลยใช่มั้ยยยยยยย ห๊า
                    เสียงใครกันนะ  ทำไมชอบขัดจังหวะความสุขกันซะเหลือเกิ๊น ฮึ่ย   ชักจะโมโหแล้วนะแล้วฉันคนนะไม่ใช่ปลวกจะได้กินบ้านได้เป็นหลังๆ
                   
    ตื่นแล้วก็ได้ค่า แหมม ปิดเทอมทั้งทีขอนอนนานๆไม่ได้หรือไงคะ คุณพี่ชายขา
                    ที่แท้ก้อพี่ชายฉันเองแหละ เราก็นึกว่าใครซะอีก ถ้าเป็นคนอื่นนะ แม่จะด่าๆๆๆ ให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย คอยดูซิ แต่ก้อ เดชะบุญ ที่เป็นพี่ชายของฉันเอง นั่นแหละ
               
    ตื่นแล้วก็ รีบๆ อาบน้ำ แต่งตัวได้แล้ว วันนี้แกต้องไปทำงานแต่เช้านะ
                    งานหรอ งานอะไรล่ะ คิดๆๆๆๆ  ปิ๊งป่อง O!o อ๋อ ก็วันนี้ที่ฉันต้องรีบตื่นแต่เช้าแต่มืด  ก็เพราะว่าก่อนปิดเทอม ฉันไปสมัครงานไว้นะ แฮะๆๆๆ   ลืมจนได้ สิ ยัยสายธารเอ๊ย!!
                    แล้วนี่มันกี่โมงแล้ววววว พอดีว่า ฉันเป็นโรคเกลียดนาฬิกาปลุกเป็นที่สุด เสียงนาฬิกาของฉันนะ ดังทีแบบว่าโลกแทบแตก บ้านฉันก็แทบพังเลยละ อิอิ (เวอร์ไปแล้วแก:โชแปง)
                    มันจะ แปด โมงอยู่แล้ว แกไม่ต้องมาถามมากเลยนะ รีบๆ ไปอาบน้ำ เร็วเข้า เดี๋ยวก็ไปทำงานสายกันทั้งพี่ทั้งน้อง
                    ค่า คุณพี่ขา เออ แล้วพี่ไม้ไปส่งธารนะถ้าไปรถเมล์มันช้า ขี้เกียจรอรถเมล์
     
    ก็ทุกวันฉันต้องขึ้นรถเมล์ไป โรงเรียนนะสิ แค่เรื่องขึ้นรถเมล์นะ เล็กน้อย แต่วันนี้ฉันต้องไปทำงานแล้วมันจะสายแล้วด้วยยยย
    เออๆๆ แกก็รีบๆ เข้าเฮอะ ฉันก็จะรีบไปทำงานเหมือนกัน
     
    ในที่สุด ฉันก็วิ่งผ่านน้ำมาได้สำเร็จ ใช้เวลาประมาณ10 นาที  พอมาถึงชั้นล่าง ก็เห็นพี่ไม้นั่งรอ หน้างอเป็นกุ้งโดนน้ำร้อนลวก  ฉันไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะสายกันทั้งพี่ทั้งน้อง
     
    และแล้วมอเตอร์ไซค์ของพี่ชายฉันก็มาจอดอยู่หน้าร้าน กาแฟ ที่ชื่อว่า Coffee Drink มันคือร้านที่ฉันมาสมัครงานไว้   เฮ้อ ถึงสักที ขนาดนั่งเฉยๆ ยังเหนื่อยใจ
    บ๊าย บาย ฉันยืนโบกมือลาพี่ชายที่ขี่รถเก่าๆ เครื่องเกือบพังไปทำงาน หวังว่ามันคงจะถึงที่หมายโดยปลอดภัยนะพี่ชายของช้านนนนน
     
    พอฉันเดินเข้าไปในร้านก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเขาท้องด้วยกำลังเดินมาทางฉัน แล้วก็เรียกพนักงานในร้านทุกคนมาที่ที่ฉันยืนอยู่
    อะ ทุกคน ๆวันนี้มีพนักงานเข้ามาใหม่  มาทำความรู้จักกันหน่อยสิ
    พี่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะไม่เห็นแนะนำตัวเองเลยล่ะ
     
    อะ แนะนำตัวเลยจ๊ะ พี่ผู้หญิงคนนั้นบอก ก็ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ก็เลยเรียกอย่างนั้นไปก่อนนะสิ
     
    สงสัยพี่เขาจะเห็นว่าฉันนิ่งๆไป เลยพูดซะ ดังเลย
    อ๋อ ค่ะ ชื่อ สายธาร ค่ะ อายุ 18 ปี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ พอฉันพูดจบทุกคนก็ ปรบมือต้อนรับฉัน (หรือเปล่า) ฉันยิ้มให้ทุกคนอย่างเดียวเลย ก็ไม่รู้จะทำยังไงนิ แล้วฉันก็แอบเห็นนะ ว่าทุกคนก็ยิ้มเหมือนกัน
    อิอิ เจอเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วสิเรา
                   
                    พอฉันแนะนำตัวเสร็จ ฉันรู้แล้วว่าพี่ผู้หญิงที่ท้องเป็นใคร เขาชื่อ พี่หนิง เป็นผู้จัดการร้านที่นี่ พี่เขาพาฉันไปหาเจ้าของร้านเพื่อคุยเรื่องงานที่จะให้ทำ และก็ขาดไม่ได้เลย คือ เงินเดือน ฮี่ฮี่ ใส่ใจตลอดเวลาเรื่องเงินเนี่ย
     
                    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
                “ไมค์พี่เข้าไปนะ ดูท่าทางพี่หนิงจะสนิทกับเจ้าของร้านมากเลยแฮะ ไม่เห็นต้องพูดคะ พูดขา แบบ ร้านอื่นเลย
                    ครับ เข้ามาเลยพี่ ประตูไม่ได้ล็อก เสียงเจ้าของห้องตอบมา
                    เอ ทำไมเรียกพี่หนิงว่า พี่ละพี่หนิงก็ไม่ใช่คนอายุเยอะซะหน่อยพอเข้าไปก็รู้เองแหละน่า
     
    พอพี่หนิงเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่าห้องนี้ผนังห้องเป็นสีเทา มีโซฟาสีน้ำเงินท่าทางคงจะนิ่มน่าดู แล้วก็มีโต๊ะทำงานใหญ่มากตั้งอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีแต่เอกสารทั้งนั้นเลย แล้วก็ มี Notebook สีดำ อีก 1 เครื่อง 
    และสิ่งที่ฉันอยากเห็นมาตั้งแต่แรกก็คือเจ้าของห้อง ว่าเขาจะ อายุเยอะหรือเปล่า พอเขาหันหน้ามาก็
    หล่อจัง
    ฮะ อะไรนะ 
    นี่ฉันคิดเสียงดังไปหรือเปล่า ทำไมพี่หนิงได้ยินละ ทุกคนในห้องนี้มองมาที่ฉันหมดเลย นี่ฉันทำอะไรลงไป แกซวยแน่ ยัยธารเอ้ย แก้หน้าก่อนเร็วเข้า
    อ๋อ ปะ ปะ เปล่าๆ ค่ะ ไม่มีอะไร เอ่อ.. ธารบอกว่าห้องนี้สวยดีนะคะ แฮะๆๆ นี่ฉันแก้หน้าหรอ จะสำเร็จไหมเนี่ย
    อ๋อ จ๊ะ ห้องนี้ ไมค์เค้าตกแต่งเองเลยนะ ก็ต้องสวยเป็นธรรมดา  ไม่ค่อยจะชมกันเองเท่าไหร่เลยนะคะพี่หนิง
    แต่เดี๋ยวนะ เชื่อฉันอีกอะ ช่างแนบเนียนเสียจริงนะแก ยัยธาร   แกคิดได้ไง สถานการณ์ขับขัน เธอสามารถกู้หน้าได้ เก่งสุดๆ (นี่เธอ ชมตัวเองมากไปหรือเปล่า : โชแปง)
     
    ก็จะไม่ให้ฉันพูดแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ผู้ชายที่ชื่อ ไมค์อะไรเนี่ย อายุก็น่าจะเท่าๆกับฉันนะ แต่ผิดขาวโอโม้ หน้าเขาใสกิ๊ง ยิ่งกว่าฉันที่เป็นผู้หญิงอีก ดวงตาคมเข้ม ใครจ้องนานๆ อาจละลายได้เชียวละค๊า คุณผู้อ่านทุกคน จมูกนี่เป็นสันตรง (ฉันว่านายนี่ต้องพึ่งมีดหมอชัวร์) เซ็ทผมเป็นทรงเท่ห์ๆ แต่งตัวสบายๆ   ไมค์ไม่เหมาะกับ การขายกาแฟสักนิด น่าจะ ไป เป็นดารา เดินบงเดินแบบ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย อิอิ
     
    เออ ไมค์ นี่เป็น ลูกจ้างคนใหม่   ชื่อสายธาร นะ ก็เลยว่าจะมาคุยเรื่อง เงินเดือน กับ งานที่จะให้น้องเค้าทำน่ะ      พี่ฝากด้วยล่ะ ต้องไปทำงานต่อ
    ครับพี่
    โห พี่คะ พี่หนิงสุดยอดไปเลยค๊า ขนาดท้องโตขนาดนี้พี่ยังทำงานหนักซะขนาดนั้น เกิดลูกไหลออกมานอนชมดาวก่อนจะถึงกำหนดไม่แย่หรอพี่คะ
     
    อ้าว!!ไหงมาทิ้งกันอย่างนี้ละพี่หนิง ปล่อยเกาะกันซะงั้น ฉันทำได้แต่มองตามพี่หนิง ทำอย่างคนที่รักกันมา 10 ปี    อย่าทิ้งช้านปายยยยยยย
     
    เธอ เธอ เธอนะ เหมือนมีเสียงอะไรดังข้างๆ ฉัน    พอหันไป
    อะ หะ หะ เรียกฉันหรอคะ เล่นซะตกใจหมด แล้วจะเสียงดังทำม้ายยยย  กลัวฉันไม่ได้ยินรึไง ฉันไม่ได้หูหนวกนะ (แต่ฉันว่าแกหูหนวกนะยัยนางเอก : โชแปง)
    เธอนั่นแหละ ฉันว่าเราน่าจะอายุเท่าๆกันนั่นแหละ
    อ๋อ ค่ะ ประมาณนั้นมั้งคะฉันยิ้ม
    เรื่องงานที่จะให้ทำเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่เรื่องเงินเดือน ก็รับแบบที่ทุกคนในร้านนี้ ได้เท่ากันหมดแหละ
     
    ฉันได้แต่พยักหน้า หงึกๆ กับ พูดว่า ค่ะ ค่ะ แค่นั้นเอง
    แต่นายไมค์นี่สิ พูดอะไรนักหนาก็ไม่รู้ เพราะฉันไม่ได้ตั้งใจฟังนิ แต่ฉันก็ตั้งใจเต็มที่แล้วนะแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี คนมันหิวนี่นา ตั้งแต่ เมื่อเช้า จนถึงตอนนี้เวลาห้าโมงเช้า โอ้ มาย ก็อด ฉันทนไปได้ยังไง ไม่ไหวแล้วววว  ไมค์พูดจบพอดี ฉันเลยรีบเดินออกมาจากห้องนายนั่นด่วน กลัวจะมีเรื่องอะไรมาเล่าสู่กันฟังอีก ออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ช่างเฮอะก็ฉันไม่ไหวแล้วนิ(นางเอกของเรามารยาททราม เอ้ย !! งามแท้ : โชแปง )
     
    พอเดินมาที่หน้าร้าน ก็  OoO
    โห ทำไมลูกค้าเยอะงี้อะ แล้วฉันจะได้กินข้าวมั้ยล่ะ ฉัยบ่นกับตัวเองแต่ก็ต้องไปช่วยงานพี่เค้าก่อนอยู่ดี เฮ้อ เหนื่อยอีกแล้วสิเรา
     
    รู้งี้ฉันไปทำหน้าที่อื่นดีกว่า เดินเสิร์ฟกาแฟ ทั้งร้านเลยยยย   ไม่ไหวจะเหนื่อยแล้วนะ แต่ดีหน่อยที่ตอนนี้ลูกค้ากลับไปเยอะแล้ว ไม่งั้นฉัน ได้เดินลากขากลับบ้านชัวร์เลย
     
    พอถึงเวลาเลิกงานปั้บ ฉันก็รีบเก็บของแล้วบอกลาทุกคนปุ๊บ ฉันเผ่นออกมานอกร้านทันที แล้วรีบ เดินไปที่สถานที่มีอยู่ในหัวฉันตั้งแต่เที่ยงแล้ว คือ เซเว่น นั่นเอง
     
    พอฉันเดินออกมานอกร้านก็มีคนโทรเข้า
    ๑...คนสวยรับสายหน่อยสิ คนสวย..๑   ใครใช้เสียงสายเรียกเข้าแบบนี่เนี่ย ตลกชะมัด ก๊ากกกก
    ของฉันนี่หว่า แฮะๆ ของฉันค่ะของฉัน ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้
    “-_-//” หน้าผู้คนแถวนั้
     ติ๊ด
    ฮัลโหล ว่าไงพี่ไม้
    [ยัยธาร วันนี้แกกลับบ้านเองนะ ฉันไปรับไม่ได้แล้ว แล้วก็จะไม่กลับบ้าน แกก็กลับบ้านดีดีละ บาย]
    ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
    อ้าว ไอ้พี่บ้านิ ชิ่งกันซะ ได้ แต่ไม่เป็นไร แค่กลับบ้านคนเดียวฉันทำออกบ่อย เพราะตอนนี้ฉันหิวจนแทบจะกินหมาที่อยู่ข้างๆฉันได้แล้ววว เซ่เว่นจ๋า!! สายธารมาแว้วววววว
     
    อ๊ะ นั่นไง เซเว่นอยู่ข้างหน้านี่เอง รีบเดินเข้าซิ สายธาร ฉันพูดกับตัวเอง แล้วรีบเดินไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง เพราะว่าตอนนี้หัวใจฉันอยู่ที่เซเว่นตั้งนานแล้วนะซิ
     
    อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง เอ๊ะ!!!ทำไม ต้องมาเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติอะไรตอนนี้ ฮื่อฮื่อๆๆ ก็พื้นที่ฉันเดินอยู่มันเอียงนะสิ หรือว่า โลกจะแตก ไม่จริ๊งงงงงงงงง  นี่มันยังไม่ ถึง 2012 เลยนะ ฮื่อๆๆๆ ไม่เอานะ  ในที่สุดโลกก็ดับ...  ไร้แสงใดๆทั้งสิ้น
     
    ฮ้าว zzZZ 
    แสบตาจัง ฉันรีบเอามือปิดตา แล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสทีละนิด จนเห็นว่า ที่นี่มันห้องใครกันละ ฉันรีบลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
                “ตื่นแล้วหรอ    
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่มันไม่ใช่เสียงอีตานั่นหรอกนะ มันเป็นเสียงฉันเองแหละ
    เฮ้ยยย เธอเป็นอะไรของเธอ ฮะ นายนั่นมันรีบเอามือมาปิดปากช้านนนนนนนน
     
    ตอนนี้อะนะฉันไม่ต่างจาก ลูกแมวตกน้ำเลยแหละ ฉันสั่นเป็นเจ้าเข้าเรยละค๊า   ไม่ได้หนาวนะคะ กลัวค่ะ กลัว ฮื่อออออ
                    นายเป็นใครแล้วนายทำอะไรฉันหรือเปล่า ฉันทำท่างกอดอกตัวเอง มองใต้ผ้าห่มดูตัวเอง แต่แล้ว ก็รู้ว่าเสื้อผ้าฉันมันหายไปไหน ทำไมมันกลายร่างเป็น ชุดนอน อันน่าสยิวกริ้วขนาดนี้ละเนี่ย
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ฉันเสียจิ้นน้อยของฉันไปแล้วหรอเนี่ย ฮื่ออออออ แล้วฉันก็เขื่อนน้ำตาพังเลยล่ะ ไม่นะ ทำไมนายถึงใจร้ายขนาดนี้
                ก็จะไม่ให้ฉันคิดเรื่องพวกนั้นได้ยังไงล่ะ ก็หมอนี่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันตัวอยู่นิ เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วฉันก็อยู่ในสภาพทีมีชุดนอนจากไหนก็ไม่รู้ ใครไม่คิดก็มองโลกในแง่ดีมากไปแล้ว
                “ เธอบ้าไปแล้วหรือไงฉันไม่คิดสั้นขนาดนั้นหรอกนะ แล้วเธอจะร้องหาสวรรค์วิมานอะไรเล่า เดี๋ยวใครเค้าก็หาว่าฉันทำอะไรเธอ ขนกันมาที่ห้องฉันหมดนะสิ นายนั่นมันตะโกนใส่หน้าฉัน
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เคยแคร์ซะที่ไหน
                    นี่เธอ ถ้าเธอไม่หยุด กรี๊ดนะ ฉันจะ จะ
                    นายจะทำไม กลัวสักนิดไหมเนี่ย
                    ฉันจะฆ่าเธอแล้วก็เอาศพเธอกดลงชักโครก เลยเป็นไง เงียบได้แล้ววว ทำไมต้องเสียงดังด้วยเล่า ฉันไม่ได้กลัวนะ แค่เกรงใจเฉยๆ
                    ฉันว่านายนั่นแหละที่เสียงดังกว่าฉันอีกนะ พอฉันตั้งสติ ระงับอารมณ์ ได้แล้ว ฉันก็ถามสิ่งที่คาใจฉันมานาน ทันที
                   
    บรรยากาศที่แสนจะอบอุ่น อันเต็มไปด้วยท้องฟ้าสีส้ม ลมพัดเอื่อยๆ ต้นไม้ที่เหมือนกับกำลังระบำอยู่ท่ามกลางป่าเขา และแสงแดด มองไปอีกนิด ก็จะเห็นลำธารอันสวยงามที่ ทอแสง ระยิบระยับ ล้อเล่นกับแสงแดดอันอบอุ่น   พอฉันเดินไปหยุด อยู่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่งพอ เงยหน้าขึ้นมองดูด้านบน ก็ มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
                   
                    ปัง ปัง ปัง ปัง
                    ยัยธารแกตื่นได้แล้ว  จะนอนกินบ้านทั้งหลังเลยใช่มั้ยยยยยยย ห๊า
                    เสียงใครกันนะ  ทำไมชอบขัดจังหวะความสุขกันซะเหลือเกิ๊น ฮึ่ย   ชักจะโมโหแล้วนะแล้วฉันคนนะไม่ใช่ปลวกจะได้กินบ้านได้เป็นหลังๆ
                   
    ตื่นแล้วก็ได้ค่า แหมม ปิดเทอมทั้งทีขอนอนนานๆไม่ได้หรือไงคะ คุณพี่ชายขา
                    ที่แท้ก้อพี่ชายฉันเองแหละ เราก็นึกว่าใครซะอีก ถ้าเป็นคนอื่นนะ แม่จะด่าๆๆๆ ให้หาทางกลับบ้านไม่ถูกเลย คอยดูซิ แต่ก้อ เดชะบุญ ที่เป็นพี่ชายของฉันเอง นั่นแหละ
               
    ตื่นแล้วก็ รีบๆ อาบน้ำ แต่งตัวได้แล้ว วันนี้แกต้องไปทำงานแต่เช้านะ
                    งานหรอ งานอะไรล่ะ คิดๆๆๆๆ  ปิ๊งป่อง O!o อ๋อ ก็วันนี้ที่ฉันต้องรีบตื่นแต่เช้าแต่มืด  ก็เพราะว่าก่อนปิดเทอม ฉันไปสมัครงานไว้นะ แฮะๆๆๆ   ลืมจนได้ สิ ยัยสายธารเอ๊ย!!
                    แล้วนี่มันกี่โมงแล้ววววว พอดีว่า ฉันเป็นโรคเกลียดนาฬิกาปลุกเป็นที่สุด เสียงนาฬิกาของฉันนะ ดังทีแบบว่าโลกแทบแตก บ้านฉันก็แทบพังเลยละ อิอิ (เวอร์ไปแล้วแก:โชแปง)
                    มันจะ แปด โมงอยู่แล้ว แกไม่ต้องมาถามมากเลยนะ รีบๆ ไปอาบน้ำ เร็วเข้า เดี๋ยวก็ไปทำงานสายกันทั้งพี่ทั้งน้อง
                    ค่า คุณพี่ขา เออ แล้วพี่ไม้ไปส่งธารนะถ้าไปรถเมล์มันช้า ขี้เกียจรอรถเมล์
     
    ก็ทุกวันฉันต้องขึ้นรถเมล์ไป โรงเรียนนะสิ แค่เรื่องขึ้นรถเมล์นะ เล็กน้อย แต่วันนี้ฉันต้องไปทำงานแล้วมันจะสายแล้วด้วยยยย
    เออๆๆ แกก็รีบๆ เข้าเฮอะ ฉันก็จะรีบไปทำงานเหมือนกัน
     
    ในที่สุด ฉันก็วิ่งผ่านน้ำมาได้สำเร็จ ใช้เวลาประมาณ10 นาที  พอมาถึงชั้นล่าง ก็เห็นพี่ไม้นั่งรอ หน้างอเป็นกุ้งโดนน้ำร้อนลวก  ฉันไม่พูดดีกว่า เดี๋ยวจะสายกันทั้งพี่ทั้งน้อง
     
    และแล้วมอเตอร์ไซค์ของพี่ชายฉันก็มาจอดอยู่หน้าร้าน กาแฟ ที่ชื่อว่า Coffee Drink มันคือร้านที่ฉันมาสมัครงานไว้   เฮ้อ ถึงสักที ขนาดนั่งเฉยๆ ยังเหนื่อยใจ
    บ๊าย บาย ฉันยืนโบกมือลาพี่ชายที่ขี่รถเก่าๆ เครื่องเกือบพังไปทำงาน หวังว่ามันคงจะถึงที่หมายโดยปลอดภัยนะพี่ชายของช้านนนนน
     
    พอฉันเดินเข้าไปในร้านก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเขาท้องด้วยกำลังเดินมาทางฉัน แล้วก็เรียกพนักงานในร้านทุกคนมาที่ที่ฉันยืนอยู่
    อะ ทุกคน ๆวันนี้มีพนักงานเข้ามาใหม่  มาทำความรู้จักกันหน่อยสิ
    พี่ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะไม่เห็นแนะนำตัวเองเลยล่ะ
     
    อะ แนะนำตัวเลยจ๊ะ พี่ผู้หญิงคนนั้นบอก ก็ฉันไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ก็เลยเรียกอย่างนั้นไปก่อนนะสิ
     
    สงสัยพี่เขาจะเห็นว่าฉันนิ่งๆไป เลยพูดซะ ดังเลย
    อ๋อ ค่ะ ชื่อ สายธาร ค่ะ อายุ 18 ปี ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ พอฉันพูดจบทุกคนก็ ปรบมือต้อนรับฉัน (หรือเปล่า) ฉันยิ้มให้ทุกคนอย่างเดียวเลย ก็ไม่รู้จะทำยังไงนิ แล้วฉันก็แอบเห็นนะ ว่าทุกคนก็ยิ้มเหมือนกัน
    อิอิ เจอเพื่อนร่วมงานที่ดีแล้วสิเรา
                   
                    พอฉันแนะนำตัวเสร็จ ฉันรู้แล้วว่าพี่ผู้หญิงที่ท้องเป็นใคร เขาชื่อ พี่หนิง เป็นผู้จัดการร้านที่นี่ พี่เขาพาฉันไปหาเจ้าของร้านเพื่อคุยเรื่องงานที่จะให้ทำ และก็ขาดไม่ได้เลย คือ เงินเดือน ฮี่ฮี่ ใส่ใจตลอดเวลาเรื่องเงินเนี่ย
     
                    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
                “ไมค์พี่เข้าไปนะ ดูท่าทางพี่หนิงจะสนิทกับเจ้าของร้านมากเลยแฮะ ไม่เห็นต้องพูดคะ พูดขา แบบ ร้านอื่นเลย
                    ครับ เข้ามาเลยพี่ ประตูไม่ได้ล็อก เสียงเจ้าของห้องตอบมา
                    เอ ทำไมเรียกพี่หนิงว่า พี่ละพี่หนิงก็ไม่ใช่คนอายุเยอะซะหน่อยพอเข้าไปก็รู้เองแหละน่า
     
    พอพี่หนิงเปิดประตูเข้าไป ก็เห็นว่าห้องนี้ผนังห้องเป็นสีเทา มีโซฟาสีน้ำเงินท่าทางคงจะนิ่มน่าดู แล้วก็มีโต๊ะทำงานใหญ่มากตั้งอยู่กลางห้อง บนโต๊ะมีแต่เอกสารทั้งนั้นเลย แล้วก็ มี Notebook สีดำ อีก 1 เครื่อง 
    และสิ่งที่ฉันอยากเห็นมาตั้งแต่แรกก็คือเจ้าของห้อง ว่าเขาจะ อายุเยอะหรือเปล่า พอเขาหันหน้ามาก็
    หล่อจัง
    ฮะ อะไรนะ 
    นี่ฉันคิดเสียงดังไปหรือเปล่า ทำไมพี่หนิงได้ยินละ ทุกคนในห้องนี้มองมาที่ฉันหมดเลย นี่ฉันทำอะไรลงไป แกซวยแน่ ยัยธารเอ้ย แก้หน้าก่อนเร็วเข้า
    อ๋อ ปะ ปะ เปล่าๆ ค่ะ ไม่มีอะไร เอ่อ.. ธารบอกว่าห้องนี้สวยดีนะคะ แฮะๆๆ นี่ฉันแก้หน้าหรอ จะสำเร็จไหมเนี่ย
    อ๋อ จ๊ะ ห้องนี้ ไมค์เค้าตกแต่งเองเลยนะ ก็ต้องสวยเป็นธรรมดา  ไม่ค่อยจะชมกันเองเท่าไหร่เลยนะคะพี่หนิง
    แต่เดี๋ยวนะ เชื่อฉันอีกอะ ช่างแนบเนียนเสียจริงนะแก ยัยธาร   แกคิดได้ไง สถานการณ์ขับขัน เธอสามารถกู้หน้าได้ เก่งสุดๆ (นี่เธอ ชมตัวเองมากไปหรือเปล่า : โชแปง)
     
    ก็จะไม่ให้ฉันพูดแบบนั้นได้ยังไงล่ะ ผู้ชายที่ชื่อ ไมค์อะไรเนี่ย อายุก็น่าจะเท่าๆกับฉันนะ แต่ผิดขาวโอโม้ หน้าเขาใสกิ๊ง ยิ่งกว่าฉันที่เป็นผู้หญิงอีก ดวงตาคมเข้ม ใครจ้องนานๆ อาจละลายได้เชียวละค๊า คุณผู้อ่านทุกคน จมูกนี่เป็นสันตรง (ฉันว่านายนี่ต้องพึ่งมีดหมอชัวร์) เซ็ทผมเป็นทรงเท่ห์ๆ แต่งตัวสบายๆ   ไมค์ไม่เหมาะกับ การขายกาแฟสักนิด น่าจะ ไป เป็นดารา เดินบงเดินแบบ ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย อิอิ
     
    เออ ไมค์ นี่เป็น ลูกจ้างคนใหม่   ชื่อสายธาร นะ ก็เลยว่าจะมาคุยเรื่อง เงินเดือน กับ งานที่จะให้น้องเค้าทำน่ะ      พี่ฝากด้วยล่ะ ต้องไปทำงานต่อ
    ครับพี่
    โห พี่คะ พี่หนิงสุดยอดไปเลยค๊า ขนาดท้องโตขนาดนี้พี่ยังทำงานหนักซะขนาดนั้น เกิดลูกไหลออกมานอนชมดาวก่อนจะถึงกำหนดไม่แย่หรอพี่คะ
     
    อ้าว!!ไหงมาทิ้งกันอย่างนี้ละพี่หนิง ปล่อยเกาะกันซะงั้น ฉันทำได้แต่มองตามพี่หนิง ทำอย่างคนที่รักกันมา 10 ปี    อย่าทิ้งช้านปายยยยยยย
     
    เธอ เธอ เธอนะ เหมือนมีเสียงอะไรดังข้างๆ ฉัน    พอหันไป
    อะ หะ หะ เรียกฉันหรอคะ เล่นซะตกใจหมด แล้วจะเสียงดังทำม้ายยยย  กลัวฉันไม่ได้ยินรึไง ฉันไม่ได้หูหนวกนะ (แต่ฉันว่าแกหูหนวกนะยัยนางเอก : โชแปง)
    เธอนั่นแหละ ฉันว่าเราน่าจะอายุเท่าๆกันนั่นแหละ
    อ๋อ ค่ะ ประมาณนั้นมั้งคะฉันยิ้ม
    เรื่องงานที่จะให้ทำเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่เรื่องเงินเดือน ก็รับแบบที่ทุกคนในร้านนี้ ได้เท่ากันหมดแหละ
     
    ฉันได้แต่พยักหน้า หงึกๆ กับ พูดว่า ค่ะ ค่ะ แค่นั้นเอง
    แต่นายไมค์นี่สิ พูดอะไรนักหนาก็ไม่รู้ เพราะฉันไม่ได้ตั้งใจฟังนิ แต่ฉันก็ตั้งใจเต็มที่แล้วนะแต่ก็ยังไม่รู้เรื่องอยู่ดี คนมันหิวนี่นา ตั้งแต่ เมื่อเช้า จนถึงตอนนี้เวลาห้าโมงเช้า โอ้ มาย ก็อด ฉันทนไปได้ยังไง ไม่ไหวแล้วววว  ไมค์พูดจบพอดี ฉันเลยรีบเดินออกมาจากห้องนายนั่นด่วน กลัวจะมีเรื่องอะไรมาเล่าสู่กันฟังอีก ออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่ช่างเฮอะก็ฉันไม่ไหวแล้วนิ(นางเอกของเรามารยาททราม เอ้ย !! งามแท้ : โชแปง )
     
    พอเดินมาที่หน้าร้าน ก็  OoO
    โห ทำไมลูกค้าเยอะงี้อะ แล้วฉันจะได้กินข้าวมั้ยล่ะ ฉัยบ่นกับตัวเองแต่ก็ต้องไปช่วยงานพี่เค้าก่อนอยู่ดี เฮ้อ เหนื่อยอีกแล้วสิเรา
     
    รู้งี้ฉันไปทำหน้าที่อื่นดีกว่า เดินเสิร์ฟกาแฟ ทั้งร้านเลยยยย   ไม่ไหวจะเหนื่อยแล้วนะ แต่ดีหน่อยที่ตอนนี้ลูกค้ากลับไปเยอะแล้ว ไม่งั้นฉัน ได้เดินลากขากลับบ้านชัวร์เลย
     
    พอถึงเวลาเลิกงานปั้บ ฉันก็รีบเก็บของแล้วบอกลาทุกคนปุ๊บ ฉันเผ่นออกมานอกร้านทันที แล้วรีบ เดินไปที่สถานที่มีอยู่ในหัวฉันตั้งแต่เที่ยงแล้ว คือ เซเว่น นั่นเอง
     
    พอฉันเดินออกมานอกร้านก็มีคนโทรเข้า
    ๑...คนสวยรับสายหน่อยสิ คนสวย..๑   ใครใช้เสียงสายเรียกเข้าแบบนี่เนี่ย ตลกชะมัด ก๊ากกกก
    ของฉันนี่หว่า แฮะๆ ของฉันค่ะของฉัน ไม่ต้องมองแบบนั้นก็ได้
    “-_-//” หน้าผู้คนแถวนั้
     ติ๊ด
    ฮัลโหล ว่าไงพี่ไม้
    [ยัยธาร วันนี้แกกลับบ้านเองนะ ฉันไปรับไม่ได้แล้ว แล้วก็จะไม่กลับบ้าน แกก็กลับบ้านดีดีละ บาย]
    ตื๊ด ตื๊ด ตื๊ด
    อ้าว ไอ้พี่บ้านิ ชิ่งกันซะ ได้ แต่ไม่เป็นไร แค่กลับบ้านคนเดียวฉันทำออกบ่อย เพราะตอนนี้ฉันหิวจนแทบจะกินหมาที่อยู่ข้างๆฉันได้แล้ววว เซ่เว่นจ๋า!! สายธารมาแว้วววววว
     
    อ๊ะ นั่นไง เซเว่นอยู่ข้างหน้านี่เอง รีบเดินเข้าซิ สายธาร ฉันพูดกับตัวเอง แล้วรีบเดินไปข้างหน้าอย่างรีบเร่ง เพราะว่าตอนนี้หัวใจฉันอยู่ที่เซเว่นตั้งนานแล้วนะซิ
     
    อีกนิดเดียวเท่านั้นเอง เอ๊ะ!!!ทำไม ต้องมาเกิด ปรากฏการณ์ธรรมชาติอะไรตอนนี้ ฮื่อฮื่อๆๆ ก็พื้นที่ฉันเดินอยู่มันเอียงนะสิ หรือว่า โลกจะแตก ไม่จริ๊งงงงงงงงง  นี่มันยังไม่ ถึง 2012 เลยนะ ฮื่อๆๆๆ ไม่เอานะ  ในที่สุดโลกก็ดับ...  ไร้แสงใดๆทั้งสิ้น
     
    ฮ้าว zzZZ 
    แสบตาจัง ฉันรีบเอามือปิดตา แล้วค่อยๆ ปรับโฟกัสทีละนิด จนเห็นว่า ที่นี่มันห้องใครกันละ ฉันรีบลุกขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
                “ตื่นแล้วหรอ    
    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด นี่มันไม่ใช่เสียงอีตานั่นหรอกนะ มันเป็นเสียงฉันเองแหละ
    เฮ้ยยย เธอเป็นอะไรของเธอ ฮะ นายนั่นมันรีบเอามือมาปิดปากช้านนนนนนนน
     
    ตอนนี้อะนะฉันไม่ต่างจาก ลูกแมวตกน้ำเลยแหละ ฉันสั่นเป็นเจ้าเข้าเรยละค๊า   ไม่ได้หนาวนะคะ กลัวค่ะ กลัว ฮื่อออออ
                    นายเป็นใครแล้วนายทำอะไรฉันหรือเปล่า ฉันทำท่างกอดอกตัวเอง มองใต้ผ้าห่มดูตัวเอง แต่แล้ว ก็รู้ว่าเสื้อผ้าฉันมันหายไปไหน ทำไมมันกลายร่างเป็น ชุดนอน อันน่าสยิวกริ้วขนาดนี้ละเนี่ย
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด ฉันเสียจิ้นน้อยของฉันไปแล้วหรอเนี่ย ฮื่ออออออ แล้วฉันก็เขื่อนน้ำตาพังเลยล่ะ ไม่นะ ทำไมนายถึงใจร้ายขนาดนี้
                ก็จะไม่ให้ฉันคิดเรื่องพวกนั้นได้ยังไงล่ะ ก็หมอนี่มีผ้าเช็ดตัวผืนเดียวพันตัวอยู่นิ เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วฉันก็อยู่ในสภาพทีมีชุดนอนจากไหนก็ไม่รู้ ใครไม่คิดก็มองโลกในแง่ดีมากไปแล้ว
                “ เธอบ้าไปแล้วหรือไงฉันไม่คิดสั้นขนาดนั้นหรอกนะ แล้วเธอจะร้องหาสวรรค์วิมานอะไรเล่า เดี๋ยวใครเค้าก็หาว่าฉันทำอะไรเธอ ขนกันมาที่ห้องฉันหมดนะสิ นายนั่นมันตะโกนใส่หน้าฉัน
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด เคยแคร์ซะที่ไหน
                    นี่เธอ ถ้าเธอไม่หยุด กรี๊ดนะ ฉันจะ จะ
                    นายจะทำไม กลัวสักนิดไหมเนี่ย
                    ฉันจะฆ่าเธอแล้วก็เอาศพเธอกดลงชักโครก เลยเป็นไง เงียบได้แล้ววว ทำไมต้องเสียงดังด้วยเล่า ฉันไม่ได้กลัวนะ แค่เกรงใจเฉยๆ
                    ฉันว่านายนั่นแหละที่เสียงดังกว่าฉันอีกนะ พอฉันตั้งสติ ระงับอารมณ์ ได้แล้ว ฉันก็ถามสิ่งที่คาใจฉันมานาน ทันที
                   
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×